ภัคพงศ์พาร่างสวยของโรสรินเดินมายังลานจอดรถ ดวงตากลมโตของเธอหรี่มองเมื่อเห็นชายหนุ่มพาเธอเดินไปยังรถคันหรูซึ่งมีชายชุดดำยืนรายล้อมอยู่ไม่ไกล แต่หญิงสาวไม่ได้เปิดปากถามอะไรออกไป โรสรินข้าวขาเดินเคียงข้างกายของชายหนุ่มขึ้นรถคันหรูโดยมีชายชุดดำคอยเปิดประตูให้เมื่อเห็นเจ้านายเดินเข้ามา
ปึก "ไปคอนโด" "ครับนาย"เสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ดังขึ้นภายในวินาทีต่อมา โรสรินหันหน้ามายิ้มหวานให้กับชายหนุ่มข้างกาย ฝ่ามือใหญ่ของเขาคอยโอบเอวของเธอไม่ห่างตั้งแต่ก้าวขาเดินออกมาจากไนต์คลับ "หนาวหรือเปล่าครับ" "ไม่ค่ะ อากาศกำลังดี"เธอยิ้มตาหวานเยิ้มเอนกายพิงเบาะหนังสุดหรู การแสดงท่าทางของเธออยู่ในสายตาของภัคพงศ์ทั้งหมด ผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ เธอไม่พยายามออดอ้อนออเซาะหรือทำให้เขารู้สึกรำคาญ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่รู้จักการเอาใจรู้ว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควรทำ "คุณชื่ออะไรเหรอครับ" "ปกติแล้วคุณมักจะถามชื่อของผู้หญิงทุกคนเลยหรือคะ"เธอเอียงหน้าหันมาถาม "เปล่าหรอกครับ ผมถามเฉพาะกับคนที่ผมสนใจจริง ๆ "ภัคพงศ์มองหน้าของเธออย่างไม่ละสายตา เขารู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงตรงหน้าจนอยากได้เธอมาเคียงข้างกาย "ฉันชื่อ โรสรินค่ะ หรือจะเรียกสั้น ๆ ว่าโรสก็ได้" "โรส ที่แปลว่าดอกกุหลาบอย่างนั้นเหรอครับ" "ค่ะ ดอกกุหลาบที่ใครหลายต่อหลายคนบอกว่ามันสวย แต่ก้านของมันกับมีหนามแหลมคม"ราวกับต้องการขวัญอีกฝ่ายให้รู้สึกกลัว แต่สำหรับภัคพงศ์แล้วโรสรินเปรียบเหมือนดอกไม้ที่ทำให้เขารู้สึกสดชื่นในยามเมื่อได้เข้าใกล้ กลิ่นหอมอันเย้ายวนของคนข้างกายมันแทบจะทำให้เขาอดใจแทบไม่ไหวอีกต่อไป ปัง ริมฝีปากสีสดของทั้งคู่บดจูบกันตั้งแต่ก้าวขาพ้นประตูเข้ามา ความอดทนในก่อนหน้านี้หมดลงทันที นารีสาวโอบกอดลำคอหนา สองฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามร่างกายอย่างต้องการสัมผัสให้ถี่ถ้วน ความต้องการของทั้งสองไม่ต่างอะไรจากฉนวนไฟฟ้า ศีรษะของทั้งสองเอียงตอบรับองศาแม้ว่าเครื่องปรับอากาศภายในห้องจะทำงานหนักแต่ก็คงไม่อาจดับความร้อนแรงในกายของทั้งสองได้ "อืม"เสียงครางในลำคอหนาเป็นอันพึงพอใจ ริมฝีปากสีสวยของโรสรินกระตุกยิ้ม เรียวแขนของเธอคลายออกจากลำคอหนา ฝ่ามือเล็กลากต่ำลงมาจนถึงกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเข้มด้านหน้า เธอใช้ทักษะปลดกระดุมทีละเม็ดออกด้วยความชำนาญในขณะที่ริมฝีปากของทั้งสองยังไม่ผละออกจากกัน "อืม โรสครับ ผมทนไม่ไหว" "อย่าพึ่งสิคะ นี่แค่พึ่งเริ่มเองนะคะ"เธอส่งสายตายั่วยิ่งทำให้เลือดภายในกายของชายหนุ่มพลุ่งพล่าน "แต่ผมทรมาน ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้" "อย่ารีบสิคะ"เธอแหงนหน้าขบเบา ๆ ที่ลูกกระเดือกบนของเขาอย่างยั่วยวน "โรสอยากสัมผัสคุณให้ลึกซึ้งกว่านี้"หญิงสาวแหงนหน้าเรียวสวยขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเฉียบขาดของเขาอย่างกล้าหาญ เธอจัดการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ ฝ่ามือเล็กลูบไล้แผงอกอัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามลามมาจนถึงหน้าท้องเรียงรายไปด้วยลอนซิกแพคสวยงามต่ำลงไปถึงแก่นกายซึ่งกำลังผงาดใหญ่ภายใต้กางเกงเพื่อสนองความปรารถนาของเขาที่อดกลั้นมานาน "อืม โรส" "ว่าไงคะ ที่รัก" "คุณกำลังทรมานผม"ชายหนุ่มหน้าแดงก่ำร้องครวญครางออกมาราวกับว่าถูกหมาป่าไล่ล่าเพื่อคิดที่จะจัดการเขา "โรสทรมานคุณตรงไหนกันคะ"เธอเอียงศีรษะถามในขณะที่ฝ่ามือร้อนของเธอนั้นยังคงเคล้นคลึงสัมผัสแท่งใหญ่ผ่านกางเกงตัวหนา ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางออกมาจากปากของชายหนุ่มตรงหน้ามากเท่าไหร่ เธอยิ่งออกแรงเพิ่มเคล้นคลึงความใหญ่โตของเขามากเท่านั้น ยิ่งมันขยายใหญ่ยิ่งทำให้เธอรู้ว่าของผู้ชายตรงหน้าเกินไซซ์มาตรฐานชายไทย ไม่ต่ำกว่าห้าสิบเก้า โรสรินคิดอยู่ในใจ ท่าทางอดกลั้นของเขานั้นยิ่งทำให้โรสรินสนุกไปกันใหญ่ เธอไม่ได้เก่งกาจแต่มักลักจำในหนังมาใช้เพื่อสร้างความเสียวซ่านให้กับอีกฝ่าย "อืม โรส"ลมหายใจของชายหนุ่มหอบถี่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกับผู้หญิงคนไหน แต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับทำให้ร่างกายของเขาร้อนรุ่มดั่งกับมีกองไฟสุมอยู่ด้านใน เพียงแค่เธอใช้ฝ่ามือคลึงเคล้นท่อนเอ็นใหญ่ของเขาก็พร้อมที่จะปริแตกคามือของเธอทันที "อย่าเล่นกับไฟโรส ผมจะทนไม่ไหว" "แต่คุณต้องทนให้ได้ค่ะที่รัก"เธอพูดจบก็จัดการปลดเข็มขัดและกางเกงราคาแพงของชายหนุ่มออกจากร่างกายซึ่งร่างสูงใหญ่คอยอำนวยให้ความสะดวกกับอีกฝ่ายเต็มที "คราวนี้ถึงเวลาของจริงแล้วนะคะ" "อ๊าส์ โรส คุณมัน" แผล็บ แผล็บ แผล็บ ริมฝีปากสีสดจัดการดูดกลืนแก่นกาย ใบหน้าของภัคพงศ์บิดเบี้ยวไปด้วยความเสียวซ่าน เขารู้สึกทรมานจนลืมจังหวะการหายใจ แม้จะเคยมีผู้หญิงทำแบบนี้ให้แต่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาถึงใจเท่ากับเธอ ดวงตาคมกริบฉ่ำหวานก้มมองต่ำ ยิ่งเห็นปลายลิ้นเล็กของเธอดูดเลียลำกายยิ่งทำให้เขาเสียวแทบขาดใจ ผู้หญิงคนนี้จัดว่าอยู่ในหมวดอันตรายต่ออัตราการเต้นหัวใจของเขามากที่สุดเท่าที่เคยเจอมา เธอสวย มีกลิ่นหอม เย้ายวนและร้อนแรงจนทำให้เขาคลั่งและต้องการจะครอบครอง หัวใจของมาเฟียใหญ่ในคราบหนุ่มนักธุรกิจสั่นไหว เธอใช้มือเรียวสวยทั้งสองข้างกอบกุมแก่นกายของเขาเอาไว้ราวกับว่ามันคือสิ่งของล้ำค่า เธอเงยหน้าช้อนดวงตากลมโตมองในขณะที่ริมฝีปากของเธอยังประคองแก่นกายของเขาเอาไว้ และภาพนั้นก็ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของชายหนุ่มได้ขาดลง พรึ่บ "ขอโทษนะครับที่ผมไม่สามารถอดทนไหว" "ก็ไม่ต้องอดทนสิคะ"ว่าแล้วก็ใช้ปลายนิ้วสวยเช็ดคราบน้ำลายตรงบริเวณมุมปากด้วยท่าทีทำให้หัวใจชายละลาย "ถึงตาผมบ้างแล้วนะ" "ว้าย"ร่างของเธอถูกชายหนุ่มอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาว เขาอุ้มเธอไปวางไว้บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องรับแขก เสื้อสายเดี่ยวลูกไม้ตัวสวยที่ไม่ได้ช่วยปิดบังเต้าใหญ่ถูกชายหนุ่มกระชากออกไปจนมันขาดติดมือก่อนจะหันมาจัดการกับกางเกงยีนสีเข้มที่เธอสวมใส่ "คราวหน้าคราวหลังช่วยอย่าใส่ชุดอะไรที่มันถอดยากจะได้ไหมครับ" "ทำไมล่ะคะ ไม่สวยเหรอ" "เปล่าครับ มันเสียเวลาถอดผมไม่อยากฉีกเสื้อผ้าของคุณทิ้ง"ว่าจบแล้วก็เขวี้ยงสิ่งที่เรียกว่ากางเกงของเธอทิ้งไปตามด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่บนร่างกายเหลือทิ้งไว้แค่เพียงชั้นในลายลูกไม้สีดำสุดเซ็กซี่ที่ปิดบังส่วนกลางกายสาวของเธอเอาไว้ ร่างกายสูงใหญ่ของเขาเปลือยเปล่าต่อหน้าของหญิงสาว เธอนอนแน่นิ่งปล่อยให้เต้าอวบใหญ่และความเป็นสาวเป็นสิ่งดึงดูดให้ความสนใจต่อชายตรงหน้า "ใหญ่เป็นบ้า" "จัดการมันสิคะ มันกำลังเรียกร้องลิ้นอุ่น ๆ ของคุณอยู่"คนไข้ที่หลับไปติดต่อกันหลายชั่วโมงค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในยามที่ฟ้าด้านนอกเปลี่ยนเป็นสีเข้ม"นะ...น้ำ ขอน้ำหน่อย"น้ำเสียงแหบพร่าจากเตียงของคนไข้ดังขึ้นมาทำให้คุณภูวดลเงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์หันมามอง"ภัคลูก"ผู้เป็นพ่อรู้สึกดีใจจนรีบเดินมาหาลูกชายเมื่อเห็นว่าภัคพงศ์ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว"พ่อเหรอครับ""ใช่ นี่พ่อเอง""ผมขอน้ำหน่อยครับพ่อ""ได้ ๆ เดี๋ยวพ่อเอาน้ำให้นะ ลูกรอแป๊บ"ผู้เป็นพ่อรีบไปรินน้ำใส่แก้วเตรียมหลอดให้กับลูกชาย น้ำเย็น ๆ ช่วยดับกระหายและทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีเมื่อม่านดวงตาของเขากลับมามองเห็นได้ชัดเป็นปกติ ชายหนุ่มก็รีบถามหาคนรักกับบิดาของคนเองโดยทันที"โรสล่ะครับ โรสอยู่ไหน เธอกลับไปแล้วเหรอครับพ่อ""แหม ไอ้เสือ ตื่นขึ้นมาก็ถามหาเมียเลยนะ"คุณภูวดลอดที่จะแซวลูกชายตัวเองไม่ได้ แต่สุดท้ายก็จำต้องบอกลูกชายอยู่ดี"หนูโรสกับแม่ของลูกออกไปธุระที่ข้างนอก เดี๋ยวก็คงจะกลับเข้ามา"แกรก"นั่นไง คงจะพากลับมากันแล้ว"ทั้งสองหันไปมองยังประตูห้องพักก็เห็นโรสรินเดินยิ้มเคียงคู่เข้ามา ทันทีเมื่อทั้งสองเห็นว่าภัคพงศ์ฟื้นตื่นขึ้นมาแล้วกำลังนั่งหน้าคิ้วขมวดเข้าหาอยู่บนเตียงก็ส
ร่างสูงใหญ่ในชุดคนไข้นอนหลับไม่รู้สึกตัวอยู่บนเตียงภายในห้องพักระดับวีไอพีของโรงพยาบาลชื่อดังใจกลางเมืองกรุงโดยมีบิดาและมารดาของเขานั่งเฝ้าอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็นห่วงลูกชายจับใจ"ลูกของเราจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะคุณ""ลูกไม่เป็นอะไรหรอก คุณอย่าพึ่งคิดมากนะ"สองสามีภรรยาช่วยกันปลอบใจ เพราะก่อนหน้านี้หมอที่ได้รับรักษาอาการของภัคพงศ์ได้รายงานอาการของชายหนุ่มให้กับทั้งสามคนฟังว่า'ไม่พบความผิดปกติอะไรในร่างกายของคนไข้นะครับ''แล้วทำไมลูกชายของผมถึงได้เป็นลมหมดสติไปแบบนี้ล่ะครับหมอ''หมอก็ยังตอบไม่ได้เหมือนกันครับว่ามันเป็นเพราะสาเหตุอะไร แต่เท่าจากที่หมอสังเกตดู ที่คนไข้เป็นลมหมดสติไปคงเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่เมื่อครู่หมอได้เจาะเลือดของคนไข้นำไปตรวจดูแล้วทุกอย่างปกติดี เดี๋ยวรอให้คนไข้ฟื้นแล้วหมอจะนำไปสแกนสมองดูอีกทีนะครับ''ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ'"ฉันเป็นกังวลจังเลยค่ะ กลัวว่าลูกจะเป็นอะไร""คุณไม่ต้องเป็นกังวลนะ ผมจะหาวิธีรักษาให้ลูกของเราหาย ภัคพงศ์จะต้องหาย"แกรกเสียงเปิดประตูดังขึ้นดึงสายตาของทั้งสองให้หันไปมองผู้มาใหม่ โรสรินส่งยิ้มให้กับพ่อแม่ของฝ่ายชาย ในมือของเธอตอนนี้นั้นเต็มเ
"เหนื่อยจังเลยครับ ตั้งแต่กลับมาผมก็ยังไม่ได้พักเลย""สู้ ๆ นะคะ คนเก่งของโรส""อยากได้กำลังใจจากเมียจัง ไม่ได้กอดไม่ได้หอมเมียมาเป็นเดือนแล้ว ไม่มีกำลังใจในการทำงานเลย"เสียงโอดครวญของชายหนุ่มดังมาตามสายทำให้โรสรินนึกสงสารและเห็นใจเพราะนับตั้งแต่ภัคพงศ์กลับกรุงเทพไปเวลาก็ผ่านเลยไปจนจะเข้าใกล้เดือนที่สองที่ทั้งคู่ไม่ได้กอดใกล้ชิดกัน ซึ่งได้อาศัยการโทรให้เห็นใบหน้าช่วยบรรเทาพอให้หายคิดถึงได้"แล้ววันนี้ทำงานเสร็จแล้วใช่ไหมคะ กลับถึงห้องแล้วใช่ไหม""ครับ พึ่งจะกลับมาถึงเมื่อกี้ มาถึงห้องผมก็โทรหาคุณเลย"ชายหนุ่มตอบเสียงอ่อนคล้ายกับคนกำลังง่วงนอน ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เธอคิดไว้ ภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอโทรศัพท์ฉายชัดให้เห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะเคลิ้มหลับไป"ถ้าง่วงก็นอนพักผ่อนก่อนก็ได้ค่ะ""ไม่วางสายได้ไหมครับ""ได้สิคะ เดี๋ยวโรสจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง อ้าว หลับเสียแล้ว"แววตาของเธอยามเมื่อมองเขามันช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก โรสรินมองคนที่โหมทำงานหนัก เคลียร์งานทุกอย่างเพื่อจะได้ขึ้นมาหาเธอที่ไร่ไม่ว่าจะโทรคุยกันยามไหน โรสรินก็มักจะสังเกตเห็นสีหน้าและอาการเหนื่อยล้าจากเขาทุกที รวมถึงวันนี้ เพราะ
"ผมไม่อยากไปเลย"นับเป็นครั้งที่สิบแล้วที่ภัคพงศ์พูดเช่นนี้กับเธอ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่เขาจะต้องเดินทางกลับไปทำงาน "ไม่เอาสิคะอย่างอแง""จะไม่ให้งอแงได้ยังไง ผมต้องห่างกับคุณอีกแล้ว"ใบหน้าหล่อเหลาซบลงบนไหล่บางของหญิงสาว สองแขนของเขาโอบกอดร่างสวยเอาไว้แน่น"เอาไว้ถ้าโรสมีเวลาว่าง โรสจะลงไปหาคุณที่กรุงเทพนะคะ""ไปพร้อมกับผมตอนนี้เลยไม่ได้เหรอครับ เดี๋ยวผมช่วยเก็บกระเป๋าให้"หญิงสาวส่ายหน้าไปมาทำเอาชายหนุ่มหน้าหงิกงอราวกับเด็กน้อยพ่อแม่ไม่ตามใจ"กลับไปทำงานเถอะนะคะ อย่าให้คุณท่านต้องทำงานหนัก ไว้โรสมีเวลาแล้วจะบินไปหา""ก็ได้ครับ แต่สัญญากับผมก่อนได้ไหมว่าจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายคนไหนมาจีบคุณอีก"เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ภัคพงศ์รู้สึกเป็นกังวล เพราะไม่กี่วันก่อนมีแขกผู้ชายกลุ่มใหญ่เข้ามาเที่ยวชมไร่ มาชมไร่เขาไม่ว่า แต่มันดันมาขอเบอร์โทรของเธอเขายอมไม่ได้ แต่เขารู้สึกดีใจอย่างหนึ่งที่โรสรินบอกกับผู้ชายกลุ่มนั้นไปว่า'ขอโทษนะคะ ดิฉันมีคนรักอยู่แล้ว'"โรสไม่มองใครหรอกค่ะ ถึงเขาจะมาจีบแต่โรสก็จะบอกไปว่าโรสมีคนรักอยู่แล้ว""ดีมากเลยครับ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ บอกพวกนั้นไปด้วยเลยว่า ของผมทั้งยาวและใหญ่มาก พ
"อืม คุณภัคขา""อ๊าส์ ว่าไงครับคนดี""ยังไม่พอ อืม อีกเหรอคะ"โรสรินเปล่งน้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยถามชายหนุ่มพลางหรี่ตามองคนด้านบนที่กำลังเล่นสนุกอยู่กับเต้าอวบของเธอทั้งสองข้างอย่างเมามัน"ยังไม่พอครับ ยังได้มากกว่านี้"เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่าไม่แพ้กัน "ก็ใครใช้ให้คุณเอาแต่ทำงานจนลืมผมกันล่ะ โอ้ว"เขาเติมเต็มความเป็นใหญ่เข้าไปในช่องทางรักทันทีเมื่อพูดจบปึก"โรสไม่เคยลืมคุณเลยนะคะ อ๊าส์ ก็กลางวันโรสต้องทำงาน อึก อย่ารุนแรงนะสิคะ""นี่เป็นบทลงโทษครับคนดี คุณหนีผม อ๊าส์ ไปทำงานตั้งสามชั่วโมงแหนะ"ชายหนุ่มกดสะโพกขยับแก่นกายเข้าออกช่องทางรักของหญิงสาว ความเสียวซ่านทำเอาโรสรินสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่างกายชายหนุ่มจับขาเรียวของเธอมาเกี่ยวสะโพกสอบของตัวเองเอาไว้ก่อนจะโน้มลำตัวไปด้านหน้าก้มลงฉกชิมความหอมหวานจากยอดทันของเต้าอวบทั้งสองข้าง'ถ้าหากวันไหนไม่ได้ดื่มด่ำความหวานจากเต้าอวบทั้งสองข้างของหญิงสาว เขาก็จะนอนไม่หลับ'ปึก ปึก ปึก"แรงไปแล้วนะคะ อ๊าส์ เดี๋ยวโรสจะต้องออกไปที่รีสอร์ตอีกนะ"แม้ปากจะต่อว่าแต่ก็แอ่นหน้าอกป้อนความหอบหวานใส่อุ้งปากร้อนของชายหนุ่ม"ถ้าคุณไปทำงานจนลืมผมอีก กลับบ้านมาผมก็จ
จุดต้นกำเนิดของน้ำตกอยู่ห่างออกไปยังทิศตะวันออกของไร่ ภัคพงศ์สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นและความอุดมสมบูรณ์ทันทีเมื่อขับรถมาถึง ลำธารน้อยมีสายน้ำใสเย็นเฉียบไหลผ่านสามารถมองเห็นตัวปลาเล็กปลาน้อยแหวกว่ายไหลไปตามกระแสน้ำ"ที่นี่อุดมสมบูรณ์ดีจังเลยนะครับ ไม่เหมือนกับกรุงเทพ""ชาวบ้านแถวนี้เขาอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติเป็นทุนเดิมอยู่แล้วค่ะ เคยมีนายทุนมาขอซื้อที่ไปทำโรงงานนะคะแต่พวกชาวบ้านเขาไม่ขาย"โรสรินตอบชายหนุ่มก่อนเธอจะเดินถือตะกร้าใส่ของทานเล่นนำไปหยุดอยู่ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ ก่อนจะนำเสื่อผืนใหญ่ออกมากางเพื่อใช้เป็นที่รองนั่ง"บรรยากาศร่มรื่นอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่ขายนะ"ภัคพงศ์นั่งลงด้านข้างหญิงสาว จมูกโด่งเป็นสันสูดดมกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติเข้าเต็มปอด"จะทานอาหารเลยหรือว่าจะนั่งพักก่อนดีคะ""ผมยังไงก็ได้ครับ ว่าแต่โรสเถอะหิวหรือยัง ผมเห็นคุณใช้เวลาอยู่ในครัวเตรียมของพวกนี้ตั้งนาน"ตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมาก็มารู้จากปากของน้ำฟ้าว่าโรสรินออกไปตลาดเพื่อซื้อของเตรียมจะออกมาปิกนิกกับเขาที่นี่ และเธอยังเป็นคนที่จัดเตรียมทุกอย่างด้วยตัวเองโดยไม่ให้เขาเป็นลูกมือช่วยสักนิด แล้วแบบนี้จะไม่ให้เ