แชร์

บทที่ 8 สูญสิ้นพรหมจรรย์

ผู้เขียน: องค์หญิงโนเนม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-11 13:52:28

มู่หลันฮวารู้สึกต้องการเขาอย่างห้ามใจเอาไว้ไม่อยู่ หลี่เย่เองก็ฝืนทนต่อความต้องการในร่างกายของตนเองเอาไว้ไม่ไหวเช่นกัน แม้ปากจะปฏิเสธ แต่ลำแท่งเอ็นร้อนของเขาในยามนี้ ช่างแข็งชูชันเสียยิ่งนัก 

มู่หลันฮวาเคยมีประสบการณ์เช่นนี้ในชาติก่อน นางจึงไม่รอช้าที่จะจับลำแท่งแก่นกายขนาดใหญ่ของเขามาจ่อที่ร่องรูสวาทของตน จากนั้นก็ค่อย ๆ  ขยับสะโพกบางเข้ากลืนกินลำแท่งมังกรยักษ์ตั้งแต่ปลายหัวที่ดุดันระเรื่อยไปจนกระทั่งสุดโคนหางที่แข็งแกร่ง

"อูยยย นายท่านน ช่างใหญ่ยิ่งนักเจ้าค่ะ!!!"

"อ๊าส์!!! ข้าเจ็บอาหลัน!!!"

"ข้าก็เจ็บ ทนอีกนิดนะเจ้าคะนายท่าน ข้าจะค่อย ๆ ขยับ อื้ออ!!!"

มู่หลันฮวาค่อย ๆ ขยับขึ้นลงอย่างช้า ๆ อยู่บนกายของหลี่เย่ ก่อนจะค่อย ๆ เร่งจังหวะให้ถี่เร่ามากยิ่งขึ้น โชคดีที่นางช่วยตนเองบ่อย ๆ จึงไม่รู้สึกว่าฝืดเคืองเท่าใดนัก 

ตับตับตับ

มู่หลันฮวาขยับสะโพกส่ายร่อนราวกับหงส์เต้นระบำ ทุกท่วงท่าการเคลื่อนไหวของนางช่างติดตาตรึงใจหลี่เย่เป็นอย่างมาก 

เขาไม่เคยพบเจอสตรีใดที่เร่าร้อนเช่นนี้มาก่อนเลย 

มู่หลันฮวาจับมือของหลี่เย่ขึ้นมาทั้งสองข้าง ก่อนจะวางมือหนาใหญ่ของเขาเอาไว้บนดอกบัวคู่สวยขนาดใหญ่ของนางทั้งสองเต้า สะโพกสวยก็ขยับขึ้นลงอย่างไม่ยอมลดละ

"อื้ออ บีบสิเจ้าคะ ขยำแรง ๆ !!!"

หลี่เย่ที่ถูกไฟราคะเข้าครอบงำไปทั้งกายใจยามนี้เขารู้สึกราวกับโดนไฟแผดเผาจนร้อนรุ่มไปทั้งกาย มือใหญ่บีบขยำเต้าเต่งตึงอวบอิ่มของนางอย่างแรงตามที่นางร้องขอ สัมผัสหนักหน่วงที่นางปรนเปรอให้แก่เขา มันช่างสาแก่ใจยิ่งนัก สาสมกับที่เขาอดทนมานานแสนนาน

ในเมื่อนางปลุกมันขึ้นมา นางก็ต้องรับผิดชอบ!!!

หลี่เย่เลื่อนฝ่ามือลูบไล้เรือนร่างของนางด้วยความหลงใหล เขาจับรั้งเอวบางของนางเอาไว้ ก่อนจะเด้งเอวกระแทกกระทั้นลำแท่งเอ็นร้อนสวนขึ้นไปหานางอย่างรุนแรง 

เขาไม่เคยร่วมรักกับผู้ใดมาก่อน แต่การที่จะเรียนรู้นั้นย่อมไม่ยากเย็นเท่าใดนัก 

​มู่หลันฮวาผละออกจากกายของเขา ก่อนที่นางจะลุกขึ้นมานั่งชันเข่าในท่าหันหลังให้แก่เขา 

"ลองดูสิเจ้าคะ เสียบเข้ามาเลย"

หลี่เย่ไม่รอช้า เขารีบลุกขึ้นมานั่งชันเข่าเช่นกัน แล้วจึงบดเบียดลำแท่งมังกรขนาดใหญ่เข้าไปในรูสวยของนางทันที มือหนาจับรั้งเอวของนางข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ยื่นไปจับไหล่สวยของนางเอาไว้ แล้วจึงเริ่มขยับสะโพกสอบเข้าออกผ่านรูสวรรค์ของนางอย่างช้า ๆ  ก่อนจะเร่งจังหวะให้ถี่เร่ามากยิ่งขึ้น

"อ๊าส์!!! นายท่านเจ้าขาาา!!!"

"ซี้ดดดด!!! อาหลัน ข้าช่างมีความสุขยิ่งนัก!!!"

เขากระแทกกระทั้นลำแท่งเอ็นอุ่นร้อนเข้าหานางอย่างหนักหน่วงและรุนแรงหลายต่อหลายครา จนร่างบางระหงราวกับกิ่งหลิวสั่นไหวไปตามแรงขยับที่เขาปรนเปรอให้แก่นางอย่างไม่ยอมลดละ ไฟสวาทในครานี้ได้เผาไหม้ทำลายความบริสุทธิ์ของเขาและนางไปจนหมดสิ้น

"อื้อออ!!! ข้าจะไม่ไหวแล้วเจ้าค่ะนายท่าน!!!"

"ข้าปวดเบาอีกแล้ว อ๊าส์!!!"

ร่างของทั้งสองกระตุกเกร็งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่หลี่เย่จะปล่อยน้ำพิษสีขาวขุ่นเข้าไปในรูสวยของนางจนเอ่อล้น มวลน้ำรักมากมายเสียจนไหลหยดลงตามพื้นดิน เขาเก็บกดมานานหลายพันปีจนมันไหลเอ่อล้นออกมามากมายขนาดนี้เชียวหรือ? 

มู่หลันฮวารู้สึกปวดไปทั้งร่าง นางหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาห่อหุ้มกายเอาไว้ แล้วจึงมองไปทางหลี่เย่ที่ทิ้งตัวลงนั่งด้วยสีหน้าที่หม่นหมอง 

"นายท่าน"

"จบสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ที่แสนบริสุทธิ์ของข้า"

"ไม่เป็นไรนะเจ้าคะ ข้าจะรับผิดชอบชีวิตนายท่านเอง"

หลี่เย่ "..."

หลายวันต่อมา มู่หลันฮวายังคงอยู่ในถ้ำกับหลี่เย่ นางคอยดูแลเอาใจใส่เขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าเขาจะกลายร่างเป็นครึ่งงู หรืองูใหญ่ นางก็ไม่เคยรังเกียจเขา 

เจียวฟางเองก็เริ่มที่จะชื่นชอบมู่หลันฮวาขึ้นมาบ้างแล้ว 

"เตรียมตัวให้ดี วันนี้ข้าจะไปส่งเจ้าที่ทางเข้าหมู่บ้าน"

มู่หลันฮวาที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับเจียวฟาง เมื่อได้ยินหลี่เย่เอ่ยปากไล่นางเช่นนี้ จึงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย 

"ข้าบอกไปแล้วนี่เจ้าคะว่าข้าไม่กลับ"

"เจ้าเป็นมนุษย์ ข้าเป็นปีศาจ เราไม่อาจอยู่ร่วมกันได้"

"ก็แอบอยู่สิเจ้าคะ"

"อาหลัน!!! นี่ไม่ใช่เรื่องขบขัน!!!"

"แต่ข้าอยากอยู่กับนายท่านนะเจ้าคะ"

"ครบเจ็ดวันแล้ว เจ้ากลับไปเสีย"

"นายท่านไล่ข้าหรือ?"

หลี่เย่เงียบไม่ยอมเอ่ยสิ่งใด นี่ก็ครบเจ็ดวันตามที่เขาได้เอ่ยเอาไว้แล้ว เขาจะมอบสมบัติที่มีให้นางไปครึ่งหนึ่ง ให้นางไปเริ่มต้นชีวิตใหม่และลืมเลือนเรื่องระหว่างเขากับนางไปเสีย 

มู่หลันฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเสียแล้ว นางเป็นภรรยาเขาไปแล้ว แต่เขากลับไล่นาง 

"ไปก็ได้ ไม่ต้องตามมาส่งข้า ข้าไม่อยากเห็นหน้าท่าน"

มู่หลันฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินออกไปจากถ้ำทันที โดยที่ไม่มองหน้าเขาอีก 

"พี่อาหลัน ข้าจะไปส่งท่านเอง"

"ไม่ต้องหรอกเจียวฟาง เจ้าอยู่ที่นี่เถิด พี่หาทางกลับเองได้"

มู่หลันฮวาเดินออกไปทันที หลี่เย่ขมวดคิ้วมุ่นแต่ยังคงไม่ตามนางไป เขาพยักหน้าให้เจียวฟางเล็กน้อย งูเขียวตัวเล็กจึงรีบแอบตามไปส่งนางทันทีโดยที่ไม่ให้นางรู้ ระหว่างทางเจียวฟางก็แอบทำสัญลักษณ์บอกทางไปหมู่บ้านแก่นางเป็นระยะ

มู่หลันฮวาเดินกลับมาถึงที่หมู่บ้านก็เป็นเวลาพลบค่ำเสียแล้ว ยามนี้ผู้คนต่างเข้าเรือนหลับนอนกันหมด นางเปิดประตูเข้าไปในจวน ก่อนจะพบกับมู่หลัวผู้เป็นบิดาที่กำลังนั่งดื่มสุราด้วยสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก

"ท่านพ่อ"

"อาหลัน!!!"

"ใช่ ข้าเอง"

"เจ้ายังไม่ตายหรือ?"

"ตายจะยืนอยู่ตรงนี้หรือเจ้าคะ"

"ฮืออออ อาหลัน"

มู่หลัววิ่งเข้ามากอดบุตรสาวทันที มู่หลันฮวาเองก็กอดตอบผู้เป็นบิดา ดวงตาคู่สวยหันไปจ้องมองเหยาเว่ยที่มองมาที่นางด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด 

นังลูกเลี้ยงชั่วยังไม่ตายอีกหรือ?

มู่หลันฮวาผละออกจากมู่หลัว ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาเหยาเว่ยทันที เหยาเว่ยเองก็รีบถอยหลังหนีด้วยความหวาดกลัว 

"อย่าเข้ามานะ!!!"

"กลัวข้าหรือ นางแก่!!!"

"อย่า!!! อ๊าส์? !!!"

ผัวะ!!!

มู่หลันฮวาหยิบกระทะขึ้นมาฟาดลงไปที่กลางศีรษะของเหยาเว่ยทันที เมื่อเหยาเว่ยล้มลง นางจึงยกเท้าขึ้นกระทืบลงไปกลางลำตัวของเหยาเว่ยจนนางหมดสติลง 

เหยาเถียนที่วิ่งออกมาเห็นก็ไม่กล้าช่วยเหลือมารดาของตน เพราะเขาเองก็เคยถูกมู่หลันฮวากระทืบมาก่อน ทำได้เพียงพยุงร่างของมารดาเข้าไปในเรือนนอน

"อาหลันพอแล้ว"

"ท่านพ่อควรหย่ากับนางเสีย"

"พ่อเขียนใบหย่าให้นางไปแล้ว แต่นางมิยอมไป"

"เป็นเช่นนั้นหรือ ก็ได้ ให้นางอยู่ไปก่อน ดูสิว่านางจะทนมือทนเท้าข้าได้สักกี่วัน"

มู่หลันฮวาเองที่รู้สึกโมโหหลี่เย่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้มาลงที่เหยาเว่ยก็รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย 

หลี่เย่!!! งูนิสัยไม่ดี!!!

ผ่านไปหลายวันแล้ว นับตั้งแต่ที่มู่หลันฮวากลับหมู่บ้านไป แต่ทว่าหลี่เย่กลับมีท่าทีกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก 

ทุกคืนยามที่เขาหลับตา เขาจะเห็นภาพที่นางขึ้นคร่อมขย่มอยู่บนกายของเขาตลอดเวลา 

มันช่างบัดซบยิ่งนัก!!! เขาถูกมนุษย์ขืนใจ!!!

หลี่เย่รู้สึกได้ถึงความเงียบเหงาที่เขาไม่เคยสัมผัสมันมาก่อน คล้าย ๆ กับว่าการขาดนางไปจะทำให้เขารู้สึกหดหู่ยิ่งนัก 

ช่างสิ!!! ใครสนนางกันเล่า นางก็เพียงแค่ผ่านเข้ามาในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น

คืนพระจันทร์เต็มดวง

หลี่เย่ในร่างมนุษย์ถอนหายใจออกด้วยความรู้สึกที่ยากจะเอ่ยออกมา 

ไหนว่านางแค่ผ่านเข้ามา 

ไหนว่าเขาจะลืมนางไปเสีย 

แล้วเหตุใดในยามนี้เขาจึงมายืนอยู่ที่หน้าต่างเรือนนอนของนางกันเล่า?

เขาตามกลิ่นของนางมา มันช่างยากเย็นยิ่งนักกว่าที่เขาจะหานางพบ นางมีกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไปเขาจำกลิ่นของนางได้

ก๊อก ก๊อก 

มู่หลันฮวาที่กำลังหลับสนิท กลับถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเคาะหน้าต่างที่รบกวนนาง นางขยี้ตาครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปเปิดหน้าต่างออกดู ภาพที่เห็นทำให้นางหายง่วงไปเสียสนิท 

"มาหาใครเจ้าคะ?"

"มาหาเจ้า เจ้าลืมนำสมบัติที่ข้ามอบให้ติดตัวมาด้วย"

"ข้าไม่อยากได้เจ้าค่ะ"

"แต่ข้าให้เจ้าแล้ว"

"ข้าอยากได้ท่านเจ้าค่ะ ไม่ได้อยากได้สมบัติของท่าน!!!"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   ราชามารเฟิ่งจิ้ง ตอนพิเศษ เฟิ่งจิ้งและหลี่ฮวา

    หลี่ฮวาจ้องมองไปยังเบื้องหน้าด้วยแววตาที่เรียบเฉย ยามนี้นางตามเฟิ่งจิ้งมาที่เผ่ามารด้วย เจียวฟางงูน้อยและเซียงเซียงปีศาจแมวก็คอยตามมารับใช้นางด้วยตามคำสั่งของหลี่เย่และมู่หลันฮวา จวนตระกูลมู่ถูกปิดตายเอาไว้เช่นนั้นไม่มีผู้ใดอยู่อีก นางคิดว่าไว้มีเวลาว่างนางจะกลับไปเยี่ยมจวนของท่านแม่เป็นครั้งคราวเผ่ามารเป็นสถานที่น่าเกรงขาม รอบบริเวณต่างปกคลุมไปด้วยไอหมอกหนาสีดำ สถานที่แห่งนี้ดูแล้วช่างน่าอันตรายไม่น้อย สายตาของเหล่ามารที่มองนางก็ดูจะไม่ค่อยเป็นมิตรเสียเท่าไหร่เฟิ่งจิ้งแต่งงานกับนางแล้ว เขาพานางมายังเผ่ามารด้วยกัน แม้ภายนอกเขาจะดูเงียบขรึมแต่ทว่ายามที่อยู่กับนางเขาช่างร้อนแรงไม่เบา เขาพานางเดินมายังสถานที่แห่งหนึ่ง มันคล้ายกับเรือนพักของมนุษย์ แต่ดูจะใหญ่โตมากกว่า ภายในประดับตกแต่งด้วยหัวกะโหลกของมนุษย์มากมาย ชวนให้รู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก ตั้งแต่ถูกจองจำในครั้งนั้นเฟิ่งจิ้งก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าเขาจะไม่ทำร้ายมนุษย์บริสุทธิ์อีก นอกจากมนุษย์จิตใจต่ำช้าเพียงเท่านั้น น่าแปลกยิ่งนักการที่เขาได้กินหัวใจสด ๆ และกลืนกินพลังชีวิตของเหล่ามนุษย์จิตใจหยาบช้า พลังของเขากลับมีมากมายกว่าแต่ก่อนเสียอีก

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   บทที่ 25 THE END

    เมื่อสารทฤดูมาเยือน (ฤดูใบไม้ร่วง) หลี่เว่ยต้องรีบกลับมาหาผู้เป็นมารดาอย่างรีบร้อน ด้วยเพราะได้รับข่าวแจ้งจากหลี่ฮวา ว่ามู่หลันฮวาใกล้หมดสิ้นลมหายใจสุดท้ายเต็มทีแล้ว นางสั่งเสียให้บุตรทั้งสองพานางขึ้นไปบนเจดีย์เหลยเฟิง มู่หลันฮวาจ้องมองไปที่เจดีย์สูงตระหง่านด้วยดวงตาที่พร่ามัว มือเหี่ยวย่นยื่นไปจับมือของบุตรทั้งสองมากอบกุมเอาไว้ "จงรักกัน พึ่งพากัน สายใยพี่น้องย่อมมิอาจตัดขาด"หลี่เว่ยและหลี่ฮวาพยักหน้าทั้งน้ำตา เขามิอยากสูญเสียมารดาไปเช่นนี้เลย แต่จะให้ทำเช่นไรได้เล่า มารดาของเขาเป็นมนุษย์ ย่อมมีวันหมดสิ้นอายุขัยเป็นเรื่องธรรมดาห้วงลมหายใจสุดท้าย ก่อนที่มู่หลันฮวาจะจากโลกนี้ไป ก็บังเกิดลำแสงสีขาวพวยพุ่งลงมาจากบนท้องฟ้าลงมายังเจดีย์เหลยเฟิง ปรากฏร่างของหลี่เย่ที่ยามนี้ช่างงดงามสว่างเจิดจ้ายิ่งนัก ท่อนล่างของเขาเป็นงู เกล็ดสีขาวนวลราวไข่มุกราตรีช่างงดงามเหลือเกิน หลี่เว่ยและหลี่ฮวาหันไปมองผู้เป็นบิดาด้วยแววตาเป็นประกาย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับหลี่เย่ท่านพ่อของเขามู่หลันฮวาใช้แรงเฮือกสุดท้ายยื่นฝ่ามือเหี่ยวย่นออกไปหาเขา หลี่เย่เองก็ยื่นมือออกไปรับมือของนางเอาไว้ แล้วจึงโน้มใบหน

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   บทที่ 24 ได้นิสัยแม่มา

    มู่หลันฮวาจ้องมองหลี่เย่ที่ถูกจองจำเอาไว้ในเจดีย์เหลยเฟิงอีกครั้ง ก่อนที่นางจะกลั้นใจรวบรวมสติที่เหลืออยู่ พาตนเองกลับไปหาลูกน้อยที่ถ้ำบนหุบเขาเมื่อไปถึง นางก็ได้พบกับเจียวฟางและเซียงเซียงที่รออยู่หน้าถ้ำ พร้อมกับอุ้มบุตรทั้งสองของนางเอาไว้ มู่หลันฮวาพบกับท่านผู้เฒ่าจิ้งจอกอีกครา เขามองนางด้วยสายตาที่เป็นมิตรมากกว่าครั้งแรกอยู่มาก "คารวะท่านผู้เฒ่าเจ้าค่ะ""อืม ช่างเถิด ข้ามาที่นี่เพื่อจะมาบอกเจ้าว่า ข้าจะมารับบุตรชายของเจ้ากลับไปยังเผ่าปีศาจของเรา"มู่หลันฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็จ้องท่านผู้เฒ่าจิ้งจอกเขม็ง จนเขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ ไม่เคยมีมนุษย์ผู้ใดที่มีสายตาอำมหิตเช่นนางมาก่อน "เอ่อ แม่นางเจ้าฟังข้าก่อน นี่เป็นความต้องการของหลี่เย่ เขาอยากให้บุตรชายได้เป็นราชาปีศาจเช่นเดียวกับเขา""ลูกข้ายังเด็กนัก!!!""เอาเถิด ข้ายังไม่รีบร้อนเสียหน่อย รอให้เขาโตกว่านี้อีกหน่อย ข้าจะกลับมาถามเจ้าอีกครา วันนี้ข้าเพียงแวะมาเยี่ยมเยียนลูกหลานของเผ่าปีศาจเพียงเท่านั้น""ท่านไม่รังเกียจที่เขามีเลือดมนุษย์ไหลเวียนอยู่ในร่างหรือเจ้าคะ""เหลวไหล!!! เขาเป็นปีศาจ เจ้าแหกตาดูสิ เขาเหมือนหลี่เย่ยิ่งนัก!!!

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   บทที่ 23 ขอพรสามข้อ

    อวี้ฉือที่ตามหลี่เย่ออกมาด้วย เมื่อได้เห็นเขาคุกเข่าอ้อนวอนต่อองค์เง็กเซียนฮ่องเต้อย่างหมดอาลัยตายอยากในชีวิตก็รู้สึกสงสารหลี่เย่เป็นอย่างมาก อวี้ฉือเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนจะเอ่ยขอความเห็นใจจากองค์เง็กเซียนฮ่องเต้แทนหลี่เย่ "ทูลองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ หลี่เย่ได้สำนึกผิดแล้ว ขอพระองค์ทรงเมตตาเขาสักคราด้วยเถิด อย่างน้อยเรายังจะได้ชุบชีวิตมนุษย์ผู้สืบสายเลือดบริสุทธิ์ให้กลับมามีชีวิตอีกครา นางอาจจะช่วยแดนสวรรค์ของเราได้ไม่มากก็น้อยพ่ะย่ะค่ะ"หลี่เย่เงยหน้าไปมองอวี้ฉือด้วยแววตาที่เย็นชา ท้ายที่สุดแล้ว เผ่าสวรรค์ก็ยังคงต้องการเลือดของนางไปซ่อมแซมตาข่ายสวรรค์อยู่ดี เห็นแก่ตัวกันยิ่งนัก!!!องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดังกังวานน่าเกรงขาม "หลี่เย่!!! เช่นนั้นเจ้าจงนำหญ้าเซียนไปให้แก่นาง แล้วจงรีบกลับมาที่นี่ เตรียมรับโทษจากข้า!!!""เป็นพระกรุณายิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ"หลี่เย่น้อมกายทำความเคารพต่อองค์เง็กเซียนฮ่องเต้อย่างจำยอม เมื่อเขาตอบตกลงที่จะทำตามเงื่อนไข ท้องฟ้าพลันสว่างสดใส ประตูเจดีย์เหลยเฟิงจึงเปิดออก เผยให้เห็นหญ้าเซียนสีทองจำนวนมหาศาลที่ยืนต้น

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   บทที่ 22 ชีวิตแลกชีวิต

    เหล่าวิญญาณร้ายที่ถูกไห่ซือจับเป็นทาสรับใช้ รวมถึงเหล่าปีศาจและมารชั้นต่ำที่ไห่ซือจับพวกมันมาได้จากการหลุดลอดหนีออกมาจากตาข่ายสวรรค์ ต่างพุ่งทะยานเข้ามาหาหลี่เย่และเฟิ่งจิ้งทันที ควันสีดำทะมึนต่างพวยพุ่งเข้ามาอย่างมิขาดสาย หลี่เย่หาได้เกรงกลัวไม่ เขาพร้อมตั้งรับอย่างเต็มที่กรร!!!หลี่เย่กลายร่างเป็นงูยักษ์ขนาดใหญ่ ลำตัวของเขาใหญ่โตราวกับภูเขา ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองไปที่ไห่ซือและเฉินเฟยด้วยความโกรธแค้น เกล็ดสีขาวนวลราวไข่มุกราตรีส่องสว่างไปทั่วทั้งบริเวณ สร้างความหวั่นเกรงต่อผู้ที่ได้พบเห็นไม่น้อย ฟ่อ!!!เพียงแค่เขาอ้าปากพ่นพิษไฟออกมา ร่างของเหล่ามารปีศาจชั้นต่ำและวิญญาณร้ายต่างแหลกสลายมอดไหม้กลายเป็นจุณ ไม่นานนักเหล่าข้ารับใช้ของไห่ซือก็ทยอยสลายกลายเป็นผุยผงไปเสียหมด ไห่ซือยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เขาเปิดขวดน้ำเต้าทองออกมาอีกครั้ง ก็ปรากฏร่างของปีศาจงูสีดำขนาดใหญ่ ดวงตาสีแดงฉานของมันจ้องมองมาที่หลี่เย่ด้วยความดุดัน ลำตัวของมันมีขนาดใหญ่ไม่ต่างจากหลี่เย่ ไห่ซือที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกพึงพอใจไม่น้อย ปีศาจงูตนนี้เขาจับมันมาได้ตอนที่มันหลบหนีจากตาข่ายสวรรค์เฝ้าดูแลและเลี้ยงดูมันมาหลา

  • ข้าคือทาสรับใช้ของปีศาจงู   บทที่ 21 เริ่มต้นการนองเลือด

    มู่หลันฮวามิได้รู้สึกว่าตนเองมีอาการแพ้ท้องหรืออยากอาหารมากเท่าใดนัก นางยังคงใช้ชีวิตได้เช่นปกติทั่วไป อาจจะมีเหนื่อยล้าและง่วงนอนบ้างบางเวลา แต่ก็ถือว่าไม่ได้อ่อนแอมากเท่าใดนักตรงกันข้ามนางกลับต้องการดื่มเลือดสด ๆ บ้างในบางครั้งก็เท่านั้นมู่หลัวแม้จะยังรู้สึกแปลกใจและสงสัยว่ามู่หลันฮวาจับงูมาทำสามีได้เช่นไร แต่เขายิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว และไม่อยากทำให้บุตรสาวของตนเองลำบากใจ จึงหลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถามนางไปเสียท้องของมู่หลันฮวาในยามนี้ใหญ่โตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว คงเพราะบุตรในครรภ์มีเลือดของปีศาจอยู่ครึ่งหนึ่งจึงทำให้เจริญเติบโตรวดเร็วกว่าทารกในครรภ์ปกติทั่วไป หลี่เย่พานางมาหลบซ่อนอยู่ในถ้ำตามคำแนะนำของมู่หลัว ด้วยเกรงว่าจะมีชาวบ้านล่วงรู้เข้า และหลี่เย่กับมู่หลันฮวาจะพบเจอกับความลำบากมู่หลันฮวารู้สึกว่าภายในถ้ำค่อนข้างอบอ้าวมากกว่าปกติ นางจึงให้หลี่เย่พาออกมาเดินเล่นที่ด้านนอกเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์"หลี่เย่!!! เจ้าคิดแหกกฎเผ่าปีศาจหรือ!!!"เสียงทรงอำนาจเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทำให้มู่หลันฮวาและหลี่เย่ต้องหันไปมอง ก่อนจะพบกับผู้เฒ่าชราที่มีผมสีขาวโพลน หนวดเครายาวเป็นสีขาวขับให้บนใบหน้าของเขาดูน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status