ติงเฉิงมองบั้นท้ายอีกฝ่ายพร้อมกับใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม พลางคิดไปว่าเรื่องอะไรเขาจะเลิกกับซูหนี่ให้โง่ ฝ่ายนั้นเป็นถึงบุตรสาวผู้นำหมู่บ้านอย่างไรก็มีสง่าราศียิ่งกว่า อยู่ด้วยแล้วมีแต่จะอนาคตไกล กระนั้นจะให้ปล่อยสตรีที่งามที่สุดในหมู่บ้านไปก็ใช่เรื่อง เขาจะรวบเก็บไว้ทั้งสองคนเลยคอยดู บุรุษทั้งหมู่บ้านจะต้องอิจฉาเป็นแน่
ไม่นานนักหญิงสาวก็กลับมาพร้อมกับตะกร้าอาหาร ด้านในมีซาลาเปาไส้เนื้อสองลูกและขนมถั่วกวนสี่ชิ้น
“ซาลาเป่าไส้เนื้อกับขนมถั่วกวนเจ้าค่ะ”
“ขอบใจเจ้ามากนะ เป็นบุญวาสนาของข้าแล้วที่มีเจ้าคอยดูแล”
ทว่าเมื่อติงเฉิงโน้มตัวเข้าหา เพื่อหวังว่าจะได้หอมแก้มสาวเจ้ากลับเอนตัวหนี แม้จะรู้สึกขัดใจอยู่ในทีแต่ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ ประเดี๋ยวพวกยายแก่ในหมู่บ้านผ่านมาเห็นเข้าได้คาบข่าวไปบอกว่าที่แม่ยายพอดี ดังนั้นจะมามัวแต่โอ้เอ้อยู่ที่นี่นานไม่ได้ เมื่อได้ของแล้วเขาจึงขอตัวเพื่อไปทำงานต่อ
ไป๋เหลียนมองตามหลังติงเฉิงพร้อมกับยิ้มร้าย นางรู้ว่าสองคนนั้นจะนัดพบกันเมื่อใด รอสักครึ่งชั่วยามจึงค่อยติดตามดูผลงานชิ้นเอก ติงเฉิงนั้นแพ้ถั่วเหลืองจึงจงใจให้ขนมถั่วกวนไปด้วย ดังนั้นคนที่กินจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากซูหนี่ อดใจรอเรื่องสนุก ๆ ไม่ไหวแล้วสิ อยากให้ถึงเวลาเร็ว ๆ จัง
หญิงสาวกลับมานั่งกินข้าวอีกครั้งเพื่อรอเวลาติดตามผลงาน เมื่อได้เวลานางจึงออกจากบ้านตรงไปยังสถานที่พลอดรักของทั้งสอง ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนมันคือปลายลำธารอีกฟากหนึ่งของชายป่า
เมื่อมาถึงที่หมายร่างบางจึงค่อย ๆ ย่องพยายามลงน้ำหนักเท้าให้เบาที่สุด ก่อนจะคลานเข้าไปหลบตรงโขดหิน พร้อมกันนั้นก็ยังมองหาตะกร้าอาหารที่นางให้ติงเฉิงมาก่อนหน้า ปรากฏว่าทุกอย่างบนจานหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว นั่นเท่ากับว่าเวลาแห่งความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้น
ฟากหนึ่งของลำธาร
“พี่ติงเฉิงเหตุใดวันนี้เร่าร้อนนักเล่า ยังไม่มืดเลยนะ ประเดี๋ยวก็มีใครมาเห็นหรอก”
“ใคร ๆ ก็รู้ว่าเรากำลังจะหมั้นและแต่งงานกัน เห็นจะเป็นไรไป เกิดอะไรขึ้นพี่รับผิดชอบเอง” บัดนี้ภายในกายเขามันร้อนรุ่มไปหมด ตรงส่วนนั้นก็แข็งค้างมาได้สักพักแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรอารมณ์กำหนัดถึงได้พุ่งสูงถึงเพียงนี้
“อืม... รีบ ๆ ทำนะเจ้าคะ ข้ากลัวคนมาเห็น” นางเองก็มีความต้องการมากล้นเช่นกัน เมื่ออีกฝ่ายโน้มใบหน้าประกบจูบลิ้นแลกลิ้น ซูหนี่ตอบโต้กลับไปด้วยความเร่าร้อนเช่นกัน ตอนนี้ใครจะเห็นก็ช่างมันเถอะ ขอปลดปล่อยความต้องการก่อน มิเช่นนั้นได้อกแตกตายเป็นแน่
สองกายก่ายกอดนัวเนียแนบชิด ติงเฉิงไม่รอช้าล้วงมือเข้าเคล้นคลึงหน้าอกคู่งาม พลางบีบนวดเสียจนเต้างามล้นออกตามง่ามนิ้ว บัดนี้แม้แต่ตะวันที่สาดส่องยามพลบค่ำ ก็ไม่อาจทำให้พวกเขารู้สึกเขินอายฟ้าดินได้อีกต่อไป คิดเพียงแค่ว่าจะต้องดับอารมณ์ใคร่นี้ให้ได้
ปู้ดดด
“เหม็น เป็นบ้าอะไรของเจ้า ออกไปให้ห่างข้า” ติงเฉิงถึงกับผลักสาวเจ้าออกทันที ทั้งกลิ่นและเสียงทำให้เขาแทบอาเจียนเสียให้ได้
“ข้า... ข้าไม่รู้ โอ๊ย!” ซูหนี่กุมไว้ทั้งหน้าท้องและทวารทางออก บัดนี้ข้าศึกเหมือนจะมารอที่ปากอ่าวแล้ว อายก็อายที่ตนต้องมาอึราดต่อหน้าบุรุษคนรัก กระนั้นนางก็ทำอะไรไม่ได้
ปู้ดดด
“บ้าเอ๊ย ไปไกล ๆ เลยไป เสียอารมณ์หมด” ติงเฉิงชักสีหน้าใส่พร้อมกับถอยหลังหนีให้ห่าง รอบแรกไม่เท่าไรรอบสองนี้เกินทน เห็นชัดว่าตรงก้นของซูหนี่มีของเสียติดกระโปรงเต็มไปหมด เกินกว่าจะรับไหวเขาจึงรีบเดินหนีออกไปจากตรงนั้นโดยเร็ว ไม่สนแล้วว่าอีกฝ่ายจะเป็นเช่นไร
“พี่ติงเฉิงกลับมาเดี๋ยวนี้นะ แก...ไอ้คนเลว อ๊าย...กลั้นไม่อยู่แล้ว” ซูหนี่ได้เห็นธาตุแท้ของติงเฉิงกับตา รู้ซึ้งแล้วว่าตนเองคิดผิดมหันต์ ครั้นจะตามไปด่าให้สมกับความโกรธก็มิได้ เมื่อของเหลวกำลังจะปะทุออกมาอีกรอบ นางจึงเปลี่ยนเป็นมองหาที่ลับตาคนเพื่อปลดทุกข์เสียก่อนที่จะอึราดกระโปรงอีกครั้ง
ด้านไป๋เหลียนนั้นหัวเราะน้ำตาเล็ดไปหลายยก ไม่คิดว่ายาถ่ายกับยาปลุกเซ็กซ์จะได้ผลดีเกินคาด โดยเฉพาะซาลาเปาไส้เนื้อใส่ยาปลุกเซ็กซ์เยอะเป็นพิเศษ ความโลภของติงเฉิงเขาจะต้องตะกละกินเยอะ คอยดูเถอะได้ตั้งค้างไปทั้งวันทั้งคืนเป็นแน่
“สาแก่ใจข้ายิ่งนัก คิดจะวางยาข้าหรือฝันไปเถอะ”
“กรี๊ดดด เช่นนั้นก็เป็นเรื่องจริงน่ะสิที่ว่าท่านแม่ทัพมีภรรยาอยู่แล้ว ที่แท้ก็เป็นเจ้านี่เอง”“เช่นนั้นข้าก็ไม่แปลกใจที่เจ้ามีของแปลกใหม่มาขายให้พวกเรา เป็นถึงฮูหยินแม่ทัพละก็คงได้ติดตามแม่ทัพหลี่ไปหลายที่พบผู้คนมากมายสินะ เจ้าคงได้ไปท่องเที่ยวมาเยอะล่ะซิ ข้าอิจฉาเจ้านัก”“เจ้าเนี่ยปิดบังพวกเราไว้เงียบเชียวนะ”คณิกาดาวเด่นทั้งสามต่างก็พากันคาดเดาและยิงคำถามไม่หยุด ไป๋เหลียนคิดจะอธิบายให้พวกนางเข้าใจสถานะของตนกับท่านแม่ทัพ แต่ก็คงไม่ทันเสียแล้ว ในเมื่อทุกคนคิดไปไกลคาดเดาไปเอง พูดอะไรไปคงไม่เข้าหูแล้วกระมังเช่นนั้นก็ปล่อยให้พวกนางคิดไปเถอะ ขอแค่อย่าให้ท่านแม่ทัพได้ยินก็พอ มิเช่นนั้นชีวิตนางคงอยู่ไม่รอดไปจนจบเป็นแน่ แค่คิดก็เสียวคอแล้วไหมเล่าหาเรื่องตายเร็วให้กันโดยแท้“เจ้าค่ะ คือว่าพี่สาว ที่ข้ามาหาพวกท่านวันนี้คือข้าจะมาลาเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบเข้าเรื่องทันที ถ้าไม่พูดตอนนี้มีหวังคงได้พูดแต่เรื่องหลี่มู่กวาไม่หยุด“มาลาหรือ เจ้าจะไปที่ใด ช่างน่าเสียดายนักเพิ่งจะสนิทกันแท้ ๆ ที่สำคัญเครื่องประทินผิวของเจ้าก็ดีมากเสียด้วย ไม่มีเจ้าแล้วพวกเราจะใช้ชีวิตต่ออย่างไร” ลู่ฮวารู้สึกใจหาย ไม่คิดว่
เด็กสาวส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย แม้จะไปแจ้งทางการก็ได้เพียงแค่ถูกว่ากล่าวตักเตือนมิได้ลงโทษอะไร ไม่แคล้วถูกจับมาขายเช่นเดิม เรื่องเช่นนี้มีให้เห็นได้ทั่วไปไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร“ส่งน้องสาวข้ามาเดี๋ยวนี้ อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง” ชายร่างใหญ่ก้าวอาด ๆ เข้าหาสตรีทั้งสอง ทั้งฉุนและไม่พอใจที่น้องสาวขัดขืนไม่ยอมเชื่อฟัง เสียเวลาทำธุระอย่างอื่นชะมัด ความอดทนเริ่มจะหมดลงเรื่อย ๆ“นางเป็นน้องของเจ้าเอามาขายเป็นผักเป็นปลาเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่อายพ่อแม่บรรพบุรุษบ้างหรือ ทำมาหากินเองไม่ได้ต้องมาขายน้องแลกเงิน ถุย...” ไป๋เหลียนด่าทออย่างเหลืออด พลางมองค้อนหลี่มู่กวาที่ไม่ยอมช่วยเหลือ“ปากดีนักนะ เรื่องของคนอื่นอย่าริมาสั่งสอน” บุรุษร่างกายใหญ่โตเทอะทะง้างมือขึ้นหมายฟาดสั่งสอนให้สำนึก บังอาจเข้ามาสอดไม่เข้าเรื่อง มีหรือคนอย่างตนจะให้สตรีมาด่าเช่นนี้ ดีละ จัดการนังนี่ไปขายด้วยคงจะได้หลายตำลึง“อ๊ากกกกก”ตุบ!“เอามือสกปรกของเจ้าออกไป” แม่ทัพหนุ่มใช้เท้าถีบเข้าไปที่ใบหน้าเหมือนหมูตอนเต็มแรง พร้อมกับชักดาบออกจากฝัก เฉือนปลายจมูกแหว่งไม่พอหูข้างหนึ่งก็ถูกตัดเช่นกัน และยังใจดีโยนเงินจำนวนหนึ่งตำลึงให้ชายผู้นั
“ขายบ้านหลังนี้เจ้าไม่เสียดายแน่หรือ”“ข้าตัดสินใจแล้วเจ้าค่ะ เก็บไว้ก็เท่านั้นมิสู้ขายเอาเงินมาใช้ดีกว่า” คิดว่าน่าอยู่นักหรือหมู่บ้านเส็งเคร็งเช่นนี้มีอะไรให้นางเสียดายกัน ขาย ๆ ไปนั่นแหละดีแล้ว เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ หากจะเรียกให้ถูกก็คือไม่ควรค่าแก่การกลับมาที่นี่ต่างหากนางเพิ่งเอาโฉนดที่ดินขึ้นทะเบียนเพื่อฝากขาย ก็ไม่แปลกที่เขาจะถามนางเช่นนั้น คนเราเกิดและโตที่ใดก็ย่อมมีความทรงจำความผูกพันเป็นธรรมดา แต่ว่านางไม่ใช่ ไม่ใช่ทั้งไป๋เหลียน ไม่ใช่ทั้งคนของโลกแห่งนี้ แล้วจะเสียดายไปไยนอกจากมีธุระเรื่องขายที่แล้ว นางและหลี่มู่กวายังมีธุระต้องไปหอฮวาเหมย ด้วยท่านอ๋องได้นัดหมายให้ไปพบที่นั่น หญิงสาวจึงถือโอกาสนี้ไปร่ำลาพวกพี่สาวคณิกาทั้งสาม อย่างไรเสียนางไปแล้วคงจะไม่กลับมาที่นี่อีก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่อาจตัดใจ ปล่อยเงินก้อนโตหายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร ที่นี่ล้วนเป็นแหล่งเงินทองชั้นดี“เดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ ตรงนั้นเกิดอะไรขึ้นเราเข้าไปดูสักหน่อยดีหรือไม่”เบื้องหน้ากลับมีคนรุมล้อมดูอะไรสักอย่าง ทั้งเสียงสตรีก็ดูจะคุ้นหูนัก ความอยากรู้อยากเห็นทำให้หญิงสาวเดินหน้าตั้งฝ่ากลุ่มคนไปทันที ย
ยามห้าย (21.00-22.59 น.)ไป๋เหลียนได้แต่นอนกลิ้งไปมาอยู่บนเตียง ฝืนตนเองเอาไว้ไม่ให้หลับไปเสียก่อนรอว่าหลี่มู่กวาจะกลับมาเมื่อไร ถึงแม้เขาจะบอกไว้ก่อนแล้วให้เข้านอนก่อนก็ตาม“ข้าจะทำอย่างไรให้ท่านแม่ทัพพาข้าไปด้วยดีนะ”ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ไม่มีหนทางไหนที่เขาจะยอมให้นางติดตามไปด้วยได้เลย ยิ่งตนมีชนักติดหลังอยู่ด้วย การที่จะทำให้เขายอมตกลงจึงเป็นเรื่องยากยิ่งแต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะต้องตามเขาไปด้วยให้ได้ ไม่มีวิธีที่ดีไปกว่าการลองขอเขาไปตามตรง ไม่แน่ว่าหลี่มู่กวาอาจจะใจอ่อน ต่อให้นางไปในฐานะสาวใช้หรือทาสก็ยอม“เมื่อไรจะกลับมาเสียที ไม่ใช่ว่าแอบกลับไปเมืองหน้าด่านแล้วหรอกนะ” ร่างบางลนลานลุกขึ้นนั่งทันที เขาบอกว่าจะไปช่วยหาโรงเตี๊ยมให้ท่านอ๋องได้พักในระหว่างที่อยู่ที่นี่ เดินทางเข้าเมืองกว่าชั่วยามยังไม่กลับมา รู้เช่นนี้นางน่าจะขอให้ทั้งสองคนนอนพักที่นี่เสียก็ดีแต่แล้วเสียงดังกุกกักจากด้านนอกทำเอาไป๋เหลียนใจชื้นขึ้นไม่น้อย ภาวนาให้เป็นหลี่มู่กวาด้วยเถอะ อย่าได้เป็นผีหรือไอ้ติงเฉิงหน้าหม้อนั่นเลย สองสิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกหลอนและเข็ดขยาดขึ้นสมอง อย่างไรเสียต้องหาอะไรไว้ป้องกันตัว หญิงสาวรีบ
“อืม... นี่ก็เป็นหนึ่งในข้อร้องขอของแคว้นฉู่เช่นกัน เสด็จพ่อเห็นว่าไม่ใช่สิ่งที่ขอมากไปจึงตอบตกลง” ที่เขาไม่ชอบใจเลยก็ตรงที่พวกมันทำราวกับแคว้นเป่ยเป็นเพียงหมูในคอก คิดอยากทำอะไรก็ทำ เรียกร้องจะเอานั่นเอานี่ไม่รู้จักเกรงใจ กระนั้นจะทำอย่างไรได้ในเมื่อกำลังพลยังไม่พร้อมจะรับศึกหนักตอนนี้ได้ ช่างน่าเจ็บใจนัก“พวกมันเหิมเกริมขึ้นทุกวัน เรายอมรับการประนีประนอมมิใช่ยอมแพ้เสียเมื่อไรกัน ไอ้พวกสุนัขลอบกัด” คราวที่แล้วแม้จะรู้ว่าเป็นพวกมันสร้างสถานการณ์ขึ้นมา ทว่าพวกเขากลับหาหลักฐานไม่ได้ทำให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นว่าท่านอ๋องถูกโจรป่าดักปล้น ยังดีที่สามารถเอาชีวิตรอดกันมาได้“ข้าน้อยว่าการขอพักขบวนที่เมืองหน้าด่านมิใช่เรื่องปกติขอรับ แม้คณะทูตจะเดินทางไกลก็จริง หากจะต้องพักแค่สามวันก็น่าจะพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องรั้งอยู่นานถึงสิบวัน”“ข้าก็เห็นด้วยกับจิ้งกัง เป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่”“เพราะแบบนี้เราถึงได้มาหาเจ้า เราก็ไม่อยากจะขัดความสุขของเจ้ากับภรรยาหรอกนะ แต่อย่างไรคงต้องรีบกลับหน้าด่านให้เร็วที่สุด จะล่าช้าต่อไปไม่ได้แล้ว จะพานางไปด้วยหรือให้รอที่นี่ก็คุยกันให้รู้เรื่องเสีย อีกสามวันเราต้องออกเดินท
นางคือภรรยาของข้าคำคำนี้ยังคงก้องอยู่ในหู ทำเอาไป๋เหลียนยืนเหม่อลอยทำอะไรไม่ถูก แม้นางจะถูกร้องขอให้ออกมาทำอาหารเย็นแล้วก็ตาม ทว่าความเป็นจริงกลับเอาแต่ยืนนิ่งมาได้สักพักใบหน้างามเห่อร้อนแดงเรื่อลามไปถึงใบหูอย่างช่วยไม่ได้ ขัดเขินเสียจนไม่แน่ใจว่าจะกล้ามองหน้าหลี่มู่กวาได้โดยไม่รู้สึกอะไรหรือไม่ ถึงเขาไม่ได้ตั้งใจจะพูดเช่นนั้นก็เถอะ กระนั้นก็ยังรู้สึกดีไม่น้อยเช่นนั้นในเมื่อวันนี้หลี่มู่กวาพูดถูกใจ นางก็จะทำของอร่อยเอาใจเขาเพิ่มจากเดิมอีกสักสองสามอย่างแล้วกัน อย่างไรเสียก็มีคนมาเพิ่มของเดิมที่ทำไว้คงไม่พอจะเรียกว่าทำอาหารก็ไม่ถูก เพราะนางก็ไม่ได้ทำอะไรดีขนาดนั้น ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เอาออกมาจากมิติวิเศษ ส่วนที่ทำเองก็คงจะมีแค่หุงข้าวและอาหารพื้น ๆ ของโลกเดิมแค่บางอย่างที่ตนเองถนัดก็เท่านั้นเป็ดปักกิ่งถูกแร่หนังกรอบ ๆ จัดเรียงในจานอย่างดี ส่วนเนื้อเป็ดนั้นหั่นเป็นชิ้นพอดีคำแยกออกมาอีกจาน นอกจากนั้นยังมีปลานึ่งซีอิ๊วอีกหนึ่งอย่าง กระนั้นสิ่งที่นางลงมือทำจริงก็คือต้มยำกุ้งน้ำข้น รสชาติจัดจ้านซดร้อน ๆ ก็คงจะคล่องคอดีทว่าระหว่างทำอาหารอยู่นั้น ไป๋เหลียนก็ยังคงคอยเอียงหูฟังอยู่ตลอด บ้าน