Share

8

last update Last Updated: 2025-09-06 04:27:59

ชินวุฒิโบกมือให้อินทิราที่กำลังขึ้นบันไดเลื่อน พร้อมฉีกยิ้มกว้างส่งให้เธอ.. “พี่ป่านครับ เราไปหาอะไรทานกันก่อนนะครับ ยังมีเวลาอีกตั้งชั่วโมงกว่า” เด็กหนุ่มบอกกับหญิงสาวที่โตกว่าเก้าปี ขณะมองนาฬิกาบนข้อมือที่บอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกากว่า ๆ

“จะทันเหรอ ถ้าทันก็ไปกินสิ”

“เหลือเฟือครับพี่ป่าน เข้าโรงหนังช้าหน่อยก็ได้ เพราะมันมีโฆษณาตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง”

“ตามใจจ้ะ”

“ครับผม” เมื่อเธอตอบรับเขาจึงถือโอกาสจูงมือเธอเดินไปที่ร้านอาหารโปรดของเธอ

เพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ ลูกค้าในร้านจึงบางตากว่าปกติ ทั้งคู่จึงไม่ต้องเสียเวลารอคิว สามารถเข้าไปหาที่นั่งที่ถูกใจได้เลย

“ปิดเสียงโทรศัพท์หรือยังปอ” อินทิรากระซิบถามเด็กหนุ่มเมื่อเข้ามานั่งในโรงหนัง และหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดเปลี่ยนสถานะเป็นระบบสั่น

“ปิดตั้งแต่ตอนที่ออกมาจากห้องน้ำแล้วครับ” ชินวุฒิตอบพร้อมกับโชว์โทรศัพท์ให้หญิงสาวดู

“ดีมาก” แล้วหันไปสนใจจอหนังขนาดใหญ่.. ขณะที่หนังกำลังเดินเรื่องไปอย่างสนุกอยู่นั้น โทรศัพท์ของหญิงสาวก็สั่นเตือนว่ามีสายเข้า

“เดี๋ยวพี่มานะ” อินทิรากระซิบบอกเด็กหนุ่มแล้วลุกออกไป เมื่อเห็นชื่อของเพื่อนรักโชว์ที่หน้าจอโทรศัพท์.. “ว่าไงจ๊ะแก้ว” กดรับสายเมื่อออกมายืนอยู่หน้าประตูโรงหนัง

(ป่านอยู่ไหนจ๊ะ)

“ป่านอยู่ที่โรงหนัง พอดีเจ้าปอเขาชวนมาดูหนังด้วยกัน”

(ดูเสร็จแล้วหรือยังจ๊ะ แก้วรบกวนหรือเปล่า)

“ไม่ ๆ มีอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงของเพื่อนรักเจือแววกังวลจนเธอฟังออก จึงถามกลับอย่างสงสัย

(คือว่าตอนนี้แก้วกับพี่ชาลีอยู่ที่ชุมพร แล้วบอสเขาโทรมาหาพี่ชาลีเพราะลืมแฟ้มเอกสารสำคัญ ที่ต้องพิจารณาด่วนคืนนี้ไว้ที่บริษัท พี่ชาลีก็เลยจะวานให้ป่านเอาไปให้ท่านที่คอนโดเขาหน่อยได้ไหม)

“ได้สิ แต่ป่านสงสัยว่าทำไมเขาไม่กลับไปเอาเอง”

(พี่ชาลีบอกว่าท่านกำลังรอรับเพื่อนอยู่ที่สนามบิน อีกประมาณชั่วโมงก็แลนด์ดิ้งแล้ว ก็คนที่จะทำสัญญากันพรุ่งนี้นั่นแหละ แล้วบอสเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าพี่ชาลีกลับบ้าน)

อินทิรามองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ถึงเขากลับไปเอาก็คงไม่ทันแน่ เพราะอีกห้านาทีก็จะสามทุ่มแล้ว

“ป่านไปเอาให้ก็ได้จ้ะ แล้วแฟ้มมันอยู่ที่ไหนล่ะ” เธอถามเพื่อนรัก แล้วรอสายอยู่สักครู่เมื่อเพื่อนส่งให้คนรักพูดต่อ

(ไม่ต้องรีบก็ได้จ้ะป่าน ดูหนังให้จบก่อนก็ได้ เพราะท่านประธานคงกลับถึงห้องดึก ได้ยินว่าแขกคนนี้เป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียน คงสังสรรค์กันนาน) ชาลีบอกกับหญิงสาวหลังจากบอกรายละเอียดงาน และที่อยู่ของเจ้านายให้เธอเรียบร้อยแล้ว

“สังสรรค์กันแล้วก็เมา เมาแล้วก็คงไม่มีแรงทำงานหรอกค่ะ แล้วจะเอางานไปทำทำไม” นึกถึงเจ้านายหน้าหล่อแล้วหงุดหงิดชะมัด

(ถ้ามีงานรออยู่เขาจะไม่ค่อยดื่มหรอกป่าน) ชาลีแก้ตัวแทนเจ้านายหนุ่มที่เป็นญาติกันด้วย (แต่ถ้าป่านลำบากใจ เดี๋ยวพี่จะรีบกลับ)

“ไม่ลำบากหรอกค่ะ ทางนี้ป่านจัดการให้เอง นอนพักผ่อนเอาแรงแล้วค่อยกลับมาตอนเช้าดีกว่าค่ะ” หญิงสาวรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ

(ขอบใจมากนะจ๊ะป่าน พรุ่งนี้เลิกงานแล้วพี่เลี้ยงข้าวตอบแทนนะ)

“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่ดูแลเพื่อนป่านให้ดี ๆ ก็พอแล้ว”

(รับรองจะดูแลอย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยจ้ะ งั้นพี่ขอวางสายแค่นี้นะจ๊ะ รีบขับรถไปกลับแบบนี้เหนื่อยมากเลย)

“ค่ะ สวัสดีค่ะ” กดวางสายแล้วเธอก็กลับเข้าไปในโรงหนังอีกครั้ง ดูต่อจนจบถึงแม้จะขาดช่วงไปพอสมควร

           

 บาร์ลอยฟ้าสุดหรูภายในโรงแรมชื่อดัง

“ประมาณเที่ยงคืนผมจะกลับถึงห้อง ให้เธอไปเตรียมตัวรอได้เลย.. ไปรับคีย์การ์ดที่เจ้าหน้าที่ได้เลย ผมโทรไปแจ้งไว้แล้ว” ยัสซันกดวางสายเมื่อนัดหมายกับปลายสายเรียบร้อยแล้ว หันมาให้ความสนใจกับแก้วเครื่องดื่มและเพื่อนคนไทยที่ครอบครัวทำธุรกิจอยู่ต่างแดน

“มีนัดกับสาวเหรอยัสซัน”

“อือ” ชายหนุ่มตอบรับตรง ๆ “นัดให้ไปหาที่คอนโดคืนนี้”

“เกิดเป็นนายที่โชคดีนะ มีคอนโดส่วนตัวไว้นัดสาวด้วย”

“ก็แค่ความสุขชั่วครั้งชั่วคราวของชีวิต”

“บอกได้ไหมว่าเธอเป็นใคร ฉันหมายถึงว่าเป็นแฟนหรือว่าไม่ใช่”

“นายคิดว่ายังไงล่ะ”

“ให้ตอบตามตรงไหมล่ะ”

“ได้สิ”

“ตั้งแต่ที่นายผิดหวังจากเคียวโกะ ฉันก็ไม่เคยเห็นนายรักใครอีกเลย คนนี้ก็คงไม่ใช่ตัวจริงหรอก คงจะเป็นดารานางแบบสวย ๆ สักคน”

อดีตคนรักที่ถูกกล่าวถึงทำให้ยัสซันยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว แล้วหัวเราะเบา ๆ ออกมา “ตอนนี้ฉันโตพอที่จะรู้จักรักแล้วแซม ไม่หลงคารมหวาน ๆ ของผู้หญิงอีกต่อไปแล้ว” ยัสซันนึกถึงอดีตคนรักชาวญี่ปุ่น ที่มีผิวขาวเนียนใสราวไข่ปอก เครื่องหน้างดงาม หุ่นบอบบางดั่งนางแบบ ด้วยเหตุนี้เขาจึงรักและหลงเธออย่างงมงาย เพียงแค่เธอเอ่ยปากว่าอยากได้อะไร เขาก็จะรีบหามาเทิดทูนให้ทุกอย่าง

ตลอดระยะเวลาเจ็ดปี ตั้งแต่อายุสิบแปดจนถึงยี่สิบห้า สองตาของเขาไม่เคยมีไว้แลสาวอื่นแม้แต่นิดเดียว ไม่สนใจแม้กระทั่งฟารีดา และใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากับเธอถึงห้าปีเต็ม แต่เพียงแค่ชั่วระยะเวลาข้ามคืน เธอก็ทำให้ใจของเขาแตกสลายไม่มีชิ้นดี

คืนนั้นเขาจำได้ดีว่ามารดาและพ่อเลี้ยง เดินทางจากประเทศไทยเพื่อไปเยี่ยมเขาโดยเฉพาะ เขาจึงเดินทางไปต้อนรับที่สนามบินและอยู่กับพวกท่านที่โรงแรมที่พัก แต่เพราะเหตุฉุกเฉินบางอย่างทำให้ท่านทั้งคู่ต้องรีบเดินทางกลับเร็วกว่ากำหนดถึงสองวัน เมื่อส่งพวกท่านที่สนามบินเรียบร้อยแล้ว จึงรีบกลับไปหาเธอด้วยความคิดถึง

แต่สิ่งที่เห็นเมื่อกลับไปถึงห้องก็คือ เธอกับเพื่อนนักศึกษาร่วมรุ่นของเขากำลังโรมรันบทรักอยู่ในห้องน้ำอย่างถึงพริกถึงขิง ส่งเสียงร้องครวญครางจนกลบเสียงน้ำจากฝักบัว เขาซ้อมผู้ชายคนนั้นจนสะบักสะบอมแล้วเดินจากมาด้วยใจที่ตายด้าน ความเจ็บปวดทับถมจนกลายเป็นด้านชามาถึงทุกวันนี้ และไม่เคยเชื่อใจผู้หญิงอีกเลย โดยเฉพาะผู้หญิงปากหวาน  

“อือ แค่ผู้หญิงที่หามาด้วยเงินเท่านั้นแหละ” เขายอมรับกับเพื่อนตรง ๆ

“นายน่าจะเปิดใจมองหาใครสักคน บุคลิกอย่างนายหาผู้หญิงที่เท่าเทียมกันได้ไม่ยากหรอก”

“เท่าเทียมกันด้านไหนล่ะ” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มคล้ายเหยียด ถ้าเขาจะหาผู้หญิงสักคน เขาคงไม่เลือกความเท่าเทียมทางสังคมเป็นหลัก แต่ขอแค่ผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาและแม่ที่ดีก็เพียงพอแล้ว

“นายก็น่าจะรู้ตัวนะ พ่อเป็นเจ้าของบริษัทผลิตเครื่องหนังยี่ห้อดัง ส่วนแม่เป็นเจ้าของบริษัทผลิตเสื้อผ้าส่งออกรายใหญ่ของเมืองไทย จะมองทางพ่อหรือทางแม่ก็ไร้ที่ติ”

“ไม่ว่าจะของพ่อหรือแม่ เราก็ผลิตจากโรงงานแห่งเดียวกันนั่นแหละ”

“แล้วโรงงานที่นายว่า มันมีเนื้อที่กี่ร้อยไร่กันล่ะ นายอย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลยยัสซัน ทำไม.. กลัวผู้หญิงจะมาเกาะหรือไง”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   11

    “กรี๊ดดดด..” อินทิรารีบคว้าผ้าขนหนูที่ถูกเขากระชากจนหลุดออกจากร่าง แต่แรงหญิงหรือจะสู้แรงชาย สุดท้ายเธอก็มีเพียงบราเซียตัวจิ๋วปกปิดเรือนร่างส่วนบนเอาไว้ เมื่อเห็นชายหนุ่มโน้มกายหมายเข้ามาหา จึงยกเท้าถีบไปที่ใบหน้าคมเข้มนั้นเต็มแรงจนเขาเสียหลัก รีบอาศัยจังหวะนี้คลานลงจากเตียง วิ่งหนีสุดฝีเท้ายัสซันรีบขยับตัวตั้งท่าลุกขึ้นอย่างหัวเสีย วิ่งตามหญิงสาวฝีเท้าหนักที่ทำเอาเขาวูบไปชั่วขณะ เธอมันร้ายได้ทุกสถานที่จริง ๆ ขนาดอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ยังกล้าลงมือ ถ้าทำกันขนาดนี้ก็อย่าหวังว่าจะรอดออกไปได้ง่าย ๆ“กรี๊ดดดด..” สองเท้าของเธอตะกุยอยู่ในอากาศ เพราะถูกร่างที่สูงใหญ่กว่าโอบอุ้มจากข้างหลังจนตัวลอย “ปล่อยฉันนะไอ้เลว ไอ้ระยำ แกจะต้องเสียใจที่ทำกับฉันแบบนี้” เธอยังดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากการโอบกอด“ใครกันแน่ที่ต้องเสียใจ กล้าถีบหน้าผมก็ต้องชดใช้ให้สาสม” จมูกโด่งเป็นสันแตะที่ขมับของหญิงสาว กระซิบที่หูขณะหิ้วเธอกลับไปที่เตียงนอน เหวี่ยงเธอลงไปบนเตียงหลังใหญ่อีกครั้ง แล้วรีบโถมกายตามไปติด ๆ จัดการลงโทษตามแบบที่ต้องการ

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   10

    ยัสซันกระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นไฟในห้องเปิดเอาไว้ เดินดิ่งไปยังห้องนอนรับรองแขก เปิดประตูเข้าไปโดยไม่เคาะขออนุญาต ในห้องไร้ตัวตนของหญิงสาวที่ได้ตกลงนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า มีเพียงเสื้อและชั้นในที่วางไว้บนหมอนใบใหญ่ ทำให้รู้ว่าเธอกำลังอาบน้ำอยู่และเพื่อไม่ให้เสียเวลา จึงจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง คว้าผ้าขนหนูสีขาวบนเตียงมาพันปกปิดท่อนล่างเอาไว้ลวก ๆ เดินออกไปหยิบบรั่นดีชั้นเยี่ยมพร้อมแก้วทรงสูงสองใบบานประตูแบบกระจกถูกผลักออกอย่างเบามือกว่าเดิม เพราะกลัวของที่ถือมาด้วยจะกระทบโดนจนเกิดความเสียหาย.. แต่แล้วใบหน้าที่เปื้อนด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ของยัสซันก็ต้องตะลึงค้าง.. เมื่อมองเห็นแผ่นหลังขาวผุดผาดของสตรีนางหนึ่งที่กำลังขยับเสื้อในตัวสวยให้เข้าที่เพียงแค่เห็นด้านหลังเขาก็นึกไปถึงอินทิราทันที นางแบบคนนี้กับเธอคนนั้นช่างเหมือนกันราวกับแกะ รูปร่าง ทรงผม สีผิว.. เขารีบดึงสติให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริงตรงหน้า ไม่ยอมให้หญิงร้ายคนนั้นมามีอำนาจกับความคิดของตน“จะใส่กลับเข้าไปทำไมให้เสียเวลา เดี๋ยวเราก็ต้องถอดมันออกอยู่ดี” เขาพูดกับเธอแล้วก้าวเท้าเข้าไปหา

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   9

    ยัสซันหัวเราะออกมาเบา ๆ พยักหน้ายอมรับที่อีกฝ่ายพูดออกมา “คนสมัยนี้มันน่ากลัวนะ ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย ผู้หญิงยอมเป็นเมียน้อยเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายมีเงิน ส่วนผู้ชายก็ยอมมีเมียแก่รุ่นแม่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายมีเงิน สรุปแล้วมีแต่คนหาเกาะใหญ่ ๆ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยของกินดี ๆ กันทั้งนั้น ไม่มีใครยอมอยู่เกาะที่รกร้างว่างเปล่ากันหรอก ต่อให้เกาะนั้นมีธรรมชาติที่งดงามเพียงไหนก็ตาม”“ฮา ๆ ๆ มันก็จริงอย่างที่นายว่านั่นแหละ สมัยนี้เงินเท่านั้นที่บันดาลความสุข ไม่ใช่ความรักหรอก”“มาดื่มกันดีกว่า อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องที่ยังเป็นไปไม่ได้เลย” ยัสซันยื่นแก้วเหล้าขอชนกับอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม“ดื่ม”...อินทิราบอกลากับเด็กหนุ่มหลังจากดูหนังเสร็จ เพื่อไปทำงานตามที่รับปากกับชาลีเอาไว้“ให้ปอไปเป็นเพื่อนนะครับพี่ป่าน”“ไม่ต้องหรอกปอ กลับบ้านไปอ่านหนังสือเถอะ กว่าพี่จะกลับคงดึก”“แต่ปอเป็นห่วงพี่ป่านนี่ครับ พี่ป่านสายตาสั้นด้วย ขับรถตอนกลางคืนมันอันตรายนะครับ” ชินวุฒิย

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   8

    ชินวุฒิโบกมือให้อินทิราที่กำลังขึ้นบันไดเลื่อน พร้อมฉีกยิ้มกว้างส่งให้เธอ.. “พี่ป่านครับ เราไปหาอะไรทานกันก่อนนะครับ ยังมีเวลาอีกตั้งชั่วโมงกว่า” เด็กหนุ่มบอกกับหญิงสาวที่โตกว่าเก้าปี ขณะมองนาฬิกาบนข้อมือที่บอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกากว่า ๆ“จะทันเหรอ ถ้าทันก็ไปกินสิ”“เหลือเฟือครับพี่ป่าน เข้าโรงหนังช้าหน่อยก็ได้ เพราะมันมีโฆษณาตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง”“ตามใจจ้ะ”“ครับผม” เมื่อเธอตอบรับเขาจึงถือโอกาสจูงมือเธอเดินไปที่ร้านอาหารโปรดของเธอเพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ ลูกค้าในร้านจึงบางตากว่าปกติ ทั้งคู่จึงไม่ต้องเสียเวลารอคิว สามารถเข้าไปหาที่นั่งที่ถูกใจได้เลย“ปิดเสียงโทรศัพท์หรือยังปอ” อินทิรากระซิบถามเด็กหนุ่มเมื่อเข้ามานั่งในโรงหนัง และหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดเปลี่ยนสถานะเป็นระบบสั่น“ปิดตั้งแต่ตอนที่ออกมาจากห้องน้ำแล้วครับ” ชินวุฒิตอบพร้อมกับโชว์โทรศัพท์ให้หญิงสาวดู“ดีมาก” แล้วหันไปสนใจจอหนังขนาดใหญ่.. ขณะที่หนังกำลังเดิน

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   7

    “ฉันเป็นแค่พนักงาน ไม่อาจตีตัวเสมอเจ้านายได้หรอกค่ะ” เธอไม่ทำตามคำสั่งของเขา ก้าวเข้าไปนั่งเคียงข้างกับคนขับรถ“แต่นี่เป็นคำสั่ง” ทำไมเธอต้องทำให้เขาหัวเสียได้ทุกครั้งที่พบกันนะ“คำสั่งที่ไม่มีเหตุผล ฉันมีสิทธิ์ไม่รับฟังค่ะ”“แต่ผมมีเรื่องงานต้องคุยกับคุณ”“ก็คุยมาสิคะ อยู่ตรงนี้ฉันก็ได้ยิน”“คุณบอกว่าไม่ชอบคุยเรื่องเดียวกันซ้ำหลายรอบ แล้วทำไมคุณถึงคุยเรื่องที่ผมถามเมื่อเช้านี้กับคุณแม่ผมล่ะ”เรียวปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อคลี่ยิ้มบางเบา เอียงหน้าไปมองทางด้านหลัง “ตอนเที่ยงไม่ใช่เวลาทำงานของฉัน ฉันสามารถจะคุยกับใครก็ได้ ในเรื่องที่ฉันพอใจ”‘ให้มันได้อย่างนี้สิ ผู้หญิงบ้านี่’ ยัสซันขบกรามแน่นด้วยความขัดใจกับคำตอบยียวนกวนประสาทของเธอ“แสดงว่าต่อไปนี้ ถ้าผมอยากรู้เรื่องอะไรก่อนการประชุม ผมก็สามารถถามคุณตอนเที่ยงได้ใช่ไหม”“มันก็ขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนตัวของฉันอีกนั่นแหละค่ะ ถ้าฉันอยากจะตอบฉันก็ตอบ แต่ถ้าไม่ก็คือไม่ ในกรณีของท่านประธานฉันนับถือท่านมาก ฉันจึงเต็มใจตอบทุกคำถามของท่าน ถึงแม้จะเป็นในเวลางานก็ตาม”“คุณ.. คุณ.. คุณกำลังท้าทายผมใช่ไหม คิดว่าผมไม่มีฝีมือในการทำงานหรือไง คุณถึงทำท่า

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   6

    สตรีวัยห้าสิบที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาตอนนี้เป็นลูกสาวของลูกชายคนโตของปู่ ส่วนบิดาเขาเป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องแปดคน จึงนับญาติเป็นพี่น้องกัน แต่เมื่ออยู่ในบริษัทนางก็คือประธานใหญ่ที่เขาต้องให้ความเคารพ“เธอน่าจะไปเป็นตำรวจหรืออัยการ มากกว่ามาเป็นผู้จัดการใหญ่ให้บริษัทพี่นะ” วารีตีต้นแขนชายหนุ่มพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “เขาอยู่ไหม”“อยู่ครับ แต่น่าจะคุยอยู่กับคุณป่าน” เขาก็เพิ่งออกจากห้องทำงานมาเหมือนกัน จึงไม่รู้ว่าหญิงสาวที่กล่าวถึงจากไปสักพักแล้ว“หนูป่านกลับไปแล้ว เมื่อกี้พี่เพิ่งคุยกับเธอเอง พี่ไปหาลูกก่อนนะ แล้วว่าง ๆ เราค่อยไปทานข้าวด้วยกัน” วารีบอกกับชายหนุ่ม“ครับท่านประธาน” ชาลีโค้งศีรษะให้เล็กน้อย รอจนนางเดินผ่านไปแล้ว จึงเดินไปที่โต๊ะผู้ช่วยของตน...อินทิรานึกสงสัยอยู่ในใจเมื่อเดินทางมาถึงร้านอาหารสุดหรู ที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรมขึ้นชื่ออันดับต้น ๆ ของประเทศไทย แต่สตรีสูงวัยเลือกที่จะปฏิเสธการสั่งอาหารเอาไว้ก่อน ขอเพียงน้ำเปล่ามาดื่มเท่านั้น“น้ำเปล่าเหมือนกันค่ะ” ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายอธิบาย เธอรู้ได้ด้วยตัวเองว่าท่านประธานต้องรอใครบางคนอยู่“ฉันได้ข่าวมาว่าทางบริษัทคู่ค้าของเราที

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status