“เสี่ยวหรู ดูเลขาอู๋ทำสิ นับวันยิ่งทำตัวเป็นเจ้านายแล้วก็ทำเป็นเจ้าของท่านประธาน”
ตงเย่ชิง หนึ่งในเลขาหน้าห้องของโม่เหยี่ยนเดินมากระซิบกระซาบกับเฉินเสี่ยวหรู
“เอาหน้าขนาดนั้น ถึงกับกล้าหยิบรูปคู่ของท่านประธานกับคุณนายที่อยู่บนชั้นวางหนังสือไปเก็บใส่ลังได้ ประธานก็ไม่ต่อว่า”
จ้าวเล่ออิ๋น เลขาอีกคนลากเก้าอี้เข้ามาร่วมวงสนทนา
“ฉันเห็นแววตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้หญิงคนนี้อยากเป็นคุณนายคนใหม่ อาศัยว่าเคยช่วยชีวิตท่านประธาน ท่านประธานจึงค่อนข้างตามใจเธอ ไม่เคยต่อว่าเลยสักครั้ง”
“ก็รอดูว่าท่านประธานจะเอายังไงกับผู้หญิงคนนี้”
หญิงสาวทั้งสามคนพูดคุยกันได้สักพักก็แยกย้ายทำงานเหมือนเดิม
........
ห้องทำงานโม่เหยี่ยน
“ประธานโม่คะ เย็นพรุ่งนี้มีงานเลี้ยงดินเนอร์ของประธานเหมาแห่งบริษัทเอ็นเอฟค่ะ”
อู๋อี้ตันเปิดตารางงาน รายงานโม่เหยี่ยนด้วยน้ำเสียงดีใจ
“อืม” ประธานหนุ่มรับคำ
“ประธานโม่จะให้เลขาต่งตามไปหรือว่าให้ฉันไปด้วยดีคะ งานเลี้ยงแบบนี้ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยไปเลยค่ะ”
บุรุษที่ฟังอยู่เหลือบตามองหญิงสาว เห็นดวงตาเธอจ้องเขาอย่างมีความหวัง
“คุณไปกับผมและเลขาต่งก็ได้” เขาตอบเธอแล้วพูดกับต่งเหอเก๋อ
“พาเลขาอู๋ไปดูชุดที่ร้านเดิมนะ”
“ได้ครับ”
หลังจากสั่งเสร็จ โม่เหยี่ยนก็ทำงานต่อไม่ได้สนใจอู๋อี้ตันแม้แต่นิดเดียว
ส่วนอู๋อี้ตันนั้นรีบเปิดหาคลิปดูรูปชุดราตรีแบบต่างๆ ที่หลี่ชิวโหรวเคยใส่ออกงาน ตอนที่ต่งเหอเก๋อพาเธอไปเลือกชุด เธอจะได้บอกความต้องการแก่เจ้าของร้านได้
.........
ร้านชุดออกงานซย่าเลี่ยง
“ทำไมมีอยู่ไม่กี่แบบล่ะ”
อู๋อี้ตันเดินดูตามราวแขวนเสื้อ ก่อนถามเจ้าของร้านด้วยความสงสัย
ซย่าจิ่วผู้ซึ่งเป็นเจ้าของร้านยิ้มตอบอย่างมีมารยาท
“ร้านของเราเป็นชุดออกงานและชุดราตรีสำหรับพนักงานและเลขาค่ะ รูปแบบและเนื้อผ้าเลยค่อนข้างเป็นทางการ สุภาพเหมาะกับการทำงาน”
“อ่อ”
อู๋อี้ตันพยักหน้า เธอคิดว่าเลขาประธานจะได้อภิสิทธิ์ในการเลือกชุดออกงานที่หรูหรา โดยเฉพาะเลขาประธานบริษัทต้าเฉิงที่เป็นบริษัทมีชื่อเสียงระดับประเทศ
นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้ใส่ชุดออกงานที่แสนจะธรรมดาและปิดมิดชิดเช่นนี้
เธอเลือกชุดกลับหนึ่งชุดแล้วขอแยกกับต่งเหอเก๋อ บอกเขาว่าจะไปหาซื้อของเพิ่ม
แต่แท้จริงแล้วไปหาร้านเช่าชุดใหม่ เธอจะแต่งตัวคล้ายกับเลขาคนอื่นที่ไปออกงานไม่ได้ ต้องเด่นและเป็นที่สนใจของแขกร่วมงานเท่านั้น
อู๋อี้ตันไปเช่าชุดราตรีตัวใหม่ตามสไตล์การแต่งตัวของหลี่ชิวโหรว เมื่อออกจากร้านก็บ่นตามหลัง
“เป็นแค่เลขาต้องออกเงินเองสินะ คอยดู ฉันต้องเป็นคุณนายคนใหม่ให้ได้”
........
ถึงวันงาน ต่งเหอเก๋อขับรถพาโม่เหยี่ยนมารับอู๋อี้ตันหน้าร้านทำผม เมื่อเธอเดินออกจากร้านก็ทำให้ชายหนุ่มทั้งสองที่รออยู่บนรถมองตะลึงพักใหญ่
ไม่ใช่ว่าเธอสวยสะกดใจชาย แต่การแต่งตัวแต่งหน้าและทำผมเป็นแบบที่หลี่ชิวโหรวชอบแต่งเป็นประจำ
จึงทำให้มองเผินๆ แล้วคล้ายกับหลี่ชิวโหรวมาก
“ประธานโม่มองฉันมีอะไรหรือเปล่าคะ”
อู๋อี้ตันเปิดประตูรถ เธอแสร้งทำเป็นไม่รู้แล้วถามเขาเสียงหวาน
“เปล่า ไม่มีอะไร”
โม่เหยี่ยนละสายตาจากหญิงสาวแล้วมองนอกกระจกรถดวงตาเหม่อลอย
เกือบปีแล้วสินะ ไม่รู้ว่าตอนนี้หลี่ชิวโหรวไปอยู่ไหน ทำอะไรอยู่
........
ในงานเลี้ยง อู๋อี้ตันเชิดหน้าฉีกยิ้มกว้างอยู่ข้างกายโม่เหยี่ยนราวกับเธอเป็นผู้หญิงคนใหม่ของเขา สายตาของแขกร่วมงานแต่ละคนต่างจ้องมองเธอด้วยความสงสัย
ประธานโม่หาเลขาคนใหม่ไว้ข้างกาย มีรูปร่างลักษณะท่าทางและการพูดจาคล้ายกับหลี่ชิวโหรวคุณนายคนก่อนมาก สงสัยว่าความชอบของประธานโม่จะเป็นแบบนี้
ต่อไปอาจจะเปลี่ยนจากเลขาเป็นภรรยาใหม่ก็เป็นได้
การปรากฏตัวของอู๋อี้ตันเรียกความสนใจจากบรรดาแขกเหรื่อรวมถึงนักข่าวที่ต่างเก็บภาพภายในงาน
ต่งเหอเก๋อที่คอยสังเกตอยู่ไม่ห่างเริ่มรู้สึกว่าเลขาสาวคนนี้มีเจตนาแอบแฝงต่อเจ้านายตน
แต่หากเธอไม่ได้ทำอะไรร้ายกาจ แถมต่างโสดด้วยกันทั้งคู่ เขาก็ไม่คิดจะเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของท่านประธาน
“ประธานโม่ดื่มเยอะไปแล้วนะคะ”
อู๋อี้ตันเตือนโม่เหยี่ยน ชายหนุ่มคุยงานไปดื่มไปจนแทบยืนทรงตัวไม่อยู่
“ไม่เป็นไร ผมยังไหว”
โม่เหยี่ยนยังฝืนดื่มและคุยงานจนถึงพักหนึ่งเขาก็เริ่มเดินเซ ต่งเหอเก๋อจึงเข้าไปประคองเจ้านายของตนเพื่อที่จะพากลับวิลล่า
“ฉันจองห้องพักโรงแรมไว้แล้ว เลขาต่งพาประธานไปที่ห้องเถอะค่ะ”
อู๋อี้ตันเดินนำหน้าพวกเขาไปที่ห้องพัก ปั้นสีหน้าบริสุทธิ์ใจจนต่งเหอเก๋อพยักหน้าแล้วประคองโม่เหยี่ยนเดินตามหลัง เมื่อร่างของประธานหนุ่มนอนบนเตียง หญิงสาวก็หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กเข้าห้องน้ำ
“ฉันจองไว้สามห้อง ห้องประธานฝั่งนี้ส่วนห้องของเราสองคนอยู่ฝั่งตรงข้าม คีย์การ์ดห้องวางไว้บนโต๊ะนะคะ เลขาต่งเลือกได้เลย เดี๋ยวฉันจะเช็ดตัวให้ประธานโม่ก่อน เสร็จแล้วค่อยกลับห้อง”
ต่งเหอเก๋อยืนนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ปกติเวลาโม่เหยี่ยนเมาเขาก็แค่พามาเข้านอน จากนั้นก็กลับห้องของตนเอง ไม่เคยต้องมาคอยเช็ดตัวให้
หรือเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงกันแน่นะ
เขามองสภาพของโม่เหยี่ยน เห็นว่าหลับไปแล้วจึงออกนอกห้อง ปล่อยให้อู๋อี้ตันอยู่กับโม่เหยี่ยนสองต่อสอง
หลับไม่รู้เรื่องขนาดนี้ ท่านประธานคงไม่ว่าอะไร
อู๋อี้ตันเดินถือกะละมังขนาดเล็กที่ใส่ผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำ เธอนั่งบนเตียงข้างกายชายหนุ่ม มือเรียวเริ่มถอดเสื้อของเขาออกอย่างแผ่วเบา
ลอนกล้ามเนื้อกำยำเผยให้เห็นตรงหน้า หญิงสาวไม่รอช้าบิดผ้าขนหนูจนหมาดแล้วเริ่มเช็ดตัวให้เขาทันที
โม่เหยี่ยนที่กำลังหลับรู้สึกว่ามีผ้าเย็นเช็ดใบหน้าของตนก็ปรือตามองด้วยความงุนงง สายตาที่พร่าเบลอมองอู๋อี้ตันเป็นหลี่ชิวโหรว มือหนายื่นไปคว้าร่างของเธอเข้ามากอดแนบแน่น
“โหรวโหรว”
เขาเรียกชื่อภรรยาเก่า มือก็ลูบไล้ไปตามร่างกายอวบอิ่มของหญิงสาว
เมื่อเขาซุกหน้าที่ข้างลำคอยาวระหง มือของอู๋อี้ตันก็จับเข็มขัดของชายหนุ่ม ริมฝีปากยกยิ้มพึงพอใจ คืนนี้เธอจะต้องได้ประธานหนุ่มผู้นี้มาครอบครอง
แต่ยังไม่ทันได้ถอดเข็มขัด ร่างของหญิงสาวก็ถูกผลักออกจนเกือบตกจากเตียง
“ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้”
โม่เหยี่ยนตะคอกใส่ ในความคิดของชายหนุ่มมีแต่ภาพหลี่ชิวโหรวเดินเข้าโรงแรมกับชายคนอื่น เขาจึงรู้สึกโกรธขึ้นมากะทันหัน
แม้จะยังห่วงหา แต่เขาก็ไม่อยากยุ่งกับหลี่ชิวโหรวอีก
อู๋อี้ตันตกใจ เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของโม่เหยี่ยนก็รู้สึกกลัวจนรีบเก็บกระเป๋าถือแล้วออกนอกห้องทันที
มอมเหล้าใช้ไม่ได้ผลสินะ คราวหน้าต้องวางแผนใหม่ดีๆ
........
วันรุ่งขึ้น บริษัทต้าเฉิง
โม่เหยี่ยนนั่งที่โต๊ะทำงานใบหน้าเคร่งขรึมแต่เช้า เมื่อเห็นอู๋อี้ตันมาถึงหน้าห้องทำงานก็เรียกเธอเข้าพบ
“ประธานโม่มีอะไรจะสั่งฉันหรือคะ”
หญิงสาวถาม เธอรู้สึกใจสั่นนึกถึงเรื่องเมื่อคืน
แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่กี่วินาที แต่การถูกเขาโอบกอดแนบชิด ทำให้เธอรู้สึกดีมาก
“เลขาอู๋มีวุฒิปริญญาตรี พอดีมีทุนการศึกษาสำหรับพนักงานเปิดปีนี้ ฉันเลยว่าจะส่งเธอไปเรียนต่อ อ่อ ต้องเรียนภาษาก่อนหนึ่งปี เรียนจบแล้วก็ทำงานที่บริษัทสาขานั้นอีกหนึ่งปี จึงกลับมาทำงานที่นี่ได้”
“ประธานจะให้ฉันไปเรียนต่อต่างประเทศหรือคะ”
อู๋อี้ตันเบิกตาโพลงน้ำเสียงตกใจ
“ทำไม เธอไม่อยากไปหรือ เลขาผู้บริหารคนอื่นจบปริญญาโทกันหมด มีแต่เธอที่จบปริญญาตรี ถ้าอยากก้าวหน้าในการทำงานก็ควรไปนะ”
โม่เหยี่ยนไม่ได้บังคับเธอ เขาบอกเธอดีๆ ให้เธอตัดสินใจเอง
“ทุนมีเพียงสามทุน ฉันกันไว้ให้เธอหนึ่งทุน ถ้าไม่อยากได้ก็จะให้พนักงานคนอื่นสมัครรับทุน” เขากล่าวทิ้งท้าย
อู๋อี้ตันเงียบไปครู่หนึ่ง ในหัวประมวลผลอย่างหนัก หากเธอต้องการอยู่ข้างกายโม่เหยี่ยน เธอต้องมีดีทุกอย่างให้คู่ควรกับเขา
หรือว่าเขาก็อยากให้เธอไปเรียนต่อเพราะเรื่องนี้กันนะ
คิดไม่นานนักหญิงสาวก็ตัดสินใจ
“ได้ค่ะ ฉันจะไปเรียนต่อ”
“โหรวโหรว เหยียนเหยี่ยน”เสียงของมิ่งมิ่งดังขึ้นเรียกพวกเขาทั้งสองคนหลังพิธีเสร็จสิ้น“เรียกพ่อแม่แบบนี้ได้ยังไง ไม่น่ารักเลย”ซูเหม่ยบอกหลานชายตัวน้อย“พวกเขาแอบมาแต่งงานกันสองคน มิ่งมิ่งตัดขาดการเป็นพ่อแม่ลูกกับพวกเขาแล้ว”เด็กชายตัวน้อยใส่แว่นตาดำ เชิดหน้าใส่คู่บ่าวสาว“แอบตรงไหนกัน พ่อให้คนไปรับมิ่งมิ่งมานะ”โม่เหยี่ยนพยายามงอนง้อลูกชายเด็กชายมองลอดแว่น“น้องสาวอย่างน้อยหนึ่งคน แต่ถ้าแฝดด้วยก็ยิ่งดี”“ตกลง”โม่เหยี่ยนรับคำทันที“อะไร หมา
เมืองหมิงตูเมืองบนเขาขนาดเล็ก มีความเป็นชนบทค่อนข้างสูง คงเอกลักษณ์ท้องถิ่นอย่างเต็มเปี่ยมประชากรในเขตนี้จำนวนไม่มาก การคมนาคมขนส่งยังไม่สะดวกสบาย การเดินทางไปเรียนหรือไปโรงพยาบาลต้องใช้เวลานานโม่เหยี่ยนเดินทางมาเมืองนี้กับหลี่ชิวโหรวและต่งเหอเก๋อ เขาสำรวจรอบเมืองในเวลาสองวันก็สั่งต่งเหอเก๋อให้กลับจินไห่ไปเตรียมงานตามที่สั่งส่วนเขาและหลี่ชิวโหรวพักที่บ้านพักหลังไม่ใหญ่บนเนินเขา พื้นที่รอบบ้านเป็นสวนผักและสวนผลไม้ มีธารน้ำใสอยู่ไม่ไกล“ที่รักจะให้ทำผมอะไรบ้าง”ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าใกล้หญิงสาวตอนที่เธอกำลังเก็บผลไม้ข้างบ้าน“คุณสอนหนังสือได้มั้ย”หลี่ชิวโหรวถาม“แต่อย่าเลย คนอย่างคุณเดี๋ยวไปทำให้ค
‘อารมณ์ไหนเนี่ย’หลี่ชิวโหรวบ่นในใจ มือเรียวจูงเขาเข้าห้องนอนแล้วหยิบเสื้อผ้าในตู้เพื่อจะแต่งตัวให้เขาเธอหยิบเสื้อใส่ให้เขาอย่างคล่องแคล่ว แต่เมื่อสายตามองผ้าเช็ดตัวที่พันตรงบริเวณเอว ก็มีอาการลังเลเล็กน้อย“ใส่กางเกงกับกางเกงในเอง”หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อออกคำสั่งชายหนุ่ม“ไม่เอา งั้นก็ไม่ใส่”โม่เหยี่ยนทำท่างอนเดินไปนั่งบนเตียง ในหัวเริ่มคิดประมวลผลอย่างหนัก ถ้าเขาแกล้งเธอมากกว่านี้ พอเธอรู้ความจริง นอกจากจะง้อไม่สำเร็จ เขาอาจจะไม่มีชีวิตรอดอีกด้วยเพราะฉะนั้น โอกาสมีแค่ครั้งนี้จากนั้นค่อยไปขอไถ่โทษสำนึกผิดทีหลังหลี่ชิวโหรวทำหน้าหงุดหงิด หยิบกางเกงแล้ววางลงบนเตียง ขณะที่กำลังชั่งใจจะช่วยโม
“มิ่งมิ่งเลือกชุดว่ายน้ำได้หรือยัง”หลี่ชิวโหรวถามลูกชายแต่สายตากลับเหลือบมองผู้ชายตัวโตที่ยืนข้างเขา“มิ่งมิ่งเลือกชุดคู่ จะได้เหมือนกับพ่อ” “เหอะ ไม่เลือกชุดคู่กับแม่ล่ะ”เธอก้มหน้าถามมิ่งมิ่ง มือเรียวบีบแก้มเด็กชายด้วยความหมั่นไส้“ไม่ต้องห่วง ผมเลือกให้เอง”โม่เหยี่ยนยกแขนมาโอบไหล่เธอ“เลือกให้คุณด้วย”“ไม่ต้อง ฉันเลือกของฉันเองได้”หลี่ชิวโหรวปัดมือของเขาออกแล้วเดินไปบริเวณชุดว่ายน้ำสตรียังไม่ทันที่เธอจะเลือกชุดได้ โม่เหยี่ยนก็ให้มิ่งมิ่งวิ่งมาบอกเธอว่าพวกเขาเช่าชุดเรียบร้อยแล้ว
“คุณไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นเลย”โจวฟางฟางนั่งเอนศีรษะซบไหล่ของซ่งเวย มือของคนทั้งสองกุมกันแน่น“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อคุณเลย ขอผมทำบ้างนะ”ซ่งเวยพูดออดอ้อนหญิงสาว“คุณทำเพื่อฉันกับลูกหลายอย่าง ฉันไม่ได้ตาบอดใจบอดจนมองไม่เห็นนะ”โจวฟางฟางบอกเสียงหวาน“คุณอุ้มท้องลู่ลู่ เลี้ยงดูมาดีขนาดนี้ ทั้งยังไม่คิดหาพ่อเลี้ยงให้เธอ ผมทำดีกับคุณมากขนาดไหนก็ไม่พอกับความดีของคุณ”โจวฟางฟางอมยิ้มกับสิ่งที่เขาพูด ดวงตากลมใสมองหน้าเขา“คุณอยากได้ของขวัญอะไรหรือคะถึงปากหวานขนาดนี้”ซ่งเวยเห็นสายตาที่เป็นประกายของโจวฟางฟาง ในใจก็สั่นควบคุมไม่ได้ เขากระซิบบอกเธอให้ได้ยินกันแค่สองคน
“มิ่งมิ่งจะไปหาพ่อ”เด็กชายร้องเสียงดัง เขาเบะปากทำท่าจะร้องไห้ “ไม่ต้องไป เขาเป็นพ่อของเราจริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้”ซูเหม่ยปรายสายตา พูดประชดอดีตลูกเขยของตน หลี่ชิวโหรวส่งเสียงทันใด“แม่ แม่กำลังกล่าวหาว่าหนูมีชู้อยู่นะ” ซูเหม่ยตกใจรีบปฏิเสธทันที“เปล่า ลูกสาวแม่ออกจะดี จะไปมีชู้ได้ยังไง มิ่งมิ่งก็ไม่ใช่ลูกชู้”เธอลูบผมหลานชายปลอบใจเขา “มิ่งมิ่งจะหาพ่อ ฮือ”