“พอร์ช พี่บอกว่าเดี๋ยวไปตรวจกับหมอผู้หญิงไง”พายยื้อตัวเมื่อถูกลากเข้ามาในห้องที่มีเตียงตรวจ และมันคือห้องเดิมที่หมอพอร์ชเคยทำอะไรๆกับเธอไปในตอนนั้น เพราะตอนนี้เราย้ายกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลเดิมที่พอร์ชรับช่วงต่อจากพ่อเรียบร้อยแล้ว และก็เป็นช่วงที่ต้องตรวจร่างกายประจำปีอีกเหมือนเคย มันคงจะไม่ยุ่งยากอะไรเลยถ้าหมอพอร์ชยอมให้เธอไปตรวจกับหมอผู้หญิงคนอื่น ไม่ใช่พามาตรวจเองทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ตรวจภายในมานานแล้วด้วยซ้ำ “จะใครพอร์ชก็หวงครับ ขึ้นไปเลย” “ไม่เอา” “พี่พาย หรืออยากให้บังคับเหรอ” พอร์ชมองคนตัวเล็กแล้วดุออกมาเสียงเข้ม ปกติก็ไม่บังคับอะไรหรอก แล้วก็เลิกใจร้ายใส่มาตั้งแต่คบกันแล้วด้วย แต่พอเป็นเรื่องแบบนี้ทีไรพอร์ชก็เริ่มสวมวิญญาณตัวร้ายอีกครั้ง ส่วนพายก็ดื้อขึ้นมาอย่างที่ปกติไม่เคยทำเหมือนกัน “พอร์ช ไม่เอา” “กลัวโดนเอาคาเตียงตรวจเหมือนตอนนั้นเหรอครับ” “พอร์ช!” พายดุคนตัวโตเสียงดังก่อนจะตีไปที่แขนแกร่งแรงๆที่พูดอะไรน่าอายออกมา หมอพอร์ชยกนิ้วขึ้นมาทำท่าให้เงียบทั้งที่ข้างนอกก็ไม่ค่อยมีคนอยู่แล้วเนื่องจากเป็นเวลาของเวรบ่าย และทำให้ไม่ได้กลับบ้านกันสักทีก็เพราะมัวแต่เถียงกันอยู่
“พี่ดื่มไม่ไหวแล้ว เข้าบ้านกันเถอะนะ อึก” พายบอกคนที่ยังเติมไวน์ใส่แก้วเธอไม่หยุดด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ ตอนนี้ทั้งสองคนกลับมาที่บ้านริมทะเลด้วยกันเพราะได้วันหยุดยาวครั้งแรกในรอบปี บ้านที่เคยเป็นเรือนหอตอนแต่งงาน กลายเป็นบ้านพักตากอากาศไปเรียบร้อยเมื่อทั้งคู่ตัดสินใจย้ายกลับไปที่โรงพยาบาลเดิม แล้วก็เป็นพอร์ชที่ยังแผนสูงเหมือนเดิม เพราะเค้าตั้งใจจะมอมเหล้าภรรยาในคืนนี้เพื่อที่จะได้ฉลองวันหยุดอย่างหวานฉ่ำได้ง่ายๆ โดยที่พายไม่มีแรงต่อต้านหรือขัดใจเวลาอยากทำซ้ำ “รีบไปไหนล่ะครับ นานๆได้มานี่ก็ใช้เวลาให้คุ้มสิ พอร์ชยังอยากนั่งตรงนี้อยู่เลย” “งั้นก็เลิกเทให้พี่ได้แล้ว อึก มึนไปหมดแล้วเนี่ย” พายบ่นออกมาเมื่ออีกคนรั้งตัวเข้าไปกอดและจ่อแก้วมาที่ปากอีกรอบ “ อ่ะ อีกแก้วเดียวจะพาเข้าบ้านเลย” “จริงนะ” พายถามย้ำแม้จะเริ่มตาลายมากๆ พอเห็นว่าอีกคนพยักหน้าก็ยกขึ้นดื่มรวดเดียวอย่างว่าง่าย เธอโอนเอนจนต้องซบลงไปที่พอร์ชทั้งตัว ไม่นานคนตัวโตก็ฉุดเธอลุกขึ้นแล้วอุ้มจากพื้นจนตัวลอย “อุ้มทำไมพี่เดินได้” “เซขนาดนั้นจะเดินไหวได้ไง พอร์ชทำพี่เมาเดี๋ยวรับผิดชอบเองครับ” พอร์ชบอกพลางขำออกมาอย่างเอ็นดู คนเมามัก
ช่วงเวลาที่ความเย็นเฉียบจากเครื่องมือบางอย่างแตะลงผิว ร่างกายบอบบางก็สะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อยเหมือนทุกครั้ง เสียงเพลงแจ๊สแผ่วเบากับกลิ่นหอมอ่อนๆในห้องสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย แต่ดันสวนทางกับร่างกายที่กำลังเกร็งทั้งตัวด้วยความตื่นเต้น ใครบางคนกำลังสนุกกับการหยอกล้อร่างกายขาวเนียนตรงหน้า ขณะที่ใครบางคน กำลังใจเต้นรัวและสะดุ้งเป็นระยะเมื่อถูกสัมผัสในทุกครั้ง “อื้อ” เสียงหวานที่ครางแผ่ว ยามนิ้วยาวลากไล้เข้าใกล้จุดที่ไวต่อความรู้สึกและเปลี่ยนเป็นเสียงหวีดครางดังขึ้นเมื่อเครื่องมือเย็นเฉียบชิ้นนั้นแตะลงบนเนินเนื้อกลางกาย และกรีดลงมาตามร่องจนพาให้บิดเร่าไปทั้งตัว “อ๊าา” “ชู่วว คนไข้อย่าเกร็งสิครับ แล้วก็เลิกส่งเสียงแปลกๆแบบนั้นด้วยหมอไม่มีสมาธิเลย” “อึก อื้อ” ร่างบางจิกมือกับขอบเตียงแคบๆก่อนจะกัดปากกลั้นเสียงครางน่าอายสุดชีวิต ขณะที่ต่อสู้กับความเสียดเสียวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่สมควรแบบนี้ “อย่าคิดเรื่องลามกสิครับ หมอกำลังตั้งใจตรวจอยู่นะ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเย้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาคนไข้ที่นอนหน้าแดงก่ำบนเตียงอย่างชอบใจ แล้ววกกลับไปใช้เครื่องมือชิ้นนั้นเขี่ยเข้าที่น้ำคาวสีขาวขุ่นที่ไหลเย
“พี่พาย ทำไมดูเหมือนคนไม่ได้นอนเลยคะ” เสียงทักจากด้านหลังทำให้พายหยุดมือที่กำลังจัดเตรียมของ ก่อนจะหันหน้าไปฝืนยิ้มให้รุ่นน้องพยาบาลที่สนิทกันพอสมควร “คือ พี่นอนไม่ค่อยหลับค่ะ” “มีเรื่องเครียดอะไรรึเปล่าคะ บอกหนูได้น้าหรือว่าถ้าอยากหาเพื่อนไปดื่มก็จัดได้เลยค่ะ หนูพร้อมมาก” “ได้ก็แย่แล้ว อาทิตย์นี้พี่ไม่มีวันหยุดเลยด้วยซ้ำ ขิงได้หยุดเหรอ” “เปล่าค่ะ เข้าเวรยาวๆเลย หนูแค่พูดเพราะอยากไปเฉยๆ” “อะไรเนี่ยเรา แบบนี้ก็ได้เหรอ” “โธ่ ถ้ารู้ว่าพยาบาลเข้าเวรตลอดขนาดนี้หนูเปลี่ยนใจเรียนอย่างอื่นแทนแล้วพี่พาย” น้ำขิงบอกด้วยใบหน้าที่มุ่ยลง การเป็นพยาบาลในชีวิตจริงช่างต่างที่ไฝ่ฝันเอาไว้มาก อย่าว่าแต่วันหยุดเลย แค่จะหาเวลานอนให้เต็มอิ่มยังยากเย็นกว่าซะอีก “บ่นอะไรกันคะสองสาว ตรวจร่างกายเมื่อวานเรียบร้อยมั้ยเอ่ย” เสียงทักจากคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่เรียกสายตาทั้งสองคนให้หันไปมอง ก่อนที่น้ำขิงจะเล่าเรื่องต่ออย่างลื่นไหลสมกับที่เป็นคนพูดเก่งที่สุดในแผนกนี้ “เรียบร้อยค่าพี่ตาล หนูตรวจกับหมอแนนได้พอดี สบายใจที่ไม่ต้องตรวจกับหมอผู้ชายเดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติดตอนทำงาน ฮ่าๆ” “แหม่ คิดมากไปได้เราก็ หน้าท
พายรับคำก่อนจะมองตามร่างสูงไปด้วยใจที่หวาดหวั่น เดาใจอีกคนไม่ถูกเลยว่ามีเรื่องอะไรกับเธอ หรือแค่จะเรียกไปเพื่อทำตามใจตัวเองเหมือนเมื่อวานอีกก็ไม่รู้ คนตัวเล็กหยิบเอาแฟ้มที่อยู่ใกล้ๆติดมือไปด้วยเพื่อให้เหมือนว่าเป็นเรื่องงาน เธอเดินตามไปช้าๆขณะที่ในใจนั้นระแวงไปหมดเพราะไม่รู้ว่าต้องเจอกับหมอพอร์ชเวอร์ชั่นไหน นอกจากเธอแล้วคนที่นี่คงไม่มีใครรู้ ว่าหมอพอร์ชที่อบอุ่นแสนดีคนนั้น ยังมีอีกหลายด้านที่ไม่เคยมีใครได้เห็น และคงมีแค่เธอคนเดียวที่ได้อภิสิทธิ์นั้นแม้จะไม่ต้องการเลยก็ตาม“มีอะไรให้พี่ทำคะ”พายถามทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องพักของหมอพอร์ช ห้องเย็นฉ่ำที่ทำเอาคนเข้ามาหนาวเหน็บจนอยากออกไปไวๆ หมอพอร์ชเป็นคนขี้ร้อนมากๆและชอบฟังเพลงจนต้องเปิดคลอเบาๆตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และเพราะเสียงเพลงพวกนั้นเลยทำให้อีกคนดูเป็นผู้ชายที่ใจเย็นและอบอุ่นขึ้นมาอีกด้วย ทั้งที่เธอรู้ดีกว่าใครว่าไม่จริงเลย…“ล็อกประตูด้วยครับ”คนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานสั่งออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ไร้รอยยิ้มอบอุ่นอย่างก่อนหน้า และแววตาก็เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธที่ทำเอาพายเริ่มหวาดหวั่นในใจ เธอรวบรวมความกล้าก่อนจะก้มหน้าพู
พริมาที่เดินไปเปิดประตูห้องด้วยความกังวลกลับต้องเบิกตาโตอย่างตกใจ เมื่อคนที่เข้ามาใหม่กระแทกประตูปิดแล้วดันเธอเข้ามาชิดผนังทันที“พอร์ช อ๊ะ เดี๋ยว!”คนตัวเล็กร้องห้ามเมื่อชุดนอนที่เพิ่งสวมไปได้ไม่กี่นาทีถูกอีกคนแกะกระดุมออก เธอยังไม่ทันได้เข้าใจว่าทำไมถึงต้องรีบร้อนขนาดนี้ แต่พอเงยหน้ามองใบหน้าหล่อที่ดุดันกว่าปกติก็เข้าใจได้ทันที หมอพอร์ชกำลังอารมณ์ไม่ดีมากๆ และเธอก็มีหน้าที่ต้องตามใจอีกคนเหมือนเคยชุดนอนตัวบางถูกถอดออกไปจนหมดเหลือเพียงชั้นในที่ปกปิดร่างกายขาวเนียนไว้เท่านั้น สองมือเล็กทำได้เพียงขยุ้มอกเสื้ออีกคนแน่นเมื่อถูกจมูกโด่งซุกไซ้สูดดมไปทั่วลำคอและลาดไหล่เนียน กลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคยทำให้หมอพอร์ชยิ้มออกมาอย่างพอใจ กลิ่นที่ทำให้ผ่อนคลายและรู้สึกดีขึ้นอย่างน่าประหลาด ร่างสูงถามออกมาชิดใบหูขาวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เพิ่งอาบน้ำเหรอ หอมจัง” “อื้อ พอร์ช ทำไม…” ไม่ทันได้ถามจบนิ้วยาวก็แตะเข้าที่ปากอิ่มให้หยุดพูด พายทำได้เพียงเงยหน้าสบตาคมดุที่เจือประกายบางอย่างที่เธอไม่เคยชอบเวลาอีกคนเป็นแบบนี้ เพราะมันจะเป็นเวลาที่หมอพอร์ชคนขี้เล่นหายไป เหลือเพียงหมอพอร์ชที่ดุดันเหมือนปีศาจ และเธอ
“พอร์ช อื้อ พอร์ช” พายกอดคอหนาครวญครางอย่างกระสันเสียว ใบหน้าสวยแหงนเงยตาปรือปรอยกับความสุขสมที่คนตัวโตมอบให้ เธอนั่งคร่อมอยู่บนตักของพอร์ชที่กำลังเด้งเอวขึ้นมาหาแรงๆ น้ำในอ่างกระเพื่อมไปตามแรงเคลื่อนไหวของคนทั้งคู่จนกระฉอกออกมาข้างนอกตลอดเวลา “อย่าทำหน้ายั่วสิพี่พาย มันดูร่าน” “ฮึก จุก พี่จุก” พายสะอื้นเมื่อมือหนาจับเอวเธอกดลงมารับแกนกายจนมันเข้าไปลึกและเน้นหนักกว่าเดิม ความเสียดเสียวปนเปกับความจุกแน่นจนต้องซบหน้าลงไปที่ไหล่หนา พอร์ชกระตุกยิ้มก่อนจะกระซิบที่ใบหูขาวเสียงพร่า “เสียวก็บอกเสียว จะโกหกทำไม” จากนั้นคนตัวโตก็เร่งจังหวะถี่ยิบจนพายกระตุกเสร็จสมออกมา “อ๊ะ อ๊าาา” น้ำรักอุ่นร้อนจากแกนกายใหญ่ฉีดพ่นเข้าไปในรูคับแคบ พอร์ชกระแทกเข้าไปหนักๆอีกไม่กี่ทีก็รีดน้ำออกจนหมดก่อนจะถอนตัวตนออกมา พายที่คิดว่าอีกคนน่าจะพอใจแล้วเลยลุกขึ้นยืนขาสั่นเพื่อจะไปอาบน้ำอีกรอบ แต่เสียงดุๆก็ถามขึ้นจนชะงัก “จะลุกไปไหนครับ” “ไปอาบน้ำไง พี่ง่วงแล้วพรุ่งนี้ต้องไปแต่เช้า” “มันยังไม่ดึกเลย ที่จะออกแต่เช้านี่นัดใครไว้เหรอ” พอร์ชถามพลางกระตุกร่างบางให้ลงมานั่งที่ตักเหมือนเดิม พายส่ายหน้าปฏิเสธขณะที่พ
“พี่พายคะ หมอบีฝากมาบอกว่าถ้าว่างแล้วให้ไปพบที่ห้องตรวจค่ะ” “อื้อ เดี๋ยวพี่ไป” พายที่กำลังวุ่นวายอยู่กับงานตรงหน้าหันไปตอบน้ำขิง ก่อนจะเร่งมือให้ไวขึ้นเพราะไม่รู้ว่าหมอบีมีธุระอะไรกับเธอ ทั้งที่ปกติก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่เพราะอยู่คนละแผนก แอบกลัวเล็กน้อยว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับหมอพอร์ช และถ้าเป็นอย่างนั้นเธอจะทำยังไงดีนะ “หมอบีคะ” พายเคาะประตูห้องตรวจเพื่อขออนุญาต ขณะที่ใจก็เต้นแรงขึ้นด้วยความกังวลอย่างไม่อาจห้าม ได้แต่ภาวนาให้เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องงานเท่านั้น “เชิญค่ะ” เมื่อเสียงตอบรับจากในห้องดังขึ้น พายก็เปิดประตูเข้าไปพบกับหมอบีที่นั่งรออยู่หลังโต๊ะทำงาน ตอนนี้หมดเวลาตรวจแล้วและก็เป็นเวลาเตรียมมกลับบ้านของทั้งเธอและหมอบีเช่นกัน พอเห็นรอยยิ้มและสายตาของหมอบีที่กำลังมองมา พายก็ไม่สบายขึ้นมาในทันที “นั่งก่อนสิคะพี่พาย” “หมอบีมีอะไรให้พี่ทำรึเปล่าคะ” พายนั่งลงตรงข้ามตามที่อีกคนเชิญ ฝืนยิ้มกลบเกลื่อนความกังวลแล้วบีบมือตัวเองไว้แน่นขณะที่รอคำตอบจากอีกคน หมอบียังคงยิ้มพลางเคาะโต๊ะเบาๆราวกับกำลังชั่งใจว่าจะพูดดีหรือเปล่า ทั้งที่ความจริงไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อย ก็แค่ต้องแสดงอ
“พี่ดื่มไม่ไหวแล้ว เข้าบ้านกันเถอะนะ อึก” พายบอกคนที่ยังเติมไวน์ใส่แก้วเธอไม่หยุดด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ ตอนนี้ทั้งสองคนกลับมาที่บ้านริมทะเลด้วยกันเพราะได้วันหยุดยาวครั้งแรกในรอบปี บ้านที่เคยเป็นเรือนหอตอนแต่งงาน กลายเป็นบ้านพักตากอากาศไปเรียบร้อยเมื่อทั้งคู่ตัดสินใจย้ายกลับไปที่โรงพยาบาลเดิม แล้วก็เป็นพอร์ชที่ยังแผนสูงเหมือนเดิม เพราะเค้าตั้งใจจะมอมเหล้าภรรยาในคืนนี้เพื่อที่จะได้ฉลองวันหยุดอย่างหวานฉ่ำได้ง่ายๆ โดยที่พายไม่มีแรงต่อต้านหรือขัดใจเวลาอยากทำซ้ำ “รีบไปไหนล่ะครับ นานๆได้มานี่ก็ใช้เวลาให้คุ้มสิ พอร์ชยังอยากนั่งตรงนี้อยู่เลย” “งั้นก็เลิกเทให้พี่ได้แล้ว อึก มึนไปหมดแล้วเนี่ย” พายบ่นออกมาเมื่ออีกคนรั้งตัวเข้าไปกอดและจ่อแก้วมาที่ปากอีกรอบ “ อ่ะ อีกแก้วเดียวจะพาเข้าบ้านเลย” “จริงนะ” พายถามย้ำแม้จะเริ่มตาลายมากๆ พอเห็นว่าอีกคนพยักหน้าก็ยกขึ้นดื่มรวดเดียวอย่างว่าง่าย เธอโอนเอนจนต้องซบลงไปที่พอร์ชทั้งตัว ไม่นานคนตัวโตก็ฉุดเธอลุกขึ้นแล้วอุ้มจากพื้นจนตัวลอย “อุ้มทำไมพี่เดินได้” “เซขนาดนั้นจะเดินไหวได้ไง พอร์ชทำพี่เมาเดี๋ยวรับผิดชอบเองครับ” พอร์ชบอกพลางขำออกมาอย่างเอ็นดู คนเมามัก
“พอร์ช พี่บอกว่าเดี๋ยวไปตรวจกับหมอผู้หญิงไง”พายยื้อตัวเมื่อถูกลากเข้ามาในห้องที่มีเตียงตรวจ และมันคือห้องเดิมที่หมอพอร์ชเคยทำอะไรๆกับเธอไปในตอนนั้น เพราะตอนนี้เราย้ายกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลเดิมที่พอร์ชรับช่วงต่อจากพ่อเรียบร้อยแล้ว และก็เป็นช่วงที่ต้องตรวจร่างกายประจำปีอีกเหมือนเคย มันคงจะไม่ยุ่งยากอะไรเลยถ้าหมอพอร์ชยอมให้เธอไปตรวจกับหมอผู้หญิงคนอื่น ไม่ใช่พามาตรวจเองทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ตรวจภายในมานานแล้วด้วยซ้ำ “จะใครพอร์ชก็หวงครับ ขึ้นไปเลย” “ไม่เอา” “พี่พาย หรืออยากให้บังคับเหรอ” พอร์ชมองคนตัวเล็กแล้วดุออกมาเสียงเข้ม ปกติก็ไม่บังคับอะไรหรอก แล้วก็เลิกใจร้ายใส่มาตั้งแต่คบกันแล้วด้วย แต่พอเป็นเรื่องแบบนี้ทีไรพอร์ชก็เริ่มสวมวิญญาณตัวร้ายอีกครั้ง ส่วนพายก็ดื้อขึ้นมาอย่างที่ปกติไม่เคยทำเหมือนกัน “พอร์ช ไม่เอา” “กลัวโดนเอาคาเตียงตรวจเหมือนตอนนั้นเหรอครับ” “พอร์ช!” พายดุคนตัวโตเสียงดังก่อนจะตีไปที่แขนแกร่งแรงๆที่พูดอะไรน่าอายออกมา หมอพอร์ชยกนิ้วขึ้นมาทำท่าให้เงียบทั้งที่ข้างนอกก็ไม่ค่อยมีคนอยู่แล้วเนื่องจากเป็นเวลาของเวรบ่าย และทำให้ไม่ได้กลับบ้านกันสักทีก็เพราะมัวแต่เถียงกันอยู่
“ยินดีด้วยนะมึง” หมอคินเดินเข้ามาอวยพรเพื่อนอีกครั้งในงานเลี้ยงตอนเย็น งานช่วงเช้าผ่านไปอย่างราบรื่นและอบอุ่นเกินกว่าที่คาดไว้มาก อาจเพราะปัญหาทุกอย่างถูกพอร์ชคลี่คลายไปตั้งแต่ก่อนแต่งงานหมดแล้ว แถมยังคืนดีกับพ่อตัวเองจนได้มาร่วมงานได้อย่างชื่นมื่นอีกด้วย แม้ทั้งสองคนจะไม่อยากเชิญคนมาร่วมงานเยอะ แต่แค่คนรู้จักและสนิทสนมก็มากพอจนเกือบเต็มห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมแล้ว “อือ รอไปงานมึงกับพี่สาวคนนั้นอยู่นะ” พอร์ชแซวกลับเพื่อนที่ดูอารมณ์ดีมากกว่าทุกวัน และคาดว่าคงเป็นเพราะพี่สาวคนสวยที่มันตามดูแลอยู่แน่ๆ ทำเอาอนาคินที่ร้อนตัวรีบบ่นออกมาทันที “เลิกแซวกูสักวันเถอะขอร้อง” “เห็นเดินตามต้อยๆละสงสาร ขอให้พี่เค้ารับรักไวๆนะมึง” “หุบปากเถอะมึงอ่ะ ยืนทำตัวเป็นเจ้าบ่าวเฉยๆก็พอเดี๋ยวกูทุบเลย” อนาคินยกมือขึ้นมาขู่เพื่อนที่ยืนขำอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปหาเจ้าสาวคนสวยที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆแล้วชมออกมา “พี่พาย ยินดีด้วยนะครับวันนี้สวยสุดๆเลย” “ขอบคุณค่ะหมอคิน” “ไปได้แล้วอย่ามองเยอะ กูหวง” พอร์ชโอบไหล่พายเข้ามากอดก่อนจะส่งสายตาดุๆให้เพื่อนจนโดนเขม่นกลับมาทันที “แหม่ ไอ้คนขี้หวง” “อย่าทำแบบนั้นก
“ขอคุยด้วยหน่อยสิ ไม่นานหรอก” คนเป็นพ่อบอกอย่างไม่ถือสาท่าทางแข็งกระด้างและแววตาระแวดระวังของลูก ที่ผ่านมาไม่เคยคุยกันดีๆสักครั้งพอร์ชจะไม่ไว้ใจก็ไม่แปลก พอพูดจบก็เดินไปรอที่ใต้ต้นไม้ใหญ่อีกฝั่งของรั้วบ้าน พอร์ชเดินกลับไปบอกให้พายเอารถเข้าบ้านไปก่อนโดยไม่คิดจะให้ลงมาทักทายพ่อตัวเองสักนิด เพราะพายคือคนที่เค้าต้องปกป้องให้ห่างจากพ่อตัวเองที่สุดแล้ว ร่างสูงเดินกลับมาหาพ่อที่ยืนมองแล้วรีบถามธุระทันที “มีอะไรครับ”“ฉันไม่ได้มาขัดขวางหรือขอร้องอะไรแบบที่แกคิดหรอก ไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้”พีรพัฒน์บอกพลางขำออกมาอย่างจนใจที่ถูกระแวงมากซะจนเกือบพูดไม่ออก และพอรู้แบบนั้นพอร์ชเลยถอนหายใจออกมาก่อนจะถามในสิ่งที่อยากรู้มาตลอด “สบายดีใช่มั้ยครับ” “หึ นี่แกห่วงฉันด้วยเหรอ” “เปล่าครับ ผมถามตามมารยาท”พอถูกจ้องด้วยรอยยิ้มล้อเลียนพอร์ชก็แถด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยเหมือนเดิม ทำเอาคนเป็นพ่อบ่นออกมาอย่างปลงๆเพราะไม่ได้คาดหวังท่าทีดีๆจากลูกอยู่แล้ว “เหอะ แกนี่ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ ช่างเถอะฉันไม่ได้มาเพราะอยากฟังอะไรแบบนั้นสักหน่อย ได้ข่าวว่าจะแต่งงานแล้วนี่” “ใครบอกครับ” “คิดว่าฉันจะไม่รู้เหรอว่าแกทำอะไรท
“แม่คะ…” พายส่งเสียงเรียกคนเป็นแม่ที่นั่งเล่นตรงสวนอย่างระมัดระวัง เพราะแม่เธอมักจะตกใจและกลัวเวลามีใครเข้ามาหาแบบกะทันหัน แต่แปลกที่วันนี้คนเป็นแม่กลับหันมายิ้มให้แล้วทักทายด้วยความสดใส “อ้าว ลูกสาวมาแล้วเหรอ” สรรพนามที่ใช้เรียกแทบทุกคนที่เป็นผู้หญิงไม่ได้ทำให้พายดีใจเหมือนตอนแรกอีกแล้ว เพราะพอรู้ว่าแม่ยึดติดกับการเรียกเธอในความทรงจำเก่า จนเรียกคนอื่นด้วยแบบนั้นไม่ได้หมายถึงว่าแม่จำเธอได้ แต่แค่มีความทรงจำนั้นอยู่ในหัวต่างหาก สุดท้ายแม่ก็ไม่เคยจำเธอตอนนี้ได้อยู่ดี พายส่งยิ้มให้แม่ที่เดี๋ยวนี้ได้เจอกันบ่อยขึ้นเพราะกลับมาอยู่ใกล้ๆ และตั้งใจจะพาพอร์ชมาหาเพื่อให้แม่ได้เห็นหน้าไว้บ้างก่อนที่จะพาไปอยู่ด้วยกันจริงๆ ถึงจะไม่รู้ว่าจะช่วยได้หรือเปล่าก็เถอะ “นี่พอร์ชค่ะแม่ คนที่พายจะแต่งงานด้วย” พายดึงพอร์ชมายืนข้างๆก่อนจะแนะนำอีกคนให้แม่รู้จัก และพอร์ชเองก็ยกมือไหว้ทักทายอย่างนอบน้อม แต่ก็ระวังไม่เข้าไปใกล้มากกว่าเดิมนักเพราะกลัวอีกคนจะตกใจ และน่าแปลกที่วันนี้คนป่วยที่เคยเหม่อลอยทั้งวันกลับมีแต่รอยยิ้มสดใสอย่างที่พายไม่เคยเห็นมานานมากแล้ว แถมยังลุกเดินเข้ามาหาพลางจับตัวพอร์ชแล้วเอ่ยชมออ
“นี่บ้านพอร์ชจริงๆเหรอ” พายถามพลางเบิกตาโตอย่างตื่นเต้นและไม่อยากเชื่อ บ้านหลังโตโทนสีขาวเทาสไตล์ยุโรปมีสวนดอกไม้หลากสีอยู่ด้านหน้า มองเลยไปด้านหลังมีชายหาดที่ไม่ห่างจากทะเลมากนัก มันสวยเหมือนกับบ้านในฝันที่เธอเคยบอกพอร์ชเลย ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าอีกคนจะถามไปทำไมเพราะพายก็บอกไปแล้วว่าบ้านของเธอก็อยู่ได้สบาย แต่พอร์ชก็บอกว่าแค่อยากรู้เท่านั้น ไม่คิดว่าย้ายมาทำงานที่นี่ได้แค่ครึ่งปีพอร์ชก็สร้างมันเสร็จซะแล้ว อีกอย่างที่ทึ่งกว่าคือที่ดินที่สร้างบ้านหลังนี้นี่แหละ ราคามันน่าจะแพงมากจนไม่กล้าคิดถึงเลยเพราะที่ดินติดทะเลแบบนี้ในชลบุรีไม่ได้หาง่ายๆ “ไม่ใช่ครับ นี่บ้านเราสองคนต่างหาก” พอร์ชแก้พลางจับมือบางมากุมไว้แน่น บนใบหน้าเจือด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาเพราะมีความสุขมากๆที่ทำบ้านหลังนี้เสร็จแล้ว มันคือสิ่งที่พอร์ชแอบทำมานานมากเพื่อจะเอาไว้เป็นของขวัญให้คนรัก พอความตั้งใจมันสำเร็จก็อดจะภูมิใจไม่ได้จริงๆ ยิ่งเห็นว่าพายตื่นเต้นและมองมันด้วยความชื่นชมขนาดไหน ใจก็ยิ่งพองฟูอีกหลายเท่า “เป็นไปได้ยังไง มันน่าจะแพงมากเลยนะ” “พอร์ชแอบมาสร้างไว้นานแล้วครับ ตั้งแต่ที่รู้ว่าบ้านพี่อยู่ที่นี่พอร์ชก็มาหาที่ไว
ปั้ก ปั้ก ปั้ก “ฮึก อ๊า พอร์ช เบาๆ” พายกอดคอหนาเอาไว้แน่น ตัวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกถี่ยิบจนครวญครางออกมาไม่หยุด ร่างสูงกอดรัดคนตัวเล็กไว้แน่นขณะที่ตอกอัดเน้นหนักด้วยความหึงหวงที่ล้นในอก หวงมากจนอยากตอกตรึงความเป็นเจ้าของเข้าไปให้ลึกที่สุด ให้ทุกส่วนของร่างกายคนตัวเล็กจดจำได้แค่เจ้าของคนเดียว คนที่จะทำให้พายสุขสมได้มีแค่เค้าคนเดียวเท่านั้น “อย่าพูดถึงมันถ้าไม่อยากให้มันว่างงาน อ่า” “มะ อ๊า ไม่ได้นะ เค้าไม่ได้ผิดอะไร อ๊ะ” พายห้ามออกมา แม้จะแทบพูดไม่รู้เรื่องเพราะโดนกระแทกหนักหน่วง กลัวว่าพอร์ชจะโกรธจนไปหาเรื่องไล่คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวออกจากงานเข้า ถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงรู้สึกผิดแย่ “มันผิดที่มาจีบพี่ พี่เป็นของพอร์ชนะ” “พะ พอร์ชเบาๆ อ๊า พี่จะไม่ยุ่งกับเค้านะ” “อย่าเรียกมันให้ได้ยินอีก ไม่ชอบ” พอร์ชกระตุกยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดที่น่าพอใจ ก่อนจะสั่งออกมาและตอกเข้าไปเน้นๆย้ำๆที่ละครั้ง จนร่างบางกระตุกสั่นตาลอย ปั้ก “ฮึก อ๊าา” “บอกมาว่าพี่เป็นของใครครับ” ปั้ก “อ๊ะ พะ อื้อ พอร์ช” “ของใครครับ” ปั้ก ปั้ก “พะ พอร์ช อ๊า” “ใครเป็นผัวพี่” “พอร์ช อ๊าาาา” พายหวีดครางออกมาเสียงหลงเมื
“พอร์ช เดี๋ยวสิ” พายยื้อตัวไว้เมื่อถูกคนตัวสูงดึงให้เดินตามจนแทบสับขาไม่ทัน ตั้งแต่ที่เข้าไปในร้านแล้วทำทุกคนอึ้งกริบไปทั้งโต๊ะ พอร์ชก็ขอตัวพาพายกลับบ้านอ้างว่ามีเข้าเวรตอนเช้าต่อ พายเลยหลุดจากสถานการณ์น่าอึดอัดตรงนั้นมาได้ ถึงจะรู้ว่าถ้าไปทำงานเมื่อไหร่ต้องโดนซักไม่หยุดแน่ๆก็ตาม แล้วถึงจะรอดจากตรงนั้นมาได้ พายก็ยังต้องมาเผชิญกับพอร์ชในเวอร์ชั่นที่ไม่ได้เห็นมานานอีกด้วย ใบหน้าที่ดูดุดันขึ้นมากับความนิ่งเงียบที่ทำเอาพายใจคอไม่ดีเลยสักนิด ตลอดทางกลับบ้านพอร์ชเอาแต่พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ถามคำตอบคำจนไม่รู้จะชวนคุยยังไงเลยได้แต่เงียบตาม ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพอร์ชหงุดหงิดเรื่องอะไร จนมาถึงบ้านเธอก็โดนดึงมือให้เดินตามเข้ามาแล้วดันเข้าไปชิดผนังทันที พอร์ชกักคนตัวเล็กเอาไว้ด้วยแขนสองข้าง ใช้มือหนาทุบลงไปที่ผนังอย่างหงุดหงิดไม่หาย ก่อนจะซบหน้าลงไปที่ไหล่เล็กแล้วบ่นออกมาทั้งที่รู้ว่าพายไม่ได้ผิดอะไรเลย ถ้าจะผิดก็คงเป็นเพราะสวยสะดุดตาเกินไปจนต้องคอยตามหวงแทบบ้าแบบนี้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เป็นแบบนี้ตลอดเลย“ไอ้หน้าหม้อนั่น ทำไมต้องมายุ่งกับพี่วะ” “พอร์ช ใจเย็นๆสิเค้าไม่รู้นี่นา” “เย็นไม่ไหวแล้ว ไฟจะ
‘นี่พอร์ชส่งคนมาตามเราเหรอ แล้วที่พี่ชายเราโดนจับไปก็ฝีมือพอร์ชด้วยใช่มั้ย ทำแบบนี้ทำไม’ “นั่นสิ เราก็เคยถามบีแบบนั้นเนอะ” พอร์ชถามกลับอย่างใจเย็นพลางยิ้มเยาะอย่างสะใจ จนหมอบีที่อยู่ปลายสายตะคอกเสียงดังอย่างโมโห ‘พอร์ช!’ “ทำไม พอตัวเองโดนรังควานบ้างก็โกรธขึ้นมาเหรอ ความลับสำคัญซะด้วยทำไงดีล่ะทีนี้ ลูกสาวคนเล็กที่เป็นหมอคนเก่งแอบเลี้ยงผู้ชายไว้เล่นสนุกตั้งหลายคน แถมยังเคยไปทำแท้งที่ต่างประเทศ ลูกชายคนโตติดยาแถมยังเป็นผู้ค้ารายใหญ่ที่ติดสินบนไปทั่ว ลูกชายคนกลางก็ชอบหลอกผู้เยาว์มาถ่ายคลิปแล้วขายในเว็บเถื่อน บริษัทก็กำลังจะล่มจมในอีกไม่นานเพราะผู้บริหารห่วยแตกมัวแต่ติดผู้หญิง ส่วนคนเป็นแม่ก็เป็นซึมเศร้าเพราะรับสภาพครอบครัวไม่ได้ นี่มันครอบครัวแสนสุขชัดๆเลยว่ามั้ย พ่อเราไม่รู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงนะ” พอร์ชร่ายยาวถึงความเน่าเฟะของครอบครัวนี้จนหมดเปลือก รู้สึกโชคดีขึ้นมาที่เลือกจะไม่ทำตามใจพ่อ ไม่งั้นคงได้พากันลงเหวหมดแน่ๆ ‘ทำไมทำกับเราแบบนี้ ฮึก เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานนะพอร์ช’ “ก็ถ้าบีเป็นเพื่อนที่ดีจะโดนแบบนี้เหรอ ตอนที่เราบอกว่าอย่ายุ่งแล้วทำไมไม่ฟังกันล่ะบี” ‘แต่เรารักพอร์ชนะ ฮ