ในค่ำคืนที่ซือชิงเจ๋อออกไปพลอดรักกับชู้รัก ซางชิวกลับต้องจบชีวิตลงอย่างอนาถ พญายมให้โอกาสเธอได้กลับมามีชีวิตเป็นเวลาเจ็ดวันเพื่อสะสางความปรารถนาที่ยังค้างคาใจ เธอมีความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือการหย่ากับซือชิงเจ๋อ ให้ทุกอย่างที่ผ่านมาจบสิ้นลง ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นหรือตายก็อย่าได้กลับมาพบเจอกันอีก
Lihat lebih banyakซางชิวชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้า “คู่หมั้นของฉันเป็นคนจีน เพื่อนของแม่เป็นคนแนะนำให้เรารู้จักกัน พวกเราฐานะทัดเทียมกันดี และกำลังจะแต่งงานกันในเร็ว ๆ นี้”ซือชิงเจ๋อกำหมัดแน่น ยังคงไม่ยอมตัดใจถามว่า “ฟังจากที่เธอพูดแล้ว ดูเหมือนว่าพวกเธอจะไม่ได้มีพื้นฐานความรักต่อกันเลยนะ”ซางชิวยิ้ม “จะมีหรือไม่มีมันต่างกันยังไงเหรอ? ถึงจะมี สุดท้ายมันก็คงเป็นเหมือนเดิมนั่นแหละ”ซือชิงเจ๋อถึงกับพูดอะไรไม่ออกเขาเงียบไปเป็นเวลานาน สุดท้ายก็ได้แต่ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดในสิ่งที่ไม่ตรงกับใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เธอมีความสุขนะ”“คุณก็เช่นกัน”ซางชิวเผยรอยยิ้มที่สุภาพแต่แฝงไปด้วยความห่างเหิน ก่อนจะหันหลังเดินออกจากร้านกาแฟไปซือชิงเจ๋อจ้องมองแผ่นหลังของเธอ น้ำตาค่อย ๆ ไหลรินลงมาทีละหยดระหว่างพวกเขา ไม่มีวันเป็นไปได้อีกแล้วระหว่างทางขับรถกลับบ้าน ซางชิวก็ได้เห็นร่างหนึ่งที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกหน้าในเวลาเดียวกันผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้ากร้านโลก สวมใส่เสื้อผ้าที่ซักจนซีดขาว กำลังทะเลาะเบาะแว้งเสียงดังอยู่กับแม่ค้าแผงลอยคนหนึ่ง ข้างกายมีเด็กเล็กสองคนกำลังร้องไห้งอแงไม่หยุดนั่นคือเซี่ยซือซือไม่ได้เจอกันหล
ซางชิวไม่สนใจเขาอีกต่อไป เธอเดินตามพ่อกับแม่ขึ้นรถไปพ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทนดูต่อไปไม่ไหว จึงถอนหายใจแล้วพูดว่า “คุณชายซือ กลับไปเถอะครับ อย่าทรมานร่างกายของตัวเองอีกเลย”แต่ซือชิงเจ๋อกลับไม่ได้ยินเสียงใด ๆ ทั้งสิ้น ร่างกายที่เย็นเฉียบของเขาสั่นเทาไม่หยุด ปากก็พึมพำกับตัวเอง “ฉันเสียใจเหลือเกิน...”“ทำไมเรื่องราวถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้...”ในไม่ช้า เสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์ก็ฉุดกระชากเขากลับมาสู่ความเป็นจริงอย่างไม่ปรานี เขาเบิกตากว้าง รีบวิ่งไล่ตามไปอย่างลนลาน “ชิวชิว อย่าไปนะ!”แต่แล้วร่างกายที่อ่อนแอจนถึงขีดสุดไม่อนุญาตให้เขาทำแบบนั้นอีกต่อไป เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็ล้มลงไปกองกับพื้น กระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง แล้วหมดสติไปซางชิวที่นั่งอยู่ในรถเหลือบมองไปด้านหลังโดยไม่รู้ตัว และได้เห็นภาพที่ซือชิงเจ๋อล้มลงไปอย่างหมดเรี่ยวแรงพอดีร่างที่ผอมบางของเขาดูอ้างว้างโดดเดี่ยวเป็นพิเศษท่ามกลางหิมะ แต่มันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย?เมื่อจัดการความรู้สึกของตนเองได้แล้ว ซางชิวก็หลับตาลงการใช้ชีวิตในประเทศวายช่างเงียบสงบ หลังจากที่ซางชิวเข้าเรียน เธอก็ได้รู้จักเพื่อนใหม่มากมาย เพื่อนร่วมชั้นเก่า ๆ
ปัง! เสียงประตูดังขึ้น ซือชิงเจ๋อบุกเข้ามาในห้องเรียน เขากระชากพวงกุญแจเครื่องรางออกจากกระเป๋าแล้วโยนทิ้งลงบนพื้นทันที!ซางชิวผลักเขาออกไป “คุณจะเลิกยุ่งวุ่นวายได้หรือยัง มันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย!”พูดจบเธอก็เก็บพวงกุญแจเครื่องรางขึ้นมา แล้วหันไปกล่าวคำขอโทษกับเจียงซิ่วขอบตาของซือชิงเจ๋อแดงก่ำ “ตอนนี้เธอคิดจะยอมรับเขาแล้วใช่ไหม? เธอต้องทำให้ฉันเสียใจขนาดนี้เลยเหรอ! ทำไมถึงให้โอกาสฉันสักครั้งไม่ได้!”ซางชิวกลอกตา “ไปโรงพยาบาลบ้าให้หมอตรวจดูดี ๆ เถอะ!”ซือชิงเจ๋อโกรธจนตัวสั่น เขาหันไปจ้องเจียงซิ่วอย่างเคียดแค้น “ฉันจะบอกนายไว้เลยนะว่าเธอเป็นของฉัน! นายอย่าได้แม้แต่จะคิด!”เจียงซิ่วขมวดคิ้ว “คุณซือ ซางชิวไม่ใช่สิ่งของนะ เธอเป็นคนที่มีชีวิตจิตใจ ไม่มีคำว่าใครเป็นของใครหรอกนะ ถ้าคุณชอบเธอก็ควรจะให้เกียรติเธอ”ซือชิงเจ๋อตะคอกลั่น “ต้องให้นายมาสอนฉันด้วยเหรอ? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นายคิดอะไรอยู่ ไสหัวไปให้ไกล ๆ จากเธอซะ!”ในตอนนั้นเองกริ่งเริ่มเรียนก็ดังขึ้นพอดี คุณครูเดินเข้ามาแล้วเห็นภาพนั้นก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว “พวกเธอกำลังทะเลาะอะไรกัน? เข้าเรียนแล้วไม่รู้หรือไง!”ซางชิวรู้ดีว่าตร
ซางชิวไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เธอชี้ตรงไปที่เซี่ยซือซือ “พ่อคะ แม่คะ คนอื่นจะให้ทุนทั้งหมดก็ได้ ยกเว้นเธอคนนี้ค่ะ”พ่อและแม่ของเธอพยักหน้าในทันที “ตามใจลูกเลย”เดิมทีเซี่ยซือซือคิดว่าตนจะได้รับทุนการศึกษาด้วยผลการเรียนอันยอดเยี่ยม แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกซางชิวปฏิเสธด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียว เธอจึงร้องไห้ออกมาทันที “ขอร้องพวกคุณล่ะค่ะ หนูต้องการโอกาสนี้จริง ๆ! หนูรักการเรียน หนูไม่อยากต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน!”ซางชิวดูออกว่าเซี่ยซือซือไม่ได้กลับมาเกิดใหม่ เธอจึงพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย “งั้นเธอก็ไปหาคนอื่นเถอะ ฉันจะแนะนำให้คนหนึ่ง คุณชายเล็กตระกูลซือ ซือชิงเจ๋อ เธอไปหาเขาดูสิ ไม่แน่อาจจะสำเร็จก็ได้นะ!”เซี่ยซือซือคุกเข่าลงกับพื้นทันที “หนูขอร้องล่ะค่ะ พวกคุณร่ำรวยขนาดนี้ เพิ่มหนูไปอีกสักคนจะเป็นอะไรไปคะ!”ซางชิวไม่อยากเห็นหน้าเธออีกต่อไป จึงสั่งบอดี้การ์ดทันที “ส่งเธอไปที่โรงพยาบาล ให้เธอไปพบกับซือชิงเจ๋อซะ!”ซือชิงเจ๋อชอบเธอไม่ใช่หรือไง? ถ้างั้นชาตินี้เธอก็จะขอเป็นคนดี ช่วยส่งเสริมให้พวกเขาสมหวังก็แล้วกัน!เมื่อได้ยินคำสั่ง บอดี้การ์ดก็ไม่สนใจเสียงร้องไห้โวยวายของเซี่ยซือซือ ลากตัว
“คุณชายตระกูลซือคนนั้นถึงกับกระโดดทะเลสาบเพื่อคุณหนูตระกูลซางเลยนะ แถมยังทำหน้าผากแตกอีก นี่มันรักลึกซึ้งมาก!”“อายุแค่สิบกว่าปีจะไปเข้าใจความรักอะไร เด็ก ๆ ก็มักจะทำอะไรตามอารมณ์แบบนี้แหละ พอโตขึ้นจะต้องมานั่งเสียใจทีหลังแน่ ๆ”“ว่าแต่คุณหนูตระกูลซางคนนั้นก็ใจแข็งจริง ๆ นะ ขนาดนี้แล้วยังไม่ใจอ่อนอีก”“คงจะไม่ชอบคนที่ทำร้ายร่างกายตัวเองล่ะมั้ง คุณชายซือคนนั้นตอนนี้สลบไปแล้วแถมยังไข้ขึ้นสูงด้วย”ซางชิวเพิ่งจะกลับมาถึงห้องพักผู้ป่วยได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงพยาบาลกำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้เธอทำเป็นไม่ได้ยิน หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จก็เข้านอนพักผ่อนในอีกด้านหนึ่ง ซือชิงเจ๋อก็มีไข้ขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลาเขาจึงอยู่ในสภาพที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นพอไข้ขึ้นสูงในช่วงดึก เขาก็ถึงกับเห็นภาพหลอน เขาเห็นซางชิวในชาติที่แล้วกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตาแดงก่ำเสื้อผ้าบนตัวของเธอขาดรุ่งริ่ง ที่หน้าอกยังมีมีดสั้นเล่มหนึ่งซึ่งสะท้อนแสงเย็นเยียบปักคาอยู่ โลหิตสด ๆ หยดลงบนพื้นทีละหยด“ชิวชิว!” หัวใจของซือชิงเจ๋อเจ็บปวดรวดร้าว เขาร้องไห้จนใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตาเขายื่นมือออกไปห
ในยามนี้เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อากาศเริ่มเย็นลง อุณหภูมิในตอนกลางคืนยิ่งไม่ต่างอะไรกับฤดูหนาว ผู้คนที่มุงดูอยู่พอได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กัน “เด็กหนุ่มคนนั้นยังป่วยอยู่เลยนะ เด็กผู้หญิงคนนี้ใจร้ายจริง ๆ!”“อย่าเพิ่งพูดไปเลยน่า ใครจะไปรู้ว่าระหว่างพวกเขาสองคนมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”เป็นอย่างที่คนพวกนั้นพูด ซือชิงเจ๋อป่วยอยู่จริง ๆ ระหว่างทางที่มาโรงพยาบาลเขาก็เริ่มมีไข้ต่ำ ๆ ตอนนี้จึงรู้สึกไม่สบายตัวอย่างมากเมื่อลมหนาวพัดผ่าน เขาก็ไอออกมาสองสามครั้งอย่างห้ามไม่ได้ ใบหน้ายิ่งซีดเผือดลง “ชิวชิว ที่เธอพูดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม?”ซางชิวเอ่ยเสียงเย็นชา “จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ!”ซือชิงเจ๋อกำหมัดแน่น ก่อนจะเค้นรอยยิ้มออกมา “ในเมื่อเธอพูดขนาดนี้แล้ว งั้นฉันกระโดดก็ได้!”พูดจบ เขาก็พุ่งตรงไปยังทะเลสาบจำลองทันที!“แย่แล้ว! เขาจะกระโดดลงไปจริง ๆ ด้วย!”“เร็วเข้า ไปจับเขาไว้ เดี๋ยวก็ได้มีคนตายกันพอดี!”ผู้คนที่มุงดูอยู่พอเห็นสถานการณ์เช่นนั้นก็ตกใจ ถึงแม้จะตะโกนโหวกเหวก แต่กลับไม่มีใครกล้าพอที่จะก้าวออกไปรั้งเขาไว้ซือชิงเจ๋อปีนข้ามราวกั้นของทะเลสาบ
Komen