ใบหน้าสวยดูโฉบเฉี่ยวมีเสน่ห์อันเย้ายวนของโรสรินตกเป็นเป้าสายตา เธอมีเสน่ห์สามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้จนทำให้ใครบางคนที่ยืนแอบมองอยู่เริ่มรู้สึกไม่พอใจเมื่อมีสายตาของผู้ชายจ้องมองมายังเธอ
ร่างสวยของหญิงสาวสวมรองเท้าส้นสูงก้าวขาเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ดวงตากลมโตมองเห็นป้ายห้องน้ำที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ก้าวขาไปถึงก็มีแรงกระชากตรงข้อแขนทำให้ร่างสวยของเธอเซถลาไปตามแรงดึง พรึ่บ "อื้อ" "อย่าเสียงดังสิครับ มีคนเดินตามคุณมา"เสียงอ่อนทุ้มฟังดูนุ่มนวลดังขึ้นในขณะที่ฝ่ามือใหญ่ของผู้ชายตรงหน้ากดปิดริมฝีปากของเธอไม่ให้เปล่งเสียงออกมา ดวงตากลมโตของโรสรินเงยจ้องมองเจ้าของน้ำเสียงนั้น พลันทำให้เธอใจเต้นสั่นขึ้นมาเพราะผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า คือเขาคนนั้นเจ้าของสายตาที่จ้องมองเธออยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ที่เธอเดินทางมาถึงคลับแห่งนี้ 'หายไปไหนแล้ววะ'เสียงเข้มซึ่งดังแว่วมาทำให้โรสรินชะงัก เธอหันไปมองยังต้นตอของเสียงก็เห็นร่างสูงใหญ่ของอดีตคนรักอย่างอภาคภูมิซึ่งกำลังยืนหัวเสียอยู่ไม่ไกลราวกับว่าเขามองหาอะไรบางสิ่งบางอย่างไม่เจอ ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของอดีตชายคนรักเดินออกไปทำให้โรสรินได้สติหมายจะดันตัวออกห่างจากกายของผู้ชายตรงหน้า แต่ทว่าท่อนแขนใหญ่ของเขาออกแรงโอบเอวบางของเธอเอาไว้ แม้จะอยู่ในสภาวะตกใจแต่โรสรินกลับไม่ปริปากร้องขอให้เขาปล่อยเธอ "ไม่ร้อนเหรอคะ กอดซะแน่นเชียว"เธอเอ่ยปากถามเพราะรู้ดีว่าพยายามหนีก็คงไร้ประโยชน์ที่จะทำ และอีกอย่างเธอเองก็สนใจในตัวของผู้ชายคนนี้อยู่เหมือนกัน "ผมไม่ร้อนหรอกครับ แล้วคุณล่ะร้อนไหมที่ถูกผมกอดอยู่แบบนี้" "ไม่รู้สิคะ ตอนนี้ฉันยังรู้สึกหนาว แต่ถ้าหากคุณเอาแต่กอดไม่ยอมปล่อยอยู่แบบนี้ล่ะก็ ฉันก็อาจจะร้อนขึ้นมาก็ได้"หญิงสาวยื่นใบหน้าสวยดูดีมีเสน่ห์ของตัวเองเข้าไปใกล้ในขณะยื่นฝ่ามือเรียวสวยไปวางไว้บนไหล่หนาไล่ต่ำลงมาจนถึงแผงอกใหญ่ตรงบริเวณด้านซ้ายซึ่งอยู่ใกล้กับต่ำแห่งของหัวใจ "แต่จะว่าไป อยู่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะ อุ่นดี" "อยากอุ่นกว่านี้ไหมล่ะครับ ผมจัดให้ได้นะ"ชายหนุ่มยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้จนปลายจมูกของเขาและเธอแตะชิดกัน "เจอกันยังไม่ทันถึงสิบนาทีเลยนะคะ และเราสองคนเองก็ยังไม่รู้จักชื่อกันเลยจะรีบไปไหนล่ะคะ"เธอเงยหน้าใช้สายตาจ้องมองเขาอย่างท้าทาย "ผม ภัคพงศ์ หรือจะเรียก ภัค เฉย ๆ ก็ได้ครับถ้าคุณไม่รังเกียจ" "ภัคพงศ์ ชื่อเรียกยากจัง"เสียงหวานดังออกมาจากริมฝีปากสวยหญิงสาว เธอเอียงหน้ามองเขาราวกับเด็กน้อยผู้ใสซื่อในขณะที่เธอค่อย ๆ ยื่นเรียวแขนขึ้นมาคล้องลำคอหนาของเขาเอาไว้ "ขอเรียก'ที่รัก'แทนจะได้ไหมคะ ง่ายดี" "ได้สิครับ สำหรับคุณอะไรก็ได้"ชายหนุ่มยิ้มรับ ใบหน้าหล่อไร้ที่ติยื่นเข้าไปใกล้จนริมฝีปากของทั้งสองใกล้ชิดกัน "จะเรียก ที่รัก หรืออะไรก็ได้ตามที่ใจของคุณต้องการเลยครับ" "ปากหวานจังเลยนะคะ"โรสรินคลี่ยิ้มบาง ๆ ออกมา มองปราดเดียวก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้ร้ายไม่เบา เขารุกเธออย่างมีชั้นเชิง ไม่บุ่มบ่ามทำให้เหยื่อตกใจในขณะที่ยังมีท่อนแขนโอบเอวของเธอเอาไว้ไม่ให้ตีตัวออกห่างไปไหนได้ หล่อ ดูดี มีไหวพริบ แบบนี้สิค่อยน่าเล่นสนุกด้วยกันหน่อย "เคยชิมแล้วเหรอครับถึงรู้ว่าปากผมหวาน" "ยังไม่เคยเลยค่ะ แต่ก็คิดว่าคงจะได้ชิมภายอีกในไม่ช้านี้แน่นอน"หญิงสาวดึงฝ่ามือออกมาจากลำคอหนามาแนบสัมผัสกับใบหน้าของเขา ทำเอาชายหนุ่มรู้สึกวูบวาบยามเมื่อปลายนิ้วเรียวสวยของเธอแตะลงบนริมฝีปากสีสดของเขาอย่าแผ่วเบา "ริมฝีปากของคุณดูดีเป็นธรรมชาติจัง สีสดเหมือนกับลูกพีชเลยนะคะ"เธอพึมพำพูดออกมาตามความคิดของตัวเองในขณะที่สายตายังคงจ้องมองริมฝีปากของภัคพงศ์ "อยากลองชมดูไหมล่ะครับ รับรองว่าหวาน อืม"เสียงครางในลำคอดังขึ้นทันทีเมื่อภัคพงศ์พูดจบ ริมฝีปากสีหวานของหญิงสาวประทับรอยจูบอันหวานล้ำลงบนริมฝีปากของเขาอย่างอ้อยอิ่ง นั่นคือสิ่งที่ภัคพงศ์ไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำ ความหวานล้ำเริ่มแทรกซึมเข้ามา ทั้งสองหลับตาถ่ายทอดความหอมหวานผ่านริมฝีปากไปให้ต่างฝ่าย "อื้อ"เสียงครางด้วยความพึงพอใจดังขึ้น รสชาติจูบจากริมฝีปากของเธอยิ่งปลุกอารมณ์ปรารถนาในกายของเขาให้พุ่งสูงมากยิ่งขึ้น ความพึงพอใจในการตอบสนองจากเธอภัคพงศ์เต็มสิบ เธอรู้จักวิธีตั้งรับและหลอกล่อรุกสู่ให้เขาคล้อยตามอย่างมีชั้นเชิง ยิ่งได้สัมผัส ยิ่งได้ดื่มด่ำมันยิ่งยากต่อการถอนตัว ฝ่ามือใหญ่เคลื่อนต่ำลงไปลูบไล้เอวบาง ในขณะที่ฝ่ามือเรียวสวยของหญิงสาวทำหน้าที่ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำตัวหนา นานกี่นาทีแล้วนะที่พวกเขาใช้เวลายืนกอดรัดกันอยู่ในซอกแคบ ๆ ตรงนี้ "อืม ที่รักคะ พอก่อนค่ะ"โรสรินถอนริมฝีปากออกมาด้วยความเสียดายเมื่อฝ่ามือของชายหนุ่มเริ่มสอดเข้าไปในเสื้อลูกไม้สายเดียวของเธอเพื่อหวังกอบกุมทรวงอกใหญ่ "ทำไมล่ะครับ หรือว่าคุณไม่อยากไปต่อ" "เปล่าค่ะ แต่มันต้องไม่ใช่ที่นี่"ภัคพงศ์เหมือนจะคิดได้ ซอกแคบแทบจะไม่มีช่องให้ได้ระบายหายใจในสถานที่แบบนี้มันคงไม่เหมาะที่จะทำเรื่องอย่างว่า "ถ้าอย่างนั้นเราไปดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ ที่ห้องของผมดีกว่านะครับ" "เครื่องดื่มอุ่น ๆ ที่ว่า คืออะไรเหรอคะ"โรสรินฉีกยิ้มหวานเอียงศีรษะถามดูช่างน่ารัก ทำเอาภัคพงศ์หลุดหัวเราะยิ้มออกมากับความน่ารักของเธอ "ถ้าคุณอยากรู้ก็ต้องไปดูที่ห้องของผมนะครับ" พรึ่บ "อ้าว จะกลับแล้วเหรอ"ปัทมาเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนสาวเดินกลับมายังโต๊ะก่อนจะหยิบกระเป๋าใบสวยขึ้นสะพายไหล่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกับคนกำลังมีความสุข "อืม จะกลับแล้ว" "กลับยังไง แท็กซี่เหรอ"ปัทมาลุกขึ้นยื่นเอ่ยถาม ซึ่งบทสนทนาของสองสาวก็เป็นที่สนใจของชายหนุ่มทั้งสี่ โดยเฉพาะภาคภูมิซึ่งดูสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งคำถามจากปากของเพื่อนซี้ทำเอาโรสรินยิ้มตาหยีออกมา เธอก้าวขาเข้าไปใกล้ยื่นใบหน้าไปกระซิบข้าง ๆ ใบหูขาวของเพื่อนสาว "นักล่า" "จริงเหรอ"ปัทมาตาลุกวาวราวกับเห็นของเล่นชิ้นโปรด รอยยิ้มตรงมุมปากของโรสรินซึ่งเป็นเครื่องยืนยันทำเอาปัทมาใจเต้นสั่นแทบจะเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ "อยากเห็นหน้าว่าเป็นใคร หล่อไหมโรส"ปัทมาเอ่ยถามด้วยความสนใจยิ่งสร้างความสงสัยให้กับสี่หนุ่มที่กำลังตั้งใจฟัง "อยากรู้เหรอ" "อืม มาก" "ตรงทางออก ผู้ชายที่ใส่เชิ้ตสีดำและกำลังมองมาทางนี้" พรึ่บ "แม่เจ้า ของดี"ปัทมาร้องออกเสียงหลงออกมาเมื่อสายตาของเธอหันไปมองร่างสูงใหญ่ของชายผู้นั้น "แต่ว่า นั่นมันคุณภัคพงศ์นี่ นักล่าของแท้เลยนะยัยโรส"ปัทมาเอ่ยเตือน เพราะรู้จักชื่อเสียงของอีกฝ่ายมาพอสมควร "จะไหวเหรอ" "ไม่ลองก็ไม่รู้ จริงไหม"มุมปากสวยของหญิงสาวแสะยิ้มส่งไปให้ ความสัมพันธ์ในที่แบบนี้อย่าหวังที่จะได้หาความจริงจังดั่งที่ใจหวังเอาไว้ ใช่ เธอไม่ได้คิดว่าความสัมพันธ์ของเธอกับภัคพงศ์จะยาวนานตลอดไปหลังจากเรื่องราวในค่ำคืนนี้ระหว่างเขาและเธอจบลง "ฉันไปก่อนนะ" "โชคดีล่ะ อย่าหักโหมจนลืมนัดของเรานะ" "โอเค"สองเพื่อนซี้โบกมือลา ร่างสวยของโรสรินเดินฝ่าฝูงชนไปหาร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนรอเธออยู่ตรงหน้าประตู โดยมีสายตาของทั้งห้าคอยลอบมองการกระทำของทั้งคู่ซึ่งกำลังก้าวขาเดินออกไป 'โรสรินเคยเป็นเมียกู เธอเคยเป็นของกู' "คุณภาคภูมิคะ"เสียงหวานของเพื่อนสนิทแฟนสาวดังขึ้นมาดึงสายตาของภาคภูมิให้หันไปมอง เขาก็เห็นร่างของปานชีวาอยู่ในสภาะเมามายจนเพื่อนกลุ่มเธอต้องคอยประคองเอาไว้ "ครับ" "คือยัยปานเมามากแล้วค่ะ พวกเราเลยคิดว่าจะกลับกันแล้ว"สีหน้าและอาการของผู้หญิงคนนั้นดูท่าแล้วก็คงจะเมามากไม่น้อย ในกลุ่มของแานชีวาสภาพคือดูแทบไม่ได้เลยสักคน "ครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง"คนไข้ที่หลับไปติดต่อกันหลายชั่วโมงค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในยามที่ฟ้าด้านนอกเปลี่ยนเป็นสีเข้ม"นะ...น้ำ ขอน้ำหน่อย"น้ำเสียงแหบพร่าจากเตียงของคนไข้ดังขึ้นมาทำให้คุณภูวดลเงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์หันมามอง"ภัคลูก"ผู้เป็นพ่อรู้สึกดีใจจนรีบเดินมาหาลูกชายเมื่อเห็นว่าภัคพงศ์ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว"พ่อเหรอครับ""ใช่ นี่พ่อเอง""ผมขอน้ำหน่อยครับพ่อ""ได้ ๆ เดี๋ยวพ่อเอาน้ำให้นะ ลูกรอแป๊บ"ผู้เป็นพ่อรีบไปรินน้ำใส่แก้วเตรียมหลอดให้กับลูกชาย น้ำเย็น ๆ ช่วยดับกระหายและทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีเมื่อม่านดวงตาของเขากลับมามองเห็นได้ชัดเป็นปกติ ชายหนุ่มก็รีบถามหาคนรักกับบิดาของคนเองโดยทันที"โรสล่ะครับ โรสอยู่ไหน เธอกลับไปแล้วเหรอครับพ่อ""แหม ไอ้เสือ ตื่นขึ้นมาก็ถามหาเมียเลยนะ"คุณภูวดลอดที่จะแซวลูกชายตัวเองไม่ได้ แต่สุดท้ายก็จำต้องบอกลูกชายอยู่ดี"หนูโรสกับแม่ของลูกออกไปธุระที่ข้างนอก เดี๋ยวก็คงจะกลับเข้ามา"แกรก"นั่นไง คงจะพากลับมากันแล้ว"ทั้งสองหันไปมองยังประตูห้องพักก็เห็นโรสรินเดินยิ้มเคียงคู่เข้ามา ทันทีเมื่อทั้งสองเห็นว่าภัคพงศ์ฟื้นตื่นขึ้นมาแล้วกำลังนั่งหน้าคิ้วขมวดเข้าหาอยู่บนเตียงก็ส
ร่างสูงใหญ่ในชุดคนไข้นอนหลับไม่รู้สึกตัวอยู่บนเตียงภายในห้องพักระดับวีไอพีของโรงพยาบาลชื่อดังใจกลางเมืองกรุงโดยมีบิดาและมารดาของเขานั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็นห่วงลูกชายจับใจ"ลูกของเราจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะคุณ""ลูกไม่เป็นอะไรหรอก คุณอย่าพึ่งคิดมากนะ"สองสามีภรรยาช่วยกันปลอบใจ เพราะก่อนหน้านี้หมอที่ได้รับรักษาอาการของภัคพงศ์ได้รายงานอาการของชายหนุ่มให้กับทั้งสามคนฟังว่า'ไม่พบความผิดปกติอะไรในร่างกายของคนไข้นะครับ''แล้วทำไมลูกชายของผมถึงได้เป็นลมหมดสติไปแบบนี้ล่ะครับหมอ''หมอก็ยังตอบไม่ได้เหมือนกันครับว่ามันเป็นเพราะสาเหตุอะไร แต่เท่าจากที่หมอสังเกตดู ที่คนไข้เป็นลมหมดสติไปคงเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่เมื่อครู่หมอได้เจาะเลือดของคนไข้นำไปตรวจดูแล้วทุกอย่างปกติดี เดี๋ยวรอให้คนไข้ฟื้นแล้วหมอจะนำไปสแกนสมองดูอีกทีนะครับ''ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ'"ฉันเป็นกังวลจังเลยค่ะ กลัวว่าลูกจะเป็นอะไร""คุณไม่ต้องเป็นกังวลนะ ผมจะหาวิธีรักษาให้ลูกของเราหาย ภัคพงศ์จะต้องหาย"แกรกเสียงเปิดประตูดังขึ้นดึงสายตาของทั้งสองให้หันไปมองผู้มาใหม่ โรสรินส่งยิ้มให้กับพ่อแม่ของฝ่ายชาย ในมือของเธอตอนนี้นั้นเต็มเ
"เหนื่อยจังเลยครับ ตั้งแต่กลับมาผมก็ยังไม่ได้พักเลย""สู้ ๆ นะคะ คนเก่งของโรส""อยากได้กำลังใจจากเมียจัง ไม่ได้กอดไม่ได้หอมเมียมาเป็นเดือนแล้ว ไม่มีกำลังใจในการทำงานเลย"เสียงโอดครวญของชายหนุ่มดังมาตามสายทำให้โรสรินนึกสงสารและเห็นใจเพราะนับตั้งแต่ภัคพงศ์กลับกรุงเทพไปเวลาก็ผ่านเลยไปจนจะเข้าใกล้เดือนที่สองที่ทั้งคู่ไม่ได้กอดใกล้ชิดกัน ซึ่งได้อาศัยการโทรให้เห็นใบหน้าช่วยบรรเทาพอให้หายคิดถึงได้"แล้ววันนี้ทำงานเสร็จแล้วใช่ไหมคะ กลับถึงห้องแล้วใช่ไหม""ครับ พึ่งจะกลับมาถึงเมื่อกี้ มาถึงห้องผมก็โทรหาคุณเลย"ชายหนุ่มตอบเสียงอ่อนคล้ายกับคนกำลังง่วงนอน ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เธอคิดไว้ ภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอโทรศัพท์ฉายชัดให้เห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะเคลิ้มหลับไป"ถ้าง่วงก็นอนพักผ่อนก่อนก็ได้ค่ะ""ไม่วางสายได้ไหมครับ""ได้สิคะ เดี๋ยวโรสจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง อ้าว หลับเสียแล้ว"แววตาของเธอยามเมื่อมองเขามันช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก โรสรินมองคนที่โหมทำงานหนัก เคลียร์งานทุกอย่างเพื่อจะได้ขึ้นมาหาเธอที่ไร่ไม่ว่าจะโทรคุยกันยามไหน โรสรินก็มักจะสังเกตเห็นสีหน้าและอาการเหนื่อยล้าจากเขาทุกที รวมถึงวันนี้ เพราะ
"ผมไม่อยากไปเลย"นับเป็นครั้งที่สิบแล้วที่ภัคพงศ์พูดเช่นนี้กับเธอ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่เขาจะต้องเดินทางกลับไปทำงาน "ไม่เอาสิคะอย่างอแง""จะไม่ให้งอแงได้ยังไง ผมต้องห่างกับคุณอีกแล้ว"ใบหน้าหล่อเหลาซบลงบนไหล่บางของหญิงสาว สองแขนของเขาโอบกอดร่างสวยเอาไว้แน่น"เอาไว้ถ้าโรสมีเวลาว่าง โรสจะลงไปหาคุณที่กรุงเทพนะคะ""ไปพร้อมกับผมตอนนี้เลยไม่ได้เหรอครับ เดี๋ยวผมช่วยเก็บกระเป๋าให้"หญิงสาวส่ายหน้าไปมาทำเอาชายหนุ่มหน้าหงิกงอราวกับเด็กน้อยพ่อแม่ไม่ตามใจ"กลับไปทำงานเถอะนะคะ อย่าให้คุณท่านต้องทำงานหนัก ไว้โรสมีเวลาแล้วจะบินไปหา""ก็ได้ครับ แต่สัญญากับผมก่อนได้ไหมว่าจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายคนไหนมาจีบคุณอีก"เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ภัคพงศ์รู้สึกเป็นกังวล เพราะไม่กี่วันก่อนมีแขกผู้ชายกลุ่มใหญ่เข้ามาเที่ยวชมไร่ มาชมไร่เขาไม่ว่า แต่มันดันมาขอเบอร์โทรของเธอเขายอมไม่ได้ แต่เขารู้สึกดีใจอย่างหนึ่งที่โรสรินบอกกับผู้ชายกลุ่มนั้นไปว่า'ขอโทษนะคะ ดิฉันมีคนรักอยู่แล้ว'"โรสไม่มองใครหรอกค่ะ ถึงเขาจะมาจีบแต่โรสก็จะบอกไปว่าโรสมีคนรักอยู่แล้ว""ดีมากเลยครับ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ บอกพวกนั้นไปด้วยเลยว่า ของผมทั้งยาวและใหญ่มาก พ
"อืม คุณภัคขา""อ๊าส์ ว่าไงครับคนดี""ยังไม่พอ อืม อีกเหรอคะ"โรสรินเปล่งน้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามชายหนุ่มพลางหรี่ตามองคนด้านบนที่กำลังเล่นสนุกอยู่กับเต้าอวบของเธอทั้งสองข้างอย่างเมามัน"ยังไม่พอครับ ยังได้มากกว่านี้"เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าไม่แพ้กัน "ก็ใครใช้ให้คุณเอาแต่ทำงานจนลืมผมกันล่ะ โอ้ว"เขาเติมเต็มความเป็นใหญ่เข้าไปในช่องทางรักทันทีเมื่อพูดจบปึก"โรสไม่เคยลืมคุณเลยนะคะ อ๊าส์ ก็กลางวันโรสต้องทำงาน อึก อย่ารุนแรงนะสิคะ""นี่เป็นบทลงโทษครับคนดี คุณหนีผม อ๊าส์ ไปทำงานตั้งสามชั่วโมงแหนะ"ชายหนุ่มกดสะโพกขยับแก่นกายเข้าออกช่องทางรักของหญิงสาว ความเสียวซ่านทำเอาโรสรินสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่างกายชายหนุ่มจับขาเรียวของเธอมาเกี่ยวสะโพกสอบของตัวเองเอาไว้ก่อนจะโน้มลำตัวไปด้านหน้าก้มลงฉกชิมความหอมหวานจากยอดทันของเต้าอวบทั้งสองข้าง'ถ้าหากวันไหนไม่ได้ดื่มด่ำความหวานจากเต้าอวบทั้งสองข้างของหญิงสาว เขาก็จะนอนไม่หลับ'ปึก ปึก ปึก"แรงไปแล้วนะคะ อ๊าส์ เดี๋ยวโรสจะต้องออกไปที่รีสอร์ตอีกนะ"แม้ปากจะต่อว่าแต่ก็แอ่นหน้าอกป้อนความหอบหวานใส่อุ้งปากร้อนของชายหนุ่ม"ถ้าคุณไปทำงานจนลืมผมอีก กลับบ้านมาผมก็จ
จุดต้นกำเนิดของน้ำตกอยู่ห่างออกไปยังทิศตะวันออกของไร่ ภัคพงศ์สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นและความอุดมสมบูรณ์ทันทีเมื่อขับรถมาถึง ลำธารน้อยมีสายน้ำใสเย็นเฉียบไหลผ่านสามารถมองเห็นตัวปลาเล็กปลาน้อยแหวกว่ายไหลไปตามกระแสน้ำ"ที่นี่อุดมสมบูรณ์ดีจังเลยนะครับ ไม่เหมือนกับกรุงเทพ""ชาวบ้านแถวนี้เขาอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติเป็นทุนเดิมอยู่แล้วค่ะ เคยมีนายทุนมาขอซื้อที่ไปทำโรงงานนะคะแต่พวกชาวบ้านเขาไม่ขาย"โรสรินตอบชายหนุ่มก่อนเธอจะเดินถือตะกร้าใส่ของทานเล่นนำไปหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ ก่อนจะนำเสื่อผืนใหญ่ออกมากางเพื่อใช้เป็นที่รองนั่ง"บรรยากาศร่มรื่นอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่ขายนะ"ภัคพงศ์นั่งลงด้านข้างหญิงสาว จมูกโด่งเป็นสันสูดดมกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติเข้าเต็มปอด"จะทานอาหารเลยหรือว่าจะนั่งพักก่อนดีคะ""ผมยังไงก็ได้ครับ ว่าแต่โรสเถอะหิวหรือยัง ผมเห็นคุณใช้เวลาอยู่ในครัวเตรียมของพวกนี้ตั้งนาน"ตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมาก็มารู้จากปากของน้ำฟ้าว่าโรสรินออกไปตลาดเพื่อซื้อของเตรียมจะออกมาปิกนิกกับเขาที่นี่ และเธอยังเป็นคนที่จัดเตรียมทุกอย่างด้วยตัวเองโดยไม่ให้เขาเป็นลูกมือช่วยสักนิด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เ