Share

บทที่ 3 ถึงเวลาแล้ว

last update Last Updated: 2024-12-16 09:37:18

บทที่ 3 ถึงเวลาแล้ว

“เจ็บ ข้าเจ็บเหลือเกิน นี่ข้าตายไปแล้วอย่างนั้นหรือ? แต่หากข้าตายทำไมข้าถึงได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้ล่ะ”

หนิงเซียนค่อย ๆ ลืมเปลือกตาที่หนักอึ้งอย่างช้า ๆ สิ่งแรกที่นางเห็นคือขื่อของกระท่อมเก่าทรุดโทรม นางเริ่มกวาดสายตาจ้องมองไปทั่ว ๆ นางจำได้ว่าครั้งสุดท้ายนางใกล้จะหมดลมหายใจอยู่ที่หน้าเรือนมิใช่หรือ? แล้วที่นี่ที่ไหนกัน นางต้องตายแล้วมิใช่หรือ? คำสั่งของหยางตงฉวนยังกึกก้องอยู่ในหูไม่จางหายเขาสั่งการให้บ่าวรับใช้จัดการกับนางและพาร่างของนางมาทิ้งมิใช่หรือ? แต่มิทันที่นางจะได้สงสัยอันใดต่อเสียงฝีเท้าได้ดังใกล้เข้ามาแม้อยากลุกหนีแต่ทว่าร่างกายของนางเจ็บปวดไปหมดมิอาจจะดิ้นได้ด้วยซ้ำ

“เจ้าฟื้นแล้วหรือ? อาจจะยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่อย่าพึ่งลุกเลย ข้าจะให้ลูกศิษย์ของข้ามาป้อนอาหารป้อนยาให้แก่เจ้า ระหว่างนี้ข้าจะช่วยเหลือจนกว่าเจ้าหายดีเอง” ชายชราใบหน้าแสดงถึงความดีใจเมื่อเห็นนางฟื้นเดินเข้ามาถามหนิงเซียน นางคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย

“ฮึ! เจ้าคงสงสัยสินะว่าข้าคือผู้ใดมิต้องกลัวข้า ข้าเป็นนักพรตที่เดินผ่านมาเห็นเจ้าได้รับบาดเจ็บจึงให้ลูกศิษย์ช่วยแบกเจ้ามาที่นี่และรักษาให้ นอนพักอีกสักหน่อยเถอะนะ” หนิงเซียนเริ่มเบาใจหรือนี่จะเป็นเพราะคำอ้อนวอนของนางที่อ้อนวอนต่อสวรรค์ให้นางมีชีวิตต่อเพื่อแก้แค้นสามีชั่วช้าและสหายที่คอยแว้งกัดนางจากด้านหลัง ยามนี้ร่างกายของนางยังอ่อนแอนักจึงพยักหน้ารับรู้และหลับตาลงพักผ่อนอย่างที่ท่านนักพรตบอก

วันเวลาที่รักษาร่างกายของหนิงเซียนได้ล่วงเลยมาสามฤดูช่วงแรก ๆ ไป๋ฉีไม่ชอบนางเลยเพราะเห็นว่านางทำให้การเดินทางของเขาคลาดเคลื่อน แต่เมื่อคอยดูแลนางก็เริ่มใจอ่อนขึ้นมากลายเป็นเอ็นดูนางมากกว่าเดิม ท่านนักพรตช่วยเหลือใช้พลังของตนทำให้นางกลับมาเดินได้ ระหว่างนั้นเขาได้ถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่หนิงเซียนไม่อยากให้ผู้ใดรู้เบื้องหลงของตนเอง จึงแสร้งทำเป็นจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นจำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อของตัวเองด้วยซ้ำ ไป๋ฉีจึงได้ตั้งชื่อให้นางใหม่มีนามว่า

เจียวเหมย มาจากกิริยาที่งดงามและอ่อนโยนของนาง หนิงเซียนพอใจในชื่อนี้มากแต่ละคืนวันที่ผ่านพ้นนางเฝ้าฝันถึงวันที่จะกลับไปแก้แค้นหยางตงฉวน สามีเก่าของนางป่านนี้คงมีความสุขนอนกกร่างของเยว่เผิงสตรีงูพิษนางนั้นอย่างสุขสบายกับสมบัติของตระกูลจางอยู่ ยิ่งคิดความแค้นยิ่งมีมากเพิ่มพูนทวี

ระหว่างที่ช่วยเหลือรักษาหนิงเซียนไป๋ฉีได้ทำการสอนการทำยาพิษและสอนให้นางรู้จักว่าหญ้าชนิดใดใช้กับอะไรและหญ้าชนิดใดที่สามารถถอนพิษได้ หนิงเซียนตั้งใจเรียนรู้เป็นอย่างดี จนวันนี้วันที่ร่างกายของนางหายดี นักพรตเห็นว่าเขาได้ช่วยเหลือให้นางรอดตายและช่วยเหลือตัวเองใช้ชีวิตต่อไปได้ เขาจึงจะออกเดินทางต่อไป

“บุญคุณครั้งนี้เจียวเหมยจะทดแทน หากวันข้างหน้าเจียวเหมยได้ดีและพบท่านนักพรตอีกครั้งข้าจะต้อนรับขับสู่เป็นอย่างดี ขอให้ท่านทั้งสองเดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ " ตั้งแต่ที่นางได้ชื่อใหม่นาง นางจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่จึงคิดว่าหนิงเซียนบุตรสาวตระกูลจางได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว นางก้มโค้งลงคารวะทั้งสอง ไป๋ฉีใบหน้าบูดบึ้งอย่างใจหาย ยามแรกไม่ชอบขี้หน้าแต่เมื่อจะจากกันเขากลับรู้สึกใจหวิวแปลก ๆ

"เจ้าเองรักษาตัวให้ดี ในเมื่อกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งจงรักตนเองให้มากกว่าผู้อื่น ข้าให้ชีวิตใหม่แก่เจ้าแล้วจากนี้ให้เจ้าเลือกเอาว่าจะเดินไปในทางใด ไป๋ฉีเดินทางกันเถอะ" คำพูดของนักพรตทำให้เจียวเหมยชะงักเล็กน้อยเสมือนว่านักพรตผู้นี้จะรู้ว่านางเป็นผู้ใดและเคยพบเจอเรื่องอะไรมา

"นี่เจียวเหมยข้าต้องออกเดินทางกับท่านอาจารย์แล้ว เจ้าจำสิ่งที่ข้าสอนเจ้าได้หรือไม่? จำเอาไว้ให้ดีมันอาจจะช่วยเจ้าได้ในยามคับขัน ที่ข้าสอนเจ้าไว้มิได้ให้เจ้าใช้ทำร้ายผู้อื่นแต่สอนเจ้าไว้ป้องกันตัวเองจากอันตราย เจ้าเป็นเพียงสตรีข้าชักเป็นห่วงแล้วสิ ท่านอาจารย์เราจับนางแต่งกายเป็นชายเดินทางตามเรามิได้หรือขอรับ ข้าเป็นห่วงความปลอดภัยของนาง นางเสมือนเด็กที่พึ่งเกิดไม่นานนี่เองดูสายตาของนางสิอ่อนต่อโลกยิ่งนัก เมื่อเราหันหลังเดินจากไปมิใช่ว่าจะถูกทำร้ายอีกหรอกหรือ"

"พี่ไป๋ฉีวางใจเถอะเจ้าค่ะ ข้าดูแลตนเองได้หลังจากที่ท่านพี่และอาจารย์เดินทางจากไปข้าจะเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อหางานทำและที่พักพิงใหม่ คงจะได้พบเจอกับคนใจดีเหมือนท่านพี่ไป๋ฉีก็ได้เจ้าค่ะ อย่ากังวลใจไปเลย เพียงเท่านี้ข้าก็ติดหนี้บุญคุณท่านทั้งสองมากพอแล้ว อย่าให้ข้าเดินทางตามพวกท่านให้คอยเป็นภาระเลย ข้าจดจำทุกอย่างที่พี่สอนข้าได้ดีไม่เว้นแม้กระทั่งการป้องกันตัว แม้ข้าจะจำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้แต่ข้าเชื่อว่าข้าสามารถดูแลตนเองได้เจ้าค่ะ รีบออกเดินทางก่อนที่ฟ้าจะมืดเถิดเจ้าค่ะ นี่ห่อข้าวกับน้ำไว้ดื่มกินยามเดินทางนะเจ้าคะ หากพบกันคราวหน้าข้าจะตอบแทนท่านเป็นอย่างดี พี่ไป๋ฉีพี่ชายที่แสนดีของข้า" เจียวเหมยยิ้มกว้างพร้อมยื่นห่อข้าวให้แก่ไป๋ฉี เขารับมันไว้ก่อนจะใช้มือขยี้หัวนางอย่างเอ็นดูก่อนกล่าวลา

"ข้าหวังว่าจะได้พบเจ้าอีกครั้ง และหวังว่าการพบกันครั้งหน้าเจ้าจะไม่ได้รับบาดเจ็บเช่นดั่งครั้งนี้อีกนะ ดูแลตนเองให้ดีเจ้าเองก็ออกเดินทางเถิดกว่าจะถึงหมู่บ้านหาที่พักใหม่อีก "

"เจ้าค่ะ "

หลังจากนั้นทั้งสามคนได้ร่ำลาพากันแยกย้ายไปตามทางของตน

เมื่อพ้นสายตาของไป๋ฉีกับท่านนักพรตสายตาอ่อนโยนไร้เดียงสา ของเจียงเหมยได้เปลี่ยนไป แววตาของนางแข็งกร้าวกลมโต กำมือแน่นจ้องมองไปยังด้านหน้า

"ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะกลับไปแก้แค้น ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรให้ได้แก้แค้นพวกเจ้าทั้งสองข้าไม่หวั่นเกรง แม้จะต้องแลกด้วยร่างกายข้าก็ยอม " เจียงเหมยเอ่ยวาจาหนักแน่นสองเท้าก้าวเดินไปยังหมู่บ้านด้านหน้า เพื่อที่จะได้กลับไปที่เรือนตระกูลจางนางจะทำเดินทางไปหมู่บ้านข้างหน้าเพื่อสอบถาม

ฝั่งด้านหยางตงฉวนหลังจากที่เขาจัดการกับหนิงเซียนได้สำเร็จ ไว้ทุกข์ให้ฮูหยินของเขาเพียงสามวันเจ็ดวันก็แต่งตั้งฮูหยินคนใหม่ ชาวบ้านมิได้สงสัยการจากไปของหนิงเซียนเลยแม้แต่น้อยต่างพากันสงสารที่นางต้องมาตายด้วยวัยเพียงน้อยนิด และยังต้องมาตายเช่นดั่งบิดา น่าเวทนายิ่งนักในสายตาทุกคน

หยางตงฉวนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ว่าจะเป็นสมบัติหรือแม้แต่หน้าที่ในวังหลวง เขามีทุกอย่างครบและมีฮูหยินที่เขารักมากคอยอยู่เคียงข้างกาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภายในเรือนหรือเรื่องบนเตียงนางไม่ขาดตกบกพร่องแม้แต่น้อย

ในห้องนอน

"ท่านพี่ข้ามีความสุขเหลือเกินเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าเราจะไม่ได้อยู่อย่างสุขสบายอย่างนี้เสียอีก "ร่างบางนอนซบอยู่บนอ้อมกอดของบุรุษไร้ซึ้งอาภรณ์ที่ห่มกาย นอนแนบชิดกันบนเตียงหนานุ่มที่เคยใช้ร่วมหลับนอนกับฮูหยินคนก่อน

"ข้าคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าอย่างไรที่นี่ต้องเป็นของข้าในไม่ช้า และฮูหยินของข้าต้องเป็นเจ้าเท่านั้น ทุกวันของข้ามีความสุขที่ลืมตาขึ้นมามีเจ้าคอยอยู่ข้างกาย ยามหลับนอนก็มีเจ้าคอยปรนนิบัติ ช่างแตกจต่างกับจางหนิงเซียนสตรีจืดชืดนางนั้นเหลือเกิน ยามข้าหลับนอนกับนางข้าต้องข่มใจจนไม่อยากจะลืมตาด้วยซ้ำ "

"ท่านพี่ข้าว่าเราอย่าเอ่ยถึงนางเลยเจ้าค่ะ ป่านนี้นางคงตกนรกไปแล้วหรือไม่ก็อาจจะไปเกิดแล้วก็ได้เจ้าค่ะ เรามาสนุกกันต่อเถอะนะเจ้าคะ ข้าพยายามมากเหลือที่เกินที่อยากมีบุตรชายให้ท่าน " มือเรียวของนางลูบไล้บนอกแกร่งยิ้มยั่วยวนเสียงเส่ากระซิบ หยางตงฉวนจับปลายคางมนให้เงยขึ้นก่อนจะก้มลงบดจูบริมฝีปากของนางอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง

เยว์เผิงไม่ชอบใจเลยยามนี้เขาเอ่ยถึงจางหนิงเซียน เหมือนเขาเอานางไปเปรียบเทียบเสมอแม้ว่านางจะดีกว่าในทุกด้านแต่ก็ไม่อยากให้หยางตงฉวนคิดถึงแม้กระทั่งชื่อของจางหนิงเซียนแม้แต่น้อย นางจึงเอาอกเอาใจให้เขาหลงรักลุ่มหลงจนไม่สามารถไปคิดถึงสตรีใดได้อีก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 30 หวนคืนที่เดิม

    บทที่ 30 หวนคืนที่เดิมหลายวันต่อมาร่างกายของทั้งคู่เริ่มอ่อนล้าความเจ็บปวดที่ถาโถมทุกวัน บาดแผลเริ่มเน่าเปื่อยกลิ่นในห้องเหม็นเน่าของเนื้อ แมลงที่บินมาตอมจนแผลเกิดหนอนซอนไซ ทั้งสองเจ็บร้าวไปจนถึงกระดูกจนกระทั่งเยว่เผิงนางไม่สามารถทนความเจ็บปวดในครั้งนี้ได้หมดลมหายใจในที่สุด ส่วนเจียวเหมยนางได้กลับไปพักอยู่ที่ห้องเดิมของนาง เมื่อเข้ามาด้านในเห็นว่าเยว่เผิงหมดลมไปแล้วนางไม่ได้รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย ในที่สุดนางก็ได้แก้แค้นอย่างสาสมเหลือเพียงหยางตงฉวนที่ยังนอนพะงาบ พะงาบเน่าเปื่อยอยู่บนเตียง เจียวเหมยสั่งการให้ยูร์เหยาเรียกบ่าวรับใช้มานำร่างของเยว่เผิงนำออกไปทิ้งใช้ผ้าคุมร่างและบอกให้แพร่งพรายออกด้านนอกว่าฮูหยินใหญ่แห่งตระกูลจางติดเชื้อโรคตายอย่างฮูหยินคนก่อน ทุกคนไม่แปลกใจเพราะเคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นครั้งเมื่อท่านใต้เท้าจางกับจางหนิงเซียนส่วนหยางตงฉวนที่นอนพะงาบ ๆ เจียวเหมยได้ให้บ่าวรับใช้จัดเตรียมรถม้าเพื่อจะพาเขาออกไปที่หน้าผาตรงจุดที่นางเคยโดนนำร่างเอาไปทิ้ง ยามนี้หิมะเริ่มตกโปรยปรายเมื่อออกเดินไปทางด้านนอกจึงไม่ค่อยมีใครสังเกตบ่าวรับใช้ที่นางสั่งการให้ปิดปากทุกคนหากผู้ใดไม่ทำตามนา

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 29 สะสางแค้น

    บทที่ 29 สะสางแค้นภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้ง ร่างของซูหยวนนอนจมกองเลือดอยู่หน้าประตู กายของหยางตงฉวนนอนอยู่บนเตียงกับเยว่เผิงเมื่อนางเห็นใบหน้าของเยว่เผิงยิ่งสยดสยองไม่คิดว่าฮูหยินจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ก่อนที่นางจะตั้งสติรีบเข้ามาถามด้วยเป็นห่วง"ฮูหยินได้รับบาดเจ็บตรงไปไหนหรือไม่เจ้าคะ""นางซูหยวนใช้ไม้ตีหัวของข้าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยส่วนเลือดที่เจ้าเห็นมากมายมิใช่เลือดข้า ไปเรียกบ่าวรับใช้มาลากศพของซูหยวนออกไปห่อเอาไว้ก่อนเมื่อฟ้ามืดเมื่อไหร่ค่อยเอาร่างนางไปทิ้ง เจ้าช่วยเก็บกวาดห้องให้ข้าด้วยอย่าให้สาวใช้เข้ามาในนี้ ส่วนหน้าต่างไม่ต้องปิดข้าจะให้แมลงมาตอมแผลของทั้งสอง แต่ก่อนจะทำอันใดเตรียมน้ำให้ข้าล้างกายเสียก่อน ข้าเหนียวไปทั้งตัวใช้แรงไปมากต้องให้พ่อครัวทำอาหารอร่อย ๆ ให้กินเสียแล้ว อ้อ..จริงสิ เจ้าเห็นเนื้อบนโต๊ะหรือไม่ช่วยเอาไปให้พ่อครัวย่างให้ข้าที ข้าจะนำมาป้อนเป็นอาหารกลางวันให้ทั้งสองได้กิน" นางชี้ไปที่ชิ้นเนื้อใบหน้าของเยว่เผิงที่นำมาวางไว้ เยว่เผิงได้ยินส่งเสียงร้องออกมาจากลำคอเพื่อคัดค้าน"อื้อ อื้อ " เจียวเหมยยิ้มกว้างหันไปหาเยว่เผิงพร้อมเอ่ยบอกแก่นาง

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 28 ตัวตนที่แท้จริง

    บทที่ 28 ตัวตนที่แท้จริงเจียวเหมยยืนขึ้นหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง"ฮ่า ฮ่า ต่อให้พวกเจ้าตะโกนขอความช่วยเหลือไม่มีผู้ใดสามารถช่วยพวกเจาได้หรอก! เมื่อครู่ข้าได้ยินว่าเจ้าต้องการฆ่าข้ามิใช่หรือ? ข้าพร้อมรอรับความตายแล้วแต่ถ้าเจ้าฆ่าข้ามิได้ จะเป็นข้าเองที่ฆ่าพวกเจ้า" น้ำเสียงเย็นยะเยือกผู้ที่ได้ยินถึงกับสั่นสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ เยว่เผิงหวาดกลัวจนตัวสั่นจะหนีก็หนีมิได้ยิ่งคิดถึงเรื่องชายฉกรรจ์สองคนที่นางส่งมาจัดการยังถูกเจียวเหมยจัดการได้อย่างง่ายดายแล้วนางเป็นเพียงสตรีจะสู้นางได้อย่างไรกัน"ท่านพี่ช่วยข้าด้วยท่านเห็นหรือยังเจ้าคะสตรีที่ท่านรักนางมิได้เป็นอย่างที่ท่านเห็น ท่านเห็นหรือยังว่าผู้ใดกันแน่ที่รักท่านจริง ๆ ช่วยข้าด้วยนางบ้าไปแล้วนางจะฆ่าข้าเจ้าค่ะ ""ฮ่า ฮ่า ต่อให้เจ้าเรียกหยางตงฉวนอย่างไรเขาก็ไม่สามารถช่วยเจ้าได้ ขนาดตัวของเขาเองยังช่วยตนเองไม่ได้ด้วยซ้ำ" เจียวเหมยค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้ทั้งสองอย่างช้า ๆส่วนหยางตงฉวนทำได้เพียงนอนฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นเขาอยากจะช่วยเหลือเยว่เผิงแต่ทว่าแค่ขยับแขนเขายังทำไม่ได้ซูหยวนเห็นท่าไม่ดีนางยืนบังหน้าเยว่เผิงเอาไว้หวังปกป้องนายหญิงของตนมิ

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 27 เจ้าของเรือนผู้ใหม่

    บทที่ 27 เจ้าของเรือนผู้ใหม่ยามเหม่า (06.00)เสียงบ่าวรับใช้ในเรือนพากันเอ่ยซุบซิบกันกระฉ่อน เมื่อจู่ ๆ ถูกเรียกให้มารวมตัวกันที่หน้าของนายท่านแต่มิใช่นายท่านเป็นคนเรียกแต่กลับเป็นฮูหยินรอง เมื่อทุกคนมาครบยูร์เหยาได้เข้ามาเรียกเจียวเหมยออกไปพบทุกคน"ฮูหยินยามนี้ทุกคนมาพร้อมหน้าแล้วเจ้าค่ะ ""ดีอย่างนั้นออกไปข้างนอกกันเถอะ" เจียวเหมยเดินออกไปข้างนอกอย่างสง่าผ่าเผยทุกสายตาจ้องมองมาที่นาง"ทุกคนในเรือนจงฟังข้าให้ดีข้ามีเรื่องที่จะต้องแจ้งพวกเจ้าให้ได้รับรู้ ต่อจากนี้ท่านใต้เท้าหยางตงฉวนเจ็บป่วยร่างกายทรุดตัวไม่สามารถดูแลงานในเรือนรวมทั้งงานราชการ ท่านใต้เท้าจึงมอบหมายให้ข้าเจียวเหมยสตรีที่เขารักดูแลทุกอย่างในเรือนแห่งนี้ ต่อจากวันนี้ข้าคือผู้ดูแลเรือนตระกูลจาง ต่อจากนี้พวกเจ้าต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้า เพราะข้าคือเจ้าของเรือนหากผู้ใดไม่เชื่อและขัดคำสั่งข้าจะลงโทษอย่างไม่ปราณี" เอ่ยจบนางได้ชูหนังสือประจำตระกูลให้ทุกคนได้ดูแม้บางคนจะอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้แต่ก็พอรู้ว่าหนังสือเช่นนี้เป็นหนังสืออะไร เมื่อทุกคนเห็นต่างพากันแปลกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอันใดเพราะกลัวว่าจะถูกลงโทษ หลังจากที่ทุกคนรับรู้นาง

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 26 รักข้ามั้ยเจ้าคะ

    บทที่ 26 รักข้ามั้ยเจ้าคะหลายวันต่อมาร่างกายของหยางตงฉวนเริ่มไม่แข็งแรงเหมือนเดิม เขาไอหนักมากกว่าเดิมสติเริ่มฟั่นเฟือนเลอะเลือน แต่เขายังคงรักเจียวเหมยหนักมากกว่าเดิม นางเฝ้าคอยดูแลเขาเอาอกเอาใจ“เจียวเหมยช่วงนี้ข้ารู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน ข้าได้เห็นความรักที่เจ้ามีให้ข้า ข้าอยากหายกลับไปเป็นปกติทำไมท่านหมอมาตรวจข้าหลายต่อหลายคนต่างพากันบอกว่าข้ามิได้เป็นอะไรทำไมร่างกายของข้าถึงซูบผอมไร้เรี่ยวแรงอย่างนี้กันนะ”“ท่านพี่คิดมากไปเองเจ้าค่ะ ท่านพี่เป็นกังวลเกินไปเลยทำให้ร่างกายของท่านซูบผอม ข้ารักท่านพี่นะเจ้าคะข้าเคยสัญญาว่าจะอยู่กับท่านจนกว่าจะถึงวันตายข้าไม่มีทางหนีท่านไปไหนเจ้าคะ ดื่มนี่สักหน่อยนะเจ้าคะข้าให้ยูร์เหยาต้มยาสมุนไพรบำรุงร่างกายให้ท่าน อีกไม่กี่วันร่างกายท่านอาจจะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ” เจียวเหมยประคองร่างไร้เรี่ยวแรงของหยางตงฉวนขึ้นมานั่งคว้าหมอนมาหนุนหลังของเขาเอาไว้ ยามนี้ร่างกายของเขาซูบผอมจริง ๆ งานราชการเจียวเหมยได้จัดการให้เขาเมื่อมีสารมาที่เรือนนางได้ตอบกลับพร้อมประทับตราของหยางตงฉวนให้บอกว่าช่วงนี้เขาไม่สบายไม่สามารถทำงานได้นางยกยาสมุนไพรเมื่อครู่ให้เขาดื่มจนหมดก่

  • กลับมาครั้งนี้ข้าขอทวงแค้น   บทที่ 25 เจ้ามันน่าเบื่อ

    บทที่ 25 เจ้ามันน่าเบื่อยามโหย่ว (17.00)ฝั่งด้านเยว่เผิงหลายวันมานี้นางเก็บตัวเงียบเสียใจที่หยางตงฉวนเมินเฉยต่อนางความเย็นชาที่นางไม่เคยพบเจอก็ได้เจอ นางเคยขอพบเขาที่ห้องแต่เขากลับให้บ่าวออกมาบอกว่าเขาไม่ต้องการพบนางทำให้นางเสียใจมากกว่าเดิม"ฮูหยินเจ้าคะถึงเวลากินอาหารเย็นแล้วเจ้าค่ะ ช่วงนี้อาหารไม่ถูกปากฮูหยินอยากกินอะไรหรือไม่เจ้าคะ ข้าน้อยจะให้พ่อครัวทำให้""ไม่ข้าไม่อยากอะไรทั้งนั้น " แววตาเหม่อลอยจ้องมองไปนอกหน้าต่างเอ่ยตอบสาวใช้ด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยไร้ชีวิตชีวา ซูหยวนสงสารนายหยิงจับใจครั้นนั้นนางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามานางรีบหันไปมองเห็นว่าเป็นนายท่านใบหน้าของนางเริ่มปรากฏรอยยิ้มรีบแจ้งนายหญิงทันที"ฮูหยินเจ้าคะนายท่านมาเจ้าค่ะ " เยว่เผิงคิดว่าตนเองหูแว่วจึงคิดจะหันกลับมาต่อว่าสาวใช้แต่เมื่อเห็นชายที่ตนรักและคิดถึงรีบเดินไปหาเขาด้วยความดีใจ"ท่านพี่มาหาข้าหรือเจ้าคะ" น้ำเสียงระรื่นเอ่ยถามเขาทันทีพลางเดินเข้าไปใกล้หวังโอบกอดแต่ก็ต้องถูกเขาผละกายนางออก"ข้ามิได้มาเพราะคิดถึงเจ้า แต่ว่าเจียวเหมยของข้าให้ข้ามาหาเจ้า นางทั้งเห็นใจเจ้าหวังดีต่อเจ้ากลัวเจ้าจะน้อยใจข้าจึงได้มาหา ซู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status