เมื่อเบลบอกว่าเธอต้องการกลับร้าน กลางยื้อเธอไว้แต่เบลดื้อมาก และเขาก็ต้องยอม “ถ้างั้นฉันไปด้วย...มีทางนี้เท่านั้นที่เธอจะออกจากที่นี่ได้” เบลมองเขา แบบนี้มันชัดเจนเกินไปมั้ย แต่เบลรู้ว่าถ้าไม่ยอม เขาทำตามที่พูดแน่ เบลหยุดคิดนิดหนึ่ง ที่ร้านอยู่ไกลจากที่ทำงานเขาตั้งเยอะ คุณกลางต้องตื่นและออกไปทำงานแต่เช้า และกว่าเขาจะกลับก็น่าจะเป็นเวลาที่พี่โฟว์กลับ ซึ่งบางครั้งพี่โฟว์ก็จะไปพบลูกค้าและไม่ได้กลับมาที่ร้านอีก พวกเขาคงจะไม่เจอกัน
“ตกลงค่ะ” เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว กลางยิ้มตอบกลับเธอ และเบลก็ไปเก็บกระเป๋าให้เขา ที่นี่มีแต่เสื้อผ้าเซตเมื่อห้าปีก่อน เธอจำได้ก็เธอดูแลทุกอย่างให้กับเขาในตอนนั้น “ให้คุณแป้งจัดของที่บ้านไปดีกว่ามั้ย” กลางเสนอเพราะเขาไม่อยากใส่เสื้อผ้าที่ตกรุ่น เบลมองบนโดยไม่ให้เขาเห็น
“ตอนนี้ดึกแล้ว คุณกลางเลือกมาสักชุดเถอะคะ เดี๋ยวเบลจะหยิบชุดนอนและพวกกางเกงชั้นใน ถุงเท้า...” เธอพูด
“เบล...เบล” โฟว์วิ่งเข้ามาในห้องทำงานพร้อมแท็บเล็ต เบลเงยหน้ามองหน้าพี่โฟว์ แล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น โฟว์ไม่ได้พูดอะไรยื่นแท็บเล็ตไปตรงหน้าและชี้ให้เบลดูโพส “ฟ้อง!” เบลครางออกมา เธอไม่รู้เรื่องเลย แต่จะว่าไปเธอแทบจะไม่เคยอ่านเรื่องราวว่าร้ายแรงไปถึงไหนแล้ว “สามีเบลใช่มั้ย ต้องใช่แน่ๆ ร้ายกาจมาก ตอนแรกพี่คิดว่าเขาจะไม่สนใจ ที่ไหนได้ร่อนหมายศาลไปหาทุกคนไม่มีตกหล่นเลย ใช่แล้วพวกนี้ต้องเจอแบบนี้” เบลรู้จักคุณกลางดี ที่เธอไม่สนใจตั้งแต่แรกก็เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องถึงขั้นนี้ “เอาน่า...ที่เบลไม่รู้เรื่อง พี่ไม่แปลกใจเลย สามีเบลพี่ว่าเขาเจ๋งมาก ดั่งสุภาษิตที่ว่าอย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ เขาไม่ลดตัวลงมาพี่ว่าเขาทำถูกจริงๆ แต่ยังไงคนพวกนี้ต้องได้รับบทเรียน...ฟันธงพี่เห็นด้วย...อ๊ะอ๊ะ อย่าให้เขาไปถอนฟ้องโดยเด็ดขาด พี่รู้นะว่าเบลคิดอะไรอยู่ ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของผู้นำครอบครัวถูกต้องแล้วน้องร
“ทำไมคุณกลางถึงอยากมีลูกอีกละคะ” “อีก?” แทนที่จะได้คำตอบ กลับมีคำถามที่เขาไม่เข้าใจ “ฉันยังไม่เคยแต่งงานแล้วฉันจะมีลูกได้ยังไง” เบลมองเขานิ่ง คนอย่างคุณกลางไม่เคยโกหก เขายอมรับการกระทำของตัวเองเสมอ “นี่เบลเข้าใจผิดอย่างงั้นเหรอ...ห้าปีที่ผ่านมาทำไมคุณกลางไม่แต่งงานกับคุณช่อคะ” “ก็ฉันไม่ได้รักเขานิ” “แต่คุณคบกับเขามาตั้งหลายปี” “ก็แค่ชอบและคิดว่าเมื่อคบกันรู้จักกันมากขึ้น ด้วยฐานะทางสังคมของเธอ ฉันจะรักเธอได้สักวันและวันนั้นก็จะเป็นวันที่ฉันจะขอเธอแต่งงาน” แม้เบลจะไ
ในเมื่อเขาขอเธอแต่งงานก่อนที่เธอจะท้อง เธอปฎิเสธ และเขาก็ไม่อยากบังคับเธอ แต่เมื่อไหร่ที่เขาทำเธอท้อง เบลจะปฎิเสธเขาไม่ได้อย่างแน่นอน “ยืนไหวมั้ย” เมื่อนิ่งพักหายใจกันไปสักพัก เขาก็เอ่ยขึ้น เบลพยักหน้ารับ และเขาก็ผละค่อยๆห่างเธอออกไป เบลมองเขาที่ว่ายน้ำตีกังเชียงไปยังอีกฝั่งของสระ ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าสระว่ายน้ำมีไว้เพื่ออะไร แต่เบลไม่มีเรี่ยวแรงเหมือนเขา เธอยังยืนอยู่ที่เดิม วางหนุนศีรษะไว้บนแขนที่พาดอยู่ที่ขอบสระ และหลับตา เรี่ยวแรงเธอไม่ได้กลับมาเร็วแบบเขา และเธอก็ยังรู้สึกที่ร่องระหว่างขา กัยอาการปวดระบมที่เนินอกอวบทั้งสอง เธอปล่อยให้น้ำบำบัดร่างกายเธออย่างสงบ เสียงน้ำที่แตกจากการแหวกว่ายยังคงดังอย่างเอื่อยๆต่อเนื่องกันไป และตลอดสามสี่วันทริปฮันนีมูนก่อนแต่งของเบลและคุณกลางก็รวนไปหมด เพราะในตอนกลางวันที่คุณกลางตามใจเบลออกไปท่องเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆของจังหวัด เขาจะพักในเวลาช่วงเย็นสองสามชั่วโมง พอค่ำนิดหน่อยก็เป็นเวลาท
“เชียงใหม่ยังมีอะไรมากมาย ให้เราไปหลายที่มากค่ะ” และกลางก็เริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองแก่แล้วเหรอ นี่แค่ครึ่งวันเท่านั้นที่เบลพาเขาตะลอนๆ ไปยังที่เธอต้องการ เขารู้สึกเหนื่อยจริงๆ แต่เธอไม่มีอาการเหล่านั้นเลยสักนิด “เบล ฉันอยากกลับไปพักแล้ว” เบลกระพริบมองเขาถี่ๆ ชิ! เบลไม่อยากขัดใจจึงยอมกลับที่พักอย่างที่เขาต้องการ พรึ่บ! กลางล้มตัวลงบนโซฟา และแหงนหน้าพิงพนัก เบลวางถุงขนมและอาหารที่เธอซื้อมาบนโต๊ะ และหยิบน้ำเปล่าไม่เย็นออกมาจากถุงในหลายๆถุงที่เธอหิ้วมาด้วย “น้ำค่ะ” เบลเปิดขวดให้เขาและทรุดนั่งลงข้างๆเขา กลางดื่มน้ำหมดไปครึ่งขวด และเขากลับไปแหงนหน้าพิงพนักเหมือนเดิม เขากับเบลอายุห่างกันสิบปี ช่องว่างระหว่างวัยที่เกิดขึ้นทำให้เขากับเธอชอบอะไรที่ไม่เหมือนกัน วันนี้เขาเห็นแล้วว่าเบลสนุกสดใส “พลังเหลือเฟือจริงๆ” กลางยิ้มขันออกมา
“เบลก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นจุดหมายปลายทางชีวิตของเบลหรอกค่ะ เราสองคนแตกต่างกันมาก พี่โฟว์เข้าใจความหมายของดอกกุหลาบสีน้ำเงินมั้ยคะว่ามันคือการรอคอยที่ไม่สิ้นสุด เบลเคยคิดว่าความรู้สึกของเบลที่มีให้กับเขาเปรียบเสมือนดอกกุหลาบสีน้ำเงินที่ไม่มีทางสมหวัง วันแรกที่เบลเห็นเขา...” เบลนึกถึงเมื่อหกปีก่อนได้ ตอนที่เห็นเขาจากที่ไกลๆในบ้านของคุณใหญ่ เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลย “รักเขาใช่มั้ย” โฟว์ถามขึ้นเมื่อจู่ๆเบลก็เงียบไป “ค่ะ แต่เมื่อไหร่นั้น เบลก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่วันที่เขาเนรเทศเบล วันนั้นเบลแย่มากๆ แย่จนไม่เข้าใจว่าตัวเองผ่านช่วงนั้นมาได้อย่างไร” ตอนนั้นเบลพยายามคิดถึงอนาคตของตัวเอง แต่มันไม่ง่ายเลย เธอทรมานเป็นที่สุด แต่เธอก็ภูมิใจในตัวเองที่เธอผ่านมันมาได้ โดยที่ไม่ทำร้ายชีวิตของตัวเองลงไป “งั้นพวกพี่พร้อมแล้วที่จะขอรู้จักกับเขา&r
“ฉันจะออกไปพบกับเขาเอง” เขาพูดพร้อมกับวางโทรศัพท์ของเบลไว้บนเตียงเมื่อเขาเดินไปส่องกระจกเช็คตัวเอง และเขาก็เดินไปเปิดลิ้นชัก หยิบแหวนของมอสออกมา “ฉันจะเอาไปคืนเขา และอาจกลับดึกหน่อยนะ” เบลยืนมองเขาตกตะลึงอ้าปากค้าง “ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลเด็กนั่นเอง” ชิ! เบลหมั่นไส้เขาขึ้นมาทันที “เมื่อกี้คุณกลางพูดอะไรกับพี่มอส” เบลกลัวเหลือเกินว่าคุณกลางจอมร้ายกาจคนนี้จะพูดจาทำร้ายจิตใจพี่มอส “รายละเอียดหลักๆ ขี้เกียจเล่า เอาเป็นว่าอดีตแฟนของเบล เขารู้แล้วว่าฉันเป็นผู้ปกครองของเบล” “ผู้ปกครองเหรอคะ” กลางพยักหน้า “ผู้ปกครองที่เป็นเจ้าชีวิตของเบลไปตลอดชีวิตไงเล่า” จุ๊บ เขาเดินมาหอมแก้มเธอ “นอนเลยนะไม่ต้องรอ”