ซูเว่ยหรานในร่างของซูเว่ยหรานเดินไปยังลานหน้าบ้าน นางเห็นชายชรานั่งถักอวนอยู่ ในมือของเขามีด้ายกุ่มใหญ่วางไว้ข้างๆ จากความทรงจำคนผู้นี้คือหลี่ต้าหยางท่านปู่ของหลี่จื่อหาน และเขาเป็นคนเดียวที่ดีกับร่างนี้เสมอมานับแต่นางแต่งเข้าสกุลหลี่ ไม่ว่านางจะร้ายกาจเพียงใด หลี่ต้าหยางก็ไม่เคยเอ่ยปาก และยายอ้วนนี่ก็ไม่เคยก้าวร้าวกับเขาสักครั้ง
เขายังมีบุตรสาวคนเล็กอีกคน ตอนที่ภรรยาของเขาจากไปอาหญิงเล็กเพิ่งจะสองขวบ หลี่ต้าหยางจำต้องแต่งหลิวซื่อมา ยายแก่นั่นมีลูกติดสองคน ลูกคนโตเป็นผู้ชายที่วันๆไม่ทำงานแต่มาขอเงินอยู่ประจำ บิดาของหลี่จื่อหานออกทะเลแล้วไม่ได้กลับมาอีกเลยนี่ก็ผ่านไปสิบปีแล้ว
หลี่ต้าหยางยามนี้ไร้บุตรชายเหลือเพียงหลานชายคนเดียวและบุตรสาว หลี่เย่าฟางที่ตอนนี้นางอายุสิบหกยังไม่ออกเรือนเพราะยากจนไม่มีสินเดิม มิใช่ไม่มีแต่ยายแก่นั่นไม่ยอมให้ต่างหาก อีกทั้งขนให้แต่ลูกสามีเก่า ฮึยายแก่ไม่ยอมตายเอ๊ย
หลี่ต้าหยางมีนิสัยอ่อนโยนไม่เคยต่อว่าร่างเดิม แต่กลับมีเมตตาส่วนบุตรสาวไม่มีปาก นางควรแต่งงานได้แล้วแต่นางหลิวกลับบอกว่าอายุยังน้อยไม่ควรรีบร้อน คงจะเอาไว้รับใช้ตัวเองนั่นแหละ เพราะหลานสะใภ้อย่างซูเว่ยหรานไม่มีทางทำให้นางแน่นอน ซูเว่ยหรานเดินไปหาชายชราก่อนจะทักทาย
"หลานสะใภ้คารวะท่านปู่เจ้าค่ะ"
หลี่ต้าหยางเงยหน้าละมือจากการถักอวนก่อนจะพยักหน้า ดูนางแปลกไปนิดหน่อย รู้จักทักทายด้วยหรือ ที่ผ่านมานางไม่ด่าทอเขาเหมือนคนอื่นๆ ไม่อาละวาดใส่เขาก็นับว่าดีแล้ว จากนั้นจึงเอ่ยกลับไป
"ได้ยินเจ้าบอกท่านย่าว่าไม่สบาย เจ้าป่วยหนักหรือไม่ เมื่อวานลมแรงฝนก็ตกหนักเจ้าอาจป่วยเพราะอากาศเย็น อย่าลืมดื่มน้ำอุ่นๆเล่า"
"ข้าไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะท่านปู่ ส่วนเรื่องท่านพี่ข้าเชื่อเสมอว่าท่านพี่เป็นคนมีความสามารถ ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นอะไรไปได้ เขาต้องกลับมาแน่นอน ว่าแต่จิ้งเหว่ยกับหนิงซินไปไหนเสียเจ้าคะ"
ซูเว่ยหรานถามหาบุตรชายกับบุตรสาวฝาแฝดของร่างเดิม เวลานี้เด็กสองคนคงถูกยายแก่ใจร้ายนั่นให้ไปรับจ้างคนอื่นอีกแล้ว ใช้แรงงานเด็กหรือยายเฒ่าเด็กเพิ่งจะห้าขวบเท่านั้นเองนะ
ร่างอวบอ้วนสาวเท้าเพื่อไปตามเด็กๆ ที่ไปรับจ้างเก็บหอยชายฝั่ง ยายแก่นี่ยังเป็นคนหรือไม่เด็กเพิ่งจะห้าขวบเท่านั้นก็ให้ไปอยู่ริมน้ำ คลื่นมาแรงๆ จะทำเช่นไร ซูเว่ยหรานกำลังจะก้าวพ้นธรณีประตูก็ชนเข้ากับร่างสูง
นางเงยหน้าก็เห็นบุรุษร่างกำยำสูงเกือบ190เซน ใบหน้าหล่อเหลานั่น จากความทรงจำเขาคือหลี่จื่อหานสามีของร่างเดิมซูเว่ยหราน มิน่าถึงมีคนวางยาปลุกกำหนัดเขาแต่ยายอ้วนนี่กลับได้ประโยชน์ ช่างรูปหล่อจริงๆ ขนาดในยุคที่เธอจากมาหาคนหน้าตาดีแบบนี้ยังหายากเลยถ้าไม่ศัลยกรรม
ร่างสูงเห็นภรรยาที่ทั้งอ้วนทั้งอัปลักษณ์ของตนเดินมาก็หลบให้ราวกับว่านางเป็นสิ่งสกปรกที่ต้องอยู่ให้ห่าง ซูเว่ยหรานไม่สนใจ เธอไม่รู้หรอกว่าซูเว่ยหรานคนเดิมนั้นชอบไอ้หมอนี่ตรงไหน หน้าตาก็หล่อเหลาอยู่หรอก แต่ทำหน้าราวกับศพที่ถูกแช่แข็ง สงสัยถ้าอ้าปากพูดหรือยิ้มเปลือกที่เคลือบมันจะแตกออกล่ะมั้ง
ซูเว่ยหรานไม่คิดจะทักทายเขาสักคำ รังเกียจฉันหรือก็แล้วแต่นายเถอะฉันแคร์หรือไง เหอะ...จากนั้นก็เดินไปที่ชายฝั่งนางมองไปก็เห็นเด็กวัยห้าขวบสองคนกำลังก้มๆ เงยๆ เกือบหอยกันอยู่ เท้าอวบอ้วนเดินไปที่ชายหาดก่อนเอ่ยเรียกเด็กทั้งสองเสียงดัง
" เจิ้นหยวนหนิงซินกลับบ้านกับแม่เถอะ"
คู่แฝดเงยหน้ามาตามเสียงเรียก ท่านแม่นี่นา ปกติไม่กินก็นอนวันนี้เหตุใดออกจากบ้านได้กัน ก่อนที่จะเดินมาหาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ท่านแม่เวลาไม่พอใจก็จะตีพวกเขา หากท่านพ่อไม่สนใจก็ยิ่งตีเพื่อให้ท่านพ่อมาสนใจนาง เมื่อมาถึงก็เรียกนางด้วยน้ำเสียงที่หวาดระแวง
"ทะ ท่านแม่"
"กลับบ้านไม่ต้องทำงานแล้ว"
ซูเว่ยหรานสั่งเด็กทั้งสองก่อนจะเอาตะกร้ามาถือไว้เอง จูต้าเป่าที่กำลังวิ่งเล่นอยู่เห็นสองพี่น้องไม่ทำงานก็รีบวิ่งมาดักหน้าก่อนจะเอ่ยอย่างไม่เกรงใจใคร
"นางหมูตอนถ้าไอ้เด็กสองคนนี้ไม่ทำงานใครจะหาเงินซื้อขนมให้ข้ากัน"
ซูเว่ยหรานมองหน้าเจ้าเด็กอ้วนตรงหน้าก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น
"จูต้าเป่า เจ้าไม่มีบิดามารดาหรือว่าจูพ่านบิดาเจ้าตายแล้ว หลี่ถงมารดาเจ้าพิกลพิการหรือถึงต้องให้ผู้อื่นหาให้เจ้ากินกัน"
จูต้าเป่าชี้หน้าซูเว่ยหรานอย่างไม่พอใจก่อนจะเอ่ยแต่คำหยาบคายออกมา
"นางหมูตอน นางสตรีอ้วนอัปลักษณ์เจ้ากล้าว่าข้าหรือคอยดูข้าจะฟ้องท่านยาย โอ๊ย"
เพียะ!! เพียะ!! เพียะ!! ซูเว่ยหรานจับจูต้าเป่าถอดกางเกงแล้วจับนอนคว่ำบนตักก่อนจะลงมือฟาดก้นเขาไม่นับ
"ไอ้เด็กเหลือขอเรียกข้าหมูตอนหรือ ปากดีนักข้าจะสั่งสอนแทนพ่อแม่เจ้าเอง นี่แหนะตีให้ตาย ดูสิต่อไปจะกล้าก้าวร้าวหรือไม่"
"ฮือๆๆๆ ท่านแม่ ท่านยายช่วยข้าด้วยขอรับ ข้าเจ็บจังเลย"
เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยดังมา ทำให้หลี่ถงที่ได้ยินเสียงบุตรชายร้องไห้ก็รีบวิ่งมาดูทันที ภาพตรงหน้าบุตรชายถูกซูเว่ยหรานฟาดก้นอยู่อีกทั้งยังแก้ผ้าเขาล่อนจ้อนเพื่อที่จะลงมือ หลี่ถงร้องไห้รีบไปตามารดาทันที นางหลิวรีบมา หลี่จื่อหานที่ได้ยินก็ตามมาด้วย วันนี้นางก่อเรื่องอะไรอักกันเล่า สตรีคนนี้ไม่ได้อัปลักษณ์แค่รูปร่างหน้าตา แต่กลับอัปลักษณ์ทั้งนิสัยใจคอ
หืม....ไอ้แก่นี่โว้ย...ก็เมียนายมันไม่หัดจำอะไรเลยไง ฉันปะติดปะต่ออะไรแทบไม่ได้เลยจะไปรู้ได้ไงวะ ซูเว่ยหรานแค่นยิ้มจนมองไม่เห็นลูกนัยน์ตาก่อนจะตอบคำถามของเขา"ยายแก่ไม่ยอมตายนั่นตีหัวข้าหนักขนาดนั้น ยังลืมตามาหายใจต่อได้ก็นับว่าปาฏิหาริย์แล้ว ข้าหลงลืมๆก็ไม่แปลกหรอก ข้าไปซักผ้าก่อน อีกอย่างจำได้ว่าท่านปู่มีเลื่อยกับขวานอยู่ ข้าอยากขอยืมสักหน่อยน่ะเดี๋ยวกลับมา""อืม..."ซูเว่ยหรานเดินไปทางหลังบ้าน แต่นางเดินไปไม่ถึงสิบก้าวหลี่จื่อหานก็เรียกนางไว้"ซุเว่ยหรานหยุดก่อน""ยังมีอะไรอีก หงุดหงิดแล้วนะโว้ย เรื่องมากจริง คืนนี้ฝนจะตกผ้าไม่แห้งจะให้เจ๊นอนแก้ผ้าหรือไงไอ้หนู""พูดจาอันใดของเจ้า ใครจะอยากเห็นสิ่งน่ากลัวจนเก็บกลับมาฝันร้ายเช่นนั้น ข้าแค่จะเตือนเจ้าว่าคำพูดเจ้าระวังหน่อย หยาบคายมากๆเด็กๆจะจำไปพูดที่อื่น คนจะพูดได้ว่าสกุลหลี่ไม่อบรมสั่งสอน และข้าเป็นสามีเจ้า หางเสียงควรมีด้วย มีอะไรอีกหรือเจ้าคะ คืนนี้ฝนจะตกผ้าจะไม่แห้งเจ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะท่านพี่ แค่นี้เองเจ้าพูดได้หรือไม่""เฮ้อ....สวรรค์ให้ฉันไปนั่งด่าตบตีกับยายแก่นั่นยังดีกว่า จะมาเจ้าคะ เจ้าค่ะ
ซูเว่ยหรานเดินเข้ามาในห้องก่อนจะเริ่มจากเก็บกวาดพื้น ที่นี่อยู่ติดทะเลพื้นส่วนมากจึงเป็นดินทราย พวกเขาไม่ได้วางอิฐปูพื้นบ้านด้วยซ้ำ ฝนตกลงมาก็แฉะไปหมด ยิ่งตอนนี้เพิ่งเข้าหน้ามรสุม ซูเว่ยหรานถอนหายใจ ทำไม่รกขนาดนี้นะรน่างเดิมอยู่ได้อย่างไร จากนั้นก็เริ่มลงมือเก็บกวาด ซูเว่ยหรานเปิดหน้าต่างออก แสงแดดจากข้างนอกแรงจ้า เห็นแดดแบบนี้เหอะหากตกขึ้นมาไม่ลืมหูลืมตาเลยเชียวแหละ เหมือนจะชื้นแปลว่าคืนนี้คงมีพายุเข้าอีก ยังดีที่บ้านนี้ไม่ติดชายฝั่ง หากออกมาเกือบแปดร้อยเมตร หรือเกือบสองลี้หากคิดตามโบราณ ร่างอวบอ้วนเริ่มจากกวาดพื้นก่อน เอาขยะไปกองรวมกันเอาไว้ กำจัดขยะในยุคนี้คงทำได้อย่าเดียวคือเผาทิ้ง ซูเว่ยหรานเห็นหมอนใบเก่าๆก็คิดว่าจะเอาไปโยนทิ้ง แต่กลับมีเสียงดังมาแผ่วเบา "พี่สาว..อย่าทิ้งหมอนของข้านะเจ้าคะ"ซูเว่ยหรานหันขวับไปทันที สายตานางเจอเข้ากับร่างอวบอ้วนที่เลือนราง เป็นวิญญาณซูเว่ยหรานคนเดิมที่กำลังคุยกับนาง ซูเว่ยหรานกระโดดทีเดียวขึ้นเตียงทันที โครม!!! กรอบ!!ครื้น!! โครม!! เตียงรับน้ำหนักไม่ไหวจึงหักลงมา ร่างใหญ่ถึงกับจุกจนพูดไม่ออกได้แต่เอ่ยตะกุ
หลังจากที่หลี่จื่อหานเดินไปแล้วซูเว่ยหรานก็นั่งลงย่างปลาตามเดิม สายตาของนางมองซาลาเปาในมือที่เขาเอาให้ จากความทรงจำร่างเดิมนับแต่คืนที่นางและเขามีสัมพันธ์กันจนร่างเดิมตั้งครรภ์เขาก็ไม่เคยมองหน้านางอีกเลย จนวันที่คู่แฝดคลอดออกมา หลี่จื่อโอกาสคนนี้ก็ทำเพียงหาอาหารให้สำหรับคนอยู่เดือน ส่วนร่างเดิมไม่ได้กินอิ่มนักนางหลิวเจ้ากี้เจ้าการเรื่องในเรือน และยังแอบเอาเสบียงไปให้ไปให้บุตรสาวตนเองกับหลานชาย แม้แต่หลานสาวของนางซึ่งเป็นลูกของหลิวเหอ อย่างหลิวเหยาเหยายังไม่ได้แตะต้อง ซูเว่ยหรานกินซาลาเปาในมือ เห้อ..มินิมาร์ทของฉันป่านนี้จะเป็นยังไง แต่ตายก็ตายแล้วจะกลับไปคงไม่ได้หรอก คิดวิธีที่จะอยู่บนโลกแห่งนี้ให้รอดก่อนเถอะ "วันนี้แดดดีน่าจะตากแค่ไม่นานก็เอาเก็บได้ ทำปลาแดดเดียวคงไม่มีอะไรมากนัก กินมื้อเช้าแล้วไปเก็บห้องก่อนดีกว่า ไม่รู้ร่างเดิมนี่อยู่ไปได้ยังไง คนเขายิ่งดูถูกว่าเหมือนหมูก็ยังทำห้องตนเองสกปรกรกยังกับคอกหมูเสียจริงๆไปเลย เฮ้อ นางหนู..ฉันต้องมาแบกรับชื่อเสียงเน่าๆของหล่อน เช่นนั้นช่วยกันบ้างนะปาฏิหาริย์อะไรสักอย่างก็ได้" ซูเว่ยหรานย่างปลาเสร็จเรียบร้อยทั้ง
ซูเว่ยหรานยิ้มให้กับน้องสามีตัวน้อยที่ผอมแห้งจนน่าสงสาร จะว่าไปก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยเพราะหลิวเหอเป็นลูกติดยายแก่หลิว แต่อย่างไรเล่าเด้กน่าสงสาร สะใภ้ใหญ่อย่านางหวังก็ถูกหลิวเหอทำให้มีมลทินจึงต้องแต่งเข้ามา ซูเว่ยหรานได้แค่ตำหนิร่างเดิม"ยายอ้วนซูเว่ยหราน หล่อนทนยายแก่น่าตายนี่มาได้ไงตั้งหกปี ดูค่ะดู หล่อนดูฉันวิญญาณหล่อนอยู่ที่ไหนเบิกตามองซะ นี่จร้า...เจ๊หรานนี่มาไม่ถึงวันทำซะบ้านแตกไปผัวทิ้งเมียไปเลย จะเก็บไว้ทำไมแค่ฉันตื่นมาต้องเจอกับเสียงแปดหลอดก็อยากจะะเอาหมอนไม้ทุ่มให้หัวแตกตายตั้งแต่เจอหน้าแล้ว เหอะ... เหลือหลี่ถงนางโคมเขียวนั่นอีกคน เป็นคนวางยาหลี่จื่อหานเพื่อจะขึ้นเตียงเขาแท้ๆ สุดท้ายกรรมมาตกที่ฉัน ถ้าหล่อนไม่หยุด เจ๊จะทำให้ถูกใส่กรงหมูถ่วงน้ำเลย คบชู้แล้วยังปากดี หึ ถุ้ย"หลี่จื่อหานมาทันได้ยินคำว่าหลี่ถงวางยาเขาและคบชู้ก็ได้แต่สงสัย เรื่องคืนนนั้นนางไม่ได้เป็นคนทำจริงๆหรือ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เสียชื่อเสียงไปแล้ว จะสอบขุนนางคงไม่ได้ ถึงจะล้างมลทินได้แต่เส้นทางขุนนางของเขาคงไม่ราบรื่นเท่าไหร่ ไม่สู้ตัดใจเสียดีกว่า แต่วาจานางดูปะหลาดไปไม่น้อย ซู
ชาวบ้านฮือฮา อะไรนะอย่างไรนางก็แต่งงานกับผู้เฒ่าหลี่ แต่จะให้บุตรชายไปเอาบุตรสาวเขาทำเมียน้อยหรือ ไม่ว่าอย่างไรนางก็คือน้องสาวนะ หลิวเหอที่ยังกระอักเลือดไม่หยุด เพราะหลี่ต้าหยางนั้นเท้าหนักไม่น้อย นางหลิวร้องไห้จะพาไปหาหมอ พอนางเดินเข้าบ้านเพื่อไปหยิบถุงเงินก็เจอกับหลิวเหยาเหยา เด็กน้อยหยิบถุงเงินวิ่งมาหามาให้หลี่ต้าหยางก่อนจะเอ่ย"ท่านปู่ เงิน เงินให้ท่านหมดเลย ไม่ให้ ไม่ให้นาง ทะ ท่านย่า ท่านย่า จะ จะ ใจร้ายข้าเกลียด ข้าเกลียด เกลียดนางกับ ทะ ทานพ่อ ฮือ ท่านย่า ท่านพ่อ ย่ะ อย่าตี อย่าตี อย่าตีข้า อย่าตีท่านแม่""ไอ้หยา...เหยาเหยาอย่าร้องนะ นี่ยายเฒ่าเจ้าทำอะไรสะใภ้กับหลานสาวหรือ ปกติเจ้าบอกว่าเว่ยหรานเป็นคนเลวข้าเชื่อเจ้านะเพราะนางชอบขโมย แต่หวังซื่อกับบุตรสาวเรียบร้อยนิสัยดีเจ้ายังหาเรื่องอีกหรือ""ใช่ๆๆ ยายเฒ่าเจ้าเป็นโจรแต่มาร้องจับโจรหรือ น่ารังเกียจจริง"ซูเว่ยหราสะอึก แหม่โว้ยต้องมาเปรียบเทียบกับฉันด้วยหรือไงช่างเถอะๆ หิวจะตายอยู่แล้วตั้งแต่ฟื้นมายังไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลย ร่างนี้ก็กินเก่งเสียด้วยก่อนจะเอ่ย"ข้าไปทำมื้อเช้าก่อนนะหิวจะตายแล้ว คนจะกินอิ่มนอนหลับหน่อยก็ไม่ได
เว่ยซูหรานเดินกลับลงมาจากบนเขา นางได้ของดีมาพอสมควร เสียดายที่ร่างนี้อ้วนเกินไปและยังไม่ฟื้นดีจากการที่ถูกตีศีรษะ แวะเก็บกระเทียมป่ามากับหอมป่ามาได้กำใหญ่ ที่ดินของบ้านมีแต่ไม่ได้ทำประโยชน์ มีแต่หญ้าขึ้นรก บนเขายังเขียวชอุ่มแปลว่าดินที่นี่ก็น่าจะปลูกพืชได้เว่ยซูหรานเอาปลาที่ขอดเกล็ดเสร็จแล้วมาหมักเกลือก่อนจะเดินไปหาหม้อดินเผามาล้างทำความสะอาด นางกำลังทาเกลือที่ตัวปลาและเอาต้นหอมยัดใส่ในท้องเพื่อดับกลิ่นคาว นางหลิวเห็นนางโรยเกลือก็กรีดร้องเสียงดังลั่น"กรี๊ดดด....นางตัวล้างผลาญ เกลือแพงขนาดไหนเจ้าไม่รู้หรือ เหตุใดถึงสิ้นเปลืองนัก ทำอาหารไม่เป็นก็อย่ามาทำให้เสียของ หลี่เย่าฟางนางคนใกล้ตาย วันนี้ของก็ขายไม่ได้ อาหารก็ยังไม่ทำปล่อยคนล้างผลาญเช่นนี้มาผลาญเสบียงข้าได้อย่างไร""ทะ ท่านแม่ คือข้า..โอ๊ย"เพี๊ยะ!! นางหลิวตบหน้าหลี่เย่าฟางเสียงดัง นางแน่ใจว่าสามีเอาอวนไปล่งแล้ว แต่นางไม่ทันตั้งตัวกลับถูกถีบจากด้านหลังอย่างจัง เป็นหลี่ต้าหยางที่ลืมของแล้วกลับมาทันเห็นบุตรสาวถูกตบหน้า ซุเว่ยหรานคนนี้จงใจให้เขากลับมาเพราะหลานชายวิ่งไปตามบอกกับเขาว่าท่านปู่เอาอวนไปผิดเขาจึงเดินกลับมาทันได้เห็น"