Share

13: สตรีบ้า(น้ำลาย) [2]

Author: Tuk Kung
last update Last Updated: 2025-08-23 14:40:36

หลังจากจัดการมนุษย์ป้าไปได้อย่างสวยงาม ไป๋เหลียนจึงมุ่งตรงกลับบ้านอย่างอารมณ์ดี หลังจากนี้นางก็จะเดินหน้าหาเงินเพียงอย่างเดียว เป้าหมายคือสิบตำลึงเงินจำนวนเงินเท่านี้จึงจะเพียงพอให้นางหนีได้

ไป๋เหลียนเร่งฝีเท้าให้ถึงบ้านหลังน้อยของนางโดยไว ในเมื่อมิติวิเศษสามารถเพิ่มจำนวนของที่ใส่เข้าไปได้ ฉะนั้นเงินสองร้อยอีแปะที่นางมีมันก็อาจจะเพิ่มได้อีกมิใช่หรือ ไป๋เหลียนเจ้านี่ช่างฉลาดจริง ๆ ถ้าการคาดเดาของนางเป็นจริง นั่นเท่ากับว่าหนทางการทำเงินในระยะเวลาอันสั้นก็จะง่ายขึ้น

ทว่าเมื่อกลับถึงบ้านหญิงสาวได้นำเงินที่มีทั้งหมดเข้าไปในมิติวิเศษ นางตั้งตารอว่ามันจะออกดอกออกผลจากสองร้อยเป็นสามร้อยอีแปะ แต่เมื่อตรวจดูอีกครั้งเงินก็ยังมีจำนวนเท่าเดิม นั่นเท่ากับว่ามิตินี้จะไม่เพิ่มจำนวนทรัพย์สินเงินทองของมีค่า ยกเว้นก็แต่ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ และอาหารเท่านั้นที่ได้ผล

ทำเอาไป๋เหลียนแทบจะยกเท้าขึ้นก่ายหน้าผาก จะช่วยทั้งทีแต่ก็ไม่ช่วยให้สุด นางก็ยังต้องลำบากหาเงินอยู่ดี

ทัพหลวง ณ ด้านฉางเจียงชายแดนแคว้นเป่ย

แม่ทัพหนุ่มยังคงต้องนอนพักรักษาตัวโดยมีหมอหลวงดูแลอย่างใกล้ชิด เรื่องที่เขาถูกสตรีแปลกหน้าขืนใจยังคงถูกปิดเป็นความลับ เจ้าตัวเก็บเงียบไม่ยอมบอกใคร แม้แต่ชินอ๋องซิงเยี่ยนผู้เป็นสหายสนิททั้งยังเป็นนายเหนือหัวก็ไม่อาจล่วงรู้เรื่องนี้

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่เขารอดมาได้ก็เพราะสตรีหน้าหนาผู้นั้น หากนางไม่ย้อนกลับมาช่วยห้ามเลือดให้ หรือแม้แต่หาน้ำหาอาหารทิ้งไว้ ไม่แน่ว่าเขาก็อาจจะนอนตายอยู่ที่นั่นไปแล้วก็ได้ กระนั้นเขาก็ยังไม่เข้าใจกับการกระทำอันหยาบช้าของนางอยู่ดี มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ถึงได้เล่นกับความรู้สึกกันเช่นนี้

ยอมรับว่าแค้นและโกรธเคืองที่บังอาจทำลายศักดิ์ศรี กระนั้นอีกใจก็ยังรู้สึกค้าน ทั้งเขาและนางต่างไม่รู้จักกันมาก่อน มีเหตุผลอะไรที่ต้องวางยากระทำเรื่องไร้ยางอาย เป็นคนอื่นก็คงแสร้งร้องไห้ให้รับผิดชอบ แต่นางกลับกล่าวขอโทษให้เขาให้อภัยแล้วหนีไปเสียดื้อ ๆ คนดีที่ไหนเขาทำกัน นอกเสียจากเป็นคนบ้า

ยิ่งคิดก็ยิ่งนึกถึงใบหน้าของสตรีผู้นั้นคอยก่อกวนจิตใจ รู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านไม่ชอบใจเอาเสียเลย ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจต้องการ แต่ก็ต้องพับเก็บความว้าวุ่นใจไว้ เมื่อได้เวลาที่หมอหลวงจะมาตรวจอาการประจำวัน

ไม่นานนักหมอหลวงพร้อมทั้งชินอ๋องก็เข้ามา พวกเขาไม่พูดอะไรปล่อยให้ท่านหมอตรวจอาการอย่างเงียบ ๆ ด้วยแม่ทัพหลี่เพิ่งจะฟื้นตื่นขึ้นมาเมื่อรุ่งเช้า เขาหลับไปถึงสิบวันทำให้ทุกคนต่างกังวลและเป็นห่วง หลังจากตรวจอาการอย่างละเอียดเจ้าตัวพ้นขีดอันตราย หมอหลวงอดเสียมิได้จึงเอ่ยถามข้อมูลบางอย่าง

“ท่านแม่ทัพไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนทำแผลให้หรือขอรับ”

“ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน ข้าหนีมาถึงเพิงพักกลางป่าก็หมดสติไปเลยจึงไม่รู้เหตุการณ์หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง” หลี่มู่กวาแสร้งทำสีหน้าจริงจัง ด้วยเกรงว่าจะเผยพิรุธให้ซิงเยี่ยนจับได้ มิเช่นนั้นเขาจะถูกอ๋องหน้าหนาผู้นั้นเค้นถามไม่หยุดเป็นแน่

“มีอะไรหรือท่านหมอ” อ๋องหนุ่มใคร่สงสัยยิ่งนัก เขาเองก็อยากจะรู้เช่นกัน เมื่อไปถึงกระท่อมกลางป่า สหายก็อยู่ในสภาพดีกว่าที่คิดทั้งยังมีร่องรอยการทำแผลให้เสร็จสรรพ รวมไปถึงข้างกายเขานั้นมีน้ำและอาหารวางไว้รอ เป็นไปไม่ได้ที่สหายจะอยู่เพียงคนเดียว แต่ว่าเขายังไม่ถามอะไรตอนนี้ด้วยมีเค้าลางความน่าสนใจไม่น้อย ไม่แน่ว่าอาจจะมีเรื่องสนุกรออยู่ข้างหน้าเป็นแน่

“กระหม่อมคาใจสมุนไพรที่นางใช้พอกบาดแผลให้เลือดหยุดไหลพ่ะย่ะค่ะ แม้แต่กระหม่อมที่เป็นหมอมีความรู้ด้านสมุนไพรก็ยังคาดไม่ถึงว่าพืชชนิดนี้สามารถใช้ห้ามเลือดได้ ทั้งที่ขึ้นดาษดื่นหาได้ง่ายแต่ข้ากลับคิดไม่ถึงว่ามันจะมีสรรพคุณดีเช่นนี้ ในยามศึกแม้แต่ยาก็ขาดแคลน ถ้าเราใช้มันทำเป็นยาห้ามเลือดไว้ใช้ได้ก็คงดีไม่น้อยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจึงอยากจะพบคนผู้นั้น ไม่แน่ว่าอาจจะได้ความรู้ดี ๆ จากเขาอีกมาก”

“พืชที่เจ้าว่ามันดีขนาดนั้นเชียวหรือ” หลี่มู่กวาเมื่อได้ยินคำอธิบายของท่านหมอก็รู้สึกทึ่งไม่น้อย เขาหรือก็คิดว่านางเป็นแค่หญิงชาวบ้านคงทำไปมั่ว ๆ ไม่ได้มีความรู้อะไร แต่กลับไม่คิดว่าสิ่งที่นางทำมีประโยชน์เช่นนี้

“ไม่ใช่สมุนไพรชั้นเลิศเกิดขึ้นทั่วไปตามแหล่งธรรมชาติขอรับ ที่ข้าน้อยกล่าวชมนั้นเป็นเพราะยามขาดแคลนมีไว้ก็ดีกว่าไม่มี แม้ฤทธิ์ในการห้ามเลือดไม่ดีเท่าสมุนไพรดี ๆ แต่การหาได้ทั่วไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ ก็ถือว่าเป็นของดีเช่นกัน”

“น่าเสียดายความสามารถ พบคนเก่งจะปล่อยไปได้อย่างไร เช่นนั้นข้าจะให้คนไปตามสืบดูก็แล้วกัน”

“ท่านอ๋องรู้หรือพ่ะย่ะค่ะ คนผู้นั้นเป็นใคร” แม้แต่เขาที่อยู่กับนางทั้งคืนก็ยังไม่รู้ว่านางเป็นใคร จำได้เพียงหน้าตาและน้ำเสียงเท่านั้น แล้วท่านอ๋องที่ตามมาทีหลังจะรู้ได้อย่างไร

“ข้าไม่รู้หรอก แค่เก็บป้ายชื่อได้เท่านั้น ส่งคนตามสืบไม่นานก็รู้” ซิงเยี่ยนชูป้ายชื่อที่เก็บได้ให้อีกฝ่ายดู ก่อนจะยักคิ้วหลิ่วตาให้สหาย ด้วยป้ายชื่อนั้นบ่งบอกชัดว่าเจ้าของคือสตรี

“แคก ๆ”

คนมีชนักติดหลังถึงกับสำลักน้ำลาย ไม่คิดว่าซิงเยี่ยนจะมีหลักฐานเด็ดในการตามหาสตรีหน้าไม่อายผู้นั้นอยู่ในมือ จะให้เจ้านั่นตามหาไม่ได้เด็ดขาด อย่างไรเขาก็ไม่ไว้ใจไม่เชื่อว่าคนที่กล้าขืนใจบุรุษได้น่ะหรือจะเก็บความลับเป็น

“ท่านอ๋องกระหม่อมขอเป็นคนตามหาเองพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่!”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   45: นางร้ายปลายแถว [3]

    “กรี๊ดดด เช่นนั้นก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิที่ว่าท่านแม่ทัพมีภรรยาอยู่แล้ว ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง”“เช่นนั้นข้าก็ไม่แปลกใจที่เจ้ามีของแปลกใหม่มาขายให้พวกเรา เป็นถึงฮูหยินแม่ทัพละก็คงได้ติดตามแม่ทัพหลี่ไปหลายที่พบผู้คนมากมายสินะ เจ้าคงได้ไปท่องเที่ยวมาเยอะล่ะซิ ข้าอิจฉาเจ้านัก”“เจ้าเนี่ยปิดบังพวกเราไว้เงียบเชียวนะ”คณิกาดาวเด่นทั้งสามต่างก็พากันคาดเดาและยิงคำถามไม่หยุด ไป๋เหลียนคิดจะอธิบายให้พวกนางเข้าใจสถานะของตนกับท่านแม่ทัพ แต่ก็คงไม่ทันเสียแล้ว ในเมื่อทุกคนคิดไปไกลคาดเดาไปเอง พูดอะไรไปคงไม่เข้าหูแล้วกระมังเช่นนั้นก็ปล่อยให้พวกนางคิดไปเถอะ ขอแค่อย่าให้ท่านแม่ทัพได้ยินก็พอ มิเช่นนั้นชีวิตนางคงอยู่ไม่รอดไปจนจบเป็นแน่ แค่คิดก็เสียวคอแล้วไหมเล่าหาเรื่องตายเร็วให้กันโดยแท้“เจ้าค่ะ คือว่าพี่สาว ที่ข้ามาหาพวกท่านวันนี้คือข้าจะมาลาเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบเข้าเรื่องทันที ถ้าไม่พูดตอนนี้มีหวังคงได้พูดแต่เรื่องหลี่มู่กวาไม่หยุด“มาลาหรือ เจ้าจะไปที่ใด ช่างน่าเสียดายนักเพิ่งจะสนิทกันแท้ ๆ ที่สำคัญเครื่องประทินผิวของเจ้าก็ดีมากเสียด้วย ไม่มีเจ้าแล้วพวกเราจะใช้ชีวิตต่ออย่างไร” ลู่ฮวารู้สึกใจหาย ไม่คิดว่

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   44: นางร้ายปลายแถว [2]

    เด็กสาวส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย แม้จะไปแจ้งทางการก็ได้เพียงแค่ถูกว่ากล่าวตักเตือนมิได้ลงโทษอะไร ไม่แคล้วถูกจับมาขายเช่นเดิม เรื่องเช่นนี้มีให้เห็นได้ทั่วไปไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร“ส่งน้องสาวข้ามาเดี๋ยวนี้ อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง” ชายร่างใหญ่ก้าวอาด ๆ เข้าหาสตรีทั้งสอง ทั้งฉุนและไม่พอใจที่น้องสาวขัดขืนไม่ยอมเชื่อฟัง เสียเวลาทำธุระอย่างอื่นชะมัด ความอดทนเริ่มจะหมดลงเรื่อย ๆ“นางเป็นน้องของเจ้าเอามาขายเป็นผักเป็นปลาเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่อายพ่อแม่บรรพบุรุษบ้างหรือ ทำมาหากินเองไม่ได้ต้องมาขายน้องแลกเงิน ถุย...” ไป๋เหลียนด่าทออย่างเหลืออด พลางมองค้อนหลี่มู่กวาที่ไม่ยอมช่วยเหลือ“ปากดีนักนะ เรื่องของคนอื่นอย่าริมาสั่งสอน” บุรุษร่างกายใหญ่โตเทอะทะง้างมือขึ้นหมายฟาดสั่งสอนให้สำนึก บังอาจเข้ามาสอดไม่เข้าเรื่อง มีหรือคนอย่างตนจะให้สตรีมาด่าเช่นนี้ ดีละ จัดการนังนี่ไปขายด้วยคงจะได้หลายตำลึง“อ๊ากกกกก”ตุบ!“เอามือสกปรกของเจ้าออกไป” แม่ทัพหนุ่มใช้เท้าถีบเข้าไปที่ใบหน้าเหมือนหมูตอนเต็มแรง พร้อมกับชักดาบออกจากฝัก เฉือนปลายจมูกแหว่งไม่พอหูข้างหนึ่งก็ถูกตัดเช่นกัน และยังใจดีโยนเงินจำนวนหนึ่งตำลึงให้ชายผู้นั

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   43: นางร้ายปลายแถว [1]

    “ขายบ้านหลังนี้เจ้าไม่เสียดายแน่หรือ”“ข้าตัดสินใจแล้วเจ้าค่ะ เก็บไว้ก็เท่านั้นมิสู้ขายเอาเงินมาใช้ดีกว่า” คิดว่าน่าอยู่นักหรือหมู่บ้านเส็งเคร็งเช่นนี้มีอะไรให้นางเสียดายกัน ขาย ๆ ไปนั่นแหละดีแล้ว เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ หากจะเรียกให้ถูกก็คือไม่ควรค่าแก่การกลับมาที่นี่ต่างหากนางเพิ่งเอาโฉนดที่ดินขึ้นทะเบียนเพื่อฝากขาย ก็ไม่แปลกที่เขาจะถามนางเช่นนั้น คนเราเกิดและโตที่ใดก็ย่อมมีความทรงจำความผูกพันเป็นธรรมดา แต่ว่านางไม่ใช่ ไม่ใช่ทั้งไป๋เหลียน ไม่ใช่ทั้งคนของโลกแห่งนี้ แล้วจะเสียดายไปไยนอกจากมีธุระเรื่องขายที่แล้ว นางและหลี่มู่กวายังมีธุระต้องไปหอฮวาเหมย ด้วยท่านอ๋องได้นัดหมายให้ไปพบที่นั่น หญิงสาวจึงถือโอกาสนี้ไปร่ำลาพวกพี่สาวคณิกาทั้งสาม อย่างไรเสียนางไปแล้วคงจะไม่กลับมาที่นี่อีก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่อาจตัดใจ ปล่อยเงินก้อนโตหายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร ที่นี่ล้วนเป็นแหล่งเงินทองชั้นดี“เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้นเราเข้าไปดูสักหน่อยดีหรือไม่”เบื้องหน้ากลับมีคนรุมล้อมดูอะไรสักอย่าง ทั้งเสียงสตรีก็ดูจะคุ้นหูนัก ความอยากรู้อยากเห็นทำให้หญิงสาวเดินหน้าตั้งฝ่ากลุ่มคนไปทันที ย

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   42: เวลาเดินเร็วขึ้น [3]

    ยามห้าย (21.00-22.59 น.)ไป๋เหลียนได้แต่นอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง ฝืนตนเองเอาไว้ไม่ให้หลับไปเสียก่อนรอว่าหลี่มู่กวาจะกลับมาเมื่อไร ถึงแม้เขาจะบอกไว้ก่อนแล้วให้เข้านอนก่อนก็ตาม“ข้าจะทำอย่างไรให้ท่านแม่ทัพพาข้าไปด้วยดีนะ”ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่มีหนทางไหนที่เขาจะยอมให้นางติดตามไปด้วยได้เลย ยิ่งตนมีชนักติดหลังอยู่ด้วย การที่จะทำให้เขายอมตกลงจึงเป็นเรื่องยากยิ่งแต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะต้องตามเขาไปด้วยให้ได้ ไม่มีวิธีที่ดีไปกว่าการลองขอเขาไปตามตรง ไม่แน่ว่าหลี่มู่กวาอาจจะใจอ่อน ต่อให้นางไปในฐานะสาวใช้หรือทาสก็ยอม“เมื่อไรจะกลับมาเสียที ไม่ใช่ว่าแอบกลับไปเมืองหน้าด่านแล้วหรอกนะ” ร่างบางลนลานลุกขึ้นนั่งทันที เขาบอกว่าจะไปช่วยหาโรงเตี๊ยมให้ท่านอ๋องได้พักในระหว่างที่อยู่ที่นี่ เดินทางเข้าเมืองกว่าชั่วยามยังไม่กลับมา รู้เช่นนี้นางน่าจะขอให้ทั้งสองคนนอนพักที่นี่เสียก็ดีแต่แล้วเสียงดังกุกกักจากด้านนอกทำเอาไป๋เหลียนใจชื้นขึ้นไม่น้อย ภาวนาให้เป็นหลี่มู่กวาด้วยเถอะ อย่าได้เป็นผีหรือไอ้ติงเฉิงหน้าหม้อนั่นเลย สองสิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกหลอนและเข็ดขยาดขึ้นสมอง อย่างไรเสียต้องหาอะไรไว้ป้องกันตัว หญิงสาวรีบ

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   41: เวลาเดินเร็วขึ้น [2]

    “อืม... นี่ก็เป็นหนึ่งในข้อร้องขอของแคว้นฉู่เช่นกัน เสด็จพ่อเห็นว่าไม่ใช่สิ่งที่ขอมากไปจึงตอบตกลง” ที่เขาไม่ชอบใจเลยก็ตรงที่พวกมันทำราวกับแคว้นเป่ยเป็นเพียงหมูในคอก คิดอยากทำอะไรก็ทำ เรียกร้องจะเอานั่นเอานี่ไม่รู้จักเกรงใจ กระนั้นจะทำอย่างไรได้ในเมื่อกำลังพลยังไม่พร้อมจะรับศึกหนักตอนนี้ได้ ช่างน่าเจ็บใจนัก“พวกมันเหิมเกริมขึ้นทุกวัน เรายอมรับการประนีประนอมมิใช่ยอมแพ้เสียเมื่อไรกัน ไอ้พวกสุนัขลอบกัด” คราวที่แล้วแม้จะรู้ว่าเป็นพวกมันสร้างสถานการณ์ขึ้นมา ทว่าพวกเขากลับหาหลักฐานไม่ได้ทำให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นว่าท่านอ๋องถูกโจรป่าดักปล้น ยังดีที่สามารถเอาชีวิตรอดกันมาได้“ข้าน้อยว่าการขอพักขบวนที่เมืองหน้าด่านมิใช่เรื่องปกติขอรับ แม้คณะทูตจะเดินทางไกลก็จริง หากจะต้องพักแค่สามวันก็น่าจะพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องรั้งอยู่นานถึงสิบวัน”“ข้าก็เห็นด้วยกับจิ้งกัง เป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่”“เพราะแบบนี้เราถึงได้มาหาเจ้า เราก็ไม่อยากจะขัดความสุขของเจ้ากับภรรยาหรอกนะ แต่อย่างไรคงต้องรีบกลับหน้าด่านให้เร็วที่สุด จะล่าช้าต่อไปไม่ได้แล้ว จะพานางไปด้วยหรือให้รอที่นี่ก็คุยกันให้รู้เรื่องเสีย อีกสามวันเราต้องออกเดินท

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   40: เวลาเดินเร็วขึ้น [1]

    นางคือภรรยาของข้าคำคำนี้ยังคงก้องอยู่ในหู ทำเอาไป๋เหลียนยืนเหม่อลอยทำอะไรไม่ถูก แม้นางจะถูกร้องขอให้ออกมาทำอาหารเย็นแล้วก็ตาม ทว่าความเป็นจริงกลับเอาแต่ยืนนิ่งมาได้สักพักใบหน้างามเห่อร้อนแดงเรื่อลามไปถึงใบหูอย่างช่วยไม่ได้ ขัดเขินเสียจนไม่แน่ใจว่าจะกล้ามองหน้าหลี่มู่กวาได้โดยไม่รู้สึกอะไรหรือไม่ ถึงเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดเช่นนั้นก็เถอะ กระนั้นก็ยังรู้สึกดีไม่น้อยเช่นนั้นในเมื่อวันนี้หลี่มู่กวาพูดถูกใจ นางก็จะทำของอร่อยเอาใจเขาเพิ่มจากเดิมอีกสักสองสามอย่างแล้วกัน อย่างไรเสียก็มีคนมาเพิ่มของเดิมที่ทำไว้คงไม่พอจะเรียกว่าทำอาหารก็ไม่ถูก เพราะนางก็ไม่ได้ทำอะไรดีขนาดนั้น ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เอาออกมาจากมิติวิเศษ ส่วนที่ทำเองก็คงจะมีแค่หุงข้าวและอาหารพื้น ๆ ของโลกเดิมแค่บางอย่างที่ตนเองถนัดก็เท่านั้นเป็ดปักกิ่งถูกแร่หนังกรอบ ๆ จัดเรียงในจานอย่างดี ส่วนเนื้อเป็ดนั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำแยกออกมาอีกจาน นอกจากนั้นยังมีปลานึ่งซีอิ๊วอีกหนึ่งอย่าง กระนั้นสิ่งที่นางลงมือทำจริงก็คือต้มยำกุ้งน้ำข้น รสชาติจัดจ้านซดร้อน ๆ ก็คงจะคล่องคอดีทว่าระหว่างทำอาหารอยู่นั้น ไป๋เหลียนก็ยังคงคอยเอียงหูฟังอยู่ตลอด บ้าน

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status