หลายเดือนทีเดียวที่หลี่ชางออกตามหาเฮ่อเหลียนอย่างบ้าคลั่งไม่กินไม่นอน
เขากลับมาจากสะสางปัญหาร้านค้า ก็มาเจออนุภรรยากับมารดาของเขาทะเลาะกัน ด้วยเรื่องราวบานปลาย บุตรสาวตัวน้อยเจ็บป่วย และภรรยาเอกของเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ในยามนั้น หลังเรือนของเขาจะวุ่นวายปานใด ชายหนุ่มหาได้ใส่ใจ เพราะสตรีอันเป็นที่รักได้หายตัวไปหลังจากที่นางตั้งครรภ์ลูกของเขา
เศษซากยาบำรุงครรภ์ถูกพบในห้องของนาง มันถูกซุกซ่อนเอาไว้อย่างดีในมุมลับตา หากเขาไม่เข้ามาตามหาตัวนางทุกซอกทุกมุมในเรือนก็คงไม่มีทางได้ล่วงรู้
จากนั้นเขาก็ออกตามหานางทั้งวันทั้งคืน ไปหานางที่บ้านเฮ่อ ที่นั่นไม่มีผู้ใดล่วงรู้ พวกเขาต่างพากันตกใจ ด้วยคาดไม่ถึงว่าเฮ่อเหลียนจะกระทำการเช่นนี้ และหนีไปทั้งที่ตั้งท้องเช่นนั้น ได้อย่างไร ทุกคนล้วนไม่เข้าใจ
หลี่ชางเองก็ไม่เข้าใจ เขาจึงออกตามหาภรรยาอย่างต่อเนื่อง รู้เพียงว่าซือจิงก็หายตัวไป ไม่ต้องคาดเดาก็คิดได้ ว่าเฮ่อเหลียนย่อมหนีไปกับซือจิง
สาวใช้ผู้นี้ร้ายกาจไม่เบา ทำเอาเขาตามแกะร่องรอยของเฮ่อเหลียนอย่างยากลำบาก เขาตามหานางนานมาก จนเวลาผ่านไปหลายเดือน การค้าใดๆ เขาล้วนไม่ใส่ใจ คฤหาสน์จักวุ่นวายปานใดก็หาได้เหลียวมอง
บ้านหลี่ที่เคยสงบสุขเปลี่ยนไปในบัดดล เมื่อคนสำคัญหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาได้รู้ตัวก็ครานี้ ว่าไม่อาจอยู่ดีกินดีหากไม่มีเฮ่อเหลียน
สตรีนางใดล้วนไม่สำคัญต่อเขาทั้งนั้น!
เขาออกตามหานางจนเจ็บป่วยนอนซม ยังไม่ทันหายดีก็ออกตามหาอีก ในที่สุดเขาก็ตามหาร่องรอยของภรรยาจนเจอ จากเครื่องประดับที่ถูกขาย นางอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งห่างไกลตัวเมืองออกมาอย่างมาก
หลี่ชางได้พบกับเฮ่อเหลียนทันได้ยินประโยคตัดพ้อสุดท้าย ก่อนที่นางจะจากลาไกล
ไม่กลับมาหาเขาอีกเลย…
“พ่อเจ้าทรมานแม่ให้ตายทั้งเป็น แม่คนนี้ก็ย่ำแย่พอแล้ว อาชาง ข้าเกลียดท่าน หากย้อนเวลากลับไปได้ ข้าจะไม่รักคนอย่างท่านเด็ดขาด คำสัญญาของท่านช่างเป็นคำลวงที่โหดร้าย เหตุใดข้าต้องรักท่านถึงเพียงนี้ ข้ารักท่านเหลือเกิน...”
“ท่านกับนางมิใช่ว่าเคยเจอกันครั้งแรกใช่หรือไม่?”
“ท่านดูแลนางให้ดี อยู่กับนางที่นี่ เพื่อทายาทของท่าน”
“คนที่เปลี่ยนไปหาใช่ข้า ท่านย่อมรู้ดีแก่ใจอาชาง”
“ปัญหาเหล่านี้เป็นท่านที่นำเข้ามา ควรเป็นท่านที่พาออกไป แต่หากจะให้ดี ควรปล่อยข้าออกไปด้วย เลิกส่งคนคอยควบคุมข้าเสียที ข้าอยากหนีไปจากท่านเหลือเกิน”
“หลี่ชางจะรักเพียงเหลียนเอ๋อร์ มีเหลียนเอ๋อร์ผู้เดียว หึหึ! ช่างฝันเฟื่องสิ้นดี มีเพียงเหลียนเอ๋อร์ที่ต้องทนทุกข์น่ะสิไม่ว่า!”
“เพื่อสร้างทายาทหรือ? หากเป็นเช่นนั้นจริง แค่ร่วมรักเดือนละไม่กี่ครั้ง แล้วรั้งรอผลตรวจจากท่านหมอก็พอกระมัง แต่ที่ทำเกือบทุกวันมันคืออะไร? มันก็แค่เหตุผลเห็นแก่ตัวของบุรุษเจ้าสำราญที่เสพติดบ่วงกามายากถอนคืน”
“ในขณะที่ท่านสำเริงสำราญกับพวกนาง มีแต่ข้าที่ทรมาน เหตุใดท่านไม่เข้าใจ”
“ปล่อยข้าไปเถิด อาชาง ในเมื่อท่านมิอาจทำตามสัญญาที่มีต่อข้าได้...ฝืนทนกันไปก็มีแต่ทรมาน ยิ่งนานวันยิ่งร้าวรานเกินแก้ไข ชั่วดีผสานเกิดเป็นรอยแผลปานใด ท่านรู้ดีแก่ใจ อาชาง”
“ข้าเกลียดท่าน! ข้าเกลียดคนใจร้ายเห็นแก่ตัวเยี่ยงท่าน และข้าเองก็เห็นแก่ตัวเช่นกัน ข้าไม่อาจหลอกตัวเองว่าเป็นสตรีที่ดี ไม่อาจทำตัวเป็นสตรีใจกว้างดั่งแม่น้ำอีกต่อไปแล้ว”
“ข้าหลี่ชางขอสัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดีให้เหลียนเอ๋อร์ และจะมีเพียงเหลียนเอ๋อร์คนเดียวตลอดไป”
“จริงหรืออาชาง ท่านพูดจริงหรือ?”
“ข้าก็รักท่าน ข้ารักหลี่ชางเพียงผู้เดียว ตลอดไป...”
ประโยคทั้งหลายระหว่างนางกับเขาไหลวนไปมาประหนึ่งสายธาราเชี่ยวไหล แต่กระนั้นกลับมิอาจหวนกลับคืนได้แม้เพียงหยดเดียว
เฮ่อเหลียนจากไปแล้ว นางจากไปทั้งน้ำตา ทั้งคำตัดพ้อต่อว่าและบอกรักเขาอย่างขมขื่น
“ท่านเป็นสามีนางหรือเจ้าคะ?” เสียงแหบแห้งของหมอตำแยเอ่ยถามมาทางหลี่ชางที่ยืนนิ่งค้างคล้ายแท่งศิลา
“ท่านได้บุตรชายเจ้าค่ะ” นางกล่าวอีกประโยคพร้อมอุ้มเด็กน้อยในห่อผ้าขึ้นต่อหน้าเขา
สายตาคมเข้มของหลี่ชางยังคงไม่อาจละออกจากร่างขาวซีดที่มีเลือดสีแดงฉานเปื้อนเปรอะแต่อย่างใด
การร่วมรักกับเฮ่อเหลียน เขากระทำอย่างลึกซึ้ง หวานล้ำ กระทำจากความรู้สึกรักแห่งก้นบึ้งของหัวใจไม่เคยเปลี่ยนนางไร้ทายาทแล้วอย่างไร?ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็ยังรักนาง…ทว่าบิดาของเขากลับเห็นต่าง เนื่องจากบ้านหลี่มีเขาเป็นทายาทเพียงคนเดียว ท่านเป็นห่วงเหลือเกินว่าสกุลหลี่จะดับสูญ ไร้บุตรหลานสืบสาน ผสานสองสิ่งที่ยึดถือ หนึ่งกตัญญู สองไม่เนรคุณ คำสั่งเด็ดขาดจากบิดาจึงเกิดขึ้นในที่สุด พร้อมเหตุผลที่พึงมีต่อบุพการีและบรรพชนอีกประโยคที่เสมือนฟางเส้นสุดท้ายสำหรับเขา บิดาจะปลดเฮ่อเหลียนจากการเป็นภรรยา ให้เป็นเพียงอนุของเขา ในข้อหาไร้ความสามารถ ไม่มีทายาทสืบสกุล และจะให้เขาแต่งภรรยาคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทนนั่นจึงทำให้เขายอมตามใจบิดาทุกสิ่ง ด้วยเงื่อนไขว่าขอให้เฮ่อเหลียนยังอยู่ตำแหน่งเดิม เขาขอแค่รับอนุให้ก็เท่านั้นบิดาพาเขาไปเฟ้นหาสตรีที่ดีพร้อม อันเหมาะสมกับตำแหน่งแม่ของลูกเขาจนกระทั่งได้เจอกับฟางเอ๋อร์ นางเป็นบุตรสาวของญาติฝ่ายบิดา มีสายสัมพันธ์อันดีต่อกัน นับเป็นญาติผู้น้องของเขา บ้านนี้มีลูกหลานหลายคน จึงลงตัวยิ่งนักเขามองออกว่าฟางเอ๋อร์ตกหลุมรักเขาเมื่อแรกเห็น ทว่าเขากลับมิได้ใส่ใจ แต่กระ
หญิงสาวยืนอยู่หน้าเตียงฉ่ำเลือดที่เมื่อครู่มีศพของเจ้านายอันเป็นที่รักอยู่ สายตาเลื่อนลอยมองเหม่อเอื่อยเฉื่อยไปที่ผืนผ้าบิดเบี้ยวบนคานหลังคาผ้าผืนนี้ เมื่อห้าวันก่อนหน้า ยังเป็นสิ่งที่เฮ่อเหลียนใช้ยึดเหนี่ยวเพื่อเบ่งคลอดคุณชายน้อยออกมาแต่ยามนี้ ซือจิงจะใช้มันเพื่อปลดปล่อยตนเองไปพี่ซือจิง ข้าหิวข้าวพี่ซือจิง ข้าเก่งหรือไม่พี่ซือจิง ข้ารักพี่ที่สุดเลยพี่ซือจิง ข้า...ไม่ไหวแล้ว ทรมานเหลือเกินเส้นเสียงกังวานใสในวันวาน สุดท้ายคงเหลือเพียงน้ำเสียงสั่นเครือร่ำไห้ในวันนี้โธ่เอ๋ย! เด็กดีของพี่ซือจิง...สาวใช้ผู้ภักดีไม่คิดจะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างเดียวดาย นางคิดจะตามไปดูแลนายสาวยังที่ไกลแสนไกล ไม่แม้แต่จะคิดใคร่ครวญบ้านหลังน้อยเก่าคร่ำ พลันปรากฏศพของหญิงสาวผู้หนึ่ง ตายในสภาพแขวนคอที่ขื่อเรือน…...บนเส้นทางทอดยาว สองข้างทางรกร้างว่างเปล่า มีเพียงทุ้งหญ้าเหี่ยวเฉา แห้งแล้งอ้างว้าง ไร้ชีวิตชีวาร่างสูงรู้สึกชาหนึบครั้งแล้วครั้งเล่า และยิ่งโศกเศร้าเมื่อครั้งนี้เขาตามภรรยากลับมาได้สำเร็จหากแต่นางกลับไร้ลมหายใจไม่คิดอยู่กับเขาเหมือนเช่นวันวานการเดินทางผ่านไปไม่กี่วัน หลี่ชางก็นำศพของเฮ่
สายตาคมเข้มของหลี่ชางยังคงไม่อาจละออกจากร่างขาวซีดที่มีเลือดสีแดงฉานเปื้อนเปรอะแต่อย่างใดชายหนุ่มยังคงจ้องนิ่งที่ร่างไร้ลมหายใจของเฮ่อเหลียนสตรีที่เขารักเพียงหนึ่งเดียวไม่เปลี่ยนแปลง“เหลียนเอ๋อร์” หลี่ชางทรุดตัวลงข้างกายภรรยา พยายามเรียกนางอีกครา หวังเพียงว่านางจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ตื่นขึ้นมามองเขา...จะมองด้วยสายตาอย่างไรก็ช่าง ขอเพียงนางตื่นขึ้นมาจะด่าจะว่าหรือจะเย็นชา เขาล้วนยินดี ขอแค่ชีวิตนี้ยังมีนางอยู่ ไม่หายไปหากนางแค่หนีเขาไป เขาแค่ตามกลับมา จากนั้นก็ได้อยู่ด้วยกัน นางควรเข้าใจเขา ควรเข้าใจเรื่องจารีตประเพณีพึงปฏิบัติ มิใช่ทำกับเขาเช่นนี้เหตุใดต้องทิ้งเขาไปอย่างไม่ไยดี เหตุใดไม่เข้าใจเขาหลี่ชางปิดเปลือกตาลง พยายามซ่อนหยดน้ำตาร้อนผ่าวที่หางตา ข่มความรู้สึกแตกสลายในอกอย่างยากลำบากเพราะบางที...อาจเป็นตัวเขาเองที่ไม่เข้าใจอะไรชั่วขณะที่รอบด้านเงียบงันคล้ายวังเวง เสียงร่ำไห้พลันดังขึ้นอย่างเดือดดาล“เจ้าพอใจแล้วหรือยัง เจ้าคนชั่ว!”เสียงนั้นเป็นของซือจิง นางชี้นิ้วกราดมาทางหลี่ชาง พลางอุ้มทารกน้อยในห่อผ้าส่งให้เขา“เจ้าอยากได้นักมิใช่หรือไร? นี่ปะไร ลูกชายของเจ้า”ชา
หลายเดือนทีเดียวที่หลี่ชางออกตามหาเฮ่อเหลียนอย่างบ้าคลั่งไม่กินไม่นอนเขากลับมาจากสะสางปัญหาร้านค้า ก็มาเจออนุภรรยากับมารดาของเขาทะเลาะกัน ด้วยเรื่องราวบานปลาย บุตรสาวตัวน้อยเจ็บป่วย และภรรยาเอกของเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในยามนั้น หลังเรือนของเขาจะวุ่นวายปานใด ชายหนุ่มหาได้ใส่ใจ เพราะสตรีอันเป็นที่รักได้หายตัวไปหลังจากที่นางตั้งครรภ์ลูกของเขาเศษซากยาบำรุงครรภ์ถูกพบในห้องของนาง มันถูกซุกซ่อนเอาไว้อย่างดีในมุมลับตา หากเขาไม่เข้ามาตามหาตัวนางทุกซอกทุกมุมในเรือนก็คงไม่มีทางได้ล่วงรู้จากนั้นเขาก็ออกตามหานางทั้งวันทั้งคืน ไปหานางที่บ้านเฮ่อ ที่นั่นไม่มีผู้ใดล่วงรู้ พวกเขาต่างพากันตกใจ ด้วยคาดไม่ถึงว่าเฮ่อเหลียนจะกระทำการเช่นนี้ และหนีไปทั้งที่ตั้งท้องเช่นนั้น ได้อย่างไร ทุกคนล้วนไม่เข้าใจหลี่ชางเองก็ไม่เข้าใจ เขาจึงออกตามหาภรรยาอย่างต่อเนื่อง รู้เพียงว่าซือจิงก็หายตัวไป ไม่ต้องคาดเดาก็คิดได้ ว่าเฮ่อเหลียนย่อมหนีไปกับซือจิงสาวใช้ผู้นี้ร้ายกาจไม่เบา ทำเอาเขาตามแกะร่องรอยของเฮ่อเหลียนอย่างยากลำบาก เขาตามหานางนานมาก จนเวลาผ่านไปหลายเดือน การค้าใดๆ เขาล้วนไม่ใส่ใจ คฤหาสน์จักวุ่นวายปานใด
สถานที่ลับตาจากหมู่บ้านในตัวเมืองซือจิงซุกซ่อนเฮ่อเหลียนเอาไว้ที่บ้านหลังน้อย เพื่อมิให้ชายผู้นั้นมาตามเจ้านายกลับไปได้อีก นางดูแลนายสาวอย่างยากลำบาก บางครายังต้องปลอมตัวออกไปหาซื้อยาบำรุงและอาหารมากักตุนร่างบอบบางของเฮ่อเหลียนแม้กำลังตั้งครรภ์ ทว่ากลับอ่อนแอลงเรื่อยๆซือจิงพยายามหายาบำรุงพร้อมอาหารอย่างดีมาให้เสมอ ด้วยเงินทั้งหมดทั้งของตัวเองและของคุณหนู กระทั่งขายเครื่องประดับทั้งหลายแต่ดูเหมือนว่าไม่ได้ผลแต่อย่างใดหลายเดือนผ่านไป...ในที่สุดเฮ่อเหลียนก็เจ็บท้องคลอด ร่างกายของนางอ่อนแอมาก นางนอนกรีดร้องครวญครางทั้งวันทั้งคืน ใบหน้างามมีเหงื่อผุดพรายไม่ขาดสายจวบจนย่างเข้าวันที่สี่ สีหน้าของเฮ่อเหลียนเขียวคล้ำจนน่าตกใจ กระทั่งหมอตำแยยังต้องลอบปาดเหงื่อตนเองเบาๆล่วงเข้าวันที่ห้า หญิงสาวทนทรมานแทบจะไม่ไหว ร่างกายของนางนี้บอบบางจนเกินไป หากแต่บุตรในครรภ์กลับตัวใหญ่โตเหลือเกินเส้นเสียงแหบแห้งกรีดร้องสั่นพร่า เฮ่อเหลียนทำได้เพียงหลั่งน้ำตาอย่างเจ็บปวด ร้องร่ำด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ทุกคำล้วนเรียกเพียงนามของชายในดวงใจหญิงสาวรอเพียงเขา หลี่ชาง...เฮ่อเหลียนเริ่มหมดเรี่ยวแรงลงทุกที แต่กระ
วันเวลาช่างประจวบเหมาะ ในที่สุดวันที่เฮ่อเหลียนรอคอยก็มาถึงหลี่ชางกับนายท่านผู้เฒ่าได้รับข่าวว่าหอการค้าต่างเมืองประสบปัญหา ต้องเร่งเดินทางไปกู้หน้าและช่วยกันแก้ไขโดยเร็วส่วนภายในบ้านก็มีอนุคนงามช่างเอาแต่ใจ พวกนางยังคงมีปากเสียงกันเสมอมา เดือดร้อนถึงฮูหยินผู้เฒ่าต้องคลี่คลายด้วยตนเอง เพราะเฮ่อเหลียนปิดประตูเรือนเงียบเชียบอย่างดื้อดึงไม่สนใจใครเพียงไม่นานก็ได้ยินข่าวสะเทือนขวัญ ว่าธิดาตัวน้อยของฟางเอ๋อร์เจ็บป่วยยากรักษาเมื่อภายในบ้านวุ่นวายจนบ่าวรับใช้ไม่เป็นอันทำงาน อีกทั้งมีบ่าวไพร่ถูกนายท่านพาไปนอกบ้านเสียส่วนใหญ่ นับได้ว่าหนทางช่างปลอดโปร่งโล่งสบายยิ่งนักเฮ่อเหลียนไม่คิดว่าจะมีโอกาสงามๆ เช่นนี้อีกแล้วนางจึงไม่คิดจะเสียเวลาไตร่ตรองอันใด วันนี้นับได้ว่าเป็นวันดีที่นางจะหนีออกไปจากนรกในใจแห่งนี้เสียทีก่อนหน้าเมื่อไม่นาน หญิงสาวแอบหาโอกาสส่งจดหมายไปหาซือจิง และก็ได้รับการตอบกลับมาแล้วเป็นอย่างดีไม่มีผู้ใดล่วงรู้เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนบ้านเฮ่อ หรือคนบ้านหลี่ นางล้วนไม่ยินดีให้ผู้ใดรู้ทั้งสิ้นเฮ่อเหลียนพาร่างระหงที่หน้าท้องเริ่มกลมนูนออกมาจากคฤหาสน์ด้วยประตูเล็กทางด้านหลังได้ส