มิลลิ คาเทียร์และปลายฝน มาถึงร้านเหล้าในเวลากว่าสองทุ่ม พวกเธอเลือกนั่งชั้นสอง ที่เป็นแบบเปิดโล่ง มีนักศึกษาจากมหาลัยเธอมาที่นี่กันมากกว่าที่คิด
"อร้าย...มิลลิมึงหันมองโต๊ะห่างจากเราไปสามโต๊ะที เผื่อกูจะตาฝาด" "พี่ยีนส์"เสียงหวานของมิลลิพูดออกมาราวกับละเมอ ไม่คิดว่าเขาจะมาถึงก่อนเธอ และก็มาจริง ๆ ตามที่บอกเธอไว้ อีกอย่างตอนนี้เขาเองก็นั่งมองเธออยู่เหมือนกัน ก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ฺในกระเป๋าสั่น ยีนส์: แต่งตัวแบบนี้น่ารักดี "อะไรยังไง มึงบอกพวกกูมา กูสองคนพลาดอะไรไปหรือเปล่า" เธอยังไม่ได้เล่าเรื่องยีนส์มาขอเบอร์เธอ หรือที่เขาโทรมาให้เพื่อนสองคนฟัง ที่จริงก็กะว่าจะมาเล่าตอนอยู่ที่นี่แหละ แต่ก็เจอกับยีนส์เสียก่อน มิลลิ: พี่ใส่ชุดแบบนี้ก็หล่อเหมือนกันค่ะ "คงไม่ใช่ว่าเขามาที่นี่เพราะมึงอีกนะ" ปลายฝนตั้งข้อสังเกตุที่เพื่อนสาวยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่จ้องโทรศัพท์ แบบนี้สองคนนี้คงคืบหน้าไปมากแล้ว "เขาขอเบอร์กูที่ลานจอดรถ" "นั่นไง แสดงว่าเขามีใจให้มึง" "ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพิ่งเริ่มคุยกันเอง" "ตอบเป็นดาราเลย"คาเทียร์เย้าแหย่ พร้อมยิ้มแซว ดีใจด้วยจริง ๆ หากรุ่นพี่คนนั้นจะชอบเพื่อนเธอ "สมัยนี้มันต้องเร็ว แรง ทะลุจักรวาล ไม่งั้นหมาคาบไปแดกแน่" ยีนส์: เอารถมาหรือเปล่า มิลลิ: ไม่ได้เอามาค่ะ มากับเพื่อน ถึงนิ้วเรียวจะนั่งกดพิมพ์ข้อความไม่หยุด แต่ตาก็ยังหันมองเขาเป็นระยะ ๆ การแต่งกายของเขาดึงดูดสายตาเธอได้จริง ๆ เสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนส์ ถึงจะดูธรรมดาแต่เธอกลับมองว่ามันดูให้ความรู้สึกน่าค้นหา "กูคิดแล้ว ว่าแม่ง!!! เสือกอยากแดกเหล้าอะไรที่นี่ ที่แท้มึงก็ตามน้องมิลลิมา" ตะวันที่เดาออกตั้งแต่เห็นสามสาวเดินเข้ามาในร้าน แบบนี้ดูท่าว่าเพื่อนเขาจะเดินเกมส์หนัก ถึงขนาดขับรถมากินเหล้าร้านแบบนี้ได้ ปกติเขาสามคนจะถนัดไปผับกันมากกว่า หากว่าอยากดื่มขึ้นมาจริง ๆ "มึงคิดจะทำอะไร ไอ้ยีนส์" มือหนาคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มทีเดียวอึกใหญ่ แต่ยังคงวางสายตาไว้ที่หญิงสาวที่นั่งห่างกับเขาไปสามโต๊ะ ที่บอกว่าเธอแต่งตัวน่ารักมันคือเรื่องจริง ผู้หญิงคนนี้ตอนแต่งชุดนักศึกษาจะเป็นบุคลิกอีกแบบ แต่พอแต่งตัวมาเที่ยว ดูเป็นคนเซ็กซี่โดยที่ไม่ได้ใส่อะไรโป๊ "กูแค่อยากมีแฟน แปลกตรงไหน" "หึ มันจะไม่แปลกถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้รู้จักไอ้โซล แล้วมึงรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นอะไรกัน" "เออ...ไม่ถามเขาก่อนว่ะ" "เพิ่งคุยกันวันนี้เอง รีบไปไหน?" "แน่ใจว่ามึงไม่รีบ ตามมาเฝ้าขนาดนี้" ยีนส์ยกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่เพื่อนสองคนรู้ได้ในทันที ว่าที่คิดเอาไว้นั้นถูกต้อง ตอนนี้ดูท่าว่าคำเตือนของคีรินจะไม่เป็นผล เพราะคนแบบยีนส์ถ้าได้คิดจะทำอะไรแล้ว ไม่ว่าใครจะห้ามก็คงไม่ฟัง "จะทำอะไร มึงต้องระวังใจตัวเองเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน เล่นกับความรู้สึกคนอื่น สักวันมันอาจย้อนมาทำลายความรู้สึกมึงเอง" คำพูดของคีรินที่เอ่ยออกมา ไม่ได้ทำให้ยีนส์สะทกสะท้านหรือรู้สึกว่าตัวเองต้องเจออะไรแบบนั้น เพราะมันไม่มีวันที่เขาจะเอาความรู้สึกตัวเองไปวางไว้กับผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว ยิ่งเป็นผู้หญิงคนนี้ ที่ไม่รู้ว่ามีความสัมพันธ์อะไรกับอดีตเพื่อนรักของเขา ยิ่งไม่มีวันที่เขาจะรู้สึกกับเธอได้ หลังจากนี้มันคือการเอาคืน ที่ทำให้ความรู้สึกเขาตอนนั้นพังไม่เหลือชิ้นดี กว่าเขาจะลืมเรื่องทั้งหมดได้ใช้เวลาไปเป็นปี ถึงตอนนี้บางครั้งเดินสวนกัน ไม่ว่าจะเป็นจูเน่หรือโซล เขาก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ คนหนึ่งคือรักแรก อีกคนคือเพื่อนคนแรก ทั้งคู่มีความสำคัญกับเขาพอ ๆ กัน ยีนส์: ถ้าฉันอยากไปส่งเธอ ได้หรือเปล่า นิ้วเรียวกดพิมพ์ข้อความส่งไปทันทีตามใจนึก จะตีเหล็กต้องตีตอนร้อน ๆ มิลลิ: แล้วเพื่อนพี่ล่ะคะ ยีนส์: มันเอารถมา เห็นเธอหันมามองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะคุยกับเพื่อนของเธอ คงจะบอกเรื่องที่เขาจะไปส่ง มิลลิ: ถ้าพี่สะดวก ก็ได้ค่ะ มุมปากหนายกขึ้นอย่างพอใจ บอกแล้วว่าตีเหล็กให้ตีตอนร้อน ๆ ทีนี้ก็แค่รอเวลา เขาคิดว่าอีกชั่วโมงจะส่งข้อความไปชวนเธอกลับ "มึงไว้ใจเขาแล้วแน่นะ" ปลายฝนถามเพื่อนย้ำอีกที อย่างเป็นห่วง "มันเร็วไปหรือเปล่าว่ะ หรือว่าบอกพี่เขาดีว่ากูกลับกับพวกมึงเหมือนเดิม" "แล้วมึงอยากให้พี่เขาไปส่งหรือเปล่า" "ก็อยากอยู่" "งั้นก็เอาตามใจของมึง เราสองคนมีหน้าที่แค่ซัพพอร์ตมึงแค่นั้น ที่เหลือคือสิ่งที่มึงต้องตัดสินใจเอง"คาเทียร์ที่อยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนมีเหตุผลขึ้นมา "ขอบใจมึงสองคนมากนะ ที่เข้าใจกู" "แล้วเรื่องพี่โซลล่ะ จะให้พี่มึงรู้ไม่ได้นะ เขาเรียนคณะเดียวกันด้วย" จริงสิ เรื่องนี้เธอก็ลืมบอกยีนส์ไปเลย เอาไว้ตอนเขาไปส่ง เธอคงต้องพูดคุยเรื่องนี้แบบจริงจัง ถ้าให้พี่ชายเธอรู้ มีหวังเธอต้องถูกสั่งให้เลิกยุ่งกับยีนส์แน่ พี่ชายเธอสองคนหวงเธออย่างกับอะไร 21.30น. ครบเวลาหนึ่งชั่วโมงที่ตั้งใจไว้ ยีนส์ก็กดส่งข้อความไปอีกหนึ่งข้อความ มองดูปฏิกริยาของคนที่ได้รับ เธอเองก็กำลังมองหร้าเขาอยู่ ก่อนหันไปพูดคุยกับเพื่อน "กูจะไปแล้ว" พูดแค่นั้น ก็ลุกขึ้นเดินผ่านโต๊ะมิลลิ หันไปเลิกคิ้วใส่เธอหนึ่งที แล้วก็เดินออกมารอที่ลานจอดรถ มิลลิเองก็หยิบกระเป๋าสะพายขึ้นเมื่อเห็นยีนส์เดินออกไปแล้ว "จะกลับมานอนคอนโดใช่ไหม?" มิลลิหันไปถลึงตาใส่ปลายฝน"บ้าหรือเปล่า เขาแค่ไปส่ง" "ก็ไม่แน่หรอก กรึ่ม ๆ ด้วยกันทั้งคู่ มีไรก็โทรมาบอกด้วยนะ เผื่อพี่ชายมึงโทรมา กูสองคนจะได้พูดเหมือนกับมึง" "ไม่เร็วขนาดนั้นหรอก"น้ำเสียงที่พูดก็ฟังเหมือนไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เธอไม่รู้ว่าสถานะคนคุยกันตอนนี้ ขอบเขตมันอยู่ตรงไหน เพราะไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน "สำหรับกูเรื่องนี้ไม่แปลกอะไรหรอก สำคัญว่ามึงต้องให้พี่เขาป้องกันด้วยนะ" ใบหน้าสวยเริ่มร้อนผ่าว เมื่อนึกถึงเรื่องพวกนี้ สาวบริสุทธิ์แบบเธอ แม้แต่จูบยังไม่เคยเลย ถึงจะเคยดูหนังผู้ใหญ่มาบ้าง "กูไปนะ"เมื่อไม่รู้จะพูดอะไร ก็ฉวยโอกาสเดินออกจากร้านเสียเลย ทุกย่างก้าวของเธอ เต็มไปด้วยความรู้สึกประหม่า ยิ่งเห็นร่างสูงยืนพิงรถหรูคันสีดำรออยู่ ในมือคีบบุหรี่ที่เพิ่งจุดสูบได้ไม่นาน "พี่จะสูบให้เสร็จก่อนก็ได้ค่ะ มิลรอได้" เห็นเขาจะโยนบุหรี่ทิ้งเมื่อเห็นเธอเดินเข้าไปหา มิลลิเลยพูดดักทางเขา แต่ยีนส์ก็โยนมันทิ้ง ก่อนใช้เท้าเหยียบ เขาเองก็ไม่ได้ติดบุหรี่ขนาดนั้น แค่สูบบ้างเวลาที่รู้สึกเครียด ๆ ไม่ได้สูบบ่อยเหมือนคนอื่น "ไม่ได้ติดขนาดนั้น ไปเถอะ" มือหนาเปิดประตูรถให้เธอ มิลลิส่งยิ้มให้เขาเล็กน้อยก่อนจะเดินขึ้นไปนั่งบนรถ "เมาหรือเปล่าค่ะ" "เปล่า...เธอล่ะ" ใบหน้าหล่อหันมองคนด้านข้าง ถึงในรถจะมืด แต่เขามองเห็นแววตาเธอได้ชัดเจน การสบตากันของเราครั้งนี้ มันไม่เหมือนกับตอนเย็นที่เขาขอเบอร์เธอ ตอนนี้สถานะเราคือคนคุยกัน "มิลไม่เมาค่ะ ได้ดื่มไปนิดเดียวเอง" "พรุ่งนี้ไม่มีเรียนหรือไง" "ไม่มีค่ะ พี่ล่ะคะ" "ไม่มีเหมือนกัน อยากไปไหนต่อไหม ก่อนจะกลับห้อง" มิลลิขยับตัวอย่างอึดอัด เธอไม่รู้ว่าที่เขาถามแบบนี้ คืออยากให้เธอตอบว่าอะไร เลยหันไปมองหน้าเขา แต่ยีนส์ยังคงตั้งใจขับรถด้วยท่าทางปกติ ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา"ว่าไง อยากไปไหนต่อหรือเปล่า" "เอ่อ...คือ มิลไม่รู้ว่าป่านนี้เขาไปไหนกัน ปกตินอกจากอยู่กับเพื่อนสองคน ก็ไม่เคยไปไหน" ยีนส์ยกยิ้มมุมปากและแสดงสีหน้าว่าเขาตลกขบขันในคำพูดของเธอ นี่เธอกำลังทำตัวเป็นสาวไร้เดียงสาอยู่หรือเปล่า คงอยากกำลังทำให้เขาประทับใจสินะ "ไปดูหนังไหม ตอนนี้ก็เพิ่งสี่ทุ่ม" "ดูหนังที่ไหนคะ ห้างมันปิดแล้วนี่นา" "คอนโดฉัน ดูเสร็จฉันจะไปส่งที่ห้อง" แบบนี้มันเหมาะสมหรือเปล่านะ ถึงสมัยนี้เรื่องแบบนี้จะธรรมดามาก แต่เธอไม่รู้ว่าที่เขาชวนดูหนัง มันหมายถึงเรื่องแบบนั้นด้วยหรือเปล่า "เอ่อ.." "ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บังคับ" "มิลไปได้ค่ะ ตะ แต่ว่ามิลมีเรื่องอยากขอร้องพี่หน่อยได้ไหมคะ" "เรื่องอะไร?" "พี่รู้จักพี่โซลหรือเปล่าคะ" มือหนาของยีนส์เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย เมื่อได้ยินเธอเอ่ยชื่ออดีตเพื่อนสนิทของเขา "ที่เธอไปนั่งกินข้าวด้วยใช่หรือเปล่า" "ใช่ค่ะ คนนั้นแหละ เขาเป็นพี่ชายของมิล" ยีนส์ที่ได้ยินชะงักไปทันที เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าโซลมีน้องสาว คบกันมาตั้งหลายปี เธอคงไม่ได้โกหกเขาอยู่ใช่ไหม "เธอนามสกุลอะไร" "บวรกิจวัฒนาค่ะ" ตอนนี้เขาเริ่มสับสน พอได้รู้ว่าเธอเ
“พี่ไม่ได้อยู่กับมิลตลอดเสียหน่อย บอกแล้วว่ากลัว เปลี่ยนเรื่องได้ไหมคะ ไว้ค่อยดูตอนกลางวัน” ใบหน้าสวยเว้าวอนเขาอย่างน่ารัก เธอไม่รู้หรอกว่ายิ่งทำแบบนี้ เขายิ่งอยากจะครอบครองเธอเร็ว ๆ จุดประสงค์การแก้แค้นของเขาไม่มีอะไรมาก แค่อยากให้อดีตเพื่อนสนิทดิ้นตายหรือทุกข์ทรมานใจก็แค่นั้น ถ้ารู้ว่าเขากับน้องสาวตัวเองได้กัน “ก็ได้ ฉันให้เธอเลือก อยากดูเรื่องอะไรเธอกดเลือกเองเลย แต่หลังจากนี้ไม่เปลี่ยนแล้วนะ” มิลลิรับรีโมตมากดเลือกแนวหนัง บอกตรง ๆ นอกจากซีรีย์เกาหลีหรือจีน เธอก็ไม่ใช่สายดูหนังเท่าไหร่ เลยกดสุ่ม เลือกตรงหนังรักโรแมนติกมาหนึ่งเรื่อง โดยไม่ได้อ่านตัวอย่างหนังเลยสักนิด ยีนส์ที่เห็นชื่อหนังที่เธอกดก็ยิ้มย่องในใจ เขาเคยเห็นตัวอย่างก่อนหน้านี้แล้ว มันไม่ใช่หนังรักโรแมนติกอย่างที่เธอเข้าใจ มันคือหนังอิโรติกต่างหาก เมื่อหนังเริ่มฉายไปได้ประมาณสิบนาที ก็เริ่มเข้าสู่หมวดหนังที่แท้จริง เขาได้ยินเสียงมิลลิเริ่มขยับตัวอย่างอึดอัด เมื่อถึงฉากจูบกันอย่างนัวเนียของพระนาง ก่อนจะพาเข้าสู่ฉากสิบแปดบวกอย่างเป็นทางการ “เอ่อ…มิลไม่อยากดูแล้วอ่ะ”เสียงเล็กเริ่มบ่นพึมพำ แต่ทว่าเขาทำเป็นไม่ได้ยิน ยังค
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วห้อง แข่งกับเสียงครางของคนสองคน ใบหน้าหล่อเหลาชื้นเหงื่อ แต่ช่วงล่างยังคงสาดซัดความปรารถนาอย่างดิบเถื่อน ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจแล้วว่าเธอจะเจ็บปวดแค่ไหน เขาสนใจแค่อารมณ์ของตัวเองเท่านั้น มิลลิที่เพิ่งเคยเจอกับเรื่องแบบนี้ ได้แต่นอนอ้าขาให้เขาจ้วงแทงเข้ามาอย่างหนักหน่วง ลำตัวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก โดยที่เธอทำได้เพียงส่งเสียงครางออกมาเท่านั้น จวบจนจังหวะตอกอัดสุดท้าย ร่างหนาก็เกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำอุ่นร้อนเต็มเครื่องป้องกัน พร้อมกับคนตัวเล็กที่ครางออกมาอย่างเสร็จสม ยีนส์ถอดถอนแก่นกายออก ก่อนจะใส่ถุงยางชิ้นใหม่ เขายังไม่อิ่ม ได้กินของอร่อยทั้งที เขาขอกินให้เต็มที่ “อีกรอบนะ”เอ็นร้อนกระแทกเข้าไปทันทีสุดลำ มิลลิที่นอนตาเหลือกอย่างไม่ทันตั้งตัว รู้อีกทีก็โดนตอกอัดรุนแรงรัว ๆ อีกแล้ว คำว่าอีกรอบของเขา ไม่รู้เหมือนกันว่าไปสิ้นสุดตรงไหน เพราะก่อนที่เธอจะสลบไป คนตัวสูงยังคงรัวเอวสอบกระแทกเธอไม่หยุด กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! เสียงโทรศัพท์ของมิลลิปลุกให้ยีนส์ที่อยู่ใกล้ตื่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะกดรับสายอย่างถือวิสาสะ“ฮัลโหล” (อะ เอ่อ พี่ยีนส์เหรอ มิลลิล่ะคะ) “นอ
“อื้อ~ พอก่อนค่ะ”มิลลิผลักตัวยีนส์ออกห่าง ใบหน้าหล่อที่เอาแต่คลอเคลียเธอไม่หยุด ทั้งจูบ ทั้งหอม ทั้งบีบเค้นเต้าอวบเธอผ่านชุดนักศึกษา เมื่อรถมาจอดตรงลานจอดรถคณะบริหาร เขาเลือกตรงที่มีรถจอดน้อย เมื่อคืนเขานอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดถึงร่างกายเธอ “ตอนเย็นไปคอนโดฉันนะ” มือเล็กจัดชุดนักศึกษาที่หลุดลุ่ยออกมา ก่อนจะช้อนตามองเขาอย่างงอน ๆ ก็ชุดมันยับหมดแล้ว“ไปทำไมคะ หรือว่าอยากกินอาหารฝีมือมิลแล้ว” “อยากกินเธอมากกว่า”นัยน์ตาคมเข้มที่ส่งมาให้เธอรู้ว่า เขาไม่ได้ล้อเล่นกับประโยคนั้น “ไม่คิดเลยว่าพี่จะหื่นขนาดนี้ วันนี้ไม่ได้ค่ะ พี่โซลจะมานอนด้วย”ใบหน้าหล่อขบกรามเข้าหากันแน่นอย่างไม่พอใจ ขนาดนี้มันยังเป็นมารขวางความสุขเขา “พี่เธอจะมานอนด้วยทำไม เขาไม่มีคอนโดอยู่หรือไง” “มีค่ะ...แต่ทุกวันพฤหัสจะมานอนด้วย พี่ฟรินท์ทุกวันอังคาร เป็นแบบนี้มานานแล้วค่ะ” เป็นสิ่งที่มิลลิชินและเข้าใจได้ว่าความเป็นห่วงของพ่อกับแม่เป็นยังไง เป็นเงื่อนไขที่ทำให้เธอได้มาอยู่คอนโดเอง ไม่งั้นพ่อกับแม่คงไม่ยอม“ไว้พรุ่งนี้นะคะ” “แล้วแบบนี้เขาไม่ต้องเฝ้าเธอไปจนแต่งงานหรือไง มันไม่ยุติธรรมกับแฟนแบบฉันนะ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่
มือหนาจับเอวเล็กไว้มั่น เป็นฝ่ายกระแทกเข้าหาเธออย่างรุนแรง นอกจากอารมณ์กระสันที่พุ่งสูงแล้ว เขาต้องการให้รถโยกแรงที่สุด จนคนที่ยืนมองอยู่ด้านนอกสงสัย หรือให้รู้ไปเลยว่ามีสงครามสวาทเกิดขึ้นในรถคันนี้ ซึ่งมองจากตรงนี้เขาคิดว่าได้ผล เพราะเห็นโซลยืนมองรถเขาไม่วางตา อีกทั้งหัวคิ้วก็เลิกขึ้นอย่างสงสัย รถคันนี้โซลจำได้ดี มันคือรถของเพื่อนสนิทเขา ที่เลิกคบกันไปแล้ว การโยกขยับของรถ คนประสบการณ์ช่ำชองแบบเขารู้ดี มันต้องมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นในรถแน่นอน แต่ทว่าที่เขาสงสัยคือเจ้าของรถคันนี้ ตั้งแต่เลิกกับแฟนมันไป เขาไม่เคยเห็นมันเอาผู้หญิงคนไหน แถมตอนนี้ยังมาเอากันในรถอีกต่างหาก อะไรจะอดใจไม่ไหวขนาดนั้น “มองอะไรไอ้โซล” เป็นคาเตอร์ที่เดินมาเอารถตรงนี้ เดินมาหาโซลที่ยืนมองรถหรูสีดำคันหนึ่งที่จอดอยู่ แต่เมื่อเพ่งมองดี ๆ กลับพบว่ามันขยับขึ้นลง“รถไอ้ยีนส์นิ” “เออ มันเอากับใครว่ะ” “ก็ช่างแม่งมันดิ เงี่ยนจัด” มิลลิที่ตอนนี้ความเสียวซ่านเข้าครอบงำ ได้แต่ร้องครางลั่นรถ เมื่อโดนกระแทกรุนแรง เธอฟุบลงบนอกแกร่ง สะบัดใบหน้าสวยไปมาอย่างสุดกลั้น “พี่เธออยู่หน้ารถ ซี้ดด"เอวสอบเร่งกระแทกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยก
วันต่อมา ยีนส์เดินผิวปากไปยังโต๊ะประจำ ที่มีเพื่อนสองคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว วันนี้เขามีเรียนตอนเก้าโมงเช้า เมื่อเดินมาถึง ก็เจอกับสายตาจับผิดของคีริน แต่ทว่าเขาไม่สนใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหามิลลิ ยีนส์:เที่ยงนี้มาเจอกันหน่อย “เดี๋ยวนี้มึงอารมณ์ดีจังนะ ไม่เห็นทำหน้าอมทุกข์เหมือนเมื่อก่อน” ตะวันเอ่ยแซว หากว่าเพื่อนเขาเกิดรักมิลลิขึ้นมาจริง ๆ เขามองว่าเป็นเรื่องดีมากกว่า “มึงนี่ก็แปลก ถ้ากูหน้าบูดมึงก็ด่า กูอารมณ์ดีมึงก็บ่น จะเอาไงกันแน่ว่ะ” “ก็ถ้ามึงอารมณ์ดีออกมาจากใจ มันคงไม่แซวมึงหรอก”คีรินเอ่ยออกมา เขาเองก็ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน เพราะเพื่อนเขานะดื้อ ถึงจะอยากห้าม แต่คงต้องปล่อยให้เพื่อนเจออะไร ๆ ด้วยตัวเอง “ทำไมว่ะ? มึงคิดว่ากูแกล้งเหรอ” “ใครจะกล้าคิดแบบนั้นกับมึง ขอแค่มึงมีความสุข กูสองคนก็ดีใจด้วยแล้ว ใช่ไหมว่ะ ไอ้คีริน” “เออ…พรุ่งนี้หยุดแล้ว คืนนี้ออกไหมว่ะ”ออกที่ว่าคือออกล่าเหยื่อในผับ ตามประสาหนุ่มโสด “กูดูก่อน”ยีนส์พูดก่อนจะสนใจกับโทรศัพท์ในมือ ที่สั่นแจ้งเตือนขึ้นมา มิลลิ:ที่ไหนคะ? ยีนส์:พักกี่โมง มิลลิ:พักเที่ยงครึ่งคะ ยีนส์:เจอกันที่ลานจอดรถ ย
16.05น. หลังเลิกเรียน มิลลิก็เดินมาหายีนส์ที่ลานจอดรถที่เดิม ระหว่างเดินก็คอยมองซ้ายขวาอยู่ตลอด แต่เธอก็ยังพลาดมองไม่เห็นพี่ชายคนโต ที่อยู่ ๆ ก็เดินมากอดคอเธอจากด้านหลัง “ไปไหนจ๊ะ น้องสาวคนสวยของพี่” “ไหนว่าไม่มาเรียนแล้วไง แล้วมาทำอะไรคะ” “ดูเหมือนเธอจะไม่ดีใจนะที่เจอพี่ แล้วอาการก็ดูแปลก ๆ”มิลลิพยายามเก็บสีหน้าเลิกลั่กของเธอไว้ พี่ชายคนนี้เป็นคนดูคนเก่งมาก เธอไม่เคยโกหกอะไรพี่คนนี้ได้เลย “ดีใจสิคะ แค่สงสัยว่าพี่มาทำอะไรต่างหาก” ฟรินท์ยังคงหรี่ตาจับผิดน้องสาวคนเดียว เขาหันมองลานจอดรถที่รถเริ่มบางตา ก่อนจะถามคำถามที่ทำเอาคนฟังใจกระตุกวูบ“ไม่เอารถมานิ แล้วเดินมาตรงนี้ทำไม” นั่นไง...ที่เธอบอกว่าพี่ชายคนนี้ฉลาด มันคือเรื่องจริง ตอนนี้ในหัวเธอคิดหาทางออกมั่วไปหมด ไม่รู้ว่าต้องโกหกไปแบบไหนพี่ถึงจะเชื่อ แต่ทว่าสวรรค์ก็เหมือนจะเข้าข้างเธอ เมื่อคาเทียร์เดินตรงมาทางนี้พอดี “สวัสดีค่ะ พี่ฟรินท์สุดหล่อ”เสียงหวานสดใสของคาเทียร์ ทำให้ฟรินท์หันมาสนใจ ผู้หญิงที่เป็นเหมือนน้องสาวเขาอีกคน “สวัสดีครับ คาเทียร์คนสวย” “แล้วรถกูจอดตรงนู้น กูไปเข้าห้องน้ำแปบเดียวเดินเลยมาอีกแล้วมึงอ่ะ”มิลลิแอบดีใ
วันเสาร์ช่วงบ่าย ยีนส์มาส่งมิลลิที่คอนโด วันนี้เธอจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ ก่อนจะลงจากรถก็อิดออดกันอยู่พักใหญ่ ตอนนี้เธอยอมรับอย่างเต็มอกเลยว่าหลงผู้ชายคนนี้อย่างหนัก ระยะเวลาแค่ไม่กี่วันก็ทำให้เธอเป็นมากขนาดนี้ มันอยากจะหอม อยากจะกอดเขาอยู่ตลอดเวลา “มิลไม่อยากกลับเลยอ่ะ” “หึ งั้นก็ไม่ต้องกลับ” “ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่รอ วันนี้นัดกินข้าวพร้อมกันด้วย ถ้ามิลไม่กลับ พี่โซลต้องมาตามแน่ ๆ”เสียงหวานออดอ้อน ยังคงเกาะแขนแกร่งซบหัวเล็กตรงบ่า ก่อนจะตัดใจลงจากรถ ยืนโบกมือให้ยีนส์ออกรถไปก่อนเธอถึงจะเดินเข้าคอนโด “มึงนี่หนักนะ หลงพี่เขาขนาดนี้เลย” เดินมาขึ้นลิฟท์ก็เจอกับคาเทียร์ยืนรอลิฟท์เหมือนกัน ในมือถือของพะรุงพะรัง“มึงมาจากไหน” “กูหิวค่ะ อีฝนก็นอนยังไม่ตื่น ไม่รู้นอนหรือซ้อมตาย กูไปเรียกตั้งนาน” “ไม่กลับบ้านกันเหรอว่ะ” “ไม่ว่ะ อาทิตย์นี้เหนื่อย อยากพักผ่อน”มิลลิแอบอิจฉาเพื่อนสองคน ที่นึกจะทำอะไรก็ได้ มีพี่ชายเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หวงเท่าพี่ชายสองคนของเธอ “เมื่อไหร่มึงจะบอกพี่มึงล่ะ ว่ามีแฟนแล้ว” “เป็นมึงกล้าหรือเปล่า พี่กูเหมือนคนอื่นที่ไหนกัน” “ก็จริง หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เสียอีก
หลังจากบทรักตอนเที่ยงจบลง ท้องของมิลลิก็ส่งเสียงประท้วงเสียงดัง ตอนแรกคนตัวสูงอยากจะต่อรอบกับเธอด้วยซ้ำ เพราะบรรยากาศที่เป็นใจ ถึงจะร้อนไปหน่อย แต่มีความตื่นเต้นจากการทำรักเอาท์ดอร์ครั้งแรก แต่ทว่าคนตัวเล็กขอพักกินข้าวก่อน "ประจำเดือนมิลมาอยู่หรือเปล่า” ยีนส์ต้องถามภรรยาเรื่องนี้ เพราะหลังจากเธอเรียนจบก็ไม่ได้กินยาคุมอีก แต่ผ่านมาเกือบสามเดือน ทำไมเธอถึงยังไม่ท้องสักที ทั้งที่เขาขยันทำการบ้านกับเธอแทบตาย งัดกลเม็ดทุกอย่างมาใช้หมดแล้ว แต่ทว่ายังไร้วี่แวว “ที่จริงประจำเดือนมิลก็มาไม่ปกติอยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจของพี่ มิลจะตรวจหลังจากเรากลับนะคะ” “เมื่อวานพ่อตาบอกว่าพี่ไม่มีน้ำยา”มิลลิหัวเราะออกมา เมื่อนึกถึงคำพูดของพ่อที่บ่นเธออยู่ทุกวันว่าเมื่อไหร่จะมีหลานให้ท่านสักที “หรือพี่จะไม่มีน้ำยาอย่างพ่อตาว่าจริง ๆ”เขายังคงคิดมากเรื่องนี้อยู่ ก็เขาอยากมีลูก พ่อกับแม่ของเขาก็อยากมีหลานหลาย ๆ คน “พี่อย่าคิดมากสิคะ มิลเพิ่งปล่อยได้แค่สองเดือนกว่า ๆ เอง ใครจะไปรู้ตอนนี้มิลอาจจะท้องแล้วก็ได้” “งั้นเราไปซื้อที่ตรวจมาตรวจเลยได้ไหม พี่อยากรู้ตอนนี้เลย มิลก็รู้ว่าพี่อยากมีลูกขนาดไหน” สุดท้าย
หลังจากงานแต่งจบลง ยีนส์และมิลลิก็รีบไปสนามบินทันที ทั้งคู่จะไปฮันนีมูนกันที่มัลดิฟส์ เป็นเจ้าสาวที่จองตั๋วเครื่องบินและที่พักเองหมดทุกอย่าง กำหนดการเที่ยวทุกอย่างใช้เวลา4วัน3คืน “มิลตื่นเต้นอยากเห็นทะเลใจจะขาดแล้วค่ะ”มิลลิเดินควงแขนสามีหนุ่มหล่อ เพื่อไปยังรถตู้ของโรงแรมที่เธอจองเอาไว้ แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาตีสี่กว่าแล้ว อีกทั้งยังเหนื่อยกับงานแต่ง แต่เธอกลับไม่รู้สึกง่วงสักนิด เพราะทะเลที่นี่ เธอใฝ่ฝันจะมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว “พี่อยากให้มิลพักหน่อยนะ”ยีนส์พูดไปตามที่คิด เพราะตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เห็นเธอหลับเลย ทั้งที่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อแต่งหน้า ทำผม ไหนจะยุ่งกับงานแต่งทั้งวัน เสร็จจากงานก็เที่ยงคืน ก็รีบมาสนามบินทันที เป็นเขาเสียอีกที่รู้สึกอ่อนเพลียมาก “ถึงที่พักแล้วค่อยนอนก็ได้ค่ะ สามีของมิลเหนื่อยแล้วเหรอคะ” “พี่ยอมแพ้มิล” รถตู้ของที่พักเข้ามาจอดตรงส่วนของโรงแรม แต่มิลลิจองเป็นที่พักติดทะเลไว้ เลยต้องใช้เวลาเดินไปอีก ขนาดว่าตอนนี้ตีห้า แต่ก็ยังมองเห็นความสวยงามของทะเล พนักงานของโรงแรมพาเดินไปตามสะพานไม้ที่พาไปยังที่พักเป็นหลังที่สร้างอยู่ในทะเล ก่อนที่จะหย
ยีนส์ขับรถหรูเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ เพื่อส่งมิลลิลงก่อน ส่วนเขาก็ขับไปจอดในลานจอดรถ ก่อนจะเดินลงมาหาเธอที่ยืนรออยู่ พร้อมกับว่าที่พ่อตา ว่าที่แม่ยาย และพี่ชายสองคนของเธอ คนตัวสูงยอมรับว่าประหม่ามาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่ากลัวอะไรขนาดนั้น เขาเองก็เป็นลูกผู้ชายมากพอ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้อยู่แล้ว เพราะงั้นไม่ว่าจะโดนอะไรเขาก็พร้อมจะยอมรับ ขอแค่อย่างเดียวอย่าให้เขาเลิกคบกับมิลลิ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่เขาจะไม่ยอม “สวัสดีครับ”ยีนส์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง และพี่ชายคนโตของมิลลิด้วยท่าทางปกติ ผิดกับสายตาของว่าที่พ่อตา ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจเขามาก ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่สบัดหน้าหนีเขา ไม่รับไหว้เขาเหมือนอย่างแม่ของเธอ “เข้าบ้านกันดีกว่า มิลพาพี่เขาเข้ามาเร็วลูก” มิลลิจับมือของเขา เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน ตรงที่พ่อกับแม่นั่งรออยู่คือห้องรับแขกของบ้าน ยีนส์ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับพ่อแม่ของมิลลิทันที ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว จากตอนแรกที่ไม่รู้สึกอะไร เจอแบบนี้เขาเองก็ต้องกุมมือเข้าหากันเพื่อลดอาการประหม่าของตัวเองตอนนี้ “เรื่องที่ผ่านมา แม่จะไม่พูดถึงมันนะ แต่หลังจากนี้
“แบบวันนี้ คือแม่พี่ชอบมิลหรือเปล่าคะ”มิลลิถามขึ้นตอนที่กลับมาถึงคอนโดของยีนส์แล้ว “ใช้คำว่าถูกใจเลยดีกว่า” เขาไม่ได้อวยเธอเกินจริง แต่การที่แม่เอ่ยปากชวนเธอไปชิมขนมที่ร้าน มันเป็นสัญญาณว่าแม่เขาถูกใจเธอมาก “แต่มิลก็อยากจะตีพี่เหลือเกิน รู้ว่ามิลชอบกินขนม ยังไม่บอกมิลอีกว่าแม่พี่เปิดร้านขนม” เธอทำหน้างอนเขาและทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟา โดยยีนส์ก็เดินเข้ามากอดเธอ ยกตัวเธอขึ้นนั่งบนตักของเขา ก่อนที่จะกดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากนุ่มของเธอเบา ๆ “พี่กลัวมิลจะไม่อยากเจอแม่พี่ต่างหาก อีกอย่างตอนนั้นพี่ก็ยังไม่รู้ใจตัวเองด้วย หลังจากนี้พี่จะพาไปจนมิลเบื่อเลยดีไหมครับ” “ดีค่ะ มิลอยากเปิดร้านขนมมาตั้งนานแล้ว” “เรียนบริหารแต่ไปเปิดร้านขนมเหรอ” “ความชอบกับความฝันมันต่างกันค่ะ มิลเรียนบริหารเพราะเห็นพี่ชายคนโตเรียนค่ะ อีกอย่างเรียนจบมิลก็ต้องไปทำงานกับบริษัทของพ่อ” “แล้วไอ้โซลล่ะ มันเรียนวิศวะเครื่องยนต์นะ” “พ่อมีบริษัทผลิตยานยนต์ค่ะ พี่โซลตามพ่อไปทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ เลยอยากเป็นอย่างพ่อ” “นี่พี่ตกถังข้าวสารเหรอเนี๊ยะ ต่อไปมิลต้องเลี้ยงพี่ด้วยนะ” “พี่รวยกว่ามิลอีกนะคะ เป็นลูกคนเดียวด้วย พี่นั่น
“พี่ไม่แปลกใจเลย ทำไมพี่ชายมิลถึงหวงมิลนัก” “ใช่ค่ะ เราห่างกันคนละปีกว่า ๆ เอง คลอดปุ๊บ แม่ก็ท้องปั๊บเลย” “อาทิตย์หน้าไปกินข้าวบ้านพี่บ้างสิ พี่อยากให้แม่กับพ่อพี่ได้รู้จักว่าที่ลูกสะใภ้” “พี่เคยพาแฟนเก่าเข้าบ้านหรือเปล่าคะ” ที่ถามไม่ใช่ว่าเพราะเธอโกรธหรอก เธอเองก็ทำใจเรื่องใจอดีตเขาได้แล้ว เพียงแต่ถามเพื่อจะได้ทำตัวถูกเวลาเจอหน้าพ่อกับแม่ของเขา “ไม่เคย ตอนนั้นพี่เพิ่งเรียนปีหนึ่งเองนะ ยังไม่คิดเรื่องนี้เลย” “….” “แต่ตอนนี้พี่คิดแล้วนะ พี่เป็นคนรักคนยากนะมิล ถ้าพี่รักแล้ว พี่ก็อยากจะคบกับเขาให้นานที่สุด” ยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเขินหน้าแดงจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ไม่อยากจะคิดหรอกว่าเธอโชคดีแค่ไหน ที่ได้เป็นคนนั้นในใจเขา เรื่องของความรัก มันไม่ใช่อีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายโชคดีอย่างเดียว แต่มันคือการที่คนสองคนโชคดีทั้งคู่ต่างหากที่ได้มาเจอกัน ตอนนี้อยากจะบอกแฟนเก่าของเขาเหลือเกินว่าขอบคุณนะคะ ที่ทิ้งเขามาจนเจอกับเธอ 21.30 น. บรรยากาศในผับสุดหรูของพายุ ที่มีศักดิ์เป็นลุงของมิลลิ เธอไม่ค่อยได้มาที่นี่ นอกจากว่าจะมาพี่ชายหรือคนเป็นพ่อ เวลามีงานฉลองอะไร ครอบครัวของเธอมักจะเลือกมาฉลองกันที่นี่
“กว่าครอบครัวมิลจะยอมรับพี่ กระดูกพี่ไม่หักไปก่อนเหรอ” “หักไม่ได้คะ มิลไม่ยอมหรอก ว่าแต่….” “แต่อะไร?” “ว่าแต่มีตรงไหนให้พ่อมิลทำพี่ได้อีกบ้างค่ะ หน้าโดนแล้ว ขาโดนแล้ว งั้นหลังได้ไหมคะ” “มิลลิ”เสียงทุ้มเรียกชื่อเธออย่างไม่เชื่อ ตอนแรกเขาก็คิดว่าเธอพูดเล่น แต่ทำไมท่าทางเธอตอนนี้ถึงดูจริงจังขนาดนี้ “คิก คิก มิลพูดเล่นค่ะ เหลือด่านสุดท้ายแล้วนะคะ” มิลลิเข้าไปออดอ้อนแฟนหนุ่ม ตอนนี้ที่พวกเธอนั่งอยู่ท่ามกลางสายตาของเพื่อนสนิทมิลลิสองคน ตรงใต้ตึกคณะบริหาร ทำให้เพื่อนสองคนนั่งมองเธอด้วยสายตาหมั่นไส้ “งั้นมิลก็ต้องปลอบใจพี่ด้วยนะ ดูสิ”เขาเอียงหน้าให้เธอดูรอยแผลตรงมุมปาก คนตัวเล็กหันซ้าย หันขวา ก่อนจะกดริมฝีปากลงไปเบา ๆ อย่างเอาใจ “แหวะ!!! อีมิล กูจะอ้วก” คาเทียร์มองบนทนความคลั่งรักของคู่นี้ไม่ไหว ต้องทำท่าอ้วกออกมา โดยมีปลายฝนนั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่สนใจพวกเธอสักนิด ยังคงนั่งออดอ้อนกันอยู่แบบนั้น ราวกับว่าโลกนี้มีเพียงสองเรา “ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ยีนส์จะเป็นคนคลั่งรักขนาดนี้”ปลายฝนพูดขึ้นขณะเดินไปเรียนวิชาช่วงเช้า “ไม่ใช่แค่พี่ยีนส์หรอก อีเพื่อนตัวดีของเราก็น้อยห
ยีนส์ทำสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินลงมาส่งเธออย่างไม่เต็มใจ เมื่อเห็นสีหน้ายียวนของไอ้เพื่อนเวร เขาก็ชักสีหน้าใส่มันทันที “ทำไมมึงทำหน้าบูดแบบนั้นล่ะว่ะ” โซลแซวด้วยรอยยิ้มขบขัน เขารู้ว่ามันไม่เต็มใจจะให้น้องสาวเขากลับ ยอมรับว่าที่มารับมิลลิ ก็เพราะเขาอยากแกล้งมันโดยตรง หมั่นไส้มันที่เคยทำกับน้องเขา แล้วมาดี๊ด๊าเมื่อน้องเขาให้อภัยมันง่าย ๆ “ไอ้เวร มึงเอาคืนกูที่น้องมึงให้อภัยกูใช่ไหม” “ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!”โซลหัวเราะเสียงดัง ไม่อยากเชื่อว่ามันจะอ่านใจเขาออกขนาดนี้ “สัด!!! กูขอแช่งให้มึงโดนบ้างเวลามึงมีความรัก มึงคอยดู” “แม่ง!!! แช่งเป็นเด็ก ๆ แต่กูคงไม่มีวันนั้นว่ะ ขอโทษด้วยนะ เพราะคนอย่างกูไม่รักใครง่าย ๆ เหมือนมึงหรอก” มิลลิยืนมองพี่ชายกับแฟนยืนเถียงกันแบบเด็ก ๆ แล้วก็ส่ายหัวออกมา ดูท่าว่าเธอจะต้องเจอแบบนี้ไปตลอด เพราะสองคนนี้ดูเป็นคนไม่ยอมใครทั้งคู่ “ไปได้แล้วค่ะ”เธอตัดบทก่อนจะขึ้นไปรอบนรถคนเป็นพี่ชาย มองเห็นสองคนยังยืนเถียงกันต่อ จนเธอต้องเปิดกระจกตะโกนเรียกพี่ชายให้ขึ้นรถได้แล้ว “เตรียมจะบอกพ่อกับแม่เมื่อไหร่” ระหว่างที่นั่งบนรถ พี่ชายก็ถามเธอถึงเรื่องนี้ แต่ก็เป็นเ
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! เสียงตอกอัดเข้าออกรุนแรงอย่างดิบเถื่อน จนร่างเล็กโยกโคลงตามแรงกระแทกนั้น เธอต้องเอามือขึ้นเกาะบ่าเขาไว้ เล็บจิกเกร็งตรงผิวเนื้อเขาจนเลือดซิบ ใบหน้าสวยเหยเก หลับตาคราญครางเสียงดังด้วยความเสียวซ่าน ทุกจังหวะการกระแทกที่เพิ่มระดับความแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามความกระสันที่พุ่งสูงขึ้น เหงื่อเม็ดโตผุดพลายบนใบหน้าหล่อเหลา กรามหนาขบเข้าหากันแน่นทุกครั้งที่ร่องรักของเธอตอดรัดเอ็นร้อนของเขาแรง ๆ รัว ๆ “อ๊าสส ตอดแรง พี่เสียวหัวมากเลยครับ” เสียงทุ้มครางกระเส่า พร้อมคำพูดหวานหู ที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน ยิ่งมาพูดเวลานี้ ยิ่งเพิ่มความเสียวซ่านขึ้นถึงขีดสุด ร่างหนายังคงขยับโยกไปมาอย่างไม่ลดระดับความแรง มือหนาเอื้อมไปบีบเค้นอกอวบของเธอไปด้วย “มิลไม่ไหวแล้วค่ะ อื้อ~ อ๊าสส” มิลลิสะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่าน ร้องครางเสียงดัง ก่อนที่เธอจะกระตุกตัวเกร็งปลดปล่อยออกมาทันที “อร้ายย”เมื่อเห็นเธอเสร็จแล้ว ยีนส์ก็เร่งความเร็วถึงขีดสุด กระแทกเข้าออกถี่ ๆ แรง ๆ ก่อนที่เขาจะแตกพร่า ฉีดอัดน้ำรักเข้าไปในร่องรักของมิลลิจนหมด “อึก อ๊าส”ครวญครางออกมาอย่างสุขสม ยีนส์แช่เอ็นร้อนเอาไว้ ไม่ได้ถอดอ
เมื่อประตูคอนโดเปิดออก ยีนส์ก็ผลักคนตัวเล็กติดผนังทันที แววตาคมเต็มไปด้วยเปลวเพลิง ร่างกายเครียดเกร็งไปหมดทุกส่วน บางอย่างที่แข็งขืนอยู่นาน ยิ่งทวีความต้องการมากขึ้น ริมฝีปากหนาก้มลงจูบดูดดื่มกับริมฝีปากอวบอิ่ม ส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อน เกี่ยวพันกับลิ้นเล็ก รสจูบแผดเผาร่างกายมิลลิจนร้อนรุ่มไปหมด ใจเต้นเสียงดังโครมคราม มันแตกต่างจากจูบทุกครั้งที่ผ่านมา นอกจากความเร่าร้อนแล้ว ยังเต็มไปด้วยความดุดัน ลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร มือเล็กยกขึ้นเกี่ยวคอแกร่ง เมื่อถูกความกระสันเสียวเล่นงานไม่หยุด จนร่างกายอ่อนปวกเปียกยืนทรงตัวแทบไม่ได้ มือหนาของคนตัวสูงยกขึ้นบีบสะโพกสวยอย่างจงใจ เขาค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้ง ของคนตัวเล็ก ก่อนจะมาเจอกับก้อนกลมด้านหน้าสองลูก ที่เขาออกแรงบีบเค้นมากกว่าปกติ ริมฝีปากก็ยังดูดดึงกันอยู่อย่างนั้น “อืม”เสียงทุ้มครางออกมาอย่างถูกใจ ก่อนจะผละริมฝีปากออกไป“พี่เจ็บจังเลยครับ” “ให้มิลทำยังไงคะ”รอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่ส่งมา ทำให้เธอเขินอาย หน้าแดงก่ำ ช่วงริมฝีปากไม่สามารถหุบยิ้มได้ “มิลอยากทำยังไงกับพี่ครับ” “มิลอยากทำแผลให้พี่ค่ะ”ยีนส์กรอกตามอ