LOGINขวับ! ทั้งไมเนอร์และฝันดีหันขวับไปมองยังที่มาของเสียงอย่างพร้อมเพรียง ร่างสูงของใครบางคนเดินยิ้มมาหยุดตรงหน้าคนตัวเล็ก ซึ่งเป็นคนที่เธอนั้นรู้จักเป็นอย่างดี ส่วนไมเนอร์นั้น...มันเป็นใคร?
“คุณแผ่นดิน?” เสียงหวานเอ่ยเรียกคนมาใหม่ด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าจะมาเจออีกคนที่นี่ แม้จะอดสงสัยไม่ได้แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป “มาคุณอะไรกัน” แผ่นดินดีดนิ้วลงที่หน้าผากมนเบา ๆ อย่างไม่แรงนัก บอกหลายครั้งแล้วแต่เธอก็ไม่เคยจำว่าอยู่ข้างนอกให้เรียกเขายังไง “แหะ~ พี่แผ่นดิน” แผ่นดินเคยบอกกับเธอไว้ตั้งเจอกันช่วงแรก ๆ เขาขอให้เธอเรียกพี่แทนเรียกคุณ ฝันดีได้ยินแบบนั้นก็ปฏิเสธทันที แผ่นดินคือเพื่อนสนิทของฟินิกซ์ คนที่เป็นถึงประธานบริษัทเจ้านายเธอเลยนะ จะให้มาเรียกเหมือนคนสนิทกันมันคงจะเป็นไปไม่ได้ แผ่นดินเห็นหญิงสาวมีท่าทีลำบากใจจึงยื่นข้อเสนอใหม่ให้นั่นก็คือ.. เวลาอยู่ข้างนอกให้เรียกเขาพี่ตามที่บอกไปตอนแรก ส่วนคุณให้เรียกเฉพาะตอนที่อยู่ในที่ทำงานเท่านั้น ฝันดีคิดจะค้านแต่สุดท้ายก็ต้องรับปากในที่สุดเมื่อเขาใช้ไม้เด็ด “แล้วนี่มาเที่ยวเหรอ” เขามองดูเธอก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับรอยแดงบริเวณลำคอหญิงสาว แม้มันจะถูกปกปิดด้วยคอนซีลเลอร์ตัวแพงก็ตาม แต่มันก็ไม่อาจหลุดพ้นสายตาเขาไปได้ แผ่นดินละสายตาจากรอยนั้นไปมองหน้าเธอแทน เขาทำเป็นไม่เห็นแล้วคุยตอบปกติ “ใช่ค่ะ ฝันมากับแม่” คนตัวเล็กตอบกลับใบหน้ายิ้มแย้ม “แล้วแม่ไปไหนล่ะ” พลางกวาดสายตามองหาแม่คนตัวเล็ก “แม่นอนพักอยู่โรมแรมค่ะ ฝันเบื่อ ๆ เลยออกมาเดินเล่น” “อ๋อ..แล้วกินอะไรหรือยัง” เขาเองก็เพิ่งมาถึง ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยถามดูเผื่อเธอยังไม่ได้กินจะได้ชวนไปด้วยกัน “ยังค่ะ รอช่วงค่ำจะพาแม่ไปหาอะไรเด็ด ๆ กิน” เห็นคนรีวิวร้านอาหารที่นี่เยอะมาก เธอจะพาแม่ตะลอนกินให้พุงแตกไปเลย “ถ้าฝันไม่ว่าอะไรพี่ขออาสาพาทัวร์ได้ไหม พี่รู้จักร้านเด็ด ๆ เยอะเลย” แผ่นดินอาสาที่จะพาคนตัวเล็กทัวร์หาของอร่อย ๆ กินระหว่างที่มาเที่ยว เขาชอบเวลาที่เธอกินที่สุด มันดูน่ารักมากสำหรับเขา “พี่แผ่นดินไม่ได้ทำงานเหรอคะ” เธอนึกว่าเขามาทำงานซะอีก แค่บังเอิญมาเจอกันเท่านั้น “พี่มาเที่ยว” จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เขามาเที่ยวนั่นแหละถูกแล้ว “แต่ฝันพาแม่มาด้วยนะคะ มันจะรบกวนพี่เปล่า ๆ” “ไปคิดแบบนั้นได้ยังไง พี่เต็มใจต่างหาก” “เอ่อ..” ฝันดีลำบากใจเล็กน้อย เธอเกรงใจคนตรงหน้าด้วยแหละ “ห้ามปฏิเสธพี่ด้วย” เขาบอกยิ้ม ๆ ทุกการกระทำของทั้งสองได้ตกอยู่ในสายตาของร่างสูงอีกคน ไม่รู้ทำไมเขาต้องรู้สึกไม่พอใจที่เห็นชายหนุ่มอีกคนเข้ามาวุ่นวายกับหญิงสาว ทั้งที่มันไม่เกี่ยวกับเขาเลยสักนิด ไมเนอร์ทำทียืนนิ่งรอดูปฏิกิริยาของทั้งสองว่าจะเป็นยังไงต่อไป “งั้นก็ได้ค่ะ” คลี่ยิ้มหวานจนตาหยี แล้วคำตอบของเธอเผลอทำใครบางคนร้อนรุ่มอยู่ในใจ มือหนากำเข้าหากันแน่นด้วยความหงุดหงิด ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม “เหอะ!” รอยยิ้มที่เธอส่งให้อีกคนทำเขาแค่นหัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน โดนเอาจนสลบยังกล้ามายืนยิ้มให้คนอื่นหน้าตาเฉย ไม่ละอายใจบ้างเลยหรือยังไง เขาตัดสินใจหมุนตัวเดินกลับห้องตัวเองไปในทันที ไม่อยากดูอะไรที่มันเกะกะสายตาสักเท่าไหร่ น่ารำคาญ และแล้วก็ถึงเวลาที่ทั้งสามจะออกไปตะลอนทัวร์หาร้านอาหารเด็ด ๆ โดยมีแผ่นดินอาสาเป็นไกด์นำทางให้กับทั้งสอง ฝันดีแนะนำชายหนุ่มให้กับแม่ตัวเองได้รู้จัก และเหมือนว่าทั้งสองจะเข้าขากันได้ดีด้วยสิ หญิงวัยกลางคนลอบมองชายหนุ่มที่ชวยคุยไม่หยุดตลอดทางด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เพลงพิณเลือกจะไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของหนุ่มสาว ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของเด็กไป เธอเป็นแม่ที่ทำได้เพียงเฝ้ามองลูกอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น ณ ร้านอาหารริมทะเล “เชิญนั่งครับคุณป้า” แผ่นดินดึงเกาอี้ออกเล็กน้อยเพื่อให้หญิงวัยกลางคนได้นั่ง เพลงพิณยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงพร้อมกับเอ่ยขอบคุณ “ขอบคุณจ้ะ” “อยากทานอะไรสั่งเลยนะครับผมขอเลี้ยงเอง” “ได้ไง พี่พาฝันกับแม่มาแล้ว ฝันขอเป็นเจ้ามือนะคะ” เขาอุส่าห์พามาทั้งยังแนะนำอะไรหลาย ๆ อย่างให้อีก เรื่องเลี้ยงข้าวปล่อยให้เป็นหน้าที่เธอเถอะ “แต่ว่า..” “ให้ฝันเลี้ยงนะคะ” “เอางั้นก็ได้ครับ” เขาตามใจเธอ เมื่อตกลงกันได้แผ่นดินจึงทำการสั่งอาหาร เขาเลือกเมนูที่เด็ดที่สุดของทางร้านมาให้ทั้งสองได้ลิ้มลอง แล้วมันดันถูกปากเพลงพิณและฝันดีจนเขารู้สึกปลื้มที่ทั้งสองชอบมัน หลังจากทานมื้อค่ำเสร็จเขาก็แนะนำร้านขนมหวานต่อทันที กินคาวแล้วต้องตบท้ายด้วยของหวานสิจะได้ล้างปาก แล้วแผ่นดินก็ยังรู้มาอีกว่าคนตัวเล็กนั้นกำลังมองหารถสักคัน เขาจึงแนะนำเธอให้ไปออกที่โชว์รูมเพื่อนของเขา ฝันดีเห็นว่าเป็นคนรู้จักของชายหนุ่มเธอจึงตอบตกลงที่จะให้เขาช่วยอีกครั้ง ไม่ว่าเธอจะเอ่ยอะไรออกมาเขาก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย หลังจากที่ทานกันจนอิ่มทั้งสามจึงกลับมายังที่พักตัวเอง เพลงพิณขอตัวเข้าห้องก่อน ปล่อยให้วัยรุ่นเขาคุยกันไป เธอไม่อยากเป็นก้างขวางคอ “เราดูไว้หรือยังว่าอยากได้รุ่นไหน” แผ่นดินเอ่ยถามขณะที่พวกเขานั่งเล่นอยู่ริมชายหาด “ที่คิดไว้ฝันอยากได้ตัวที่ราคาไม่แรงมากค่ะ” “ราคาไม่แรงเหรอ..” ชายหนุ่มทำท่าครุ่นคิดว่ารุ่นไหนที่มันไม่แรงบ้าง เพราะขึ้นชื่อว่ารถยนต์มันต้องหลักแสนอยู่แล้ว “แค่เอามาไว้ขับไปทำงานและพาแม่ไปเที่ยวเท่านั้นค่ะ ฝันเลยไม่อยากซื้ออะไรที่มันเกินตัว” เธอพูดโดยที่สายตาก็ทอดมองท้องทะเลที่มีแสงไฟจากเรือประมงจนดูสวยงาม แผ่นดินมองเสี้ยวใบหน้าหญิงสาวทำเขาชะงักไปเล็กน้อย มันไม่อาจละสายตาจากใบหน้าสวยนั้นได้เลย “เราดูรักแม่มากเลยนะ” กระทั่งเขาเอ่ยประโยคนี้ออกไป “ใช่ค่ะ ฝันมีแค่แม่ แม่ที่เป็นทุกอย่างให้กับฝันในตอนนี้” เธอเอ่ยพลางหันมายิ้มให้กับเขา ทว่า.. “เอ๊ะ!” คนตัวเล็กมองรอยสักบริเวณลำคออีกคนแววตาลุกวาวเหมือนกับว่ามันคือสิ่งแปลกใหม่อย่างไรอย่างนั้น “มีอะไรเหรอ” แผ่นดินเห็นว่าเธอเอาแต่จ้องที่คอของตนจึงเลื่อนมือไปจับดูว่ามีอะไรหรือเปล่า “พี่สักด้วยเหรอคะ” “อ่า.. ใช่ พี่ชอบ” “ผีเสื้อด้วย” รอยสักที่คอเขาเป็นรูปผีเสื้อสองตัวที่กำลังโบยบิน ซึ่งมันสวยมาก ๆ ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป “ทำไม ชอบเหรอ” “ใช่ค่ะ^^” เธออาจจะตอบมันออกมาอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากนัก แต่เธอจะรู้ไหมว่าคำตอบของเธอมันทำให้ใครอีกคนรู้สึกดีใจแทบเก็บอาการไม่อยู่ “...” แผ่นดินเงียบแล้วเบื่อนหน้าไปมองยังคลื่นทะเล ก่อนจะชวนเปลี่ยนเรื่อง “พี่มีรุ่นหนึ่งแนะนำ” เมื่อนึกได้ว่ากำลังคุยเรื่องรถอยู่เขาจึงตัดบทแล้ววนกลับมาที่เรื่องรถอีกครั้ง แผ่นดินหยิบมือถือขึ้นมาพร้อมกดเปิดรูปรถยนต์ให้ฝันดีดู “โห ตัวนี้ฝันสู้ไม่ไหวค่ะ” เพราะรถที่เขาเอาให้เธอดู คือรถBMWยังไงล่ะ สำหรับเธอถือว่าราคาแรงเอาเรื่องอยู่นะ เธอตั้งใจจะซื้อเงินสด เพราะไม่อยากเป็นหนี้ รุ่นที่เขาให้ดูเธอไปศึกษาราคามาหมดแล้ว มันเกินงบที่ตั้งไว้เยอะมาก คงไม่ไหวถ้าจะเอา “เรามีงบเท่าไหร่” “ฝันตั้งไว้แค่สี่แสนค่ะ” เป็นเงินเก็บที่เธอเก็บไว้ซื้อรถโดยเฉพาะ “คันนี้สองแสน” “ฮะ?!” เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม “พี่ถามเพื่อนแล้ว มันขายขาดทุน รอคนไปซื้ออยู่” เขาบอกกับเธอน้ำเสียงจริงจังไม่มีทีท่าว่าจะเล่นแต่อย่างใด ฝันดีแทบไม่เชื่อหูตัวเอง มันจะเป็นไปได้ยังไง รุ่นนี้ตัวท็อปออกใหม่เลยนะ “พี่โกหกฝันอยู่หรือเปล่า ถ้าคิดจะช่วยไม่ต้องเลยนะฝันไม่เอาค่ะ” ฝันดีเอ่ยอย่างรู้ทัน “ไม่ได้โกหก มันซื้อให้เมียแต่เมียมันอยากได้อีกสีมันเลยขายทิ้ง ตอนแรกมันจะเอาให้พี่เฉย ๆ แต่พี่เห็นว่าเรากำลังหารถพอดีเลยแนะนำคันนี้ เอาไง? สนใจไหม” “มะ..มัน” “ถ้าสนพี่จะบอกมันไม่ให้ขายให้คนอื่น” ขายให้คนอื่นอย่างนั้นเหรอ ถ้ามันจริงตามที่พูดเธอก็ไม่ลังเลที่จะซื้อมัน เพราะราคานี้ไม่ได้หากันง่าย ๆ นะ ป้ายแดงด้วย “ตกลงค่ะ!” “โอเค พรุ่งนี้พี่ให้มันเอารถมาส่ง” “แล้วเงินต้องจ่ายยังไงคะ สัญญาด้วย” “เดี๋ยวมันมาพี่จัดการเอง เราโอนแค่เงินเข้าบัญชีให้พี่ก็พอ” “ได้ค่ะ” “เข้าห้องเถอะดึกมากแล้ว” “งั้นแยกกันตรงนี้ก็ได้ค่ะ” เห็นแผ่นดินบอกว่ามีเพื่อนนัดดื่ม สงสัยแยกกันเขาคงไปต่อกับเพื่อน เธอจึงแยกกับเขาตรงนี้เลย “ขึ้นห้องเถอะ” เขารอส่งเธอก่อนถึงจะไป “เที่ยวกับเพื่อนให้สนุกนะคะ” “พี่ไปแป๊บเดียวก็กลับแล้ว” “พี่ไปเถอะค่ะ” “เราปะ..” “โรมแรมอยู่แค่นี้เอง” เพราะจุดที่ทั้งสองนั่งอยู่มันคือฝั่งตรงข้ามกับโรมแรม ไม่ได้ไกลกันสักนิดไม่จำเป็นต้องอยู่รอส่ง “พรุ่งนี้เดี๋ยวพี่พาเที่ยวอีกนะ” เขาเอ่ยน้ำเสียงใจดี “ฝันเกรงใจจัง” “ไม่ต้องคิดมาก ไว้เจอกันพรุ่งนี้ ฝันดีนะตัวแสบ” “ฝันดีค่ะ^^” แผ่นดินส่งยิ้มอบอุ่นให้ก่อนจะหมุนตัวหันหลังเดินจากไป ฝันดีมองร่างสูงที่ค่อย ๆ ห่างออกไปกระทั่งหายไปในที่สุด หลังจากที่อีกคนไปแล้วเธอจึงเตรียมตัวจะกลับโรมแรมเพื่อไปพักผ่อน ทว่า.. ตึก! “ไง” “คะ คุณ” ดวงตาคู่สวยเปิดกว้างเมื่อพบกับใครบางคน “จำฉันได้ด้วยเหรอ” เขาเลิกคิ้วถามพลางมองต่ำไปยังหน้าอกและลำคอที่มีรอยนิ้วมือที่เกิดมาจากฝีมือของเขาเอง “มีอะไรหรือเปล่าคะ?” ทว่าคำพูดของเธอทำเขาขมวดคิ้วทันที เมื่อครู่เธอยังดูตกใจที่เจอเขา ทำไมตอนนี้กลับทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน “ว่าไงนะ” “ถ้าไม่มีอะไรฉันขอตัว” สำหรับผู้ชายคนนี้เธอไม่อยากให้ค่า เพราะสิ่งที่เขาทำมันโคตรทุเรศ ฝันดีเลี่ยงไปอีกทางเพื่อหนีผู้ชายตรงหน้า หมับ! “เธอกล้าเมินฉันเหรอ?” ไม่มีใครกล้าเมินเขาสักคน แล้วเธอเป็นใครถึงกล้าทำ ไมเนอร์ออกแรงบีบแขนเล็กจนเธอนิ่วหน้าเจ็บ “ปล่อย” แม้จะเจ็บแค่ไหนเธอก็สู้กลับไป “ทำไม? แค่ทิ้งให้นอนคนเดียวถึงกลับวิ่งหาผู้ชายคนใหม่เลยเหรอ” คำพูดของเขามันกำลังดูถูกเธอ “ใช่ อะไรที่มันอร่อยฉันก็พร้อมเข้าหา” แต่มีหรือคนที่ไม่ยอมคนอย่างเธอจะยอมแพ้ “หึหึ ปากเก่ง” แสยะยิ้มเหี้ยม “รบกวนปล่อยด้วยค่ะ” ส่งสายตาบอกให้เขารู้ “สงสัยต้องทวนความจำ..” “!!” “..ว่าไม่ควรอวดดีกับฉัน”คอนโดไมเนอร์ร่างสูงเปิดประตูลงจากรถ พร้อมกับเดินอ้อมไปเปิดฝั่งที่หญิงสาวนั่งอยู่ ฝันดีนั่งกอดอกตัวเองไม่ยอมลงแต่อย่างใด ทำให้ไมเนอร์เริ่มหงุดหงิดกระชากตัวเธอลงจากรถอย่างแรง หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวจึงล้มลงไปที่พื้นจนเข่าเธอกระแทกไปกับพื้นปูนทำให้ถลอกแล้วมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย“อ๊ะ!” ปากเล็กร้องออกมาด้วยความรู้เจ็บจี๊ดบริเวณหัวเข่า เธอเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่เอาแต่นิ่งมองมายังเธอเช่นเดียวกันก่อนที่เขาจะเอ่ย“จะเลิกอวดดีได้หรือยัง” เขาถามโดยไม่สนว่าตอนนี้เธอกำลังเจ็บอยู่หรือเปล่า“แล้วคุณเป็นบ้าอะไรลากฉันมาด้วย!” ฝันดีเองก็เริ่มจะหมดความอดทนกับผู้ชายคนนี้แล้วเหมือนกัน ไม่เข้าใจว่าเขาจะลากเธอมาด้วยทำไม“ลากมาสั่งสอนไง สั่งสอนให้รู้ว่าอย่าอวดเก่งกับฉัน” เขาเอ่ยเสียงเย็น เธอพยศใส่เขาเกินไป อายุเขาและเธอก็ห่างกันพอสมควรแต่หญิงสาวกลับทำตัวปีนเกลียวไม่เลิก“อย่าลืมสิว่าคุณกับฉันไม่ได้เป็นอะไรกัน อีกอย่างเรื่องคืนนั้นฉันก็แค่อยากลองเฉย ๆ ไม่ได้อยากจริงจังด้วยสักหน่อย การที่คุณทำแบบนี้ มันเหมือนว่าคุณนั่นแหละที่ติดใจฉัน” แม้จะเจ็บสักแค่ไหนแต่เธอก็จะไม่ทำตัวอ่อนแอต่อหน้าผู้ชายคนนี้เด็ดขาด คนอย่างเ
คนตัวเล็กเดินตรงไปยังสถานที่หนึ่ง ในมือมีช่อดอกไม้ที่เธอมักซื้อติดมือมาทุกครั้งที่มาที่นี่ เดินไปเรื่อย ๆ กระทั่งถึงเจดีย์ใส่อัฐิพ่อของเธอ..“เป็นยังไงบ้างคะ สบายดีไหม” เอ่ยถามเสียงเบาหวิวพลางยื่นมือสัมผัสรูปที่แปะติดอยู่หน้าเจดีย์อัฐิอย่างเบามือ ดวงตาสองข้างเริ่มแดงก่ำ ฝันดีจะลางานมาหาพ่อของเธอในทุก ๆ ปี จนมันกลายเป็นวันหยุดประจำตัวของเธอไปแล้ว“...”“คิดถึงหนูกับแม่ไหม”“...”“ทำไมหนูคิดถึงพ่อจังเลย ฮึก~” เธอก้มหน้าปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา แม้จะเข้มแข็งสักแค่ไหนก็ใช่ว่าเธอจะไม่มีมุมอ่อนแอเหมือนคนอื่น เธอมันพวกแข็งนอกอ่อนในต่างหาก“....”“ยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะ” คิดถึงรอยยิ้มของพ่อที่เคยยิ้มให้ คิดถึงอ้อมกอดที่เคยได้รับ คิดถึงคำสอนที่พ่อเคยบอกเอาไว้ คิดถึงทุกอย่างที่เป็นท่าน“...”“หนูกลัว~ ฮึก!” ตั้งแต่สูญเสียพ่อไปฝันดีก็กลายเป็นคนขี้กลัวโดยไปเลย ไม่ใช้กลัวอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่เธอกลัวการสูญเสียคนที่รักไปอีกครั้ง เธอคงทำใจไม่ได้หากแม่ต้องจากไปอีกคน ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอนาคตชีวิตจะเป็นยังไง วันนี้อาจนั่งคุยกันอย่างมีความสุข พรุ่งนี้เขาอาจจะไม่อยู่แล้วก็ได้ใครจะรู้ ทุกคนมองว่าเธอเป็นผู้
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“แกนะแก ถ้าเป็นแบบนี้อีกฉันจะทุบให้หลังหักเลยคอยดู” ใยไหมบ่นให้เพื่อนตัวดีที่หายไปโดยไม่บอกไม่กล่าว เธอก็เป็นห่วงแทบตายกลัวคนจะหลอกเพื่อนไปฆ่า ฝันดีเพิ่งติดต่อเธอกลับวันที่ไปเที่ยวทะเล แล้วนี่ก็เป็นวันแรกที่หญิงสาวกลับมาทำงานตามปกติ เลยต้องมานั่งฟังเพื่อนใยไหมบ่นอยู่แบบนี้กลางศูนย์อาหารในบริษัท“ขอโทษ”“ต่อไปนี้จะไม่พาไปเที่ยวอีกแล้วถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันก็เป็นห่วงแทบตาย” ถ้าแม่ฝันดีไม่บอกก่อนว่าเจอเพื่อนแล้วเธอจะไปแจ้งความจริง ๆ“ฉันก็กลับมาแล้วไง ไม่เป็นอะไรด้วยเห็นไหม”“ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก”“อย่าบ่นเยอะสิตีนกาขึ้นเลยเห็นไหมน่ะ” ตอนนี้เป็นเวลาพักกลางวัน ทั้งสองไม่ได้ออกไปทานข้าวข้างนอกแต่ลงมานั่งทานที่ศูนย์อาหาร วันนี้รู้สึกว่าคนเยอะแปลก ๆ ทั้งที่ปกติคนชอบออกไปข้างนอกกันมากกว่าเพราะอาหารที่บริษัทรู้สึกว่าจะไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ คนเลยไม่นิยมมาทานกัน แต่วันนี้เหมือนว่าทุกคนจะอยู่กันเยอะกว่าทุกวันซึ่งไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่แล้วทั้งสองก็ต้องเงียบแล้วหันมองไปยังเสียงเอะอะโวยวายที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ“เขามุงดูอะไรกัน” ใยไหมหรี่ตามองกลุ่มสาว ๆ ที่ยืนชะเง้อเหมือนกำล
เขากระชากคนตัวเล็กเข้าหาอย่างแรง ไมเนอร์ไม่พอใจอย่างยิ่งที่เธอปากเก่งกล้าพยศใส่เขา ผู้หญิงกี่คนต่อกี่คนไม่มีใครกล้าเดินหนี ถือว่าเธอกล้ามากที่ทำมัน แบบนี้ต้องสั่งสอนให้หลาบจำ ทั้งที่ได้เขาเป็นผัวแต่เธอยังกล้าทำตัวกระหายผู้ชายไม่เลิก“คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับฉัน”“ทำไม หรือฉันทำให้ไม่ถึงใจถึงได้วิ่งตามผู้ชายมาถึงที่นี่”“ทุเรศ” เธอพ่นคำด่าหยาบคายใส่หน้าเข้าเต็ม ๆ“ว่าไงนะ?”“คุณมันทุเรศที่สุด”“จะด่าอะไรก็ระวังปากหน่อย อีกอย่างเรื่องเมื่อคืนฉันก็ไม่ได้เป็นคนร้องขอนะอย่าลืม” เธออนุญาตให้เขาทำเอง เขาไม่ผิดสักหน่อย ไหน ๆ ก็เคยได้แล้วถ้าได้อีกครั้งคงไม่เป็นไรหรอกมั้งว่าไหม?“ฉันไม่น่าพลาดให้คุณเลย”“อันนั้นฉันก็ช่วยไม่ได้” เขาตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ เธอเสนอเขาก็แค่สนอง วิน ๆ กันทั้งคู่“ปล่อย” ฝันดีพยายามบิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของอีกคน“ไหน ๆ ก็เจอแล้วฉันว่าเรา..”“ไปตายซะ”“เหอะ!” ไมเนอร์ดันลิ้นเข้าหากระพุ้งแก้มด้วยความหงุดหงิด เธอกำลังทำให้เขาหมดความอดทน ไปตายงั้นเหรอ..“ปล่อย”“....”“ฉันบอกให้ปล่อยไง!”“เพ้อเจ้ออะไรอยู่”“จะไม่ปล่อยใช่ไหม”“เธอเป็นใครทำไมฉันต้องเชื่อฟัง” ไมเนอร์ลอยห
ขวับ! ทั้งไมเนอร์และฝันดีหันขวับไปมองยังที่มาของเสียงอย่างพร้อมเพรียง ร่างสูงของใครบางคนเดินยิ้มมาหยุดตรงหน้าคนตัวเล็ก ซึ่งเป็นคนที่เธอนั้นรู้จักเป็นอย่างดี ส่วนไมเนอร์นั้น...มันเป็นใคร?“คุณแผ่นดิน?” เสียงหวานเอ่ยเรียกคนมาใหม่ด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าจะมาเจออีกคนที่นี่ แม้จะอดสงสัยไม่ได้แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป“มาคุณอะไรกัน” แผ่นดินดีดนิ้วลงที่หน้าผากมนเบา ๆ อย่างไม่แรงนัก บอกหลายครั้งแล้วแต่เธอก็ไม่เคยจำว่าอยู่ข้างนอกให้เรียกเขายังไง“แหะ~ พี่แผ่นดิน” แผ่นดินเคยบอกกับเธอไว้ตั้งเจอกันช่วงแรก ๆ เขาขอให้เธอเรียกพี่แทนเรียกคุณ ฝันดีได้ยินแบบนั้นก็ปฏิเสธทันที แผ่นดินคือเพื่อนสนิทของฟินิกซ์ คนที่เป็นถึงประธานบริษัทเจ้านายเธอเลยนะ จะให้มาเรียกเหมือนคนสนิทกันมันคงจะเป็นไปไม่ได้ แผ่นดินเห็นหญิงสาวมีท่าทีลำบากใจจึงยื่นข้อเสนอใหม่ให้นั่นก็คือ.. เวลาอยู่ข้างนอกให้เรียกเขาพี่ตามที่บอกไปตอนแรก ส่วนคุณให้เรียกเฉพาะตอนที่อยู่ในที่ทำงานเท่านั้น ฝันดีคิดจะค้านแต่สุดท้ายก็ต้องรับปากในที่สุดเมื่อเขาใช้ไม้เด็ด“แล้วนี่มาเที่ยวเหรอ” เขามองดูเธอก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับรอยแดงบริเวณลำคอหญิงสาว แม้มัน
วันต่อมา “นี่ค่ารถค่ะ” ฉันยื่นค่าโดยสารให้ลุงคนขับ “ไม่เป็นไรยัยหนู ลุงไม่คิดเงิน” ได้ไงอะ จุดที่ฉันลงรถมาถึงที่พักไม่ใช่ใกล้ ๆ เลยนะ ฉันเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน ฉันพยายามยัดเงินใส่มือคุณลุงทว่าลุงแกก็ยังปฏิเสธเหมือนเดิม “ไม่ได้นะคะ” ค่าน้ำมันค่าเสียเวลาอีก แบบนี้ฉันไม่โอเคหรอกนะถ้าจะให้ฉันนั่งมาฟรี ๆ รู้แหละว่าคุณลุงคงไม่คิดอะไรมากแต่ฉันไม่ไง มันรู้สึกผิดยังไงไม่รู้ "ลุงเห็นว่าเราเป็นลูกกตัญญูพาแม่มาเที่ยว เอาไปเถอะบ้านลุงอยู่แถวนี้พอดี" "แต่คุณลุงคะ.." ทำไมถึงใจดีขนาดนี้ล่ะ "ลุงไปละ เที่ยวให้สนุกนะยัยหนู" ว่าจบลุงสามล้อก็ขับรถออกไปทันที ฉันกับแม่มองตามรถลุงไปจนสุดสายตาก่อนจะหันสบตากันนิ่ง "คุณลุงใจดีมากเลย" ฉันพูดขึ้นพลางเก็บเงินไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม "นั่นสิ" "เราเข้าไปเช็คอินกันเถอะ" ทุกอย่างมันปุ๊บปั๊บไปหมด แล้วโรมแรมนี้ว่างพอดีฉันเลยทำการจองทันที ฉันเข้าไปติดต่อพนักงานเพื่อเข้าพัก หลังจากชำระค่าอะไรเรียบร้อยก็เดินไปหาแม่ที่นั่งรออยู่ "ปะ" รับกระเป๋ามาถือพร้อมกับเดินไปขึ้นลิฟต์ โรมแรมที่ฉันมาพักมันก็ไม่ได้แย่นะทุกคนถือว่าดีเลยแหละ ทั้งวิวทั้งราคาทุกอย่างโอเคหมดเลย ระหว่างที







