Beranda / รักโบราณ / กลวิธีพิชิตใจอ๋องปีศาจ / บทที่ 3 เดรัจฉานสติฟั่นเฟือน

Share

บทที่ 3 เดรัจฉานสติฟั่นเฟือน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-10 00:22:30

บุรุษร่างสูงสง่า สวมอาภรณ์สีเข้มปักดิ้นทองลายมังกรย่างกรายเข้ามาด้านใน จูฟางหรงหายใจหอบถี่เพราะเพิ่งรอดตายมาอย่างหวุดหวิด เปลือกตาบางเปิดปรือขึ้นแช่มช้าก็ทันประสานเข้ากับนัยน์ตาสีนิลของผู้มาเยือน ดวงตาคมเข้มชำเลืองมองจูฟางหรงแฝงไปด้วยอำนาจดุจราชสีห์

จูฟางหรงหลุบเปลือกตาไม่อาจสู้หน้าเขา ใบหน้าของฮ่องเต้และโหย่วอี้อ๋องละม้ายกันประหนึ่งแฝดพี่แฝดน้อง ทว่าพวกเขากลับเป็นเพียงพี่น้องที่คลานตามกันมาคนละปีเท่านั้น

“ฝ่าบาท พระองค์มาได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้หลงอี้เซียวหย่อนกายนั่งลงตรงเก้าอี้กลางห้องด้วยท่วงท่าสบายอารมณ์

“ข้าเพียงอยากมาส่งพวกเจ้าเข้าหอ พิธีวันนี้ข้ามิได้มาเข้าร่วมเพราะกลับไม่ทัน เจ้าเร่งร้อนตบแต่งพระชายาไม่รั้งรอข้าเลยหรือน้องชาย”

“สมรสพระราชทาน และวันอภิเษกเป็นพระองค์ที่กำหนดขึ้นเอง ไยจึงกล่าวว่ากระหม่อมเร่งร้อน”

“อ่า…จริงสิ เป็นข้าเองสินะ ข้าก็หลงลืมไปเสียสนิท แล้วเหตุใดเจ้าทั้งสอง…”

ฮ่องเต้หลงอี้เซียวผินหน้ามองสตรีร่างระหงที่ถูกตรึงไว้ด้วยความฉงน “นั่น…วิธีการเข้าหอของเจ้าหรือ”

“ฝ่าบาท อย่าเข้าใจผิดนะเพคะ ท่านอ๋องเพียงล้อหม่อมฉันเล่นเท่านั้น”

หลงโหย่วอี้เลิกคิ้วหนึ่งฝั่ง เดิมทีเขาคิดว่านางจะร่ำร้องโวยวายเพื่อขอความเป็นธรรม แต่ดันผิดคาดเมื่อจูฟางหรงทำราวกำลังปกป้องตัวเขา

“หืม…ล้อเล่นน่าสนุกจริง ๆ หากข้ามาไม่ทัน พระชายาโหย่วอี้อ๋องจะเหลือเพียงนามหรือไม่”

จูฟางหรงยิ้มแหย นางอยากตอบว่าใช่ นางต้องเหลือแต่ชื่อจริง ๆ นั่นล่ะ อยากต่อว่าด่าทออ๋องปีศาจ อยากฟ้องร้องเขาให้หมดเปลือก แต่ยามนี้จูฟางหรงต้องเลือกแปรพักตร์มาอยู่ข้างสวามีจอมวายร้ายชั่วคราว เพื่อยื้อชีวิตแสนบัดซบคราที่สองของตนให้ยืนยาวขึ้นอีกหน่อย 

หลงโหย่วอี้เปล่งวาจาขึ้นอีกครั้ง “ฝ่าบาทไม่ต้องกังวลพระทัย นี่ก็แค่วิธีการเข้าหอกระชับความจริงใจสำหรับสามีภรรยาเท่านั้น”

จูฟางหรงหน้าบูดลอบค่อนขอดในใจ

คนเลว กระชับความจริงใจกับผีน่ะสิ เขาทำข้าระบมไปทั้งตัว

“ฮ่า ฮ่า เช่นนี้เอง ดูเหมือนข้าเข้ามาผิดจังหวะเสียแล้ว เช่นนั้นข้าจะไม่รบกวนพวกเจ้าทั้งสอง” เอ่ยจบก็ผินหน้าไปยังธรณีทางเข้า

ขันทีซึ่งยืนรออยู่นานก็เดินถือหีบใบหนึ่งเข้ามา จากนั้นค้อมศีรษะยื่นให้หลงโหย่วอี้

“ท่านอ๋อง นี่เป็นของกำนัลจากฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

หลงโหย่วอี้เลิกคิ้ว มองใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มของผู้เป็นพี่ชาย แววตาของเขาประหนึ่งยินดีและจริงใจ ผู้ใดจะล่วงรู้ความลับของสวรรค์ว่าเบื้องหลังริมฝีปากที่ยกโค้งนั้นอาจซ่อนคมมีดไว้ก็ได้

“น้องข้า เจ้ารับไว้สิ ของสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มอรรถรสให้คืนเข้าหอของเจ้าสุขสมยิ่งขึ้น”

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาส่งผลให้ขนอ่อนบนกายของจูฟางหรงลุกเกรียว

น่ากลัวทั้งพี่ทั้งน้อง

แผ่นหลังกว้างหายลับจากไปแล้ว ขันทีผู้ติดตามหับประตูลงดังเดิมอย่างแน่นหนา จูฟางหรงยังถูกตรึงร่างอยู่กับที่ แขนทั้งสองเริ่มชาหนึบเข้าให้แล้ว และเจ้าผลผิงกั่ว [1] หล่นลงจากศีรษะของนางเมื่อใดก็สุดจะรู้

หลงโหย่วอี้ชำเลืองมองสตรีที่ถูกตนขึงไว้ด้วยประกายตาร้อนระอุ “เจ้าใช้กลอุบายใด ไยจึงทำให้ฝ่าบาทมอบสมรสพระราชทานได้”

แต่เดิมจูฟางหรงทราบอยู่แล้วว่าราชวงศ์ต้องเลือกคุณหนูตระกูลขุนนางใหญ่เข้ามาเพื่อเป็นพระชายาหรือสนม แต่เรื่องสมรสพระราชทานที่นางได้รับล้วนเป็นหอหงฮวาที่จัดการไว้ทั้งสิ้น 

“พระองค์ไม่เห็นหรือเพคะ หากมิใช่หม่อมฉันผู้ใดจะมีคุณสมบัติเหมาะสมกับพระองค์อีก ทั้งงดงามซ้ำยังฉลาดหลักแหลม”

หลงโหย่วอี้แค่นยิ้ม เพราะขณะที่จูฟางหรงถูกเขาพันธนาการไว้ แต่นางก็ยังกล้าตีฝีปาก เอ่ยชมตนเองดั่งหญิงเสียสติ กล่องไม้ขนาดเล็กที่เขาได้รับเมื่อครู่ถูกขว้างลงบนพื้น ฝาที่ปิดสนิทจึงแง้มเปิดพร้อมขวดหยกสีแดงกลิ้งหลุน ๆ ออกมา

หลงโหย่วอี้คิดวิธีกลั่นแกล้งผู้ร้ายปากแข็งได้เสียแล้ว ดูเหมือนของกำนัลที่ตนได้รับจะเป็นสุราเลิศรส และนั่นคงมิใช่สุราธรรมดาเสียด้วย มือหยาบกร้านหยิบมันขึ้นจากพื้น

จูฟางหรงกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แขนเรียวทั้งสองฝั่งพยายามบิดเพื่อคลายพันธนาการ แต่นางยิ่งขยับก็ยิ่งสร้างความเจ็บปวดจนร้าวไปยันกระดูก

“ท่านอ๋อง ปล่อยหม่อมฉันนะเพคะ กางแขนกางขานาน ๆ เช่นนี้หม่อมฉันเมื่อยจะแย่”

คิ้วเข้มเลิกขึ้นหยั่งเชิง “เจ้าเสนอตัวมาให้ข้าเอง ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว ภรรยาก็คือสมบัติของสามี เจ้าต้องเชื่อฟังข้า”

จูฟางหรงหลุกหลิก นางกำลังคิดหาอุบายให้เขาใจเย็น “เพคะ หม่อมฉันย่อมต้องเชื่อฟังพระองค์ เพียงแต่ยามนี้แขนของหม่อมฉันช่างเจ็บยิ่งนัก ท่านอ๋องจะช่วยปลดโซ่ตรวนนี้ออกก่อนได้หรือไม่ มิเช่นนั้นเลือดลมหม่อมฉันไม่เดิน ต้องถูกตัดแขนจะทำเช่นไร”

“ตัดก็ตัด แขนเจ้าไม่ใช่แขนข้า”

จูฟางหรงนิ่งอึ้ง นางไม่ควรคาดหวังลม ๆ แล้ง ๆ เช่นนี้เลย รู้ทั้งรู้ว่าเขามันบุรุษเลือดเย็น

ฝ่ามือกว้างคว้าบางอย่างบริเวณเอวของตนออกมา จูฟางหรงเห็นเช่นนั้นก็ตาโต

กระบี่อ่อน! สวมชุดวิวาห์อยู่โดยแท้ก็ยังพกกระบี่ติดกาย อยากจะบ้า นี่เรียกวันมงคลได้หรือ มันวันวินาศสันตะโรชัด ๆ ...อ๋องอำมหิตคิดตัดแขนข้าเชียวหรือ?!

หลงโหย่วอี้ตวัดกระบี่อ่อนอย่างรวดเร็วประหนึ่งสายอสนีเคราะห์

เคร้ง!

เคร้ง!

จูฟางหรงหลับตาแน่นด้วยใจไหวระทึก ดูเหมือนว่าการตัดสินใจลงจากเกี้ยวช่างผิดมหันต์ นางควรวิ่งหันหลังแล้วหนีไปซะ แต่หากยามนั้นนางเลือกอีกทาง ก็ต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไปชั่วชีวิต หรือไม่ก็อาจถูกทางการลากตัวมาตัดหัวซ้ำ 

เสียงโซ่ตรวนกระทบกำแพงพร้อมร่างระหงที่ทรุดฮวบลงบนพื้น

แขนข้า แขนข้าขาดแล้วหรือไม่

จูฟางหรงข่มใจแง้มเปลือกตาทีละฝั่ง จากนั้นยกแขนขึ้นสำรวจซ้ายขวา ครั้นเห็นว่านิ้วทั้งสิบยังอยู่ครบ และแขนทั้งสองไม่ได้กุด ริมฝีปากสีกุหลาบก็เผยยิ้มออกมา

ดีใจไม่นานก็ต้องหุบปากฉับ เมื่อใครบางคนกำลังจ้องจะกินเลือดเนื้อพร้อมกระชากวิญญาณอยู่ตรงหน้า แทบนับว่าปลายจมูกของนางและเขาห่างกันเพียงลมหายใจกั้น

จูฟางหรงผงะ “ท่านอ๋อง!”

เอ่ยไม่ทันจบ ฝ่ามือกว้างก็คว้าหมับไปยังปลายคางโค้งมน จากนั้นหลงโหย่วอี้ก็กรอกของเหลวในขวดหยกเข้าปากจูฟางหรงอย่างไร้ปรานี

อั๊ก! ๆ

จูฟางหรงน้ำหูน้ำตาไหล ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วดุจพลิกฝ่ามือ

“ถ้ายังปากแข็ง ก็นอนทรมานจนตายอยู่ตรงนี้เถิด”

ขวดหยกถูกขว้างออกไปอย่างไม่ไยดี จูฟางหรงกระอักไอพร้อมร่างกายที่ร้อนรุ่มดุจถูกเปลวเพลิงแผดเผา

ยาปลุกกำหนัด!

“ท่านอ๋อง นี่ท่าน…”

โหย่วอี้อ๋องยืดกายยืนเต็มความสูง เขาเหยียดยิ้มชั่วร้ายเมื่อเรือนร่างอันผุดผ่องซ้ำยังขาวราวหิมะแรกกำลังแปรเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ ใบหน้าพริ้มเพราแดงก่ำเพราะฤทธิ์ของยาที่ผสมอยู่ด้านในสุรา

จูฟางหรงทรมานอย่างมาก นางทั้งร้อนทั้งปั่นป่วนไปทั่วสรรพางค์ 

“ถ้าพรุ่งนี้เจ้ายังมีชีวิตรอด ข้าจะยอมให้โอกาสเจ้าสักครั้ง”

ร่างเพรียวบางแดดิ้นลงบนพื้นเย็นเยียบ ทว่าอีกฝ่ายกลับเดินห่างนางออกไปเนิบช้าอย่างไม่อนาทรร้อนใจ

เลือดเย็น!

หลงโหย่วอี้ต้องการง้างปากสตรีแพศยาเช่นนาง เขาจะทรมานนางให้หนักจนกว่าจะยอมปริปากเผยความจริง 

จูฟางหรงแข็งใจต่อความปรารถนาที่พุ่งสูงดั่งทะเลคลั่ง ฟันเรียงสวยขบกันแน่น เปลือกตาบางปิดฉับเพื่อคุมสติ เพราะนางเกรงว่าตนอาจเผลอวิ่งรี่ไปกอดขาหรืออ้อนวอนเขาให้ช่วยปลดปล่อยแรงราคะ

และแน่นอนแค่ฤทธิ์ยาปลุกกำหนัดกระจอกงอกง่อยคิดว่านางจะตายเชียวหรือ 

จูฟางหรงพยุงร่างโผเผ จากนั้นใช้นิ้วเร่งสกัดจุดตนเพื่อคลายความระอุ แม้จะบรรเทาได้ไม่มาก แต่ก็พอช่วยให้นางไม่สิ้นชีวิตไปก่อน

เดรัจฉานสติฟั่นเฟือน คนสารเลว ท่านมันก็แค่บุรุษหน้าใสแต่จิตใจช่างโหดเหี้ยม ท่านทรมานข้าเพียงนี้ อย่าให้ถึงคราวของข้าบ้างแล้วกัน ข้าสาบานจะทรมานท่านให้เจ็บปวดทั้งกายทั้งใจ ให้ทนทุกข์กว่าข้าร้อยเท่าพันทวี!

เชิงอรรถ

^ผิงกั่ว หมายถึง แอปเปิ้ล

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กลวิธีพิชิตใจอ๋องปีศาจ   บทที่ 39 รักแท้สุดยาวนาน (ตอนพิเศษ)

    ไม่น่าเชื่อว่านับจากวันที่จูฟางหรงยินยอมร่วมหอกับหลงโหย่วอี้ ทำให้พิษที่เป็นส่วนหนึ่งในกายถูกขับออกไปได้ ซ้ำยังช่วยรักษาอาการหนาวเย็นของหลงโหย่วอี้จนหายขาดอีกด้วย“ฮองเฮาพระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว ขึ้นฝั่งกันก่อนนะเพคะ”เป่าชุนเห็นว่าพวกนางล่องเรือออกมาไกลจากตัวเรือนมากเกินไป และยามนี้ขอบฟ้าก็เริ่มทอประกายน้ำเงินเหลือบทองแล้วจูฟางหรงเผยยิ้มซุกซน “ได้สิ แต่เดี๋ยวก่อนนะ ข้าอยากได้เหลียนฮวา [1] ดอกนั้น หากใช้กลีบของมันผสมลงในอ่างอาบน้ำจะต้องสดชื่นมากเป็นแน่ ท่านพี่เหนื่อยล้าจากราชกิจมานาน ยามนี้ได้หวนมาพักผ่อนที่เรือนกลางหุบเขา ข้าอยากให้เขาผ่อนคลายมากที่สุด”เป่าชุนมองตามนิ้วเรียวที่ชี้ไปยังเจ้าเหลียนฮวาสีชมพูอมม่วงซึ่งเด่นตระหง่านท่ามดอกอื่น ๆ เพราะในสระแห่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเหลียนฮวาสีขาวเสียมากกว่า“แต่ไกลมากเลยนะเพคะ เป่าชุนเกรงว่าถ้าเราเข้าใกล้อีกนิด จะมืดค่ำเสียก่อน”จูฟางหรงยิ้มหวาน “ไม่เป็นไรข้ามีวิธี เช่นนั้นเจ้ารอข้าตรงนี้ก็พอ”เป่าชุนกะพริบตาถี่เมื่อสตรีร่างระหงลุกยืนบน

  • กลวิธีพิชิตใจอ๋องปีศาจ   บทที่ 38 ปราณรัก (2) (จบ)

    แพขนตาหนาขยับแผ่ว จูฟางหรงอึกอัก “ก็เปล่าเพคะ เพียงแต่หม่อมฉันยังไม่พร้อม” จูฟางหรงเองก็ค่อย ๆ ปล่อยวางเรื่องเมื่อชาติก่อนได้แล้ว ยามนั้นเขาจะทรมานนางก็ไม่แปลก ในเมื่อจูฟางหรงเป็นมือสังหารของศัตรู อีกอย่างที่นางต้องหวนมาเกิดใหม่หาใช่เขาปลิดชีพนางโดยตรง เป็นนางที่เลือกจบชีวิตตนเองอย่างขลาดเขลาเพื่อหลีกหนีปัญหา“หรงเอ๋อร์ ในทุกคืนข้ามักติดอยู่ในภวังค์ฝันแห่งหนึ่ง ทุกอย่างคล้ายเรื่องจริงมาก ข้าเห็นเจ้าร่วงหล่นลงจากผาสูงชัน ยามนั้นข้าอยากยื่นมือดึงเจ้าขึ้นมาแต่ไม่อาจทำได้ ข้ารู้เพียงว่าเจ้าไม่ได้ทำสิ่งใดผิด และข้าเองก็กระโจนลงหน้าผาตามเจ้าไป ข้าเห็นเจ้าสิ้นใจตรงหน้าข้าเองก็เจ็บปวดอย่างมาก ภวังค์ฝันนี้ข้าติดอยู่กับความรู้สึกสุดทุกข์ทรมาน ข้าไม่รู้ว่าไยจึงฝันไม่เป็นมงคลเช่นนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากนั่นคือเรื่องของเราเมื่อภพชาติใดก็ตาม ข้าอยากบอกเจ้าว่าข้าขอโทษ และนับจากนี้ข้าจะเป็นสามีที่ดี จะดูแล ทะนุถนอมเจ้า และสัญญาจะรักและมีเพียงเจ้าผู้เดียวตลอดไป...”จูฟางหรงนิ่งเงียบ ความรู้สึกหลากหลายมันจุกอกเต็มไปหมด เรื่องเมื่อชาติก่อนต่างฝ่ายก็ล้วนมีเส้นทางที่ต

  • กลวิธีพิชิตใจอ๋องปีศาจ   บทที่ 38 ปราณรัก (1)

    ในวันที่ถังซือหงตัดสินใจช่วยรักษาบาดแผลให้หลงโหย่วอี้ เขาเองก็เริ่มวางทิฐิและปลดปลงเรื่องของจูฟางหรงแล้ว จูฟางหรงยินยอมมาช่วยเฉินกงตามคำร้องขอ เพราะตอนนั้นหลงโหย่วอี้ยังไม่ได้สติบัดนี้จูฟางหรงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ถังซือหงก็เป็นเพียงพี่ชายร่วมสาบานที่ผิดต่อคำสัตย์ของตน เขาจึงไม่คิดห้ามปรามจูฟางหรงอีก ทุกอย่างนางควรได้ตัดสินใจและเดินบนเส้นทางที่เลือกอีกอย่างจูฟางหรงก็เฝ้าฝันมาตลอดว่านางจะได้พบกับพี่ชายที่ตนตามหา และมีชีวิตอยู่เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับตระกูลของตน เมื่อจังหวะและโชคชะตาได้กำหนดเช่นนี้ เทพเซียนก็มิอาจขวางจูฟางหรงจากไปไม่นาน หลงโหย่วอี้ก็ได้สติ ถังซือหงให้ยาสมานแผลชนิดเฉียบพลันแก่หลงโหย่วอี้ บาดแผลที่ได้รับจะรู้สึกถึงเพียงอาการชาเท่านั้น ทั้งสองคุยเปิดใจกันในทุกสิ่ง กระทั่งถังซือหงรู้ว่าหลงโหย่วอี้ก็คือคนที่จูฟางหรงตามหามาโดยตลอดเขายอมจำนนต่อโชคชะตา และปล่อยให้ทั้งสองได้แก้ไขปัญหากันเอาเอง“พี่ถัง ท่านไม่ตามพี่หญิงไปหรือเจ้าคะ”ถังซือหงส่งยิ้มบางให้ลี่ซือ “ไม่ล่ะ นางควรได้ตัดสินชีวิตตนเองบ้าง”

  • กลวิธีพิชิตใจอ๋องปีศาจ   บทที่ 37 ผูกด้ายแดง

    เจ้าของร่างสูงประคองแผ่นหลังบอบบางไว้ในอ้อมแขน เสียงทุ้มกระซิบแผ่วข้างหูเล็ก “หรงเอ๋อร์ ที่เหลือข้าจัดการเอง”จูฟางหรงส่ายศีรษะเขามาได้อย่างไร!?“ไม่เพคะ เฟยหมิงอ๋องคือคนที่ทำลายตระกูลหม่อมฉัน หม่อมฉันจะแก้แค้นด้วยตนเอง”มุมปากของหลงเฟยหมิงยกขึ้นเผยความเย็นชาระลอกหนึ่ง “คิดว่าจะทำอะไรข้าได้งั้นหรือ ต่อให้เป็นฮ่องเต้หากไร้ซึ่งตรากิเลนเพลิง พระองค์ก็ประหนึ่งฮ่องเต้แขนขาพิกลพิการ”“งั้นหรือ เสด็จอา ท่านชะล่าใจเกินไปแล้วกระมัง ตรากิเลนเพลิงนั่น ท่านแน่ใจหรือว่าเป็นของจริง”เฟยหมิงอ๋องหน้ากระตุก ความร้อนรนสะท้อนออกมาผ่านแววตาของเขา “อย่ามาทำไขสือเล่นลิ้นกับข้า”คิ้วเข้มเลิกขึ้นหนึ่งฝั่ง “ไม่เชื่อหรือ หากไม่เชื่อท่านก็ลองหยิบออกมาดูสิ”มือหยาบกร้านแง้มกล่องไม้สักในมือขึ้นแช่มช้า อกซ้ายของเขาเต้นระทึกด้วยความประหวั่นบรรดาทหารกล้าที่ถูกเฟยหมิงอ๋องควบคุมต่างไขว้เขว กระทั่งสิ่งที่เขาหยิบออกมาก็เป็นเพียงไม้แกะสลักรูปหงส์ง่อย ๆ อันหนึ่งหลงเฟยหมิงผงะ “มะ…ไม่จริง!”เฉินกงที่ยืนเยื้องไม่ไกลสาวเท้า

  • กลวิธีพิชิตใจอ๋องปีศาจ   บทที่ 36 ไก่บินสุนัขกระโดด (2)

    ทว่าจูฟางหรงก็ยังสงบนิ่ง และไม่ได้แสดงท่าทีร้อนใจใด เสียงใสถามอีกฝ่ายด้วยความใจเย็น “ท่านอ๋อง กำลังอยากบอกสิ่งใดหรือ”เฟยหมิงอ๋องคิดว่ายามนี้ตนกำลังถือไพ่เหนือกว่า “นางคือคนของหอหงฮวา ทุกคนก็รู้ว่าฮ่องเต้พระองค์ก่อนปกครองราษฎรย่ำแย่เพียงใด ฮ่องเต้หมายปลิดชีพโหย่วอี้อ๋องเพื่อลดทอนอำนาจทหารจนต้องเลือกสตรีไร้หัวนอนปลายเท้ามาเป็นพระชายาของเขา นางคือมือสังหารของหอหงฮวา สตรีเช่นนี้นับว่ามีคุณสมบัติใดได้รับตำแหน่งฮองเฮา”เสียงทุ้มถกเถียงอึงอลขึ้นอีกครั้งจู่ ๆ จูฟางหรงก็หัวเราะครืนราวได้ชมเรื่องขบขัน “ท่านอ๋องไม่คิดเลยว่าท่านจะห่วงไยสายโลหิตเดียวกันเพียงนี้ น่าเหลือเชื่อจริงเชียว แต่ทว่าท่านทำพลาดไปหนึ่งสิ่ง ท่านไม่รู้หรือว่าข้าคือใคร เช่นนั้นข้าจะบอกให้เอาบุญ ว่าข้ามีคุณสมบัติเหมาะสมทุกประการที่จะได้รับตำแหน่งฮองเฮา”“ฮองเฮา ท่านอย่าแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ อีกเลย”“ข้าเปล่าแก้ตัว หากทุกคนยังไม่รู้ ข้าก็อยากจะประกาศให้รู้โดยทั่วกัน ข้าคือคุณหนู เสิ่นฟางหรง และเป็นบุตรีเพียงหนึ่งเดียวของใต้เท้าเสิ่นที่รอดชีวิตจากการถูกใส่ความว่าเป็นกบฏ เมื่อสิบปีก่อน”หลงเฟ

  • กลวิธีพิชิตใจอ๋องปีศาจ   บทที่ 36 ไก่บินสุนัขกระโดด (1)

    บัลลังก์มังกรเริ่มสั่นคลอนอีกครั้ง เนื่องจากเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่เหล่าขุนนางไม่พบแม้แต่เงาของฮ่องเต้ พวกเขาจึงรวมตัวกันที่ลานหน้าตำหนักใหญ่ ต่างนั่งคุกเข่าตากแดดตากลม และอดอาหารเพื่อบีบคั้นให้ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันออกมาทำหน้าที่ของตนอย่างถูกต้อง“ฝ่าบาทได้โปรดอย่าหมางเมินเหล่าอาณาประชาราษฎร์เลยพ่ะย่ะค่ะ หากพระองค์ไม่ออกมาเกรงว่าคงต้องมีการแต่งตั้งฮ่องเต้พระองค์ใหม่”เสียงขุนนางร้องดังระงมสะท้อนก้องไปทั่วทั้งบริเวณ ผู้ที่ยืนเหยียดยิ้มย่ามใจในยามนี้คงหลีกไม่พ้นเฟยหมิงอ๋อง เขารอโอกาสนี้มาเนิ่นนาน และผู้ที่ยุยงให้เหล่าขุนนางทำตัวประหนึ่งกบฏ ล้วนเป็นฝีมือของเขาเช่นเดียวกัน“พวกเจ้าไม่เห็นหัวข้าแล้วงั้นหรือ ข้าเป็นไทเฮา ยามนี้ฝ่าบาทประชวรแต่ก็ยังทำภารกิจไม่ว่างเว้น หลักฐานก็มี ไยจำต้องพบพระพักตร์ฝ่าบาทให้ได้”“แต่ว่าไทเฮา การปกครองจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อมีองค์จักรพรรดินั่งบนบัลลังก์ ทว่ายามนี้ กระทั่งฮองเฮาก็ไม่มี”“ผู้ใดบอกงั้นหรือว่าไม่มี” เสียงใสโพล่งขึ้นจากทางด้านหลัง ร่างระหงย่างกรายออกมาจากด้านในเนิบนาบด้วยท่วงท่างามสง่าเหล่าขุนนางปากอ้าตาค้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status