LOGINชินวุฒิโบกมือให้อินทิราที่กำลังขึ้นบันไดเลื่อน พร้อมฉีกยิ้มกว้างส่งให้เธอ.. “พี่ป่านครับ เราไปหาอะไรทานกันก่อนนะครับ ยังมีเวลาอีกตั้งชั่วโมงกว่า” เด็กหนุ่มบอกกับหญิงสาวที่โตกว่าเก้าปี ขณะมองนาฬิกาบนข้อมือที่บอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกากว่า ๆ
“จะทันเหรอ ถ้าทันก็ไปกินสิ”
“เหลือเฟือครับพี่ป่าน เข้าโรงหนังช้าหน่อยก็ได้ เพราะมันมีโฆษณาตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง”
“ตามใจจ้ะ”
“ครับผม” เมื่อเธอตอบรับเขาจึงถือโอกาสจูงมือเธอเดินไปที่ร้านอาหารโปรดของเธอ
เพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ ลูกค้าในร้านจึงบางตากว่าปกติ ทั้งคู่จึงไม่ต้องเสียเวลารอคิว สามารถเข้าไปหาที่นั่งที่ถูกใจได้เลย
“ปิดเสียงโทรศัพท์หรือยังปอ” อินทิรากระซิบถามเด็กหนุ่มเมื่อเข้ามานั่งในโรงหนัง และหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดเปลี่ยนสถานะเป็นระบบสั่น
“ปิดตั้งแต่ตอนที่ออกมาจากห้องน้ำแล้วครับ” ชินวุฒิตอบพร้อมกับโชว์โทรศัพท์ให้หญิงสาวดู
“ดีมาก” แล้วหันไปสนใจจอหนังขนาดใหญ่.. ขณะที่หนังกำลังเดินเรื่องไปอย่างสนุกอยู่นั้น โทรศัพท์ของหญิงสาวก็สั่นเตือนว่ามีสายเข้า
“เดี๋ยวพี่มานะ” อินทิรากระซิบบอกเด็กหนุ่มแล้วลุกออกไป เมื่อเห็นชื่อของเพื่อนรักโชว์ที่หน้าจอโทรศัพท์.. “ว่าไงจ๊ะแก้ว” กดรับสายเมื่อออกมายืนอยู่หน้าประตูโรงหนัง
(ป่านอยู่ไหนจ๊ะ)
“ป่านอยู่ที่โรงหนัง พอดีเจ้าปอเขาชวนมาดูหนังด้วยกัน”
(ดูเสร็จแล้วหรือยังจ๊ะ แก้วรบกวนหรือเปล่า)
“ไม่ ๆ มีอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงของเพื่อนรักเจือแววกังวลจนเธอฟังออก จึงถามกลับอย่างสงสัย
(คือว่าตอนนี้แก้วกับพี่ชาลีอยู่ที่ชุมพร แล้วบอสเขาโทรมาหาพี่ชาลีเพราะลืมแฟ้มเอกสารสำคัญ ที่ต้องพิจารณาด่วนคืนนี้ไว้ที่บริษัท พี่ชาลีก็เลยจะวานให้ป่านเอาไปให้ท่านที่คอนโดเขาหน่อยได้ไหม)
“ได้สิ แต่ป่านสงสัยว่าทำไมเขาไม่กลับไปเอาเอง”
(พี่ชาลีบอกว่าท่านกำลังรอรับเพื่อนอยู่ที่สนามบิน อีกประมาณชั่วโมงก็แลนด์ดิ้งแล้ว ก็คนที่จะทำสัญญากันพรุ่งนี้นั่นแหละ แล้วบอสเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าพี่ชาลีกลับบ้าน)
อินทิรามองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ถึงเขากลับไปเอาก็คงไม่ทันแน่ เพราะอีกห้านาทีก็จะสามทุ่มแล้ว
“ป่านไปเอาให้ก็ได้จ้ะ แล้วแฟ้มมันอยู่ที่ไหนล่ะ” เธอถามเพื่อนรัก แล้วรอสายอยู่สักครู่เมื่อเพื่อนส่งให้คนรักพูดต่อ
(ไม่ต้องรีบก็ได้จ้ะป่าน ดูหนังให้จบก่อนก็ได้ เพราะท่านประธานคงกลับถึงห้องดึก ได้ยินว่าแขกคนนี้เป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียน คงสังสรรค์กันนาน) ชาลีบอกกับหญิงสาวหลังจากบอกรายละเอียดงาน และที่อยู่ของเจ้านายให้เธอเรียบร้อยแล้ว
“สังสรรค์กันแล้วก็เมา เมาแล้วก็คงไม่มีแรงทำงานหรอกค่ะ แล้วจะเอางานไปทำทำไม” นึกถึงเจ้านายหน้าหล่อแล้วหงุดหงิดชะมัด
(ถ้ามีงานรออยู่เขาจะไม่ค่อยดื่มหรอกป่าน) ชาลีแก้ตัวแทนเจ้านายหนุ่มที่เป็นญาติกันด้วย (แต่ถ้าป่านลำบากใจ เดี๋ยวพี่จะรีบกลับ)
“ไม่ลำบากหรอกค่ะ ทางนี้ป่านจัดการให้เอง นอนพักผ่อนเอาแรงแล้วค่อยกลับมาตอนเช้าดีกว่าค่ะ” หญิงสาวรีบพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ
(ขอบใจมากนะจ๊ะป่าน พรุ่งนี้เลิกงานแล้วพี่เลี้ยงข้าวตอบแทนนะ)
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่ดูแลเพื่อนป่านให้ดี ๆ ก็พอแล้ว”
(รับรองจะดูแลอย่างดี ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยจ้ะ งั้นพี่ขอวางสายแค่นี้นะจ๊ะ รีบขับรถไปกลับแบบนี้เหนื่อยมากเลย)
“ค่ะ สวัสดีค่ะ” กดวางสายแล้วเธอก็กลับเข้าไปในโรงหนังอีกครั้ง ดูต่อจนจบถึงแม้จะขาดช่วงไปพอสมควร
บาร์ลอยฟ้าสุดหรูภายในโรงแรมชื่อดัง
“ประมาณเที่ยงคืนผมจะกลับถึงห้อง ให้เธอไปเตรียมตัวรอได้เลย.. ไปรับคีย์การ์ดที่เจ้าหน้าที่ได้เลย ผมโทรไปแจ้งไว้แล้ว” ยัสซันกดวางสายเมื่อนัดหมายกับปลายสายเรียบร้อยแล้ว หันมาให้ความสนใจกับแก้วเครื่องดื่มและเพื่อนคนไทยที่ครอบครัวทำธุรกิจอยู่ต่างแดน
“มีนัดกับสาวเหรอยัสซัน”
“อือ” ชายหนุ่มตอบรับตรง ๆ “นัดให้ไปหาที่คอนโดคืนนี้”
“เกิดเป็นนายที่โชคดีนะ มีคอนโดส่วนตัวไว้นัดสาวด้วย”
“ก็แค่ความสุขชั่วครั้งชั่วคราวของชีวิต”
“บอกได้ไหมว่าเธอเป็นใคร ฉันหมายถึงว่าเป็นแฟนหรือว่าไม่ใช่”
“นายคิดว่ายังไงล่ะ”
“ให้ตอบตามตรงไหมล่ะ”
“ได้สิ”
“ตั้งแต่ที่นายผิดหวังจากเคียวโกะ ฉันก็ไม่เคยเห็นนายรักใครอีกเลย คนนี้ก็คงไม่ใช่ตัวจริงหรอก คงจะเป็นดารานางแบบสวย ๆ สักคน”
อดีตคนรักที่ถูกกล่าวถึงทำให้ยัสซันยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว แล้วหัวเราะเบา ๆ ออกมา “ตอนนี้ฉันโตพอที่จะรู้จักรักแล้วแซม ไม่หลงคารมหวาน ๆ ของผู้หญิงอีกต่อไปแล้ว” ยัสซันนึกถึงอดีตคนรักชาวญี่ปุ่น ที่มีผิวขาวเนียนใสราวไข่ปอก เครื่องหน้างดงาม หุ่นบอบบางดั่งนางแบบ ด้วยเหตุนี้เขาจึงรักและหลงเธออย่างงมงาย เพียงแค่เธอเอ่ยปากว่าอยากได้อะไร เขาก็จะรีบหามาเทิดทูนให้ทุกอย่าง
ตลอดระยะเวลาเจ็ดปี ตั้งแต่อายุสิบแปดจนถึงยี่สิบห้า สองตาของเขาไม่เคยมีไว้แลสาวอื่นแม้แต่นิดเดียว ไม่สนใจแม้กระทั่งฟารีดา และใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากับเธอถึงห้าปีเต็ม แต่เพียงแค่ชั่วระยะเวลาข้ามคืน เธอก็ทำให้ใจของเขาแตกสลายไม่มีชิ้นดี
คืนนั้นเขาจำได้ดีว่ามารดาและพ่อเลี้ยง เดินทางจากประเทศไทยเพื่อไปเยี่ยมเขาโดยเฉพาะ เขาจึงเดินทางไปต้อนรับที่สนามบินและอยู่กับพวกท่านที่โรงแรมที่พัก แต่เพราะเหตุฉุกเฉินบางอย่างทำให้ท่านทั้งคู่ต้องรีบเดินทางกลับเร็วกว่ากำหนดถึงสองวัน เมื่อส่งพวกท่านที่สนามบินเรียบร้อยแล้ว จึงรีบกลับไปหาเธอด้วยความคิดถึง
แต่สิ่งที่เห็นเมื่อกลับไปถึงห้องก็คือ เธอกับเพื่อนนักศึกษาร่วมรุ่นของเขากำลังโรมรันบทรักอยู่ในห้องน้ำอย่างถึงพริกถึงขิง ส่งเสียงร้องครวญครางจนกลบเสียงน้ำจากฝักบัว เขาซ้อมผู้ชายคนนั้นจนสะบักสะบอมแล้วเดินจากมาด้วยใจที่ตายด้าน ความเจ็บปวดทับถมจนกลายเป็นด้านชามาถึงทุกวันนี้ และไม่เคยเชื่อใจผู้หญิงอีกเลย โดยเฉพาะผู้หญิงปากหวาน
“อือ แค่ผู้หญิงที่หามาด้วยเงินเท่านั้นแหละ” เขายอมรับกับเพื่อนตรง ๆ
“นายน่าจะเปิดใจมองหาใครสักคน บุคลิกอย่างนายหาผู้หญิงที่เท่าเทียมกันได้ไม่ยากหรอก”
“เท่าเทียมกันด้านไหนล่ะ” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มคล้ายเหยียด ถ้าเขาจะหาผู้หญิงสักคน เขาคงไม่เลือกความเท่าเทียมทางสังคมเป็นหลัก แต่ขอแค่ผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาและแม่ที่ดีก็เพียงพอแล้ว
“นายก็น่าจะรู้ตัวนะ พ่อเป็นเจ้าของบริษัทผลิตเครื่องหนังยี่ห้อดัง ส่วนแม่เป็นเจ้าของบริษัทผลิตเสื้อผ้าส่งออกรายใหญ่ของเมืองไทย จะมองทางพ่อหรือทางแม่ก็ไร้ที่ติ”
“ไม่ว่าจะของพ่อหรือแม่ เราก็ผลิตจากโรงงานแห่งเดียวกันนั่นแหละ”
“แล้วโรงงานที่นายว่า มันมีเนื้อที่กี่ร้อยไร่กันล่ะ นายอย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลยยัสซัน ทำไม.. กลัวผู้หญิงจะมาเกาะหรือไง”
ห้าปีผ่านไป “คุยเรื่องงานกันไปแล้ว ตอนนี้เราจะขอคุยเรื่องครอบครัวของคุณยัสซันบ้างนะครับ คุณยัสซันเจอกับภรรยาที่ไหน แล้วประทับใจอะไรในตัวเธอถึงได้ขอแต่งงาน ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยครับ” “ผมเจอเธอครั้งแรกที่หน้าบริษัทครับ เธอสวยสะดุดใจผมมากแต่ผมก็ไม่ได้แสดงออก และเธอก็ไม่ชอบผมเอาซะเลย เมื่อก่อนเธอร้ายกับผมมาก แต่เธอยิ่งร้ายผมก็ยิ่งรัก รุกจนเธอใจอ่อนยอมรับรัก ผมก็เลยขอเธอแต่งงาน” “เป็นที่รู้กันทั่วในกลุ่มไฮโซว่าคุณรักภรรยามาก คุณจะต้องพาเธอออกงานด้วยตลอดจริงไหมครับ” “ถ้าเขาไม่เห็นเขาก็คงไม่พูดกันหรอกครับ” ยัสซันตอบพร้อมกับหัวเราะในลำคอ หันไปมองภรรยาที่กำลังยุ่งอยู่กับการเลือกชุด “กว่าผมจะได้เธอมาเป็นภรรยา ผมต้องผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมาย ผมจะไม่รักเธอมากได้ยังไงล่ะครับ”
“พ่อบอกว่าการอยู่ไฟจะทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว และจะทำให้เรามีสุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ” “ภูมิปัญญาชาวบ้านของคนไทย เชื่อถือได้ในหลาย ๆ เรื่องนะหนูป่าน” เรย์มองด์เห็นดีเห็นงามด้วย “ค่ะคุณพ่อ” “คุณพ่อตายังแอบกระซิบบอกผมด้วยนะครับ” “บอกอะไรเหรอคะ” อินทิราถามสามีด้วยความอยากรู้ “บอกให้ผมรีบปั้นหลานให้ท่านสักครึ่งโหล” พูดจบก็ยิ้มบานแฉ่ง “พูดอะไรแบบนั้นคะ” เธอตีแขนสามี ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย “ผมพูดจริง ๆ นะครับป่าน ไม่เชื่อก็โทรไปถามคุณพ่อท่านดูสิครับ” ยัสซันยืนยันด้วยท่าท
“ฉันจะกลับญี่ปุ่นให้เร็วที่สุด” เคียวโกะพูดแทรกขึ้น รู้แล้วว่าอินทิราน่ากลัวแค่ไหน เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สมควรต่อกรด้วยสักนิด ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า“ถ้าอย่างนั้นฉันก็หมดเรื่องจะคุยกับพวกเธอแล้ว ฉันกลับล่ะนะ อ้อ! แล้วอย่าคิดบิดพลิ้วล่ะ อย่าลืมว่าฉันกำความลับของพวกเธอไว้มากแค่ไหนด้วย” พูดจบก็เกาะแขนเพื่อนรักเดินออกไป“ป่าน เธอเจ๋งมาก” ปัทมาชื่นชมเพื่อนรักเมื่อกลับมานั่งอยู่ในรถด้วยกันแล้ว“ถ้ามีผู้หญิงมายุ่งกับพี่ชาลี แก้วก็จะเป็นแบบป่านนี่แหละ”“แก้วคงไม่กล้าแบบป่านหรอก คงเอาแต่กอดเข่าร้องไห้อยู่ในห้องคนเดียว” ปัทมาตอบกลับด้วยความมั่นใจ“เมื่อเวลานั้นมาถึงแก้วจะเปลี่ยนความคิดทันที” อินทิราบอกกับเพื่อนรักพร้อมรอยยิ้ม “แก้วไปส่งป่านที่บริษัทหน่อยสิ แล้วค่อยกลับไปพักผ่อนต่อ”“พอหมดธุระก็เฉดหัวส่งเลยนะคุณเพื่อน” ปัทมาประชดเพื่อนรัก“ป่านอยากให้แก้วพักผ่อนต่างหาก วันนี้ลากมาด้วยก็เกรงใจจะแย่”“แก้วจะแกล้งเชื่อก็แล้วกันนะ&rdq
แผ่นหลังขาวอมชมพูนวลเนียนไร้ที่ติของภรรยาทำให้ยัสซันอดใจไม่ไหว ต้องแนบหน้าลงไปคลอเคลียพิสูจน์ความหอมจนทั่ว ลามไปจนถึงสะโพกกลมกลึงและต้นขาเรียวยาว แล้วจึงวกกลับมาตามทางเดิม หยุดอยู่ที่ซอกคอระหง ขยับกายให้แนบชิดกับเธอแล้วจึงสอดใส่ความเป็นชายเข้าไปในกายเธออย่างนุ่มนวลเรียวขายาวของอินทิรากระหวัดเกี่ยวต้นขาแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของสามี เพื่อเปิดทางให้เขานำความสุขเข้ามาวิ่งพล่านอยู่ในตัวเธอได้สะดวก สอดมือข้างหนึ่งประสานกับเขาเพื่อใช้ยึดเหนี่ยว มืออีกข้างลูบหน้าท้องโหนกนูนเอาไว้คล้ายปลอบประโลมไม่ให้ลูกน้อยตกใจ คอยรับจังหวะรักอย่างสม่ำเสมอแต่ไม่รีบร้อน สะสมความสุขไปด้วยกันจนถึงฝั่งฝันหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปอินทิราพาปัทมาเดินเข้าไปในร้านอาหารของโรงแรมชื่อดังย่านสุวรรณภูมิด้วยมาดดั่งนางพญา กวาดสายตามองหาตำแหน่งตามที่ได้รับรายงาน“อยู่นั่นไงแก้ว” เมื่อเห็นเป้าหมายแล้วจึงจูงมือเพื่อนสาวเดินเข้าไปหาอย่างไม่ลังเล“ใจเย็น ๆ นะป่าน” ปัทมาที่ถูกชวนมาเป็นเพื่อนหลังจากเพิ่งกลับจากฮันนีมูนเพียงคืนเดียวเตือนเพื่อนรัก“รู้แ
“ป่านถึงบอกให้คุณคอยดูไงคะ ป่านจะส่งเธอออกนอกประเทศในไม่ช้านี้แหละ ป่านคิดว่าป่านรู้ตัวคนบงการด้วยค่ะ ป่านคงต้องสั่งสอนเธออีกสักหน่อย ขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้คงคลอดลูกไม่สงบ”โอ้ว! ภรรยาของเขานี่น่ากลัวจริง ๆ ถ้าเขามีเมียน้อยคงถูกเธอจับได้ตั้งแต่วันแรกเลยกระมัง“คุณไม่โกรธป่านใช่ไหมคะ ถ้าป่านจะตามสืบเรื่องนี้”“ทำไมต้องถามผมแบบนั้นด้วยล่ะครับ คุณทำเหมือนผมยังรักเธออยู่อย่างนั้นแหละ” เขารู้สึกแปลก ๆ กับคำถามของเธอ“ก็แค่คิด”“เลิกคิดเรื่องนั้นไปเลยนะคุณป่าน ผมรักผู้หญิงได้แค่ครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น และตอนนี้คนที่ผมรักก็คือคุณคนเดียว แต่ผมก็หวังว่าคุณจะไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหานะครับ” เขาแย้งและเตือนด้วยความเป็นห่วง“ถ้าใช้อารมณ์เป็นใหญ่ความรุนแรงก็เกิดขึ้นแน่นอน แต่ป่านเป็นคนมีสติค่ะ ป่านจึงใช้สติแก้ปัญหา คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ป่านจะแก้ปัญหาเรื่องนี้เอง คุณไม่ต้องเข้ามายุ่งเด็ดขาด ไม่งั้นป่านจะคิดว่าคุณยังมีใจให้เธอ” เธอขู่เพราะไม่อยากให้เขามาก้าวก่าย เรื่องแบบนี้ผู้หญ
“นั่นสิคะ” วารีก็สงสัยไม่ต่างจากสามี แต่ก็ไม่คิดจะเข้าไปยุ่งในตอนนี้ ให้พวกเขาปรับความเข้าใจกันเองก่อนดีกว่า ถ้าไม่ได้ผลแล้วค่อยยื่นมือเข้าไปช่วย“หวังว่าเธอจะหายงอนก่อนที่เรากลับมานะ” เรย์มองด์พูดยิ้ม ๆ“เราไปเป็นอาทิตย์เลยนะคะที่รัก” วารีค้อนใส่สามี “เดี๋ยวก็หายแล้วค่ะ คนท้องก็อารมณ์แปรปรวนง่ายแบบนี้แหละ”“หวังว่าเธอจะหายงอนก่อนเราออกเดินทางนะ” เรย์มองด์เปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ จึงเห็นรอยยิ้มพอใจของภรรยา…อินทิราถอดเสื้อคลุมเดินลงสระน้ำทันทีที่เหลือบไปเห็นสามีกำลังเดินมา ลอยคอเล่นอยู่ในน้ำหันหน้าไปทางตรงข้ามกับที่เขายืน“อยากว่ายน้ำทำไมไม่บอกผมล่ะครับที่รัก ผมจะได้มาว่ายเป็นเพื่อน” คำถามของเขาไร้การตอบรับโดยสิ้นเชิง เหมือนกำลังพูดอยู่กับอากาศ“ขนมปังกับนมได้แล้วค่ะคุณป่าน” สาวใช้คนเดิมบอกนายหญิง“วางไว้ตรงนั้นแหละจ้ะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปกินเอง ขอบใจนะ”“แป้งไปทำงานบ้านก่อนนะคะคุณป่าน” สาวใช้ขออนุญาตเมื่อเห็นสามีของเธอมาคอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ แล้ว“เธอไปแล้วใครจะดูแลฉันล่ะ เจ้านายของเธอต้องไปทำงานแล้ว” อิน







