หืม....ไอ้แก่นี่โว้ย...ก็เมียนายมันไม่หัดจำอะไรเลยไง ฉันปะติดปะต่ออะไรแทบไม่ได้เลยจะไปรู้ได้ไงวะ ซูเว่ยหรานแค่นยิ้มจนมองไม่เห็นลูกนัยน์ตาก่อนจะตอบคำถามของเขา
"ยายแก่ไม่ยอมตายนั่นตีหัวข้าหนักขนาดนั้น ยังลืมตามาหายใจต่อได้ก็นับว่าปาฏิหาริย์แล้ว ข้าหลงลืมๆก็ไม่แปลกหรอก ข้าไปซักผ้าก่อน อีกอย่างจำได้ว่าท่านปู่มีเลื่อยกับขวานอยู่ ข้าอยากขอยืมสักหน่อยน่ะเดี๋ยวกลับมา"
"อืม..."
ซูเว่ยหรานเดินไปทางหลังบ้าน แต่นางเดินไปไม่ถึงสิบก้าวหลี่จื่อหานก็เรียกนางไว้
"ซุเว่ยหรานหยุดก่อน"
"ยังมีอะไรอีก หงุดหงิดแล้วนะโว้ย เรื่องมากจริง คืนนี้ฝนจะตกผ้าไม่แห้งจะให้เจ๊นอนแก้ผ้าหรือไงไอ้หนู"
"พูดจาอันใดของเจ้า ใครจะอยากเห็นสิ่งน่ากลัวจนเก็บกลับมาฝันร้ายเช่นนั้น ข้าแค่จะเตือนเจ้าว่าคำพูดเจ้าระวังหน่อย หยาบคายมากๆเด็กๆจะจำไปพูดที่อื่น คนจะพูดได้ว่าสกุลหลี่ไม่อบรมสั่งสอน และข้าเป็นสามีเจ้า หางเสียงควรมีด้วย มีอะไรอีกหรือเจ้าคะ คืนนี้ฝนจะตกผ้าจะไม่แห้งเจ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะท่านพี่ แค่นี้เองเจ้าพูดได้หรือไม่"
"เฮ้อ....สวรรค์ให้ฉันไปนั่งด่าตบตีกับยายแก่นั่นยังดีกว่า จะมาเจ้าคะ เจ้าค่ะ อะไรนักหนาบ้านนอกขนาดนี้คิดว่าอยู่จวนขุนนางหรือไง จะไปซักผ้าโว้ยหยุดพล่ามเสียที แล้วไอ้ที่ดูถูกเจ๊เนี่ย วันไหนสวยขึ้นมาจะหาผัวใหม่แม่ง ไอ้ผู้ชายตาต่ำ เหอะ"
ซูเว่ยหรานเดินจากไปไม่ไยดีเขาอีก หลี่จื่อหานส่ายหน้าตามหลัง จะมีสามีใหม่หรือ ใครจะอยากแต่งงานกับสตรีหนักร้อยชั่งเช่นเจ้ากัน ไม่ดูตัวเองเสียเลย ท่านปู่ของเขาเดินมาหาก่อนจะเอ่ย
"นางดูแปลกไปว่าหรือไม่ เป็นเพราะถูกตีหรือ"
"คงเป็นเช่นนั้นยอรับ ข้าว่าจะไปช่วยนางทำห้องสักหน่อย หากฝนตกลงมานางคงไม่มีที่นอน เตียงนางหักแล้ว"
"เฮ้อ...เจ้าก็ถือตัวเสียด้วย มิเช่นนั้นห้องเจ้านางก็ยังพอมีที่ให้นอนได้ ข้าจะไปถามเย่าฟางว่าพอจะเบียดๆกันได้หรือไม่"
หลี่ต้าหยางไปแล้ว เขารู้ดีว่าหลี่จื่อหานมีนิสัยถือตัว แม้แต่บุตรทั้งสองที่เขาทั้งรักและห่วงใยเพียงไหนแต่ก็ยังไม่ให้นอนด้วยเลย และมีเหตุผลมากกว่านั้นที่เขานอนคนเดียวมาตลอด มีเพียงหลี่ต้าหยางที่รู้
ซูเว่ยหรานซักผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินไปเอาเลื่อยกับขวานมา ไม่นานนางก็ตัดต้นไผ่มาได้ห้าสิบลำ นางวัดจากขนาดของห้องก่อนจะตัดเป็นท่อนๆจึงได้ร้อยกว่าลำ ร่างบึกบึนแบกไม้ไผ่กลับบ้านอย่างง่ายดาย ซูเว่ยหรานเห็นหลี่จื่อหานกำลังนั่งมองพื้นห้องของนางจึงเอ่ยถาม
"ท่านจะทำอะไร"
"กำลังจะช่วยซ่อมให้เจ้าพอนอนได้ไปก่อน"
"นี่ไม้ไผ่ ข้าจะวางตามยาวสักสิบลำแล้วตอกหมุดบังคับไม่ให้เคลื่อน จากนั้นก้เรียงท่อนสั้นตามแนวขวาง ใช้เชือกผูกเอายึดกับท่อนล่าง น่าจะสูงหนึ่งฉื่อ( 30 เซ็น ) ฝนตกก็ไม่เปียกแล้ว"
"ถ้าเช่นนั้นลงมือเถอะ ข้าช่วยเจ้าเอง"
"อ้อ..เหลือเป็นช่องกว้างยางด้านละสองฉื่อไว้ด้วย"
"เจ้าจะทำอะไรหรือ"
"ทำเตาผิงไฟ ข้าจะเอาผ้าที่ซักวันนี้มาตากผึ่ง หากกลางคืนอากาศเย็นลงจะได้มีห่ม"
หลี่จื่อหานมองนางแปลกไปจากเดิม นางดูมีความรู้ เขากับนางช่วยกันไม่ถึงครึ่งชั่วยาม ห้องที่ปูพื้นด้วยไม้ไผ่ทั้งต้นก็เรียบร้อย หลี่จื่อหานออกไปแล้ว ซูเว่ยหรานเดินไปเก็บผ้า หมอนและผ้าห่มไม่แห้งสักชิ้น นางจึงกลับเข้ามาในห้อง เด็กทั้งสามคนถูกนางหวังไปตากลับบ้านเพราะเล่นกันจนเพลิน ญาติๆของนางมาพูดกับท่านปูู่ว่าขอให้นางอาศัยสักพัก ตอนนี้ที่หมู่บ้านกำลังลำบาก อาหารและเสบียงไม่เพียงพอ ซึ่งหลี่ต้าหยางก็ยินดี
ซูเว่ยหรานมองหมอนในมือและช่องกำแพงที่มีรูและมีดินปิดไว้ ร่างเดิมบอกว่านางอยากตอบแทนพร้อมกับชี้มือไปที่รอยแตกนั้น ซูเว่ยหรานตัดสินใจขุดมันออก มีกล่องไม้ที่เนื้อไม้เป็นไม้อย่างดี ไม่มีทางที่มอดหรือปลวกจะกัดกิน ซูเว่ยหรานเปิดกล่องออกก็เห็นกระดาษอยู่ปึกใหญ่ เมื่อหยิบมาดูก็เห็นเป็นตั๋วเงินใบละหนึ่งพันตำลึงยี่สิบใบ และร้อยตำลึงห้าสิบใบ
"แม่เจ้า..รวยขนาดนี้จะไปลักขโมยชาวบ้านทำไมกัน เฮ้อ..นางหนูถึงหล่อนให้ฉันก็ใช่ว่าฉันจะใช้ได้ หากอยู่ๆรวยขึ้นมายิ่งตอกย้ำเรื่องที่ฉันขโมยของน่ะสิ เอาน่า เอาออกไปสักห้าตำลึงซื้อที่นอนกับผ้านวมสักสองผืน คืนนี้จะได้ไม่ต้องทนหนาว ว่าแต่ความทรงจำยายนี่หายไปไหนเหลือเพียวแค่ก่อนถูกวาสงยาเพียงหนึ่งปี"
ซูเว่ยหรานเดินออกมาจากห้อง เห็นหลี่จื่อหานกำลังคุยกับสตรีคนหนึ่งซึ่งนับว่างามพอควรหากพูดถึงในชนบทเช่นนี้ ทั้งสองคนหัวเราต่อกระซิกดูสนิทสนมกันมากนัก ซูเว่ยหรานเจ็บแปล๊บที่หน้าอก สตรีนางนี้คือหลินเซียงเซียง ร่างเดิมกำลังเจ็บปวดเสียใจ ดูเหมือนยายอ้วนจะหลงรักหลี่จื่อหานสินะ
"เวรกรรมของฉันเริ่มอีกแล้ว เฮ้อ...จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหนกันล่ะเนี่ย อยากตายแล้วไปเกิดใหม่ที่อื่นจังว่ะ"
หืม....ไอ้แก่นี่โว้ย...ก็เมียนายมันไม่หัดจำอะไรเลยไง ฉันปะติดปะต่ออะไรแทบไม่ได้เลยจะไปรู้ได้ไงวะ ซูเว่ยหรานแค่นยิ้มจนมองไม่เห็นลูกนัยน์ตาก่อนจะตอบคำถามของเขา"ยายแก่ไม่ยอมตายนั่นตีหัวข้าหนักขนาดนั้น ยังลืมตามาหายใจต่อได้ก็นับว่าปาฏิหาริย์แล้ว ข้าหลงลืมๆก็ไม่แปลกหรอก ข้าไปซักผ้าก่อน อีกอย่างจำได้ว่าท่านปู่มีเลื่อยกับขวานอยู่ ข้าอยากขอยืมสักหน่อยน่ะเดี๋ยวกลับมา""อืม..."ซูเว่ยหรานเดินไปทางหลังบ้าน แต่นางเดินไปไม่ถึงสิบก้าวหลี่จื่อหานก็เรียกนางไว้"ซุเว่ยหรานหยุดก่อน""ยังมีอะไรอีก หงุดหงิดแล้วนะโว้ย เรื่องมากจริง คืนนี้ฝนจะตกผ้าไม่แห้งจะให้เจ๊นอนแก้ผ้าหรือไงไอ้หนู""พูดจาอันใดของเจ้า ใครจะอยากเห็นสิ่งน่ากลัวจนเก็บกลับมาฝันร้ายเช่นนั้น ข้าแค่จะเตือนเจ้าว่าคำพูดเจ้าระวังหน่อย หยาบคายมากๆเด็กๆจะจำไปพูดที่อื่น คนจะพูดได้ว่าสกุลหลี่ไม่อบรมสั่งสอน และข้าเป็นสามีเจ้า หางเสียงควรมีด้วย มีอะไรอีกหรือเจ้าคะ คืนนี้ฝนจะตกผ้าจะไม่แห้งเจ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะท่านพี่ แค่นี้เองเจ้าพูดได้หรือไม่""เฮ้อ....สวรรค์ให้ฉันไปนั่งด่าตบตีกับยายแก่นั่นยังดีกว่า จะมาเจ้าคะ เจ้าค่ะ
ซูเว่ยหรานเดินเข้ามาในห้องก่อนจะเริ่มจากเก็บกวาดพื้น ที่นี่อยู่ติดทะเลพื้นส่วนมากจึงเป็นดินทราย พวกเขาไม่ได้วางอิฐปูพื้นบ้านด้วยซ้ำ ฝนตกลงมาก็แฉะไปหมด ยิ่งตอนนี้เพิ่งเข้าหน้ามรสุม ซูเว่ยหรานถอนหายใจ ทำไม่รกขนาดนี้นะรน่างเดิมอยู่ได้อย่างไร จากนั้นก็เริ่มลงมือเก็บกวาด ซูเว่ยหรานเปิดหน้าต่างออก แสงแดดจากข้างนอกแรงจ้า เห็นแดดแบบนี้เหอะหากตกขึ้นมาไม่ลืมหูลืมตาเลยเชียวแหละ เหมือนจะชื้นแปลว่าคืนนี้คงมีพายุเข้าอีก ยังดีที่บ้านนี้ไม่ติดชายฝั่ง หากออกมาเกือบแปดร้อยเมตร หรือเกือบสองลี้หากคิดตามโบราณ ร่างอวบอ้วนเริ่มจากกวาดพื้นก่อน เอาขยะไปกองรวมกันเอาไว้ กำจัดขยะในยุคนี้คงทำได้อย่าเดียวคือเผาทิ้ง ซูเว่ยหรานเห็นหมอนใบเก่าๆก็คิดว่าจะเอาไปโยนทิ้ง แต่กลับมีเสียงดังมาแผ่วเบา "พี่สาว..อย่าทิ้งหมอนของข้านะเจ้าคะ"ซูเว่ยหรานหันขวับไปทันที สายตานางเจอเข้ากับร่างอวบอ้วนที่เลือนราง เป็นวิญญาณซูเว่ยหรานคนเดิมที่กำลังคุยกับนาง ซูเว่ยหรานกระโดดทีเดียวขึ้นเตียงทันที โครม!!! กรอบ!!ครื้น!! โครม!! เตียงรับน้ำหนักไม่ไหวจึงหักลงมา ร่างใหญ่ถึงกับจุกจนพูดไม่ออกได้แต่เอ่ยตะกุ
หลังจากที่หลี่จื่อหานเดินไปแล้วซูเว่ยหรานก็นั่งลงย่างปลาตามเดิม สายตาของนางมองซาลาเปาในมือที่เขาเอาให้ จากความทรงจำร่างเดิมนับแต่คืนที่นางและเขามีสัมพันธ์กันจนร่างเดิมตั้งครรภ์เขาก็ไม่เคยมองหน้านางอีกเลย จนวันที่คู่แฝดคลอดออกมา หลี่จื่อโอกาสคนนี้ก็ทำเพียงหาอาหารให้สำหรับคนอยู่เดือน ส่วนร่างเดิมไม่ได้กินอิ่มนักนางหลิวเจ้ากี้เจ้าการเรื่องในเรือน และยังแอบเอาเสบียงไปให้ไปให้บุตรสาวตนเองกับหลานชาย แม้แต่หลานสาวของนางซึ่งเป็นลูกของหลิวเหอ อย่างหลิวเหยาเหยายังไม่ได้แตะต้อง ซูเว่ยหรานกินซาลาเปาในมือ เห้อ..มินิมาร์ทของฉันป่านนี้จะเป็นยังไง แต่ตายก็ตายแล้วจะกลับไปคงไม่ได้หรอก คิดวิธีที่จะอยู่บนโลกแห่งนี้ให้รอดก่อนเถอะ "วันนี้แดดดีน่าจะตากแค่ไม่นานก็เอาเก็บได้ ทำปลาแดดเดียวคงไม่มีอะไรมากนัก กินมื้อเช้าแล้วไปเก็บห้องก่อนดีกว่า ไม่รู้ร่างเดิมนี่อยู่ไปได้ยังไง คนเขายิ่งดูถูกว่าเหมือนหมูก็ยังทำห้องตนเองสกปรกรกยังกับคอกหมูเสียจริงๆไปเลย เฮ้อ นางหนู..ฉันต้องมาแบกรับชื่อเสียงเน่าๆของหล่อน เช่นนั้นช่วยกันบ้างนะปาฏิหาริย์อะไรสักอย่างก็ได้" ซูเว่ยหรานย่างปลาเสร็จเรียบร้อยทั้ง
ซูเว่ยหรานยิ้มให้กับน้องสามีตัวน้อยที่ผอมแห้งจนน่าสงสาร จะว่าไปก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยเพราะหลิวเหอเป็นลูกติดยายแก่หลิว แต่อย่างไรเล่าเด้กน่าสงสาร สะใภ้ใหญ่อย่านางหวังก็ถูกหลิวเหอทำให้มีมลทินจึงต้องแต่งเข้ามา ซูเว่ยหรานได้แค่ตำหนิร่างเดิม"ยายอ้วนซูเว่ยหราน หล่อนทนยายแก่น่าตายนี่มาได้ไงตั้งหกปี ดูค่ะดู หล่อนดูฉันวิญญาณหล่อนอยู่ที่ไหนเบิกตามองซะ นี่จร้า...เจ๊หรานนี่มาไม่ถึงวันทำซะบ้านแตกไปผัวทิ้งเมียไปเลย จะเก็บไว้ทำไมแค่ฉันตื่นมาต้องเจอกับเสียงแปดหลอดก็อยากจะะเอาหมอนไม้ทุ่มให้หัวแตกตายตั้งแต่เจอหน้าแล้ว เหอะ... เหลือหลี่ถงนางโคมเขียวนั่นอีกคน เป็นคนวางยาหลี่จื่อหานเพื่อจะขึ้นเตียงเขาแท้ๆ สุดท้ายกรรมมาตกที่ฉัน ถ้าหล่อนไม่หยุด เจ๊จะทำให้ถูกใส่กรงหมูถ่วงน้ำเลย คบชู้แล้วยังปากดี หึ ถุ้ย"หลี่จื่อหานมาทันได้ยินคำว่าหลี่ถงวางยาเขาและคบชู้ก็ได้แต่สงสัย เรื่องคืนนนั้นนางไม่ได้เป็นคนทำจริงๆหรือ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เสียชื่อเสียงไปแล้ว จะสอบขุนนางคงไม่ได้ ถึงจะล้างมลทินได้แต่เส้นทางขุนนางของเขาคงไม่ราบรื่นเท่าไหร่ ไม่สู้ตัดใจเสียดีกว่า แต่วาจานางดูปะหลาดไปไม่น้อย ซู
ชาวบ้านฮือฮา อะไรนะอย่างไรนางก็แต่งงานกับผู้เฒ่าหลี่ แต่จะให้บุตรชายไปเอาบุตรสาวเขาทำเมียน้อยหรือ ไม่ว่าอย่างไรนางก็คือน้องสาวนะ หลิวเหอที่ยังกระอักเลือดไม่หยุด เพราะหลี่ต้าหยางนั้นเท้าหนักไม่น้อย นางหลิวร้องไห้จะพาไปหาหมอ พอนางเดินเข้าบ้านเพื่อไปหยิบถุงเงินก็เจอกับหลิวเหยาเหยา เด็กน้อยหยิบถุงเงินวิ่งมาหามาให้หลี่ต้าหยางก่อนจะเอ่ย"ท่านปู่ เงิน เงินให้ท่านหมดเลย ไม่ให้ ไม่ให้นาง ทะ ท่านย่า ท่านย่า จะ จะ ใจร้ายข้าเกลียด ข้าเกลียด เกลียดนางกับ ทะ ทานพ่อ ฮือ ท่านย่า ท่านพ่อ ย่ะ อย่าตี อย่าตี อย่าตีข้า อย่าตีท่านแม่""ไอ้หยา...เหยาเหยาอย่าร้องนะ นี่ยายเฒ่าเจ้าทำอะไรสะใภ้กับหลานสาวหรือ ปกติเจ้าบอกว่าเว่ยหรานเป็นคนเลวข้าเชื่อเจ้านะเพราะนางชอบขโมย แต่หวังซื่อกับบุตรสาวเรียบร้อยนิสัยดีเจ้ายังหาเรื่องอีกหรือ""ใช่ๆๆ ยายเฒ่าเจ้าเป็นโจรแต่มาร้องจับโจรหรือ น่ารังเกียจจริง"ซูเว่ยหราสะอึก แหม่โว้ยต้องมาเปรียบเทียบกับฉันด้วยหรือไงช่างเถอะๆ หิวจะตายอยู่แล้วตั้งแต่ฟื้นมายังไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลย ร่างนี้ก็กินเก่งเสียด้วยก่อนจะเอ่ย"ข้าไปทำมื้อเช้าก่อนนะหิวจะตายแล้ว คนจะกินอิ่มนอนหลับหน่อยก็ไม่ได
เว่ยซูหรานเดินกลับลงมาจากบนเขา นางได้ของดีมาพอสมควร เสียดายที่ร่างนี้อ้วนเกินไปและยังไม่ฟื้นดีจากการที่ถูกตีศีรษะ แวะเก็บกระเทียมป่ามากับหอมป่ามาได้กำใหญ่ ที่ดินของบ้านมีแต่ไม่ได้ทำประโยชน์ มีแต่หญ้าขึ้นรก บนเขายังเขียวชอุ่มแปลว่าดินที่นี่ก็น่าจะปลูกพืชได้เว่ยซูหรานเอาปลาที่ขอดเกล็ดเสร็จแล้วมาหมักเกลือก่อนจะเดินไปหาหม้อดินเผามาล้างทำความสะอาด นางกำลังทาเกลือที่ตัวปลาและเอาต้นหอมยัดใส่ในท้องเพื่อดับกลิ่นคาว นางหลิวเห็นนางโรยเกลือก็กรีดร้องเสียงดังลั่น"กรี๊ดดด....นางตัวล้างผลาญ เกลือแพงขนาดไหนเจ้าไม่รู้หรือ เหตุใดถึงสิ้นเปลืองนัก ทำอาหารไม่เป็นก็อย่ามาทำให้เสียของ หลี่เย่าฟางนางคนใกล้ตาย วันนี้ของก็ขายไม่ได้ อาหารก็ยังไม่ทำปล่อยคนล้างผลาญเช่นนี้มาผลาญเสบียงข้าได้อย่างไร""ทะ ท่านแม่ คือข้า..โอ๊ย"เพี๊ยะ!! นางหลิวตบหน้าหลี่เย่าฟางเสียงดัง นางแน่ใจว่าสามีเอาอวนไปล่งแล้ว แต่นางไม่ทันตั้งตัวกลับถูกถีบจากด้านหลังอย่างจัง เป็นหลี่ต้าหยางที่ลืมของแล้วกลับมาทันเห็นบุตรสาวถูกตบหน้า ซุเว่ยหรานคนนี้จงใจให้เขากลับมาเพราะหลานชายวิ่งไปตามบอกกับเขาว่าท่านปู่เอาอวนไปผิดเขาจึงเดินกลับมาทันได้เห็น"