ช่วงเวลาที่ความเย็นเฉียบจากเครื่องมือบางอย่างแตะลงผิว ร่างกายบอบบางก็สะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยเหมือนทุกครั้ง เสียงเพลงแจ๊สแผ่วเบากับกลิ่นหอมอ่อนๆในห้องสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย แต่ดันสวนทางกับร่างกายที่กำลังเกร็งทั้งตัวด้วยความตื่นเต้น
ใครบางคนกำลังสนุกกับการหยอกล้อร่างกายขาวเนียนตรงหน้า ขณะที่ใครบางคน กำลังใจเต้นรัวและสะดุ้งเป็นระยะเมื่อถูกสัมผัสในทุกครั้ง
“อื้อ”
เสียงหวานที่ครางแผ่ว ยามนิ้วยาวลากไล้เข้าใกล้จุดที่ไวต่อความรู้สึกและเปลี่ยนเป็นเสียงหวีดครางดังขึ้นเมื่อเครื่องมือเย็นเฉียบชิ้นนั้นแตะลงบนเนินเนื้อกลางกาย และกรีดลงมาตามร่องจนพาให้บิดเร่าไปทั้งตัว
“อ๊าา”
“ชู่วว คนไข้อย่าเกร็งสิครับ แล้วก็เลิกส่งเสียงแปลกๆแบบนั้นด้วยหมอไม่มีสมาธิเลย”
“อึก อื้อ”
ร่างบางจิกมือกับขอบเตียงแคบๆก่อนจะกัดปากกลั้นเสียงครางน่าอายสุดชีวิต ขณะที่ต่อสู้กับความเสียดเสียวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่สมควรแบบนี้
“อย่าคิดเรื่องลามกสิครับ หมอกำลังตั้งใจตรวจอยู่นะ”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเย้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนไข้ที่นอนหน้าแดงก่ำบนเตียงอย่างชอบใจ แล้ววกกลับไปใช้เครื่องมือชิ้นนั้นเขี่ยเข้าที่น้ำคาวสีขาวขุ่นที่ไหลเยิ้มออกมาจากร่องรัก นั่นคงเป็นสิ่งเดียวที่ร่างกายของคนไข้ควบคุมไม่ได้
“อึก อือ”
เสียงครางอึกอักในลำคอยังคงเล็ดลอดออกมาแม้จะเก็บกลั้นขนาดไหน เท้าเล็กทั้งสองข้างหงิกงอตลอดเวลาที่ถูกเขี่ยตรงร่องรัก ได้แต่ภาวนาให้หมอช่วยตรวจภายในให้เสร็จๆซะที ก่อนที่เธอจะได้เสร็จจนแตกออกมาเพราะเครื่องมือนั่นซะก่อน แค่นี้ก็อายจนแทบมุดดินหนีแล้ว เดี๋ยวหลังจากนี้ต้องโดนล้อเลียนไปอีกนานแน่ๆ เพราะคนอย่างหมอพอร์ชน่ะ มันร้ายตัวพ่อเลยน่ะสิ
“ถ้าคนไข้ไม่เลิกครางแบบนั้น หมอจะไม่ทนแล้วนะครับ”
“หมอพอร์ช อึก”
ชื่อที่คุ้นเคยหลุดออกมาจากปากคนไข้จำเป็นในที่สุด ส่วนหมอที่ถูกเรียกก็รีบยืดตัวขึ้นไปหาคนไข้บนขาหยั่งทันทีราวกับรอจังหวะนี้อยู่
“ว่าไงครับพี่พายของพอร์ช”
“อื้อ ช่วย อึก ช่วยตรวจให้มันเสร็จๆสักทีเถอะ อ๊ะ”
พาย หรือพริมา คนไข้ที่กำลังเผชิญกับความอับอายขั้นสุดข่มกลั้นเสียงครางแม้จะยากเย็นก็ตาม แต่เหมือนคนขี้แกล้งอย่างหมอพอร์ชจะไม่ได้อยากทำหน้าที่มากไปกว่าความต้องการส่วนตัวในตอนนี้
“มันจะเสร็จได้ไงครับ พอร์ชยังไม่ได้ใส่เข้าไปเลยนะ”
ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงไปสบตาของคนไข้คนพิเศษแล้วยิ้มร้ายออกมา ขณะที่มือก็ปลดเข็มขัดแล้วงัดเอาแกนกายที่แข็งขืนมาถูไถร่องรักฉ่ำน้ำแทนเครื่องมือตรวจ พายที่กลัวว่ามันจะเกินเลยไปจริงๆเลยรีบดุออกมาทันที
“พอร์ช! ถ้าไม่เลิกแกล้งพี่จะไปตรวจที่อื่น”
“พูดอีกทีสิครับ”
หมอพอร์ช หรือพชร ยิ้มเย็นจนพายเสียวสันหลังวาบ ก่อนจะครางออกมาดังลั่นเมื่อถูกแกนกายร้อนๆแทงพรวดเข้ามาในทีเดียวจนมิดลำ
“อ๊าาา”
“พูดให้น่าฟังกว่านี้หน่อย พี่พายของพอร์ชจะไปตรวจกับคนอื่นงั้นเหรอครับ”
หมอพอร์ชถามด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ สองมือจับมือเล็กสอดประสานเอาไว้เหนือหัวของพายแล้วเริ่มกระแทกเข้าหาช้าๆ แต่เน้นหนักจนเธอแอ่นเอวลอย
“มะ ไม่ อ๊ะ พี่ขอโทษ”
“แย่จัง พอร์ชถนัดแต่ลงโทษซะด้วยสิ ทนหน่อยนะครับเดี๋ยวก็เสร็จ”
หมอที่กำลังทำนอกเหนือจากหน้าที่ ก้มลงมองใบหน้าสวยที่กำลังน้ำตาคลอกัดปากแน่นก็ยิ่งยิ้มพอใจออกมา ดวงตาคมวาววับจับจ้องอยู่แบบนั้นทั้งที่ช่วงล่างกำลังกระแทกเน้นๆจนเตียงตรวจสั่นคลอน เสียงเครื่องมือกระทบกันดังขึ้นมาจนพายหวั่นใจต้องเตือนไม่ให้อีกคนลืมว่านี่คือที่ไหน
“พอร์ช หมอพอร์ช ไม่เอานะ นี่มันห้องตรวจ อ๊ะ”
“วันนี้พี่พายเป็นคนสุดท้ายแล้วครับ ไม่รู้เหรอ”
แทนที่จะกลัว หมอพอร์ชกลับยิ้มชอบใจที่เห็นว่าพายกำลังหวาดหวั่น ร่างสูงรวบมือบางไว้ด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะใช้อีกมือเลิกเสื้อคนไข้ขึ้นจนสองเต้าเต่งตึงออกมาอวดสายตา ปากร้อนฉกลงไปครอบครองดูดกลืนสลับข้างอยางเมามัน ขณะที่เอวสอบก็สวนกระแทกหนักขึ้น และเร็วขึ้นจนพายตาพร่า
“พอร์ช ไม่ อ๊ะ อ๊ะ”
ปึก ปึก ปึก
“อืม ถ้าจะโกรธ ก็โกรธตัวเองที่ไม่มาหาพอร์ชแต่แรกนะครับพี่พาย อ่า”
หมอพอร์ชบอกพลางส่งสายตาวาววับให้พายที่แทบไม่มีแรงต่อต้านเพราะถูกกระแทกจนเสียวซ่านไปทั้งตัว ขาเรียวถูกจับออกมาจากขาหยั่งแล้วรวบมาไว้ที่บ่าข้างซ้ายของหมอพอร์ช จากนั้นร่างสูงที่ยังอยู่ในเสื้อกาวน์สีขาวสะอาด ก็บดขยี้คนไข้บนเตียงด้วยท่อนเอ็นร้อนถี่ยิบจนพายอ้าปากครวญคราง หลงลืมสิ้นว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและมาทำอะไร เหลือแค่ความเสียดเสียวที่แล่นไปทั่วร่างกายจนครวญครางออกมาไม่หยุด
“พอร์ช ฮึก อ๊าา พอร์ช”
“พี่ดื่มไม่ไหวแล้ว เข้าบ้านกันเถอะนะ อึก” พายบอกคนที่ยังเติมไวน์ใส่แก้วเธอไม่หยุดด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ ตอนนี้ทั้งสองคนกลับมาที่บ้านริมทะเลด้วยกันเพราะได้วันหยุดยาวครั้งแรกในรอบปี บ้านที่เคยเป็นเรือนหอตอนแต่งงาน กลายเป็นบ้านพักตากอากาศไปเรียบร้อยเมื่อทั้งคู่ตัดสินใจย้ายกลับไปที่โรงพยาบาลเดิม แล้วก็เป็นพอร์ชที่ยังแผนสูงเหมือนเดิม เพราะเค้าตั้งใจจะมอมเหล้าภรรยาในคืนนี้เพื่อที่จะได้ฉลองวันหยุดอย่างหวานฉ่ำได้ง่ายๆ โดยที่พายไม่มีแรงต่อต้านหรือขัดใจเวลาอยากทำซ้ำ “รีบไปไหนล่ะครับ นานๆได้มานี่ก็ใช้เวลาให้คุ้มสิ พอร์ชยังอยากนั่งตรงนี้อยู่เลย” “งั้นก็เลิกเทให้พี่ได้แล้ว อึก มึนไปหมดแล้วเนี่ย” พายบ่นออกมาเมื่ออีกคนรั้งตัวเข้าไปกอดและจ่อแก้วมาที่ปากอีกรอบ “ อ่ะ อีกแก้วเดียวจะพาเข้าบ้านเลย” “จริงนะ” พายถามย้ำแม้จะเริ่มตาลายมากๆ พอเห็นว่าอีกคนพยักหน้าก็ยกขึ้นดื่มรวดเดียวอย่างว่าง่าย เธอโอนเอนจนต้องซบลงไปที่พอร์ชทั้งตัว ไม่นานคนตัวโตก็ฉุดเธอลุกขึ้นแล้วอุ้มจากพื้นจนตัวลอย “อุ้มทำไมพี่เดินได้” “เซขนาดนั้นจะเดินไหวได้ไง พอร์ชทำพี่เมาเดี๋ยวรับผิดชอบเองครับ” พอร์ชบอกพลางขำออกมาอย่างเอ็นดู คนเมามัก
“พอร์ช พี่บอกว่าเดี๋ยวไปตรวจกับหมอผู้หญิงไง”พายยื้อตัวเมื่อถูกลากเข้ามาในห้องที่มีเตียงตรวจ และมันคือห้องเดิมที่หมอพอร์ชเคยทำอะไรๆกับเธอไปในตอนนั้น เพราะตอนนี้เราย้ายกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลเดิมที่พอร์ชรับช่วงต่อจากพ่อเรียบร้อยแล้ว และก็เป็นช่วงที่ต้องตรวจร่างกายประจำปีอีกเหมือนเคย มันคงจะไม่ยุ่งยากอะไรเลยถ้าหมอพอร์ชยอมให้เธอไปตรวจกับหมอผู้หญิงคนอื่น ไม่ใช่พามาตรวจเองทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ตรวจภายในมานานแล้วด้วยซ้ำ “จะใครพอร์ชก็หวงครับ ขึ้นไปเลย” “ไม่เอา” “พี่พาย หรืออยากให้บังคับเหรอ” พอร์ชมองคนตัวเล็กแล้วดุออกมาเสียงเข้ม ปกติก็ไม่บังคับอะไรหรอก แล้วก็เลิกใจร้ายใส่มาตั้งแต่คบกันแล้วด้วย แต่พอเป็นเรื่องแบบนี้ทีไรพอร์ชก็เริ่มสวมวิญญาณตัวร้ายอีกครั้ง ส่วนพายก็ดื้อขึ้นมาอย่างที่ปกติไม่เคยทำเหมือนกัน “พอร์ช ไม่เอา” “กลัวโดนเอาคาเตียงตรวจเหมือนตอนนั้นเหรอครับ” “พอร์ช!” พายดุคนตัวโตเสียงดังก่อนจะตีไปที่แขนแกร่งแรงๆที่พูดอะไรน่าอายออกมา หมอพอร์ชยกนิ้วขึ้นมาทำท่าให้เงียบทั้งที่ข้างนอกก็ไม่ค่อยมีคนอยู่แล้วเนื่องจากเป็นเวลาของเวรบ่าย และทำให้ไม่ได้กลับบ้านกันสักทีก็เพราะมัวแต่เถียงกันอยู่
“ยินดีด้วยนะมึง” หมอคินเดินเข้ามาอวยพรเพื่อนอีกครั้งในงานเลี้ยงตอนเย็น งานช่วงเช้าผ่านไปอย่างราบรื่นและอบอุ่นเกินกว่าที่คาดไว้มาก อาจเพราะปัญหาทุกอย่างถูกพอร์ชคลี่คลายไปตั้งแต่ก่อนแต่งงานหมดแล้ว แถมยังคืนดีกับพ่อตัวเองจนได้มาร่วมงานได้อย่างชื่นมื่นอีกด้วย แม้ทั้งสองคนจะไม่อยากเชิญคนมาร่วมงานเยอะ แต่แค่คนรู้จักและสนิทสนมก็มากพอจนเกือบเต็มห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมแล้ว “อือ รอไปงานมึงกับพี่สาวคนนั้นอยู่นะ” พอร์ชแซวกลับเพื่อนที่ดูอารมณ์ดีมากกว่าทุกวัน และคาดว่าคงเป็นเพราะพี่สาวคนสวยที่มันตามดูแลอยู่แน่ๆ ทำเอาอนาคินที่ร้อนตัวรีบบ่นออกมาทันที “เลิกแซวกูสักวันเถอะขอร้อง” “เห็นเดินตามต้อยๆละสงสาร ขอให้พี่เค้ารับรักไวๆนะมึง” “หุบปากเถอะมึงอ่ะ ยืนทำตัวเป็นเจ้าบ่าวเฉยๆก็พอเดี๋ยวกูทุบเลย” อนาคินยกมือขึ้นมาขู่เพื่อนที่ยืนขำอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปหาเจ้าสาวคนสวยที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆแล้วชมออกมา “พี่พาย ยินดีด้วยนะครับวันนี้สวยสุดๆเลย” “ขอบคุณค่ะหมอคิน” “ไปได้แล้วอย่ามองเยอะ กูหวง” พอร์ชโอบไหล่พายเข้ามากอดก่อนจะส่งสายตาดุๆให้เพื่อนจนโดนเขม่นกลับมาทันที “แหม่ ไอ้คนขี้หวง” “อย่าทำแบบนั้นก
“ขอคุยด้วยหน่อยสิ ไม่นานหรอก” คนเป็นพ่อบอกอย่างไม่ถือสาท่าทางแข็งกระด้างและแววตาระแวดระวังของลูก ที่ผ่านมาไม่เคยคุยกันดีๆสักครั้งพอร์ชจะไม่ไว้ใจก็ไม่แปลก พอพูดจบก็เดินไปรอที่ใต้ต้นไม้ใหญ่อีกฝั่งของรั้วบ้าน พอร์ชเดินกลับไปบอกให้พายเอารถเข้าบ้านไปก่อนโดยไม่คิดจะให้ลงมาทักทายพ่อตัวเองสักนิด เพราะพายคือคนที่เค้าต้องปกป้องให้ห่างจากพ่อตัวเองที่สุดแล้ว ร่างสูงเดินกลับมาหาพ่อที่ยืนมองแล้วรีบถามธุระทันที “มีอะไรครับ”“ฉันไม่ได้มาขัดขวางหรือขอร้องอะไรแบบที่แกคิดหรอก ไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้”พีรพัฒน์บอกพลางขำออกมาอย่างจนใจที่ถูกระแวงมากซะจนเกือบพูดไม่ออก และพอรู้แบบนั้นพอร์ชเลยถอนหายใจออกมาก่อนจะถามในสิ่งที่อยากรู้มาตลอด “สบายดีใช่มั้ยครับ” “หึ นี่แกห่วงฉันด้วยเหรอ” “เปล่าครับ ผมถามตามมารยาท”พอถูกจ้องด้วยรอยยิ้มล้อเลียนพอร์ชก็แถด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยเหมือนเดิม ทำเอาคนเป็นพ่อบ่นออกมาอย่างปลงๆเพราะไม่ได้คาดหวังท่าทีดีๆจากลูกอยู่แล้ว “เหอะ แกนี่ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ ช่างเถอะฉันไม่ได้มาเพราะอยากฟังอะไรแบบนั้นสักหน่อย ได้ข่าวว่าจะแต่งงานแล้วนี่” “ใครบอกครับ” “คิดว่าฉันจะไม่รู้เหรอว่าแกทำอะไรท
“แม่คะ…” พายส่งเสียงเรียกคนเป็นแม่ที่นั่งเล่นตรงสวนอย่างระมัดระวัง เพราะแม่เธอมักจะตกใจและกลัวเวลามีใครเข้ามาหาแบบกะทันหัน แต่แปลกที่วันนี้คนเป็นแม่กลับหันมายิ้มให้แล้วทักทายด้วยความสดใส “อ้าว ลูกสาวมาแล้วเหรอ” สรรพนามที่ใช้เรียกแทบทุกคนที่เป็นผู้หญิงไม่ได้ทำให้พายดีใจเหมือนตอนแรกอีกแล้ว เพราะพอรู้ว่าแม่ยึดติดกับการเรียกเธอในความทรงจำเก่า จนเรียกคนอื่นด้วยแบบนั้นไม่ได้หมายถึงว่าแม่จำเธอได้ แต่แค่มีความทรงจำนั้นอยู่ในหัวต่างหาก สุดท้ายแม่ก็ไม่เคยจำเธอตอนนี้ได้อยู่ดี พายส่งยิ้มให้แม่ที่เดี๋ยวนี้ได้เจอกันบ่อยขึ้นเพราะกลับมาอยู่ใกล้ๆ และตั้งใจจะพาพอร์ชมาหาเพื่อให้แม่ได้เห็นหน้าไว้บ้างก่อนที่จะพาไปอยู่ด้วยกันจริงๆ ถึงจะไม่รู้ว่าจะช่วยได้หรือเปล่าก็เถอะ “นี่พอร์ชค่ะแม่ คนที่พายจะแต่งงานด้วย” พายดึงพอร์ชมายืนข้างๆก่อนจะแนะนำอีกคนให้แม่รู้จัก และพอร์ชเองก็ยกมือไหว้ทักทายอย่างนอบน้อม แต่ก็ระวังไม่เข้าไปใกล้มากกว่าเดิมนักเพราะกลัวอีกคนจะตกใจ และน่าแปลกที่วันนี้คนป่วยที่เคยเหม่อลอยทั้งวันกลับมีแต่รอยยิ้มสดใสอย่างที่พายไม่เคยเห็นมานานมากแล้ว แถมยังลุกเดินเข้ามาหาพลางจับตัวพอร์ชแล้วเอ่ยชมออ
“นี่บ้านพอร์ชจริงๆเหรอ” พายถามพลางเบิกตาโตอย่างตื่นเต้นและไม่อยากเชื่อ บ้านหลังโตโทนสีขาวเทาสไตล์ยุโรปมีสวนดอกไม้หลากสีอยู่ด้านหน้า มองเลยไปด้านหลังมีชายหาดที่ไม่ห่างจากทะเลมากนัก มันสวยเหมือนกับบ้านในฝันที่เธอเคยบอกพอร์ชเลย ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าอีกคนจะถามไปทำไมเพราะพายก็บอกไปแล้วว่าบ้านของเธอก็อยู่ได้สบาย แต่พอร์ชก็บอกว่าแค่อยากรู้เท่านั้น ไม่คิดว่าย้ายมาทำงานที่นี่ได้แค่ครึ่งปีพอร์ชก็สร้างมันเสร็จซะแล้ว อีกอย่างที่ทึ่งกว่าคือที่ดินที่สร้างบ้านหลังนี้นี่แหละ ราคามันน่าจะแพงมากจนไม่กล้าคิดถึงเลยเพราะที่ดินติดทะเลแบบนี้ในชลบุรีไม่ได้หาง่ายๆ “ไม่ใช่ครับ นี่บ้านเราสองคนต่างหาก” พอร์ชแก้พลางจับมือบางมากุมไว้แน่น บนใบหน้าเจือด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาเพราะมีความสุขมากๆที่ทำบ้านหลังนี้เสร็จแล้ว มันคือสิ่งที่พอร์ชแอบทำมานานมากเพื่อจะเอาไว้เป็นของขวัญให้คนรัก พอความตั้งใจมันสำเร็จก็อดจะภูมิใจไม่ได้จริงๆ ยิ่งเห็นว่าพายตื่นเต้นและมองมันด้วยความชื่นชมขนาดไหน ใจก็ยิ่งพองฟูอีกหลายเท่า “เป็นไปได้ยังไง มันน่าจะแพงมากเลยนะ” “พอร์ชแอบมาสร้างไว้นานแล้วครับ ตั้งแต่ที่รู้ว่าบ้านพี่อยู่ที่นี่พอร์ชก็มาหาที่ไว