Share

บทที่ 3 กลางป่าลึก

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-11 13:50:37

มู่หลันฮวาหันไปถลึงตามองเหยาเว่ย แต่เหยาเว่ยกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ปากก็พร่ำพูดต่อไปไม่ยอมหยุดหย่อน 

"เช่นนั้นเราต้องส่งคนไปให้เทพเจ้างูกินเช่นนั้นหรือ?"

"เจ้าค่ะ"

"ไม่ได้!!! ข้าได้ยินมาว่าท่านมิกินมนุษย์!!!"

เหล่าชาวบ้านที่ได้ยินการสนทนาระหว่างเหยาเว่ยและเถ้าแก่ ก็รีบเข้ามาสมทบทันที 

"เช่นนั้นก็ส่งนางไปเป็นทาสรับใช้ท่านก็ได้"

"หากท่านอยากกินนางขึ้นมาเล่า"

"ก็ถือว่าเป็นเวรกรรมของนางเถิด"

เหยาเว่ยยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจที่สามารถยุยงชาวบ้านได้สำเร็จ มู่หลันฮวาไม่อยากจะสนใจสิ่งใดอีก นางจึงเดินกลับจวนไปเสีย ระหว่างทางก็ไม่ลืมที่จะแวะซื้อหมั่นโถวติดมือไปให้ท่านพ่อของนางด้วย 

แม้ว่าบิดาจะติดเหล้าติดการพนัน แต่ก็รักนาง ทุกครั้งที่ได้เงินมาก็มักจะซื้อของกินอร่อย ๆ มาให้นาง นางเองก็รู้สึกว่าบิดาคนนี้ก็ดีมิใช่น้อย 

หากมิติดการพนัน บิดาของนางคงจะเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้ 

"อาหลันของพ่อ เจ้ากลับมาแล้ว ดูสิพ่อมีสิ่งใดติดมือมาด้วย สุราดอกท้ออย่างดี!!!"

มู่หลัวที่เห็นบุตรสาวเดินเข้ามาก็รีบยกจอกเหล้าขึ้นมาทักทายทันที มู่หลันฮวายกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเข้าไปยกจอกสุราที่บิดารินให้ขึ้นมาดื่มจนหมด 

รสชาติเยี่ยม!!!

ในเมื่อบอกบิดาให้เลิกดื่มไม่ได้เช่นนั้นก็ดื่มเป็นเพื่อนบิดาเสีย!!!

เพราะนางก็ชอบสุราเช่นกัน 

ฮ่าาาาาาา

"ข้าซื้อหมั่นโถวมาฝากท่านพ่อด้วยเจ้าค่ะ"

"ดีดี"

เหยาเว่ยจ้องมองสองพ่อลูกด้วยแววตาที่เกลียดชัง ทุกวันนี้นางต้องทำงานหาเงินมาให้สามีชั่วช้ากินเหล้าเล่นการพนัน แล้วนี่อะไร!!! จู่ ๆ มู่หลันฮวาเกิดเป็นบ้าอันใดขึ้นมา จึงมานั่งดื่มสุราเช่นเดียวกับบิดาไปอีกคน

"เหยาเว่ย กับแกล้มของข้าเล่า!!!"

"ได้แล้วเจ้าค่ะท่านพี่!!!"

เหยาเว่ยรีบยกผักกาดดองที่นางหมักเองไปให้สามี มู่หลันฮวาที่เห็นเช่นนั้น ก็ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มแล้วจึงคีบผักกาดดองเข้าปาก ก่อนจะพ่นมันใส่หน้าเหยาเว่ยจนใบหน้านางเปียกชุ่มไปหมด 

"หลันฮวา!!!"

"อุ๊ยท่านแม่!!! ขออภัยเจ้าค่ะ ผักกาดดองนี่มันเค็มยิ่งนัก ลูกกลืนไม่ไหวจริง ๆ เจ้าค่ะ!!!"

เหยาเว่ยกัดฟันกรอด ก่อนจะเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในครัว 

หลายวันต่อมา เหล่าชาวบ้านต่างหารือกัน ว่าจะหาหญิงสาวที่มีคุณสมบัติครบตามที่เหยาเว่ยบอก นำไปบูชาแก่เทพเจ้าปีศาจงู 

มู่หลันฮวารู้สึกว่าอีแปะที่มีเริ่มน้อยลง นางคงต้องตัดใจเดินขึ้นไปตัดฟืนบนหุบเขาเสียแล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางก็ไม่รอช้า รีบเตรียมตัวเดินทางไปบนหุบเขาทันที

สองข้างทางที่แห้งแล้ง เมื่อเข้าสู่เขตหุบเขา ในตอนนี้ได้กลายเป็นป่าไม้สีเขียวชอุ่มที่อุดมสมบูรณ์ ต้นไม้นานาพรรณมากมายต่างยืนต้นเรียงรายกันอย่างหนาตา ยิ่งเดินเข้าไปในป่าลึกอากาศก็เริ่มเย็นลง เพราะต้นไม้ที่ขึ้นซ้อนทับกัน ทำให้รอบข้างดูอึมครึมอย่างน่ากลัว 

มู่หลันฮวามองซ้ายขวา ยามนี้นางเดินเข้ามาไกลมากแล้ว เมื่อเห็นเช่นนั้นจึงรีบจัดการตัดต้นไม้ที่ไม่ใหญ่มากนักสองถึงสามต้นมามัดและแบกไว้ที่ด้านหลัง เพราะท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้รกทึบ ทำให้นางไม่อาจรู้ได้เลยว่าเวลาเคลื่อนไปถึงยามใดแล้ว 

มู่หลันฮวารู้สึกเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก นางจึงทิ้งตัวนั่งลงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ก่อนจะผล็อยหลับไป นางมารู้สึกตัวอีกคราก็เมื่อได้ยินเสียงเสียงหนึ่งดังอยู่ใกล้ ๆ กับที่นางนอนอยู่

ฟ่อ 

มู่หลันฮวารีบหันไปมอง ก่อนจะพบกับงูน้อยสีขาวนวลราวกับไข่มุก กำลังพันตัวอยู่บนกิ่งไม้ ซึ่งนางจะมิรู้สึกอะไรเลยถ้าหากงูตัวนั้นมิได้กำลังจ้องมองมายังนางอย่างใคร่รู้

หลี่เย่ออกมารับลมเย็น ๆ อย่างเช่นที่เขาเคยทำมาทุกวัน แต่ทว่าเขากลับได้พบกับสตรีน้อยนางหนึ่งที่มานอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ 

ด้วยความสงสัยเขาจึงแวะดูนางเสียหน่อย แต่คาดไม่ถึงว่านางจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน 

มู่หลันฮวาหันไปมองงูน้อยสีขาว ก่อนจะยกยิ้มด้วยความสุขใจ เจ้างูขาวน้อยที่มีดวงตาสีแดงเหมือนทับทิมประกายมรกต ช่างดูน่ารักน่าชังยิ่งนัก 

นางคลุกคลีอยู่กับสัตว์มามากมายเสียจนเคยชิน และไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย 

"เจ้างูน้อย เจ้าช่างงามยิ่งนัก ขอข้าจับหน่อยเถิด"

'อะ!!! สตรีนางนี้ ช่างบังอาจยิ่งนัก!!!'

ฟ่อฟ่อ 

หลี่เย่ส่งเสียงขู่คำรามใส่นาง แต่มู่หลันฮวากลับไม่เกรงกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย มือเรียวสวยลูบไล้ไปบนเกล็ดสีขาวนวลงามตาชวนมองบนร่างของหลี่เย่ นางมิเคยสัมผัสอสรพิษใดที่มีเกล็ดกายงดงามเช่นนี้มาก่อน

หลี่เย่ลอบสบถในใจ นานแล้วที่เขามิได้อยู่ใกล้ชิดสตรีเช่นนี้ 

กลิ่นสุราอ่อน ๆ บนกายนางช่างหอมเย้ายวนใจเขายิ่งนัก 

ช่างสิ!!! ชาตินี้เขาจะรักแต่มู่เหลียนฮวาเท่านั้น!!!

"เจ้างูน้อย"

'เรียกทำไมหนักหนากัน!!!'

มู่หลันฮวาหยอกล้อหลี่เย่อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปล่อยเขาไว้ที่เดิม นางแบกฟืนขึ้นหลัง ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้เขาอีกครั้งและเดินจากไป 

หลี่เย่รู้สึกราวกับฝันไป รอยยิ้มของนางคล้ายกับมู่เหลี่ยนฮวายิ่งนัก!

มู่หลันฮวาเดินอยู่นานนางก็ไม่พบกับทางออกเสียที จนนางเริ่มเหนื่อยล้า ในใจเริ่มตื่นตระหนกไม่น้อย นี่นางกำลังหลงป่าเช่นนั้นหรือ 

ยามแล้วยามเล่า นางก็ยังหาทางออกไม่เจอ จนท้องฟ้าเริ่มมืดลงทุกขณะ เห็นทีว่านางคงจะออกจากป่ามิได้เสียแล้ว จึงทิ้งตัวนั่งหลบอยู่ที่พุ่มไม้ใหญ่และผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า โชคดีที่นางนำน้ำและเสบียงติดตัวมาด้วย มิเช่นนั้นคงได้อดตายในป่าลึกเช่นนี้เป็นแน่ 

หลี่เย่แอบติดตามนางอย่างห่าง ๆ  เมื่อได้เห็นว่านางเหนื่อยล้าและหลงป่าจนเผลอหลับไป เขาก็รู้สึกเวทนานางไม่น้อย 

ยามนี้พระจันทร์เต็มดวงแล้ว มันส่งแสงนวลผ่องสว่างเจิดจ้า สาดส่องลงมาที่ร่างของเขา 

หลี่เย่ในตอนนี้ได้กลายร่างเป็นมนุษย์อย่างเต็มตัว เขาสวมชุดสีขาว ทรงผมที่มัดรวบขึ้นคล้ายกับคุณชายในเมืองหลวง ดวงตาสีดำคมกริบกำลังจ้องมองมู่หลันฮวาอย่างไม่ละสายตา 

ฟ่อฟ่อ 

เขาปรายตามองงูเห่าตัวหนึ่งที่เลื้อยเข้ามาหวังจะทำร้ายนาง หลี่เย่สะบัดมือเพียงครั้งเดียว ร่างของงูตัวนั้นก็ลอยละลิ่วหายไปทันที 

เหตุใดนางจึงไม่กลับไปเสียที หลงป่าหรือ?

หลี่เย่ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้นาง ก่อนจะย่อกายนั่งลงจ้องมองนางอย่างพิจารณา เขาเองก็ไม่เข้าใจตนเองเช่นกันว่าเหตุใดจึงต้องตามนางมา แต่เพราะว่านางมีแรงดึงดูดบางอย่างที่เขาเองก็บอกไม่ถูก 

ในขณะที่หลี่เย่กำลังจ้องมองมู่หลันฮวาอยู่นั้น นางก็ลืมตาขึ้นมา 

ดวงตาของทั้งคู่จ้องมองกันอย่างไม่ลดละ 

หล่อจัง!!!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   ราชามารเฟิ่งจิ้ง ตอนพิเศษ เฟิ่งจิ้งและหลี่ฮวา

    หลี่ฮวาจ้องมองไปยังเบื้องหน้าด้วยแววตาที่เรียบเฉย ยามนี้นางตามเฟิ่งจิ้งมาที่เผ่ามารด้วย เจียวฟางงูน้อยและเซียงเซียงปีศาจแมวก็คอยตามมารับใช้นางด้วยตามคำสั่งของหลี่เย่และมู่หลันฮวา จวนตระกูลมู่ถูกปิดตายเอาไว้เช่นนั้นไม่มีผู้ใดอยู่อีก นางคิดว่าไว้มีเวลาว่างนางจะกลับไปเยี่ยมจวนของท่านแม่เป็นครั้งคราวเผ่ามารเป็นสถานที่น่าเกรงขาม รอบบริเวณต่างปกคลุมไปด้วยไอหมอกหนาสีดำ สถานที่แห่งนี้ดูแล้วช่างน่าอันตรายไม่น้อย สายตาของเหล่ามารที่มองนางก็ดูจะไม่ค่อยเป็นมิตรเสียเท่าไหร่เฟิ่งจิ้งแต่งงานกับนางแล้ว เขาพานางมายังเผ่ามารด้วยกัน แม้ภายนอกเขาจะดูเงียบขรึมแต่ทว่ายามที่อยู่กับนางเขาช่างร้อนแรงไม่เบา เขาพานางเดินมายังสถานที่แห่งหนึ่ง มันคล้ายกับเรือนพักของมนุษย์ แต่ดูจะใหญ่โตมากกว่า ภายในประดับตกแต่งด้วยหัวกะโหลกของมนุษย์มากมาย ชวนให้รู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก ตั้งแต่ถูกจองจำในครั้งนั้นเฟิ่งจิ้งก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าเขาจะไม่ทำร้ายมนุษย์บริสุทธิ์อีก นอกจากมนุษย์จิตใจต่ำช้าเพียงเท่านั้น น่าแปลกยิ่งนักการที่เขาได้กินหัวใจสด ๆ และกลืนกินพลังชีวิตของเหล่ามนุษย์จิตใจหยาบช้า พลังของเขากลับมีมากมายกว่าแต่ก่อนเสียอีก

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   บทที่ 25 THE END

    เมื่อสารทฤดูมาเยือน (ฤดูใบไม้ร่วง) หลี่เว่ยต้องรีบกลับมาหาผู้เป็นมารดาอย่างรีบร้อน ด้วยเพราะได้รับข่าวแจ้งจากหลี่ฮวา ว่ามู่หลันฮวาใกล้หมดสิ้นลมหายใจสุดท้ายเต็มทีแล้ว นางสั่งเสียให้บุตรทั้งสองพานางขึ้นไปบนเจดีย์เหลยเฟิง มู่หลันฮวาจ้องมองไปที่เจดีย์สูงตระหง่านด้วยดวงตาที่พร่ามัว มือเหี่ยวย่นยื่นไปจับมือของบุตรทั้งสองมากอบกุมเอาไว้ "จงรักกัน พึ่งพากัน สายใยพี่น้องย่อมมิอาจตัดขาด"หลี่เว่ยและหลี่ฮวาพยักหน้าทั้งน้ำตา เขามิอยากสูญเสียมารดาไปเช่นนี้เลย แต่จะให้ทำเช่นไรได้เล่า มารดาของเขาเป็นมนุษย์ ย่อมมีวันหมดสิ้นอายุขัยเป็นเรื่องธรรมดาห้วงลมหายใจสุดท้าย ก่อนที่มู่หลันฮวาจะจากโลกนี้ไป ก็บังเกิดลำแสงสีขาวพวยพุ่งลงมาจากบนท้องฟ้าลงมายังเจดีย์เหลยเฟิง ปรากฏร่างของหลี่เย่ที่ยามนี้ช่างงดงามสว่างเจิดจ้ายิ่งนัก ท่อนล่างของเขาเป็นงู เกล็ดสีขาวนวลราวไข่มุกราตรีช่างงดงามเหลือเกิน หลี่เว่ยและหลี่ฮวาหันไปมองผู้เป็นบิดาด้วยแววตาเป็นประกาย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับหลี่เย่ท่านพ่อของเขามู่หลันฮวาใช้แรงเฮือกสุดท้ายยื่นฝ่ามือเหี่ยวย่นออกไปหาเขา หลี่เย่เองก็ยื่นมือออกไปรับมือของนางเอาไว้ แล้วจึงโน้มใบหน

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   บทที่ 24 ได้นิสัยแม่มา

    มู่หลันฮวาจ้องมองหลี่เย่ที่ถูกจองจำเอาไว้ในเจดีย์เหลยเฟิงอีกครั้ง ก่อนที่นางจะกลั้นใจรวบรวมสติที่เหลืออยู่ พาตนเองกลับไปหาลูกน้อยที่ถ้ำบนหุบเขาเมื่อไปถึง นางก็ได้พบกับเจียวฟางและเซียงเซียงที่รออยู่หน้าถ้ำ พร้อมกับอุ้มบุตรทั้งสองของนางเอาไว้ มู่หลันฮวาพบกับท่านผู้เฒ่าจิ้งจอกอีกครา เขามองนางด้วยสายตาที่เป็นมิตรมากกว่าครั้งแรกอยู่มาก "คารวะท่านผู้เฒ่าเจ้าค่ะ""อืม ช่างเถิด ข้ามาที่นี่เพื่อจะมาบอกเจ้าว่า ข้าจะมารับบุตรชายของเจ้ากลับไปยังเผ่าปีศาจของเรา"มู่หลันฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องท่านผู้เฒ่าจิ้งจอกเขม็ง จนเขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ ไม่เคยมีมนุษย์ผู้ใดที่มีสายตาอำมหิตเช่นนางมาก่อน "เอ่อ แม่นางเจ้าฟังข้าก่อน นี่เป็นความต้องการของหลี่เย่ เขาอยากให้บุตรชายได้เป็นราชาปีศาจเช่นเดียวกับเขา""ลูกข้ายังเด็กนัก!!!""เอาเถิด ข้ายังไม่รีบร้อนเสียหน่อย รอให้เขาโตกว่านี้อีกหน่อย ข้าจะกลับมาถามเจ้าอีกครา วันนี้ข้าเพียงแวะมาเยี่ยมเยียนลูกหลานของเผ่าปีศาจเพียงเท่านั้น""ท่านไม่รังเกียจที่เขามีเลือดมนุษย์ไหลเวียนอยู่ในร่างหรือเจ้าคะ""เหลวไหล!!! เขาเป็นปีศาจ เจ้าแหกตาดูสิ เขาเหมือนหลี่เย่ยิ่งนัก!!!

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   บทที่ 23 ขอพรสามข้อ

    อวี้ฉือที่ตามหลี่เย่ออกมาด้วย เมื่อได้เห็นเขาคุกเข่าอ้อนวอนต่อองค์เง็กเซียนฮ่องเต้อย่างหมดอาลัยตายอยากในชีวิตก็รู้สึกสงสารหลี่เย่เป็นอย่างมาก อวี้ฉือเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะเอ่ยขอความเห็นใจจากองค์เง็กเซียนฮ่องเต้แทนหลี่เย่ "ทูลองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ หลี่เย่ได้สำนึกผิดแล้ว ขอพระองค์ทรงเมตตาเขาสักคราด้วยเถิด อย่างน้อยเรายังจะได้ชุบชีวิตมนุษย์ผู้สืบสายเลือดบริสุทธิ์ให้กลับมามีชีวิตอีกครา นางอาจจะช่วยแดนสวรรค์ของเราได้ไม่มากก็น้อยพ่ะย่ะค่ะ"หลี่เย่เงยหน้าไปมองอวี้ฉือด้วยแววตาที่เย็นชา ท้ายที่สุดแล้ว เผ่าสวรรค์ก็ยังคงต้องการเลือดของนางไปซ่อมแซมตาข่ายสวรรค์อยู่ดี เห็นแก่ตัวกันยิ่งนัก!!!องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดังกังวานน่าเกรงขาม "หลี่เย่!!! เช่นนั้นเจ้าจงนำหญ้าเซียนไปให้แก่นาง แล้วจงรีบกลับมาที่นี่ เตรียมรับโทษจากข้า!!!""เป็นพระกรุณายิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ"หลี่เย่น้อมกายทำความเคารพต่อองค์เง็กเซียนฮ่องเต้อย่างจำยอม เมื่อเขาตอบตกลงที่จะทำตามเงื่อนไข ท้องฟ้าพลันสว่างสดใส ประตูเจดีย์เหลยเฟิงจึงเปิดออก เผยให้เห็นหญ้าเซียนสีทองจำนวนมหาศาลที่ยืนต้น

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   บทที่ 22 ชีวิตแลกชีวิต

    เหล่าวิญญาณร้ายที่ถูกไห่ซือจับเป็นทาสรับใช้ รวมถึงเหล่าปีศาจและมารชั้นต่ำที่ไห่ซือจับพวกมันมาได้จากการหลุดลอดหนีออกมาจากตาข่ายสวรรค์ ต่างพุ่งทะยานเข้ามาหาหลี่เย่และเฟิ่งจิ้งทันที ควันสีดำทะมึนต่างพวยพุ่งเข้ามาอย่างมิขาดสาย หลี่เย่หาได้เกรงกลัวไม่ เขาพร้อมตั้งรับอย่างเต็มที่กรร!!!หลี่เย่กลายร่างเป็นงูยักษ์ขนาดใหญ่ ลำตัวของเขาใหญ่โตราวกับภูเขา ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองไปที่ไห่ซือและเฉินเฟยด้วยความโกรธแค้น เกล็ดสีขาวนวลราวไข่มุกราตรีส่องสว่างไปทั่วทั้งบริเวณ สร้างความหวั่นเกรงต่อผู้ที่ได้พบเห็นไม่น้อย ฟ่อ!!!เพียงแค่เขาอ้าปากพ่นพิษไฟออกมา ร่างของเหล่ามารปีศาจชั้นต่ำและวิญญาณร้ายต่างแหลกสลายมอดไหม้กลายเป็นจุณ ไม่นานนักเหล่าข้ารับใช้ของไห่ซือก็ทยอยสลายกลายเป็นผุยผงไปเสียหมด ไห่ซือยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เขาเปิดขวดน้ำเต้าทองออกมาอีกครั้ง ก็ปรากฏร่างของปีศาจงูสีดำขนาดใหญ่ ดวงตาสีแดงฉานของมันจ้องมองมาที่หลี่เย่ด้วยความดุดัน ลำตัวของมันมีขนาดใหญ่ไม่ต่างจากหลี่เย่ ไห่ซือที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกพึงพอใจไม่น้อย ปีศาจงูตนนี้เขาจับมันมาได้ตอนที่มันหลบหนีจากตาข่ายสวรรค์เฝ้าดูแลและเลี้ยงดูมันมาหลา

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   บทที่ 21 เริ่มต้นการนองเลือด

    มู่หลันฮวามิได้รู้สึกว่าตนเองมีอาการแพ้ท้องหรืออยากอาหารมากเท่าใดนัก นางยังคงใช้ชีวิตได้เช่นปกติทั่วไป อาจจะมีเหนื่อยล้าและง่วงนอนบ้างบางเวลา แต่ก็ถือว่าไม่ได้อ่อนแอมากเท่าใดนักตรงกันข้ามนางกลับต้องการดื่มเลือดสด ๆ บ้างในบางครั้งก็เท่านั้นมู่หลัวแม้จะยังรู้สึกแปลกใจและสงสัยว่ามู่หลันฮวาจับงูมาทำสามีได้เช่นไร แต่เขายิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว และไม่อยากทำให้บุตรสาวของตนเองลำบากใจ จึงหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถามนางไปเสียท้องของมู่หลันฮวาในยามนี้ใหญ่โตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว คงเพราะบุตรในครรภ์มีเลือดของปีศาจอยู่ครึ่งหนึ่งจึงทำให้เจริญเติบโตรวดเร็วกว่าทารกในครรภ์ปกติทั่วไป หลี่เย่พานางมาหลบซ่อนอยู่ในถ้ำตามคำแนะนำของมู่หลัว ด้วยเกรงว่าจะมีชาวบ้านล่วงรู้เข้า และหลี่เย่กับมู่หลันฮวาจะพบเจอกับความลำบากมู่หลันฮวารู้สึกว่าภายในถ้ำค่อนข้างอบอ้าวมากกว่าปกติ นางจึงให้หลี่เย่พาออกมาเดินเล่นที่ด้านนอกเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์"หลี่เย่!!! เจ้าคิดแหกกฎเผ่าปีศาจหรือ!!!"เสียงทรงอำนาจเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทำให้มู่หลันฮวาและหลี่เย่ต้องหันไปมอง ก่อนจะพบกับผู้เฒ่าชราที่มีผมสีขาวโพลน หนวดเครายาวเป็นสีขาวขับให้บนใบหน้าของเขาดูน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status