LOGINคอนโดไมเนอร์
แกร็ก! แอดด ไมเนอร์ใช้เท้าดันประตูให้ปิด เขาอุ้มคนตัวเล็กตรงไปยังห้องนอนทันที คอนโดแห่งนี้เขาซื้อไว้เพื่อพาสาว ๆ มาสนองความต้องการของตัวเองเท่านั้น ส่วนคอนโดอีกที่จะเป็นพื้นที่ส่วนตัวเขา ไมเนอร์ไม่ชอบให้ใครเข้าไปยุ่งเกี่ยว ตุ๊บ! “โคตรหนัก” เมื่อเข้ามาในห้องนอนได้เขาก็โยนเธอลงเตียงอย่างแรง โดยไม่สนว่าหญิงสาวจะเจ็บหรือไม่ ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงขอบเตียงพลางใช้สายตาไล่มองสัดส่วนคนเมา “ซ่อนรูปใช้ได้” ถือว่าฝันดีเป็นคนที่หุ่นสวยซ่อนรูป ชุดกระโปรงเธอมันถลกขึ้นสูงทำให้เห็นขาขาวที่พ้นเนื้อผ้าออกมา ไมเนอร์กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แต่ในจังหวะนั้นเอง.. “อึก แหวะ!!” แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปพุ่งออกมาเลอะที่นอน ไม่พอยังกระเซ็นมาโดนตัวเขาอีกด้วย ไมเนอร์ชะงักไปก่อนที่เขาจะ.. “อ๊ากก!!” “อ้วกเลอะ~” “เธอรู้ไหมว่าเสื้อตัวนี้มันราคาเท่าไหร่!” เขาถามคนเมาด้วยความโกธรจัด แต่มีหรืออีกคนจะสนใจ ฝันดีทนรำคาญเสียงรบกวนไม่ไหวเธอจึงหมุนตัวพลิกไปอีกฝั่ง “...~” แล้วหลับต่อ “นี่เธอยังหลับต่อได้อีกเหรอวะ” เหลือเชื่อจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้ ไม่คิดจะตื่นมารับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองทำหน่อยเหรอ เขาโมโหทำอะไรอีกคนไม่ได้จึงตัดสินใจดันตัวลุกขึ้นแล้วอ้อมไปอีกฝั่งที่มีหญิงสาวนอนอยู่ “ฉันจะทำให้เธอหายเมาเอง” เขาว่าก่อนจะอุ้มเธอขึ้นอีกครั้งแล้วตรงไปทางห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว ทันทีที่เข้ามาเขาก็ปล่อยเธอให้นอนราบไปกับพื้นเย็นเฉียบ ส่วนตัวเองก็รีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่เปื้อนอ้วกเธอโยนทิ้งไป กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งตัวเขามีเพียงกางเกงตัวเดียวเผยให้เห็นรอยสักนกฟินิกซ์ที่แขนและกวางที่เธออยากเห็นนักเห็นหนา แม้ตอนนี้กวางจะไม่โผล่หัวออกมาก็ตาม และรอยสักพวกนี้ก็เป็นน้องชายเขาที่สักให้เองกับมือ “ผ้าห่ม” ฝันดีใช้เท้าพยายามเขี่ยหาผ้าห่มเพื่อจะดึงขึ้นมาคลุมตัว เธอจะรู้ไหมว่าตัวเองนั้นไม่ได้นอนอยู่บนเตียง แต่เป็นพื้นห้องน้ำ “มีแต่เนื้อห่มเนื้อเอาไหม” “นะ หนาว” “ยังไม่ถอดจะรีบหนาวไปไหนวะ” ไมเนอร์ย่อตัวลงนั่ง เขาเอื้อมมือไปถอดเสื้อผ้าให้คนตัวเล็กกระทั่งเหลือแค่อันเดอร์แวร์และบราเซียลายลูกไม้ที่ปกปิดส่วนลับเอาไว้ ดวงตาคมกริบนิ่งไปทันทีเมื่อได้เห็นมันอย่างชัดเจน “แม่ง” เขาไม่รู้จะพูดคำไหนเลยตอนนี้นอกจากคำว่าสวย มันสวยไร้ที่ติไปหมดทุกสัดส่วนบนร่างกายของเธอ ทว่าอยู่ ๆ เขาก็นึกเรื่องสนุกขึ้นได้ มุมปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ไมเนอร์หลุบตามองคนเมาก่อนจะช้อนตัวเธอขึ้นแล้วเดินออกจากห้องนอนไป “เล่นน้ำกันดีกว่า” ทันทีที่พูดจบประโยค เขาก็.. ตู้ม!! คนตัวโตเหวี่ยงหญิงสาวลงสระน้ำส่วนตัวพลางกระตุกยิ้มพอใจ ทั้งคอนโดมีเพียงห้องเขาห้องเดียวเท่านั้นที่มีสระส่วนตัว ฝันดีจากที่เมา ๆ เป็นต้องดิ้นกระเสือกกระสนอยู่ในน้ำพร้อมกับร้องให้คนช่วย “ชะ ช่วย” เธอมองเห็นลาง ๆ ว่ามีคนยืนอยู่ขอบสระ แต่มองเท่าไหร่ก็มองไม่ชัด “หายเมายัง” “ฉะ ฉันว่ายน้ำไม่เป็น” ไมเนอร์ยังคงนิ่ง เขาทำเพียงมองอีกคนพยายามจะขึ้นฝั่งให้ได้ “....” แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อฝันดีนิ่งไปพร้อมกับค่อย ๆ จมดิ่งลงไปยังก้นสระ ไมเนอร์ไม่รอช้าที่จะกระโดดลงไปช่วยเธอ ตู้ม!! มือหนาคว้าเข้าที่ตัวของเธอแล้วพาลอยขึ้นเหนือน้ำ เขามองคนตัวเล็กที่นิ่งไป ร่างสูงพยายามเรียกสติเธอให้ตื่น “ฝันดี” มือหยาบตบเข้าที่แก้มเนียนแดงนั้นเบา ๆ “แค่ก! แค่ก!” ดีที่เขาไม่ปล่อยให้เธอจมน้ำนาน มันแค่แป๊บเดียวเท่านั้น “ฟู่วว” ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าจะงานเข้าซะแล้ว แค่อยากแกล้งนิดหน่อยเอง เกือบได้เป็นฆาตกรแล้วเขา “....” ฝันดีมองหน้าอีกคนตาไม่กระพริบ เพราะตอนนี้เขากำลังโอบกอดเธออยู่กลางสระ เมื่อรู้ตัวเธอก็ผลักเขาออกด้วยความตกใจ แต่แล้วก็ต้องคว้าหมับเข้าที่แขนแกร่งแล้วโอบกอดลำคอเขาไว้อีกครั้ง แม้จะเมาแค่ไหนแต่ก็พอมีสติอยู่บ้าง “กะ กลัว” “แล้วจะผลักออกทำไมวะ” ผลักเขาออกแต่เธอก็กลับมากอดเขาเหมือนเดิม งงนะ “คะ คุณฉันกลัว” เพราะเหตุการณ์บางอย่างมันแล่นเข้ามาทำให้เธอไม่กล้าลืมตามอง ไมเนอร์ยืนนิ่งปล่อยให้อีกคนกระชับกอดตัวเองแน่น “เธอกลัวอะไร” “พาฉันไปจากตรงนี้ได้ไหม ฮึก~” ดวงตาคู่สวยแดงก่ำทั้งสองข้าง เธอกลัวจนตัวสั่นไปหมด เพราะความอยากรู้ทำให้ไมเนอร์ไม่ยอมทำตาม เขาอยากรู้ว่าเธอนั้นกลัวอะไรนักหนากับอีแค่สระน้ำ “มองตาฉันสิ” ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากทำให้เธอลืมมันไป ทั้งที่ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไรเธอถึงกลัวมันขนาดนั้น “..ฮึก!” จากความเมาแปรเปลี่ยนเป็นความกลัว ยิ่งเขาแกะมือเธอออก ฝันดีก็ยิ่งกระชับกอดมากขึ้น “ฝันดี มองหน้าฉัน” “ฮึก กะ..กลัว” “ฟัง แล้วมองหน้าฉัน” เขาใช้มือข้างหนึ่งจับหน้าเธอให้เงยขึ้นสบตา แววตาฝันดีสั่นระริกเหมือนว่าเธอนั้นกลัวน้ำมากแค่ไหน “ไม่ต้องกลัว” “ฉะ ฉันเกลียดมัน” “ฉันขอโทษที่แกล้ง” “ฮึก!” “ฉันไม่รู้นะว่าเธอมีปมอะไรในใจหรือเปล่า ฉันอยากให้เธอลองเผชิญกับมันดูสักครั้ง” เพราะเขาเข้าใจดีว่าการกลัวอะไรสักอย่างมันทรมานแค่ไหน พอได้สบตากับหญิงสาวชัด ๆ ใบหน้าของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม “...” ไมเนอร์ชะงักไปทันที เขาเผลอสบตาเธออยู่นานจนเป็นฝันดีที่เรียกเขา “คะ คุณ” “ขะ ขอโทษที” ท่าทีของไมเนอร์เปลี่ยนไปอย่างน่าแปลกใจ เขาดูนิ่งและเฉยชามากกว่าเดิม “ฉันอยากขึ้นแล้ว” “อะ อืม” “อ๊ะ ดะ..เดี๋ยว” เธอเพิ่งสังเกตว่าตัวเองนั้นไม่ได้สวมเสื้อผ้า มีเพียงบราเซียและอันเดอร์แวร์เท่านั้นที่ปกปิดส่วนลับตัวเอง “อะไร?” “คุณถอดชุดฉันออกเหรอ” “มันเปื้อนอ้วก” “จะ จริงเหรอ” “อืม เหม็นมาก” “ขอโทษนะ” “ช่างมันเถอะ” เขาไม่อยากติดใจอะไรแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยให้แม่บ้านมาทำความสะอาด เขาคงต้องไปนอนอีกห้องแทน ดีที่มันมีห้องนอนสองห้องเลยไม่ลำบากเท่าไหร่ ระหว่างที่เขากำลังพาเธอขึ้นจากน้ำ มือที่จับตัวเธออยู่ดันไปโดนตะขอยกทรงทำให้มันหลุดจนหน้าอกอวบอิ่มเด้งสู่สายตาให้เขาได้เชยชม “อร๊ายย” ฝันดีร้องขึ้นด้วยความตกใจ แม้จะตกใจสักแค่ไหนเธอก็ไม่กล้าปล่อยมือไปจากลำคอแกร่ง กลายเป็นว่าตอนนี้หน้าอกเธอและเขาแนบชิดกันอย่างเนื้อแนบเนื้อ และแล้วสิ่งที่มันกำลังหลับใหลก็ค่อย ๆ ตื่นตัวขึ้นมาจนคับแน่นกางเกงคอนโดไมเนอร์ร่างสูงเปิดประตูลงจากรถ พร้อมกับเดินอ้อมไปเปิดฝั่งที่หญิงสาวนั่งอยู่ ฝันดีนั่งกอดอกตัวเองไม่ยอมลงแต่อย่างใด ทำให้ไมเนอร์เริ่มหงุดหงิดกระชากตัวเธอลงจากรถอย่างแรง หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวจึงล้มลงไปที่พื้นจนเข่าเธอกระแทกไปกับพื้นปูนทำให้ถลอกแล้วมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย“อ๊ะ!” ปากเล็กร้องออกมาด้วยความรู้เจ็บจี๊ดบริเวณหัวเข่า เธอเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่เอาแต่นิ่งมองมายังเธอเช่นเดียวกันก่อนที่เขาจะเอ่ย“จะเลิกอวดดีได้หรือยัง” เขาถามโดยไม่สนว่าตอนนี้เธอกำลังเจ็บอยู่หรือเปล่า“แล้วคุณเป็นบ้าอะไรลากฉันมาด้วย!” ฝันดีเองก็เริ่มจะหมดความอดทนกับผู้ชายคนนี้แล้วเหมือนกัน ไม่เข้าใจว่าเขาจะลากเธอมาด้วยทำไม“ลากมาสั่งสอนไง สั่งสอนให้รู้ว่าอย่าอวดเก่งกับฉัน” เขาเอ่ยเสียงเย็น เธอพยศใส่เขาเกินไป อายุเขาและเธอก็ห่างกันพอสมควรแต่หญิงสาวกลับทำตัวปีนเกลียวไม่เลิก“อย่าลืมสิว่าคุณกับฉันไม่ได้เป็นอะไรกัน อีกอย่างเรื่องคืนนั้นฉันก็แค่อยากลองเฉย ๆ ไม่ได้อยากจริงจังด้วยสักหน่อย การที่คุณทำแบบนี้ มันเหมือนว่าคุณนั่นแหละที่ติดใจฉัน” แม้จะเจ็บสักแค่ไหนแต่เธอก็จะไม่ทำตัวอ่อนแอต่อหน้าผู้ชายคนนี้เด็ดขาด คนอย่างเ
คนตัวเล็กเดินตรงไปยังสถานที่หนึ่ง ในมือมีช่อดอกไม้ที่เธอมักซื้อติดมือมาทุกครั้งที่มาที่นี่ เดินไปเรื่อย ๆ กระทั่งถึงเจดีย์ใส่อัฐิพ่อของเธอ..“เป็นยังไงบ้างคะ สบายดีไหม” เอ่ยถามเสียงเบาหวิวพลางยื่นมือสัมผัสรูปที่แปะติดอยู่หน้าเจดีย์อัฐิอย่างเบามือ ดวงตาสองข้างเริ่มแดงก่ำ ฝันดีจะลางานมาหาพ่อของเธอในทุก ๆ ปี จนมันกลายเป็นวันหยุดประจำตัวของเธอไปแล้ว“...”“คิดถึงหนูกับแม่ไหม”“...”“ทำไมหนูคิดถึงพ่อจังเลย ฮึก~” เธอก้มหน้าปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา แม้จะเข้มแข็งสักแค่ไหนก็ใช่ว่าเธอจะไม่มีมุมอ่อนแอเหมือนคนอื่น เธอมันพวกแข็งนอกอ่อนในต่างหาก“....”“ยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะ” คิดถึงรอยยิ้มของพ่อที่เคยยิ้มให้ คิดถึงอ้อมกอดที่เคยได้รับ คิดถึงคำสอนที่พ่อเคยบอกเอาไว้ คิดถึงทุกอย่างที่เป็นท่าน“...”“หนูกลัว~ ฮึก!” ตั้งแต่สูญเสียพ่อไปฝันดีก็กลายเป็นคนขี้กลัวโดยไปเลย ไม่ใช้กลัวอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่เธอกลัวการสูญเสียคนที่รักไปอีกครั้ง เธอคงทำใจไม่ได้หากแม่ต้องจากไปอีกคน ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอนาคตชีวิตจะเป็นยังไง วันนี้อาจนั่งคุยกันอย่างมีความสุข พรุ่งนี้เขาอาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้ใครจะรู้ ทุกคนมองว่าเธอเป็นผู้
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“แกนะแก ถ้าเป็นแบบนี้อีกฉันจะทุบให้หลังหักเลยคอยดู” ใยไหมบ่นให้เพื่อนตัวดีที่หายไปโดยไม่บอกไม่กล่าว เธอก็เป็นห่วงแทบตายกลัวคนจะหลอกเพื่อนไปฆ่า ฝันดีเพิ่งติดต่อเธอกลับวันที่ไปเที่ยวทะเล แล้วนี่ก็เป็นวันแรกที่หญิงสาวกลับมาทำงานตามปกติ เลยต้องมานั่งฟังเพื่อนใยไหมบ่นอยู่แบบนี้กลางศูนย์อาหารในบริษัท“ขอโทษ”“ต่อไปนี้จะไม่พาไปเที่ยวอีกแล้วถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันก็เป็นห่วงแทบตาย” ถ้าแม่ฝันดีไม่บอกก่อนว่าเจอเพื่อนแล้วเธอจะไปแจ้งความจริง ๆ“ฉันก็กลับมาแล้วไง ไม่เป็นอะไรด้วยเห็นไหม”“ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก”“อย่าบ่นเยอะสิตีนกาขึ้นเลยเห็นไหมน่ะ” ตอนนี้เป็นเวลาพักกลางวัน ทั้งสองไม่ได้ออกไปทานข้าวข้างนอกแต่ลงมานั่งทานที่ศูนย์อาหาร วันนี้รู้สึกว่าคนเยอะแปลก ๆ ทั้งที่ปกติคนชอบออกไปข้างนอกกันมากกว่าเพราะอาหารที่บริษัทรู้สึกว่าจะไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ คนเลยไม่นิยมมาทานกัน แต่วันนี้เหมือนว่าทุกคนจะอยู่กันเยอะกว่าทุกวันซึ่งไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่แล้วทั้งสองก็ต้องเงียบแล้วหันมองไปยังเสียงเอะอะโวยวายที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ“เขามุงดูอะไรกัน” ใยไหมหรี่ตามองกลุ่มสาว ๆ ที่ยืนชะเง้อเหมือนกำล
เขากระชากคนตัวเล็กเข้าหาอย่างแรง ไมเนอร์ไม่พอใจอย่างยิ่งที่เธอปากเก่งกล้าพยศใส่เขา ผู้หญิงกี่คนต่อกี่คนไม่มีใครกล้าเดินหนี ถือว่าเธอกล้ามากที่ทำมัน แบบนี้ต้องสั่งสอนให้หลาบจำ ทั้งที่ได้เขาเป็นผัวแต่เธอยังกล้าทำตัวกระหายผู้ชายไม่เลิก“คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉัน”“ทำไม หรือฉันทำให้ไม่ถึงใจถึงได้วิ่งตามผู้ชายมาถึงที่นี่”“ทุเรศ” เธอพ่นคำด่าหยาบคายใส่หน้าเข้าเต็ม ๆ“ว่าไงนะ?”“คุณมันทุเรศที่สุด”“จะด่าอะไรก็ระวังปากหน่อย อีกอย่างเรื่องเมื่อคืนฉันก็ไม่ได้เป็นคนร้องขอนะอย่าลืม” เธออนุญาตให้เขาทำเอง เขาไม่ผิดสักหน่อย ไหน ๆ ก็เคยได้แล้วถ้าได้อีกครั้งคงไม่เป็นไรหรอกมั้งว่าไหม?“ฉันไม่น่าพลาดให้คุณเลย”“อันนั้นฉันก็ช่วยไม่ได้” เขาตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ เธอเสนอเขาก็แค่สนอง วิน ๆ กันทั้งคู่“ปล่อย” ฝันดีพยายามบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของอีกคน“ไหน ๆ ก็เจอแล้วฉันว่าเรา..”“ไปตายซะ”“เหอะ!” ไมเนอร์ดันลิ้นเข้าหากระพุ้งแก้มด้วยความหงุดหงิด เธอกำลังทำให้เขาหมดความอดทน ไปตายงั้นเหรอ..“ปล่อย”“....”“ฉันบอกให้ปล่อยไง!”“เพ้อเจ้ออะไรอยู่”“จะไม่ปล่อยใช่ไหม”“เธอเป็นใครทำไมฉันต้องเชื่อฟัง” ไมเนอร์ลอยห
ขวับ! ทั้งไมเนอร์และฝันดีหันขวับไปมองยังที่มาของเสียงอย่างพร้อมเพรียง ร่างสูงของใครบางคนเดินยิ้มมาหยุดตรงหน้าคนตัวเล็ก ซึ่งเป็นคนที่เธอนั้นรู้จักเป็นอย่างดี ส่วนไมเนอร์นั้น...มันเป็นใคร?“คุณแผ่นดิน?” เสียงหวานเอ่ยเรียกคนมาใหม่ด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าจะมาเจออีกคนที่นี่ แม้จะอดสงสัยไม่ได้แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป“มาคุณอะไรกัน” แผ่นดินดีดนิ้วลงที่หน้าผากมนเบา ๆ อย่างไม่แรงนัก บอกหลายครั้งแล้วแต่เธอก็ไม่เคยจำว่าอยู่ข้างนอกให้เรียกเขายังไง“แหะ~ พี่แผ่นดิน” แผ่นดินเคยบอกกับเธอไว้ตั้งเจอกันช่วงแรก ๆ เขาขอให้เธอเรียกพี่แทนเรียกคุณ ฝันดีได้ยินแบบนั้นก็ปฏิเสธทันที แผ่นดินคือเพื่อนสนิทของฟินิกซ์ คนที่เป็นถึงประธานบริษัทเจ้านายเธอเลยนะ จะให้มาเรียกเหมือนคนสนิทกันมันคงจะเป็นไปไม่ได้ แผ่นดินเห็นหญิงสาวมีท่าทีลำบากใจจึงยื่นข้อเสนอใหม่ให้นั่นก็คือ.. เวลาอยู่ข้างนอกให้เรียกเขาพี่ตามที่บอกไปตอนแรก ส่วนคุณให้เรียกเฉพาะตอนที่อยู่ในที่ทำงานเท่านั้น ฝันดีคิดจะค้านแต่สุดท้ายก็ต้องรับปากในที่สุดเมื่อเขาใช้ไม้เด็ด“แล้วนี่มาเที่ยวเหรอ” เขามองดูเธอก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับรอยแดงบริเวณลำคอหญิงสาว แม้มัน
วันต่อมา “นี่ค่ารถค่ะ” ฉันยื่นค่าโดยสารให้ลุงคนขับ “ไม่เป็นไรยัยหนู ลุงไม่คิดเงิน” ได้ไงอะ จุดที่ฉันลงรถมาถึงที่พักไม่ใช่ใกล้ ๆ เลยนะ ฉันเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน ฉันพยายามยัดเงินใส่มือคุณลุงทว่าลุงแกก็ยังปฏิเสธเหมือนเดิม “ไม่ได้นะคะ” ค่าน้ำมันค่าเสียเวลาอีก แบบนี้ฉันไม่โอเคหรอกนะถ้าจะให้ฉันนั่งมาฟรี ๆ รู้แหละว่าคุณลุงคงไม่คิดอะไรมากแต่ฉันไม่ไง มันรู้สึกผิดยังไงไม่รู้ "ลุงเห็นว่าเราเป็นลูกกตัญญูพาแม่มาเที่ยว เอาไปเถอะบ้านลุงอยู่แถวนี้พอดี" "แต่คุณลุงคะ.." ทำไมถึงใจดีขนาดนี้ล่ะ "ลุงไปละ เที่ยวให้สนุกนะยัยหนู" ว่าจบลุงสามล้อก็ขับรถออกไปทันที ฉันกับแม่มองตามรถลุงไปจนสุดสายตาก่อนจะหันสบตากันนิ่ง "คุณลุงใจดีมากเลย" ฉันพูดขึ้นพลางเก็บเงินไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม "นั่นสิ" "เราเข้าไปเช็คอินกันเถอะ" ทุกอย่างมันปุ๊บปั๊บไปหมด แล้วโรมแรมนี้ว่างพอดีฉันเลยทำการจองทันที ฉันเข้าไปติดต่อพนักงานเพื่อเข้าพัก หลังจากชำระค่าอะไรเรียบร้อยก็เดินไปหาแม่ที่นั่งรออยู่ "ปะ" รับกระเป๋ามาถือพร้อมกับเดินไปขึ้นลิฟต์ โรมแรมที่ฉันมาพักมันก็ไม่ได้แย่นะทุกคนถือว่าดีเลยแหละ ทั้งวิวทั้งราคาทุกอย่างโอเคหมดเลย ระหว่างที







