พอเยาวเรสทานข้าวกับสามีของเธอแล้ว เธอก็ส่งสามีขึ้นแล้วไปทำงานตามปกติ เพราะเขาเป็นนักการเมืองที่ได้ดำรงตำแหน่งใหญ่ทางการเมือง ทำให้เขาต้องไปทำงานพบปะผู้คนตามประสางานของเขา จะกลับเข้ามาบ้านอีกทีก็เย็น ทำให้วันๆเยาวเรสนั้นได้แต่ทำขนมและอาหารจนกลายเป็นงานอดิเรกของเธอไป
“คุณผู้หญิงคะ มีคนโทรมาหาค่ะ...” แม่บ้านเดินมาหาเยาวเรสที่ยืนส่งสามีที่หน้าบ้าน ก็ยื่นโทรศัพท์ของคุณผู้หญิงให้ทันที
“อืม...ขอบใจจ้ะ เราจะไปทำอะไรก็ทำเถอะ..” เยาวเรสรับโทรศัพท์ของเธอมาแล้วพูดบอกไปด้วยรอยยิ้ม พอแม่บ้านเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้ว เยาวเรสก็กดรับสายเบอร์แปลกที่โทรเข้ามาทันที
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ...ไม่ทราบว่าใครพูดสายอยู่คะ..” เยาวเราสรับสายแล้วเอ่ยถามไป แล้วเธอก็รอคนในสายพูดออกมา
“แม่คะ นี่หนูเองค่ะ...พอดีโทรศัพท์ของหนูหาย หนูก็เลยซื้อโทรศัพท์ใหม่แล้วก็เปลี่ยนเบอร์ใหม่แล้วค่ะ ต่อไปแม่โทรมาหาหนูเบอร์นี้นะคะ” ภาริตาพูดบอกแม่ของเธอไปพร้อมกับอธิบายไปไม่ให้ต้องกังวล
“อืม...แล้วไปทำอีท่าไหนให้หายอีกล่ะเราเนี่ย สับเพร่าจริงๆเลยนะ...” เยาวเรสพูดบ่นไปอย่างอดไม่ได้
“ก็ไปทำงานแล้วมันหายนั่นแหละค่ะ เจ้านายสุดที่รักของหนูก็เลยซื้อเครื่องใหม่ให้เลย ใจดีไหมล่ะคะ...ฮ่าๆ...” ภาริตาพูดไปแล้วหัวเราะอย่างชอบใจเลยที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อเอง
จนโก้ที่นั่งอยู่ที่โซฟาได้ยินแล้วทำหน้ามองบนใส่ทันที จนภาริตาต้องเอาหมอนปาใส่เลยทีเดียว ก่อนจะลุกออกมาคุยกับแม่ของเธอแบบห่างๆ
“สงสัยหนูลันนาเขาบ้างเถอะลูก แค่มีลูกเป็นลูกน้องก็เหนื่อยแล้วนะ โทรศัพท์หายแค่นี้ลูกซื้อเองก็ได้นิ ไม่รบกวนหนูลันนาเขาทำไมหึ...เดี๋ยวแม่จะโอนเงินไปให้ ลูกเอาเงินไปคืนหนูลันนาเขาเลยนะ เกรงใจเขาบ้าง” เยาวเรสพูดไปแบบดุๆลูกสาวที่ไปรบกวนเพื่อนแบบนั้น ต่อให้เป็นเจ้านายก็เถอะ มันก็ไม่ควร
“แม่ไม่ต้องโอนมาหรอกค่ะ มันหายในเวลาทำงานของหนู ลันนามันก็เลยซื้อให้ใหม่ด้วยความเต็มใจเลยค่ะแม่ แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ..เงินแค่นี้ขนหน้าแข้งลันนามันไม่ร่วงหรอกค่ะ” ภาริตาพูดไปเพราะเพื่อนสาวรวยมากขนาดนี้แค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก อีกอย่างโทรศัพท์และรถเธอต้องมาพังและโดนยึดก็เพราะไปตามล่าข่าวให้บริษัทของเพื่อนนี่แหละ ดังนั้นก็สมควรที่เพื่อนเธออยากจะรับผิดชอบให้แล้ว
“เรานี่มันจริงๆเลยนะ...อ่อ แม่มีอีกเรื่องที่จะบอกลูกด้วยนะ เมื่อเช้าแม่คุยกับคุณธำรงเขาแล้วนะว่าลูกจะย้ายออกไปอยู่คอนโดแล้ว เขาเองก็ไม่ได้ขัดอะไร ต่อไปลูกก็อยู่ที่คอนโดนั้นละกันนะ ไว้แม่คิดถึงแม่จะไปหา ลูกไม่ต้องมาที่บ้านนี้หรอก...เข้าใจไหม” เยาวเรสพูดบอกไปเพราะไม่อยากให้ลูกสาวมานอนที่นี่ เนื่องจากช่วงนี้ราเชนกลับมาอยู่บ้านบ่อย
“ค่ะแม่...ถ้าคุณลุงไม่ว่าอะไรแบบนี้หนูก็สบายใจค่ะ...หนูไม่อยากให้คุณลุงคิดว่าหนูไม่อยากอยู่บ้านของเขา...ไว้วันไหนที่ลูกๆของเขาไม่อยู่แม่ก็โทรมาก็แล้วกันนะคะ หนูจะได้เข้าไปหา...” ภาริตาพูดบอกไป เพราะเธอรู้ว่าแม่ไม่ต้องการให้เธออยู่บ้านหลังนั้นเพราะราเชนและโยษิตา
กับโยษิตาน่ะไม่เท่าไหร่เธอรับมือได้เพราะทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่กับราเชนนี่สิ เธอไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเขาเลย เพราะตั้งแต่แม่เธอแต่งงานเข้าไปอยู่ที่บ้านของคุณลุงธำรง เธอก็คิดว่าเขาดีกับเธอในฐานะพี่ชายมาตลอด
จนกระทั่งเขาไปเรียนต่อที่เมืองนอกแล้วกลับมา เขาก็เปลี่ยนไปเหมือนคนล่ะคนเลย จากคนที่เคยมองเธอด้วยสายตาอบอุ่นและอ่อนโยน กลับกลายเป็นสายตาที่เขาไม่ได้คิดกับเธอแค่พี่ชายน้องสาวแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว ทั้งสายตาและการกระทำของเขามันทำให้เธอกลัว เธอจึงเริ่มที่จะตีตัวออกห่างจากเขาเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอ ซึ่งแม่ของเธอก็คิดแบบเดียวกัน หลังๆมานี้เธอจึงพยายามมานอนที่คอนโดบ่อยๆและนอนที่บ้านในวันที่ราเชนไม่อยู่ ซึ่งแม่ของเธอก็จะเป็นคนโทรบอกเพื่อความปลอดภัยของเธอเอง
“โอเคจ้ะลูกรัก แล้วเจอกันนะ...ลูกก็ไปทำงานเถอะไป แม่จะไปเข้าครัวแล้วล่ะ” เยาวเรสพูดบอกไป
“ค่ะแม่...หนูรักแม่นะคะ...” ภาริตาพูดบอกรักแม่ไปแบบอ้อนๆ แล้วเธอก็กดวางสายไป เพราะเธอตั้งใจจะโทรมาบอกว่าเธอเปลี่ยนเบอร์แล้วเท่านั้น แต่พอมารู้ว่าพ่อเลี้ยงของเธออนุญาตให้มาอยู่คอนโดแล้วเธอก็โล่งใจไป เพราะเธอก็เกรงใจเขาในระดับหนึ่งเลย เนื่องจากเขาก็ดีกับเธอมากๆ ส่งเสียเธอเรียนในมหาวิทยาลัยดีๆจนเธอมีเพื่อนและมีสังคมที่ดีจวบจนทุกวันนี้ก็เพราะเขาทั้งนั้น เธอจึงซาบซึ้งในบุญคุณของเขาที่ใจดีกับเธอ
พอคุยกับลูกสาวแล้วเยาวเรสก็กดบันทึกเบอร์โทรของลูกสาวไว้ทันที จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในบ้านแล้วมุ่งเขาครัวทันที เพราะมันคือที่ที่ทำให้เธอรู้สึกได้สนุกกับการทำขนมหรือทำอาหาร
ด้านภาริตาพอแม่ของเธอวางสายไปแล้วเธอก็เดินกลับไปหาโกที่นั่งอยู่ที่โซฟาทันที ก่อนจะเอ่ยพูดบอกไป
“โก้..เดี๋ยวแกไปทำงานได้แล้วไป...ฉันจะกลับไปคอนโดของฉันแล้ว...แกแวะไปส่งฉันหน่อย” ภาริตาพูดบอกไป เพราะไม่อยากจะมานอนบ้านนานๆ
“อ่าว..ไหนเจ้บอกจะนอนบ้านผมไง...ทำไมเปลี่ยนใจซะล่ะ...” โก้เอ่ยถามไปแล้วมองภาริตาแบบจดจ้อง
“ฉันขี้เกียจเห็นหน้าแกไง...ไปกันได้แล้ว...ป่ะ..ฉันอยากจะไปนอนดูซีรีย์แล้ว” ภาริตาพูดบอกไปแล้วเข้าไปดึงแขนของโก้ขึ้นมาแล้วลากออกไปทันที
“เจ้สบายอยู่คนเดียวอ่ะ ผมสิต้องไปทำงานงกๆ ทำไมเจ้ไม่ลาให้ผมอีกคนนะ...เฮ้อ...” โก้พูดบ่นไป เพราะพี่สาวเขาให้สิทธิ์ภาริตาหยุดคนเดียว ส่วนเขาน่ะเหรอ ต้องหอบสังขารไปทำงานที่บริษัทต่อน่ะสิ เพราะบ่ายนี้มีสัมภาษณ์ดาราด้วย
“แกจะหยุดได้ยังไง วันนี้แกต้องไปสัมภาษณ์ดารานิยะ...หัดขยันให้มันได้ครึ่งของพี่สาวแกบ้าง อีกหน่อยแกต้องขึ้นเป็นผู้บริหารนะไอ้โก้ ถ้าแกยังขี้เกียจแบบนี้ ธุรกิจแกเจ้งกันพอดีอ่ะ...ไป ขึ้นรถ...อ่ะ กุญแจ...ขึ้นรถสิ..อย่ามามองฉันแบบนี้นะ” ภาริตาพูดสอนไปแบบห่วงใย เพราะที่ดุที่ด่าทุกวันนี้ก็เพราะอยากให้มันเก่งนั่นแหละ ก่อนจะเอากุญแจรถยัดใส่มือแล้วบังคับให้โก้ขึ้นรถ แล้วเธอก็เดินไปขึ้นอีกฝั่งหนึ่ง
“ถ้าผมได้ขึ้นเป็นผู้บริหารเมื่อไหร่ ผมจะใช้เจ้เยี่ยงทาสเลย คอยดูเถอะ” โก้มองตามภาริตาไปแล้วพูดออกมาอย่างคาดโทษเลย เพราะเขาโดนโขกสับทุกวันแบบนี้เขาต้องเอาคืนแน่
จากนั้นโก้ก็ขับรถของเขาพาภาริตาไปส่งที่คอนโดของเธอ เนื่องจากตอนนี้รถของเธอโดนลากเข้าอู่ไปเมื่อเช้าแล้ว เนื่องจากกระจกรถพัง ดังนั้นเขาจึงต้องรับหน้าที่เป็นน้องชายที่แสนดีมาส่งพี่สาวที่ดุอย่างหมาแบบเธอ
ณ คอนโดของภาริตา
พอโก้มาส่งที่หน้าคอนโดแล้วภาริตาก็ลงจากรถแล้วไล่ให้โก้รีบไปทำงาน จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปที่คอนโดด้วยความอารมณ์ดี เพราะหลังจากนี้เธอหยุดตั้งสามวันเลย คอยดูนะเธอจะนอนดูซีรี่ย์ให้ฉ่ำไปเลย
“เอี๊ยด!....ขับรถบ้าอะไรเนี่ย ไม่แหกตาดูหรือไง...” เสียงรถเบรกอย่างแรงตรงหน้าภาริตา จนเธอตกใจร้องด่าอย่างโมโหเลย
“ครืน....เห้ย...พวกนายอีกแล้วเหรอ....” ประตูรถตูเปิดออกมาแล้วร่างสูงใหญ่ของฝรั่งสองคนก็ลงมาจากรถ ทำให้ภาริตานั้นชี้หน้าแล้วพูดอย่างตกใจเลยที่เจอฝรั่งพวกนี้อีก
“รีบจับตัวผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาเร็วเข้า...” เสียงของบรูโน่บอกลูกน้องของเขาแบบห้วนๆ แล้วเขาก็มองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าที่ทำให้เขาวุ่นวายตามหาตัวตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ เขาก็ได้ตัวเธอมาสักที
“พรึบ...ไม่นะพวกนายจะทำอะไร....อื้อ...อือ...” ภาริตามองแบบตกใจยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะทำท่าจะวิ่งหนีแต่เธอถูกฝรั่งคนนั้นดึงตัวมาแล้วฝรั่งอีกคนก็เอาผ้ามาปิดที่จมูกของเธอ จนเธอเอามือมาจับแล้วดิ้นขัดขืนอย่างสุดแรง ก่อนจะสลบไปอย่างไม่สามารถที่จะต่อสู้อะไรได้
จากนั้นลูกน้องของบรูโน่ก็อุ้มตัวของหญิงสาวขึ้นไปบนรถตู้แล้วขับออกไปทันที ส่วนภาริตาก็ได้แต่นอนสลบไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ที่เบาะ บรูโน่ก็มองแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกเลยทีเดียวที่เขาได้ตัวเธอมาแล้ว เพราะเขาต้องไปตามสืบจากที่ทำงานของเธอ แล้วยัดเงินคนในที่ทำงานของเธอนั้นให้หาที่อยู่ของเธอมา ซึ่งเขาก็มาดักรอจนกระทั่งเธอมาที่คอนโด ตอนนี้ถือว่างานของเขาสำเร็จแล้ว ที่เหลือก็แค่รอพาตัวเธอไปรอเจ้านายของเขาคืนนี้เท่านั้น
หลายชั่วโมงต่อมา...ณ เวลา 2 ทุ่ม
ภาริตาก็ค่อยๆฟื้นขึ้นมาหลังจากที่เธอโดนโปะยาสลบแล้วลักพาตัวมา เธอก็มองไปทั่วห้องด้วยสายตาอ่อนแรง ก่อนจะค่อยๆลืมตามองแบบเบิกกว้าง เมื่อสติของเธอเริ่มทบทวนแล้วประมาลผลว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ภาริตาก็ดิ้นตัวแล้วทำท่าจะลุกแล้วเธอก็ขยับตัวลุกไม่ได้ เพราะโดนจับมัดมือไคว่ไปด้านหลังแล้วนั่งอยู่บนเก้าอี้ เธอก็มองไปที่ชายฝรั่งที่ยืนเฝ้าเธออยู่
“นี่พวกนายจับฉันมาทำไมห้ะ...ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจมาจับพวกนายให้หมดเลย...นี่ได้ยินที่ฉันพูดไหมห้ะ...มาปล่อยฉันเดี๋ยวนี้...” ภาริตาพูดด้วยเสียงดังๆแล้วตวาดใส่ชายฝรั่งที่ยืนตรงหน้าเธอ แต่เขากลับไม่มีวี่แววจะตอบโต้อะไรเธอกลับเลย
“หูตึงหรือไงห้ะ....ฉันบอกว่าให้มาปล่อยฉันไง...ฟังภาษาคนไม่เข้าใจเหรอ” ภาริตาเห็นชายฝรั่งไม่ตอบอะไรเธอมาก็โมโหด่าไปแบบเสียงดังเลย เธอพูดภาษาอังกฤษชัดเจนและเสียงดังขนาดนี้ ดูสิว่ายังจะเมินเธออีกไหม
“หยุดเสียงดังได้แล้วคุณ มันน่ารำคาญ...ต่อให้คุณจะแหกปากโวยวายไปมากกว่านี้ ลูกน้องของผมมันก็ไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆแบบเมื่อวานนี้หรอก...ทางที่ดีคุณควรจะอยู่เงียบๆซะ...” บรูโน่ที่อยู่ด้านนอกเดินเข้ามาดูแล้วพูดบอกไป เพราะลูกน้องเขาโดนเธอเล่นงานไปเมื่อวานแล้ว วันนี้ลูกน้องเขาไม่เสียทีเธออีกแน่ๆ
“แล้วคุณจะจับฉันมาทำไมอีก...โทรศัพท์ของฉันพวกคุณก็เอาไปแล้ว ฉันไม่มีหลักฐานอะไรที่จะเอาไปทำข่าวได้เลยนะ...คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ลงข่าวอะไรเกี่ยวกับพวกคุณเลย แล้วจะไม่พูดเกี่ยวกับพวกคุณด้วย...นะคุณ...ปล่อยฉันไปเถอะนะ...” ภาริตาเห็นเขาพูดแบบนั้นก็กลัวขึ้นมาทันที ก่อนจะเอ่ยขอร้องเขาไปเพราะเขาน่าจะเป็นหัวหน้าของคนพวกนี้
“ถ้าผมปล่อยคุณไป...ผมเองก็ต้องเดือดร้อนเหมือนกัน...เจ้านายของผมต้องการตัวคุณ เพราะฉะนั้นคุณก็อยู่เฉยๆแล้วรอเจอเจ้านายของผมซะ ถ้าคุณทำให้เจ้านายผมมีความสุข คุณจะได้เงินก้อนโตไปเลยนะ...” บรูโน่เอาเงินมาล่อเธอทันที เพราะใครๆก็ชอบเงินดังนั้นเขาก็หวังว่ามันจะทำให้เธอสงบปากลงบ้าง
“ทำให้เจ้านายของคุณมีความสุข..? แล้วฉันจะได้เงินก้อนโตมาเนี่ยนะ...ฝันไปเถอะ...ฉันไม่ได้ขายตัวนะคุณ...และฉันก็ไม่ได้ต้องการเงินของเจ้านายคุณด้วย...พวกคุณจะมาจับฉันแล้วบังคับให้ฉันนอนกับเจ้านายคุณไม่ได้...ไม่ได้...” ภาริตาพูดไปก็ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เอาด้วย เพราะเจ้านายของพวกเขาเป็นใครก็ไม่รู้ จะมาให้เธอนอนด้วยได้ยังไง เธอไม่เอาด้วยหรอก เธอเก็บความบริสุทธิ์ของเธอมาขนาดนี้แล้ว เธอจะไม่ยอมเสียมันไปให้ใครก็ไม่รู้แบบนี้แน่ๆ
“ได้ไม่ได้ ถ้าเจ้านายผมต้องการคุณก็ต้องยอม ผมเตือนคุณไว้ก่อนนะว่าเจ้านายผมโหดมาก ถ้าเขาให้คุณทำอะไรก็ทำซะ อย่าไปงัดง้อกับเจ้านายผม ให้ท่านเอาคุณให้มันจบๆแค่นั้น คุณก็รอดแล้ว...ผมถือว่าผมเตือนคุณแล้วนะ คุณจะรักษาชีวิตตัวเองรอดหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง...” บรูโน่บอกไปเพราะเขาเองก็สงสารเธอ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะถ้าเจ้านายเขาต้องการ เธอก็เลี่ยงไม่ได้ เขาจึงบอกทริคง่ายๆที่ทำให้เจ้านายจะไม่สนใจในตัวเธอไป
“คุณไม่ต้องมาขู่ฉัน...เจ้านายคุณมันเป็นใคร...กล้าดียังไงมาทำจับตัวคนอื่นให้นอนด้วยแบบนี้ เขาไม่มีปัญหาหาผู้หญิงเองหรือไง...ถึงได้ให้ลูกน้องมาจับตัวคนอื่นแบบนี้ เลวสุดๆ....” ภาริตาพูดด่าไปแบบไม่สนใจใดๆทั้งนั้น
คะ..? สนใจฉันเหรอคะ...นี่คุณคงไม่ได้โดนน้องชายฉันหรือว่าคนอื่นยุมาหรอกใช่ไหมคะ” ลันนาได้ยินแบบนั้นก็อึ้งเลย ก่อนจะถามเขาไปทั้งที่ในใจนั้นรู้สึกเขินกับคำพูดของเขามาก คนอะไรพูดออกมาได้หน้าตาย แต่กลับทำให้เธอใจเต้นรัวได้ขนาดนี้“เปล่าครับ ผมเห็นคุณสนามบินครั้งแรกผมก็สนใจคุณแล้วครับ คนอื่นยุยังไงก็ไม่ขึ้นหรอกครับ ถ้าผมไม่สนใจจริงๆน่ะ..คุณลันนายินที่จะอยากรู้จักกันมากขึ้นไหมล่ะครับ..” บรูโน่ถามไปอีกครั้ง“ฉันก็อยากนะคะ แต่ว่าเราอยู่กันคนล่ะที่..มันจะไหวเหรอคะ” ลันนาตอบไปแบบเขินๆเลย“ไหวไม่ไหวก็ลองดูก่อนสิครับ ทดลองคุยกันช่วงที่น้องชายคุณไปอยู่กับผมก็ได้ครับ..ถ้าถึงตอนนั้นคุณกับผมไม่ได้เข้ากันได้ เราก็ต่างคนต่างถอย แต่ถ้าเราเข้ากันได้ดี ต่อให้ระยะมันไกลแค่ไหนผมก็ไม่หวั่นครับ” บรูโน่พูดบอกไปแบบจริงจัง“โอเคค่ะ เรามาลองดูก็ได้ค่ะ ฉันเองก็อยากจะรู้จัดคุณบรูโน่ให้มากกว่านี้เหมือนกันค่ะ” ลันนาตอบไปด้วยรอยยิ้มเขินอาย เพราะเธอเองก็ยอมรับว่าสนใจเขาเช่นกัน ในเมื่อเขาใจๆมาขอศึกษาดูใจแบบนี้ แล้วทำไมเธอต้องปฏิเสธด้วยล่ะ“ขอบคุณที่ให้โอกาสผมนะครับ...หวังว่าเราสองคนจะรู้จักกันมากกว่านี้นะครับ ส่วนเรื่องน
“เฮ้อ...ซ้ายก็หวาน ขวาก็หวาน แล้วคนโสดอย่างพวกเราจะเอายังไงล่ะทีนี้...ต้องมานั่งดูคนเขารักกันแบบนี้น่ะเหรอ...ไม่ได้การแล้วล่ะ กลับกรุงเทพคราวนี้ผมต้องมองหาใครสักคนที่สามารถทำให้ผมคบแบบจริงๆจังๆได้สักทีแล้วล่ะ” โก้นั่งอยู่กับพี่สาวแล้วพูดไป เพราะซ้ายก็คู่ของมัซซิโม่และอลิเซีย ส่วนขวาก็สเตล่ากับเปาโล แล้วไหนจะเจ้เบนกับคุณลูก้าอีก มันทำให้รู้สึกว่าเขาต้องการความรักขึ้นมาทันทีเลย“ก่อนที่แกอยากจะคบกับผู้หญิงแบบจริงจังๆน่ะ แกตั้งใจแล้วก็จริงจังกับการทำงานให้ดีก่อนจะดีกว่าไหมโก้...อีกหน่อยแกต้องขึ้นมาเป็นผู้บริหารแล้วนะ แกจะมาทำตัวชิวๆแบบนี้ไปตลอดไม่ได้ แกต้องโตได้แล้วนะโก้” ลันนาพูดกับน้องชายแบบจริงจังเลย“อะไรเนี่ยพี่...ผมพูดเรื่องความรักพูดเรื่องจะมีแฟน แต่พี่ดันวกเข้าเรื่องงานเรื่องบริษัทซะงั้น ทำไมชอบทำลายบรรยากาศจังเลยหึ...” โก้ว่าพี่สาวไปด้วยสีหน้าเซ็งๆ“ก็ฉันหวังดีกับแกนิ ที่ผ่านมาฉันให้อิสระแกได้ทำตามที่แกต้องการก็เพราะฉันรักแกนะโก้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความรักที่ฉันทำลายอนาคตของแกไปด้วย...พ่อกับแม่ก็คงไม่อยากให้แกเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นกลับไปคราวนี้ไม่ต้องไปทำงานที่ฝ่ายสื่อแล้ว แ
“ชอบที่สุดเลย...อ่า...วันนี้คุณเต้นได้ยั่วมากเลย..คืนนี้ตอนเข้าหอผมขอแบบนี้อีกรอบนะ...แบบที่คุณกับผมไม่ต้องใส่เสื้อผ้ากัน...” ลูก้าเอามือโอบกอดเธอด้วยรอยยิ้มแล้วพูดบอกไปแบบหื่นๆ เพราะตอนนี้ทุกคนมองอยู่เขาไม่กล้าทำอะไรกับเธอ รอให้คืนนี้อยู่ในห้องด้วยกันก่อนเถอะ เขาจะให้เธอเต้นใส่เขาทั้งคืนเลย“หื่นจริงๆเลยนะคะ...ได้เลยค่ะ คืนนี้เบนจะเต้นแบบนี้ให้คุณอีกรอบ...อ้ะ....” ภาริตาตอบไปก็เต้นร่อนเอวแล้วขย่มใส่ตักของเขาไปตามจังหวะเพลงที่ร้องโอ้ๆไปแบบรัวๆเลย“อืม...เบน....” ลูก้าก็กัดฟันครางชื่อภาริตาไปแบบอดทนกับการขย่มของเธอที่นั่งขย่มอย่างสนุกสนานบนตัวเขาแล้วเธอก็ลุกขึ้นจากตักของเขาแล้วก็ลุกขึ้นก่อนจะเต้นยั่วยวนไล้ลงมานั่งยองๆแล้วก็หันก้นใส่หน้าเขาแล้วสั่นตูดให้ จนลูก้าต้องกลืนน้ำลายมองเธอเต้นเลยทีเดียว เพราะเขาเห็นซับในที่เธอใส่เลยจนเขาต้องเอามือไปขับก้นของเธอไม่ให้มันโป๊ไปมากกว่านี้“ฮ่าๆ...ดูหน้าไอ้ลูก้ามันสิวะ...ฮ่าๆ....โดนเมียมันเต้นยั่วจนมันหน้าแดงหมดแล้ว...ฮ่าๆ..” มัซซิโม่ก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจเลยที่เห็นลูก้าโดนภาริตาแกล้งแบบนี้“ผมหัวเราะไม่ออกเลยครับ แฟนผมก็เต้นแรดเอาเรื่องเลย....เฮ
พอพิธีรดน้ำสังข์เสร็จแล้วก็เริ่มเฉลิมฉลองกันด้วยการทานอาหารและฟังเพลงจากนักร้องที่มาร้องในงาน ท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกริมทะเลแบบนี้ ทุกคนก็ยิ้มแย้มและมีความสุขกันมากๆ“คุณนั่งทานไปก่อนนะคะ เดี๋ยวเบนไปเข้าห้องน้ำแปปนึงค่ะ...สเตล่าไปส่งฉันหน่อยสิ...ฉันกลัวจะถอดชุดไม่ได้” ภาริตาบอกไปเมื่อเสร็จพิธีทุกอย่างในช่วงเช้าแล้วเรียบร้อย ก็ถึงเวลาเธอจะเซอร์ไพร์สลูก้าแล้ว“ได้เลยค่ะคุณเบน...ไปกันเลยไหมคะ” สเตล่าได้ยินแบบนั้นก็รีบลุกออกมาจากโต๊ะอาหารทันที“ฉันไปด้วยแก...ฉันก็อยากจะเข้าห้องน้ำเหมือนกัน...” ลันนาก็พูดบอกไปแล้วรีบลุกไปหาภาริตาทันที“งั้นเดี๋ยวพวกเรากลับมานะคะ...คุณรอฉันแปปนะคะ...จุ๊บ...” ภาริตาพูดไปก็ยิ้มให้ทุกคน ก่อนจะหันมาบอกลูก้าแล้วจุ๊บที่ปากของเขาแบบออดอ้อน“รีบมานะ...” ลูก้ามองเธอด้วยรอยยิ้มรักใคร่เลย แล้วเขาก็มองเธอเดินออกไปกับสเตล่าและลันนาไปจนสุดสายตา จนมัซซิโม่ที่นั่งอยู่ข้างๆถึงกับมองแล้วส่ายหน้าไปมาทันที“เมียไปเข้าห้องน้ำแค่นี้แกจะมองอะไรนักหนาวะลูก แกจะไม่ให้เมียแกคาดสายตาเลยหรือไงวะ..แต่งงานแล้วนะโว้ย ยังไงเขาก็เป็นของแก ไม่มีใครมาเอาเขาไปหรอก...” มัซซิโม่พูดไปแบบอดไม
“ส่วนหนูเบน...วันนี้เป็นวันสำคัญของหนู ลุงดีใจนะที่หนูได้แต่งงานกับคนที่หนูรัก...ลุงขอให้หนูเบนพบเจอแต่ความสุขนะลูก...” ธำรงบอกไปก็รดน้ำสงข์ให้กับภาริตาไป เพราะภรรยาของเขาพูดไปเยอะแล้ว จนเขาไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว“ขอบคุณค่ะ...ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมานะคะ..พ่อ...” ภาริตาตอบไปแล้วเรียกธำรงว่าพ่อ เพราะที่ผ่านมาเขาทำหน้าที่แทนพ่อของเธอได้ดีมากๆ จนเธอเคารพและรู้สึกอยากจะเรียกเขาว่าพ่อแทนคำขอบคุณที่เขาเลี้ยงดูเธอมา“หนูเบน...อืม...ลุงดีใจจริงๆที่ได้ยินหนูเรียกลุง...ไม่สิ เรียกพ่อแบบนี้...ต่อไปเรียกแบนี้อีกนะลูก” ธำรงพูดออกไปด้วยสีหน้าดีใจแบบสุดๆที่ภาริตาเรียกเขาว่าพ่อส่วนเยาวเรสที่ยืนรอสามีอยู่ก็ยิ้มอย่างดีใจเช่นกันที่ลูกสาวยอมเรียกสามีของเธอว่าพ่อแล้ว เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยบังคับลูกให้เรียกเลย เธออยากให้ลูกเรียกเองตามความรู้สึก“ค่ะ ต่อไปเบนจะเรียกพ่อบ่อยๆค่ะ...ขอบคุณนะคะที่ดูแลเบนมาตลอด...” ภาริตาบอกไปก็ยกมือไหว้ไปแบบซาบซึ้ง“อืม...มันเป็นหน้าที่ของพ่อคนนี้อยู่แล้วล่ะ..พ่อขอให้เบนมีความสุขกับชีวิตแต่งงานนะลูก...” ธำรงบอกไปแล้วเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุขเลย ก่อนจะรดน้ำสังข์ให้ภาริตาแล้วเขา
เช้าวันใหม่ภาริตาก็ใส่ชุดไทยสีแดงตัดกับขอบทองอย่างสวยสง่าเลย ส่วนลูก้าก็ใส่ชุดไทยสีขาวจงกระเบนเข้ากับเสื้อสูทอย่างดูดีเลย เพราะต้องการให้ทำพิธีแบบไทยก่อนที่จะทำพิธีแบบฝรั่งในช่วงเย็น ช่วงเช้าจึงจะทำพิธีสู่ขอแบบไทย“ว้าวที่รัก....คุณสวยมากๆเลย...” ลูก้าเห็นภาริตามเดินมาในชุดไทยก็มองแบบอึ้งๆเลย เพราะเธอใส่ชุดแบบนี้แล้วดูสวยและน่ามองมากๆเลย“คุณก็ชมฉันตลอดเลย คุณเองก็หล่อมากๆเหมือนกันค่ะ ไม่คิดเลยว่าฝรั่งแบบคุณใส่ชุดไทยแล้วจะหล่อแบบนี้...” ภาริตาไปหยุดที่หน้าเขาแล้วพูดชมเขาไป ก่อนจะมองสบตากับเขา“จุ๊บ.....อือ....อื้อ...คุณลูก้า เดี๋ยวลิฟต์เลอะนะคะ แค่จุ๊บก็พอสิคะ...” ภาริตาก็จุ๊บปากตอบเขา แต่เขากลับจูบแบบดูดดื่มเลยจนเธอต้องถอยตัวออกมาแล้วว่าเขา“หึๆ โทษทีก็คุณมันน่าจูบอ่ะ..ผมชอบคุณลุคนี้มากเลย...สวย...คม...เซ็กซี่แบบมีอะไรให้ค้นหา...เดี๋ยวเสร็จพิธีแล้วให้ผมหน่อยนะ...” ลูก้าบอกไปก็พยักหน้าใส่เธอแบบขอร้องเลย“คุณนี่มันหื่นจริงๆเลยนะคะ...อดใจหน่อยสิคะ เอาไว้เราเข้าหอกันคืนนี้ ฉันจะจัดให้คุณแบบถึงพริกถึงขิงเลยค่ะ” ภาริตาพูดบอกไปแล้วยิ้มให้เขาไป“โอเค ถ้าคุณพูดแบบนี้แล้วคืนนี้ผมจะตั้งตารอเลย