ซูหวินซีลืมตาขึ้นมาในยามอิ๋น นางขยับกายเล็กน้อยก็ต้องพบกับความเจ็บปวดไปทั้งตัว นางมองคนข้างกายที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ มือหนายังคงเกาะเกี่ยวเอวบางของนางเอาไว้แน่น เมื่อคืนนางก็แทบจะไม่ได้นอน
นางค่อย ๆ ดึงมือของเขาออกอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะรีบสวมเสื้อผ้าของตนเองและพาร่างกายที่อ่อนแรงของนางออกมาจากจวนรับรองในทันที โชคดีที่ผู้ดูแลจวนยังไม่ตื่น นางจึงออกมาโดยที่ไม่มีใครเห็น และกลับเข้าห้องของตนเองไป " คุณหนู ท่านไปจริง ๆ หรือเจ้าคะ " เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เจอหลี่เจินนั่งรอยู่ด้วยท่าทางร้อนใจ และเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงห่วงใย " ข้า ..... ช่างเถอะ " " ท่านแม่ทัพก็ช่างใจร้ายยิ่งนัก .....ดูสิคุณหนูของข้าช้ำไปหมดเลย " หลี่เจินมองรอยแดงตามลำคอและหน้าอกของคุณหนูของตนด้วยความเห็นใจ " จะโทษเขาได้ย่างไร เป็นข้าที่เลือกเอง แต่มันจบไปแล้วหล่ะ เขาก็แค่คิดว่าข้าเป็นสตรีในหอโคมเขียวที่คนของเขาหามาให้ก็เท่านั้น เป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว " " คุณหนู " " เจ้าไปนอนเถอะ ข้าก็จะนอนเหมือนกัน " " ก็ได้เจ้าค่ะ " หลี่เจินประคองคุณหนูของนางลงนอนบนเตียง ก่อนที่จะออกกลับห้องของตน ไป๋มู่จิน ตื่นขึ้นมาพบกับความว่างเปล่า เขามองไปรอบ ๆ ห้องก่อนที่จะดีดตัวขึ้นมานั่ง มือหนาสัมผัสกับอะไรบางอย่างใต้ผ้าห่มผืนบาง มันคือหยกห้อยเอวรูปพระจันทเซี้ยวสีขาว แค่มองดูก็รู้ว่าหยกชิ้นนี้ต้องมีคู่ ถ้าหากหยกชิ้นนี้เป็นของสตรีที่อยู่กับเขาเมื่อคืน แล้วคู่ของมันอยู่ที่ไหน หรืออยู่กับใครกัน คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนเป็นปรม หากนางมีคนในใจแล้ว ใยถึงได้ยอมมอบกายให้เขาง่าย ๆ แบบนั้น มันไม่ใช่วิสัยของสตรีที่มีคนรักแล้ว เพราะเขามั่นใจว่าตนเองเป็นคนแรกของนางจริง ๆ ยิ่งมีเลือดที่ติดอยู่ที่ผ้าปูเตียงด้วยแล้ว มันยิ่งตอกย้ำว่าเขาคิดถูก มือหนายกขึ้นมากุมขมับ อย่างคิดไม่ตก เขายอมรับว่ารู้สึกดีกับนางเป็นอย่างมาก จนอยากจะเก็บนางเอาไว้ข้างกายตลอดไป " ท่านแม่ทัพ ทุกอย่างพร้อม........เฮ้ย ทำไมท่านถึงได้อยู่ในสภาพแบบนี้ได้หล่ะขอรับ " เสี่ยวฮัวที่พึ่งเดินเข้ามา รีบหันหลังในทันที ที่เห็นสภาพของเจ้านายตน ท่อนบนเปลือยเปล่าและมีรอยเล็บมากมายบนไหล่ของเขา ส่วนท่อนล่างมีเพียงผ้าห่มผืนบางปิดบังเอาไว้ สภาพเตียงก็เหมือนกับถูกพายุลูกใหญ่พัดผ่าน ถึงเขาจะดูออกว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น แต่มันก็นานมาแล้ว และไม่มีเลยแม้สักครั้งที่ท่านแม่ทัพจะยอมให้อิสตรีใดสัมผัสร่างกายของเขา " เจ้าไปส่งนางที่ไหน " " หา....ส่งใครขอรับ ข้าพึ่งมาเอง ยังไม่เห็นใครเลยนอกจากท่าน " เสี่ยวฮัวเอ่ยถามเจ้านานของตนกับ พร้อมกับมองไปรอบ ๆ ห้อง แต่ก็ไม่เห็นใครเลย ไป๋มู่จินเลิกคิ้วขึ้นสูง ก่อนที่จะมองหน้าเสี่ยวฮัวอย่างจริงจัง " ก็ได้ขอรับ .... ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหล่ะขอรับ " เสี่ยวฮัวเอ่ยขึ้นเมื่อสบตากับท่านแม่ทัพ เขารู้ความหมายนั้น โดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องเอ่ยวาจาใดออกมา แต่ก็น่าแปลกที่ท่านแม่ทัพไม่เคยสนใจสตรีใดมาก่อน แต่กลับให้ความสนใจกับสตรีคนนี้ ' มิใช่ว่าท่านแม่ทัพถูกนางตกไปแล้วหรอกนะ ' เสี่ยวฮัวกลับมาที่จวนรับรอง เขาเห็นท่านแม่ทัพกลับต้าฉีกำลังคุยงานกันอยู่ จึงได้เข้ามายืนรออยู่ข้าง ๆ แทน " ถ้าอย่างนั้น ข้าจะรีบจัดการตามที่ท่านแม่ทัพสั่งนะขอรับ " เมื่อต้าฉีออกไปแล้ว ท่านแม่ทัพจึงหันมามองหน้าเสี่ยวฮัวที่ยืนอยู่ไม่ไกล " เรียนท่านแม่ทัพ คุณชายเซียวบอกว่าเมื่อคืนไม่ได้ ส่งใครมาเลยขอรับ และทุกคนในจวนก็ไม่มีใครเห็นคนนอกเข้ามาเลยซักคนขอรับท่านแม่ทัพ " " เหลวไหล คนทั้งคนจะหายไปเฉย ๆ ได้อย่างไรกัน ไม่อย่างนั้นเจ้านำสิ่งนี้ไป สืบมาให้ได้ " " ขอรับท่านแม่ทัพ แต่ว่า ....นางชื่ออะไรหรือขอรับ " " ข้า.....ไม่รู้...ก็ไม่ได้ถาม ใครจะไปรู้ ว่านางจะหนีไปแบบนั้น " " เข้าใจแล้วขอรับ " เสี่ยวฮัวรับจี้หยกมาถือไว้ในมือก่อนที่จะออกจากจวนไปอีกครั้ง ไป๋มูจินจึงเดินออกไปหาคนของหน่วยพยักฆ์ที่มารออยู่ที่หน้าจวน เขามีงานสำคัญที่ต้องรีบไปทำจึงไม่มีเวลามาคิดมากเรื่องของสตรีนางนั้นท่านนายอำเภอมองหน้าหลานสาวคนเดียวของตนด้วยความโกรธ หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากนาง " เจ้า....พูดใหม่อีกทีซิ " " เอ่อ....ก็ท่านตาพูดเองนิ ว่าท่านอยากได้หลาน...ที่ข้าต้องทำแบบนี้ก็เพราะท่านมิใช่หรือไง..." " นี่...เจ้า..." ซูหวินซีเอ่ยขึ้นเสียงเบา นางส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้กับท่านตาของนาง ที่กำลังโกรธจนหน้าดำหน้าแดง สวนส่วนตัวต้นเหตุ มาทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้แล้วหนีกลับไปดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น ปล่อยให้นางต้องรับหน้ากับท่านตาเพียงผู้เดียว ' อิตาแม่ทัพบ้า มาพูดจาข่มขู่ผู้อื่นแล้วเดินหนี แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน ' " ซีซี เจ้าฟังตาอยู่หรือเปล่า " " เออ...เจ้าค่ะท่านตา " นางมัวแต่ก่นด่าท่านแม่ทัพอยู่ในใจคนเดียว จนลืมฟังที่ท่านตาพูด นางจึงยิ้มหวานให้กับผู้สูงวัย " เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาเป็นใคร เขาทำอะไรได้บ้าง เขาไม่ใช่คนที่พวกเราควรจะไปยุ่งด้วย " " ท่านตาไม่ต้องห่วง....เรื่องนี้ข้าเป็นคนก่อข้าจะรับผิดชอบเองนะเจ้าคะ "
ในยามที่แสงอรุณสาดส่องลงมากระทบกับผิวน้ำ ทำให้เกิดแสงระยิบระยับ สตรีร่างบางนั่งเหม่อลอยอยู่กลางสวนดอกไม้ ข้างน้ำตกจำลอง นางหวนนึกถึงใบหน้าคมของใครบางคนที่ช่วยนางไว้เมื่อวานนี้ เหตุใดถึงได้รู้สึกจุกในอกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อรู้ว่าเขาคนนั้นจำนางไม่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นนางเองที่ไม่อยากให้เขาจำนางได้ ซูหวินซีส่ายหัวไปมาเพื่อไล่ความคิดที่ว้าวุ่นของตนเอง " โอ๊ย " มือเรียวยกขึ้นมาลูบที่ลำคอของตนเองเมื่อนางลืมนึกไปว่า ยังมีแผลที่คออยู่ " ซีซี " ใบหน้าหวานหันไปตามเสียงเรียก ก็พบกับบุรุษสูงวัยที่กำลังเดินมา นางจึงเดินเข้าไปพยุงท่านเดินไปนั่งที่ศาลา " ท่านตา.....เหตุใดถึงลงมาที่นี่เองหล่ะเจ้าคะ ทำไมไม่ให้สาวใช้มาตามข้าหล่ะ " " ตาไม่ได้มาที่เรือนหลังเล็กนี่นานแล้ว จึงอยากจะมาดูเสียหน่อย และมาดูด้วยว่าเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง " ท่านตามองไปรอบ ๆ ที่เรือนเล็กนี้แยกจากเรือนหลังใหญ่ไกลพอสม พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกดัดแปลงให้เป็นสวนดอกไม้ ท
ซูหวินซีที่กำลังออกจากร้านของตนเอง อยู่ ๆ ก็มีคนมากระชากข้อมือของนางอย่างแรงและใช้มีดจี้ที่ลำระหง ของนาง " ปล่อยนางซะ " นางตกใจจนพูดอะไรไม่ออก และมีคนอีกกลุ่มนึงวิ่งตามมาบุรุษร่างทรงที่ยืนอยู่ด้านหน้าจ้องมองมาที่ไหนด้วยความตกใจ เมื่อเห็นใบหน้าคมของเขาทำให้นางตกใจยิ่งกว่ามีดที่จอดที่คอของนางเสียอีก ' เป็นเขา.....เหตุใดข้าถึงได้ซวยเช่นนี้ หวังว่าเขาคงจะจำข้าไม่ได้หรอกนะ ' " คุณหนู " หลี่เจินตามหลังนางออกมาเห็นเจ้านายของตนถูกคนร้ายจับเอาไว้ทำให้ตกใจยิ่งนัก " ซีซี " ซานเป่าโจวิ่งมาถึง เป็นต้องตกใจที่เห็นสหายของตนตกอยู่ในมือของคนร้าย ท่านแม่ทัพหันไปมองหน้าของมือปราบหนุ่มที่เรียกสตรีตรงหน้าอย่างสนิทสนม คำถามแรกเกิดขึ้นในหัวของเขาคือ สองคนนี้เป็นอะไรกัน " อย่าเข้ามานะ.....ไม่อย่างนั้นนางตาย..." ท่านแม่ทัพมองมีดที่กดลงบนลำคอของนาง และกำลังมีเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อย เขาขบกรามแน่นสายตาคมจ้องมองหัวหน้าโจรด้วยความดุด
กองปราบ คนของหน่วยพยักและเหล่ามือปราบต่างเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับการมาบุกชิงตัวนักโทษ แม้ว่าภายนอกกองปราบอาจจะดูปกติดี แต่ภายในนั้นพวกเขาเตรียมพร้องอย่างขันแข็ง มือปราบหลายคนมาทำงานด้วยความจำใจ เพราะวันนี้เป็นเทศกาลชีซี เดิมทีแล้วพวกเขาต้องอยู่กับภรรยาหรือคนรัก แต่ตอนนี้พวกเขาต้องมารอรับมือกับโจรภูเขาที่จะมาชิงตัวลูกน้องของพวกมัน ไปมู่จินมองบุคคลตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า และหมุนถ้วยชาในมือเล่นอย่างสบาย ๆ " ท่านหัวหน้าไม่มีวันบุกมาหรอก.....พวกเจ้ากำลังเสียเวลาเปล่า " เสี่ยวฮั้วมองบุคคลตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ในเมื่อเจ้านายของเขาไม่พูด เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร " หุบปากได้แล้ว.....คิดว่าพวกข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าเป็นอะไรกันกับหัวหน้าโจรภูเขา " หัวหน้ามือปราบเว่ยเอ่ยขึ้นพร้อมกับใช้ผ้าอุดปากของลูกชายคนเดียวของหัวหน้าโจรภูเขาด้วยความเหลืออด ก็มันเล่นพูดไม่หยุดเลยตั้งแต่ถูกจับมา ใครจะไปทนได้แม้แต่ผู้ที่มีความอดทนสูงเช่น
ซูหวินซีให้หลี่เจินนำภาพชุดที่นางออกแบบไปส่งให้เสิ่นหยวนจีที่ร้านของนาง หากไม่รีบส่งไปมีหวัง ยัยนั่นคงตามมาทวงถึงจวนตระกูลซูเป็นแน่ และนางยังไม่พร้อมที่จะเจอใครในสภาพเช่นนี้ ใบหน้าหวานจ้องมองกระจกอย่างไม่พอใจ เมื่อมองไปที่รอยช้ำหลายจุดตามลำคอระหง แม้ว่ามันจะเริ่มจางลงมากแล้วก็ตามที ใบหน้าหวานเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมาทันทีที่คิดถึงคนที่เป็นคนทำ แต่ก็ต้องรีบสะบัดหน้าไล่ความคิดนั้นออกไปโดยเร็ว เมื่อนางตระหนักได้ว่าเขาเข้าใจว่านางเป็นเพียงแค่หญิงในหอคณิกาเท่านั้น แต่นั่นก็ดีแล้ว " คุณหนูเจ้าคะ.... คุณหนูเสิ่น พอใจกับชุดที่ท่านออกแบบมากเลยเจ้าค่ะ" " นางชอบก็ดีแล้ว สองสามวันนี้หากใครถามถึงข้าก็บอกไปว่าข้ากำลังยุ่งอยู่กับการทำสินค้าตัวใหม่สำหรับเทศกาลชีซีก็แล้วกัน" " ได้เจ้าค่ะ..... แต่ว่าคอของท่าน จะหายทันหรือเจ้าคะ " หลี่เจินมองมาที่รอยแดงบนคอของนางอย่างเป็นกังวล ซูหวินซียกมือขึ้นมาลูบรอยแดงเบา ๆ " ต้องทันแน่ ข้าจะหาวิธีเอง เจ้า
ซูหวินซีลืมตาขึ้นมาในยามอิ๋น นางขยับกายเล็กน้อยก็ต้องพบกับความเจ็บปวดไปทั้งตัว นางมองคนข้างกายที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ มือหนายังคงเกาะเกี่ยวเอวบางของนางเอาไว้แน่น เมื่อคืนนางก็แทบจะไม่ได้นอน นางค่อย ๆ ดึงมือของเขาออกอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะรีบสวมเสื้อผ้าของตนเองและพาร่างกายที่อ่อนแรงของนางออกมาจากจวนรับรองในทันที โชคดีที่ผู้ดูแลจวนยังไม่ตื่น นางจึงออกมาโดยที่ไม่มีใครเห็น และกลับเข้าห้องของตนเองไป " คุณหนู ท่านไปจริง ๆ หรือเจ้าคะ " เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องก็เจอหลี่เจินนั่งรอยู่ด้วยท่าทางร้อนใจ และเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงห่วงใย " ข้า ..... ช่างเถอะ " " ท่านแม่ทัพก็ช่างใจร้ายยิ่งนัก .....ดูสิคุณหนูของข้าช้ำไปหมดเลย " หลี่เจินมองรอยแดงตามลำคอและหน้าอกของคุณหนูของตนด้วยความเห็นใจ " จะโทษเขาได้ย่างไร เป็นข้าที่เลือกเอง แต่มันจบไปแล้วหล่ะ เขาก็แค่คิดว่าข้าเป็นสตรีในหอโคมเขียวที่คนของเขาหามาให้ก็เท่านั้น เป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว " " คุณ