Share

บทที่ 6

last update Last Updated: 2025-06-26 15:52:10

“นายถึงไหนแล้วครับ” ชายหนุ่มถามด้วยความร้อนใจ 

“อยู่นี่ จะถึงห้องแล้ว” ปราชญ์ตอบพลางวิ่งออกจากลิฟต์ ทำให้ผู้ช่วยใจชื้นทว่าเสียงสาวใช้ก็ดังขึ้น

“นายแม่! นายแม่! นายแม่ไปแล้ว! ฮือๆๆ” กมลกรีดร้องและซบไปบนร่างของนายแม่ ผู้ช่วยหนุ่มก็หันไปมองที่เครื่องแสดงชีพจร ตู๊ดดดดด เส้นชีพจรแสดงเป็นเส้นตรง จากนั้นเขาก็หันไปมองนายแม่ที่จากไปอย่างสงบ มือถือของเขาแทบร่วงลงพื้นพร้อมกับน้ำตา จังหวะเดียวกันนั้นปราชญ์ก็ผลักประตูเข้ามาพอดี สิ่งที่เห็นคือสัญญาณชีพจรเป็นเส้นตรงแล้ว

“แม่!” ปราชญ์เรียกมารดา 

ก่อนจะวิ่งเข้าไปโอบร่างไร้ลมหายใจเอาไว้ กดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลรินทว่าสุดจะกลั้น แต่ไม่ได้เปล่งเสียงร้องไห้ออกมา มีเพียงหยดน้ำที่ไหลเอ่อ เนื้อตัวสั่นเทา พลางซบหน้าลงไปกับร่างไร้วิญญาณ 

“แม่ ผมมาแล้ว ทำไมไม่รอผม นิดเดียวแม่ก็ไม่รอ ผมมาบอกข่าวดีแม่แล้วไง ฟื้นสิครับแม่” ปราชญ์ไม่ได้คร่ำครวญ แต่เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนจะเงยหน้าขึ้น เอามือประคองใบหน้ามารดาด้วยน้ำตานองหน้า ขณะที่ลูกน้องคนสนิททั้งหมดได้แต่ก้มหน้าน้ำตาร่วง เพราะนายแม่ก็เหมือนแม่ของทุกคน ท่านรักและเอ็นดูเหมือนลูก

“ของที่แม่ตามหา ที่มันขโมยไปผมกำลังจะหาทางเอามา จะเอามาคืนแม่ แม่น่าจะรอก่อน ได้ฟังที่ผมพูด” เขาพูดเสียงสั่นเครือ พลางกัดฟันแน่นเพราะความโกรธเสียใจ มันปะเดปะดังเข้ามาอย่างหนักหน่วง เขาไม่ใช่คนที่ฟูมฟาย แต่กลับเป็นคนที่ทำใจรอมาเสมอ ว่าสักวันมารดาก็ต้องจากไปเพราะตรอมใจมาหลายปีแล้ว 

“นายครับ ท่านไปสบายแล้ว ท่านปลดปล่อยแล้ว” ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้นพลางเดินมาเอามือแตะที่ไหล่เจ้านายหนุ่มเบาๆ 

“ปลดปล่อยแล้วอย่างนั้นเหรอ แต่ฉันจะไม่ปล่อยไม่มีวัน เพราะมัน! แม่ถึงเป็นแบบนี้” ปราชญ์พูดด้วยน้ำเสียงดุดันแข็งกระด้าง    

“นายแม่มีคำสั่งเสียสุดท้าย บอกให้นายหยุด ท่านพอแล้ว” กมลแทรกขึ้นเสียงหม่น 

“หยุดเหรอ ไม่! ฉันจะไม่หยุด ถ้าหยุด ที่ทำมาทั้งหมดก็สูญเปล่า ในเมื่อเรากำลังจะทำสำเร็จแล้ว จะมาบอกให้ฉันปล่อย ไม่มีวัน” 

พูดจบปราชญ์ก็มองหน้ามารดา ซึ่งบัดนี้ซีดเซียวลงไปมาก มือหนากอบกุมมือเหี่ยวๆ นั้นเอาไว้อย่างทะนุนถนอม 

“แม่หลับให้สบาย ผมจะจัดการทุกอย่างเอง มันเป็นคนเริ่มแต่ผมจะเป็นคนจบ มันต้องได้รับกรรมที่มันก่อเอาไว้กับเรา” ปราชญ์พูดพลางกลืนน้ำตาเข้าไปไว้ในอก สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบไล้ใบหน้ามารดาเบาๆ แล้วลุกขึ้นยืน 

“ไปบอกหมอ” ปราชญ์บอกเสียงเรียบ 

“ครับนาย” ลูกน้องรับคำแล้วรีบออกไปทันทีอย่างไม่รีรอ เพื่อไปแจ้งหมอจะได้ให้เจ้าหน้าที่มาจัดการเรื่องเคลื่อนย้ายศพ ปราชญ์ยืนมองร่างไร้วิญญาณของมารดาด้วยดวงตาแดงก่ำ กมลก็เข้าไปแต่งตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ใหม่ ปราชญ์ได้สติก็เข้าไปช่วยแต่งตัวให้ท่านเป็นครั้งสุดท้าย เขาแทบจะกลืนความเศร้าเอาไว้ในอก และตั้งมั่นว่าจะทำตามปณิธานของตัวเอง แม่จากไปแล้วหากแต่เขายังอยู่ และถ้ายังทำสิ่งที่ค้างคาไม่สำเร็จ เขาก็นอนตายตาไม่หลับหรอก 

ต่อมาร่างของนายแม่ปริม ถูกเคลื่อนย้ายไปไว้ที่วัดใกล้บ้าน มีเพียงคนในหมู่บ้านและละแวกใกล้เคียงเท่านั้นที่รู้ว่าเสียชีวิตแล้วอย่างสงบ เพราะปราชญ์ไม่ได้ป่าวประกาศให้คนได้รู้มากนัก ไม่อยากให้คนเยอะวุ่นวาย แม้เขากับมารดาจะเป็นคนกว้างขวางในจังหวัดก็ตาม แต่เวลานี้เขาไม่มีกำลังใจจะต้อนรับใคร อยากฟังสวดเงียบๆ และสวดเพียงสามวันก็เผาตามประเพณี ทำทุกอย่างให้เรียบร้อย เรียบง่าย เพื่อที่จะได้เคลียร์หนี้แค้นแบบไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง

“ต่อไปนี้ กูจะรออยู่ที่นี่ พวกมึงไปจัดการตามแผนที่เราวางเอาไว้ได้เลย” ปราชญ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ 

“คงต้องใช้เวลาสักอาทิตย์นะครับนาย กว่าจะบรรลุผล” ผู้ช่วยหนุ่มกล่าวเสียงเรียบแต่ยิ้ม ผู้ช่วยคนนี้คือ ชรันทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยของปราชญ์ และเป็นผู้จัดการของชิลมอนเต้ซึ่งก็คือชื่อไร่ เป็นทั้งมือปืน บอร์ดี้การ์ด รวมไปถึงเก็บกวาดขยะให้เรียบร้อยในบางครั้ง 

“กูรอได้ แต่ต้องไม่นานกว่านั้น ไม่ได้ด้วยเล่ห์กูก็จะเอาด้วยกล ของมีค่าของมัน กูจะเอามา ดูซิว่ามันจะกล้าเอาของมีค่าของเราที่ขโมยไปมาแลกไหม” น้ำเสียงของปราชญ์เหี้ยมเกรียมร้ายกาจ อาฆาตมาดร้ายมากเลยทีเดียว 

“หึๆ มันจะหมดหน้าตักแล้วครับนาย ไม่เหลืออะไรแล้ว” 

“กูจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรมันไปแบบนี้ จนกว่ามันจะมีจุดจบเหมือนแม่ เข้ากรุงเทพได้แล้ว เอาเด็กๆ ไปด้วยสักสองคน” 

“ครับนาย” ชรันรับคำและก้มศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจากห้องทำงาน โดยมีลูกน้องอีกสองคนตามออกไปด้วย เมื่อลูกน้องออกไปหมด ปราชญ์จึงลุกขึ้นยืนแล้วเอี้ยวตัวหันหน้าไปทางด้านหลังของตัวเอง ซึ่งเป็นกระจากบานใหญ่ 

เบื้องหน้าคือถนนหน้าบ้านและสวนหย่อมปลูกดอกไม้นานาพันธุ์ เพื่อไม่ให้บ้านดูไร้ชีวิตชีวาเกินไปนัก ทว่าสิ่งที่ล้อมรอบบ้านเอาไว้นั้นกลับไม่ใช่ดอกไม้ แต่เป็นไร่องุ่นกว่า 300 ไร่ ซ้ายขวาหน้าหลังเป็นไร่องุ่นทั้งหมด แต่บ้านของปราชญ์คือสูญกลางของไร่ เขาเป็นนายใหญ่ของที่นี่ ควบคุมดูแลลูกน้องหลายร้อยคน

สร้างบ้างแต่ละหลังห่างออกไปเป็นสัดส่วน เน้นกระจกใสทำให้ดูโปร่งสบายใจน่าอยู่ เพื่อผู้ทำงานจะได้รู้สึกถึงความอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านตนเอง ถัดจากบ้านของปราชญ์คือออฟฟิศขนาดใหญ่ มีชั้นเดียวหลังคาสูง กว้าง เป็นจุดอำนวยความสะดวกลูกค้า มีทั้งร้านอาหารสไตล์อิตาลีและห้องพักหรูไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้านหลังของบ้านหลังนี้เป็นภูเขา มีบ้านของนายแม่ บ้านคนงาน และโรงบ่มโวน์ขนาดใหญ่ บ้านแต่ละหลังอยู่ห่างกันไม่มากนัก ไปมาหาสู่กันได้ทุกวัน 

แต่ตอนนี้ปราชญ์คงไม่ได้ไปหามาสู่บ้านของนายแม่แล้ว คงต้องเปลี่ยนบ้านหลังนั้นให้เป็นอย่างอื่นเพื่อจะได้มีประโยชน์ เขาจะเก็บท่านเอาไว้ในความทรงจำเท่านั้นพอ แทนที่จะเก็บสิ่งต่างๆ ของท่านเอาไว้ให้เจ็บปวดเสียใจ แต่เขาไม่ลืมที่จะเก็บความแค้นไว้ ซึ่งต้องรอวันสะสางเท่านั้น

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ของขวัญ ในกรงกาม   บทที่ 55

    “อื้อ! ชมในรอบหลายปี”“บางทีคำชมไม่ได้มาในรูปแบบคำพูดสวยหรู”“มาในรูปแบบของคำว่า กวนตีนเหรอครับนาย”“อืม” พูดจบเจ้านายหนุ่มก็เดินกลับเข้าบ้าน เหมือนอยากจะคุยเป็นการส่วนตัว ชรันจึงเดินตาม“ยังต้องรอให้คุณขวัญไปทำงานในไร่อีกเหรอครับ”“ทำไม เป็นเมียฉันแล้วทำไม่ได้หรือยังไง” เปล่งคำว่าเมียออกมาอย่างชัดเจนเชียว ชรันคิด“เมียนายก็เท่ากับเป็นเจ้านายอีกคน ใช้งานหนักไม่ดีนะครับ ตลอดหนึ่งอาทิตย์ก็เห็นอยู่”“เห็น เขาก็ทำได้ดีนี่ การทำงานไม่ว่าจะตำแหน่งไหน มันก็ทำให้เราเรียนรู้ถึงความลำบาก กว่าจะมีวันนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย”“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับลูกคุณหนูอย่างคุณขวัญ ที่สุขสบายมาตั้งแต่เกิด”“ก็จริง เขาไม่ได้มาลำบากกรำแดดเหมือนฉัน ไม่ต้องทำงานก็มีเงินใช้”“ลูกคนมีเงินก็งี้แหละครับแถมยังเด็กอยู่ ยังไม่รู้จักความลำบาก”“ฉันควรฝึกให้เขารู้จักความลำบาก แต่

  • ของขวัญ ในกรงกาม   บทที่ 54

    “ทำไมถึงไม่ฆ่า ตอบซิ” เขากระซิบถามย้ำอีกครั้ง เผื่อจะได้คำตอบ“คุณรู้แล้ว... รู้คำตอบแล้ว” เธอตอบกลับเสียงเบา สั่นเครือเล็กน้อยเหมือนรู้สึกพ่ายแพ้ให้เขาอย่างราบคาบ ถึงแม้ว่าเขาจะวางแผนพาเธอมาเป็นนางบำเรอก็เถอะ “ฉันร้ายกับเธอขนาดนี้” เขาถามพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย“แล้วอย่าร้ายกับขวัญได้ไหมล่ะ”“เกลียดตัวกินไข่ เกลียดพ่อกินลูกอย่างนั้นเหรอ หืม”“แล้วทำไมต้องเกลียดขวัญด้วยล่ะ” แต่ก่อนเขาตอบได้ ตอนนี้เขาตอบไม่ได้ซะแล้ว เกลียดตัวเองจริงๆ เชียว คำถามนี้ไม่มีคำตอบนอกจากตัดจบด้วยการจูบปิดปากหวานเสียเลย“อื้อ! คุณขี้โกง” เธอเบือนหน้าหนีพลางเอ่ยอย่างงอนเง้าเมื่อเขาไม่ตอบ“ขี้โกงอะไร หืม” เขาแสร้งถามกลับและยิ้มกรุ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ไม่ตอบ เห็นแล้วเธอต้องเซ้าซี้ไหมเนี่ย“ขวัญขอได้ไหม” น้ำเสียงหวานออดอ้อนเชียว เขาคิด

  • ของขวัญ ในกรงกาม   บทที่ 53

    “เด็กน้อย” สิ้นคำเขาก็กดจูบตรงกลีบนุ่ม ความร้อนจากปากทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อยจนขยับสะโพก ร่างกายไม่ได้รับสัมผัสเช่นนี้มานับอาทิตย์ ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะปรารถนาถึงเพียงนี้ แค่เขาจูบแต่ยิ่งกว่าจูบ เมื่อลิ้นร้อนส่งออกมาปาดเลียกลีบนุ่ม จากล่างขึ้นบนสลับไปมาคล้ายจะหยอกเย้าให้ทรมานเล่น ทว่าร่างน้อยบิดเร้าเสียวซ่านจนขยำที่นอนเอาไว้ อีกมือก็กดศีรษะเขาเบาๆ กระทั่งเผลอคราง“ซี๊ด! อื้อ! อ๊ะ” เสียงครางหวานแผ่วเบาและเม้มปากเอาไว้เป็นบางจังหวะ และเสียวซ่านยิ่งกว่าเมื่อปลายลิ้นชำแรกสอดแทรกผ่านร่องรักฉ่ำหวาน ปาดเลียดุนดันเม็ดสวาทหนักหน่วง“อื้อ! โอ๊ย อ่า” เสียงหวานครวญครางโอดโอยเบาๆ พลางแอ่นสะโพกขึ้นลงรับจังหวะลิ้นที่กำลังเลียขึ้นลง สลับกับดูดน้ำหวานฉ่ำไหลอย่างคนช่ำชองประสบการณ์รัก สองมือจับขาทั้งสองข้างของเธอเอาไว้ ให้ตั้งชัน ปากร้อนบรรจงขบดูดดื่มโลมเลียร่องรักระรัวเร่ง ร่างน้อยสั่นสะท้านเสียวซ่านดีดดิ้นด้วยความทรมาน อารมณ์ปรารถนาโลดแล่นพ

  • ของขวัญ ในกรงกาม   บทที่ 52

    “เรื่อง?” เขาถามเสียงทุ้มนุ่ม ทว่าเธอกลับเอามือชี้ไปที่หน้าอกของเขา ก่อนจะจับมือข้างขวาแล้วบังคับให้แบมือ เธอจับเอาไว้แน่นแล้วลูบไปมา มันทำให้นึกถึงคืนนั้นที่เขากำมีดเอาไว้แน่น แต่จังหวะเดียวกันนั้นเขาก็ดึงมือกลับ“ต้องการให้มันเป็นแบบจริงเหรอ ถ้าอยากฆ่าฉันจริงๆ ฉันก็ยอมเธอแล้วไง ทำไมไม่ทำ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ปวดร้าวมากเลยทีเดียว จากนั้นจึงลุกขึ้นนั่งคุยกันดีๆ “ทำไม ฆ่าฉันเธอก็ปิดจ๊อบทุกอย่างได้ ได้เป็นอิสระ ได้กลับบ้าน ฉันไม่ให้ใครเอาเรื่องเธอก็ได้” เขากระซิบเบาลง“ขวัญไม่รู้ แล้วทำไมคุณต้องยอมด้วยล่ะ”“ฉันอยากเห็นสีหน้าคนใจร้าย อยากรู้ว่าถ้าฉันเจ็บ คนทำจะเป็นยังไงแต่ก็ได้รู้แล้ว มีอย่างที่อยากรู้เหมือนกัน” เขาพูดพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ กระทั่งหน้าผากแนบกัน“เกลียดมากไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ฆ่าเมื่อมีโอกาส” เขากระซิบเบากว่าเดิมเสียอีก“ขวัญ... ไม่รู้” เธอตอบได้แค่ไม่รู้พลาง

  • ของขวัญ ในกรงกาม   บทที่ 51

    ผ่านไปเพียงห้านาที โดยประมาณเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ฉุดให้ของขวัญรีบเช็ดน้ำตา ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! เคาะพอเป็นมารยาทเท่านั้น ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาคือกมลนั่นเอง ของขวัญรีบฮึบแล้วกลืนน้ำตาเข้าไปไว้ในอก แต่มีหรือที่ผู้ใหญ่อย่างกมลจะดูไม่ออก ตาแดง จมูกแดงขนาดนี้“นายโทรตามให้มาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ กินอะไรหรือยัง” กมลถาม ก่อนจะเหลือบมองที่จานอาหาร“เขาจะไม่เข้ามาอีกแล้วเหรอคะ”“เห็นว่ามีงานด่วนค่ะ ถ้าเข้าก็คงจะค่ำๆ มั้งคะ” กมลตอบก่อนจะนั่งที่ขอบเตียง จ้องหน้าของขวัญก่อนจะกุมมือเธอเอาไว้“ดีขึ้นบ้างไหมคะ” ประโยคคำถามนี้มันแทนได้ทุกเรื่องเลย ซึ่งมันไม่ดีขึ้น ทำให้ของขวัญร้องไห้มาอย่างอัดอั้น“พี่มล... ขวัญ ขวัญไม่ไหวแล้ว ขวัญจะทำยังไงดีคะ” เธอถามพลางร้องไห้สะอึกสะอื้น“พี่มลอยากถาม คุณขวัญทำอะไรนายเหรอคะ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน”“วันนั้นขวัญทำผิด เขาโกรธมากเลยรุนแรงกับขวัญ ขวัญเลยอาศัยจังหวะที่เขาหลับซ่อนมีดเอาไว้”“ถามจริงๆ จะฆ่าเขาให้ตายเลยเห

  • ของขวัญ ในกรงกาม   บทที่ 50

    เจอพิษไข้รุมเร้าตั้งแต่เย็นวานนี้ ยาวมาจนตลอดทั้งคืน มาเช้าวันนี้ค่อยยังชั่วขึ้น ของขวัญปวดหัวน้อยลง ตัวเย็นแล้วพร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ร้อนและเหนียวตัวพอสมควร กระทั่งเธอลืมตาขึ้นจึงเห็นว่าอยู่ในอ้อมกอดของเขา ถ้าจะขยับออกแล้วเขาจะตื่นหรือเปล่านะ ตอนนี้ไม่อยากให้เขาตื่น อยากเงยหน้ามองให้ชัดๆ เป็นครั้งแรก เขาตัดผมโกนหนวด สะอาดสะอ้าน ปากกระจับ จมูกโด่ง คิ้วหนาเข้ม แผงอกแน่น กล้ามแขนเป็นมัดใหญ่หล่อเกินจะมาเป็นนายใหญ่ของที่นี่ หล่อเกินที่เธอจะเอื้อมถึงและคู่ควร คิดแล้วก็น้ำตาไหลอีกครั้งพลางซบหน้ากับอกกว้าง ทว่าเธอกลับเหลือบเห็นแผลบนอก เป็นรอยเย็บซึ่งแผลยังดูใหม่อยู่ เหมือนเพิ่งจะหาย ใช่มันเป็นรอยที่เธอทำ เธอเอามีดแทงเขาดีที่มันไม่ลึก แต่เลือดที่เห็นยังคงติดตาอยู่“ขวัญขอโทษ” ของขวัญลอยๆ เบาๆ พลางเอามือลูบแผลนั่น ในจังหวะเดียวกันนั้นปราชญ์ขยับตัว คลายอ้อนกอดเหมือนเมื่อยแต่ไม่ได้ตื่น ทำให้เธอได้เป็นอิสระและดันตัวออกทันที ยิ่งทำให้เห็นชัดตรงต้นแขนที่เป็นรอยมีด เขาเย็บกี่เข็มกันเนี่ย เธอคิดพลางเอามือแตะแล้วลูบเบาๆ“อืม”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status