5
บุรุษสวมหน้ากากกับท่าทางแปลกๆ ของเขา (2)
คุณหนูจางที่ตอนนี้อยู่ในคราบบุรุษเดินตามผู้ดูแลไปที่ห้องส่วนตัว
“คุณชายรอข้าน้อยเพียงครู่เดียว ข้าน้อยจะไปพาเหล่าบุรุษมาให้ท่านเลือกขอรับ”
“อืม” นางตอบรับพลางโยนตำลึงสีเงินก้อนใหญ่ให้ผู้ดูแล ซึ่งชายวัยกลางคนรับมาแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหายออกไปทางประตู
ผ่านไปไม่ถึงชั่วจิบชาผู้ดูแลกลับมาพร้อมกับบุรุษจำนวนเจ็ดคนเพื่อให้นางเลือกสรร
“คุณชายสามารถเลือกคนที่คุณชายต้องการได้เลยขอรับ”
ดวงตาเมล็ดซิ่งกวาดสายตามองใบหน้าของบุรุษพร้อมกับเอื้อมมือไปแตะบริเวณอก มือเรียวกดลงบนแผงอกของชายงามทีละคน
‘อืม...กล้ามแน่นดี หากแหวกอาภรณ์ออกมาคงน่ามอง’ คุณหนูในคราบคุณชายคิด
“อ๊ะ! คุณชายขอรับ” เสียงแหบพร่าของชายงามทำให้นางได้สติ ก่อนจะรีบเอามือออก
“เอาคนนี้” นางบอกผู้ดูแลก่อนจะทำเช่นเดิมกับบุรุษอีกคน
ท่าทางการเลือกบุรุษของแม่นางน้อยผู้นี้ทำให้ผู้ดูแลคิดไปไกล ไม่คิดว่าคุณหนูในห้องหอจะซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากมายเช่นนี้
“และคนนี้” คุณหนูจางกล่าวหลังจากดึงมือออกจากแผงอกของบุรุษรูปงาม
“ขอให้คุณชายสุขสำราญนะขอรับ” ผู้ดูแลกล่าวพร้อมกับโบกมือให้ชายงามอีกสี่คนออกจากห้องไป
“ประเดี๋ยวก่อนท่านผู้ดูแล”
“มีอันใดให้ข้าน้อยรับใช้หรือขอรับ”
“อีกหนึ่งชั่วยาม เจ้าเตรียมบุรุษมาให้ข้าเลือกอีกครั้ง”
“ขะ...ขอรับ” แม่นางผู้นี้ทำให้เขาได้เปิดหูเปิดตาแล้ว
“ไปได้แล้ว”
“ขะ ขอรับ” ผู้ดูแลกล่าวก่อนจะออกไปด้วยท่าทีที่ยังคงตกตะลึง
หลังจากผู้ดูแลออกไปแล้ว สายตาของจางชิงหนี่ว์ก็จับจ้องไปที่บุรุษทั้งสามก่อนจะออกคำสั่งให้ทั้งสามคนถอดสายรัดเอว
ชายงามทั้งสามหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย บุรุษ เอ่อ...สตรีผู้นี้ช่างร้อนแรงยิ่งนัก พูดคุยสนทนาทำความคุ้นเคยไม่คิดทำ แต่คิดปีนเตียง
“พวกเจ้ามีนามว่าอันใดกันบ้าง”
“ข้าน้อยเยว่ส่างขอรับ
“ข้าน้อยอู่เจ๋อ”
“ข้าน้อยห่าวซวนขอรับคุณชาย”
“ห่าวซวนเจ้ามานั่งตรงนี้”
“ขอรับ” ชายเจ้าของนามตอบรับก่อนจะทำตามคำสั่ง
“เยว่ส่าง เจ้ามานั่งตรงนี้แล้วทำท่าเช่นนี้” จางชิงหนี่ว์บอกพลางเอนตัวนอนแล้วใช้สองแขนเท้าเพื่อชันตัว
“ขอรับ”
“เจ้าอู่เจ๋อ มานั่งตรงนี้แล้วทำท่าเช่นนี้”
เมื่อทั้งสามคนทำท่าตามที่นางสั่งแล้ว แม่นางน้อยก็จัดการแหวกอาภรณ์ให้อ้าออกเผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง และเรียวขาโดยมีอาภรณ์ปิดบังบางส่วนเอาไว้
“พวกเจ้าค้างอยู่ในท่าเช่นนี้แหละ” นางก้าวถอยออกไปก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะซึ่งปกติจะเอาไว้นั่งดื่มสุรา
“แม่นาง...ขออภัยขอรับ คุณชายท่านจะวาดภาพหรือขอรับ” เยว่ส่างกล่าวเมื่อเห็นสตรีตรงหน้ากำลังจัดวางอุปกรณ์วาดภาพที่เพิ่งจะเอาออกมาจากห่อผ้า
คำเรียกขานที่ชายงามกล่าวไม่ได้ทำให้นางตกใจเลยแม้แต่น้อยเนื่องจากก็พอรู้ตนเองอยู่ว่าใบหน้านางอ่อนหวานเกินไปจึงไม่ค่อยแนบเนียน
“ใช่ แต่พวกเจ้าไม่ต้องกลัวไป ข้าจะวาดใบหน้าไม่ให้เหมือน” คำตอบของแม่นางคนงามทำให้ชายงามทั้งสามคนหันไปมองหน้ากัน
“อย่าเพิ่งขยับสิ ข้ากำลังจะวาดแล้ว นิ่งค้างเช่นนั้นชั่วครู่หากเสร็จแล้วข้าจะบอก”
แม้จะไม่ได้ปรนนิบัติแขกตามเดิมที่เคยทำ แต่ชายงามทั้งสามคนก็มองว่าการนั่งเป็นแบบให้สตรีผู้นี้วาดภาพก็ไม่เสียหายอันใด
ด้วยความชำนาญคุณหนูจางใช้เวลาครึ่งชั่วยามในการวาดภาพออกมาสี่ภาพ
“เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วยามก่อนผู้ดูแลจะพาชายงามมาให้ข้าเลือกเพิ่ม คราวนี้ข้าขอเปลี่ยนท่านั่งพวกเจ้าใหม่” สตรีในคราบบุรุษกล่าวก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปใกล้ทั้งสามคน
การแต่งฮูหยินที่เร่งรีบของท่านราชครู มีคนมากมายที่อาจจะสงสัยว่าเหตุใดท่านราชครูจางเหว่ยถึงได้เร่งรีบตบแต่งเถ้าแก่เนี้ยร้านขายภาพวาดซือซือเข้าจวนจาง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีข่าวลือว่าคบหากัน หรืออาจจะเป็นเพราะได้เห็นบทเรียนจากการเล่าลือเรื่องของคุณหนูสวี่ ที่จู่ๆ คนเหล่านั้นบังเอิญลิ้นขาดกลายเป็นคนพูดไม่ได้ แต่โชคดีหนึ่งในนั้นมีคนเขียนอักษรได้ จึงได้เขียนเตือนคนรอบตัวไม่ให้เล่าลือเรื่องราวเกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์หรือตระกูลที่ใกล้ชิดราชวงศ์ สุดท้ายจึงไม่มีใครกล้าเล่าลือหรือสงสัยถึงความเร่งรีบของท่านราชครู “พี่เหว่ย ท่านจะไม่เสียใจทีหลังห
ฮองเฮาพบปะสหาย ภายในจวนท่านราชเลขาฯจาง วุ่นวายไม่น้อยเมื่อมีผู้สูงศักดิ์มาเยือนโดยได้นัดหมายกันล่วงหน้า “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” ชินอ๋องที่เพิ่งลงจากรถม้าแสดงความเคารพโอรสสวรรค์และฮองเฮา “ถวายพระพรฝ่าบาท ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ” พระชายาสกุลจางที่ลงรถม้ามาภายหลังทำความเคารพอีกฝ่ายเช่นกัน “ตามสบายเถิด พวกเจ้าเป็นสหายของเราใช้คำธรรมดาสามัญเถิด”
“เจ้าโอบอุ้มบุตรชายของเราให้แน่นๆ ส่วนเจ้าพี่จะจับให้แน่นๆ เอง” กล่าวจบเขาก็ใช้วิชาตัวเบาโอบอุ้มพานางและบุตรชายกลับตำหนัก ทันทีที่ถึงตำหนักโจวหลี่หมิงถูกส่งตัวให้ซานจี สาวใช้ประจำตัวคนใหม่ของนางที่ทางพระสวามีหามาให้ แน่นอนว่านางมิใช่สาวใช้ธรรมดา เพราะสตรีผู้นี้คือองครักษ์เงาที่ถูกฝึกมาอย่างหนักเพื่อดูแลดวงใจของท่านอ๋อง “นำไปซื่อจื่อไปมอบให้แม่นมแล้วเจ้าไปพัก ข้าจะดูแลพระชายาเอง” บุรุษที่ชื่นชอบการปรนนิบัติฮูหยินกล่าว “แงๆ” แม้จะดีดดิ้นเพียงใด แต่บุตรชายมีหรือจะต่อต้านบิดาได้ “ท่านพี่ หากลูกไม่อยากไป...” ไม่มีมาร
เรื่องเล่าหลังเป็นพระชายาของชิงหนี่ว์ ดวงตาเมล็ดซิ่งทอดมองผืนดินที่เขียวชอุ่มไปด้วยพืชผัก ที่ดินผืนนี้นางใช้เงินที่ได้จากการวาดภาพขายมาซื้อเก็บไว้ เพื่อสร้างรายได้ให้กับบ่าวรับใช้ผู้ภักดีทั้งสอง ก่อนหน้าที่นางจะแต่งเข้าตำหนักอ๋องไม่นาน นางก็จัดการให้จื่อรั่วและจื่อเป่าที่ความสัมพันธ์คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วได้เข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกันก่อนจะคืนสัญญาทาสแล้วให้ทั้งสองคนย้ายมาปลูกจวนอยู่บนที่ผืนนี้ “พระชายาท่านนั่งพักดื่มน้ำก่อนเถิดเพคะ รอแดดร่มลมตกค่อยออกไปเดินดูด้านนอก”&
“เช่นนั้นก่อนจะลงโทษน้อง ท่านพี่กินข้าวก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ” “มิต้อง” กล่าวจบเขาก็รั้งนางเข้าไปแนบชิด มือใหญ่จับยึดคางเรียวเอาไว้ริมฝีปากร้อนกดลงบนกลีบปากบาง ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนางอย่างเอาแต่ใจ ในขณะที่มือช่วยปลดเปลื้องอาภรณ์ให้นางอย่างรวดเร็ว ช่างใจร้อนเสียจริง... ดวงหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย เมื่อพระสวามีของตนที่เพิ่งถอนจุมพิตเร่าร้อนเมื่อครู่ จับจ้องนางราวกับหมาป่าหิวกระหาย “น้องหญิงของพี่เลิศรสกว่าอาหารใดๆ” กล่าวจบเขาก็ช้อนเรือนร่างเปลือยเปล่าเข้าหลังฉากกั้น ว่ากันว่าฮองเฮาชื่นชอบการแช่น้ำร้อน ภายในตำหนักจึงมีบ่อน้ำร้อนขนาดใหญ่อยู่ติดห้องบรรทม 
ฮ่องเต้ผู้เด็ดขาดกับฮองเฮา (แค่บนเตียง) นัยน์ตาดำของบุรุษสูงศักดิ์จับจ้องใบหน้าของสตรีที่ตนรักอย่างไม่ละสายตา มือใหญ่ช่วยคีบอาหารใส่ชามให้นางอย่างเอาใจ “ท่านพี่กินบ้างเถิดเจ้าค่ะ อย่ามัวแต่คีบให้ข้าเลยเจ้าค่ะ” แม้ยามนี้ทั้งสอ