แชร์

บทที่ 6 พบหน้าสามีเจ้าของร่าง

ผู้เขียน: sanvittayam
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-22 17:07:28

บทที่ 6 พบหน้าสามีเจ้าของร่าง

ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน หลิวชิงเย่วต้องเจอกับเสียงที่ไม่อยากได้ยินของแม่สามีลอยเข้ามา เธออยากมีคาถาที่ทำให้หญิงแก่ตรงหน้าหายไปจริงๆ

“เป็นลูกสะใภ้บ้านหลี่นี่ดีจริงๆ วันๆ ไม่ทำอะไรนอกจากเดินเข้าไปอวดโฉมในหมู่บ้าน สงสัยคงจะลืมไปว่าตัวหล่อนนั้นแต่งงานแล้ว”

“ใช่เหรอแม่สามี หากการที่เดินเข้าไปในหมู่บ้านเป็นการอวดโฉม แล้วก่อนหน้านี้แม่สามีและสะใภ้คนโปรดมักจะเดินไปทุกวี่ทุกวัน แบบนั้นเขาเรียกว่าอะไร คนหนึ่งเป็นหม้ายสามีตายคนหนึ่งท้องและสามีไป

เป็นทหารนานๆ กลับมาครั้ง เป็นแบบเดียวกับที่แม่สามีกำลังพูดถึงอยู่

หรือเปล่า”

หลิวชิงเย่วคนนี้ไม่ใช่ว่าจะยอมให้ใครด่าว่าฟรีๆ หรอกนะจะบอกให้ ด่ามาด่ากลับสิคะกลัวที่ไหน แค่แม่สามีไม่ใช่แม่เจ้าของร่างนี้เสียหน่อยกลัวทำไม ถ้าแม่สามีดีก็ว่าไปอย่าง

“นังชิงเย่วแกกล้าด่าฉันเหรอ นังสะใภ้เลว” นางจ่างซื่อโกรธจน

ตัวสั่นชี้หน้าด่าหลิวชิงเย่วอย่างโมโห

“ฉันไม่ได้ด่าซะหน่อย ก็เห็นแม่สามีพูดแบบนี้กับฉัน ฉันก็เลย

พูดตาม ฉันผิดตรงไหน อ้อ...ถ้าหากฉันเป็นสะใภ้เลว แม่สามีควรจะบอกให้ลูกชายหย่ากับฉันซะ ในเมื่อภรรยาตัวจริงท้องแล้วจะเก็บภรรยาในนามแบบฉันไว้ทำไม” หลิวชิงเย่วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เธอไม่ได้ด่าแค่พูดแบบเดียวกันเท่านั้นเอง ก่อนจะท้าทายแม่สามีกลับเรื่องหย่า

“แกอย่าคิดว่าอาเฉียงจะไม่กล้าหย่ากับแกนะ ในเมื่อเมียที่แท้จริงของอาเฉียงกำลังท้อง อย่างน้อยๆ อาเฉียงต้องเห็นแก่ลูกและเมียที่เขารัก” คอยดูเถอะอาเฉียงกลับมาเธอจะบอกให้เขาหย่ากับนังชิงเย่วแน่ หลิวชิงเย่วแทบจะบนบานศาลกล่าวให้เรื่องหย่านั้นเป็นเรื่องจริง

“ใครจะหย่ากับใครครับแม่” หลี่เหว่ยเฉียงเดินเข้ามาทันได้ยินแม่และภรรยาอีกคนของเขาท้าทายกันเรื่องหย่า

หลิวชิงเย่วเองพอได้ยินเสียงผู้ชายเธอจึงหันไปมองว่าใคร จึงเจอเข้ากับสามีของร่างนี้และคิดว่าหลี่เหว่ยเฉียงนั้นเป็นผู้ชายที่ดูดีคนหนึ่ง

ยิ่งอยู่ในชุดเครื่องแบบทหารเขาเท่ไม่เบาเหมือนกัน มิน่าล่ะเพราะหน้าตาแบบนี้ยังไงจึงทำให้ซวี่เซิ่งเสว่ยอมแต่งเข้ามาเป็นเมียน้อย และหน้าตา

แบบนี้นี่เองทำให้หลิวชิงเย่วคนเก่าหลงหัวปักหัวปำ ถึงขั้นยอมทุกอย่าง

ไม่ว่าตัวเองจะเสียเปรียบบ้านหลี่ขนาดไหนก็ตาม

“ฉันเอง ฉันบอกแม่คุณว่าในเมื่อฉันเป็นสะใภ้เลวก็ควรจะให้

คุณหย่ากับฉันซะ อีกอย่างตอนนี้ภรรยาคุณก็ท้องจวนจะคลอดในไม่กี่เดือนอยู่แล้ว เราสองคนควรจะเดินทางใครทางมันเสียที”

หลิวชิงเย่วตอนพูดเธอไม่หลบสายตาของคนเป็นสามีเหมือนเช่นที่ผ่านมา ทำให้หลี่เหว่ยเฉียงขมวดคิ้วสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับภรรยาคนนี้ของเขา อีกทั้งแววตาที่เธอมองมากลับสามารถดึงดูดความสนใจจากเขาได้มากทีเดียว

“ใช่อาเฉียง ตอนนี้เซิ่งเสว่ท้องได้เจ็ดเดือนลูกควรจะหย่าได้แล้ว

นี่ก็ผ่านมาสองปีลูกดูแลเธอตามสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้านายเก่านานแล้วนะ” นางจ่างซื่อยังพูดไม่ทันจบ หลี่เหว่ยเฉียงสวนกลับมาแบบไม่ต้องคิด

“ไม่หย่า ยังไงก็ไม่หย่า ผู้พันหลิวช่วยชีวิตผมไว้และผมเองได้สัญญากับท่านไว้แล้วว่าจะดูแลชิงเย่วไปตลอด ผมผิดสัญญาไม่ได้แม่เข้าใจผมด้วยนะ”

“แล้วแต่แกก็แล้วกันอาเฉียง แต่แกไม่สงสารลูกที่กำลังเกิดมาเหรอ ที่ต้องได้ชื่อว่าเป็นลูกบ้านรองลูกนอกสมรส” แม่เฒ่าหลี่ใช้หลาน

ในท้องมาเป็นข้ออ้างเพราะคิดว่าลูกชายจะต้องเห็นใจภรรยาอีกคน

“ในเมื่อมันคือความจริงลูกผมต้องรับได้” ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาต้องพูดไปแบบนั้น เขารู้ดีว่านี่เป็นการทำร้ายจิตใจภรรยารักของเขามาก

ก็ตาม

“อย่าเพิ่งมั่นใจไปเลย ในเมื่อเราทั้งสองไม่มีความรักให้กันฉันว่าหย่าให้จบๆ นะดีแล้ว อีกอย่างคำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณพ่อมันควรจะจบได้แล้วเช่นกัน แต่ตอนนี้เชิญพวกคุณอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาไปเถอะนานๆ จะเจอกันทีคงคิดถึงแทบขาดใจ ส่วนฉันขอตัวก่อนนะ”

หลิวชิงเย่วไม่คิดที่จะสนใจครอบครัวหลี่ไม่ว่าใครก็ตาม ตัวเธอเองตอนนี้ต้องการเพียงแค่ใบหย่าเท่านั้น ไม่รู้ว่าในสมองของหลี่เหว่ยเฉียง

เป็นอะไรขึ้นมาจึงไม่ยอมหย่า จากนั้นจึงเดินเข้าห้องปิดประตูเพื่อที่จะอยู่คนเดียว

“เห็นไหม แกเห็นไหมอาเฉียง นังสะใภ้คนนี้เกิดบ้าอะไรไม่รู้

ไม่เห็นหัวใครเลยสักคน ปกติแกกลับมามันต้องวิ่งเข้ามาดูแลแก แต่นี่อะไรกลับเถียงฉอดๆ และยังปิดประตูใส่หน้าแกอีก” นางจ่างซื่อแค้นจุกอก

ยิ่งเห็นว่าหลิวชิงเย่วไม่สนใจใครเลย แม้กระทั่งลูกชายที่เพิ่งจะกลับมาจากค่ายทหาร หลี่เหว่ยเฉียงไม่ใช่ว่าจะไม่สงสัย แต่ชายหนุ่มไม่พูดอะไรเลือกที่จะเดินเข้าห้องของตัวเองไปอีกคน

บ้านมู่

มู่ยวี่เฉินได้วันพักมาสองอาทิตย์พร้อมกับยื่นใบลาอีกสองอาทิตย์ครั้งนี้เขาสามารถมาอยู่กับน้องๆ ได้เกือบหนึ่งเดือน เมื่อมาถึงหน้าบ้านชายหนุ่มจึงตะโกนเรียกน้องๆ ทั้งสองคนด้วยความคิดถึง

“อาหยาง เสี่ยวปิง พี่กลับมาแล้ว”

มู่หยางและมู่ฟ่านปิงได้ยินเสียงเรียกของพี่ใหญ่ทั้งสองคนรีบวิ่งออกมาจากห้องด้วยความดีใจ “พี่ใหญ่กลับมาแล้ว” สองแฝดโผเข้าสู่อ้อมกอดของพี่ชาย ก่อนที่ทั้งสองคนน้ำตาคลอเพราะเก็บอาการไม่อยู่อีกต่อไป

“ทั้งสองคนเป็นอะไรบอกพี่สิ ทำไมร่างกายจึงได้ผอมลงแบบนี้”

นี่เกิดอะไรขึ้นกับน้องทั้งสองคน เกือบหนึ่งปีที่เขาไม่ได้กลับมาบ้าน ทำไมน้องของเขาจึงได้ตกอยู่ในสภาพเหมือนเด็กขาดสารอาหารล่ะ หรือว่าเขาจะส่งเงินมาให้ใช้ไม่เพียงพอ สองแฝดยังไม่ทันได้ตอบอะไรลุงใหญ่ของ

ทั้งสามคนรีบเดินออกมารับหน้าแทนเพราะกลัวงานเข้าตัวเอง

“เจ้าใหญ่กลับมาแล้วเหรอ ทำไมรอบนี้ไม่เขียนจดหมายหรือว่าโทรมาบอกล่ะลุงจะได้ให้ป้าสะใภ้เตรียมอาหารไว้ให้” มู่เผิงชิงพูดก่อนที่หลานตัวดีทั้งสองคนจะบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ให้กับพี่ชายของพวกมันฟัง

“ไม่จำเป็นหรอกครับลุงใหญ่ จริงสิแล้ววันนี้ทำไมอาหยางแล้วเสี่ยวปิงจึงไม่ไปโรงเรียน ทั้งสองคนบอกพี่ได้ไหม” มู่ยวี่เฉินคำพูดเหมือนจะอ่อนโยน แต่น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความเย็นชาและดุดันตามแบบฉบับของชายหนุ่ม

“คือพวกเราสองคนหยุดเรียนแล้วครับพี่ใหญ่” มู่หยางกลั้นใจบอกพี่ชาย ทันทีที่ได้ยินน้องชายบอก ชายหนุ่มเพิ่มความเย็นชาขึ้นมาหลายส่วน มองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายของพ่อด้วยความดุดัน

“ลุงใหญ่สามารถอธิบายเรื่องนี้กับผมได้ไหม ว่าทำไมน้องทั้งสองคนของผมจึงต้องออกจากโรงเรียน และเงินที่ผมส่งมาให้น้องทั้งสองคน

ทุกเดือนนั้นอยู่ไหน ทำไมอาหยางและเสี่ยวปิงจึงได้ผอมและร่างกายมอมแมมแบบนี้ หวังว่าลุงใหญ่มีคำตอบที่ดีให้กับหลานชายคนนี้นะ ไม่อย่างนั้นก็อย่ามาว่าผมใจร้ายก็แล้วกัน”

สำหรับมู่ยวี่เฉินน้องทั้งสองเหมือนดวงใจของเขา ที่ทำให้เขาสู้และหาเงินส่งกลับบ้านให้มากที่สุด เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของน้องทั้งสอง

หลังจากที่มู่ยวี่เฉินพูดจบ เขาจึงเดินนำน้องทั้งสองคนเข้ามาในบ้าน แต่กลายเป็นว่าทั้งมู่ฟ่านปิงและมู่หยางไม่ยอมเดินเข้าบ้าน ชายหนุ่มจึงขมวดคิ้วและสงสัยหนักกว่าเดิม นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับน้องทั้งสองคนกันแน่ ทำไมทั้งอาหยางและเสี่ยวปิงทำท่าทางเหมือนกับกลัวลุงใหญ่แบบนี้ล่ะ

“ทำไมไม่เข้าบ้าน”

“คือ...” มู่ฟ่านปิงยังไม่ทันตอบกลับมีเสียงของมู่เผิงสอดแทรกขึ้นมา “คือว่าทั้งสองคนขอย้ายมาอยู่ห้องเก็บฟืนด้านนอก”

“ไม่จริงค่ะพี่ใหญ่ หนูกับพี่รองไม่ได้ต้องการย้ายมาอยู่ห้องเก็บฟืนนั่น แต่โดนลุงใหญ่และป้าสะใภ้ให้เราสองพี่น้องย้ายออกมา เพราะจะเอาห้องให้กับลูกของตัวเองอยู่ ส่วนเรื่องเรียนลุงใหญ่ไม่ยอมให้เงินจ่ายค่าเล่าเรียน

เงินที่พี่ใหญ่ส่งมาให้เราสองพี่น้องนั้น หนูกับพี่รองไม่เคยได้จับแม้แต่เฟินเดียว ลุงใหญ่เอาไปปรนเปรอครอบครัวของตัวเอง แต่ละวันพวกเราสองพี่น้องได้กินเพียงน้ำข้าวต้ม หรือไม่ก็แป้งย่างแข็งๆ ไม่เคยได้กินอาหารดีๆ เลยสักครั้ง ไม่เคยอิ่มท้องเลยตั้งแต่พี่ใหญ่กลับไปครั้งนั้น”

มู่ฟ่านปิงพรั่งพรูทุกอย่างออกมาด้วยความอัดอั้นพร้อมกับน้ำตาไหลไม่หยุด ไม่ว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น เธอจะไม่ยอมอีกแล้ว เธอจะบอกกับพี่ใหญ่ทั้งหมด

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   ตอนพิเศษ 4 ซวี่เซิ่งเสว่ - เกาฮ่าวซวน

    ตอนพิเศษ 4 ซวี่เซิ่งเสว่ - เกาฮ่าวซวนหลังจากที่ตัดสินใจก้าวเดินออกมาจากหลี่เหว่ยเฉียงพร้อมกับลูกน้อย ซวี่เซิ่งเสว่ไม่ได้รับความลำบากเท่าไหร่ เมื่ออยู่ภายใต้การดูแลของนายหญิงโรงน้ำชาในเวลาสามสี่ปีที่ผ่านมา มีเกาฮ่าวซวนที่คอยดูแลเธอและลูกมาตั้งแต่ก้าวเท้าเหยียบปักกิ่ง ตอนนี้เธอจึงมีตำแหน่งหัวหน้างานด้านห้องอาหารและดูแลในส่วนของการแสดงของโรงน้ำชาเหมยกุ้ยเสี่ยวเหยาอายุสี่ขวบ ใครเห็นก็หลงรักแม่หนูน้อยคนนี้ คำแรกที่เรียกได้คือคำว่าพ่อ ซึ่งนั้นก็คือเกาฮ่าวซวน เธอเองก็เกรงใจเพราะพี่ฮ่าวซวนยังไม่แต่งงาน และไม่ใช่มองไม่ออกว่าเขาคิดยังไงกับเธอ แต่บาดแผลที่เธอเจอมามันสาหัสนัก อีกทั้งหลี่เหว่ยเฉียงคือรักแรก มันยากที่จะลืมจริงๆ แต่คงมีสักวันที่เธอลืมได้และขจัดภาพของหลี่เหว่ยเฉียงออกจากหัวใจ เพราะถ้าหากเธอรับรักพี่ฮ่าวซวนตอนนั้นเท่ากับเธอทำร้ายทั้งตัวเธอเองและพี่ฮ่าวซวน จนมาถึงวันนี้เธอคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วที่จะเปิดรับเขาเข้ามาในชีวิต เป็นพ่อจริงๆ ของเสี่ยวเหยาตัวน้อยเสียทีเย็นนี้ซวี่เซิ่งเสว่จึงกลับมาทำอาหารด้วยรอยยิ้มและเต็มเปี่ยมด้วยความสุข เพราะเธอนัดให้พี่ฮ่าวซวนมากินอาหารด้วยกัน ระหว่างที่ทำ

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   ตอนพิเศษ 3 อาเผย - ซินอี้

    ตอนพิเศษ 3 อาเผย - ซินอี้หลังจากส่งนายหญิงกลับบ้าน อาเผยจึงให้ลูกน้องสืบเรื่องของหมอซินอี้คนสวย หลังจากนั้นไม่กี่วันเขาก็ได้รับคำตอบว่าคุณหมอซินอี้นั้นเป็นใคร ซินอี้เป็นลูกสาวนักการทูตประจำที่ปักกิ่ง มีพี่ชายเป็นทหารซึ่งก็คือนายพลจ้าน ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมของตัวเองหรือไม่ สนใจหญิงสาวครั้งแรกดันไปรักน้องสาวท่านนายพลเสียได้ แต่พอคิดว่าฐานะนั้นต่างกันเกินไปอาเผยจึงคลายความสนใจของตัวเองและตั้งหน้าทำงานตามปกติจนวันที่นายท่านกลับมาจากการฝึกซ้อมรบจากสถานที่จริงนายท่านให้กำลังใจและบอกให้เดินหน้า หากมั่นใจเขาและภรรยาจะเป็นเถ้าแก่ไปสู่ขอให้เอง ใครบ้างจะกล้าปฏิเสธคนสนิทของนายท่านแห่งโรงน้ำชาเหมยกุ้ยวันเวลาผ่านมาจนถึงวันที่หมอซินอี้ตอบรับคำเชิญของหลิวชิงเย่ว แม้ว่าจะไม่ได้มาต้อนรับด้วยตัวเอง แต่ก็ส่งอาเผยมาต้อนรับแทน“สวัสดีครับคุณหมอซินอี้” อาเผยเดินยิ้มร่าเข้ามาเมื่อพนักงานมาบอกว่าคุณหมอมาถึงแล้ว“สวัสดีค่ะคุณ...” ซินอี้ยิ้มให้และทักทายกลับไปแต่เธอไม่รู้จักชื่อของชายตรงหน้าจึงทำหน้าเหมือนจะถาม“ผมชื่ออาเผยครับ”“สวัสดีค่ะคุณเผย คุณไม่ต้องเรียกฉันคุณหมอหรอกนะคะ มันเป็นทางการจนเกินไปเ

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   ตอนพิเศษ 2 มู่ฟ่านปิง-มู่หยาง

    ตอนพิเศษ 2 มู่ฟ่านปิง-มู่หยางอย่าคิดว่าเหวินตงจะปล่อยร่างบางไป ในเมื่อเธอคือดวงใจของเขา เขาแอบรักมาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นรอยยิ้มของเธอตอนเรียนมัธยมปลายแล้ว คิดว่าเขาจะปล่อยไปง่ายๆ เหรอ ไม่มีทางหรอก “ไม่ครับ พี่ไม่ปล่อย เสี่ยวปิงเต็มใจเป็นของพี่ พี่ก็ดีใจมากแล้วไม่จำเป็นต้องวางยาตัวเองหรอกนะ เพราะไม่เช่นนั้นเราจะไม่ได้นอนทั้งคืนแน่คืนนี้” เหวินตงพูดอย่างเจ้าเล่ห์ เนื้อกวางมาถึงปากแล้วคิดว่าเขาจะยอมปล่อยไปเหรอ หากเธอกล้าเดินออกไปจากห้องด้วยสภาพนี้ ใครเห็นเขาจะควักลูกตาออกมาจริงๆ มู่ฟ่านปิงตาโตมองอย่างตกใจ คนบ้านี่พูดไม่อายจริงๆ แต่ก่อนที่จะทันได้คิดอะไร เธอกลับโดนคนที่กำลังจะเป็นสามีอุ้มไปที่เตียงและปลดเปลื้องปราการสองชิ้นสุดท้าย ก่อนจะทำหน้าที่สามีให้เธอด้วยความรักและเป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์ ห้องของซือโถก็ไม่ต่างจากห้องของมู่ฟ่านปิงเท่าไหร่ เพราะมีเจ้านายหนุ่มที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทมานั่งมึนอยู่ในห้อง “นายไม่ไปนอนเหรอ งานพรุ่งนี้ฉันเตรียมให้หมดแล้ว” ซือโถเอ่ยถาม แม้จะชอบชายหนุ่มตรงหน้ามากกว่าคำว่าเพื่อน แต่เธอยังไม่กล้าอาจเอื้อมถึง

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   ตอนพิเศษ 1 พ่อแม่ลูกดก NC

    ตอนพิเศษ 1 พ่อแม่ลูกดก NCมู่ยวี่เฉินตั้งหน้าตั้งตาทำลูกสาวอย่างขะมักเขม้น เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าปีหน้าเขาต้องมีก้อนแป้งตัวน้อยๆ น่ารักน่าชังอีกคนสองคน ทุกครั้งที่ตั้งใจทำสองแฝดมักจะก่อกวนพ่อเช่นเขาตลอด วันนี้ครอบครัวมีงานเลี้ยงอย่างน้อยเขาก็มีโอกาส หลังจากที่คุยกับน้องทั้งสองคนมู่ยวี่เฉินอุ้มภรรยารักเข้าห้องโดยไม่สนใจน้องๆ อีกเลย“ชิงชิงเราเข้ามิติกันเถอะนะ” ปากนั้นออดอ้อนขอเข้ามิติ แต่มือนั้นยุ่มย่ามถอดชุดภรรยาอย่างตั้งใจหลิวชิงเย่วนับวันสามีเธอยิ่งหน้ามึนกว่าเมื่อก่อน นี่ใช่สามีจอมเย็นชาของเธอหรือไม่ ผู้ชายที่เธอเจอตรงลำธารคนนั้นไปไหนแล้ว แม้ว่าจะแอบบ่นในใจแต่ก็ยังพาสามีสุดที่รักเข้ามิติตามคำขอเมื่อเข้ามาในมิติแล้วมู่ยวี่เฉินไม่สนใจอีก อุ้มภรรยารักนั่งที่โต๊ะกลางสนาม เขาจับขาเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะใช้ลิ้นของตัวเองไล่เลียกลีบดอกไม่งามของภรรยารัก ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี ไม่ว่าจะกินและสัมผัสมากี่ครั้ง ดอกไม้ดอกนี้ของภรรยายังคงหอมหวานและสดใหม่สำหรับเขาเสมอไม่เพียงใช้ลิ้นเลียกลีบทั้งสองข้าง เขายังคงใช้ลิ้นตวัดจุดเสียวของภรรยาคือเกสรของดอกไม้ จนทำให้หลิวชิงเย่วบิดตัวด้วยความเสียว แต่กลับต

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   บทส่งท้าย ไม่มีอะไรมาพรากจากกัน

    บทส่งท้าย ไม่มีอะไรมาพรากจากกันสามปีผ่านไป หลิวชิงเย่วไม่คิดเลยว่าธุรกิจของเธอจะก้าวกระโดดได้ขนาดนี้ บริษัทเหมยกุ้ยขยายตัวจนติดอันดับหนึ่งของสายธุรกิจ ลูกชายที่น่ารักตอนนี้ก็อายุห้าปีแล้ว ความแสบความซนยังคงมีอยู่ ส่วนน้องทั้งสองเรียบจบเรียบร้อยแล้ว เธอจึงให้บริหารงานที่ปักกิ่งแทนเธอ พร้อมกับมอบกิจการให้ทั้งสองคนดูแลเพื่อเป็นทรัพย์สินของตัวเองอีกด้วยไม่เพียงแค่ธุรกิจของเธอเท่านั้นที่ก้าวกระโดด ตำแหน่งสามีของเธอเช่นกัน ตอนนี้ได้ติดยศเป็นผู้พันด้วยแรงสนับสนุนของพ่อบุญธรรม ท่านเกษียณตัวเองเพื่อออกมาดูแลและเลี้ยงหลานๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงท่านอื่น ไม่ใช่เพราะฐานะของนายท่านมู่ แต่เพราะความสามารถของตัวมู่ยวี่เฉินเองด้วยหากจะไม่พูดถึงหลี่เหว่ยเฉียงอดีตสามีของเธอคงไม่ได้ หลังจากที่สอบสวนและโดนโทษของการคบชู้แล้ว เขายังติดคุกเพิ่มอีกสามปีข้อหาพยายามทำร้ายเพื่อทหารด้วยกัน ในช่วงที่ติดคุกนางจ่างซื่อหรือแม่เฒ่าหลี่ตรอมใจที่ลูกชายโดนจับ และหญิงสาวที่หมายมั่นว่าจะเป็นลูกสะใภ้เธอกลับไม่สนใจ หลังจากรับโทษเสร็จหญิงสาวรายนั้นก็มีคนรักใหม่แม้อยากจะสืบหาสวี่เซิ่งเสว่แค่ไหนก็ไม่ได้ข่าวคราวเลย ทำให้นา

  • การเกิดใหม่ของนางร้ายหลงยุค (ยุค80)   บทที่ 45 ความสำเร็จ

    บทที่ 45 ความสำเร็จการใช้ชีวิตของทุกคนยังคงดำเนินไปตามที่ควรจะเป็น กิจการของหลิวชิงเย่วนั้นเจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆ เธอยังติดต่อส่งขายเครื่องสำอางไปยังต่างประเทศ สร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง หากถามว่าเธอยังเอาของออกมาจากมิติไหม ตอบเลยว่ามีบ้างอย่างแต่ไม่ทั้งหมดตอนนี้เธอสร้างโรงทอผ้าเองแม้ว่าจะมีผ้าในมิติมากมายก็ตาม แต่ถ้าเกิดวันหนึ่งลูกค้าถามว่าเอาผ้ามาจากไหนจะให้เธอตอบยังไง โรงงานของเธอนอกจากผลิตและตัดเย็บให้ร้านชิงเย่วบูติกแล้ว ยังผลิตให้ลูกค้ารายอื่นๆ อีกด้วย แต่แบบที่เปิดขายนั้นจะไม่ซ้ำกับร้านของเธอส่วนเนื้อผ้าขึ้นอยู่กับราคาและต้นทุนที่ลูกค้าให้งบมา ส่วนโรงน้ำชาจะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ ตั้งแต่เริ่มทำจนถึงวันนี้ก็สามปีแล้ว ตอนนี้โรงน้ำชาขยายเพิ่มไปอีกหลายสาขา ส่วนโชว์รูมรถยนต์ก็มียอดสั่งซื้อเข้ามาตลอดเช่นกัน ตอนนี้พี่ใหญ่จ้านซากำลังติดต่ออีกสองยี่ห้อเพื่อเป็นตัวแทนขาย หลิวชิงเย่วจะใช้เงินต่อเงินในการทำธุรกิจ นอกจากธุรกิจที่พูดก่อนหน้านี้ยังมีที่ห้างสรรพสินค้าที่กำลังก่อสร้างและโรงแรม ยังไม่รวมอะพาร์ตเม้นต์และคอนโดที่กำลังทำ ภายในสามปีเธอสร้างได้ขนาดนี้ถือว่าธุรกิจโตพอสมควรส่วนสองแฝดก็อา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status