นลินนาลงจากรถแท็กซี่แล้วเดินเข้าบ้านด้วยความรู้สึกผิดที่ไปค้างบ้านผู้ชายที่ตนเองไม่รู้จัก เธอกลัวว่าป้าสุรีย์จะจับโกหกได้
หญิงสาวโล่งใจเป็นอย่างมากเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วพบว่าป้าของเธอออกไปทำงานแล้ว ป้าสุรีย์ทำงานเป็นพนักงานบัญชีที่สำนักงานบัญชีแห่งหนึ่งและเธอก็เป็นญาติสนิทเพียงคนเดียวของนลินนาเพราะบิดามารดาของเธอเสียชีวิตไปแล้ว
หญิงสาวรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าจากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาธมนวรรณเพื่อจะยืนยันอีกทีว่าเธอปลอดภัยดี
“ว่าไงลินเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นโทรไปก็ไม่รับ ฉันเป็นห่วงแกมากนะรู้มั้ย”
“ขอโทษนะป่าน เมื่อคืนฉันเมามากแล้วแกก็ไปเข้าห้องน้ำนานฉันก็เลยนั่งแท็กซี่กลับนะ แต่ฉันก็ส่งข้อความไปบอกแล้วนี่ว่าฉันถึงบ้านแล้ว” นลินนานึกขอโทษเพื่อนในใจที่ต้องโกหก
“ก็นั้นมันหลังจากที่ฉันโทรไปหลายรอบไงล่ะ แกไม่เป็นอะไรแน่นะ” ธมนวรรณรู้สึกเป็นห่วงเพราะเมื่อคืนนลินนาเมากว่าทุกครั้ง
“แน่สิ ถ้าเป็นอะไรฉันจะโทรมาหาแกได้ยังไงล่ะ แต่ตอนนี้ฉันปวดหัวมากเลยแล้วแกล่ะเป็นไงบ้าง”
“ก็แฮ้งค์เหมือนกันแม่ทำข้าวต้มให้กินเมื่อกี้ แกก็อย่าลืมหาอะไรกินแก้แฮ้งค์แล้วก็นอนนอนพักนะ กว่าจะเริ่มงานก็วันจันทร์ไม่ใช่เหรอ”
“อือ ฉันมีเวลาพักผ่อนและเตรียมตัวไปทำงานอีกหลายวัน แกล่ะจะเอายังไงทำงานที่บริษัทพ่อเหรอ”
“ก็ว่าจะลองทำดูก่อนถ้าไม่โอเคค่อยว่ากัน”
“ถึงไม่โอเคแกก็ต้องทำนะ อย่าลืมนะว่าแกเป็นลูกคนเดียวถ้าแกไม่สานต่อแล้วใครจะทำ เอาล่ะฉันไม่กวนเวลาพักผ่อนแล้วฉันเองก็จะนอนเหมือนกันปวดหัวชะมัดรู้งี้ไม่กินเยอะหรอก” นลินนาหัวเราะกับเพื่อนก่อนจะวางสายแล้วนอนพักยาวจนถึงเวลาเย็นก็ออกมาทานอาหารเย็นกับป้าสุรีย์
สองวันต่อมา
นลินนาใช้เวลาสองวันจัดการกับความคิดและความรู้สึกของตัวเอง เธอรู้สึกผิดและอับอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนที่เธอไปฉลองกับเพื่อนที่ผับ
เมื่อนึกถึงคืนนั้นแต่ก็อดไม่ได้ที่จะขอบคุณชายแปลกหน้าที่เธอเผลอขึ้นไปนอนบนรถเขาและยังพาเธอไปนอนพักที่บ้านโดยไม่ทำอะไรเธอเพราะถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเจอกับเธอในสภาพเมามายแบบนั้นก็คงฉวยโอกาสกับเธอไปแล้ว
วันนี้นลินนาจึงตัดสินใจทำคุกกี้ช็อกโกแลตชิพสูตรโปรดของตัวเองใส่กล่องอย่างสวยงาม เพื่อนำไปมอบให้กับธีรกฤษเป็นการแสดงความขอบคุณอย่างเป็นทางการเพราะเธอยังไม่มีโอกาสได้เจอและขอบคุณเขาต่อหน้าเลย หญิงสาวจำบ้านสองชั้นสไตล์โมเดิร์นที่หลังนั้นได้เป็นอย่างดี
หญิงสาวนั่งแท็กซี่มาที่บ้านหลังงามอีกครั้งตอนนี้ประตูรั้วสีขาวปิดสนิทเธอกดออดเรียก ไม่นานนักเสียงสัญญาณก็ดังขึ้นตอบรับพร้อมกับเสียงของน้าสมรจากลำโพงอินเตอร์คอม
“สวัสดีค่ะ มาหาใครคะ”
“สวัสดีค่ะน้าสมร ลินเองค่ะ จำได้ไหมคะที่สองวันก่อนคุณธีร์ช่วยลินไว้ วันนี้เลยเอาคุกกี้มาขอบคุณค่ะ” นลินนาตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ พร้อมกับถือกล่องคุกกี้ขึ้นโชว์ให้เห็นผ่านกล้องวงจรปิดที่มุมรั้ว
“อ้อ หนูลินนี่เอง เชิญเลยค่ะน้าเปิดประตูให้แล้ว” น้าสมรตอบกลับด้วยน้ำเสียงยินดี
จากนั้นประตูเหล็กดัดขนาดใหญ่ก็เลื่อนเปิดออกช้าๆ นลินนายิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบริเวณบ้านอย่างช้าๆ
หญิงสาวเดินตามทางเดินคอนกรีตที่ตัดผ่านสนามหน้า จนกระทั่งมาถึงตัวบ้าน น้าสมรยืนรอต้อนรับเธออยู่หน้าประตูบ้านด้วยรอยยิ้มยินดี
“สวัสดีค่ะน้าสมร สบายดีไหมคะ” นลินนาถามพร้อมกับรอยยิ้มสดใส
“น้าสบายดี หนูล่ะเป็นยังไงบ้าง”
“ลินสบายดีค่ะ พอดีลินอยากมาขอบคุณคุณธีร์ด้วยตัวเองค่ะ แล้วก็ทำคุกกี้มาฝากน้าสมรกับคุณธีร์ด้วยค่ะ” นลินนาตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน พร้อมยื่นกล่องคุกกี้ให้น้าสมร
“โธ่ ไม่ต้องลำบากเลยค่ะหนูลิน แต่ก็ขอบคุณนะคะ” น้าสมรรับกล่องคุกกี้ไปถือไว้พลางยิ้มกว้าง
“คุณธีร์อยู่บ้านไหมคะ”
“อยู่ค่ะ พอดีคุณธีร์กำลังคุยโทรศัพท์อยู่หนูลินนั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะ” น้าสมรผายมือเชิญให้นลินนานั่งรอที่โซฟาตัวยาวในห้องรับแขกที่
ไม่นานนักนลินนาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาจากทางด้านหลัง หญิงสาวหันไปมองและพบกับชายหนุ่มร่างสูง ใบหน้าหล่อเข้มที่เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยเจอกับเขามาแล้วคงเพราะคืนนั้นเธอเมามากจึงไม่ทันได้สังเกตว่าผู้ชายที่อุ้มเข้ามาในบ้านนั้นหล่อมากแค่ไหน เขาดูโดดเด่นและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับแขนขึ้น กางเกงผ้าเนื้อดีสีดำ ผมสีดำสนิทถูกเสยขึ้นอย่างเป็นระเบียบและดูภูมิฐานมากกว่าที่คิดไว้
ธีรกฤษมองเห็นนลินนาที่นั่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าของเขาประดับรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก เขาสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า นลินนาในวันนี้ดูสวยสดใสกว่าเมื่อคืนก่อนมาก เธอสวมเสื้อแขนกุดสีเขียวอ่อนกับกางเกงยีนขายาวดูสดใสขัดกับชุดเซ็กซี่ที่เขาเห็นในคืนถึงแม้จะเป็นชุดธรรมดาแต่ก็สะกดสายตาของธีรกฤษได้เป็นอย่างมาก
“สวัสดีครับ” ธีรกฤษเอ่ยทักทายก่อน เสียงของเขาส่งผลให้นลินนารู้สึกประหม่าแต่เธอก็รวบรวมสติและลุกขึ้นยืนตรง
“สวัสดีค่ะคุณธีร์ ฉันชื่อนลินนาค่ะ เอ่อ....คือวันนี้ฉันตั้งใจมาขอบคุณคุณธีร์เป็นการส่วนตัวค่ะ” เธอพูดพร้อมกับก้มหัวเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ
“มีชื่อเล่นไหม” เขาถามก่อนจะพยักหน้าให้เธอนั่งลงที่เดิม
“ลินค่ะ” หญิงสาวตอบสั้นๆ
“อันที่จริงลินไม่ต้องมาขอบคุณก็ได้นะ เรื่องคืนนั้นมันเรื่องเล็กมาก” เขายิ้มอย่างอ่อนโยน
“มีคนเมาเข้ามาในรถคุณบ่อยเหรอคะ”
“เปล่าหรอกลินเป็นคนแรก แต่ผมไม่ได้คิดอะไรเพราะถือว่าช่วยคนเมา” เขาพูดติดตลกแล้วหัวเราะเบาๆ
“ขอโทษจริงๆ ค่ะคุณธีร์ ลินไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเลย” นลินนาหน้าด้วยความอาย เธอรู้เลยว่าตนเองกำลังขุดหลุมฝังตัวเองที่กลับมาขอบคุณเขาที่นี่ เธอรู้สึกอับอายจนแทบจะมุดดินหนี
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ถือสาอะไรผมรู้ว่าคนเมามักทำอะไรไม่มีสติแค่ตกใจนิดหน่อยที่กลับมาบ้านแล้วมีคนนอนอยู่ที่เบาะหลัง” ธีรกฤษหัวเราะเบาๆ ในลำคอทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง
“แต่ก็ต้องขอบคุณจริงๆ นะคะ ถ้าไม่ได้คุณธีร์ไม่รู้ว่าฉันจะเป็นยังไงบ้าง” นลินนาพูดด้วยความจริงใจ ดวงตาคู่สวยมองสบกับธีรกฤษด้วยความซาบซึ้ง
ธีรกฤษมองดวงตาของนลินนาที่ฉายแววซื่อตรง เขาเริ่มรู้สึกสนใจในตัวหญิงสาวตรงหน้า เธอสวย หุ่นดี และที่สำคัญคือเป็นคนพูดตรงไปตรงมาไม่เสแสร้ง
ที่ผ่านมาธีรกฤษมักจะเจอแต่ผู้หญิงที่พยายามเข้ามาตีสนิทด้วยเหตุผลบางอย่างแต่เธอคนนี้กลับแตกต่างออกไป
“ผมถามหน่อยได้ไหมว่าอายุเท่าไหร่” ที่ถามแบบนั้นเพราะรู้สึกสนใจเธอมากและกลัวว่าหญิงสาวคนนี้จะยังไม่บรรลุนิติภาวะเพราะหน้าตาของเธอยังเด็กมาก ถึงจะรู้สึกชอบเธอแต่ถ้าอายุยังไม่ถึงสิบแปดก็ไม่อยากจะยุ่ง
“ลินอายุยี่สิบสองแล้วค่ะ เรียนจบแล้ว ที่ลินไปกินเหล้าจนเมาเมื่อสองคืนก่อนก็เพราะไปฉลองที่เรียนจบค่ะ” หญิงสาวอธิบายยาวเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอเป็นนักดื่ม
“อายุน้อยกว่าผมเยอะเลยจะเรียกผมว่าพี่ก็ได้นะ”
“ได้ค่ะพี่ธีร์” นลินนาตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก หญิงสาวรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาลดลงเล็กน้อย
“เรียนจบแล้วได้งานทำหรือยังล่ะ”
“ได้แล้วค่ะ”
“ดีใจด้วยนะที่จบแล้วก็ได้ทำงานเลย”
“ขอบคุณค่ะ ลินไม่รบกวนพี่ธีร์แล้วนะคะ วันนี้ที่มาก็ตั้งใจจะมาขอบคุณเรื่องคืนนั้นและเอาคุกกี้มาฝากค่ะ ตอนนี้ลินฝากไว่ที่น้าสมรค่ะ” หญิงสาวบอกจุดประสงค์ที่มาหาเขาถึงบ้าน
“แล้วมายังไงล่ะ”
“นั่งแท็กซี่มาค่ะ”
“แล้วขากลับล่ะ”
“ก็เรียกรถมารับสิคะ”
“พี่ไปส่งไหม พอดีจะออกไปทำธุระพอดี”
“ได้ค่ะ ขอลินไปบอกน้าสมรก่อนนะคะ”
“พี่รอหน้าบ้านนะ”
“ค่ะ เดี๋ยวลินตามไป”
บ่ายวันเสาร์นลินนาเริ่มทำอาหารเย็นด้วยความตั้งใจเพราะวันนี้หญิงสาวเชิญธีรกฤษมาทานอาหารที่บ้าน“ดูหลานสาวของป้าจะตั้งใจทำกับข้าวมากๆ เลยนะ ตกลงคบกันเป็นแฟนแล้วใช่ไหม” ป้าสุรีย์เห็นหญิงสาวตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารแล้วดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ“ยังหรอกค่ะป้า แต่เราก็คุยกันเรื่อยๆ” เธอเองก็อยากให้ทุกอย่างมันชัดเจนแต่เมื่อผู้ชายไม่พูดเธอก็ไม่กล้าจะถาม บางที่ความรู้สึกของธีรกฤษที่มีต่อเธออาจจะน้อยกว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขา แต่นลินนาก็ทำใจไว้ระดับหนึ่งแล้วว่าเธอกับเขาอาจจะคบกันไปเรื่อยๆ ไม่ต้องมีสถานะแต่มีแค่กันและกันก็น่าจะมีความสุขมากพอแล้ว“แล้วลินคิดยังไงกับเขาล่ะ ชอบเขาใช่ไหม”“ค่ะป้าสุ แต่เราสองคนไม่เคยคุยกันถึงสถานะ”“แล้วถ้าคบกันไปเรื่อยๆ แล้วเขาไม่ขอเป็นแฟนสักทีจะไม่เสียเวลาเหรอ”“ไม่หรอกค่ะป้า การมีเขาในตอนนี้ลินก็มีความสุขแล้วค่ะ ถ้าวันหนึ่งจะไม่ได้คบกันต่อก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เธอพูดเพื่อให้ป้าสุรีย์สบายใจ“ที่ป้าถามไม่ได้จะกดดันอะไรหรอกนะ ป้าก็แค่เป็นห่วงลินอายุยังน้อยมีโอกาสเจอคนอีกเยอะ ถ้าให้เวลาเขาเต็มที่แล้วเขายังไม่คิดจะพูดถึงเรื่องขอเป็นแฟนก็ควรถอยออกมา”“ค่ะป้า ลินคิดว่าจะให้เวล
หลังจากกลับจากสมุยนลินนากับธีรกฤษก็ยังคงติดต่อกันอยู่ตลอด ชายหนุ่มไม่ได้ปล่อยให้เรื่องทุจริตในบริษัทของชัยวัฒน์ผ่านไปง่ายๆ เขาตั้งใจจะช่วยนลินนาและเปิดโปงความจริงให้ได้ตลอดหนึ่งสัปดาห์นลินนาใช้ความพยายามอย่างมากในการรวบรวมหลักฐาน หญิงสาวแอบถ่ายรูปเอกสารที่ผิดปกติ บันทึกข้อมูลการสั่งซื้อที่น่าสงสัย และรวบรวมข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันการทุจริตได้ เธอต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้คุณมนตรีหรือใครในแผนกจับได้เธอจะส่งข้อมูลทั้งหมดธีรกฤษเมื่อได้หลักฐานมามากพอแล้วธีรกฤษก็นัดเจอกับชัยวัฒน์เพื่อนสนิทของเขาที่ออฟฟิศของชัยวัฒน์เอง บรรยากาศในห้องทำงานของชัยวัฒน์ดูเคร่งเครียดกว่าปกติธีรกฤษนั่งลงตรงข้ามกับชัยวัฒน์ใบหน้าของเขาดูจริงจังและเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“มีอะไรหรือเปล่าวะธีร์ ดูเครียดๆ” ชัยวัฒน์ถามด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน“นายดูนี่” ธีรกฤษไม่ตอบอะไรเขาวางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะ เลื่อนไปตรงหน้าชัยวัฒน์ชัยวัฒน์หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาดู ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นภาพถ่ายเอกสารต่างๆ ที่ธีรกฤษรวบรวมมา มันคือหลักฐานการทุจริตในบริษัทของเขาเอง ชัยวัฒน์อ
สายของอีกวันนลินนาลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอบอุ่นของธีรกฤษ เมื่อคืนกว่าเขาจะยอมให้เธอได้พักก็ผ่านนานจนเธอร้องขอ ความรู้สึกสุขสมเมื่อคืนยังติดอยู่ในความทรงจำที่เร่าร้อนและแสนหวาน เธอพลิกตัวหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ แววตาของเธอมองเขาด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่นนลินนาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบ ไม่ต้องการรบกวนการนอนของธีรกฤษ เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัวแล้วออกมาสวมชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวสบายๆ ผมยาวถูกรวบขึ้นอย่างหลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอระหง เธอเดินออกมาริมระเบียงสูดและมองวิวทะเลสีครามที่ทอดยาวออกไปสุดลูกหูลูกตาไม่นานนักธีรกฤษก็เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสบายๆ เขาเดินตรงเข้ามาโอบกอดนลินนาจากด้านหลังซบหน้าลงกับไหล่ของเธออย่างออดอ้อน“ตื่นเช้าจังเลยนะครับลิน” เขาพูดเสียงแหบพร่าจากการเพิ่งตื่นนอน“เช้าที่ไหนคะ นี่มันสิบโมแล้วค่ะ อากาศดีมากเลยนะคะ” นลินนาตอบพลางซบตัวพิงกับอกแกร่งของเขาทั้งสองคนยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ ปล่อยให้สายลมทะเลพัดผ่าน ก่อนที่ธีรกฤษจะชวนเธอไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของรีสอร์ตตลอดทั้งวันทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ที่ร
ธีรกฤษจูบลงไปบนไรผมที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ก่อนที่ปากร้อนจะลากไปบนลำตัวของหญิงสาวด้วยความลุ่มหลง ชายหนุ่มดันเรียวขาให้กว้างขึ้น ตาคมมองดอกไม้สีสวยที่ฉ่ำเยิ้มแล้วกดความเป็นชายลากขึ้นลงจนส่วนปลายชุ่มไปด้วยน้ำหวาน“อื้อ...พี่ธีร์”หญิงสาวส่ายสะโพกเข้าหาอย่างลืมตัว ร่างกายของเธอร้อนรุ่มความต้องการฉายชัดในแววตาอย่างปิดไม่มิด เพราะความต้องการที่มากล้น แต่นั่นก็ทำให้ธีรกฤษพอใจเป็นอย่างมากที่ผู้หญิงของเขาเร่าร้อนแบบนี้“ไม่เกร็งนะแล้วลินจะมีแต่ความสุข”พูดจบชายหนุ่มก็จูบลงมาอีกครั้งขณะที่ท่อนเอ็นร้อนกดเข้าหาความอ่อนนุ่มทีละนิด ธีรกฤษกัดกรามแน่นเมื่อเขาโดนความคับแน่นของนลินนาตอดรัดตั้งแต่เข้าได้เพียงครึ่งทางครั้งนี้เขาไม่ได้เตรียมถุงยางอนามัยมา และมันก็ทำให้เขารู้ว่าการสอดใส่แบบไม่ป้องกันมันเพิ่มความเสียวมากแค่ไหน ธีรกฤษไม่กลัวเรื่องโรคติดต่อเพราะรู้ว่านลินนามีแค่เขาคนเดียว ส่วนเรื่องท้องก็ไม่ปัญหาเพราะเธอบอกเขาเองว่าอีกไม่กี่วันรอบเดือนก็จะมาทุกอย่างมันเลยลงตัวไปหมด“อื้อ...พี่ธีร์...”“อีกนิดคนเก่ง ของลินแน่นมาก”ในที่สุดธีรกฤษก็พาตัวตนเข้าไปจนลึกสุดความยาว เขาพ่นลมหายใจออกทางปากเพื่อระบายความเ
เมื่อเดินคุยกันได้พักใหญ่ นลินนาและธีรกฤษก็กลับเข้ามายังบ้านพัก ทั้งสองคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อชำระล้างความเหนียวเหนอะหนะจากน้ำทะเล นลินนาออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนผ้าไหมเนื้อนุ่มสีชมพูอ่อนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ผมยาวสลวยถูกปล่อยให้ทิ้งตัวลงมาเคลียไหล่ เผยให้เห็นผิวขาวเนียนละเอียด ธีรกฤษออกมาในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำสีเข้ม เปิดเผยแผงอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชุดนอนของเธอช่างบางเบาเสียเหลือเกิน เขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเป็นห่วงดี“ไปนั่งข้างนอกกันไหม” ธีรกฤษผายมือไปยังเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำที่จัดไว้อย่างสวยงาม มีโต๊ะเตี้ยๆ วางอยู่ตรงกลาง พร้อมขวดไวน์แดงและแก้วไวน์สองใบนลินนาเดินไปนั่งลงข้างเขา สายตาจับจ้องไปยังสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ทอดยาวออกไปจรดผืนทะเลเบื้องหน้า แสงจันทร์กระทบผิวน้ำระยิบระยับสวยงามรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในความฝัน“ดื่มไวน์สักหน่อยไหม” ธีรกฤษรินไวน์แดงลงในแก้ว แล้วยื่นให้นลินนานลินนารับแก้วไวน์มาถือไว้ก่อนจะยกจิบเล็กน้อย รสชาติไวน์ที่นุ่มนวลช่วยให้เธอผ่อนคลายมากขึ้น“คืนนี้ดาวสวยจังเลยนะคะ” นลินนาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงด
สองสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความสัมพันธ์ของนลินนาและธีรกฤษยังคงดำเนินแบบไร้สถานะแต่กลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและเข้าใจกันมากขึ้นเรื่อยๆธีรกฤษยังคงโทรศัพท์หานลินนาทุกคืน ชวนไปทานข้าว ดูหนัง หรือแม้แต่เดินเล่นในสวนสาธารณะ บ่อยครั้งที่เขาจะมาส่งเธอที่บ้านและแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของเขาก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวและเริ่มรู้สึกกับเขามากกว่าคนรู้จักคืนนี้ก็เหมือนกันกับทุกคืนที่ธีรกฤษโทรศัพท์มาหาเธอหลังจากที่เขาเคลียร์งานทุกอย่างเสร็จแล้ว“ขอโทษนะวันนี้พี่โทรมาดึกเลย”“งานยุ่งเหรอคะ”“ครับ พี่ต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนหยุดยาว อีกสองวันก็จะถึงวันหยุดแล้วลินให้คำตอบพี่ได้หรือยังล่ะว่าจะไปเที่ยวทะเลกับพี่หรือเปล่า”“เราจะไปกันที่ไหนคะ แล้วต้องค้างด้วยหรือเปล่า”“พี่ว่าจะค้างสองคืนนะ”“ถ้าลินตอบตกลงตอนนี้เราจะหาที่พักทันไหมคะ”“ทันสิ แล้วลินอยากไปที่ไหนล่ะ”“แล้วพี่ธีร์ล่ะคะอยากไปที่ไหน”“พี่ให้ลินเลือกว่าจะไปที่ไหนระหว่าสมัยหรือภูเก็ต” ที่เขาให้ตัวเธอเลือกสองที่เพราะเขามีคนรู้จักเป็นเจ้ารองรีสอร์ตที่นั่นและคงจะมีห้องพักให้เขาแม้ว่าจะเป็นหยุดยาวก็ตาม“พี่จะจองที่พักได้แน่นะคะ” หญิงสาวยัง