Share

ตอนพิเศษ

last update Last Updated: 2025-04-30 13:46:09

“เจ้าขันทีมานี่หน่อย” เจียเฟยวิ่งพรวดเข้ามาชนเข้ากับร่างสูงของม่อเฉวียนเต็มเปา

“ซุ่มซ่าม” คว้าแขนเล้กแต่พอนึกได้ก็ปล่อยให้เจียเฟยล้มลงกับพื้นก้มจ้ำเบ้าแต่เจียเฟยก็ยังลุกขึ้นยืนยิ้ม อยู่ตรงหน้า

“ฝะฝะฝ่าบาทมีเรื่องใดให้เสี่ยวเฟยรับใช้ดูแลปกป้องและ ช่วยเหลือ” ม่อเฉวียนถอนหายใจ เจ้านี่พูดมากเสียจริง

“นอนที่นั่นนอนตรงนั้นเหมือนที่เฉินกงเคยนอน” ชี้มือไปที่แท่นนอนอีกอันที่ต่ำกว่า ข้างข้างผนังห้องกว้าง

“ได้ขอรับ”

“ไปขนเอาเครื่องนอนของเจ้ามาเจ้าขันที”

"ไม่ต้องบอกหรอกขอรับเรื่องนั้นเจียเฟยจะต้องไปเอาเครื่องนอนมาแน่เพราะฝ่าบาทคงไม่มีน้ำพระทัยที่เปี่ยมล้นยอมมอบเครื่องนอนอันสวยงามและหอมกรุ่นของฝ่าบาทให้กับเสี่ยวเฟยแน่ๆ”

“เจ้านี่ รีบไปหัดสงบคำเสียบ้าง”

เจียเฟยวิ่งแน่บ

“มาแล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาทเสี่ยวเฟยมาแล้ว” ม่อเฉวียนขมวดคิ้วคม

“มาแล้วก็ไปนอน” คลี่ผ้าห่มห่มคลุมร่างบาง แหมแท่นนอนของเฉินกงกงนี่นุ่มเสียจริง

“ขอรับแต่เอาเข้าจริงๆ นะขอรับฝ่าบาทก็อายุตั้ง22ปีแล้วทำไมไม่หัดนอนเพียงลำพังหรือหาสนมนางในมานอนร่วมแท่นนอนจะได้ไม่ต้องอ้างว้างลำพังเช่นนี้”

“เจ้าหยุดพูดได้แล้ว”

“นั่นสินะฝ่าบาทนี่ก็แปลกเป็นถึงฮ่องเต้จะหาหญิงงามสักกี่คนก็ๆ ได้แต่กลับไม่เลือกใครหรือว่าจะเป็นเหมือนคนเขาพูดกันนะ ว่าฝ่าบาททรงชื่นชอบ…..อุ๊ป” รีบเอามืออุดปากตัวเองเมื่อรู้ว่าพูดมากไปล่ะ

“เอาล่ะออกไปนอนข้างนอกข้ารำคาญ เจ้าที่พูดมาก” ม่อเฉวียนลุกขึ้นเดินมาลากเอาเจียเฟยติดมือมาด้วยก้าวเดินไปยังประตูทางเข้าออกตั้งใจจะโยนคนตัวเล็กออกไปแต่ทว่า

“ฝ่าบาทข้างนอกนั่นมันหนาว” กอดแขนม่อเฉวียนไว้แน่น

“ไหนใครๆ ก็ต่างพูดกันว่าฝ่าบาทพระทัยดีที่สุด เฉินกงกงก็บอกข้าน้อยอย่างนั้นแล้วทำไมตอนนี้ฝ่าบาทกลับจะใจร้ายให้เสี่ยวเฟยออกไปนอนตากหิมะด้านนอกพระทัยร้ายเสียจริง”

“คงจะได้ยินมาผิดแล้วเจ้านี่นอกจากไม่ได้เรื่องแล้วยังชอบเอาเรื่องที่คนอื่นครหาข้ามาทำให้ข้าหนักใจ ออกไปข้างนอกนอนเฝ้าที่หน้าห้องข้านั่นแลหะดีแล้วข้าจะได้ไม่ต้องฟังคำพูดเหลวไหลชวนปวดหัวของเจ้า” เจียเฟยยังกอดแขนม่อเฉวียนไว้แน่นอีกคนยิ้มเย็น แกะมือเล็กออกช้าๆ ยิ้มเย็นนั่นบาดเข้าไปในหัวใจของเจียเฟยที่สีหน้าตื่นกลัว

“นอนเฝ้าที่นี่นี่คือบัญชาข้า”

ปิดประตูอย่างแรง เจียเฟยกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น

ทรุดกายลงพิงประตูห้องกอดอกแน่น 

“หนาวจัง แต่ช่างเถอะไม่เป็นไรเมื่อก่อนอยู่บ้านนอกกับแม่ไม่เป็นจะได้สบายแบบนี้หนาวกว่านี้อีก เจียเฟยเอ๊ยเจียเฟยอย่าทำสำออยนักเลย” หลับตาลงช้าๆ กัดฟันข่มความหนาว

ดึกสงัด ยิ่งหนาวหนาวจนตัวสั่นกอดอกแน่นพิงประตูหลับไปเพราะความหนาว

ม่อเฉวียนนอนพลิกตัวไปมาป่านนี้แล้วเขายังนอนไม่หลับ เจ้าเด็กนั่นจะนอนแบบไหนกัน 

ช่างเถอะก็เรื่องของขันทีนั่น ไม่ได้สิอาจขัดบัญชาเขาหนีกลับไปนอนที่ห้องอุ่นสบายไปแล้ว ไม่สิหากเจ้าทึ่มนั่นยังนอนตากลมหนาวแล้วหากตายไป เขาไม่รู้สึกผิดจนตายหรือ ช่างเถอะนอนเสียม่อเฉวียน แต่ไม่ได้ เจ้านั่นอาจกำลังแช่งเขาหรือบ่นเขาอยู่ก็ได้ถือว่าเขาไม่ได้ยินเจ้านั่นคงบ่นเขาน่าดูอาจแช่งชักเขาด้วย

“ผัวะ” เปิดประตูออกไป ร่างเล็กที่ล้มลงกับพื้น ม่อเฉวียนนั่งลงเขย่าตัวเจียเฟยเบาๆ

“อือออออ ท่านแม่หนาวจังเมื่อไหร่จะผ่านคืนนี้ไปเสียที ท่านบอกจะเก็บฟืนหาเงินซื้อผ้าห่มนี่พรุ่งนี้เจียเฟยช่วยท่านเก็บฟืนไปขายซื้อผ้าห่มกันหนาวกันเถอะ” ม่อเฉวียนส่ายหน้าไปมา

“ตื่นได้แล้วแล้วเข้าไปนอนในห้อง หากมาตายตรงนี้ข้าจะถูกครหา”

ม่อเฉวียนบ่นพึมพำจะว่าไปกว่าจะรู้ใจกันมันก็นานไม่น้อยอย่างเฉินกงกงที่เขาก่อนหน้านั้นก็ไม่พอใจเฉินกงกงหลายเรื่องแต่มาบัดนี้ถึงได้รู้ว่านานเข้าคนเราก็จะปรับเข้าหากันเอง เจ้าขันที นี่ถึงจะไม่ดีหลายอย่างแต่อย่างน้อยก็ไม่ทำให้เขาเหงา ถึงจะปากพล่อยไปหน่อยก็เถอะ แค่ลดการพูดจาเรื่อยเปี่อยลงได้บ้างเจ้านี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร

“ลุกซี้” เจียเฟยพลิกตวันอนหงายเหยียดยาวแต่ยังนอนสั่นสะท้านอยู่แบบนั้น ม่อเฉวียนฉุดแขนเล็ก เจียเฟยกับขืนตัวไว้ทำให้ม่อเฉวียนไม่ทันระวังล้มลงไปทาบทับร่างเย็นเฉียบบนพื้นเจียเฟยที่หนาวๆ ก็ยกมือขึ้นกอดร่างอุ่นไว้แน่นเกลือกกลิ้งใบหน้าใสกับอกกว้าง

“อุ่นจัง” หลับตาพลิ้ม ม่อเฉวียนลืมว่าต้องลุกขึ้นปล่อยให้เจียเฟยกอดแบบนั้นจ้องมองใบหน้าที่หลับตานิ่งขนตางอนงามริมฝีปากรูปกระจับอวบอิ่ม เผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเอง

ก่อนจะคิดได้

“นี่เจ้า เสี่ยวเฟยเจ้าขันทีโง่งมตื่นได้แล้ว” เปล่งเสียงดังลั่น เจียเฟยลุกขึ้นนั่งหันหน้าหันหลังแล้วลุกขึ้นยืนเต็มตัว

“ฝะฝะฝ่าบาทเกิดอะไรขึ้น”

“เข้าไปนอนข้างในกับข้า ที่นี่มันหนาว” เจียเฟยอมยิ้ม มองตามแผ่นหลังผึ่งผายของม่อเฉวียนก้าวเดินตามไปติดๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ขันทีเจ้าเล่ห์กับฮ่องเต้เฉยชา   ตามหมอหลวง

    "ไม่ต้องตาม"มู่เฉวียนตวาดไล่หานตงยังคงขยับตัวตามทีละนิด"ข้ารู้ดีว่าตำหนักข้าอยู่ที่ไหนไม่จำเป็นต้องให้องครักษ์ต่ำชั้นมาส่งยังตำหนัก""ฝ่าบาทกลัวว่าองค์หญิงจะไม่ยอมกลับไปที่ตำหนัก"อ้างม่อเฉวียน"นั่นมันเรื่องของข้า หานตงท่านไปเสียขอร้อง"หานตงส่ายหน้าไปมา"หานตงอยากจะบอกองค์หญิงว่า ขันทีเสี่ยวเฟยเขาเป็นชายแค่เพียงตัว แต่หัวใจนั่นเล่าเจ้าไม่กลัวว่าจะโดนเขาล่อหลอกเอาหรือ องค์หญิงเคยได้ยินเรื่องเล่าของฝ่าบาทหรือไม่"พยายามจะชี้ให้เห็นว่า เจียเฟยกับม่อเฉวียนมีอะไรบางอย่างที่เหมือนเรื่องเล่าเกินจริงนั้น ก็เขาห่วงมู่เฉวียนนี่ ถึงไม่ไม่เกลียดเจียเฟยและยังถุกชะตาเจียเฟยเสียด้วยซ้ำแต่ถ้าเป็นเรื่องของมู่เฉวียนเขาไม่มีทางยอม"อย่ามาปักปำพี่ใหญ่ข้านะพี่ใหญ่ยังคงชอบหญิงงาม" มู่เฉวียนหันมาจ้องหานตงเต้มตาตั้งใจเอาเรื่องแบบนี้แหละที่หานตงต้องการ ได้ขัดใจนางได้เห็นท่าทีโกรธเกรี้ยวของนางนี่เขาเป็นอะไรมากไปหรือเปล่า"ข้าน้อยเห็นกับตาว่า ฝ่าบาทอุ้มขันทีน้อยผู้นั้น แล้วยามที่ฝ่าบาทมองขันทีน้อยผู้นั้นสายตาของฝ่าบาท.."ยังยังไม่ยอมหยุดมู่เฉวียนเลือดขึ้นหน้าตรงเข้าผลักหานตงอย่างแรงแต่หานตงกับดึงเอาร่างเล็กข

  • ขันทีเจ้าเล่ห์กับฮ่องเต้เฉยชา   ตัดแขนเสื้อ

    ตำหนักไทเฮา“เป็นอย่างไรบ้างฝ่าบาทกับขันทีคนใหม่”“มีแต่เสียงกรีดร้องเพคะ” หรูหราน เอ่ยปากยิ้มๆไทเฮาวางถุงหอมที่เลือกหยิบมาดูทีละอันลงในถาด ถอนหายใจยาว“เฉวียนเอ่อร์ ที่ข้ากลัวคือเขานิยมบุรุษ มาบัดนี้จึงอยากจะลองใจ หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลคงต้องเปลี่ยนตัวขันทีเสีย”“ยังไม่มีอะไรเพคะ”ก้มหน้าหลบตาจะว่าไปเสี่ยวเฟยก็น่าเอ็นดูหลังจากพูดคุยกันเมื่อวาน จึงรู้ว่าเสี่ยวเฟยเองลำบากไม่น้อย กว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้หากจะถูกปลดจากตำแหน่งขันทีข้างกายเพราะความชอบส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ก็คงไม่ยุติธรรมนัก“เอาล่ะเจ้าไปเถิดไปคอยจับตามองฮ่องเต้แทนข้า แล้วอย่าลืมนำเรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนักของเฉวียนเอ่อร์มาเล่าให้ข้าฟัง”หรูหรานย่อกายจากไป“ควรทำอย่างไร” เอ่ยปากกับนางกำนัลข้างกาย“จะทำสิ่งใดได้ คงต้องคัดสรรหญิงงามมาให้ฝ่าบาทดูตัวเช่นเคยที่ผ่านมา ไทเฮาทรง ลองใจฝ่าบาทโดยการส่งขันทีร่างอ้อนแอ้นหน้าตาหวานละมุนยิ่งจะทำให้ฝ่าบาทจิตใจไหวเอน อีกอย่างหากเป็นอย่างเรื่องเล่าจริง คนที่จะลำบากใจที่สุดก็คือไทเฮา เคยมีเรื่องเล่าขานเมื่อนานมาว่าขันทีมักจะเหนือบัลลังก์ ยามที่ฝ่าบาท ยอมเชื่อใจ ไทเฮาไม่กล้ากดดันฝ่าบาทเรื่องหญิงท

  • ขันทีเจ้าเล่ห์กับฮ่องเต้เฉยชา   ตอนพิเศษ

    “เจ้าขันทีมานี่หน่อย” เจียเฟยวิ่งพรวดเข้ามาชนเข้ากับร่างสูงของม่อเฉวียนเต็มเปา“ซุ่มซ่าม” คว้าแขนเล้กแต่พอนึกได้ก็ปล่อยให้เจียเฟยล้มลงกับพื้นก้มจ้ำเบ้าแต่เจียเฟยก็ยังลุกขึ้นยืนยิ้ม อยู่ตรงหน้า“ฝะฝะฝ่าบาทมีเรื่องใดให้เสี่ยวเฟยรับใช้ดูแลปกป้องและ ช่วยเหลือ” ม่อเฉวียนถอนหายใจ เจ้านี่พูดมากเสียจริง“นอนที่นั่นนอนตรงนั้นเหมือนที่เฉินกงเคยนอน” ชี้มือไปที่แท่นนอนอีกอันที่ต่ำกว่า ข้างข้างผนังห้องกว้าง“ได้ขอรับ”“ไปขนเอาเครื่องนอนของเจ้ามาเจ้าขันที”"ไม่ต้องบอกหรอกขอรับเรื่องนั้นเจียเฟยจะต้องไปเอาเครื่องนอนมาแน่เพราะฝ่าบาทคงไม่มีน้ำพระทัยที่เปี่ยมล้นยอมมอบเครื่องนอนอันสวยงามและหอมกรุ่นของฝ่าบาทให้กับเสี่ยวเฟยแน่ๆ”“เจ้านี่ รีบไปหัดสงบคำเสียบ้าง”เจียเฟยวิ่งแน่บ“มาแล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาทเสี่ยวเฟยมาแล้ว” ม่อเฉวียนขมวดคิ้วคม“มาแล้วก็ไปนอน” คลี่ผ้าห่มห่มคลุมร่างบาง แหมแท่นนอนของเฉินกงกงนี่นุ่มเสียจริง“ขอรับแต่เอาเข้าจริงๆ นะขอรับฝ่าบาทก็อายุตั้ง22ปีแล้วทำไมไม่หัดนอนเพียงลำพังหรือหาสนมนางในมานอนร่วมแท่นนอนจะได้ไม่ต้องอ้างว้างลำพังเช่นนี้”“เจ้าหยุดพูดได้แล้ว”“นั่นสินะฝ่าบาทนี่ก็แปลกเป็นถึงฮ่องเต้

  • ขันทีเจ้าเล่ห์กับฮ่องเต้เฉยชา   ปกป้องคุ้มครองตายแทน3

    "วางตะเกียบได้แล้ว แล้วเตรียมน้ำชา"ม่อเฉวียนหันกลับมาสีหน้าเรียบเฉย เสี่ยวเฟยกุลีกุจอ รินชาใส่จอกยกกระดกรวดเดียวหมดจอก ปากคาบจอกชาไว้แน่น ม่อเฉวียนส่ายหน้า"เครื่องเสวยอร่อยพร้อมชารสดีถูกทดสอบพิษเป็นที่เรียบร้อยเชิญฝ่าบาทเสวยได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ"ทำเสียงขึงขังดวงตาเป็นประกายถ้าไม่เกรงใจคงยกมือลูบท้องที่อิ่มแน่น"ข้าให้เจ้าเตรียมชา มิได้ให้สวาปามชาของข้า"น้ำเสียงราบเรียบดังผิวน้ำคราไร้ลมไล่"อ่า ฝ่าบาทคิดว่าคนที่ปองร้ายเปิดกาน้ำชาไม่เป็นหรือไร""ไปยืนตรงนั้น"ไล่เอาเสียดื้อๆ หิวจนไส้กิ่วแต่กลายเป็นว่าเจ้าขันทีหนุ่มหิวเสียกว่า แต่อิ่มก่อนเขาขืนต่อปากต่อคำเจ้าขันทีหนุ่มอยู่แบบนี้เขาคงฟังเสียงท้องไส้ของตัวเองคร่ำครวญเป็นกู้เจิ้งสายขาด หยิบตะเกียบคนไปบนเครื่องสวยที่มักจะเอาของดีดีวางไว้ข้างหน้า แต่บัดนี้เจียเฟยคีบใส่ปากไปจนสิ้น ถอนหายใจยาว อย่างไรก็ต้องกิน"แค่ก ๆ แอ่กๆ "เจียเฟยรินชาส่งให้ม่อเฉวียน"ฝ่าบาทไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้พ่ะย่ะค่ะ เครื่องเสวยไม่ได้มีขาหนีไปไหนไม่ได้อย่างไรก็ได้กิน""ตกลงแล้วเป็นข้าที่ผิดใช่ไหม""เสียเฟยแค่จะบอกว่าอาหารรสดีต้องค่อยๆ ละเลียดชิม จึงจะลิ้มรสอาหารได้อย่าง

  • ขันทีเจ้าเล่ห์กับฮ่องเต้เฉยชา   ปกป้องคุ้มครองตายแทน2

    “เสี่ยวเฟย เจ้ากำลังจะทำอะไร” ขมวดคิ้วเข้าหากัน สายตาแสดงความสงสัยและไม่พอใจอย่างที่สุด ภาพตรงหน้าคือเจียเฟยที่ กอดเอวหรูหรานไว้แนบแน่นจากด้านหลัง“เจ้าสองคน …” อ้าปากกว้างคิ้วคมขมวดเข้าหากัน เจ้าขันทีนี่มาวันแรกก็สร้างวีรกรรมเลยหรือไร“ฝ่าบาท ในห้องนี้มี แมงมุมตัวใหญ่ขันทีคนใหม่ กลัวเจ้าแมงมุมนั่น”หรูหรานละล่ำละลักอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น เจียเฟยหันกลับมา มองม่อเฉวียนที่มีสีหน้าเข้มดุ“เลยเวลาเสวยเที่ยงของข้าแล้ว” เจียเฟย ประสานมือก้มหน้า“ข้าน้อยจะยกเครื่องเสวยเดี๋ยวนี้” วิ่งออกจากห้องไปในทันที“นี่คือสาเหตุที่ข้าไม่อยากรับขันทีท่าทีกึ่งหญิงกึ่งชาย เพราะแม้แต่แมงมุมยังกลัว”หรูหรานย่อกายเดินออกจากห้องไป ม่อเฉียนสำรวจหาตัวแมงมุมก่อนจะจับมันไว้ แล้ว โยนออกนอกห้องไป ส่ายหน้าไปมาเจียเฟยยกถาดเครื่องเสวยที่มีเครื่องเสวยมากมาย พร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นว่าเครื่องเสวยทั้งหอมทั้งน่าลิ้มรสในนั้น นางกำนัลอีกสองคนก็ยกเครื่องสวยตามมาอีกสองถาดใหญ่ๆวางเครื่องเสวยตรงหน้า นางในห้องเครื่องวางเครื่องสวยก่อนจะย่อกายจากไป“ฝ่าบาทเครื่องสวยมาแล้ว” ม่อเฉวียนยังนิ่ง“ฝะฝ่าบาทเครื่องเสวยมาและพ่ะย่ะค

  • ขันทีเจ้าเล่ห์กับฮ่องเต้เฉยชา   ปกป้องคุ้มครองตายแทน

    “กงกงหมดหน้าที่ท่านแล้ว ขอบคุณที่อยู่ร่วมกันมายี่สิบสองปี” ราวกับพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในการกล่าวลาขันทีอาวุโสผู้ที่รับใช้ใกล้ชิดมาตลอดขันทีชราปาดน้ำตาปรอยๆยี่สิบสองปีกับใบหน้าหล่อเหลา อีกทั้งยังดูอ่อนกว่าวัย เจียเฟยยกท่อนแขนตัวเองขึ้นมาดูผิวคล้ำแดดกับมือหยาบกระด้าง เจียเฟยเป็นหญิงแท้ๆ ยังไม่ขาวสะอาดเรียบเนียนเหมือนผิวกายของม่อเฉวียน เทียบไม่ติดกันเลยทีเดียว“เจ้าชื่อแซ่ว่าอย่างไร” ขันทีอาวุโสถามขึ้นเบาๆ ทำความรู้จักกันไว้ ในเมื่อวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วสิ่งเดียวที่อยากทำคือการสั่งเสียขันทีหนุ่มน้อยให้ภักดีต่อม่อเฉวียนที่ขันทีชราดูแลมาตลอด“แซ่เจีย นามว่าเฟย” ม่อเฉวียน เอามือไพล่หลัง มองออกนอกหน้าต่างไม่สนใจว่ากงกงจะพูดอะไรกับเจียเฟย“อาเฟย ไม่สิเสี่ยวเฟย เจ้าต้องดูแลฝ่าบาทให้ดี ฝ่าบาทนิยมนอนตื่นแต่เช้า จิบชาอุ่นๆ และเสวยอาหารที่รสไม่จัดนัก” เจียเฟยประสานมือก้มหน้านิ่งน้อมรับคำสั่งสอนจากผู้ที่ได้ชื่อว่ารุ้ใจนายคนใหม่ของเจียฟยที่สุด“ยี่สิบสองปีข้านอนข้างๆ นั่น”ชี้มือไปที่ผนังห้องเจียเฟยกระแอมเบาๆ ปรับเสียงให้ทุ้ม“ขอรับ” ม่อเฉวียนหันขวับกลับมาทันที“พูดใหม่สิ” น้ำเสียงกระตุก“ขะ

  • ขันทีเจ้าเล่ห์กับฮ่องเต้เฉยชา   ลูกรับไว้เอง

    เจียเฟย สวมอาภรณ์ชุดขันทีสวมหมวกขันทีเปิดเผยใบหน้าที่จะว่าหล่อเหลา หรืออ่อนหวานก็ไม่อาจแยกแยะในเมื่อคิ้วดกวาดยาวบนใบหน้า ริมฝีปากรูปกระจับหยักสวย กับดวงตาคมพอสวมหมวกขันทีแล้วไม่อาจแยกแยะว่าหญิงหรือชาย อกนุ่มถูกรัดด้วยผ้าฝ้ายดิบจนแบนราบเอวกิ่วไม่ได้ดึงสายรัดเอวให้ตึงแน่นยังปล่อยให้ชายอาภรณ์ทิ้งตัวลงมาคลุมทับกางเกงสีเดียวกันนั้น ไม่บอกใครจะรู้ว่าเจียเฟยคือหญิงอายุ18ที่ลักลอบเข้ามาในวังหลวงในตำแหน่งขันทีฝึกหัด แต่ละคนใบหน้าหมดจด เมื่อสวมอาภรณ์ขันทีล้วนมองไม่ต่างกัน เจียเฟยจะทำอย่างไรได้ในเมื่อครอบครัวทุกข์เข็ญ อดมื้อกินมื้อ ขันทีในวังหลวงเองก็ตุ้งติ้งไม่ต่างกันกับหญิงงาม เช่นนั้นปรับท่าทีเสียหน่อยก็พอจะ ถูไถไปได้“ขันทีฝึกหัดทั้งหลายยยย วันนี้ฝ่าบาทจะทรงคัดเลือกขันทีคนใหม่หลังจากที่กงกงที่ชรายิ่งไม่อาจรับใช้เบื้องยุคลบาทได้อีกแล้ว พวกเจ้าโชคดีเข้ามาในเวลาที่เหมาะสมมีโอกาสไต่เต้าได้รับตำแหน่งพิเศษ”“หวังว่าคนที่ได้รับคัดเลือกจะทำหน้าที่ให้ดี เพราะนั่นหมายถึงความสุขสบายชั่วชีวิตของเจ้า และวันนี้พวกเจ้าอาจได้คารวะข้าเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปอาจเป็นข้าที่ต้องพึ่งพาพวกเจ้า"เจียเฟยสูดลมหายใจเข้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status