แชร์

68: ทดสอบพิษ [1]

ผู้เขียน: Tuk Kung
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-29 15:46:23

ร่างท้วมของเสนาบดีเฒ่าเตี่ยซำฮวงเอาแต่เดินวกไปวนมา หลังจากมาถึงเมืองหลวงได้หนึ่งวัน พวกเขาได้เอาของบรรณาการออกมาตรวจสอบอีกครั้งเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด กลับพบว่าของสำคัญและมีมูลค่าสูงสุดได้กลายเป็นปลอมทั้งหมด สร้างความตกใจและกังวลเป็นอย่างมาก

แม้จะใช้ความคิดถึงสาเหตุที่เป็นไปได้อย่างไรก็คิดไม่ออก ในเมื่อของทุกอย่างล้วนเป็นพวกเขาควบคุมดูแลทุกขั้นตอน แม้แต่ตำหนักแห่งนี้ก็มีแต่คนแคว้นฉู่เท่านั้นที่สามารถเข้าไปถึงที่เก็บของได้

“มันเป็นไปได้อย่างไรขอรับท่านเสนาบดี พวกเราคุ้มกันและตรวจสอบเป็นอย่างดี ไม่มีทางที่มันจะเป็นของปลอมไปได้เด็ดขาด” ผู้ช่วยนามเหล่าเปียวนั่งแทบไม่ติดเช่นกัน ของที่หายไปล้วนเป็นของสำคัญและมีมูลค่ามหาศาล บางชิ้นก็มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น

“ตรวจสอบดีหรือยัง ไม่แน่อาจมีคนแอบเข้ามาขโมยในระหว่างเดินทางก็ได้ ถ้าหาทางออกที่ดีไม่ได้พวกเจ้ารู้ใช่หรือไม่ต่อไปแม้แต่ลมหายใจก็อาจจะไม่มีอีกต่อไป”

“พวกเราตรวจสอบดีแล้วขอรับท่านเสนาบดี ตั้งแต่วันแรกที่เราออกจากแคว้นจนมาถึงที่นี่ ไม่มีคนนอกเฉียดเข้าใกล้เราเลยขอรับ จะมีก็แต่....”

“แต่อะไรก็รีบ ๆ พูดมา” เตี่ยซำฮวงตวาดลั่น เรื่องร้อนใจเช่นนี้กลับเอาแต่อ้ำอึ้งอยู่ได้ คนคุ้มกันเป็นร้อยแต่กลับปล่อยให้คนมาหยามถึงที่ได้อย่างไร

“โส่วฮุ่ยขอรับ ตั้งแต่วันงานเลี้ยงที่เมืองหน้าด่านข้าก็ไม่เห็นเขาอีกเลย ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นฝีมือคนผู้นั้นก็ได้นะขอรับ”

“โส่วฮุ่ยหรือ มีความเป็นไปได้สูง คนผู้นั้นแม้จะเป็นบุตรชายท่านราชครู แต่ใครจะรู้ตัวตนที่แท้จริงเล่า ในเมื่อเขาโตที่แคว้นเป่ยไม่มีอะไรยืนยันนี่ว่าโส่วฮุ่ยจะจงรักภักดีต่อเรา” เสนาบดีเฒ่าเริ่มคิดวิเคราะห์ตามเหตุและผล หากพิจารณาให้ดีตั้งแต่วันงานเลี้ยงโส่วฮุ่ยก็หายหัวไปเลย ทั้งยังไม่ติดต่อกับใครปิดจวนเงียบ งานนี้ท่านราชครูจะต้องรับผิดชอบร่วมด้วย

“วันก่อนข้าให้คนไปหาเขา แต่คนในจวนบอกว่าโส่วฮุ่ยไม่อยู่ยังไม่กลับจากเมืองหน้าด่าน มิใช่ว่าจงใจหลบหน้าพวกเราหรือขอรับ”

“จงไปสืบมาหากเขามีส่วนเกี่ยวข้องจริงแล้วละก็ ข้าจะไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ ท่านราชครูจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด จัดการให้เงียบที่สุดเล่า ที่นี่ต่างบ้านต่างเมืองเราทำอะไรมากไม่ได้”

“ขอรับ แล้วเรื่องของปลอมพวกนี้จะจัดการอย่างไร อีกไม่กี่วันก็จะต้องเข้าเฝ้าฮ่องเต้ซิงเสวียนจงแล้วนะขอรับ”

“ข้าเองก็ยังคิดไม่ตก น่าเสียดายที่เราใช้ยาหลอนประสาทไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันกลับไม่ได้ผล จะเอากลับมาใช้อีกก็คงยากแล้ว” 

“เอ่อ... ใต้เท้า ข้ารู้ว่ามันค่อนข้างเสี่ยง ท่านจะลองฟังสักหน่อยไหมขอรับ” ผู้ช่วยเหล่าเปียวยืดตัวเข้าหากระซิบกระซาบข้างหูเสนาบดีเฒ่า พร้อมกับบอกถึงแผนการที่ตนพอจะนึกออก ใช่ว่าเรื่องที่เขาเสนอไปจะเป็นเรื่องแปลกใหม่ไม่เคยทำเสียเมื่อไร หากทำให้แนบเนียนได้นอกจากหลอกจักรพรรดิแคว้นเป่ยได้ พวกตนยังสามารถเอาเรื่องนี้ขึ้นมาข่มขู่ต่อรองหาผลประโยชน์จากมันได้อีกด้วย

เสนาบดีเตี่ยซำฮวงพยักหน้ารับรู้ทุกขั้นตอน ความเสี่ยงและความเป็นไปได้มีเท่ากัน แต่ถ้าหากทำสำเร็จพวกตนก็จะได้เปรียบ ทั้งยังสามารถโยนความผิดเรื่องของหายได้อีกด้วย

“ดี จัดการเลย เรื่องเวลาไม่ต้องห่วงข้าจะหาเรื่องถ่วงเวลาให้เอง”

“เช่นนั้นข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยขอรับ”

หลังจากแยกกันกับเสนาบดีเตี่ยซำฮวง ผู้ช่วยเหล่าเปียวเรียกหาหมอประจำคณะทูตอย่างรีบร้อน โดยไม่รู้เลยว่าเหล่านางกำนัลที่เดินกันขวักไขว่มีคนของฉู่หรงปะปนอยู่ แม้แผนการของพวกเขาจะเป็นความลับสำหรับคำภายนอกมากแค่ไหน ทว่ามันกลับมิใช่ความลับสำหรับคนของแคว้นฉู่

วันรุ่งขึ้นเตี่ยซำฮวงได้แสร้งล้มป่วยหนัก เพื่อเป็นข้ออ้างในการขอยืดระยะเวลาออกไป โดยอ้างว่าตัวเขานั้นเดินทางมาไกล ทั้งยังไม่คุ้นกับสภาพอากาศ ทำให้อาการเจ็บป่วยเรื้อรังกำเริบ ช่วงนี้ไม่อาจจะลุกจากเตียงได้และเกรงว่าจะนำโรคร้ายไปติดผู้อื่น จึงขอเวลาอีกสิบวันเมื่อดีขึ้นตัวเขาจะเข้าพบองค์จักรพรรดิทันที

ด้านจักรพรรดิซิงเสวียนจงนั้นคาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่าอีกฝ่ายจะมาไม้นี้ พระองค์จึงแสร้งเล่นตามน้ำไป พร้อมกันนั้นก็ยังส่งหมอหลวงคอยดูแลคณะราชทูตแคว้นฉู่เป็นอย่างดี อย่าได้ขาดตกบกพร่อง ความหมายของพระองค์นั่นคือให้จับตาดูทุกฝีก้าว

ส่วนเรื่องของอำมาตย์โส่วไม่มีทางที่คนเหล่านั้นจะสืบหาได้ ในเมื่อหลี่มู่กวาสั่งคนดักไว้แล้วทุกทาง แม้แต่นายอำเภอผู้สมรู้ร่วมคิด บัดนี้ก็ถูกสั่งเก็บเข้าคุกหลวงเป็นที่เรียบร้อย

“ซิงเยี่ยนเจ้ามีความคิดอย่างไร” ฮ่องเต้เสวียนจงเรียกเหล่าโอรสของพระองค์ รวมไปถึงแม่ทัพหลี่พร้อมภรรยาเข้าพบเพื่อหารือในครั้งนี้อีกด้วย อย่างไรเสียมีคนช่วยคิดก็ดีกว่าต้องมานั่งคิดคนเดียว

“ทูลเสด็จพ่อ ลูกคิดว่าศัตรูของศัตรูก็คือมิตรของเรา เช่นนั้นเราไม่ลองยืมแรงพวกเขาช่วยเราอีกทางพ่ะย่ะค่ะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   83: ลำบากน้องหญิงแล้ว [2]

    ชายหนุ่มรู้สึกผิดปกติกับกลิ่นกำยาน ยิ่งสูดดมเข้าไปก็ยิ่งมีความต้องการมากขึ้น เขาจึงทำลายโถกำยานนั่นเสีย แต่ก็ดูเหมือนจะสายเกินไป เมื่อตัวเขาเองก็ยากจะควบคุมร่างกายและความรู้สึกได้แล้วร่างบางถอดชุดตนเองออกอย่างเร่งรีบไม่รับฟังสิ่งใดทั้งนั้น ปากหรือก็คอยรับจูบจากคนตัวโตได้อย่างช่ำชอง อารมณ์กำหนัดของคนทั้งสองกำลังพุ่งทะยานขึ้นสูงถึงขีดสุด ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เคยมีบัดนี้กลับเลือนหาย รู้เพียงว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้กายเบื้องล่างสงบลงด้วยเพราะเป็นเวลากลางวัน แสงจากด้านนอกลอดผ่านช่องระบายจึงทำให้เห็นอะไรต่อมิอะไรได้ชัดเจน สองกายเปลือยเปล่าโผเข้าหากันอย่างหื่นกระหาย กอดตวัดเกี่ยวพันเต็มไปด้วยไฟแห่งราคะไม่มีที่สิ้นสุด“อ้าส์ ท่านพี่ ข้าขออีก ไม่พอ ข้าอยากได้มันอีก”แม้ยามนี้นางจะกลืนกินแก่นกายเนื้อเข้าไปจนมิดด้ามแล้วก็ตาม ทว่าความรู้สึกภายในมันกลับบอกว่าไม่เพียงพอ ทั้งยั่วทั้งบดอย่างที่ไม่เคยคิดว่าตนเองจะกล้าทำแต่ก็ทำ เร่งเร้าให้อีกฝ่ายออกแรงกระแทกมากกว่านี้“อ้าส์...พี่ พี่ไม่อยากให้เจ้าเจ็บ” ชายหนุ่มขบกรามแน่นเพื่อข่มอารมณ์ให้ได้มากที่สุด ดูเหมือนว่าตัวเขาเองจะอาการหนักมากกว่าค

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   81: แผนการเดิม ๆ [2]

    หว่านปิงที่ยืนแอบอยู่มุมอับประตูได้แต่กำหมัดแน่น ไม่เคยโกรธและเกลียดใครได้เท่าไป๋เหลียนมาก่อนในชีวิต นับตั้งแต่สตรีผู้นี้เข้ามาความใส่ใจที่เคยได้รับก็ถูกดึงไปจดหมด แม้แต่กิจการร้านค้าก็ยังยกให้มันแต่ตนกลับไม่ได้อะไรเลย วัน ๆ ได้แต่แสร้งปั้นหน้าเอาใจยายแก่หนังเหนี่ยวเสียจนน่าเบื่อแล้วข้าเล่า....ข้าควรเป็นคนที่ได้สิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ไม่ใช่เป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้ที่เพิ่งเข้ามาได้ไม่ถึงเดือนหว่านปิงกลับไปที่ห้องตนเองด้วยความรู้สึกเจ็บแค้น นางเริ่มคิดวางแผนกำจัดสะใภ้บ้านนอกให้เร็วที่สุด ก่อนที่สมบัติทั้งหมดในจวนจะไม่เหลือให้ตนสักชิ้น วันรุ่งขึ้นเจ้าตัวอาศัยช่วงเวลาที่ฮูหยินหลี่ออกไปพบปะสหาย ลงมือทำตามแผนทันทีบุตรสาวจวนแม่ทัพเข้าครัวแต่เช้า ลงมือเคี่ยวน้ำแกงไก่ด้วยตนเองทั้งยังพูดปาว ๆ ว่าที่ทำไปนั้นก็เพื่อบำรุงพี่ชายและพี่สะใภ้ เพราะนางนั้นอยากจะเป็นท่านอาเต็มทนบ่าวไพร่ที่ได้ยินดังนั้นก็พากันกระซิบกระซาบ พูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ คุณหนูหว่านปิงช่างน่ารักเหลือเกิน อยากได้หลานถึงกับลงมือทำของบำรุงด้วยตนเองไฉนเลยบ่าวไพร่ความรู้น้อยจะรู้เหตุผลที่แท้จริง น้ำแกงไก่หม้อนั้นเต็มไปด้วยสมุนไพรแล

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   80: แผนการเดิม ๆ [1]

    บทสรุปของเรื่องราวครั้งนี้ จบลงด้วยการที่แคว้นฉู่ถูกเรียกร้องให้จ่ายค่าทำขวัญ และรับผิดชอบที่คณะทูตใช้กลอุบายเล่นสกปรก เพื่อหวังจะให้แคว้นเป่ยยกเส้นทางสายไหมให้แคว้นฉู่สามารถใช้ร่วมกันได้โดยไม่ต้องเสียค่าผ่านทางใด ๆ รวมไปถึงต้องการให้ยินยอมรับข้อเสนอที่ไม่เป็นธรรมอีกหลายอย่างแม้คณะทูตแคว้นฉู่จะพยายามแก้ตัวอย่างไร ก็ไม่มีใครสามารถช่วยได้ ด้วยครั้งนี้มิใช่เพียงเรื่องความบาดหมางของทั้งสองแคว้น มันกลับพ่วงไปถึงแคว้นซ่ง พวกเขาถูกลากมาเกี่ยวข้องด้วยก็เพราะเตี่ยซำฮวงเคยใช้พิษหลอนประสาท ซึ่งเป็นพิษขึ้นชื่อของแคว้นซ่ง เพื่อหวังให้ทั้งสองฝ่ายแตกคอกันการกระทำอันหยาบช้า ยิ่งทำให้มีความผิดมากเท่าทวีคูณ แม้จะปฏิเสธก็ยากแล้วเมื่อทางแคว้นเป่ยมีทั้งพยานและหลักฐานมัดตัววันรุ่งขึ้นได้มีคำสั่งให้เหล่าคณะทูตพร้อมกับคนทรยศอย่างอำมาตย์โส่ว ถูกขับไล่ออกจากแคว้นทันที เตี่ยซำฮวงจึงได้รู้ในตอนนั้นเองว่าไม่มีผู้ใดทรยศพวกเขาทั้งนั้น ที่พ่ายแพ้ย่อยยับมันเป็นเพราะพวกเขามั่นใจตนเองเกินไป โดยไม่รู้ตัวเลยว่าถูกซ่อนแผนมาตั้งแต่แรกเมื่อเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปสู่คนภายนอก แคว้นฉู่ถูกประณามไม่มีชิ้นดี ด้วยแรงกดดันอันม

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   79: พลาดหนึ่งครั้งสะเทือนทั้งแคว้น [3]

    “นี่มันอะไรกันฝ่าบาท คราวนี้พระองค์จะแก้ตัวอย่างไร โหดเหี้ยมนักถึงกับวางยาพวกเราเชียวหรือ เช่นนั้นสัญญาเมื่อครู่ถือว่าเป็นโมฆะ ต่อไปนี้แคว้นฉู่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ได้โปรดทุกท่านในที่นี้ให้ความเป็นธรรมกับพวกเราด้วย อย่าได้ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล” เตี่ยซำฮวงได้ทีรีบหาพรรคพวกเป็นการใหญ่ แสร้งทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำ หวังพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ“เจ้ากล่าวหาเราเป็นครั้งที่สองแล้วนะ ใต้เท้าเตี่ยเจ้ามีหลักฐานหรือว่าเราเป็นผู้กระทำ”“ฝ่าบาทยังจะแก้ตัวอีกหรือ ใคร ๆ ก็เห็นหลังจากทูตของเราดื่มสุราเขาไปก็กระอักเลือดออกมาทันที ทุกท่านในที่นี้ล้วนเป็นพยาน”“ฝ่าบาทมิใช่ว่าพวกกระหม่อมปรักปรำพระองค์แต่อย่างใด แต่หากพระองค์ไม่มีหลักฐานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ พวกเราก็จนใจไม่อาจอยู่ข้างพระองค์ได้พ่ะย่ะค่ะ” ซีหยางอ๋องแห่งแคว้นฉานลุกขึ้นออกความคิดเห็น พวกเขาเป็นมิตรอันดีกับแคว้นเป่ยมาช้านาน ทว่าจะให้หลับหูหลับตาเข้าข้างอย่างเดียวก็มิใช่เรื่อง ด้วยเกี่ยวพันไปถึงชื่อเสียงด้วยเช่นกัน“กระหม่อมเห็นด้วยกับซีหยางอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” องค์ชายเก้าแคว้นซ่งกล่าวเสริมทัพ แม้จะรู้สึกสะใจไม่น้อยกระนั้นก็ไม่สามารถแสดง

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   78: พลาดหนึ่งครั้งสะเทือนทั้งแคว้น [2]

    เมื่อตรวจสอบแล้วว่าอาหารและเครื่องดื่มของเหล่าบุคคลสำคัญไม่มีพิษปนเปื้อน หญิงสาวจึงพยักหน้าให้เหล่านางกำนัลลำเลียงอาหารและเครื่องดื่มออกไปได้ เพียงเท่านี้เหล่าเชื้อพระวงศ์จึงได้ดื่มกินกันอย่างวางใจหลังจากดื่มกินชมการแสดงได้สองบทเพลงจึงได้เวลาสำคัญ คณะทูตแคว้นฉู่ก้าวออกมายืนตรงกลางลานต่อหน้าพระพักตร์ ด้านหลังพวกเขาล้วนเป็นของที่นำมาบรรณาการแลกเปลี่ยนทั้งสิ้น ในมือของเตี่ยซำฮวงผู้เป็นหัวหน้าคณะก็ยังมีกล่องไม้รูปทรงยาวขนาดหนึ่งฉื่อ (1ฉื่อ= 30.48 เซนติเมตร) ถืออยู่ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผู้เป็นนาย กำชับว่าต้องนำมาบรรณาการให้ถึงมือองค์จักรพรรดิให้ได้“ก่อนจะถึงเวลาสำคัญ กระหม่อมเตี่ยซำฮวงขอเป็นตัวแทนมอบของขวัญเล็กน้อยแก่ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” เสนาบดีเฒ่าส่งกล่องไม้ให้กงกงน้อย ของด้านในไม่ใช่ของมีค่าอะไร เป็นเพียงแค่ม้วนภาพวาดของพระสนมกุ้ยเฟย มีศักดิ์เป็นพระขนิษฐาองค์จักรพรรดิแคว้นเป่ย แต่งเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีเมื่อหลายสิบปี ท่านอ๋องตั้งใจใช้สื่อในเชิงข่มขู่จักรพรรดิซิงเสวียนจงทันทีที่ได้รับกล่องไม้องค์จักรพรรดิซิงเสวียนจงได้เปิดออกดูต่อหน้าธารกำนัล พระองค์ก็ถึงกับเบิกตากว้างหัวเราะอย่างชอบใจ

  • ข้ากลายเป็นตัวประกอบที่ตื่นมาในอ้อมกอดของพระรอง   77: พลาดหนึ่งครั้งสะเทือนทั้งแคว้น [1]

    “ผู้ช่วยเหล่าเปียวสั่งกำชับทุกคนดีแล้วใช่ไหม” หลังจากที่แกล้งป่วยเพื่อถ่วงเวลา บัดนี้เตี่ยซำฮวงพร้อมแล้วที่จะดำเนินการต่อให้จบ ท่านอ๋องทรงเร่งให้เขาจัดการให้เรียบร้อย ก่อนที่ฝ่าบาทจะทรงฟื้นคืนสติ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ลงแรงมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า“เรียบร้อยขอรับ ยาถอนพิษอยู่ที่ข้าน้อย ใต้เท้าต้องรีบจัดการให้จบเรื่องภายในสี่ชั่วยามนะขอรับ ไม่เช่นนั้นข้าน้อยได้ตายจริง ๆ เป็นแน่” เหล่าเปียวไม่ลืมที่จะกำชับเจ้านาย หากว่าเกินสี่ชั่วยามไปแล้วแม้มียาถอนพิษก็ช่วยอะไรไม่ได้ เขาเองก็กลัวตายเช่นกัน“รู้แล้วน่า ถ้าเจ้าไม่รอดข้าก็ไม่รอดเหมือนกัน ”ระหว่างเดินทางไปยังอุทยานหลวงซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน เสนาบดีเตี่ยซำฮวงมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่น้อย แม้ว่าจะวางแผนมาแล้วเป็นอย่างดีแต่อะไรก็ไม่แน่นอน ทุกอย่างล้วนเหนือความคาดหมายได้ทุกเมื่อท่ามกลางลานกว้างอุทยานหลวง ผู้คนกำลังหลั่งไหลกันเข้ามาไม่หยุด เหล่าเสนาอำมาตย์และผู้ที่เกี่ยวข้องต่างตั้งตารอช่วงเวลาสำคัญ ส่วนบนแท่นบัลลังก์ด้านบนสูงสุดคือที่ประทับขององค์จักรพรรดิ ลดหลั่นกันลงมาก็ที่นั่งสำหรับเชื้อพระวงศ์และบุคคลสำคัญ“ฝ่าบาทเสด็จ”เสียงก้องกังวานของกงกงน้อยดั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status