เจอกันสักที (รอบ 1ปี)
'สามทุ่มตรง' ฉันลุกจากเตียงเพื่อจะไปแต่งตัว ฉันเลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วดูเซ็กซี่ที่สุด ซึ่งก่อนหน้าฉันไม่เคยสวมใส่เสื้อผ้าแนวนี้เลย เพิ่งจะมาใส่ในช่วงหนึ่งปีที่แล้ว.เพราะรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง. ก๊อก ก๊อก
"คุณหนูคะ คุณหนู.."นั่นเป็นเสียงของป้าจัน ฉันวางแปลงปัดหน้าลงแล้วลุกจากเก้าอี้หน้ากระจกเพื่อจะไปเปิดประตูให้เธอ
"...ป้าเอานมอุ่นมาให้ค่ะ"ยังเดินไม่ถึงประตูห้องเสียงป้าจันก็ดังขึ้นอีกครั้ง ฉันต้องลอบหายใจออกมา เพราะป้าจันมักจะต้องเอานมอุ่น ๆ มาให้ฉันดื่มตั้งแต่เด็กแต่ตอนนี้ฉันโตแล้วนะ แอ๊ดดด เสียงประตูเปิดเข้ามา
"คุณหนู..."พอเปิดประตูป้าจันก็ต้องชะงักแล้วส่งสายตามองมาที่ฉันด้วยสีหน้าค่อนข้างตกใจ
"....จะออกไปไหนเหรอคะ"เธอตกใจเพราะเสื้อผ้าที่ฉันสวมใส่ยังไงล่ะ
"ต้องจะออกไปดื่มกับพลอยน่ะค่ะ"ฉันตอบกลับไปตามความจริง แล้วหลุบตามองแก้วนมที่มือของป้าแม่บ้าน
"เอาไปเก็บเถอะค่ะ ต้องไม่กินหรอก...."
"ไม่ได้นะคะ ถ้าคุณท่านรู้อาจจะโกรธเอาได้"ป้าจันแทรกพูดขึ้น
"ป้าจัน ต้องโตแล้วนะคะเรียนจบแล้วด้วย"
"แต่..."
"ไม่มีแต่ ป้าเอานมกลับไปเถอะต้องจะแต่งตัวต่อ"ว่าจบฉันก็ผลักป้าแม่บ้านออกเบา ๆ ให้พ้นประตูเพื่อจะปิด
"คุณหนู.."
"ต้องสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดี"ฉันคลี่ยิ้มหวานให้ก่อนจะปิดประตูลง.
"คุณหนู...เฮ้อ"
ฉันไม่สนใจเสียงพ่นลมหายใจที่ดังอยู่หน้าประตูเลือกที่จะเดินมาแต่งหน้าต่อ
หลังจากจัดการตัวเองจนสวยปิ้งแล้วฉันก็ออกมาจากห้อง.สะพายกระเป๋าใบโปรดเดินลงบันไดมา กวาดสายตาไปรอบ ๆ ซึ่งมีไฟที่เปิดไว้เป็นบางจุด แต่พอเห็นทาง ฉันเดินจนมาถึงห้องที่สำหรับเก็บกุญแจรถ กำลังจะเอื้อมไปเปิดประตู ก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง.
"คุณหนู"ฉันสะดุ้งเฮือกนึงก่อนที่จะหันหลังไปดู
"โธ่ ลุงกรมาไม่ให้สุ่มให้เสียง ต้องตกใจหมด"พูดพลางเอามือลูบที่หน้าอกตัวเอง
"เดี๋ยวลุงขับรถให้"ฉันขมวดคิ้วจ้องลุงกรด้วยความสงสัย
"ยายจันบอกกับลุงว่าคุณหนูจะออกไปดื่ม..ยายจันเป็นห่วงคุณหนูจึงให้ลุงช่วยขับรถพาคุณหนูไป"ฉันผงกหัวหยิก ๆ อย่างเข้าใจ
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ต้องขับเองได้"
"ให้ลุงขับให้เถอะนะ ลุงเองก็เป็นห่วงคุณหนูเหมือนกัน"ฉันยืนคิดอยู่ในใจ ถ้าขืนยอมให้ลุงกรขับรถให้แน่นอนว่าเขาจะต้องรอจนผับปิดแน่ จึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ท่ามกลางสายตาลุงกรที่จ้องอยู่สีหน้าสงสัย
"ต้องให้พลอยมารับดีกว่า จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนลุง"
"คุณหนู.."ฉันไม่สนใจรีบกดเบอร์หาเพื่อนสนิททันที
(ฮาโหลว่าไงแก พ่อไม่ให้มาเหรอ)ที่พลอยพูดแบบนั้นก็เพราะรู้ว่าพ่อฉันเป็นคนยังไง.
"มารับฉันหน่อยสิ"
(แล้วพ่อแก...)
"มาเถอะ แล้วค่อยคุยกัน"ที่ฉันสามารถที่จะออกไปเที่ยวดื่มได้ก็เพราะพ่อของฉันไม่อยู่ และดูว่าจะกลับดึกด้วย ซึ่งเป็นปกติที่ท่านจะต้องมีการสังสรรค์พูดคุยธุรกิจกับเพื่อนนักธุรกิจด้วยกัน และแต่ก่อนหน้ามันเป็นโอกาสที่ฉันมักจะหนีเที่ยว ไปหาพี่ทอย อดีตแฟนได้สะดวก โดยไม่มีใครปริปากบอกพ่อสักคน
(โอเค)สิ้นเสียงฉันก็กดวางสาย แล้วเก็บโทรศัพท์ใส่ไว้ในกระเป๋า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วพูดกับลุงกรที่ยังยืนอยู่
"ลุงกรไปนอนเถอะค่ะ เดี๋ยวพลอยจะมารับต้อง"คนขับรถประจำบ้านลอบหายใจเบา ๆ แล้วพูดขึ้น
"ดูแลตัวเองด้วยนะครับ...ถ้าเมากลับไม่ไหว..."
"ต้องจะโทรหาลุงนะคะ"ฉันแทรกพูดเพราะรู้ว่าเขาจะพูดอะไรต่อ พลอยเป็นคนที่เคยพาฉันมักจะมารับฉันไปเที่ยวกลางคืน ตอนที่ฉันอยู่ที่นี่ โดยที่เธอไม่เคยพาฉันไปเถลไถล ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่พาฉันไปส่งต่อให้กับพี่ทอย และเขาก็ไม่เคยพาฉันไปทำอะไรที่มันไม่ดี พาฉันกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ อย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากที่ลุงกรกลับไปที่พัก ฉันก็เดินไปนั่งรอพลอยอยู่ที่หน้าบ้าน ไม่นานเลย รถยนต์คันหรูก็ขับมาจอดที่หน้าประตูรั้วบ้าน แน่นอนว่ารถคันนั้นเป็นรถของพลอย ฉันจึงรีบเปิดประตูเล็กแล้วเดินตรงไปที่รถของเธอ
"เข้ามา"พลอยเห็นฉันในกระจกที่หน้ามองข้างแล้วพูดขึ้น ฉันก็เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งที่เบาะข้าง ๆ
"Let's go"สิ้นเสียง เพื่อนสนิทฉันก็ขับรถออกมา
ผับ KAI
ฉันกับพลอยออกมาจากรถ แล้วเงยหน้ามองป้ายชื่อผับที่เรากำลังจะเข้าไป
"จะเข้าไปจริง ๆ เหรอ"เพื่อนสนิทหันมาถามแล้วเอื้อมมาจับมือฉัน
"อืม"
"ถ้าเจอพี่เขา?.."เธอน่าจะหมายถึงพี่ทอย
"ฉันจะตื๊อถามเขา ว่าเลิกกับฉันเพราะอะไร"ใช่ ฉันอยากได้คำตอบที่ไม่เคยเข้าใจมาหลายปี ว่าเขาเลิกกับฉันด้วยเหตุผลอะไร
"แก..เขาอาจจะเลิกรัก.."
"ไม่..เขายังรักฉันอยู่ เพราะก่อนหน้าเขายังพาฉันไปที่อัมพวา เป็นบ้านพักที่แม่เขาซื้อไว้ให้ก่อนที่จะเสีย แล้วเขายังบอกฉันเลยว่าไม่เคยพาใครมา ..แล้วเป็นครั้งแรกที่ฉัน..."ฉันพูดไม่จบ แล้วก้มหน้างุด นึกถึงตอนนั้น ที่ฉันเสียตัวครั้งแรกให้เขา แน่นอนฉันรู้ว่าพลอยน่าจะรู้
"....เข้าไปกันเถอะ"ฉันดึงมือเพื่อนสนิทเข้าไปในผับก่อนที่เธอจะพูดอะไรออกมา พอพ้นประตูผับเข้าไปด้านในก็ได้เจอกับพนักงานต้อนรับซึ่งเป็นผู้ชาย ฉันก็ไม่ได้คุ้นหน้าคุ้นตาเลย ฉันคิดว่าน่าจะเปลี่ยนพนักงานใหม่ ก็แน่นะสิฉันไม่ได้มาเป็นปีแล้ว และแน่นอนเขาไม่รู้จักฉัน
"ต้องการห้อง วีไอพีหริอเปล่าครับ"
"ค่ะ"ฉันหันขวับไปที่เพื่อน ซึ่งเป็นคนตอบ ในหัวคิดว่าถ้าฉันไปในห้องวีไอพี จะมีโอกาสน้อยมากที่ได้เจอกับพี่ทอย แฟนเก่า
"ไม่ค่ะ.."
"วีไอพีค่ะ"ฉันกำลังจะปฏิเสธแต่เพื่อนตัวดีก็แทรกพูดอย่างหนักแน่น ไม่แค่นั้น เธอยังดึงมือฉันให้เดินตามพนักงานต้อนรับ ขึ้นบันไดไปบนชั้นสองของผับ
"แก ฉันอยาก..."
"หยุด! ฉันชวนแกมานะห้ามขัดใจ"
"เฮ้อ"ฉันพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ แล้วยอมเดินขึ้นบันไดตามเพื่อนโดยไม่ได้ขัดขืน
ระหว่างทางที่ขึ้นบันได ฉันก็เงยหน้าขึ้น และต้องขะงักหยุด ด้วยหัวใจที่เต้นรัว ๆ เพราะได้เจอกับ แฟนเก่า ที่ยังรักและอยากเจอ กำลังเดินสวนฉันลงบันไดมา ตึกตัก ตึกตัก
"พี่ทอย" ฉันสะบัดมือจากเพื่อนสนิทที่จับอยู่ แล้วเดินไปขวางหน้าเขา
"ต้องรัก!"ชายหนุ่มรูปหล่อสบถออกมาเบา ๆ ด้วยสีหน้าตระหนกตกใจเล็กน้อย
"ยังจำชื่อกันได้หนิ"ฉันบอกออกไปด้วยน้ำเสียงประชดประชันชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าหล่อเหลามองฉันด้วยสายตาที่เย็นชา โดยไม่ปริปากตอบกลับอะไรเลย
"ได้เจอกันสักทีนะ"ฉันเอ่ยพร้อมกับยกยิ้ม ในขณะที่หัวใจเต้นระรัว
"ต้อง"
ตอนจบ"เธอคิดเราจะไปปั๊มลูกที่ไหนกันดี"พอสิ้นเสียงฉันก็พลิกตัวหันไปที่สามีทันที"พี่หมายความว่าอะไร"ฉันขมวดคิ้วเอ่ยถามสามีสุดหล่อที่ยืนอมยิ้มตรงหน้า"ฮันนีมูนน่ะ..เธออยากไปที่ไหน""แล้วเกี่ยวอะไรกับทำลูก?"พูดจบสามีสุดหล่อก็กลั้วหัวเราะออกมาอย่างมีเลศนัย"เหอะ...ก็พ่อเธออยากอุ้มหลานไม่ใช่เหรอพี่ก็เลยอยากให้ท่านสมหวัง""ชิว์ คนบ้ากาม"ฉันพึมพำแล้วจัดการถอดเครื่องประดับตัวเองต่อ"ให้พี่ช่วยถอดเสื้อผ้าให้ไหม"เสียงทุ้มแฝงเซ็กซี่ดังเข้ามาข้าง ๆ ใบหู"พี่ทอย..ต้องเหนื่อย"ฉันรู้เจตนาของสามีว่าเขาต้องการอะไร จึงแย้งทันที"แต่พี่ไม่เหนื่อย พี่ทำให้เธอได้""เฮ้ออออ"ฉันพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่"ให้พี่ถอดให้นะ"ปากว่าแต่มือรูดซิบชุดราตรีที่ด้านหลังลงแล้วคืนเข้าหอ ฉันก็ไม่รอดพ้นน้ำมือพี่ทอย เขาจัดหนักจัดเต็มราวกับคนหิวโหย ปึก ปึก ปึก"อื้ออออ พี่ทอยพอได้แล้ว"ฉันใช้มือผลักหน้าอกแกร่งในขณะที่สามีป้ายแดงกำลังจะสอดท่อนเอ็นเข้ามาอีกครั้ง"อีกรอบเดียว..พอเลย"คนบนร่างพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่า แล้วพอพูดจบ พรวด! ท่อนยักษ์ก็ได้สอดแทรกเข้ามาที่ร่องแคบของฉันแล้ว."อ่า~" ปึก ปึก ปึกเช้าวันต่อมาพี่ทอยพาฉันออกจากโรง
แต่งงานแผลที่ขาฉันดีขึ้นมากแล้ว พี่ทอยที่คอยแวะเวียนมาคอยดูแลฉันอยู่ตลอดหลังจากออกโรงพยาบาล. จึงได้บอกกับพ่อของฉันว่าจะพาพ่อของเขาและน้าเรอามาคุยเรื่องการสู่ขอ ซึ่งพ่อก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพราะหลังมานี้ท่านดูเอ็นดูพี่ทอยขึ้นมามาก และทำท่าอยากจะได้เป็นลูกเขยใจจะขาดวันนี้แหละเป็นวันที่พี่ทอยจะพาครอบครัวมา ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้วฉันจะได้ลงเอยกับรักแรก ที่เคยเลิกลากันมาแล้วครั้งหนึ่งก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังมาจากนอกห้องพร้อมกับเสียงเรียกของป้าแม่บ้าน"คุณหนูต้องแต่งตัวเสร็จหรือยังคะ"ฉันลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูทันที"เรียบร้อยแล้วค่ะ""พวกเขามากันแล้วค่ะคุณหนู รีบลงไปกันเถอะ"ฉันคลี่ยิ้มหวานแต่ภายในใจรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย ก้าวขาเดินตามป้าแม่บ้านลงมาจากห้อง.พอมาถึงที่ห้องรับแขกก็ได้พบกับพ่อพี่ทอยแล้วน้าเรอาจึงรีบยกมือไหว้ ก่อนที่จะนั่งลง.จากนั้นการเจรจาก็เริ่มขึ้น เราปรึกษาหารือกันร่วม ๆ สองชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปว่า งานแต่งของฉันกับพี่ทอยจะเกิดขึ้นภายในสามเดือนข้างหน้า พี่ทอยยิ้มไม่หุบ กุมมือฉันไว้ตลอดเลยหลังจากตกลงกันเรียบร้อย พ่อฉันก็ชวนครอบครัวพี่ทอยทานข้
ยอมรับ"แฟนเก่าแก่น่ะ"ฉันได้ยินที่พ่อบอกก็หลุดหัวเราะออกมา"คิกคิก""จะให้เข้ามาไหม"จากนั้นพ่อก็ถามกลับมา"ให้เข้ามาสิคะ"ฉันพูดพร้อมกับฉีกยิ้มหลังจากที่พ่อรู้ว่าพี่ทอยไม่ได้เป็นคนที่ทำให้ลูกชายของท่านเสียชีวิต จึงลดทิฐิลงยอมเปิดใจรับฟังเรื่องราวพี่ทอยจากปากฉัน ซึ่งฉันก็รู้สึกดีใจและเล่าเรื่องของฉันกับพี่ทอยให้พ่อฟัง.ว่าเจอกันยังไง ใครจีบใครก่อน จนกระทั่งตอนที่เขาบอกเลิกโดยที่ตอนนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหตุผล คอยไปดักเจอเขาจนเสียการเรียน ก็เป็นสาเหตุที่พ่อส่งฉันไปเรียนเมืองนอก พอฉันกลับมาก็ได้เจอเขาอีกครั้ง แต่ไม่ได้เล่าถึงความร้ายกาจที่พี่ทอยทำกับฉันนะ กลัวพ่อจะเกลียดเขา และกลัวว่าจะไม่ยอมให้เราคบกัน ถึงแม้ฉันก็ยังมาความแค้นใจอยู่บ้างตึก ตึก เสียงฝีเท้าหนักเดินเข้ามา ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มให้ฉันแบบเจื่อน ๆ"มีธุระอะไร"พี่ทอยหันขวับกลับไปที่คนถาม."เอ่อ..คือผมอยากมาเยี่ยมน้องอ่ะครับ"น้ำเสียงนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความประหม่า ฉันนั่งมองแฟนหนุ่มแล้วคลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเขาดูเกร็ง ๆ พออยู่ต่อหน้าพ่อของฉัน"...."พ่อฉันไม่พูดอะไรเลือกที่จะส่ายหน้าแล้วเดินไปนั่งที่โซฟามุมห้อง พี่ทอยยืนมอ
ความจริง 2TOYตกเย็นผมก็รีบเก็บของเตรียมตัวไปหาไอ้กั้งทันที วันนี้ในหัวผมคิดแต่เรื่องที่มันพูด ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินออกจากห้องทำงาน ก็สวนเข้ากับรณ น้องชายต่างมารดาของผมเข้า"ดูรีบร้อน..จะไปไหน"มันถามด้วยสีหน้านิ่งเรียบ"ไปหาไอ้กั้ง"ผมตอบกลับพร้อมกับจะก้าวขาเดิน แต่น้องชายต่างมารดาก็คว้าแขนผมไว้"มันออกมาแล้ว?"ผมผงกหัวรับ"ใครพามันออกมา ได้ยินว่าอามัน...""ไม่รู้เหมือนกัน ก็จะไปถามมันอยู่นี่ไง"ผมพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะตอนนี้ผมอยากจะไปเจอกับเพื่อนเก่าที่เคยร่วมชั้นเรียนแล้ว."ฉันไปด้วย"พูดจบ ไอ้น้องชายหน้านิ่งก็เดินนำหน้าผมไป"เฮ้อ"ผมพ่นลมหายใจพรืดใหญ่แล้วจำยอมให้มันไปด้วย"มันพูดอะไรบ้าง"ระหว่างที่ผมขับรถน้องชายหน้านิ่งก็เอ่ยถามขึ้นมา"มันจะบอกความจริงเรื่องการตายของไอ้ตั้ง"พูดจบรณก็หันขวับมาที่ผม"การตายของไอ้ตั้ง?"แล้วพึมพำเบา ๆ"อืม..มันต้องรู้อะไรแน่"สิ้นเสียงผมก็รีบเหยียบคันเร่งทันทีเพื่อจะไปให้ถึงเร็วที่สุดพอมาถึงผมกับรณก็รีบลงจากรถแล้วเดินขึ้นบันไดหนีไฟไปยังชั้นดาดฟ้า"แฮ่ก ๆ"กว่าจะถึงผมกับรณก็ยืนหอบกันใหญ่"แก่แล้วก็งี้แหละ"ผมหันไปบอกกับน้องชายหน้านิ่ง."ฉันยังไม่แก่"พู
ความจริงเช้าวันต่อมาประธานบริษัทใหญ่ เดินทางมายังที่โรงพักซึ่งเป็นสถานที่กักคุมเพื่อนของลูกชาย การมาของเขาครั้งนี้ก็เพราะมายื่นประกันตัวชายหนุ่มรุ่นลูกด้วยความสงสาร และเห็นใจ โดยเขาได้ให้ตำรวจเปลี่ยนสำนวนคดีจากการพยายามฆ่า เป็นแค่ทำร้ายร่างกายเท่านั้น จากนั้นก็ให้ทนายยื่นประกันตัวคดี ฉ้อโกง รวมถึงการทำร้ายร่างกายเขาและลูกสาวหลังจากที่ประกันตัวเรียบร้อย กั้งก็ได้เดินออกมาด้วยสีหน้าเศร้า ดวงตาแดงก่ำ วิโรจที่รู้สึกรักและเอ็นดูลูกชายของเจ้านายก็รีบเดินเข้าไปหาด้วยความดีใจ"ขอบคุณนะครับอาโรจ"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น และรู้สึกเสียใจ ที่พอได้รู้ความจริงทุกอย่างจากปากคนสนิทของพ่อตัวเอง.ว่าโดนอาแท้ ๆ หลอกใช้ ยังรู้อีกว่าเขายังมีส่วนร่วมในการตายของพ่อแม่อีกด้วย"คนที่คุณกั้งควรจะขอบคุณก็คือคุณต้อ"วิโรจบอกพร้อมกับหันไปที่ประธานบริษัทใหญ่ จากนั้นชายหนุ่มรุ่นลูกก็เดินไป แล้วคุกเข่า"จะทำอะไร..."ประธานวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยสีหน้าตกใจ แต่ชะงักอึ้ง เมื่อชายหนุ่มรุ่นลูกก้มกราบเท้าของเขา"ผมขอโทษ...ฮึก"ชายหนุ่มรุ่นลูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทาพร้อมกับกลั้นร้องไห้ แต่น้ำตาก็ยังไหลออกมา เงยมองหน้าพ่อของเพื
อยากมีลูก"ถ้าอายงั้นให้พี่อาบเป็นเพื่อนไหม"โอ๊ย ฉันเขินจะบ้าอยู่แล้ว ทำไมมีทอยของฉันแพรวพราวแบบนี้นะ"อย่ามาหื่น! ต้องเจ็บอยู่นะ"ฉันเอ็ดเขาแล้วก้มมองไปยังแผลที่อยู่ยิงมาตรงขา"แค่อาบน้ำเป็นเพื่อนไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย"คนตัวโตพูดขึ้นพร้อมกับไหวไหล่ราวกับว่าที่เขาพูดเป็นเรื่องปกติ"ออกไปได้แล้ว..ต้องจะอาบน้ำเอง""แต่พี่อยากอาบน้ำให้"พี่ทอยสวนกลับมาทันที"เฮ้อ"ฉันพ่นลมหายใจหนักใส่เขา"นะครับ"เขาส่งน้ำเสียงที่ออดอ้อน"ก็ได้"สุดท้ายฉันก็ใจอ่อน เพราะรักเขาแหละพี่ทอยปลดเปลื้องเสื้อผ้าของฉันจนถึงชิ้นสุดท้ายที่เป็นกางเกงชั้นใน ฉันเขินนะแต่พยายามทำให้ตัวปกติ เพราะอยากจะอาบน้ำให้มันเสร็จไว ๆ"อีกหน่อยพอเราแต่งงานกัน..."แฟนหนุ่มพูดในขณะที่ถอดกางเกงชั้นในฉันออกจากขาซึ่งต้องทำอย่างเบามือเพราะมีแผล."...พี่จะอาบน้ำกับเธอทุกวันเลย""ตลกล่ะ"ฉันสบถออกมาเบา ๆ"ไม่ตลกพี่จริงจัง พออาบน้ำเสร็จก็เอากันต่อ"เพียะ! ฉันตีเขาที่แขนทันที"เหอะ ๆ"พี่ทอยกลั้วหัวเราะด้วยสีหน้าแสดงออกว่าเขาชอบใจที่ทำให้ฉันเขินแฟนหนุ่มอาบน้ำให้ฉันอย่างระมัดระวัง เขาบีบเจลอาบน้ำใส่มือแล้วถูตัวฉันเบา ๆ"สระผมด้วยไหม...."เสียงทุ้มเอ่