로그인เสียงของเขาสั่นมาก เริ่มโค้งคำนับไม่หยุด ไม่มีศักดิ์ศรีเลยสักนิด“ขอโทษ.....ฉันสาบาน ฉันไม่มีเจตนาร้ายจริงๆ ฉันแค่อยากพาเธอกลับบ้าน ฉันคิดถึงเธอมาก ขาดเธอไม่ได้”“ขอโทษ พ่อตา......ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นสายเลือดตระกูลซู” เขาร้อนรน “ไม่ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ฉันหมายความว่าถึงซูฉี่เกิดในครอบครัวแบบไหน ฉันก็รักเธอ”ซางสือซวี่ในตอนนี้ เหมือนหมาปั๊กที่หมอบอยู่ที่เท้าฉัน ความหยิ่งยโสในอดีตโดนเหยียบย่ำจนแหลกสลายพ่อฉันยังไม่หายโมโห เตะเขาอย่างแรงไปหนึ่งที“พาซูฉี่กลับบ้านเหรอ? นายจะได้ทรมานเธอจนเจียนตายอีกครั้งใช่ไหม?”“นายคิดว่าจะจบแค่ทำให้บริษัทนายล้มละลายเหรอ? ฝันไปเถอะ! รอการแก้แค้นจากฉันได้เลย ฉันจะให้นายได้ลิ้มรสชาติความเจ็บปวดของลูกสาวฉัน”ฉันตบหลังพ่อเบาๆ พยายามไม่ให้เขาโมโหจนเกินไป เพื่อไม่ให้กระทบกับสุขภาพดวงตาสองข้างของซางสือซวี่บวมแดงมาก คลานมาข้างเท้าฉันแล้วอ้อนวอน“ซูฉี่ ฉันพาเธอกลับเพราะอยากใช้ชีวิตกับเธออย่างมีความสุขจริงๆ! ก่อนหน้านี้ฉันโดนเหอชิงเยว่หลอกจนมองไม่เห็นความจริง ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว คิดไม่ถึงว่าฉันทำร้ายเธอสาหัสขนาดนี้! ตอนที่ฉันคิดว่าเธอตายไปแล้ว ส่วนหนึ่
ซางสือซวี่ตกใจกับเสียงหัวเราะของฉันจนนิ่งไป นี่เป็นครั้งแรกที่อำนาจของเขาโดนท้าทายจากฉัน“ซูฉี่......เธอกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?”ฉันแสยะยิ้ม แล้วกลอกตาใส่เขา“ไอ้คนเลวหลงตัวเอง หยิ่งยโส ฉันจะพูดอีกรอบ ออกไปจากที่นี่ หลังจากนี้อย่ามาให้ฉันเห็นอีก!”ซางสือซวี่โมโหจนพูดอะไรไม่ออก ขณะที่ฉันจะเดินออกไป เขาจับข้อมือฉันอย่างแรงอีกครั้ง“ซูฉี่ ฉันไม่มีทางปล่อยให้เธอไปจากฉันอีกแล้ว วันนี้หน้าที่เพียงอย่างเดียวของฉันคือพาเธอกับลูกกลับบ้าน“เธอไม่รู้หรอก ตอนฉันคิดว่าเสียเธอไปแล้ว ฉันแทบบ้า! ฉันปวดใจเจียนตาย คิดถึงเธอตลอดเวลา“ครั้งนี้ไม่ว่าเธอจะทรมานฉัน ทดสอบฉันยังไง ฉันไม่มีทางยอมแพ้ ฉันสาบาน”ตลกชะมัดความรักอันลึกซึ้งที่เกิดขึ้นกะทันหันแบบนี้ แสดงให้ใครดูกันแน่?ฉันดึงแขนออกมาทันที“นายคิดว่านายเป็นใครไม่ทราบ? มีสิทธิ์อะไรมาสั่งนู่นสั่งนี่?”เขาส่งเสียงหึในลำคอ ความหยิ่งยโสในใจปะทุขึ้นอีกครั้ง“ฉันเป็นประธานซางซื่อกรุ๊ป ฉันสามารถตัดสินใจได้ว่าฉันมีสิทธิ์อะไร”ยังไม่ทันสิ้นเสียง เขาก็แบกฉันขึ้นบ่าทันที“ตอนนี้ฉันจะพาเธอกลับบ้าน เธอไม่ยอมบอกใช่ไหมว่าลูกอยู่ที่ไหน? ไม่เป็นไร ขอแค่เ
ตอนฉันรู้เรื่องนี้ ฉันรู้สึกแค่ว่าเขาบ้าไปแล้วแต่ฉันไม่ได้สนใจ มหาสมุทรกว้างใหญ่คั่นระหว่างฉันกับเขา เขาไม่มีทางหาฉันเจอง่ายๆ หรอกฉันไม่ได้คิดถึงมันอีก ก้มหน้าก้มตาศึกษาว่าจะดูแลตระกูลและธุรกิจอย่างไรต่อไปฉันเรียนรู้เร็วมาก ไม่ถึงหนึ่งเดือน ฉันสามารถเทรดหุ้นด้วยตัวเองได้แล้วบนหน้าจอคอมพิวเตอร์สามสี่เครื่อง เส้นสีแดงและเขียวที่ทับซ้อนกันขยับขึ้นๆ ลงๆ เหมือนการขึ้น-ลงของหุ้นแต่ละตัวอยู่ในการคาดการณ์ของฉันทั้งหมด วันนั้นฉันเพิ่งประชุมคณะกรรมการบริษัทเสร็จ จู่ๆ มีคนพุ่งเข้ามาในห้องประชุม เขาคือซางสือซวี่ลมหายใจฉันขาดห้วงทันที ความทรงจำอันเจ็บปวดที่เก็บงำไว้เนิ่นนาน ผุดขึ้นมาในใจพร้อมกับเงาของเขาฉันสะบัดมือบอกให้คนอื่นออกไปดวงตาสองข้างของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย เอาแต่จ้องฉันเขม็ง ราวกับฉันทำเรื่องโหดร้ายกับเขาอย่างไรอย่างนั้นวินาทีต่อมา เขาพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว กำข้อมือฉันแน่น ตะโกนสุดเสียง“ซูฉี่ ทำไมเธอต้องแกล้งตาย เธอรู้ไหมว่าฉันเกือบเป็นบ้าเพราะเธอ! แต่ฉันเชื่อมั่นมาตลอด เธอไม่มีทางตายง่ายขนาดนั้น เธอเข้มแข็งและรักชีวิตมาก......”หลังจากนั้นสีหน้าเขาแปรเปลี่ยนเป็นเค
“ลูกกับเด็กเชื่อมกันด้วยสายเลือด ในช่วงชีวิตสั้นๆ ของเขา ลูกคือแม่เพียงคนเดียวของเขา”“หลังจากนี้ลูกจะได้เจอคนที่ดีกว่านี้ แล้วก็จะมีลูกของตัวเองอีกครั้ง”เขาถอนหายใจ ที่จอนผมของพ่อมีหงอกเยอะขึ้นกว่าก่อนที่ฉันไปสองสามกระจุก ดูโทรมกว่าเดิม“แต่ถ้าลูกเอาแต่ขังตัวเองและร้องไห้อยู่ในนี้ เพราะคนไร้จิตสำนึกคนนั้น ลูกคงเสียน้ำตาเปล่า”“พ่อเคยบอกว่าอย่าคบกับเขา แต่ลูกดื้อมาก ยอมตัดสัมพันธ์กับพ่อ เพื่อที่จะอยู่กับเขา”ฉันโผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม มองรอยตีนกาลึกบนหน้าพ่อ น้ำตาทำให้การมองเห็นพร่าเลือนอีกครั้ง“พ่อ หนูขอโทษ” ฉันพูดเสียงสะอื้น “ตอนนั้นหนูควรฟังคำพูดของพ่อ ขอโทษ”“หนูไม่ได้ร้องไห้เพราะเขา หนูร้องไห้เพราะลูก......เขายังตัวแค่นั้นเอง”พ่อยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน ปลายนิ้วอุ่นๆ ทำให้ใจของฉันเต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัยแสนอบอุ่น“ลูกเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อ สมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของพ่อ พ่อไม่เคยโทษลูกเลย เรื่องที่ลูกจะทำ พ่อไม่เคยห้าม ลูกนิสัยดื้อรั้น จุดนี้เหมือนกับพ่อ ไม่มีวันยอมแพ้กับสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว แต่จำไว้ว่าคนที่ผิดไม่ใช่ลูก”สายตาเขาแปรเปลี่ยนเป็นดุดัน ไม้เท้ากระทบลงบนพื้
ซางสือซวี่หรี่ตาลง ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้น เหมือนโดนกระสุนยิงใส่อย่างไรอย่างนั้นเขาเซไปด้านหลังเล็กน้อย แต่สัญชาตญาณบีบให้เขาต้องยืนตั้งหลักอย่างเข้มแข็ง“เป็นไปไม่ได้! ตอนฉันออกมาอาการของเธอยังคงที่ดีอยู่เลย” เขาต่อว่าด้วยความโมโห “เธอยังมีแรงทำร้ายสุนัขของซางเทียนฉิงด้วยซ้ำ จู่ๆ จะตายได้ยังไง?”“เธอต้องใช้ลูกไม้เพื่อเรียกความสนใจจากฉันแน่ๆ ฉันเคยบอกนายแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าหลงกลเธอ?”ตกอยู่ภายใต้ความโกรธของเขา เลขาหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับ“ประธานซาง......ศพของคุณนายอยู่ที่ห้องคลอดห้องข้างๆ เราทำการตรวจ DNA แล้ว......เป็นคุณนายจริงๆ ครับ”“นายรู้จุดจบของการหลอกฉันใช่ไหม!” ซางสือซวี่ยังไม่อยากเชื่อ เขาวิ่งไปที่ห้องคลอดข้างๆ ทันทีภายใต้แสงไฟสว่างจ้า บนพื้นมีศพที่คลุมด้วยผ้าขาวไว้ครึ่งตัวนอนอยู่หนึ่งศพเขาเห็นใบหน้าซูบผอม เห็นแก้มสกปรกมอมแมมอย่างชัดเจน มันซ้อนทับกับใบหน้านั้นที่อยู่ในความทรงจำเขาเดินเข้าไปอย่างสั่นเทา มองศพที่แน่นิ่ง ยังคงไม่ยอมรับความจริง“ซูฉี่ ถ้านี่คือเรื่องโกหก” เขาแผดเสียง “ฉันสาบานว่าต้องให้เธอชดใช้!”ทว่าตอนเขาประคองเธอขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ราวกับอุณหภูมิ
อาการของฉันอยู่ในภาวะฉุกเฉินจริงๆ หมอรู้ว่าฉันไม่มีเวลารออีกแล้ว จึงถามเบอร์ของซางสือซวี่ แล้วรีบโทรหาทันที“สวัสดีค่ะ ใช่ประธานซางหรือเปล่า? คนไข้ซูฉี่อยู่ในภาวะฉุกเฉิน ใกล้คลอดแล้ว ช่วยแบ่งอุปกรณ์ผ่าตัดทำคลอดมาบางส่วนได้ไหมคะ”ซางสือซวี่พูดอย่างโมโห “ซูฉี่! เธอฉลาดกว่าที่ฉันคิดเยอะเลยนะ นอกจากหนีออกมาจากโกดังใต้ดิน ยังหาคนมาช่วยได้อีก!“ฉันบอกไว้เลยนะ ไม่ว่าเธอจะใช้ลูกไม้อะไร ฉันไม่มีทางหลงกลอีกแล้ว! ฉันรู้จักเธอดี เธอไม่มีทางเป็นอันตรายหรอก!“ฉันพูดกี่ครั้งกี่หนแล้ว ฉันไม่มีทางไม่สนใจลูกตัวเอง หลังจากเหอชิงเยว่คลอดเสร็จก็ถึงคิวของเธอแล้ว เธอจะรีบขนาดนี้ไปทำไม?”หมอขอร้องคนอื่นในโรงพยาบาลต่อ แต่ซางสือซวี่ออกคำสั่งเด็ดขาด ยาแก้ปวดแม้แต่เม็ดเดียวก็ห้ามให้ห่างกันเพียงกำแพงกั้น ฉันได้ยินคำพูดเย็นชาของซางสือซวี่“เหอชิงเยว่ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด ไม่ว่าคนอื่นที่ต้องการใช้ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นใคร ต้องรอให้เหอชิงเยว่คลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัยแล้วค่อยว่ากัน!”ฉันทรุดลงบนพื้นอย่างสิ้นหวัง แต่จู่ๆ สายตาดันไปเห็นชายคนหนึ่งที่อยู่หน้าประตูเลขาของซางสือซวี่เขาเบิกตาโตมองฉันอย่างตกตะล