ตำหนักไทเฮา
“เป็นอย่างไรบ้างฝ่าบาทกับขันทีคนใหม่”
“มีแต่เสียงกรีดร้องเพคะ” หรูหราน เอ่ยปากยิ้มๆ
ไทเฮาวางถุงหอมที่เลือกหยิบมาดูทีละอันลงในถาด ถอนหายใจยาว
“เฉวียนเอ่อร์ ที่ข้ากลัวคือเขานิยมบุรุษ มาบัดนี้จึงอยากจะลองใจ หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลคงต้องเปลี่ยนตัวขันทีเสีย”
“ยังไม่มีอะไรเพคะ”
ก้มหน้าหลบตาจะว่าไปเสี่ยวเฟยก็น่าเอ็นดูหลังจากพูดคุยกันเมื่อวาน จึงรู้ว่าเสี่ยวเฟยเองลำบากไม่น้อย กว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้หากจะถูกปลดจากตำแหน่งขันทีข้างกายเพราะความชอบส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ก็คงไม่ยุติธรรมนัก
“เอาล่ะเจ้าไปเถิดไปคอยจับตามองฮ่องเต้แทนข้า แล้วอย่าลืมนำเรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนักของเฉวียนเอ่อร์มาเล่าให้ข้าฟัง”หรูหรานย่อกายจากไป
“ควรทำอย่างไร” เอ่ยปากกับนางกำนัลข้างกาย
“จะทำสิ่งใดได้ คงต้องคัดสรรหญิงงามมาให้ฝ่าบาทดูตัวเช่นเคยที่ผ่านมา ไทเฮาทรง ลองใจฝ่าบาทโดยการส่งขันทีร่างอ้อนแอ้นหน้าตาหวานละมุนยิ่งจะทำให้ฝ่าบาทจิตใจไหวเอน อีกอย่างหากเป็นอย่างเรื่องเล่าจริง คนที่จะลำบากใจที่สุดก็คือไทเฮา เคยมีเรื่องเล่าขานเมื่อนานมาว่าขันทีมักจะเหนือบัลลังก์ ยามที่ฝ่าบาท ยอมเชื่อใจ ไทเฮาไม่กล้ากดดันฝ่าบาทเรื่องหญิงที่จะมาเป็นฮองเฮาคราวนี้ไทเฮาลอง กดดันฝ่าบาทเสียหน่อยดีไหมเจ้าคะ”
“ส่งเทียบเชิญคุณหนูจากตระกูลขุนนางทั่วแคว้น ส่งเข้ามาให้ฝ่าบาทดูตัวในวังกลวง”นางกำนัลข้างกายยิ้ม
ตำหนักใหญ่
ม่อเฉวียนก้าวเดินออกจากห้อง เจียเฟยขยับตัวตามไปมองตามแผ่นหลังเช่นเคย มือบางเหมือนอิสตรี ไพล่หลังไว้ อย่างคนที่ถือตัวร่างสูงใบหน้าเชิดหยิ่ง ทว่าหล่อเหลา
“โอ๊ะ”
ชนเข้ากับร่างสูงอย่างไม่ทันระวังเพราะมัวแต่จินตนาการ ไปถึงใบหน้าที่หล่อเหลาของคนข้างหน้า มือใหญ่ข้างหนึ่งคว้าแขนเล็กไว้
“เดินระวังหน่อย”
ดอกเหมยเจ้ากรรมถูกลมพัดผ่านหลุดร่วงลงมา ตรงหน้าคนทั้งสองดวงตาของคนทั้งคู่ประสานกันในทันที
“ฝ่าบาทนึกจะหยุดก็หยุดใครกันจะเดาใจถูก”บ่นพึมพำก้มหน้าเสีย
สายตาพิฆาตของม่อเฉวียนน่ากลัวยิ่งนัก
“เจ้าเดินมาชนข้าเอง อีกทั้งยังเดินไม่ระวัง แบบนี้เป็นข้าที่ผิดอีกแล้วใช่ไหม”
ปล่อยมือออก ปล่อยให้เจียเฟยเซถลา
“เดินแบบนี้ คราวหลังก็จะถูกชนร่ำไป”
บ่นเบาๆ หน้าเง้า ม่อเฉวียนหันมาดวงตาคมกริบก่อนจะเอื้อมมือคว้าคางมนบีบไว้แน่น
“ข้าว่าเจ้ามีท่าที ….แสนงอนเหมือนหญิงงามเลือกได้ ข้าว่าข้าจะส่งเจ้าไปตรวจร่างกายอีกครั้ง”
เจียเฟยตาโต ยกมือประสานกันตรงหน้า ก้มศีรษะลง
“ฝ่าบาท ได้โปรดอย่าส่งเสี่ยวเฟยไปเลย ต่อไปเสี่ยวเฟยไม่กล้าแล้วก็แค่เป็นห่วงฝ่าบาทหากเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ก็จะถูกชนร่ำไปเสี่ยวเฟยแค่ห่วงใย”
“ไม่มีใครกล้าชนข้ามีเพียงเจ้าที่เซ่อซ่า หลอกด่าข้ายังบอกว่าห่วงใย ไปได้แล้วเดินนำไปเลย เดินตามเดี่ยวเจ้าก็เผลอชนข้าอีก”
“ชนนิดชนหน่อยก็ไม่ได้”
“ พี่ใหญ่ญญญญญญญญญ"
เสียงเล็กแหลมขององค์หญิงมู่เฉวียนดังลั่นมาจากด้านหลัง เจียเฟยหันหน้ามาก่อนจะขยับกายถอยห่างประสานมือก้มหน้า
“โอะขันทีคนใหม่”เดินมามองสำรวจเจียเฟยจนครบสามรอบ
“พี่ใหญ่ นี่มันไม่สิเจ้า เป็นผู้หญิงใช่ไหม”ม่อเฉวียนขมวดคิ้ว
“พี่ใหญ่แอบซุกหญิงงามไว้ในตำแหน่งขันที”
เจียเฟยส่ายหน้าทำไมความลับจึงถูกเปิดเผยได้ง่ายดายเพียงนี้
“เจ้ากำลังเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่ามู่เฉวียน การคัดตัวขันทีฝึกหัด มีความรัดกุมมากไม่มีทางที่จะมีสตรีเล็ดลอดเข้ามาได้” มู่เฉวียนยิ้ม
“ข้าจะพิสูจน์ให้ท่านเห็น นางเป็นหญิง”ยิ้มมุมปาก
ขยับเข้าใกล้เจียเฟยเอื้อมมือตั้งใจจะบีบอกนุ่มที่รัดด้วยผ้าฝ้ายดิบไว้
เจียเฟยเหลือบตามองมู่เฉวียน เอาวะเป็นไงเป็นกันดีกว่าความลับแตก ก่อนจะคว้าเอวเล็กเอนกายของมู่เฉวียนลงใช้มืออีกข้างรับแผ่นหลังไว้ ประกบริมฝีปากของตัวเองกับปากบางของมู่เฉวียนไว้แน่น มู่เฉวียนตกใจอย่างที่สุดแต่ภายในใจกับรู้สึกประหลาด จ้องหน้าขาวของเจียเฟยนิ่งตาสบตา
ม่อเฉวียน จ้องมองริมฝีปากอิ่มกดปิดริมฝีปากของมู่เฉวียนรู้สึกว่าโมโหจนเลือดขึ้นหน้า กับสิ่งที่เจียเฟยทำ มือไวเท่าความคิดดึงคอเสื้อของเจียเฟยออกห่างมู่เฉวียนแววตาถมึงทึง ผลักเจียเฟยลงไปกองกับพื้น
“เจ้านี่บังอาจนัก กล้าล่วงเกินองค์หญิงเชียวหรือ องครักษ์นำตัวขันทีผู้นี้ไปโบยห้าสิบไม้”
มู่เฉวียน ทรุดกายลงกับพื้น
“พี่ใหญ่ม่ายยยย ไม่อย่าทำเขา”
กางมือขวางเจียเฟยที่ทรุดกายลงก้มหน้านิ่ง
“เขาล่วงเกินเจ้า โบยเขาแล้วข้าจะปลดเขาจากขันทีข้างกายเสีย”
“พี่ใหญ่เป็นข้าที่หาเรื่องเขาเอง พี่ใหญ่หากจะลงโทษเขา ลงโทษข้าเถิด”
“มู่เฉวียนแต่เกียรติของเจ้าสำคัญยิ่ง เขาแค่เพียงขันที”
“พี่ใหญ่ หากข้าจะบอกว่าข้าชอบเขาเล่า ท่านจะใจดำทำร้ายคนที่ข้าชอบได้หรือ”
เจียเฟยอ้าปากค้าง ม่อเฉวียนถอนหายใจยาว
“พบกันครั้งแรกเจ้าก็บอกว่าชอบเขาแล้วหรือ”
“พี่ใหญ่ ข้าชอบเขาจริงๆ หากท่านกล้าทำอะไรเขาข้าจะยอมตาย"
มู้ฉวียนดึงมีดสั้นที่พกติดตัวออกมากำไว้
"องค์หญิงส่งมีดมาให้ข้าน้อย"เจียเฟยรู้สึกผิดที่ทำให้เกิดเรื่อง
เจียเฟยสีหน้าตื่นกลัวแต่ก็ต้องแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า หานตงวิ่งเข้ามารวบร่างบางบิดข้อมือมู่เฉวียน จนมีดร่วงลงกับพื้น มู่เฉวียนฟาดมือลงบนใบหน้าของหานตง
ม่อเฉวียนถอนหายใจ หานตงลูบแก้มปอยๆ
"เจ้าองครักษ์ถ่อยบังอาจแตะตัวข้า"
แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วม่อเฉวียนเข้าใจในทันที คนหนึ่งจูบปากไม่ยักโกรธกับร้องขอชีวิตแทนเขาอีกคนช่วยชีวิตกับถูกฟาดด้วยฝ่ามือ
"ข้าไม่กล้าล่วงเกินเขาแล้ว เจ้าวางใจเถิดมู่เฉวียน แล้วต่อไปอย่าเอาชีวิตตัวเองมาต่อรองกับข้าเพื่อขันทีต่ำชั้นคนหนึ่งแบบนี้ เสี่ยวเฟยตามข้ามา หานตงส่งองค์หญิงกลับตำหนัก"
"ฝะฝ่าบาทเสี่ยวเฟยอยากอธิบาย"
"ไม่จำเป็นจะต้องอธิบายอะไรอีกแล้ว มู่เฉวียนปกป้องเจ้าเพียงนั้น นางยังเด็กไม่อาจแยกแยะว่าใครดีร้ายเจ้าล่วงเกินนาง ให้นางอับอายต่อหน้าคนอื่น นี่คือสิ่งที่ข้าไม่เข้าใจว่านางทำไมปกป้องเจ้า"
"เสี่ยวเฟย ทำไปเพราะเสี่ยวเฟย...เสี่ยวเฟยมีเหตุผลเมื่อถึงวันนั้นฝ่าบาทจึงจะเข้าใจ"
ม่อเฉวียนอึ้ง ปกติเสี่ยวเฟยมักจะชักแม่น้ำทั้งห้า หาเหตุผลมาอธิบายกับเข้าทำไมเรื่องนี้จึงพูดเพียงสั้นๆ
"ช่างเถอะข้าเอ็นดูองค์หญิงกว่าใคร ต่อไปข้าขอร้องเจ้าช่วยข้าทำให้นางรู้ว่าเจ้ากับนางไม่คู่ควร ความจริงเรื่องรักใคร่ในวังหลวงก็เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่มู่เฉวียนยังเด็ก ข้าขอร้องเจ้าอย่าหลอกลวงนางแอบกินเต้าหู้นางก็พอ เพราะเจ้าเองก็ให้ความสุขกับนางไม่ได้ในเมื่อเจ้าตัดแขนเสื้อไปแล้ว นางตอนนี้ก็แค่หลงใหลรูปโฉมของเจ้าเท่านั้น"
ยกมือตบที่ไหล่เจียเฟยเบาๆ เจียเฟยทำตาปริบๆ ไม่นานก็ถอนหายใจอย่างน้อยม่อเฉวียนก็ไม่สงสัยความเป็นบุรุษของเจียเฟยเพียงแต่คิดว่าตัดแขนเสื้อก็เสียแล้วเท่านั้นเอง
"ไม่ต้องตาม"มู่เฉวียนตวาดไล่หานตงยังคงขยับตัวตามทีละนิด"ข้ารู้ดีว่าตำหนักข้าอยู่ที่ไหนไม่จำเป็นต้องให้องครักษ์ต่ำชั้นมาส่งยังตำหนัก""ฝ่าบาทกลัวว่าองค์หญิงจะไม่ยอมกลับไปที่ตำหนัก"อ้างม่อเฉวียน"นั่นมันเรื่องของข้า หานตงท่านไปเสียขอร้อง"หานตงส่ายหน้าไปมา"หานตงอยากจะบอกองค์หญิงว่า ขันทีเสี่ยวเฟยเขาเป็นชายแค่เพียงตัว แต่หัวใจนั่นเล่าเจ้าไม่กลัวว่าจะโดนเขาล่อหลอกเอาหรือ องค์หญิงเคยได้ยินเรื่องเล่าของฝ่าบาทหรือไม่"พยายามจะชี้ให้เห็นว่า เจียเฟยกับม่อเฉวียนมีอะไรบางอย่างที่เหมือนเรื่องเล่าเกินจริงนั้น ก็เขาห่วงมู่เฉวียนนี่ ถึงไม่ไม่เกลียดเจียเฟยและยังถุกชะตาเจียเฟยเสียด้วยซ้ำแต่ถ้าเป็นเรื่องของมู่เฉวียนเขาไม่มีทางยอม"อย่ามาปักปำพี่ใหญ่ข้านะพี่ใหญ่ยังคงชอบหญิงงาม" มู่เฉวียนหันมาจ้องหานตงเต้มตาตั้งใจเอาเรื่องแบบนี้แหละที่หานตงต้องการ ได้ขัดใจนางได้เห็นท่าทีโกรธเกรี้ยวของนางนี่เขาเป็นอะไรมากไปหรือเปล่า"ข้าน้อยเห็นกับตาว่า ฝ่าบาทอุ้มขันทีน้อยผู้นั้น แล้วยามที่ฝ่าบาทมองขันทีน้อยผู้นั้นสายตาของฝ่าบาท.."ยังยังไม่ยอมหยุดมู่เฉวียนเลือดขึ้นหน้าตรงเข้าผลักหานตงอย่างแรงแต่หานตงกับดึงเอาร่างเล็กข
ตำหนักไทเฮา“เป็นอย่างไรบ้างฝ่าบาทกับขันทีคนใหม่”“มีแต่เสียงกรีดร้องเพคะ” หรูหราน เอ่ยปากยิ้มๆไทเฮาวางถุงหอมที่เลือกหยิบมาดูทีละอันลงในถาด ถอนหายใจยาว“เฉวียนเอ่อร์ ที่ข้ากลัวคือเขานิยมบุรุษ มาบัดนี้จึงอยากจะลองใจ หากมีอะไรไม่ชอบมาพากลคงต้องเปลี่ยนตัวขันทีเสีย”“ยังไม่มีอะไรเพคะ”ก้มหน้าหลบตาจะว่าไปเสี่ยวเฟยก็น่าเอ็นดูหลังจากพูดคุยกันเมื่อวาน จึงรู้ว่าเสี่ยวเฟยเองลำบากไม่น้อย กว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้หากจะถูกปลดจากตำแหน่งขันทีข้างกายเพราะความชอบส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ก็คงไม่ยุติธรรมนัก“เอาล่ะเจ้าไปเถิดไปคอยจับตามองฮ่องเต้แทนข้า แล้วอย่าลืมนำเรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนักของเฉวียนเอ่อร์มาเล่าให้ข้าฟัง”หรูหรานย่อกายจากไป“ควรทำอย่างไร” เอ่ยปากกับนางกำนัลข้างกาย“จะทำสิ่งใดได้ คงต้องคัดสรรหญิงงามมาให้ฝ่าบาทดูตัวเช่นเคยที่ผ่านมา ไทเฮาทรง ลองใจฝ่าบาทโดยการส่งขันทีร่างอ้อนแอ้นหน้าตาหวานละมุนยิ่งจะทำให้ฝ่าบาทจิตใจไหวเอน อีกอย่างหากเป็นอย่างเรื่องเล่าจริง คนที่จะลำบากใจที่สุดก็คือไทเฮา เคยมีเรื่องเล่าขานเมื่อนานมาว่าขันทีมักจะเหนือบัลลังก์ ยามที่ฝ่าบาท ยอมเชื่อใจ ไทเฮาไม่กล้ากดดันฝ่าบาทเรื่องหญิงท
“เจ้าขันทีมานี่หน่อย” เจียเฟยวิ่งพรวดเข้ามาชนเข้ากับร่างสูงของม่อเฉวียนเต็มเปา“ซุ่มซ่าม” คว้าแขนเล้กแต่พอนึกได้ก็ปล่อยให้เจียเฟยล้มลงกับพื้นก้มจ้ำเบ้าแต่เจียเฟยก็ยังลุกขึ้นยืนยิ้ม อยู่ตรงหน้า“ฝะฝะฝ่าบาทมีเรื่องใดให้เสี่ยวเฟยรับใช้ดูแลปกป้องและ ช่วยเหลือ” ม่อเฉวียนถอนหายใจ เจ้านี่พูดมากเสียจริง“นอนที่นั่นนอนตรงนั้นเหมือนที่เฉินกงเคยนอน” ชี้มือไปที่แท่นนอนอีกอันที่ต่ำกว่า ข้างข้างผนังห้องกว้าง“ได้ขอรับ”“ไปขนเอาเครื่องนอนของเจ้ามาเจ้าขันที”"ไม่ต้องบอกหรอกขอรับเรื่องนั้นเจียเฟยจะต้องไปเอาเครื่องนอนมาแน่เพราะฝ่าบาทคงไม่มีน้ำพระทัยที่เปี่ยมล้นยอมมอบเครื่องนอนอันสวยงามและหอมกรุ่นของฝ่าบาทให้กับเสี่ยวเฟยแน่ๆ”“เจ้านี่ รีบไปหัดสงบคำเสียบ้าง”เจียเฟยวิ่งแน่บ“มาแล้วพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาทเสี่ยวเฟยมาแล้ว” ม่อเฉวียนขมวดคิ้วคม“มาแล้วก็ไปนอน” คลี่ผ้าห่มห่มคลุมร่างบาง แหมแท่นนอนของเฉินกงกงนี่นุ่มเสียจริง“ขอรับแต่เอาเข้าจริงๆ นะขอรับฝ่าบาทก็อายุตั้ง22ปีแล้วทำไมไม่หัดนอนเพียงลำพังหรือหาสนมนางในมานอนร่วมแท่นนอนจะได้ไม่ต้องอ้างว้างลำพังเช่นนี้”“เจ้าหยุดพูดได้แล้ว”“นั่นสินะฝ่าบาทนี่ก็แปลกเป็นถึงฮ่องเต้
"วางตะเกียบได้แล้ว แล้วเตรียมน้ำชา"ม่อเฉวียนหันกลับมาสีหน้าเรียบเฉย เสี่ยวเฟยกุลีกุจอ รินชาใส่จอกยกกระดกรวดเดียวหมดจอก ปากคาบจอกชาไว้แน่น ม่อเฉวียนส่ายหน้า"เครื่องเสวยอร่อยพร้อมชารสดีถูกทดสอบพิษเป็นที่เรียบร้อยเชิญฝ่าบาทเสวยได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ"ทำเสียงขึงขังดวงตาเป็นประกายถ้าไม่เกรงใจคงยกมือลูบท้องที่อิ่มแน่น"ข้าให้เจ้าเตรียมชา มิได้ให้สวาปามชาของข้า"น้ำเสียงราบเรียบดังผิวน้ำคราไร้ลมไล่"อ่า ฝ่าบาทคิดว่าคนที่ปองร้ายเปิดกาน้ำชาไม่เป็นหรือไร""ไปยืนตรงนั้น"ไล่เอาเสียดื้อๆ หิวจนไส้กิ่วแต่กลายเป็นว่าเจ้าขันทีหนุ่มหิวเสียกว่า แต่อิ่มก่อนเขาขืนต่อปากต่อคำเจ้าขันทีหนุ่มอยู่แบบนี้เขาคงฟังเสียงท้องไส้ของตัวเองคร่ำครวญเป็นกู้เจิ้งสายขาด หยิบตะเกียบคนไปบนเครื่องสวยที่มักจะเอาของดีดีวางไว้ข้างหน้า แต่บัดนี้เจียเฟยคีบใส่ปากไปจนสิ้น ถอนหายใจยาว อย่างไรก็ต้องกิน"แค่ก ๆ แอ่กๆ "เจียเฟยรินชาส่งให้ม่อเฉวียน"ฝ่าบาทไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้พ่ะย่ะค่ะ เครื่องเสวยไม่ได้มีขาหนีไปไหนไม่ได้อย่างไรก็ได้กิน""ตกลงแล้วเป็นข้าที่ผิดใช่ไหม""เสียเฟยแค่จะบอกว่าอาหารรสดีต้องค่อยๆ ละเลียดชิม จึงจะลิ้มรสอาหารได้อย่าง
“เสี่ยวเฟย เจ้ากำลังจะทำอะไร” ขมวดคิ้วเข้าหากัน สายตาแสดงความสงสัยและไม่พอใจอย่างที่สุด ภาพตรงหน้าคือเจียเฟยที่ กอดเอวหรูหรานไว้แนบแน่นจากด้านหลัง“เจ้าสองคน …” อ้าปากกว้างคิ้วคมขมวดเข้าหากัน เจ้าขันทีนี่มาวันแรกก็สร้างวีรกรรมเลยหรือไร“ฝ่าบาท ในห้องนี้มี แมงมุมตัวใหญ่ขันทีคนใหม่ กลัวเจ้าแมงมุมนั่น”หรูหรานละล่ำละลักอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น เจียเฟยหันกลับมา มองม่อเฉวียนที่มีสีหน้าเข้มดุ“เลยเวลาเสวยเที่ยงของข้าแล้ว” เจียเฟย ประสานมือก้มหน้า“ข้าน้อยจะยกเครื่องเสวยเดี๋ยวนี้” วิ่งออกจากห้องไปในทันที“นี่คือสาเหตุที่ข้าไม่อยากรับขันทีท่าทีกึ่งหญิงกึ่งชาย เพราะแม้แต่แมงมุมยังกลัว”หรูหรานย่อกายเดินออกจากห้องไป ม่อเฉียนสำรวจหาตัวแมงมุมก่อนจะจับมันไว้ แล้ว โยนออกนอกห้องไป ส่ายหน้าไปมาเจียเฟยยกถาดเครื่องเสวยที่มีเครื่องเสวยมากมาย พร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นว่าเครื่องเสวยทั้งหอมทั้งน่าลิ้มรสในนั้น นางกำนัลอีกสองคนก็ยกเครื่องสวยตามมาอีกสองถาดใหญ่ๆวางเครื่องเสวยตรงหน้า นางในห้องเครื่องวางเครื่องสวยก่อนจะย่อกายจากไป“ฝ่าบาทเครื่องสวยมาแล้ว” ม่อเฉวียนยังนิ่ง“ฝะฝ่าบาทเครื่องเสวยมาและพ่ะย่ะค
“กงกงหมดหน้าที่ท่านแล้ว ขอบคุณที่อยู่ร่วมกันมายี่สิบสองปี” ราวกับพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ในการกล่าวลาขันทีอาวุโสผู้ที่รับใช้ใกล้ชิดมาตลอดขันทีชราปาดน้ำตาปรอยๆยี่สิบสองปีกับใบหน้าหล่อเหลา อีกทั้งยังดูอ่อนกว่าวัย เจียเฟยยกท่อนแขนตัวเองขึ้นมาดูผิวคล้ำแดดกับมือหยาบกระด้าง เจียเฟยเป็นหญิงแท้ๆ ยังไม่ขาวสะอาดเรียบเนียนเหมือนผิวกายของม่อเฉวียน เทียบไม่ติดกันเลยทีเดียว“เจ้าชื่อแซ่ว่าอย่างไร” ขันทีอาวุโสถามขึ้นเบาๆ ทำความรู้จักกันไว้ ในเมื่อวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วสิ่งเดียวที่อยากทำคือการสั่งเสียขันทีหนุ่มน้อยให้ภักดีต่อม่อเฉวียนที่ขันทีชราดูแลมาตลอด“แซ่เจีย นามว่าเฟย” ม่อเฉวียน เอามือไพล่หลัง มองออกนอกหน้าต่างไม่สนใจว่ากงกงจะพูดอะไรกับเจียเฟย“อาเฟย ไม่สิเสี่ยวเฟย เจ้าต้องดูแลฝ่าบาทให้ดี ฝ่าบาทนิยมนอนตื่นแต่เช้า จิบชาอุ่นๆ และเสวยอาหารที่รสไม่จัดนัก” เจียเฟยประสานมือก้มหน้านิ่งน้อมรับคำสั่งสอนจากผู้ที่ได้ชื่อว่ารุ้ใจนายคนใหม่ของเจียฟยที่สุด“ยี่สิบสองปีข้านอนข้างๆ นั่น”ชี้มือไปที่ผนังห้องเจียเฟยกระแอมเบาๆ ปรับเสียงให้ทุ้ม“ขอรับ” ม่อเฉวียนหันขวับกลับมาทันที“พูดใหม่สิ” น้ำเสียงกระตุก“ขะ
เจียเฟย สวมอาภรณ์ชุดขันทีสวมหมวกขันทีเปิดเผยใบหน้าที่จะว่าหล่อเหลา หรืออ่อนหวานก็ไม่อาจแยกแยะในเมื่อคิ้วดกวาดยาวบนใบหน้า ริมฝีปากรูปกระจับหยักสวย กับดวงตาคมพอสวมหมวกขันทีแล้วไม่อาจแยกแยะว่าหญิงหรือชาย อกนุ่มถูกรัดด้วยผ้าฝ้ายดิบจนแบนราบเอวกิ่วไม่ได้ดึงสายรัดเอวให้ตึงแน่นยังปล่อยให้ชายอาภรณ์ทิ้งตัวลงมาคลุมทับกางเกงสีเดียวกันนั้น ไม่บอกใครจะรู้ว่าเจียเฟยคือหญิงอายุ18ที่ลักลอบเข้ามาในวังหลวงในตำแหน่งขันทีฝึกหัด แต่ละคนใบหน้าหมดจด เมื่อสวมอาภรณ์ขันทีล้วนมองไม่ต่างกัน เจียเฟยจะทำอย่างไรได้ในเมื่อครอบครัวทุกข์เข็ญ อดมื้อกินมื้อ ขันทีในวังหลวงเองก็ตุ้งติ้งไม่ต่างกันกับหญิงงาม เช่นนั้นปรับท่าทีเสียหน่อยก็พอจะ ถูไถไปได้“ขันทีฝึกหัดทั้งหลายยยย วันนี้ฝ่าบาทจะทรงคัดเลือกขันทีคนใหม่หลังจากที่กงกงที่ชรายิ่งไม่อาจรับใช้เบื้องยุคลบาทได้อีกแล้ว พวกเจ้าโชคดีเข้ามาในเวลาที่เหมาะสมมีโอกาสไต่เต้าได้รับตำแหน่งพิเศษ”“หวังว่าคนที่ได้รับคัดเลือกจะทำหน้าที่ให้ดี เพราะนั่นหมายถึงความสุขสบายชั่วชีวิตของเจ้า และวันนี้พวกเจ้าอาจได้คารวะข้าเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปอาจเป็นข้าที่ต้องพึ่งพาพวกเจ้า"เจียเฟยสูดลมหายใจเข้