“ให้คนไปพยุงองค์หญิงสิ” ฮองเฮาเอ่ยอย่างร้อนรน แล้วหันไปสั่งสาวใช้ข้างหลัง“รีบไปเรียกหมอหลวง มาตรวจอาการอีกครั้งด้วย”เยี่ยนอิงสะบัดชายแขนออกเล็กน้อยอย่างไม่เต็มใจนักแต่ก็ยอมปล่อยให้เข้าประคอง ก่อนจะก้าวตามกันไปเยี่ยนอิงหันไปทางไป๋เหวินหลงที่ยืนส่งด้วยแววตามองห่างๆ แล้วเอ่ยเสียงใส “ขอบคุณ ท่านแม่ทัพเยียนอิงหวังว่าเราจะได้ไปที่ตลาดด้วยกันอีกสักครั้ง”เมื่อสองแม่ลูกก้าวห่างออกจากผู้คนแล้ว ฮองเฮาหลี่หลันซื่อจึงเบนสายตามองเยี่ยนอิงแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเบา “ท่านแม่ทัพไป๋เหวินหลงปฏิบัติต่อเจ้ายังไงบ้าง บอกมาให้หมดเกิดอะไรขึ้นบ้าง”เยี่ยนอิงชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะถอนใจ พลางขมวดคิ้วนิดๆ สีหน้ารำคาญเจือหงุดหงิดไม่ปิดบัง กระซิบลอดไรฟัน“ท่านแม่จะสงสัยอะไรนักหนาเล่า...ก็รู้กันอยู่ว่าองค์หญิงใหญ่หว่านชิงน่ะเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวน่ารำคาญยิ่งนัก…นางไม่ปล่อยให้ลูกมีโอกาสอยู่กับท่านแม่ทัพเลยสักนิด” ราวกับรู้ว่านี่แผนการของฮองเฮาฮองเฮาเม้มปาก สีหน้าบิดเบี้ยวแวบหนึ่งก่อนจะเอ่ยเสียงเคียดแค้น “นังปีศาจ...ไปอยู่ถึงวัด แม่ก็นึกว่าแผนการของแม่จะไร้คนขัดขวางเสียแล้ว”“นี่เป็นแผนของท่านแม่หรือเจ้าคะ” เยี่ยนอิงชะง
ณ ตำหนักกุ้ยเฟยหยุนซินกุ้ยเฟยหยุนซินประทับบนตั่ง เสียงฝีเท้านุ่มนวลของผู้มาเยือนดังกังวานเข้ามาก่อนตัว ฮองเฮาหลี่หลันซือเดินเข้ามาอย่างไม่เร่งร้อน ริมฝีปากประดับด้วยรอยยิ้มบาง“นานแล้วที่ไม่ได้ดื่มชาร่วมกับน้องหญิงแบบนี้ วันนี้อากาศดีพอดีเลย” เสียงของฮองเฮาหลี่หลันซื่อนุ่มทุ้มฮองเฮาหลี่หลันซื่อนั่งลงตรงข้าม ยกถ้วยชาขึ้นแตะริมฝีปากก่อนวางลงแล้วทอดสายตาสบกุ้ยเฟยหยุนซินตรงหน้า“ข้าได้ยินว่า…องค์หญิงใหญ่หว่านชิงเป็นผู้ช่วยน้องชายของท่าน…ท่านแม่ทัพไป๋เหวินหลงพร้อมกับเยี่ยนอิงจากเงื้อมมือของมือสังหารกลางเมือง…องค์หญิงใหญ่นางยังพาท่านแม่ทัพไปพักรักษาตัวที่วัดต้าเล่อด้วยตนเอง ทั้งยังอยู่เฝ้าไข้จนรุ่งสาง…น้องหญิงควรจะขอบคุณองค์หญิงใหญ่ในครานี้นะ”กุ้ยเฟยหยุนซินเงยหน้าขึ้นช้าๆ นัยน์ตาคู่งามวาบไหวด้วยรอยลึกบางอย่างที่ยากจะอ่าน ระบายยิ้มจางๆ“ขอบคุณน่ะหรือเพคะ...หม่อมฉันว่า...สิ่งที่องค์หญิงใหญ่หว่านชิงกระทำล้วนมีเงื่อนงำ คนเช่นองค์หญิงใหญ่หว่านชิงที่ภายนอกดูบอบบาง โง่เขลาดูราวกับเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ…แต่กลับทำสิ่งที่แม้แต่บุรุษยังลังเล” กุ้ยเฟยหยุนซินวางถ้วยชาลงหันกลับมาสบตาฮองเฮา“จะให้หม่อมฉันร
“หรือ...นางมีส่วนกับพวกมือสังหารพวกนั้น?”“ท่านอาอย่าเข้าใจพี่หว่านชิงผิดนะขอรับ” หยางหลินรีบพูด ราชครูโม่ชิงเหยียนที่เงียบมาตลอดทางเลิกคิ้วขึ้น ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ไม่อาจปกปิดแววตำหนิได้“เฮ้อ… ข้าล่ะสงสารองค์หญิงใหญ่หว่านชิงจริง ๆ”ไป๋เหวินหลงหันมองอีกฝ่ายเพียงเล็กน้อยแต่โม่ชิงเหยียนพูดต่อเหมือนไม่เห็นสายตานั้น“ขับรถม้าไม่เป็นก็ยังต้องขับเอง…รู้ไหมว่านางงดงามบอบบางเพียงใด? ตัวเล็กนิดเดียวแต่กลับทำเรื่องที่บุรุษบางคนไม่กล้าทำด้วยซ้ำ”น้ำเสียงนั้นมิได้ดุดัน แต่เจือความขื่นขมและเย้ยหยันเล็กน้อยอย่างตั้งใจ“ชาวบ้านแถวนั้นเห็นแล้วยังพากันชื่นชมว่านางไม่ถือตัว เอื้อเฟื้อเสียยิ่งกว่าผู้ใด แต่น่าเศร้าที่แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่กลับเลือกจะ...เข้าใจนางผิด”“...”แม่ทัพไป๋เหวินหลงไม่ตอบ ทว่าเปลือกตาที่เคยนิ่งไหววูบ สีหน้าที่เคยไร้แววสะดุ้งเล็กน้อย“จริงๆๆ ท่านอา ระหว่างทางข้าได้ยินคนเขาพูดกันว่าองค์หญิงใหญ่ควบรถม้าเร็วรี่เพื่อพาท่านกลับวัดต้าเล่อรักษาตัว” หยางหลินช่วยยืนยันโม่ชิงเหยียนก้มศีรษะลงเล็กน้อยแววตาเงียบสงบ“องค์หญิงหว่านชิงยังเฝ้าไข้ท่านทั้งคืน…แม้จะไม่ได้คำขอบคุณสักคำ”เขาหัน
เสียงฝีเท้าทหารองครักษ์กึกก้องประหนึ่งแผ่นดินสั่นสะเทือน ทว่ากลับยิ่งตอกย้ำความเงียบเหงาในหัวใจของผู้ยืนส่งขบวนเกี้ยวของราชสำนักเคลื่อนมาหยุดตรงหน้าวัด ธงผืนแดงประทับตรานกฟ้าสัญลักษณ์ของฮองเฮาสะบัดพลิ้วในลม เหล่าองครักษ์ในอาภรณ์ประจำตำแหน่งแยกแถวอย่างเป็นระเบียบ ทั้งหมดล้วนมาเพื่อรับตัวเยี่ยนอิงหว่านชิงยืนนิ่ง ริมฝีปากยิ้มบาง มือเรียวโบกไปมาราวกับอำลาคนรู้จักในตลาด "เดินระวังหน่อยนะ ท่านแม่ทัพ...ข้าเป็นห่วงท่าน" หว่านชิงยิ้มเอื่อย ดวงตาระยิบระยับดั่งซ่อนบางอย่างไว้ภายในไป๋เหวินหลงที่กำลังจะกระโดดขึ้นบนหลังม้าแทบชะงักกลางอากาศ ลมหายใจสะดุดครู่หนึ่ง หางตาเหลือบมองกลับมา แสงแดดสะท้อนดวงหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้ระเรื่อแดงอย่างห้ามไม่อยู่ แม้ทั่วทั้งกองทัพจะเคยเห็นเขาเด็ดหัวศัตรูโดยไม่กะพริบตา แต่ไม่มีใครเคยเห็นแม่ทัพไป๋เหวินหลงหน้าแดง…โม่ชิงเหยียนที่ยืนม้าข้างๆ ไป๋เหวินหลงแค่นหัวเราะเบาๆ สายตาแลไปยังองค์หญิงใหญ่ที่ยังยิ้มหน้าระรื่น แต่ใต้รอยยิ้มนั้นมีร่องรอยความเหนื่อยอ่อนซ่อนอยู่ใต้เงาของแพขนตาเยี่ยนอิงหันมามองหว่านชิงครู่หนึ่ง อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายกลับยอมก้าวขึ้นเกี้ยวไปเงี
หันหลังกลับผ้าคลุมยาวสะบัดตามจังหวะฝีเท้าที่แผ่วเบาแต่แน่วแน่“รีบไปจัดการเสีย ข้ารอผลอยู่...”บุรษลึกลับชุดดำก้มหัวแน่น แล้วเงาร่างทั้งสองก็ค่อย ๆ ละลายหายไปในม่านหมอกบางยามค่ำคืนบุรุษลึกลับในชุดคลุมสีดำสนิทก้มศีรษะต่ำหลังเสร็จจากการรับคำสั่ง หันหลังกลับอย่างไร้พิรุธ ทว่า“ฉึก!”ปลายกระบี่บางเฉียบสีเงินเย็นเยียบจี้แนบแน่นตรงบั้นเอวเป็นกระบี่ที่ไม่รู้โผล่มาจากทิศใด ไม่มีแม้แต่เงาหรือเสียงฝีเท้าชายชุดดำเบิกตากว้าง มือขยับจะคว้ามีดสั้นใต้แขนเสื้อ แต่“ปึก ปึก” เพียงสองกระบวนท่าเพียงสองจังหวะตวัดร่างของเขาก็ถูกผลักให้ทรุดลงกับพื้นอย่างหมดรูป มีดในมือหลุดกระเด็น โซ่เหล็กสายหนึ่งตวัดแน่นรัดข้อมือทั้งสองไว้ ก่อนจะมีเสียงกระพือผ้าคลุมดังเบา ๆ ... และทุกอย่างก็ตกอยู่ในความสงบอีกครั้งห้องใต้ดินลับในเขตวังหลวง กลิ่นเหล็กและฝุ่นปูนกรุ่นคลุ้งเสียงลูกโซ่กระทบหินดังก้องในห้องแคบ ๆชายลึกลับถูกตรึงไว้กับเสาหินกลางห้อง เงยหน้าขึ้นอย่างเจ็บใจและอับอายตรงหน้าเขา...ผู้ที่พาเขากลับมา ยืนสงบเสงี่ยมราวกับเป็นเพียงทหารเฝ้าประตูคนหนึ่งแต่เมื่อผ้าคลุมหน้าค่อย ๆ ถูกปลดออก แสงโคมสะท้อนใบหน้าคมคายอ่อนกว่
“อะแฮ่ม ท่านแม่ทัพเจ้าขา ท่านไม่คิดจะพูดคำว่า ขอบคุณ แด่ นายหญิง ของข้าบ้างเลยหรือเจ้าคะ ฮือออ เจ็บแทนอ่า” เสียงเจ้าแมวระบบพูดก้องห้องประหนึ่งวิญญาณที่ตามหลอกหลอนไป๋เหวินหลงนิ่งเหมือนเพิ่งจะคิดได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าได้ยินเจ้าแมวระบบพูดหรอกนะ...ไป๋เหวินหลงหันไปมองหว่านชิงที่กำลังหยิบสมุนไพรลงถ้วยอย่างนิ่งเฉย จู่ๆ ใบหน้าคมเข้มก็แข็งค้างนิดๆ“…เจ้าดูแลข้าหรือ” เขาถามเสียงเบาเหลือบตามองรอยโลหิตที่เปื้อนมือบางพร้อมกับสีหน้าเคร่งเครียดรอยเหงื่อซุมที่หน้าผากเนียน หว่านชิงไม่ตอบเอาแต่คลุกสมุนไพรในชามให้จมลงไปกับน้ำเหมือนความรู้สึกตนเองไป๋เหวินหลงเงียบไปนาน ก่อนจะพูดออกมาเสียงอ้อมแอ้ม“...ขอบใจ”【 ติ๊ง! ระบบ: +5 แต้ม 】【เหตุผล: ท่านแม่ทัพพูดคำว่าขอบใจ ถึงจะช้าไปนิด แต่ก็ยังดี...โถ่วว】“หึ! แค่เนี้ยะเหรอ แค่เนี้ยะเหรอออ!” เจ้าแมวระบบพ่นลมหายใจแรงๆโม่ชิงเหยียนที่ยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่เงียบๆ แทบจะหันหน้าซ่อนรอยยิ้มมุมปาก“เฮ้อ กว่าจะพูดขอบใจออกมาได้ องค์หญิงใหญ่ดูแลอาการบาดเจ็บของท่านด้วยตัวเองเพียงนี้ ข้าล่ะอิจฉาเสียจริงจัง”หว่านชิงยืดหลังตรงขณะเก็บของลงตะกร้าสาน กล่องสมุนไพรขนาดเล็กแ