Beranda / รักโบราณ / กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ / ตอนที่7 เมื่อธิดาคนงามกลายเป็นตุ๊กตากระเบื้องที่มีตำหนิ

Share

ตอนที่7 เมื่อธิดาคนงามกลายเป็นตุ๊กตากระเบื้องที่มีตำหนิ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-05 00:16:16

คนได้รับบาดเจ็บ แต่หนักที่สุดเห็นจะเป็นท่านหญิงกุ้ยอินที่ใช้กายต่างโล่บังธนูอาบยาพิษให้ฉินอ๋อง

แต่สวรรค์ยังมีเมตตา รองแม่ทัพหนุ่มเยี่ยนหยางจงช่วยถอนพิษได้ทันการณ์ หาไม่แล้วแคว้นหานคงสูญเสียยอดพธูผู้งามล้ำไปหนึ่งนาง

พิษที่อาบอยู่บนธนูนั้นร้ายแรงยิ่งนัก ทำจ้าวกุ้ยอินสลบไสลอยู่นาน แต่พอจะมีสติขึ้นมาบ้างก็ต้องทรมานกับบาดแผลจากคมธนู หมอหลวงจำต้องจ่ายยาระงับความเจ็บปวดอย่างแรง จึงเป็นเหตุให้นางได้แต่หลับ ๆ ตื่น ๆ กินเวลาเป็นแรมเดือน ซึ่งช่วงเวลานี้จวนฉินอ๋องจัดงานสมรสพระราชทานอย่างยิ่งใหญ่อลังการ

เยี่ยนเยว่ฉีกลายเป็นฉินหวางเฟย ส่วนสตรีที่เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องคนผู้หนึ่งกลับต้องนอนซมอยู่บนเตียงไร้การเหลียวแลจากอีกฝ่าย

จ้าวอ๋องทั้งเดือดดาลและผิดหวัง ธิดาของเขาบาดเจ็บสาหัสจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แล้วไหนจะรอยแผลเป็นน่าเกลียดบนแผ่นหลังนั่นอีก สตรีที่เรือนร่างมีตำหนิจะมีบุรุษใดต้องการแต่งงานด้วยเล่า และที่จ้าวกุ้ยอินต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ก็เพราะช่วยชีวิตฉินอ๋อง เช่นนั้นเขาก็ควรรับผิดชอบโดยการรับนางเป็นชายารองไม่ใช่หรือ นี่เวลาก็ล่วงเลยจนบุรุษหน้าตายผู้นั้นตบแต่งชายาเอกเรียบร้อยแล้ว ไฉนจึงยังนิ่งเฉยเรื่องธิดาของตนเองอยู่อีก

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ในที่สุดจ้าวอ๋องก็ต้องบากหน้าไปขอเข้าเฝ้าไทเฮาเป็นการด่วน แต่พอออกมาจากตำหนัก สีหน้าซึ่งแต่เดิมก็ไม่ค่อยแช่มชื่นอยู่แล้วยิ่งดำทะมึนหนักกว่าเก่า เหล่านางกำนัลขันทีต่างลอบมองอยู่ห่าง ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้

จวนจ้าวอ๋อง

พอลงจากรถม้าได้จ้าวอ๋องก็ก้าวเท้าฉับ ๆ ไปยังเรือนหลักด้วยใบหน้าดำทะมึน สองมือกำแน่น รังสีกดดันแผ่กำจายไปรอบตัว บ่าวรับใช้ต่างตัวสั่นงันงกไปตาม ๆ กัน

เมื่อหญิงรับใช้แจ้งว่าบิดากลับมาแล้ว จ้าวเฟิงเหลยก็รีบรุดมาที่เรือนหลัก ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้าไปก็ได้รับเสียงตวาดดังสนั่นเป็นการทักทาย

“ออกไปให้หมด!” จ้าวอ๋องแผดเสียงทั้งที่ไม่ได้มองว่าผู้มาเป็นใคร

“ท่านพ่อ... นี่ลูกเอง” จ้าวเฟิงเหลยตอบกลับไปอย่างนุ่มนวลกว่าปกติ เพราะไม่ต้องการกระตุ้นโทสะที่ยังไม่มอดดับของผู้เป็นบิดา

“เหลยเอ๋อร์ เองรึ” จ้าวอ๋องพยายามกลืนความโกรธขึ้งลงท้อง แต่คิ้วที่ขมวดจนเป็นปมแน่นมิอาจคลายออกได้ ราศีบนใบหน้าไม่ผุดผ่องดั่งที่เคยเป็น

จ้าวเฟิงเหลยเห็นเช่นนั้นก็พอจะเดาได้ว่าไทเฮาคงให้คำตอบอันไม่น่าอภิรมย์นัก เห็นทีมู่เลี่ยงหรงคงหาเรื่องปฏิเสธที่จะรับจ้าวกุ้ยอินเข้าจวนเป็นแน่ จึงเค้นเสียงเย็น “เกรงว่าฉินอ๋องคงหาเหตุปฏิเสธอินเอ๋อร์กระมัง”

“หึ! เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ฉินอ๋องก็ยังยืนกรานว่าจะไม่รับอินเอ๋อร์ของเราเข้าจวน หนำซ้ำยังตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจจะเป็น ‘แผนทุกข์กาย’ เสียอีก ไม่คิดเลยว่าคนอย่างเขานอกจากจะเย็นชาแล้ว ยังใจดำอำมหิต เนรคุณเป็นที่สุด”

“เกินไปแล้ว ที่อินเอ๋อร์ต้องเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะเขาหรืออย่างไร”

“เสียแรงที่น้องสาวเจ้าทุ่มเททุกอย่าง กระทั่งชีวิตก็มิได้นำพา ช่างสูญเปล่าโดยแท้”

“ลูกเองก็สงสารน้องหญิงจับใจ ไม่อาจทนเห็นนางเฝ้ารอคอยบุรุษผู้นั้นได้อีกแล้ว ท่านพ่อ... ไม่สู้เราขอพระราชทานสมรสให้อินเอ๋อร์แต่งกับเชื้อพระวงศ์ หรือคุณชายตระกูลใหญ่สักคนเป็นอย่างไร ไม่เห็นต้องไปง้องอนจวนฉิน”

แม้จะเห็นด้วยกับบุตรชาย แต่พอคิดถึงเรื่องในอดีตจ้าวอ๋องพลันส่ายศีรษะ พูดอย่างจนใจ “หากยังจำตอนหานอ๋องมาสู่ขอนางได้ เจ้าคงพอจะเดาออกกระมัง ขนาดข้ายังไม่ทันตกปากรับคำอินเอ๋อร์ก็กระโดดลงสระบัวไปแล้ว หากครานี้เคลื่อนไหวโดยพลการ เกรงว่านางจะทำอะไรไม่คิดอีก”

“แต่อีกไม่กี่เดือนอินเอ๋อร์จะอายุครบสิบเก้าปีแล้ว หากปล่อยเอาไว้เยี่ยงนี้ เกรงว่าสุดท้ายจะแต่งได้เพียงขุนนางธรรมดาที่ไร้ซึ่งความโดดเด่นเท่านั้น”

พอได้ยินความจริงตอกย้ำหัวใจจ้าวอ๋องก็รู้สึกผิดขึ้นมา สาเหตุที่ธิดาผู้เกิดจากชายาเอกเพียงคนเดียวต้องเป็นเช่นนี้ ความผิดส่วนหนึ่งก็มาจากการตัดสินใจของเขา

ครั้งยังยาว์วัย พวกผู้ใหญ่ต่างเห็นดีเห็นงามคิดจับคู่มู่เลี่ยงหรงกับจ้าวกุ้ยอิน ใคร ๆ ก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าท่านหญิงน้อยเหมาะสมกับองค์ชายเก้าในเวลานั้นยิ่งนัก ทำให้บุตรสาวปักใจเชื่อเช่นนั้นเสมอมา ต่อให้มู่เลี่ยงหรงมีทีท่าเย็นชาห่างเหิน เพราะธิดาของเขาดันไปมีเรื่องกับบุตรสาวของเซวียนผิงโหวก็ตาม แต่นอกจากจะไม่ได้ถือสาแล้ว นางกลับพยายามเรียนรู้การเป็นชายาเอกที่ดีมาโดยตลอด

สุดท้ายตำแหน่งฉินหวางเฟยก็หลุดลอย กระทั่งชีวิตของตนเองยังเกือบรักษาเอาไว้ไม่ได้

จ้าวอ๋องก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ รู้สึกทั้งเสียใจและเสียดายที่สตรีงดงามผู้หนึ่งกลับกลายเป็นตุ๊กตากระเบื้องมีตำหนิ

“เอาเถิด ตอนนี้อินเอ๋อร์ก็อายุมากแล้ว อีกอย่าง แผลเป็นที่กลางหลัง...”

“แต่ด้วยฐานะของน้องหญิงย่อมได้แต่งเป็นภรรยาเอกอย่างแน่นอน แต่หากมีผู้ใดใจกล้ามาขอนางไปเป็นบ้านรองล่ะก็ ลูกนี่แหละจะจัดการสับมันเป็นหมื่นชิ้น” จ้าวเฟิงเหลยกล่าวอย่างหนักแน่น นัยน์ตาสีน้ำหมึกเข้มลึกขึ้นในฉับพลัน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่104 จบ

    ก่อนจะถึงวันครบรอบแต่งงาน เยี่ยนหยางจงก็หว่านล้อมจ้าวกุ้ยอินให้ออกมามาล่องเรือเล่นกับเขาได้สำเร็จทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณทิศใต้ของเมืองหลวง รอบ ๆ เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานา ทำให้ทัศนียภาพแปลเปลี่ยนไปในแต่ละฤดูเนื่องจากยามนี้เป็นปลายฤดูร้อนแล้ว อากาศจึงเย็นสบายกำลังดีจ้าวกุ้ยอินนั่งหันหน้าไปทางหัวเรือ สองสายตามองตรงไปยังท้องน้ำที่เปล่งประกายยามต้องแสงอาทิตย์ แม้จะฉากหลังจะงดงามราวภาพวาด ทว่าดวงหน้างามปานล่มเมืองกลับหม่นเศร้า แววตาที่เคยเด็ดเดี่ยวดังนางม้าป่าดูซึมเซาจนเยี่ยนหยางจงสะท้อนใจโดยปกติ สำหรับผู้สูงศักดิ์ บ่าวไพร่มีค่าไม่ต่างจากมดปลวก เขาไม่คิดว่าการที่ตนเองพรากชิวสุยไปจากจ้าวกุ้ยอิน จะสร้างความกระทบกระเทือนจิตใจให้นางขนาดนี้ตั้งแต่ออกจากจวนจนถึงตอนนี้ จ้าวกุ้ยอินพูดกับเขานับคำได้ หากตนเองยังไม่ทำอะไรสักอย่าง เกรงว่าหยางจงน้อยคงจะไม่ได้เกิดเป็นแน่ครั้นแล้วเยี่ยนหยางจงก็ออกแรงพายเรือให้เร็วขึ้นอีก จนกระทั่งพวกเขาออกมาไกลจากเรือลำอื่น ๆจ้าวกุ้ยอินเหม่อมองเบื้องหน้าอย่างคิดไม่ตก นางเองก็ไม่อยากเป็นเช่นนี้ แต่ส่วนลึกไม่อาจให้อภัยตนเองได้ เพราะถ้าชิวสุ่ยยังมีชีวิตอยู่ ป่านนี

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่103 ตอนพิเศษ เรื่องค้างคาใจของจ้าวกุ้ยอิน

    หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายผ่านพ้น เยี่ยนจิ้นหลิงก็ไปบอกกับมารดาว่าจ้าวกุ้ยอินสุขภาพสมบูรณ์ดีแล้ว ขอเพียงเยี่ยนหยางจงขยันหว่านเมล็ดพันธุ์ นางจะต้องตั้งครรภ์อย่างแน่นอน ไป๋หลันได้ยินดังนั้นก็ยินดีอย่างยิ่ง ถึงกับยกเลิกการคารวะยามเช้า และส่งของบำรุงทั้งหลายแหล่มาให้ ยามนี้จ้าวกุ้ยอินจึงดูอวบอิ่มมีน้ำมีนวลยิ่งกว่าที่เคยเนื่องจากสถานการณ์สงบแล้ว จ้าวกุ้ยอินจึงมีใจอยากออกไปพบปะผู้คนบ้าง เยี่ยนหยางจงมิได้มีปัญหา แต่ยังรู้สึกไม่วางใจ จึงสั่งให้ฟางหรู หนิงเหอ จิวซิน และอวิ้นเซียนติดตามไปด้วยทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงของจวนใด ภาพที่ผู้อื่นคุ้นชินคือขบวนของฮูหยินซื่อจื่อไคกั๋วกง ยิ่งเห็นจ้าวกุ้ยอินปฏิบัติกับเหล่าอนุอย่างดี อีกทั้งสายตาของพวกนางก็เต็มไปด้วยความเคารพนบนอบยิ่ง ทำให้ชื่อเสียงเรื่องความใจกว้างของจ้าวกุ้ยอินระบือไกล โดยหารู้ไม่ว่าสตรีทั้งสี่เป็นเพียงอนุแค่ในนาม แท้จริงแล้วพวกนางสี่คนคือองครักษ์หญิงที่เยี่ยนหยางจงกับจ้าวอ๋องจัดหามาให้ และทุกครั้งที่เขาไปหาพวกนาง ก็เป็นเพียงฉากบังหน้า แต่แท้ที่จริงลอบออกไปทำภารกิจลับยามราตรีต่างหากสตรีผู้เดียวที่เยี่ยนหยางจงร่วมเรียงเคียงหมอนก็คือจ้า

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่102 อย่าทำหน้าแบบนั้น

    “นั่นเพราะสวรรค์สร้างให้พี่ชายข้าเกิดมาเป็นคนพิเศษอย่างไรเล่า” เยี่ยนหยางจงเคยได้รับบาดเจ็บบริเวณใกล้เคียงจุดนี้มาก่อน ทำให้รู้ว่าหัวใจของพี่ชายอยู่ทางอกด้านขวา ดังนั้นยามเห็นปิ่นปักอยู่ทางอกซ้ายจึงยังใจเย็นอยู่ได้“หากเจ้ารู้อาการดีก็ควรรีบบอก แกล้งอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เช่นนี้ไม่ได้มีเพียงแต่กุ้ยอินที่ใจเสีย พวกข้าเองก็ไม่ต่างกัน” จ้าวเฟิงเหล่ยถอนใจเบา ๆ“จวิ้นอ๋อง อย่าทำหน้าแบบนั้น นางสิผิดที่ไม่ฟังอะไรเลย จู่ ๆ ก็มาตีโพยตีพายใส่พวกเราโดยไม่นึกถึงความผิดตัวเองสักนิด อย่างไรก็ปล่อยให้ข้าได้ล้างแค้นเสียหน่อยเถิด” เยี่ยนจิ้นหลิงหาเหตุผลให้การกระทำของตนเองได้สำเร็จภายในห้อง“อาจง อาจง” จ้าวกุ้ยอิงนั่งอยู่ข้างเตียงที่มีเยี่ยนหยางจงนอนเหยียดยาวอยู่ ชายหนุ่มเปลือยท่อนบนเผยให้เห็นแผ่นอกกำยำที่มีผ้าพันแผลพันอยู่ นางพึมพำเสียงเครือขณะที่ลูบใบหน้าคร้ามคมที่ดูเผือดเซียวเล็กน้อย “ท่านเจ็บมากหรือไม่ ขอโทษนะที่ข้า...”“อินเอ๋อร์... พอเถิด ร้องไห้จนตาแดงช้ำไปหมดแล้ว” เยี่ยนหยางจงว่าพลางใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดน้ำตาให้ “แต่ก็ เพราะเสียงด่าเสียงร้องไห้ของเจ้า ทำให้ยมทูตต่างยอมล่าถอย ไม่ยอมมารับดวงวิญญาณของข้าไป

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่101 น้ำเกลือราดรดลงบนแผล

    เยี่ยนจิ้นหลิงสูดลมหายใจลึก รู้ว่าประโยคต่อจากนี้ไม่ต่างจากเอาน้ำเกลือราดรดลงบนแผล แต่ก็ตัดสินใจพูดไป “ท่านไม่คิดบ้างหรือว่าเป็นเพราะท่านที่รนหาที่ พี่ใหญ่จึงต้องบาดเจ็บเช่นนี้”จ้าวกุ้ยอินเมื่อได้ยินเช่นนั้นประหนึ่งถูกน้ำเย็นราดรดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ร่างกายเอนซวนซบเข้ากับเสาอย่างหาที่พึ่งพิง “รนหาที่หรือ? ข้าเพียงแค่อยากรู้เท่านั้นว่าภาพของอู๋หมิงกงจื่อที่นำมาประมูล เป็นภาพเดียวกันกับที่ข้าพบในห้องหนังสือของเขาหรือไม่เท่านั้น... เพียงเท่านั้น”“อู๋หมิงกงจื่อ... อู๋หมิงกงจื่อ ถ้าท่านพอใจในผลงาน ไฉนจึงไม่ขอกับพี่ใหญ่เล่า เขาใช้เวลาไม่นานก็วาดให้ท่านได้ จะเอากี่สิบกี่ร้อยภาพก็ตามแต่ใจท่าน... สวรรค์... ท่านกลับทำให้เขาต้องมาเจ็บตัวเพราะความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องเล็กน้อยเท่านี้เองหรือนี่ ไม่น่าเชื่อเลย” เยี่ยนจิ้นหลิงได้ยินเช่นนั้นพลันส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ เขาเดินมาใกล้กับจ้าวกุ้ยอิน มองใบหน้างดงามที่เผือดซีดราวกระดาษวาดภาพ“เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน” จ้าวกุ้ยอินเงยหน้าขึ้นมาสบตากับน้องเขยของตน ดวงตากลมโตวาววับดังเนื้อทรายนั้นระคนด้วยความสงสัยอย่างไม่ปิดบัง “พี่สะใภ้ ดูท่าพี่ใหญ่คงไม

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่100 ชั่วยามนี้

    “อะไรนะ จ้าวกุ้ยอิน เจ้า... เจ้ากล้าหลอกเปิ่นหวาง” เส้นเลือดตรงขมับของมู่เฟยหรงเต้นตุบ ๆ ยามนี้เขารู้สึกเหมือนมีคำว่าโง่ บรมโง่ ติดอยู่กลางหน้าผาก ถ้าไม่เพราะกลัวหนอนกู่จะกัดกินร่าง เขาคงหลบหนีได้ทัน“นี่พวกเจ้าจะยืนเฉยอีกนานไหม ถ้ายังมัวชักช้า อาจง... อาจงอาจจะตายก็ได้นะ” จ้าวกุ้ยอินไม่สนใจท่าทางกระฟัดกระเฟียดของมู่เฟยหรง แต่หันไปมองมู่เลี่ยงหรงกับเยี่ยนจิ้นหลิงแทน“ขออภัย เปิ่นหวางนึกว่าเขาตายแล้ว” ตอนมู่เลี่ยงหรงเข้ามา เห็นปิ่นเงินปักอยู่ตรงอกด้านซ้ายของเยี่ยนหยางจง ก็คิดว่าเขาไม่น่าจะรอดแล้ว จึงละเลยพี่ภรรยาไป แต่พอรู้ว่าเขายังไม่ตาย ก็บังเกิดความละอายใจเล็กน้อยบรรพบุรุษเจ้าสิตาย! จ้าวกุ้ยอินมองมู่เลี่ยงหรงด้วยดวงตาแดงก่ำ สาปแช่งบรรพบุรุษตระกูลมู่ในใจไม่หยุด “เขายังไม่ตายสักหน่อย”“เด็ก ๆ พาแม่ทัพไป๋หู่กลับจวนไคกั๋วกง” สิ้นคำสั่งของฉินอ๋อง เหล่าองครักษ์ก็จัดการนำร่างของเยี่ยนหยางจงออกไปจากที่นั่น โดยมีจ้าวกุ้ยอินร้องไห้วิ่งตามไปบทส่งท้าย ชั่วยามนี้ จวนไคกั๋วกงเต็มไปด้วยความร้อนรนอลหม่าน หลังจากซื่อจื่อของจวนกลับมาพร้อมกับฮูหยินน้อยที่หายตัวไปในสภาพที่มีแผลฉกรรจ์ตรงหน้าอก อาการเ

  • กำราบรักท่านหญิงจอมพยศ   ตอนที่99 เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร

    “เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร” มู่เฟยหรงไม่เข้าใจว่าเยี่ยนจิ้นหลิงตามมาถูกได้อย่างไร ความจริงพวกเขาควรจะตามไปจัดการกับเอี้ยนอ๋องที่อีกฝั่งหนึ่งของเมืองหลวงสิ ทำไมถึงมาที่นี่ หรือว่าแผนการทั้งหมดล้มเหลว“เรื่องนี้ต้องขอบคุณพี่สะใภ้ จิ้นหลิงเพิ่งรู้ว่าเครื่องประดับมากมายเหล่านั้นก็มีประโยชน์อย่างอื่นด้วย” ระหว่างตามรอยเยี่ยนหยางจง เยี่ยนจิ้นหลิงพบจิงจิงวิ่งอยู่บนพื้นหิมะ จึงได้รับสารขอความช่วยเหลือ“เจ้าพบจิงจิงสินะ” จ้าวกุ้ยอินเข้าใจในทันที“พี่สะใภ้เข้าใจเล่นคำ ‘ตามจิงจิง(อัญมณีแวววาว)มา’ หากเป็นผู้อื่นคงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะให้กระรอกนำทาง แต่บังเอิญเป็นจิ้นหลิงที่ได้รับสารจึงเข้าใจความหมายที่ซ่อนเร้นอยู่” ภาพอัญมณีสะท้อนแสงคบไฟในความมืดเป็นระยะผุดขึ้นในความทรงจำ ยามนี้เขายอมรับแล้วว่าพี่สะใภ้มิใช่ที่มีดีแค่ความเป็นหญิงงาม สติปัญญาของนางยังอยู่ในระดับใช้ได้อีกด้วย“ไว้ชมกันทีหลัง รีบพาอาจงไปรักษาเร็วเข้า” จ้าวกุ้ยอินเร่งเร้า“ย่อมได้” เยี่ยนจิ้นหลิงรับคำ แล้วหันไปหามู่เฟยหรง กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลน่าฟัง “หานอ๋อง ท่านหนีไม่รอดแล้วล่ะ ยอมกลับวังหลวงดี ๆ เถิด จะได้ไม่ต้องมีใครบาดเจ็บอีก จิ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status