Short
การคลอดโดนหยุดชั่วคราว

การคลอดโดนหยุดชั่วคราว

By:  เมษายนCompleted
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
8Chapters
73views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ตอนตั้งท้องมาเก้าเดือนจนใกล้จะคลอด ซางสือซวี่สามีของฉันดันส่งคนมาจับฉันขังไว้ในโกดังใต้ดิน สั่งให้ฉันอย่าเพิ่งคลอดลูก เพราะเหอชิงเยว่ภรรยาของพี่ชายเขาซึ่งได้จากโลกนี้ไปแล้วก็กำหนดคลอดวันนี้เหมือนกัน ซางสือซวี่เคยให้สัญญากับพี่ชายเขาไว้ว่า ลูกคนแรกของตระกูลซางจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นทายาทสืบสกุล ได้รับมรดกของตระกูล “เหอชิงเยว่ต้องคลอดลูกก่อน” ซางสือซวี่พูดด้วยท่าทีผ่อนคลาย “เหอชิงเยว่สูญเสียสามีไปแล้ว ไม่มีอะไรสักอย่าง ส่วนเธอมีความรักทั้งหมดของฉันแล้ว สมควรยกทรัพย์สินให้ลูกของเหอชิงเยว่” มดลูกบีบตัวจนทำให้ฉันเจ็บจนดิ้นทุรนทุราย ฉันร้องไห้อ้อนวอนขอให้เขาพาไปโรงพยาบาล ซางสือซวี่เช็ดน้ำตาฉันเบาๆ น้ำเสียงทุ้มจนน่ากลัว “เลิกเสแสร้งได้แล้ว! ฉันรู้นานแล้วว่าเธอไม่ได้รักฉันเลย สิ่งเดียวที่เธอสนใจคือเงินทองและฐานะ” “เธอจงใจคลอดก่อนกำหนด เพราะต้องการแย่งชิงสิ่งที่เป็นของหลานชาย.....ทำไมเธอถึงร้ายกาจขนาดนี้?” ฉันสีหน้าซีดเผือด สั่นไปทั้งตัว พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ฉันกำหนดไม่ได้หรอกว่าลูกจะเกิดตอนไหน คลอดก่อนกำหนดเป็นแค่ความบังเอิญ! ฉันสาบานเลยว่าฉันไม่ได้สนใจเงินทอง ฉันแค่รักนายเท่านั้นเอง!” เขาแสยะยิ้ม “ถ้าเธอรักฉัน เธอคงไม่บังคับให้เหอชิงเยว่เซ็นเอกสารสละสิทธิสืบทอดมรดกของลูก เอาล่ะ รอเหอชิงเยว่คลอดลูกเสร็จเรียบร้อย ฉันจะกลับมาหาเธอ ไม่ว่ายังไงในท้องเธอก็คือเลือดเนื้อเชื้อไขของฉัน” ซางสือซวี่เฝ้าอยู่ข้างนอกห้องคลอดของเหอชิงเยว่ พอเห็นเด็กที่เพิ่งคลอดออกมา เขาจึงนึกถึงฉันขึ้นมาได้ เขาให้เลขาไปรับฉันมาโรงพยาบาล แต่เลขาพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “คุณนาย...รวมถึงเด็ก...เสียชีวิตแล้วครับ...” ในช่วงเวลานั้น ซางสือซวี่เสียสติไปแล้ว

View More

Chapter 1

บทที่ 1

ตอนมดลูกบีบตัวจนฉันเจ็บจนสลบ แล้วก็เจ็บจนได้สติขึ้นมาอีกครั้ง ฉันก็มาอยู่ในโกดังใต้ดินที่มืดและเย็นยะเยือกแล้ว

ประตูขนาดใหญ่ปิดลงดังโครม ถ้าไม่ใช่เพราะฉันดึงเท้ากลับมาอย่างรวดเร็ว ตาตุ่มคงโดนหนีบจนเละไปแล้ว

อาจเป็นเพราะขยับแรงเกินไป ฉันรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆ ไหลออกมาจากหว่างขา

ฉันรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น น้ำคร่ำของฉันแตกแล้ว!

ฉันสติแตกอยู่พักหนึ่ง

ฉันพยายามสงบสติอารมณ์ อยากใช้โทรศัพท์ แต่หาดูทั้งตัวแล้วก็ไม่เจอมือถือ

แต่ซางสือซวี่ยึดมือถือฉันไป เพื่อให้แน่ใจว่าฉันจะไม่สามารถติดต่อกับใครได้

เด็กในท้องดิ้นไม่หยุด ฉันทั้งหนาวจนสั่นไปทั้งตัว แล้วก็เจ็บจนเหงื่อไหลท่วมตัว

ฉันใช้แรงทั้งหมดตะโกนขอความช่วยเหลือ ไม่ยอมแพ้แม้ความหวังช่างริบหรี่

ในที่สุดฉันก็ได้ยินเสียงเท้าดังมาจากข้างนอก

“ขอร้องล่ะ ช่วยฉันด้วย!” ฉันตะโกนเสียงดัง “ฉันโดนขังไว้ในโกดังใต้ดิน! ฉันจะคลอดแล้ว!”

ฉันตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดว่าจะมีคนมาช่วยฉัน

แต่หลังจากนั้นน้ำเสียงที่ดูได้ใจเสียงหนึ่งดังขึ้น

“ซูฉี่ นอนอยู่ในโกดังใต้ดินตอนฤดูหนาวรู้สึกยังไงบ้างล่ะ? ฉันว่าพี่ควรทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว เธอจะได้สำนึก”

น้องสาวของซางสือซวี่ ซางเทียนฉิง!

ฉันสะกดกลั้นเสียงหอบหายใจ พยายามทำให้เสียงตัวเองยังคงชัดเจน “ซางเทียนฉิง ช่วยพาฉันออกไปหน่อย เด็กใกล้คลอดแล้ว จะไม่ทันแล้ว!”

ซางเทียนฉิงถีบประตูโกดังใต้ดินอย่างแรง จ้องฉันด้วยความโมโห

“ปล่อยเธอออกไปเหรอ? ฝันไปเถอะ! ไม่มีวิธีขัดขวางพี่สะใภ้ให้คลอดลูกแล้ว เธอคงร้อนใจมากสินะ? พี่ส่งฉันมาจับตาดูเธอ ไม่มีทางให้เธอทำเรื่องแบบนี้อีกเด็ดขาด!”

“พี่ชายฉันงานยุ่งมากทุกวัน ยังต้องมาจัดการคนน่ารำคาญอย่างเธออีก เธอเลิกสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นได้ไหม?”

“ทายาทของตระกูลซางต้องเป็นลูกของเหอชิงเยว่เท่านั้น! เธอจะทำอะไรก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้!”

การบีบตัวอย่างรุนแรงของมดลูกทำให้ฉันร้องโอดครวญอีกครั้ง ฉันพูดทั้งน้ำตา

“ฉันไม่อยากได้มรดกจริงๆ แล้วก็ไม่อยากให้ลูกฉันเป็นทายาทด้วย ฉันแค่อยากให้ลูกมีชีวิตเท่านั้น! ขอแค่ซางสือซวี่ยอมปล่อยฉันไปคลอดที่โรงพยาบาล จะให้ฉันทำอะไรก็ได้!”

เหมือนเสียงคร่ำครวญของฉันทำให้ซางเทียนฉิงหงุดหงิด เธอขมวดคิ้วแน่น พูดอย่างรังเกียจว่า “นังชั้นต่ำ เธอใช้เสียงแบบนี้ยั่วใครไม่ทราบ? น่ารังเกียจจริงๆ ถ้าเธอส่งเสียงโหวกเหวกอีก ฉันจะให้คนมาอุดปากเธอ!”

หลังจากนั้นเธอโทรหาซางสือซวี่

ความเจ็บจากในท้องยังคงแผ่ซ่านออกมาไม่หยุด คราวนี้ฉันขบริมฝีปากล่างแน่น ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงหายใจออกมา

ซางเทียนฉิงพูดกับปลายสายว่า “อื้ม พี่ไม่ต้องห่วง ฉันเฝ้าเธออยู่ ไม่ให้เธอสร้างเรื่องวุ่นวายแน่นอน!”

ตอนฉันได้ยินเสียงซางสือซวี่ในมือถือ ในใจฉันมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

ฉันตะโกนแทบขาดใจ “ซางสือซวี่! ลูกจะคลอดแล้ว! รีบบอกให้ซางเทียนฉิงพาฉันไปโรงพยาบาล ฉันทนไม่ไหวแล้ว!”

ตอนนี้ฉันไม่มีแรงแม้แต่จะนั่ง ทำได้แค่นอนลงบนพื้นอย่างอ่อนแรง

ซางเทียนฉิงลังเลเล็กน้อย เธอพูดกับปลายสายด้วยเสียงเบา “พี่ ฉันว่าเธออาจจะใกล้คลอดแล้วจริงๆ ดูไม่เหมือนแกล้งทำ”

“ให้ฉันพาเธอไปโรงพยาบาลก่อนไหม ถึงยังไงเธอก็อุ้มท้องลูกเพียงคนเดียวของพี่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ......”

ซางสือซวี่เงียบไปไม่กี่วินาที เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่

หลังจากนั้นน้ำเสียงของเขาอ่อนลง “โอเค งั้นพาเธอไป......”

ขณะนั้นเสียงอ่อนหวานเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามา “ซางสือซวี่ ฉันหิวแล้ว อยากกินคัพเค้ก หมอบอกว่ากินให้อิ่มถึงจะมีแรงคลอด”

“เธอจะคลอดแล้วเหรอซูฉี่? ไม่ต้องกังวลนะ คลอดลูกไม่เจ็บสักนิด ตอนนี้ฉันยังลุกขึ้นมาเต้นละตินได้ด้วยซ้ำ เธอก็ต้องไม่เป็นอะไรเหมือนกัน”

เหอชิงเยว่ต้องไม่เจ็บอยู่แล้ว

ซางสือซวี่ให้เธออยู่ห้องคลอดสุดหรูวันละล้านห้าแสนบาท แค่ร้องโอ๊ย พวกพยาบาลก็กรูกันเข้ามานวดให้เธอแล้ว

ทว่าซางสือซวี่เชื่อคำพูดของเธอทันที เขาส่งเสียงหึในลำคอ

“จะเป็นอะไรได้? ซูฉี่เล่ห์เหลี่ยมเยอะขนาดนั้น ไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์ทรมานหรอก”

“ที่แสร้งทำแบบนั้น เพราะจะหลอกให้เธอปล่อยออกไปเท่านั้น แค่นี้เธอก็หลงกลแล้ว คราวหน้าตั้งใจหน่อย”

ซางสือซวี่กดวางสาย

ส่วนซางเทียนฉิงโดนพี่ชายตำหนิจนโมโหหน้าแดงเถือก คิดไม่ถึงว่าเธอจะปล่อยสุนัขที่ล่ามไว้ที่ประตูเข้ามาทันที!
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters
No Comments
8 Chapters
บทที่ 1
ตอนมดลูกบีบตัวจนฉันเจ็บจนสลบ แล้วก็เจ็บจนได้สติขึ้นมาอีกครั้ง ฉันก็มาอยู่ในโกดังใต้ดินที่มืดและเย็นยะเยือกแล้วประตูขนาดใหญ่ปิดลงดังโครม ถ้าไม่ใช่เพราะฉันดึงเท้ากลับมาอย่างรวดเร็ว ตาตุ่มคงโดนหนีบจนเละไปแล้วอาจเป็นเพราะขยับแรงเกินไป ฉันรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆ ไหลออกมาจากหว่างขาฉันรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น น้ำคร่ำของฉันแตกแล้ว!ฉันสติแตกอยู่พักหนึ่งฉันพยายามสงบสติอารมณ์ อยากใช้โทรศัพท์ แต่หาดูทั้งตัวแล้วก็ไม่เจอมือถือแต่ซางสือซวี่ยึดมือถือฉันไป เพื่อให้แน่ใจว่าฉันจะไม่สามารถติดต่อกับใครได้เด็กในท้องดิ้นไม่หยุด ฉันทั้งหนาวจนสั่นไปทั้งตัว แล้วก็เจ็บจนเหงื่อไหลท่วมตัวฉันใช้แรงทั้งหมดตะโกนขอความช่วยเหลือ ไม่ยอมแพ้แม้ความหวังช่างริบหรี่ในที่สุดฉันก็ได้ยินเสียงเท้าดังมาจากข้างนอก“ขอร้องล่ะ ช่วยฉันด้วย!” ฉันตะโกนเสียงดัง “ฉันโดนขังไว้ในโกดังใต้ดิน! ฉันจะคลอดแล้ว!”ฉันตะโกนซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดว่าจะมีคนมาช่วยฉันแต่หลังจากนั้นน้ำเสียงที่ดูได้ใจเสียงหนึ่งดังขึ้น“ซูฉี่ นอนอยู่ในโกดังใต้ดินตอนฤดูหนาวรู้สึกยังไงบ้างล่ะ? ฉันว่าพี่ควรทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว เธอจะได้สำนึก”น้องสาวของซางสือซ
Read more
บทที่ 2
“นังชั้นต่ำ ทำให้ฉันโดนพี่ด่า! ฉันต้องสั่งสอนเธอให้เข็ด เธอเล่นกับสุนัขของฉันให้สนุกแล้วกัน!”วินาทีต่อมา เสียงหายใจดังหืดหาดของสุนัขพันธุ์ใหญ่ใกล้เข้ามา มันเหยียบลงบนหน้าอกฉันทันทีฉันตกใจจนร้องไห้และตะโกนออกมา ลูกในท้องดิ้นแรงกว่าเดิมตอนฉันพยายามดิ้นเพื่อดันมันออกไป มันกัดเข้าที่มือของฉันอย่างแรง!ฉันนอนแผ่บนพื้นอันเย็นเฉียบอย่างหมดหนทาง ฟังเสียงเห่าขู่ของสุนัขที่ดังข้างหู น้ำตาไหลออกมาเงียบๆท่ามกลางสติอันเลื่อนลอย ฉันรู้สึกเหมือนยมทูตกำลังโบกมือให้ฉันตอนที่ฉันคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะสิ้นสุดลงแล้ว ซางเทียนฉิงปรากฏตัวอีกครั้งเธอกระชากสุนัขออกไป แล้วเรียกชื่อฉัน แต่ฉันไม่มีแรงตอบแล้วเหมือนเธอตื่นตระหนกเล็กน้อย เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วโกดังใต้ดินไม่มีไฟฟ้า ตอนนี้มืดสนิทไปหมดเธอจำเป็นต้องจับผมของฉันเอาไว้ แล้วดึงหัวฉันขึ้นมาถึงจะเห็นใบหน้าฉันอย่างชัดเจนจู่ๆ เธอส่งเสียงหึออกมาอย่างแรง แล้วปล่อยมือจนหัวฉันกระแทกกับพื้น“สุนัขของฉันไม่เคยกัดใคร ดูสภาพตกใจของเธอสิ ช่างขี้ขลาดจริงๆ!”“ทำไมไม่ตะโกนล่ะ? ตอนฉันคุยโทรศัพท์กับพี่เมื่อกี้ เธอยังตะโกนเสียงดังอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”ใน
Read more
บทที่ 3
อาการของฉันอยู่ในภาวะฉุกเฉินจริงๆ หมอรู้ว่าฉันไม่มีเวลารออีกแล้ว จึงถามเบอร์ของซางสือซวี่ แล้วรีบโทรหาทันที“สวัสดีค่ะ ใช่ประธานซางหรือเปล่า? คนไข้ซูฉี่อยู่ในภาวะฉุกเฉิน ใกล้คลอดแล้ว ช่วยแบ่งอุปกรณ์ผ่าตัดทำคลอดมาบางส่วนได้ไหมคะ”ซางสือซวี่พูดอย่างโมโห “ซูฉี่! เธอฉลาดกว่าที่ฉันคิดเยอะเลยนะ นอกจากหนีออกมาจากโกดังใต้ดิน ยังหาคนมาช่วยได้อีก!“ฉันบอกไว้เลยนะ ไม่ว่าเธอจะใช้ลูกไม้อะไร ฉันไม่มีทางหลงกลอีกแล้ว! ฉันรู้จักเธอดี เธอไม่มีทางเป็นอันตรายหรอก!“ฉันพูดกี่ครั้งกี่หนแล้ว ฉันไม่มีทางไม่สนใจลูกตัวเอง หลังจากเหอชิงเยว่คลอดเสร็จก็ถึงคิวของเธอแล้ว เธอจะรีบขนาดนี้ไปทำไม?”หมอขอร้องคนอื่นในโรงพยาบาลต่อ แต่ซางสือซวี่ออกคำสั่งเด็ดขาด ยาแก้ปวดแม้แต่เม็ดเดียวก็ห้ามให้ห่างกันเพียงกำแพงกั้น ฉันได้ยินคำพูดเย็นชาของซางสือซวี่“เหอชิงเยว่ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด ไม่ว่าคนอื่นที่ต้องการใช้ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นใคร ต้องรอให้เหอชิงเยว่คลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัยแล้วค่อยว่ากัน!”ฉันทรุดลงบนพื้นอย่างสิ้นหวัง แต่จู่ๆ สายตาดันไปเห็นชายคนหนึ่งที่อยู่หน้าประตูเลขาของซางสือซวี่เขาเบิกตาโตมองฉันอย่างตกตะล
Read more
บทที่ 4
ซางสือซวี่หรี่ตาลง ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้น เหมือนโดนกระสุนยิงใส่อย่างไรอย่างนั้นเขาเซไปด้านหลังเล็กน้อย แต่สัญชาตญาณบีบให้เขาต้องยืนตั้งหลักอย่างเข้มแข็ง“เป็นไปไม่ได้! ตอนฉันออกมาอาการของเธอยังคงที่ดีอยู่เลย” เขาต่อว่าด้วยความโมโห “เธอยังมีแรงทำร้ายสุนัขของซางเทียนฉิงด้วยซ้ำ จู่ๆ จะตายได้ยังไง?”“เธอต้องใช้ลูกไม้เพื่อเรียกความสนใจจากฉันแน่ๆ ฉันเคยบอกนายแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าหลงกลเธอ?”ตกอยู่ภายใต้ความโกรธของเขา เลขาหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับ“ประธานซาง......ศพของคุณนายอยู่ที่ห้องคลอดห้องข้างๆ เราทำการตรวจ DNA แล้ว......เป็นคุณนายจริงๆ ครับ”“นายรู้จุดจบของการหลอกฉันใช่ไหม!” ซางสือซวี่ยังไม่อยากเชื่อ เขาวิ่งไปที่ห้องคลอดข้างๆ ทันทีภายใต้แสงไฟสว่างจ้า บนพื้นมีศพที่คลุมด้วยผ้าขาวไว้ครึ่งตัวนอนอยู่หนึ่งศพเขาเห็นใบหน้าซูบผอม เห็นแก้มสกปรกมอมแมมอย่างชัดเจน มันซ้อนทับกับใบหน้านั้นที่อยู่ในความทรงจำเขาเดินเข้าไปอย่างสั่นเทา มองศพที่แน่นิ่ง ยังคงไม่ยอมรับความจริง“ซูฉี่ ถ้านี่คือเรื่องโกหก” เขาแผดเสียง “ฉันสาบานว่าต้องให้เธอชดใช้!”ทว่าตอนเขาประคองเธอขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ราวกับอุณหภูมิ
Read more
บทที่ 5
“ลูกกับเด็กเชื่อมกันด้วยสายเลือด ในช่วงชีวิตสั้นๆ ของเขา ลูกคือแม่เพียงคนเดียวของเขา”“หลังจากนี้ลูกจะได้เจอคนที่ดีกว่านี้ แล้วก็จะมีลูกของตัวเองอีกครั้ง”เขาถอนหายใจ ที่จอนผมของพ่อมีหงอกเยอะขึ้นกว่าก่อนที่ฉันไปสองสามกระจุก ดูโทรมกว่าเดิม“แต่ถ้าลูกเอาแต่ขังตัวเองและร้องไห้อยู่ในนี้ เพราะคนไร้จิตสำนึกคนนั้น ลูกคงเสียน้ำตาเปล่า”“พ่อเคยบอกว่าอย่าคบกับเขา แต่ลูกดื้อมาก ยอมตัดสัมพันธ์กับพ่อ เพื่อที่จะอยู่กับเขา”ฉันโผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม มองรอยตีนกาลึกบนหน้าพ่อ น้ำตาทำให้การมองเห็นพร่าเลือนอีกครั้ง“พ่อ หนูขอโทษ” ฉันพูดเสียงสะอื้น “ตอนนั้นหนูควรฟังคำพูดของพ่อ ขอโทษ”“หนูไม่ได้ร้องไห้เพราะเขา หนูร้องไห้เพราะลูก......เขายังตัวแค่นั้นเอง”พ่อยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน ปลายนิ้วอุ่นๆ ทำให้ใจของฉันเต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัยแสนอบอุ่น“ลูกเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อ สมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของพ่อ พ่อไม่เคยโทษลูกเลย เรื่องที่ลูกจะทำ พ่อไม่เคยห้าม ลูกนิสัยดื้อรั้น จุดนี้เหมือนกับพ่อ ไม่มีวันยอมแพ้กับสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว แต่จำไว้ว่าคนที่ผิดไม่ใช่ลูก”สายตาเขาแปรเปลี่ยนเป็นดุดัน ไม้เท้ากระทบลงบนพื้
Read more
บทที่ 6
ตอนฉันรู้เรื่องนี้ ฉันรู้สึกแค่ว่าเขาบ้าไปแล้วแต่ฉันไม่ได้สนใจ มหาสมุทรกว้างใหญ่คั่นระหว่างฉันกับเขา เขาไม่มีทางหาฉันเจอง่ายๆ หรอกฉันไม่ได้คิดถึงมันอีก ก้มหน้าก้มตาศึกษาว่าจะดูแลตระกูลและธุรกิจอย่างไรต่อไปฉันเรียนรู้เร็วมาก ไม่ถึงหนึ่งเดือน ฉันสามารถเทรดหุ้นด้วยตัวเองได้แล้วบนหน้าจอคอมพิวเตอร์สามสี่เครื่อง เส้นสีแดงและเขียวที่ทับซ้อนกันขยับขึ้นๆ ลงๆ เหมือนการขึ้น-ลงของหุ้นแต่ละตัวอยู่ในการคาดการณ์ของฉันทั้งหมด วันนั้นฉันเพิ่งประชุมคณะกรรมการบริษัทเสร็จ จู่ๆ มีคนพุ่งเข้ามาในห้องประชุม เขาคือซางสือซวี่ลมหายใจฉันขาดห้วงทันที ความทรงจำอันเจ็บปวดที่เก็บงำไว้เนิ่นนาน ผุดขึ้นมาในใจพร้อมกับเงาของเขาฉันสะบัดมือบอกให้คนอื่นออกไปดวงตาสองข้างของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย เอาแต่จ้องฉันเขม็ง ราวกับฉันทำเรื่องโหดร้ายกับเขาอย่างไรอย่างนั้นวินาทีต่อมา เขาพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว กำข้อมือฉันแน่น ตะโกนสุดเสียง“ซูฉี่ ทำไมเธอต้องแกล้งตาย เธอรู้ไหมว่าฉันเกือบเป็นบ้าเพราะเธอ! แต่ฉันเชื่อมั่นมาตลอด เธอไม่มีทางตายง่ายขนาดนั้น เธอเข้มแข็งและรักชีวิตมาก......”หลังจากนั้นสีหน้าเขาแปรเปลี่ยนเป็นเค
Read more
บทที่ 7
ซางสือซวี่ตกใจกับเสียงหัวเราะของฉันจนนิ่งไป นี่เป็นครั้งแรกที่อำนาจของเขาโดนท้าทายจากฉัน“ซูฉี่......เธอกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?”ฉันแสยะยิ้ม แล้วกลอกตาใส่เขา“ไอ้คนเลวหลงตัวเอง หยิ่งยโส ฉันจะพูดอีกรอบ ออกไปจากที่นี่ หลังจากนี้อย่ามาให้ฉันเห็นอีก!”ซางสือซวี่โมโหจนพูดอะไรไม่ออก ขณะที่ฉันจะเดินออกไป เขาจับข้อมือฉันอย่างแรงอีกครั้ง“ซูฉี่ ฉันไม่มีทางปล่อยให้เธอไปจากฉันอีกแล้ว วันนี้หน้าที่เพียงอย่างเดียวของฉันคือพาเธอกับลูกกลับบ้าน“เธอไม่รู้หรอก ตอนฉันคิดว่าเสียเธอไปแล้ว ฉันแทบบ้า! ฉันปวดใจเจียนตาย คิดถึงเธอตลอดเวลา“ครั้งนี้ไม่ว่าเธอจะทรมานฉัน ทดสอบฉันยังไง ฉันไม่มีทางยอมแพ้ ฉันสาบาน”ตลกชะมัดความรักอันลึกซึ้งที่เกิดขึ้นกะทันหันแบบนี้ แสดงให้ใครดูกันแน่?ฉันดึงแขนออกมาทันที“นายคิดว่านายเป็นใครไม่ทราบ? มีสิทธิ์อะไรมาสั่งนู่นสั่งนี่?”เขาส่งเสียงหึในลำคอ ความหยิ่งยโสในใจปะทุขึ้นอีกครั้ง“ฉันเป็นประธานซางซื่อกรุ๊ป ฉันสามารถตัดสินใจได้ว่าฉันมีสิทธิ์อะไร”ยังไม่ทันสิ้นเสียง เขาก็แบกฉันขึ้นบ่าทันที“ตอนนี้ฉันจะพาเธอกลับบ้าน เธอไม่ยอมบอกใช่ไหมว่าลูกอยู่ที่ไหน? ไม่เป็นไร ขอแค่เ
Read more
บทที่ 8
เสียงของเขาสั่นมาก เริ่มโค้งคำนับไม่หยุด ไม่มีศักดิ์ศรีเลยสักนิด“ขอโทษ.....ฉันสาบาน ฉันไม่มีเจตนาร้ายจริงๆ ฉันแค่อยากพาเธอกลับบ้าน ฉันคิดถึงเธอมาก ขาดเธอไม่ได้”“ขอโทษ พ่อตา......ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นสายเลือดตระกูลซู” เขาร้อนรน “ไม่ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ฉันหมายความว่าถึงซูฉี่เกิดในครอบครัวแบบไหน ฉันก็รักเธอ”ซางสือซวี่ในตอนนี้ เหมือนหมาปั๊กที่หมอบอยู่ที่เท้าฉัน ความหยิ่งยโสในอดีตโดนเหยียบย่ำจนแหลกสลายพ่อฉันยังไม่หายโมโห เตะเขาอย่างแรงไปหนึ่งที“พาซูฉี่กลับบ้านเหรอ? นายจะได้ทรมานเธอจนเจียนตายอีกครั้งใช่ไหม?”“นายคิดว่าจะจบแค่ทำให้บริษัทนายล้มละลายเหรอ? ฝันไปเถอะ! รอการแก้แค้นจากฉันได้เลย ฉันจะให้นายได้ลิ้มรสชาติความเจ็บปวดของลูกสาวฉัน”ฉันตบหลังพ่อเบาๆ พยายามไม่ให้เขาโมโหจนเกินไป เพื่อไม่ให้กระทบกับสุขภาพดวงตาสองข้างของซางสือซวี่บวมแดงมาก คลานมาข้างเท้าฉันแล้วอ้อนวอน“ซูฉี่ ฉันพาเธอกลับเพราะอยากใช้ชีวิตกับเธออย่างมีความสุขจริงๆ! ก่อนหน้านี้ฉันโดนเหอชิงเยว่หลอกจนมองไม่เห็นความจริง ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว คิดไม่ถึงว่าฉันทำร้ายเธอสาหัสขนาดนี้! ตอนที่ฉันคิดว่าเธอตายไปแล้ว ส่วนหนึ่
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status