Home / โรแมนติก / ข้างห้องคือคนข้างใจ / บทที่ 5 ฮีโร่เล็ก ๆ (2)

Share

บทที่ 5 ฮีโร่เล็ก ๆ (2)

last update Last Updated: 2025-11-06 18:01:22

เสียงโทรศัพท์ฉันดัง “ติ๊ง” มิ้นท์ทักมา “เสร็จยัง ๆๆๆ มี ‘เทวดาชั้น 18’ ไหม” ฉันยิ้มแล้วถ่ายรูปมุมโต๊ะครึ่งหนึ่งส่งไป พร้อมแคปชัน “กำลังสร้างจักรวาลใหม่” เธอตอบรูปสติกเกอร์กรี๊ดลั่น

กลับมาที่หน้างาน ภีมค่อย ๆ ประกอบคานกลาง เสียบเดือยไม้ ใส่กาวจิ๋วเท่าหยดน้ำ แล้วขันน็อตให้แน่นพอดี จากนั้นคว่ำโต๊ะกลับด้านสองคน เขาถาม “หนักไหม” ฉันตอบ “ไหวค่ะ” รอบนี้เราเป็นทีมจริง ๆ

“ต่อไปติดแผ่นรองกันรอยใต้ขาโต๊ะนะครับ” เขาหยิบสติกเกอร์สีดำกลม ๆ ติดปุ๊บสี่มุม “เวลาขยับจะไม่ทำรอยและไม่ส่งเสียง”

“ละเอียดมาก” ฉันเผลอชมดัง ๆ

“ป้องกันปัญหาทีหลังครับ” เขาบอกสั้น ๆ แบบคนทำของไว้ยาว

โต๊ะตั้งมั่นคงอยู่กลางห้อง ฉันลองวางหนังสือและกระถางเล็ก ๆ ผิวไม้โอ๊คที่มีลายเสี้ยนอ่อน ๆ ทำให้ห้องสว่างขึ้นอย่างประหลาด ภีมหยิบระดับน้ำเล็ก ๆ วางบนท็อป “ดูว่าพื้นเอียงไหม…โอเค เส้นน้ำตรงดี”

“คุณพกระดับน้ำด้วยเหรอคะ” ฉันตาโต

“ครับ…เคยติดชั้นวางแล้วกาแฟไหลเอง ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก” เขาตอบนิ่ง ๆ แต่ฉันหัวเราะเสียงดัง ภาพแก้วกาแฟเลื่อนไหลลงชั้นวางโดยไร้มือจับชัดเจนเกินไป

โมจิเดินโงนเงนเข้ามาสำรวจ แอบขึ้นไปนั่งบนโต๊ะราวกับพิธีเปิดงานแบบเหมียว ๆ ฉันทำตาดุ “ลงค่ะท่านผู้กำกับ โต๊ะนี้สำหรับแก้ว ไม่ใช่สำหรับแมว” โตโตะนอนหมอบใกล้ ๆ ดูกรณีศึกษาเชิงสัตววิทยา ฉันเลยหยิบของเล่นโดนัทผ้าของโตโตะโยนเบา ๆ เป็นการเบนความสนใจ ทั้งสองหันตามของเล่นพร้อมกันเหมือนรับสัญญาณจากกรรมการ ฉันกับภีมหลุดหัวเราะตรงจังหวะเดียว

“ลองทดสอบความมั่นคงไหมครับ” ภีมเสนอ “เดี๋ยวผมขยับขาโต๊ะเบา ๆ” เขาแตะ ลองโยก ไม่ขยับ “ผ่าน”

“ฉันขอทดสอบด้วยวิธีคนธรรมดา” ฉันวางแก้วน้ำหนึ่งใบตรงขอบ แล้วดันโต๊ะเบา ๆ น้ำไม่กระเพื่อม “ผ่านเช่นกัน!”

“งั้นถือว่าเสร็จงาน” เขาเก็บเครื่องมือเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว ฉันกวาดโฟมและกล่องกระดาษมัดรวมเป็นกอง เขาบอก “เดี๋ยวผมช่วยเอาลงไปทิ้งข้างล่าง รีไซเคิลได้”

“เกรงใจอีกแล้ว…” ฉันพูด แต่ก็ส่งปลายเชือกให้ เขายิ้ม “เราแชร์ถุงขยะได้ ชั้น 18 ระบบร่วมมือ” คำว่า ระบบร่วมมือ ทำให้ฉันยิ้มตาม ฟังเหมือนนโยบายคอนโดที่ควรเขียนแปะไว้หน้าลิฟต์

เราขนกล่องลงลิฟต์ไปชั้นล่าง รปภ.ทัก “โห มีช่างมือทองช่วยอีกแล้ว” ภีมยิ้มรับแบบคนไม่ถือตัว “แค่ไขควงครับพี่” ฉันยืนข้าง ๆ อย่างภูมิใจแทนเหมือนประกาศเกียรติคุณ “ฮีโร่เล็ก ๆ ของชั้น 18 ค่ะ” รปภ.หัวเราะเบา ๆ

ขึ้นมาถึงห้องอีกครั้ง ฉันวางถาดคุกกี้เนยที่ยังเหลือจากเมื่อวานบนโต๊ะใหม่ เทน้ำผลไม้สองแก้ว “ฉลองโต๊ะค่ะ” ฉันยื่นแก้วให้เขา เราชนแก้วเบา ๆ กริ๊ง เสียงใสเหมือนได้รับตราประทับบ้านครบเซ็ต

“สวยดีนะครับ เหมาะกับพรมลายนี้” เขาเหลือบมองแล้วกล่าวเหมือนบันทึกภาพไว้

“ดีใจจังค่ะ” ฉันนั่งลง ปลายนิ้วลูบผิวไม้เรียบ ๆ “ขอบคุณที่ช่วยนะคะ ถ้าไม่มีคุณ ฉันคงยังยืนสู้กับลูกบิดประตูอยู่”

“ยอมให้คนอื่นช่วยบ้างก็เป็นทักษะหนึ่งนะ” เขาว่า “ไม่เสียศักดิ์ศรีหรอก”

ฉันยิ้มบาง ๆ “งั้นถือว่าฉันสอบผ่านวิชา ‘ยอมให้ช่วย 101’”

เขาหัวเราะในลำคอ ดวงตานิ่ง ๆ แต่มีประกายอบอุ่นแบบที่ฉันจำได้แม่นตั้งแต่วันเครื่องซักผ้าพ่นน้ำ จากนั้นเรานั่งคุยเรื่องสัพเพเหระ เขาเล่าว่าพรุ่งนี้ลองคั่วเมล็ดน่านล็อตใหม่ กลิ่นออกดอกไม้หน่อย ๆ ฉันเล่าว่างานลูกค้าอยากได้สตอรี่โทนอุ่น จึงอยากขอถ่ายรูปมุมโต๊ะใหม่ลงเพจบริษัท (โดยไม่บอกว่าข้างห้องประกอบให้)

“ถ่ายได้เลยครับ แต่อย่าลืมที่รองแก้ว” เขากล่าวสั้น ๆ แต่สายตาขำ ๆ

“ค่ะ ท่านหัวหน้าช่าง” ฉันแซว แล้วคว้าโทรศัพท์มาจัดพร็อพ วางหนังสือสองเล่ม ซ้อนแก้วน้ำผลไม้บนที่รองแก้วไม้ไผ่ และคุกกี้สามชิ้นให้ดูเหมือนฉากโฆษณา “โอเค…สแนป!” แชะเดียวได้ภาพที่อยากได้ ฉันมองจอแล้วยิ้ม โต๊ะใหม่ทำให้ห้องดูเป็นคนมีชีวิตจริง ๆ แบบที่ตั้งใจ

ขณะนั้นเอง โมจิก้าวขึ้นมานั่งตรงปลายโต๊ะอย่างจงใจ อีกฝั่ง โตโตะยกอุ้งเท้าหน้าแตะขอบพรมแล้วนั่งหลังตรง ฉันหันไปหัวเราะ “กรรมการพร้อมแล้วจ้า” ภีมพยักหน้า “เหมือนรอบชิงชนะเลิศรายการ ‘เฟอร์นิเจอร์แห่งปี’”

“กติกาคือ ถ้าพอใจ หางส่ายหนึ่งครั้ง ถ้าไม่ ทำเสียงฟู่” ฉันประกาศ โตโตะหางส่ายหนึ่งครั้งอย่างตื่นเต้น ส่วนโมจิ…กระพริบตาช้า ๆ สองทีแล้วนั่งนิ่งเหมือนเซน “ผ่าน!” ฉันยกมือชูนิ้วโป้งให้ทั้งคู่

หลังพักหอบหัวเราะ เราช่วยกันเก็บเศษพลาสติกจิ๋ว ๆ อีกรอบ ภีมแปะโน้ตเล็ก ๆ ที่ขอบชั้นวางรองเท้าให้ฉัน กระดาษกาวเขียนลายมือเรียบ “อย่าลืมที่รองแก้ว” ฉันหัวเราะ “แหมะ ฝากคำเตือนถึงอนาคตของฉันด้วยนะคะ”

“ป้องกันเหตุซ้ำครับ” เขาเก็บกล่องเครื่องมือ “ผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวลงไปร้านสักหน่อย พนักงานแจ้งว่ามีลูกค้าจองเมล็ด ‘เริ่มใหม่’”

“ได้เลยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ…สำหรับทุกอย่าง” ฉันพูดช้า ๆ รู้สึกคำว่า ทุกอย่าง วันนี้ครอบคลุมตั้งแต่ประคองข้อศอกจนถึงติดแผ่นรองขาโต๊ะ

เขาพยักหน้า “มีอะไรเรียกได้เสมอ” แล้วเอ่ยกับผู้ช่วยทั้งสอง “โตโตะ กลับบ้าน” โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ลุกขึ้นอย่างเชื่อฟัง ส่วนโมจิหาวหวอดก่อนจะเดินไปนอนข้างหน้าต่างแบบไม่สนโลก หน่วยรักษาความสงบชั้น 18 ยังคงทำหน้าที่ตรวจการด้วยตาปรือ ๆ ต่อไป

ประตู 18B ปิดลงอย่างเงียบ ห้องฉันกลับมามีเพียงฉันกับโต๊ะใหม่และความอุ่นเล็ก ๆ ที่ค้างอยู่ ฉันเดินไปหยิบสมุดโน้ต เปิดหน้าใหม่ เขียนหัวข้อ “สิ่งดี ๆ ของวันนี้”

กล่องหนักมาก แต่หัวใจเบากว่าเดิม

มีคนช่วยโดยไม่ต้องขอ และทำให้การขอความช่วยกลายเป็นเรื่องธรรมดา

โต๊ะใหม่ผ่านการอนุมัติจากกรรมการแมว หมา

ฉันวางปากกา หันไปมองโต๊ะอีกครั้ง พลางลองวางแก้วน้ำลง น้ำไม่สั่น ความมั่นคงที่จับต้องได้ทำให้ใจนิ่งตาม ฉันนั่งลงบนพรม วางคางกับขอบโซฟา มองเฉียงไปยังประตูห้อง 18B และยิ้มกับตัวเอง

เสียงแจ้งเตือน “ติ๊ง” จากไลน์ดังขึ้น ข้อความของภีม

“ถ้าพรุ่งนี้อยากจะถ่ายรูปโต๊ะตอนเช้า แสงดีที่สุดประมาณ 8:15 แดดยังนิ่ม ๆ ครับ”

ต่อด้วยอีกข้อความสั้น “มีแซนด์วิชไข่ว่างหนึ่งชุด” และอีโมจิโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ยักคิ้ว

ฉันพิมพ์ตอบ “รับข้อเสนอทั้งแสงและแซนด์วิชค่ะ :)” แล้ววางโทรศัพท์ ขยับไปเก็บเบาะรองนั่งสองอันมาวางใต้โต๊ะให้พร้อมสำหรับพรุ่งนี้

โมจิคลานมานอนข้าง ๆ โต๊ะใหม่ เอาคางพาดขอบพรม ตาปรืออย่างพอใจ โตโตะ แม้จะกลับห้องไปแล้ว แต่ฉันเห็นเงาหางส่ายผ่านช่องใต้ประตูสั้น ๆ เหมือนทัก “กู๊ดไนต์”

ฉันหัวเราะในคอเบา ๆ ภาพสุดท้ายของค่ำวันนี้คือฮีโร่เล็ก ๆ สองตัวที่นอนเฝ้าผลงานของฮีโร่อีกคนหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัวคงไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่ด้วยซ้ำ แต่สำหรับฉัน การอุ้มกล่อง การประคองข้อศอก การติดแผ่นรองขาโต๊ะ การบอกเวลาแสงเช้าดีที่สุด…ทั้งหมดนั่นรวมกันเป็นคำว่า “ฮีโร่เล็ก ๆ” แบบที่ทำให้ชีวิตใหม่บนชั้น 18 มีน้ำเสียงอบอุ่นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

คืนนี้ฉันปิดไฟช้ากว่าปกติเล็กน้อย ตั้งใจมองเงาโต๊ะใหม่ที่ทาบลงบนพื้นไม้ แล้วค่อย ๆ ซุกตัวลงบนเตียงลม โมจิมานอนข้าง ๆ ไม่ขึ้นมาทับอก คงให้รางวัลฉันฐานะผู้ผ่านภารกิจยกของหนัก ฉันหลับตาพร้อมความคิดเรียบง่ายว่า พรุ่งนี้ตอน 8:15 ฉันจะมีแสงสวย ๆ ตกบนโต๊ะโอ๊ค มีแซนด์วิชไข่หนึ่งชิ้น และกาแฟจากคนที่ชอบพูดคำสั้น ๆ แต่ทำให้วันยาวไกล

และใช่ ฉันตั้งปลุกสองเรือนเหมือนเดิม เพราะฮีโร่เล็ก ๆ นั้น ไม่ได้โผล่มาทุกวัน แต่เราสามารถ “นัดพบ” กันได้เสมอที่ระเบียงชั้น 18

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 16 พื้นที่ที่ไม่เหมือนเดิม

    “บางความเงียบอบอุ่นกว่าคำขอโอกาส” เสียงกาน้ำเดือดดังแผ่วในห้องครัวเล็ก ๆ ของคอนโด มะปรางเทกาแฟลงแก้ว กลิ่นหอมลอยปะทะจมูกพร้อมความรู้สึกที่ทั้งคุ้นและสั่นเบา ๆ ที่หน้าอก โมจิเดินมาคลอเคลียขา ส่งเสียง “เมี้ยว—” เหมือนรู้ว่าเจ้าของกำลังมีเรื่องกังวล “วันนี้แม่ต้องเจอคนเก่านะ” เธอก้มลงลูบหัวมันเบา ๆ “อย่าให้แม่ใจสั่นมากเลยนะโมจิ” เจ้าแมวตัวกลมตอบกลับด้วยเสียงเบา ๆ แล้วเดินไปนอนบนกระเป๋าผ้า เหมือนจะกันไม่ให้เธอออกจากห้อง โทรศัพท์สั่นเตือนบนโต๊ะภีม: วันนี้ทีมคุณมากี่คนครับ จะได้เตรียมโต๊ะ โตโตะจะได้ไม่เห่าใส่มะปรางเผลอยิ้ม ก่อนพิมพ์ตอบมะปราง: ห้าคนค่ะ รวมลูกค้าด้วย ขอบคุณมากนะคะ ยังไม่ทันวางโทรศัพท์ เสียงโทรเข้าดังขึ้น “มิ้นท์” โผล่มาเต็มจอ “ตื่นยัง ยัยโมจิใหญ่” น้ำเสียงคุ้นเคยดังสดใสแต่แฝงความห่วง “ตื่นแล้วสิ แต่ใจยังไม่พร้อมเจออดีตเท่าไร” “อย่าบอกนะว่ายังใจเต้นอยู่” “เต้นค่ะ...แต่เต้นเพราะกลัวจะทำหน้าตาไม่ถูก” “ดีแล้ว อย่างน้อยเธอก็ยังมีความรู้สึก แปลว่ายังไม่ด้าน” มะ

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 15 คุยงาน…หรือคุยเรา

    เสียงพิมพ์คีย์บอร์ดดังสลับกับเสียงเครื่องปรับอากาศที่เป่าลมเบา ๆ ทั่วออฟฟิศ มะปรางนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวเดิม ข้าง ๆ มีกองแฟ้มเอกสารและถ้วยกาแฟเย็นที่ละลายไปครึ่งแก้ว เธอจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ แต่สายตากลับพร่าเพราะใจลอยไปถึงวันปิดกอง ภาพคนที่ยื่นแก้วกาแฟให้เธอด้วยรอยยิ้มเรียบง่ายยังคงวนเวียนในหัวไม่จาง เสียงแจ้งเตือนเมลเด้งขึ้นมาในจังหวะเดียวกับที่เธอถอนหายใจFrom: Natee S.Subject: Debrief Meeting – ขอเวลาคุยงานเพิ่มเติมครับ เธอมองชื่อผู้ส่งอยู่นาน มือที่จับเมาส์นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะกดเปิดอย่างระมัดระวัง “ปรางครับ มีไอเดียอยากต่อยอดจากแคมเปญนี้นิดหน่อย พอมีเวลาคุยไหมครับ?” ถ้อยคำดูสุภาพ แต่ในใจของเธอกลับได้ยินเสียงที่คุ้นเคยในแบบเดียวกับเมื่อสองปีก่อน ตอนที่เขาใช้เสียงเดียวกันพูดว่า “ไว้ค่อยคุยกันนะ” ก่อนหายไปจากชีวิตเธอ มะปรางพิมพ์ตอบในโทนที่เป็นทางการที่สุด “ได้ค่ะ ถ้าเป็นเรื่องงาน รบกวนแจ้งเวลาล่วงหน้า จะได้จัดตารางประชุมให้ค่ะ” ส่งเสร็จเธอรีบปิดเมล แล้วพยายามฝืนทำงานต่อ แต่สมาธิกลับหล่นหายไป

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 14 ทำงานด้วยกัน (2)

    เมื่อทุกอย่างดูเข้าที่ เหตุการณ์ทดสอบเล็ก ๆ ก็โผล่มาอีกครั้ง ขณะตั้งไฟสองดวงไขว้กันเพื่อให้เงาแก้วดูมีมิติ อยู่ ๆ ไฟในโซนบาร์ก็กะพริบ “แป๊ะ” แล้วดับเงียบทั้งแถบ “อ่าว เบรกเกอร์ไปแล้วเหรอ” พีทร้อง ฉันหันขวับมองนาฬิกา เวลาเริ่มบีบ เพราะเรายังต้องเก็บช็อตสุดท้ายช่วงแสงเย็น ภีมถือไฟฉายเล็กออกมาทันทีเหมือนเตรียมไว้สำหรับเหตุการณ์นี้อยู่แล้ว “ตรงนี้คงรับกำลังไฟของเครื่องชงกับไฟชุดหนึ่งตัวไม่ไหวครับ เดี๋ยวผมย้ายปลั๊กชุดไฟไปที่อื่นแทน แล้วใช้รีเฟล็กซ์แทนไฟหนึ่งดวง จะได้ไม่ดึงกระแสเกิน” เขาพูดจบก็ลงมือทันที จัดปลั๊กพ่วง เสียบ–ดึง–ลองสวิตช์อย่างใจเย็น ทีมงานที่เหลือช่วยจับรีเฟล็กซ์ขนาดกลาง ภายในห้านาทีไฟกลับมาสว่างแต่ไม่จ้าเกิน ได้ภาพในจออย่างที่อยากได้ “โห…เจ้าของร้านนี่แหละแก้ปัญหาเก่งกว่าช่างไฟอีก” พีทยกนิ้วให้ ฉันยืนมองภาพในจอแล้วหันไปมองเจ้าของร้านตัวจริง คนนั้นยืนเช็ดมือกับผ้าเช็ดบาร์เหมือนเดิม สีหน้าสงบเหมือนตอนชงกาแฟ นาทีนั้นหัวใจฉันนิ่งแบบที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในกองถ่าย เร่งแค่ไหนก็มักจะมีความลนอยู่ในอากาศ แต่เขากลับทำให้ห้องนี้ห

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 14 ทำงานด้วยกัน (1)

    เช้าวันถัดจากทริปเล็ก ๆ ฉันตื่นก่อนนาฬิกาอีกครั้ง เหมือนร่างกายจำสัญญาเงียบ ๆ ระหว่างฉันกับเช้าว่าเราจะเริ่มวันด้วยความอุ่น ไม่ใช่ความรีบ ฉันชงดริปด้วยเมล็ด “ทุ่งหญ้ารุ่นพิเศษ ทริปเล็ก ๆ” ที่ภีมยื่นให้เมื่อคืนก่อน กลิ่นดอกไม้จาง ๆ ลอยขึ้น ปลายรสหวานเหมือนเสียงหัวเราะที่ยังค้างอยู่ในคอจากเมื่อวาน ฉันยกแก้วไปยืนที่ระเบียง เห็นประตูฝั่งตรงข้ามเลื่อนเปิดในเวลาแทบจะตรงกัน ภีมยกแก้วของเขาขึ้นนิด ๆ เราสองคนยิ้มให้กันอย่างไม่ต้องพูดอะไรมาก “วันนี้สู้ ๆ นะครับ” เขาพูดเบา ๆ แต่ได้ยินชัด “คุณด้วยค่ะ” ฉันตอบ ทั้งที่ในหัวเริ่มเรียงงานแบบผู้จัดการกองถ่ายฉบับเร่งด่วน เพราะวันนี้คือวันสำคัญ ทีมฉันต้องถ่ายทำคอนเทนต์ชุด “Warm is a Place” สำหรับลูกค้า และโลเกชันที่เลือกคือร้านของภีม…ที่เดิม หลังอาบน้ำแต่งตัว ฉันเปิดงานในโทรศัพท์ ไลน์กรุ๊ป “กองอุ่นจริง” (ตั้งชื่อตามคีย์เวิร์ด) เด้งข้อความจากพี่นนท์: “คอนเฟิร์ม 10:00 เริ่มเซ็ต ซีนแรกเปิดหน้าร้าน ซีนสองบาร์ ซีนสามโต๊ะไม้ ใครถึงก่อนช่วยแจ้ง” ฉันพิมพ์ตอบ “ฉันถึงก่อน 9:30 ไปเช็กลิสต์พร็อพกับเจ้าของร้านค่ะ” แล้

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 13 ทริปเล็ก ๆ (2)

    เขาเงียบไปเล็กน้อยเหมือนเช็กหัวใจตัวเองก่อนพูด “เคยครับ แต่ภาพนั้นไม่ชัดเจนเท่าไหร่ รู้แค่ว่าถ้ามีมันคงเหมือนโต๊ะหนึ่งตัวที่คนในบ้านชอบกลับไปนั่งด้วยกัน มีเสียงหัวเราะของสัตว์เลี้ยง มีแก้วน้ำสองใบวางอยู่เสมอ” ฉันยิ้มกว้างกว่าคำถามที่ตั้งใจ “แก้วสองใบ…บนที่รองแก้วสองแผ่น” เขายิ้มกลับ “ครับ” เราลุกขึ้นไปเดินรอบบึงช้า ๆ หลังทานของว่าง ดอกหญ้าสีน้ำนมไหวตามลมเหมือนคนโบกมือทักทายจากสองฟากทาง ฉันเดินถือสายจูงโตโตะ ภีมสะพายตะกร้า ส่วนโมจิอย่างที่คาดขึ้นคานอนบนไหล่ภีมเหมือนราชินีบนราชรถ คนเดินสวนมาหลายคนอดทักไม่ได้ “น้องแมวเก่งจังเลยค่ะ” ภีมยิ้ม “จริง ๆ แล้วเก่งที่ยอมให้ผมแบกมากกว่าครับ” ฉันหัวเราะจนลืมว่าครู่หนึ่งก่อนหน้านี้ฉันเคยล้มกลิ้ง ความเขินจากเหตุการณ์เช้าแปรสภาพเป็นความจำที่น่ารักอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินครบรอบ เรากลับมาที่ผ้าปิกนิก ฉันวางโมจิลง มันเดินตรงไปตรวจคุณภาพอาหารบนจานภีมแล้วนั่งทับรายการกินเหมือนจะปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง โตโตะหมดแรงนิด ๆ นอนแผ่พุงเหยียดขาตรง ทำหน้าฟินราวกับเพิ่งชนะ

  • ข้างห้องคือคนข้างใจ   บทที่ 13 ทริปเล็ก ๆ (1)

    เช้าวันหยุดหลังคืนดาดฟ้าที่ใจเราเหมือนตกลงสัญญาเงียบ ๆ ฉันตื่นเร็วกว่าปกติทั้งที่ไม่มีนาฬิกาปลุก ลมเช้าจากระเบียงพัดกลิ่นกาแฟที่บดไว้เมื่อคืนโชยเข้ามา โมจิเดินมาวนรอบขาเหมือนนาฬิกาปลุกมีขน ฉันลูบหัวมันแล้วพูดกับตัวเองว่า วันนี้อยากทำอะไรช้า ๆ แบบไม่ต้องชนะเวลา พอเปิดประตูระเบียงก็เจอภีมยืนพาโตโตะออกมารับแดดจาง ๆ เขาส่งยิ้มแบบที่เคยทำ ยิ้มที่ไม่รีบให้คำตอบ แต่บอกว่าอยู่ข้าง ๆ “อรุณสวัสดิ์ครับ” “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” ฉันตอบพร้อมยกแก้วน้ำให้โมจิดมเล่น แดดเช้าตีกับราวระเบียงเป็นริ้ว ๆ จนฉันเผลอหยุดมอง ภีมเอ่ยขึ้นเหมือนคิดไปพร้อมกับลม “วันนี้อากาศดี อยากลองพาโตโตะไปสวนสาธารณะนอกเมือง…คุณกับโมจิสนใจไปด้วยไหมครับ” คำชวนฟังดูง่าย แต่หัวใจฉันกลับทำงานซับซ้อนขึ้นมาทันที มันไม่ใช่แค่ไปสวน มันคือการออกนอกพื้นที่ปลอดภัยที่เราเคยอยู่ร่วมกัน จากโถงชั้น 18 ระเบียง โต๊ะโอ๊ค ไปสู่โลกกว้างที่เราไม่เคยใช้เวลาเป็น “พวกเรา” จริง ๆ มาก่อน ฉันลังเลเพียงเสี้ยววินาที ก่อนพยักหน้า “ไปค่ะ” โมจิตอบแทนด้วยการตดเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status