Home / วัยรุ่น / ก็ไม่รักแล้วนะเธอ / CHAPTER 9 ก็ไม่ได้รักแล้ว

Share

CHAPTER 9 ก็ไม่ได้รักแล้ว

last update Last Updated: 2025-10-14 10:43:06

        “ไหนว่าพี่ภูมาทำรายงานแล้วนี่อะไร!” เดียร์ตะโกนออกไปทำให้ชายหนุ่มสะดุ้ง หันมามองหญิงสาว

        “มาได้ยังไง” เขาถามด้วยความตกใจที่เดียร์มาที่นี่ถูก

        “พี่ทำแบบนี้กับเดียร์ได้ยังไง” เธอถามเสียงสั่นทั้งเสียใจและโกรธเขามาก จนแวบหนึ่งความรู้สึกของเธอบอกให้พอตั้งแต่ตอนนี้

        “เดียร์ใจเย็นก่อนสิ”

        เพื่อนที่อยู่ในห้องต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมากว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครแล้วทำไมภูริถึงได้มีท่าทีที่แปลกไป แต่ถึงแบบนั้นพวกเขาก็ทำเพียงแค่ใส่ใจกันแบบเงียบๆ

        “จะให้ใจเย็นได้ยังไง!” รอบนี้เดียร์โกรธจนเริ่มไม่มีสติ ความอดทนทั้งหมดขาดสะบั้นลงทันที

        “ตั้งสติหน่อยออกมาคุยกันด้านนอก”

        พี่กลัวใครรู้เหรอว่าพี่มีเมียมีลูกแล้ว หรือกลัวใครจะเสียใจ”

        “ภูพริมว่ากลับไปคุยกันดีๆ ดีกว่า” พีรญาลุกขึ้นมาห้ามทั้งสอง ไม่อยากให้คนอื่นมองภูริไม่ดี

        เพี๊ยะ!

เสียงฝ่ามือกระทบแก้มดังลั่นจนคนรอบข้างหันมอง พีรญาเซไปเล็กน้อยมือกุมแก้ม ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ

“เดียร์ทำบ้าอะไรของเธอ” เพื่อนต่างพากันอึ้งที่พีรญาโดนตบ

“นี่พี่ไปทำอะไรให้” พีรญาถามเสียงสั่น แววตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

“อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้เดียร์เห็นแล้วรูปที่พี่ส่งมา เดียร์ไม่โง่นะ คิดว่าจะแอบคบกันลับหลังได้เหรอ!” เธอหอบหายใจแรง น้ำตาคลอเบ้าแต่แววตากลับแข็งกร้าว

“อะไรนะ!” พีรญาอึ้งหน้าแดงก่ำทั้งจากแรงตบและความโกรธปนงุนงง

“เดียร์! หยุดนะพริมไม่ได้มีอะไรกับพี่ เขาเป็นแค่เพื่อน” ทันใดนั้นภูริก็รีบพุ่งเข้ามาคว้าแขนของเดียร์ไว้แน่น

“เพื่อนที่คอยหิ้วพี่กลับมาส่งถึงห้องแบบนั้นน่ะเหรอ เพื่อนที่พี่ไว้ใจจนมากกว่าเมียตัวเอง!” แต่เดียร์สะบัดแขนออก น้ำเสียงสั่นเครือเต็มไปด้วยความน้อยใจ

        ภูริไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมานอกจากทำเพียงแค่จ้องมองเมียตัวเองด้วยความขัดใจก่อนที่เดียร์จะเป็นฝ่ายทนไม่ไหว และลากภูริออกมาจากคอนโดอย่างไม่สนใจว่าเขาจะรู้สึกอับอายหรือเปล่า เพราะคนที่ควรจะต้องรู้สึกโกรธควรจะเป็นเธอไม่ใช่คนที่ทำอะไรที่ไม่คิดหน้าคิดหลังแบบภูริ

“พี่ภูเดียร์ยังพูดกับพี่ไม่จบ!” สีหน้าขุ่นเคืองเต็มไปด้วยโทสะ เดียร์รีบวิ่งตามหลังแล้วเอื้อมมือไปคว้าข้อมือเขาไว้แน่น แต่ชายหนุ่มสะบัดมือออกเต็มแรง ราวกับการจับนั้นเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ

“ปล่อย! ทำแบบนี้พี่เสียหน้าหมดเลยนะเดียร์รู้มั้ย”

“เสียหน้าเหรอ? แล้วที่พี่ทำมันไม่อายหรือไงพี่กล้าหลอกเดียร์ กล้านั่งกอดกับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าพี่ไม่อาย แต่กลับมาโกรธที่เดียร์” ดวงตาของหญิงสาวแดงก่ำด้วยทั้งโกรธและเสียใจ เธอเชิดหน้าขึ้นน้ำเสียงสั่นแต่แฝงด้วยความดื้อดึง

“เดียร์อย่ามาทำเป็นสั่งสอนพี่ก็มีชีวิตของพี่ ไม่ใช่เด็กที่ต้องให้คอยจับผิดตลอดเวลา!” ภูริกัดฟันแน่น เสียงเข้มขึ้น

“ใช่สิ เพราะพี่ไม่เคยคิดถึงลูก ไม่เคยคิดถึงเดียร์เลยสักครั้ง พี่อยากไปมีความสุขข้างนอกก็ไปสิ แต่เลิกหลอก เลิกทำให้เดียร์ต้องมานั่งเจ็บแบบนี้”

“กลับไปคุยกันที่บ้าน”

“อายหรือไง ที่ตอนไปมีคนอื่นไม่เห็นจะอาย”

“บอกให้หยุดพูดไงวะ” เขาเริ่มโมโหขึ้นมาเมื่อหญิงสาวเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง

“อยากอยู่ด้วยกันมากใช่ไหม งั้นก็ไปอยู่ด้วยกันเลยเดียร์ไม่ทนอีกแล้ว”

“ขึ้นรถ!”

เสียงโต้เถียงดังก้องไปทั่วลานจอดรถ ผู้คนบางส่วนเริ่มเหลียวมองด้วยความสนใจ แต่ทั้งคู่ก็ไม่มีใครยอมถอย ไม่มีใครยอมลดราวาศอกให้กันเลยสักนิด ราวกับความรักที่เคยหวานชื่นบัดนี้ถูกแทนที่ด้วยรอยร้าวและความโกรธเกรี้ยวที่ไม่มีวันประสานง่ายๆ

เสียงรองเท้ากระทบพื้นโถงทางเดินคอนโดดังถี่ๆ ภูริกระชากแขนเดียร์เดินนำหน้ามาอย่างแรงจนหญิงสาวแทบจะล้ม ข้อมือเธอถูกบีบแน่นจนขึ้นรอยแดง

“เจ็บนะปล่อยเดียร์!” เธอร้องเสียงสั่น

แต่ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง แววตาแดงก่ำเหมือนคนถูกไฟโทสะเผาเขาเม้มปากแน่น ดวงหน้าขึงขังจนคนที่เดินผ่านต่างหลีกเลี่ยงสายตา เมื่อถึงห้องเขาผลักประตูเปิดออกแล้วดันเธอเข้าไปทันที ปิดประตูดังจนบรรยากาศในห้องตึงเครียดเกินทน

“เดียร์รู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรลงไปทำให้พี่เสียหน้า ทำให้เพื่อนพี่ต้องอับอายขนาดนั้น” เสียงภูริดังก้องไปทั่วห้อง

“แล้วพี่ล่ะทำอะไรกับเดียร์บ้าง พี่เคยคิดถึงความรู้สึกเดียร์กับลูกมั้ย รูปนั่นมันหมายความว่ายังไง ถ้าไม่ใช่อย่างที่เดียร์คิดพี่ก็อธิบายมาสิ!” น้ำตาคลอ แต่หัวใจยังคงเต็มไปด้วยความโกรธ เธอเชิดหน้าสวนกลับทันที

“รูปปอะไร? พริมเป็นแค่เพื่อน แต่เดียร์กลับไปทำร้ายเขาต่อหน้าคนอื่น มันน่าอายแค่ไหนรู้มั้ย” ภูริตะโกนตอบทันควัน เขาไม่รู้ว่ารูปที่เธอพูดถึงคืออะไร

“แล้วเดียร์ที่ต้องมานั่งโง่รอพี่ทุกคืน มองโทรศัพท์ทุกครั้งที่พี่กดตัดสายมันไม่อายบ้างเหรอ เดียร์เสียใจจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว!”

“เสียใจมากก็เลิกกันไปเลยดิวะ! ให้ใช้ให้เธอมาทนกับผู้ชายที่มันเลวแบบฉัน” เขาตะคอกเสียงดังเมื่อหญิงสาวไม่ฟังอะไร

เสียงโต้เถียงปะทุขึ้นอย่างรุนแรง ห้องที่เคยอบอุ่นกลายเป็นเวทีแห่งความเจ็บปวด เป็นครั้งแรกที่ภูริได้เห็นเดียร์โกรธเกรี้ยวถึงเพียงนี้ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังและความเจ็บลึกจนเขาเถียงไม่ออก เขากำข้อมือเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย

“ไอ้ผู้ชายเฮงซวย สาระเลวที่บ้านกสอนมาดีทำไมทำตัวเหี้*ยๆ แบบนี้”

“หุบปาก! เธอมันดีนักเหรอท้องตั้งแต่ยังเด็ก”

“เดียร์จะท้องได้ยังไงถ้าพี่ไม่ทำ”

“ก็แค่จะเอาเล่นๆ แต่แม่งดันท้องขึ้นมาจริงๆ”

เสียงเถียงกันยังดังไม่หยุด ก่อนที่เดียร์จะหมดความอดทน เธอยกมือขึ้นตบเต็มแรงไปบนแก้มภูริ จนหน้าของเขาหันไปตามแรงตบ

เพียะ!

บรรยากาศเงียบลงทันควันชายหนุ่มชะงักไปเพียงวินาที ความโกรธปะทุขึ้นในดวงตาแดงก่ำ เขายกมือขึ้นสูงตั้งใจจะฟาดกลับ แต่ค้างไว้กลางอากาศไม่สามารถทำมันได้

“ทำไมไม่ตบล่ะ! ตบเดียร์เลยสิ” เธอตะโกนน้ำตาไหลอาบแก้ม

มือที่สั่นระริกของภูริหยุดกลางคัน หัวใจเขาราวกับถูกกดทับด้วยพันความรู้สึกที่ปะปนกันทั้งโกรธทั้งรักและสับสน

แทนที่จะลงกับเธอ เขาหันไปชกกำแพงเสียงดังสะท้อนจนผนังแทบสั่น รอยเลือดซึมออกมาตามข้อนิ้วที่แตกเดียร์สะดุ้งเฮือก แต่ยังยืนนิ่งน้ำตาไม่หยุดไหล

        “พี่เบื่อ! พี่รำคาญเดียร์เต็มทนแล้ว ทำไมต้องคอยจับผิด ต้องคอยสั่งต้องคอยบงการชีวิตพี่ตลอดเวลา!”” เสียงของเขาดังลั่น น้ำเสียงสั่นเครือแต่แฝงด้วยความโกรธจัด

“ฮึก~” เธอถามเสียงสั่น ตัวสั่นไปทั้งร่าง

        “พี่ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่อยากมีชีวิต อยากมีอิสระบ้าง ไม่ใช่ต้องมาติดอยู่กับคนที่คอยควบคุมทุกลมหายใจแบบเดียร์!” แต่ภูริกลับยิ่งพูดออกมาอย่างไม่ยั้งปาก

ทุกคำเหมือนคมมีดกรีดซ้ำลงไปในหัวใจของหญิงสาว เธอยืนตัวแข็งน้ำตาไหลพราก พยายามกลั้นสะอื้นแต่ไม่อาจห้ามได้

“พี่อายคนที่มีครอบครัว พี่อดทนมาตลอดเพราะคำว่าลูก แต่เดียร์เริ่มล้ำเส้นไปทุกที”

“เดียร์ทำไปทั้งหมดเพราะรักพี่เชื่อคำสัญญาของพี่”

        “เราก็เด็กด้วยกันทั้งคู่ รักคืออะไรยังไม่แน่ใจเลย” เขาพูดออกมาช้าๆ น้ำเสียงเจือด้วยความเหนื่อยล้า

        “แล้วเดียร์ผิดตรงไหนที่รักพี่” หัวใจหญิงสาวเหมือนถูกบีบจนแทบขาด เธอพยายามฝืนถามทั้งที่น้ำตายังไหลไม่หยุด

        “เดียร์ไม่ผิดหรอก แต่พี่ผิดเองที่ความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิมแล้ว” เขาหลุบตาลงไม่กล้าสบตาเธอ ก่อนจะถอนหายใจยาวแล้วตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่ชัดเจน

เธออยากตะโกนอยากร้องไห้ออกมาให้สุดเสียง แต่กลับมีเพียงความเงียบที่โอบล้อมรอบตัว หัวใจร่วงหล่นจนแทบแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

น้ำตาเอ่อรื้นร่วงลงอาบแก้มอย่างช้าๆ ขณะที่สายตายังคงจ้องไปยังคนที่เธอรักหมดหัวใจ ทว่ากลับเป็นคนเดียวกันที่กำลังใช้ถ้อยคำทิ่มแทงจนเลือดออกในใจ

“พี่…” เดียร์อ้าปากจะพูด แต่กลับไม่มีเสียงใดๆ หลุดออกมา นอกจากลมหายใจสั่นสะท้าน ในวินาทีนั้นโลกทั้งใบของเธอเหมือนพังทลายลงตรงหน้า เหลือเพียงความเจ็บปวดที่แหลกละเอียดเกินกว่าจะเยียวยา

“ฮึก ฮือ~” เธอปล่อยโฮออกมาอย่างน่าสงสาร

“เดียร์พี่...”

เขาจะเข้ามาปลอบแต่เธอปัดมือเขาออก ภูรินิ่งอยู่แบบนั้นอยู่กันไปแบบนี้มีแต่ทรมานกันไปเปล่าๆ ทางที่ดีพวกเราควรจะถอยคนละก้าว

‘เชือกที่ตึงยิ่งดึงก็ยิ่งเจ็บ แต่ถ้าปล่อยออกแม้จะเจ็บอยู่บ้างก็จะไม่นานอีกต่อไป’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   CHAPTER 10 ยอมกราบ (ปล่อยพี่ไปเถอะ)

    ภูริยืนตรงหน้าเดียร์มองดวงตาเขาที่เย็นชาและว่างเปล่า น้ำเสียงเรียบแต่ชัดเจนตอกย้ำราวกับมีดกรีดลงกลางใจ“เดียร์พี่หมดรักแล้ว พี่คิดว่าควรให้เราทั้งสองคนเลิกกันเถอะ” เขาตัดสินใจพูดออกมาไม่ใช่เพราะอารมณ์ชั่ววูบ แต่เขาเหนื่อยเกินไป ยิ่งใกล้กันยิ่งทะเลาะกันมากขึ้นคำพูดนั้นเหมือนฟ้าผ่ากลางใจเดียร์ตัวแข็งค้าง รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงตรงหน้า“เดียร์ไม่ยอม เราผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย พี่อย่าทิ้งเดียร์นะเราแก้ปัญหาด้วยกันได้” เธอร้องเสียงสั่น พุ่งเข้าไปยึดแขนเขาแน่น“พี่บอกแล้วไง ว่าความรักของพี่มันเปลี่ยนไปแล้วเดียร์ไม่เข้าใจหรอก ถ้าเราอยู่ต่อไปทั้งคู่ก็จะเจ็บมากกว่านี้” เขาถอนหายใจหนักๆ มองเธอด้วยสายตาที่เจ็บปวดไม่แพ้กัน“ไม่เอาอย่าทิ้งเดียร์ เดียร์ยังรักพี่! พี่ต้องรักเดียร์เหมือนเดิมสิ ฮือ~” น้ำตาไหลพราก เธอพยายามเกาะแขนเขาแน่นขึ้นร้องไห้สะอื้น“พี่ยอมกราบก็ได้แค่เดียร์ยอมปล่อยพี่ไป เพราะหัวใจดวงนี้ไม่มีเดียร์อยู่ในนั้นอีกแล้ว”หญิงสาวชะงักเธออยากจะก้าวเข้าไปกอดเขา แต่ทุกคำพูดเหมือนตรึงขาเธอไว้กับพื้น น้ำตาคลอเบ้าน้ำเสียงสั่นเครือ“พี่ยอมกราบเดียร์เพื่อให้เดียร์ยอมปล่อยพี่ไป แต่พี่ยัง

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   CHAPTER 9 ก็ไม่ได้รักแล้ว

    “ไหนว่าพี่ภูมาทำรายงานแล้วนี่อะไร!” เดียร์ตะโกนออกไปทำให้ชายหนุ่มสะดุ้ง หันมามองหญิงสาว “มาได้ยังไง” เขาถามด้วยความตกใจที่เดียร์มาที่นี่ถูก “พี่ทำแบบนี้กับเดียร์ได้ยังไง” เธอถามเสียงสั่นทั้งเสียใจและโกรธเขามาก จนแวบหนึ่งความรู้สึกของเธอบอกให้พอตั้งแต่ตอนนี้ “เดียร์ใจเย็นก่อนสิ” เพื่อนที่อยู่ในห้องต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมากว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครแล้วทำไมภูริถึงได้มีท่าทีที่แปลกไป แต่ถึงแบบนั้นพวกเขาก็ทำเพียงแค่ใส่ใจกันแบบเงียบๆ “จะให้ใจเย็นได้ยังไง!” รอบนี้เดียร์โกรธจนเริ่มไม่มีสติ ความอดทนทั้งหมดขาดสะบั้นลงทันที “ตั้งสติหน่อยออกมาคุยกันด้านนอก” พี่กลัวใครรู้เหรอว่าพี่มีเมียมีลูกแล้ว หรือกลัวใครจะเสียใจ” “ภูพริมว่ากลับไปคุยกันดีๆ ดีกว่า” พีรญาลุกขึ้นมาห้ามทั้งสอง ไม่อยากให้คนอื่นมองภูริไม่ดี เพี๊ยะ!เสียงฝ่ามือกระทบแก้มดังลั่นจนคนรอบข้างหันมอง พีรญาเซไปเล็กน้อยมือกุมแก้ม ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ“เดียร์ทำบ้าอะไรของเธอ” เพื่อนต่างพากันอึ้งที่พีรญาโดนตบ“นี่พี่ไปทำอะไรให้” พีรญาถามเสียงสั่น แววตาเต็มไปด้วยค

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   CHAPTER 8 หมดความอดทน

    หลายวันมานี่ภูริกับเดียร์ไม่ค่อยทะเลาะกัน ช่วงนี้ชายหนุ่มอยู่แต่บ้านช่วยเธอเลี้ยงลูก จนทำให้เธอเริ่มกลับมาเชื่อมั่นในตัวเขามากขึ้น “เดียร์” “พี่ภูจะเอาอะไรคะ” “คือเย็นนี้พี่ต้องไปทำรายงานที่บ้านเพื่อน” “จะกินเหล้ากันอีกหรือเปล่า” ทุกครั้งที่เขากลับมามักจะมีกลิ่นเหล้าติดมาตลอด แรกๆ ทะเลาะกันบ้านแทบแตก แต่ตอนนี้เธอเหนื่อยจะพูดเลยปล่อยเขา “อาจจะมีบ้างแต่ไม่ได้ออกไปผับ” เขาบอกตามความจริง ช่วงนี้เขาติดเพื่อนและชอบออกเที่ยวผับตามประสาวัยของเขา “ค่ะ อย่ากลับดึกนะ” เธออนุญาตเพราะรู้ดีว่าห้ามเขาไม่ได้อยู่แล้ว “ขอบคุณนะที่เข้าใจ” “ทำรายงานที่บ้านใครคะ?” เธอหันมาถามเขา เพื่อนของชายหนุ่มเธอไม่เคยเจอหน้า แต่พอจะรู้จักชื่อบ้าง “ก็มีไอ้สิงห์ไอ้เต” “ดูแลตัวเองตัวนะ” เธอยอมรับว่าไม่ค่อยไว้ใจภูริ เพราะการกระทำที่ผ่านมาของเขา ถ้ามัวแต่ระแวงกันอยู่แบบนี้ชีวิตของเธอคงไม่มีความสุข“ขอบคุณนะเดียร์พี่สัญญา จะรีบทำให้เสร็จแล้วรีบกลับไม่ดึกแน่นอน” ใบหน้าของภูริก็ผ่อนคลายราวกับยกภูเขาออกจากอก เขารีบยกมือขึ้นประคองแก้มเธอเบาๆ

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   CHAPTER 7 เพราะรักคำเดียว

    เดียร์ที่เห็นสภาพเขาแล้วก็รีบลุกขึ้นมาและเดินเข้าไปพยุงร่างของภูริเอาไว้ อยากจะทิ้งให้เขานอนอยู่ตรงนี้ก็สงสาร“ไม่ต้องมายุ่ง”“พี่ภูพี่เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้” เสียงของเธอสั่นเครือ น้ำตาคลอเต็มสองตา“สันดานพี่ก็เป็นแบบนี้แหละ รับได้ไหมล่ะรับไม่ได้ก็เรื่องของเดียร์”ภูริเหลือบมองใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของเธอ ก่อนยกยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มที่ไม่ได้อบอุ่นเหมือนเคย แต่กลับเต็มไปด้วยความเฉยชาและเหนื่อยหน่าย“พี่ภูแล้วเดียร์กับลูกล่ะ”“พี่ก็ต้องมีเพื่อนมีสังคมบ้างสิจะให้วันๆ เอาแต่อยู่กับเดียร์กับลูกมันก็ไม่ใช่ พี่ก็อยากมีชีวิตส่วนตัวเหมือนกัน”คำพูดนั้นเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของเธอร่างกายสั่นสะท้านราวกับไม่มีแรงประคองเขาอีกต่อไป เธอเบือนหน้าหนีเพราะกลัวว่าถ้าเธอมองนานกว่านี้ น้ำตาที่รอจะพรั่งพรูออกมาจะกลายเป็นเสียงสะอื้นโหยหวน“ฮึก หรือพี่หมดรักเดียร์แล้ว” เธอถามเสียงแผ่วราวกับจะหลุดออกมาเพียงลมหายใจภูริเงียบไปครู่หนึ่งหันหน้าไปทางอื่น ไม่ได้ตอบอะไรต่อ ปล่อยให้ความเงียบและความเจ็บปวดโอบรัดหัวใจของหญิงสาวจนแทบขาดใจ“ไม่เกี่ยวว่ารักหรือไม่รักหรอก เดียร์ดูตัวเองสิมัวแต่ดูแลคนอื่นจ

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   CHAPTER 6 รอยร้าว

    เกือบสว่างภูริโซซัดโซเซกลับเข้ามาในคอนโด กลิ่นเหล้ายังคละคลุ้งติดตามเสื้อผ้า เขาวางกระเป๋าแล้วหันไปมองบนเตียงในห้องนอนเล็กๆ เห็นลูกชายตัวน้อยนอนดิ้นไปมามือเล็กๆ ฟาดอากาศ ก่อนที่ดวงตากลมใสจะลืมขึ้น“อือ…”น้องภูผาส่งเสียงครางเบาๆ ก่อนจะเงยหน้ามายิ้มให้เขา ยิ้มเล็กๆ ที่ทำให้หัวใจภูริสะดุดไปชั่วขณะ รอยยิ้มที่ไร้เดียงสานั้นเหมือนจะปลดเปลื้องความเหนื่อยล้าและความผิดทั้งหมดที่เขาแบกไว้เขาเหลือบมองไปทางเดียร์ที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวบอกชัดว่าเธอเหนื่อยมากเพียงใด ภูริอุ้มลูกชายออกมาที่ห้องโถงวางตัวเล็กไว้บนตัก มือใหญ่ลูบแก้มกลมใสเบาๆ“ไงครับคนเก่ง ตื่นมาหาปะป๊าเหรอ หืมมม”น้องภูผาหัวเราะคิกคัก มือเล็กคว้าจมูกของเขาอย่างซุกซน เสียงหัวเราะเล็กๆ ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันของยามเช้าภูริยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาก้มลงหอมแก้มลูกซ้ายทีขวาที“ปะป๊าขอโทษนะครับ ที่ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยต่อไปปะป๊าจะพยายามนะ” เสียงกระซิบเบาๆ ราวกับคำสัญญาที่เขายังไม่รู้เลยว่าจะรักษาได้หรือไม่เสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วของน้องภูผาดังพอจะปลุกเดียร์ให้สะลึมสะลือตื่น เธอค่อยๆ ลุกขึ้น เดินออกมาที่ห้องโถง ภาพที่เห็นคือภูร

  • ก็ไม่รักแล้วนะเธอ   CHAPTER 5 ใครที่เปลี่ยนใจเธอ

    น้องภูผาลืมตาตื่นดวงตากลมโตสดใสไร้ไข้ ริมฝีปากเล็กๆ ยกยิ้มกว้างจนเห็นไรฟันน้อยๆ พลางส่งเสียงอย่างร่าเริง มือเล็กๆ ตบผ้าห่มไปมาอย่างตื่นเต้น “อือๆ บ๊ะๆ”“ไข้ลดแล้วยิ้มใหญ่เลยนะลูกของแม่ เก่งที่สุดเลย” เธอโล่งใจ เธอก้มลงกอดลูกน้อยแนบอกแล้วหัวเราะเบาๆน้องภูผาหัวเราะคิก เสียงใสแจ๋วสะท้อนก้องไปทั่วห้องราวกับดนตรีที่กล่อมใจให้แม่หายเหนื่อย ความร่าเริงของเขาทำให้หญิงสาวลืมความเหนื่อยที่ต้องอดหลับอดนอนมาหลายวันในพริบตาตอนนี้ลูกชายวัยแปดเดือนของเธอไม่ใช่เด็กตัวน้อยที่เอาแต่นอนอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เริ่มส่งเสียงคุยเจื้อยแจ้วตอบโต้ และใช้รอยยิ้มเป็นภาษาที่เติมเต็มหัวใจแม่ได้อย่างสมบูรณ์ เดียร์กดจมูกหอมแก้มกลมๆ ของลูกฟอดใหญ่“ลูกตื่นแล้วเหรอ” เสียงแหบพร่าดังขึ้นเขาเพิ่งกลับมาถึงตอนเช้าหลังจากที่เมื่อคืนทะเลาะกันอย่างหนัก“มองไม่เห็นเหรอ” เธอไม่ยอมมองหน้าเขา โกรธที่เขาทิ้งเธอกับลูกไว้ตามลำพัง แถมยังพูดจาไม่น่ารัก“เดียร์พี่ขอโทษเมื่อคืนพี่เมาไปหน่อยเลยพูดอะไรออกไปแบบนั้น” เขายอมลดทิฐิลง ภูริจับต้นแขนเธอไว้แน่น แต่เสียงลูกชายร้องไห้ดังขัดจังหวะเสียก่อน“ปล่อย เดียร์จะไปดูลูก” น้ำเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status