คำพูดของซูเว่ยหรานทำให้บรรยากาศในห้องเงียบกริบลงทันที นางหลิวเบิกตากว้างด้วยความตกใจถึงนางหมูตอนจะร้ายกานขี้เกียจแต่ปกติก็ยังหวาดกลัวนางอยู่บ้าง แต่วันนี้นางหมูตอนนี้ไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน ก่อนจะชี้หน้าหลานสะใภ้ที่กล้าต่อปากกับนาง
"เจ้า เจ้า นางตัวดีกล้าดียังไงมาว่าข้า! นางแพศยาข้าเป็นผู้อาวุโสของเจ้านะ"
"ข้าพูดความจริงยายเฒ่า ข้าแต่งงานกับหลี่จื่อหานมาอย่างสมฐานะ ส่วนเจ้าก็แค่แม่หม้ายที่หวังเกาะแข้งเกาะขาสกุลหลี่ มีตรงไหนที่บ่งบอกว่าเจ้าแซ่เดียวกับข้า หรือว่าเจ้าคลอดข้าออกมา คลอดบิดาหรือมารดาข้าออกมากันล่ะ คำว่าผู้อาวุโสอย่ามาใช้กับข้า ลูกตัวเองหลานตัวเองอิ่มทุกมื้อขนกลับบ้านสามีอีกด้วย ลูกข้าเป็นหลานสายตรงกลับต้องไปหารับจ้างมาเลี้ยงพวกเจ้า ยายแก่ไม่ยอมตายมาทางไหนไสหัวไปทางนั้นเลยนะ"
คำพูดของซูเว่ยหรานทำให้นายท่านแห่งบ้านหลี่ที่นั่งถักอวนเงียบๆอยู่ลานด้านนอก ถึงกับเลิกคิ้วมองหลานสะใภ้ที่อยู่ในเรือนอย่างประหลาดใจ แม้ว่าซูเว่ยหรานร้ายกาจมากนัก แต่ปกติมิใช่คนที่วาจาคมคายเช่นนี้ ส่วนนางหลิวยืนตัวแข็งทื่อ ปากอ้าค้างไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้ ความโกรธแค้นปนฉายชัดในแววตาของนาง
ซูเว่ยหรานไม่สนใจปฏิกิริยาของอีกฝ่าย เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วก้าวลงจากเตียงช้าๆ แม้จะยังรู้สึกมึนหัวอยู่บ้าง แต่เธอก็รู้ว่าการโต้ตอบด้วยวาจาเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ เธอจะต้องแสดงให้เห็นว่าซูหว่านหว่านคนใหม่นี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปที่จะยอมให้ใครก็ได้มารังแกหรือดูถูก หรือพูดอีกทีก็คือปกติยายนี่รังแกคนอื่นมาตลอดต่างหาก เหอะ..ในเมื่อร้ายก็ต้องร้ายให้ถึงที่สุด
ซูเว่ยหรานก้าวเดินทีละก้าวอย่างช้าๆ ย่าสามีขวางประตูเอาไว้นางอาศัยร่างกายที่อ้วนใช้หัวไหล่กระแทกจนนางหลิวถึงกับเซถลา แม้ว่าจะยังรู้สึกมึนหัวอยู่บ้างจากการถูกตี แต่ก็พยายามรวบรวมสติและพยุงตัวเองให้ยืนหยัดได้เพื่อจะเดินออกไปข้างนอก เธอทอดสายตาออกไปนอกบ้านเธอได้ยินเสียงคลื่น และกลิ่นเค็มๆของน้ำทะเลและกลิ่นคาวปลาที่ลอยมาตามลม ทำให้เธอรู้ว่านี่คือหมู่บ้านชาวประมงอย่างแน่นอน
ขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไปที่ประตู ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็ก้าวเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า เป็นหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆคนหนึ่ง ใบหน้าเรียวเล็ก ผิวขาวกว่าคนในหมู่บ้านเล็กน้อย นางจ้องมองมาที่ซูเว่ยหรานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วย ความอิจฉาริษยาและเหยียดหยาม นางสวมเสื้อผ้าที่ดูดีกว่าคนอื่นในบ้านเล็กน้อยบ่งบอกถึงความเอาใจใส่ในรูปลักษณ์ นี่คือ หลี่ถงลูกติดยายแก่ปากมากนี่ ถือว่าเป็นอาหญิงของหลี่จื่อหานสามีของร่างเดิมนั่นเอง
"โอ้โห! ตื่นแล้วหรือนางตัวซวย นางหมูตอนนึกว่าเจ้าจะนอนกินบ้านกินเมืองจนหลับตายไปแล้วเสียอีก"
หลี่ถงเอ่ยวาจาถากถางไปด้วยก่อนจะยิ้มเยาะเย้ย สีหน้าของนางประดับด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันราวกับกำลังสนุกกับการที่ได้ดูถูกซูเว่ยหราน เท้าอวบอ้วนหยุดฝีเท้าเอาไว้และเริ่มที่จะ ประจันหน้ากับคนมาใหม่อย่างไม่ยอมแพ้ ดวงตาของนางภายใต้ใบหน้าอวบอ้วนจับจ้องไปที่หลี่ถงอย่างไม่วางตา หลี่ถงรู้สึกถึงความกดดันที่ไม่เคยได้รับจากคนตรงหน้ามาก่อน แต่ก็ยังปากดีใส่
"ทำไม? มองอะไร? หรือว่านอนมากจนตาเหล่ไปแล้วนางอ้วน"
หลี่ถงถามด้วยน้ำเสียงกวนโทสะมากขึ้น เมื่อเห็นว่าซูเว่ยหรานยังคงเงียบงัน
"ฮึ่ม! เห็นแก่ความอ้วนอุ้ยอ้ายของเจ้าแล้วนางหมูตอน ข้าว่าไม่น่าจะมีแรงเดินไปไหนไกลหรอกมั้งคิกๆๆ"
นางพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดปากหัวเราะคิกคัก ซูเว่ยหรานถอนหายใจช้าๆ เธอจำได้ว่าในความทรงจำของร่างเดิม นางถูกหลี่ถงคนนี้รังแกและดูถูกอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความอ้วนและความอัปลักษณ์ของซูเว่ยหราน ทำให้หลี่ถงยิ่งได้ใจและไม่เคยเกรงใจไยดีหลานสะใภ้ผู้นี้เลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว
ซูเว่ยหรานคนใหม่ระบายยิ้มบนใบหน้า ยิ้มนั้นเป็นรอยยิ้มที่สามารถทำให้คนเสียวสันหลังได้ทีเดียว ดวงตาที่เคยเล็กเรียวตอนนี้ฉายแววคมกริบเย็นเยียบ เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแต่แฝงด้วยความร้ายกาจ
"หลี่ถง เจ้าเกรงว่าข้าจะกินจนอ้วน หรือกลัวว่าเจ้าจะไม่มีเสบียงติดไม้ติดมือขนกลับไปบ้านสามีจนถูกแม่สามีกับสามีตัวดีของเจ้าทุบตีกลับมาอีกกันแน่?"
คำพูดของซูเฉียวหว่านในร่างของซูเว่ยหรานทำเอาหลี่ถิงหน้าซีดเผือด นางเบิกตากว้างด้วยความตกใจและโกรธจัด ไม่คิดว่านางอ้วนซูเว่ยหรานจะกล้าเปิดเผยความลับที่นางพยายามปกปิดมาตลอดเรื่องที่ถูกแม่สามีของตนเองทำร้าย นางชี้หน้าซูเว่ยหรานด้วยมือที่สั่นระริก
" เจ้าเอ่ยอันใดนางอ้วนอย่ามาพูดเหลวไหล ตัวเจ้าวางยาหลานชายของข้า ปีนเตียงเขาจนได้เข้าบ้านสกุลหลี่ อย่ามาทำท่าทางยโสกับข้านะนางหมูตอน"
หลี่ถงแผดเสียง น้ำเสียงสั่นเทาด้วยความเจ็บใจที่โดนจี้จุดและโดนเปิดเผยความลับที่เจ็บปวด
"เหลวไหลรึ?"
ซูเฉียวหว่านหัวเราะเบาๆ ในลำคอ เสียงหัวเราะนั้นฟังดูเย็นชาและน่าขนลุกก่อนจะเหลือบมองหลี่ถงด้วยสายตาหยามเหยียด แล้วเอ่ยออกมา
"ข้าพูดความจริงต่างหาก ใครๆ เขาก็รู้กันทั้งหมู่บ้านว่าเจ้าโดนอะไรมาบ้าง ส่วนเรื่องการวางยาหลานชายเจ้า...ทำไมข้ารู้สึกว่ายานั่นคนที่วางไม่ใช่ข้ากันนะ อีกอย่างใครวางยาเขาเพื่อที่จะขึ้นเตียงหลี่จื่อหานกันแน่ข้าว่าเจ้ารู้ดีนะ สุดท้ายตัวเองกับพลาดไปคว้าเอาคนขี้เหล้ามาแทน อาหญิงอยากปีนเตียงหลานชาย จุ๊ๆๆๆ เรื่องนี้น่าป่าวประกาศจริงๆ ไม่รู้ว่าในเมืองมีนักเล่านิทานหรือไม่"
หลี่ถงยืนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าขาวซีดเผือดด้วยความหวาดหวั่น นางหมูตอนนี้พูดอะไรออกมากัน นางหมายความว่าอย่างไร นางโง่นี่รู้เรื่องหกปีก่อนหรือ หลี่ถงทั้งอับอายและโกรธแค้น สายตาของนางเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชังที่จ้องมองมาที่ร่างอวบอ้วน แต่ซูเว่ยหรานไม่สนใจปฏิกิริยาของอีกฝ่าย นางก้าวเท้าเดินตรงไปที่หลี่ถงอย่างช้าๆ ไม่มีความเกรงกลัวหรือลังเลแม้แต่น้อยก่อนจะตวาดเสียงดัง
"หลีกไป นางโคมเขียว"
เมื่อหลี่ถงไม่ขยับ ซูเว่ยหรานเอ่ยซ้ำด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดกว่าเดิม
"ถ้าเจ้ายังไม่อยากโดนแม่ผัวตีกลับมาอีก ก็ควรจะสำรวมปากสำรวมคำให้มากกว่านี้ จูพ่านสามีของเจ้ารู้หรือไม่ว่าลูกที่เลี้ยงดูทุกวันนี้ลูกใครกันแน่"
ก่อนที่หลี่ถิงจะทันได้ขยับตัว ซูเว่ยหรานก็ใช้ไหล่อ้วนหนากระแทกใส่ร่างผอมแห้งจนหลี่ถิงล้มคะมำ แล้วเดินผ่านไปอย่างไม่แยแส ทิ้งให้หลี่ถงยังอึ้งอยู่เพียงลำพัง พร้อมกับความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งกลัว ทั้งโกรธแค้นและอับอาย
หืม....ไอ้แก่นี่โว้ย...ก็เมียนายมันไม่หัดจำอะไรเลยไง ฉันปะติดปะต่ออะไรแทบไม่ได้เลยจะไปรู้ได้ไงวะ ซูเว่ยหรานแค่นยิ้มจนมองไม่เห็นลูกนัยน์ตาก่อนจะตอบคำถามของเขา"ยายแก่ไม่ยอมตายนั่นตีหัวข้าหนักขนาดนั้น ยังลืมตามาหายใจต่อได้ก็นับว่าปาฏิหาริย์แล้ว ข้าหลงลืมๆก็ไม่แปลกหรอก ข้าไปซักผ้าก่อน อีกอย่างจำได้ว่าท่านปู่มีเลื่อยกับขวานอยู่ ข้าอยากขอยืมสักหน่อยน่ะเดี๋ยวกลับมา""อืม..."ซูเว่ยหรานเดินไปทางหลังบ้าน แต่นางเดินไปไม่ถึงสิบก้าวหลี่จื่อหานก็เรียกนางไว้"ซุเว่ยหรานหยุดก่อน""ยังมีอะไรอีก หงุดหงิดแล้วนะโว้ย เรื่องมากจริง คืนนี้ฝนจะตกผ้าไม่แห้งจะให้เจ๊นอนแก้ผ้าหรือไงไอ้หนู""พูดจาอันใดของเจ้า ใครจะอยากเห็นสิ่งน่ากลัวจนเก็บกลับมาฝันร้ายเช่นนั้น ข้าแค่จะเตือนเจ้าว่าคำพูดเจ้าระวังหน่อย หยาบคายมากๆเด็กๆจะจำไปพูดที่อื่น คนจะพูดได้ว่าสกุลหลี่ไม่อบรมสั่งสอน และข้าเป็นสามีเจ้า หางเสียงควรมีด้วย มีอะไรอีกหรือเจ้าคะ คืนนี้ฝนจะตกผ้าจะไม่แห้งเจ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะท่านพี่ แค่นี้เองเจ้าพูดได้หรือไม่""เฮ้อ....สวรรค์ให้ฉันไปนั่งด่าตบตีกับยายแก่นั่นยังดีกว่า จะมาเจ้าคะ เจ้าค่ะ
ซูเว่ยหรานเดินเข้ามาในห้องก่อนจะเริ่มจากเก็บกวาดพื้น ที่นี่อยู่ติดทะเลพื้นส่วนมากจึงเป็นดินทราย พวกเขาไม่ได้วางอิฐปูพื้นบ้านด้วยซ้ำ ฝนตกลงมาก็แฉะไปหมด ยิ่งตอนนี้เพิ่งเข้าหน้ามรสุม ซูเว่ยหรานถอนหายใจ ทำไม่รกขนาดนี้นะรน่างเดิมอยู่ได้อย่างไร จากนั้นก็เริ่มลงมือเก็บกวาด ซูเว่ยหรานเปิดหน้าต่างออก แสงแดดจากข้างนอกแรงจ้า เห็นแดดแบบนี้เหอะหากตกขึ้นมาไม่ลืมหูลืมตาเลยเชียวแหละ เหมือนจะชื้นแปลว่าคืนนี้คงมีพายุเข้าอีก ยังดีที่บ้านนี้ไม่ติดชายฝั่ง หากออกมาเกือบแปดร้อยเมตร หรือเกือบสองลี้หากคิดตามโบราณ ร่างอวบอ้วนเริ่มจากกวาดพื้นก่อน เอาขยะไปกองรวมกันเอาไว้ กำจัดขยะในยุคนี้คงทำได้อย่าเดียวคือเผาทิ้ง ซูเว่ยหรานเห็นหมอนใบเก่าๆก็คิดว่าจะเอาไปโยนทิ้ง แต่กลับมีเสียงดังมาแผ่วเบา "พี่สาว..อย่าทิ้งหมอนของข้านะเจ้าคะ"ซูเว่ยหรานหันขวับไปทันที สายตานางเจอเข้ากับร่างอวบอ้วนที่เลือนราง เป็นวิญญาณซูเว่ยหรานคนเดิมที่กำลังคุยกับนาง ซูเว่ยหรานกระโดดทีเดียวขึ้นเตียงทันที โครม!!! กรอบ!!ครื้น!! โครม!! เตียงรับน้ำหนักไม่ไหวจึงหักลงมา ร่างใหญ่ถึงกับจุกจนพูดไม่ออกได้แต่เอ่ยตะกุ
หลังจากที่หลี่จื่อหานเดินไปแล้วซูเว่ยหรานก็นั่งลงย่างปลาตามเดิม สายตาของนางมองซาลาเปาในมือที่เขาเอาให้ จากความทรงจำร่างเดิมนับแต่คืนที่นางและเขามีสัมพันธ์กันจนร่างเดิมตั้งครรภ์เขาก็ไม่เคยมองหน้านางอีกเลย จนวันที่คู่แฝดคลอดออกมา หลี่จื่อโอกาสคนนี้ก็ทำเพียงหาอาหารให้สำหรับคนอยู่เดือน ส่วนร่างเดิมไม่ได้กินอิ่มนักนางหลิวเจ้ากี้เจ้าการเรื่องในเรือน และยังแอบเอาเสบียงไปให้ไปให้บุตรสาวตนเองกับหลานชาย แม้แต่หลานสาวของนางซึ่งเป็นลูกของหลิวเหอ อย่างหลิวเหยาเหยายังไม่ได้แตะต้อง ซูเว่ยหรานกินซาลาเปาในมือ เห้อ..มินิมาร์ทของฉันป่านนี้จะเป็นยังไง แต่ตายก็ตายแล้วจะกลับไปคงไม่ได้หรอก คิดวิธีที่จะอยู่บนโลกแห่งนี้ให้รอดก่อนเถอะ "วันนี้แดดดีน่าจะตากแค่ไม่นานก็เอาเก็บได้ ทำปลาแดดเดียวคงไม่มีอะไรมากนัก กินมื้อเช้าแล้วไปเก็บห้องก่อนดีกว่า ไม่รู้ร่างเดิมนี่อยู่ไปได้ยังไง คนเขายิ่งดูถูกว่าเหมือนหมูก็ยังทำห้องตนเองสกปรกรกยังกับคอกหมูเสียจริงๆไปเลย เฮ้อ นางหนู..ฉันต้องมาแบกรับชื่อเสียงเน่าๆของหล่อน เช่นนั้นช่วยกันบ้างนะปาฏิหาริย์อะไรสักอย่างก็ได้" ซูเว่ยหรานย่างปลาเสร็จเรียบร้อยทั้ง
ซูเว่ยหรานยิ้มให้กับน้องสามีตัวน้อยที่ผอมแห้งจนน่าสงสาร จะว่าไปก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยเพราะหลิวเหอเป็นลูกติดยายแก่หลิว แต่อย่างไรเล่าเด้กน่าสงสาร สะใภ้ใหญ่อย่านางหวังก็ถูกหลิวเหอทำให้มีมลทินจึงต้องแต่งเข้ามา ซูเว่ยหรานได้แค่ตำหนิร่างเดิม"ยายอ้วนซูเว่ยหราน หล่อนทนยายแก่น่าตายนี่มาได้ไงตั้งหกปี ดูค่ะดู หล่อนดูฉันวิญญาณหล่อนอยู่ที่ไหนเบิกตามองซะ นี่จร้า...เจ๊หรานนี่มาไม่ถึงวันทำซะบ้านแตกไปผัวทิ้งเมียไปเลย จะเก็บไว้ทำไมแค่ฉันตื่นมาต้องเจอกับเสียงแปดหลอดก็อยากจะะเอาหมอนไม้ทุ่มให้หัวแตกตายตั้งแต่เจอหน้าแล้ว เหอะ... เหลือหลี่ถงนางโคมเขียวนั่นอีกคน เป็นคนวางยาหลี่จื่อหานเพื่อจะขึ้นเตียงเขาแท้ๆ สุดท้ายกรรมมาตกที่ฉัน ถ้าหล่อนไม่หยุด เจ๊จะทำให้ถูกใส่กรงหมูถ่วงน้ำเลย คบชู้แล้วยังปากดี หึ ถุ้ย"หลี่จื่อหานมาทันได้ยินคำว่าหลี่ถงวางยาเขาและคบชู้ก็ได้แต่สงสัย เรื่องคืนนนั้นนางไม่ได้เป็นคนทำจริงๆหรือ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เสียชื่อเสียงไปแล้ว จะสอบขุนนางคงไม่ได้ ถึงจะล้างมลทินได้แต่เส้นทางขุนนางของเขาคงไม่ราบรื่นเท่าไหร่ ไม่สู้ตัดใจเสียดีกว่า แต่วาจานางดูปะหลาดไปไม่น้อย ซู
ชาวบ้านฮือฮา อะไรนะอย่างไรนางก็แต่งงานกับผู้เฒ่าหลี่ แต่จะให้บุตรชายไปเอาบุตรสาวเขาทำเมียน้อยหรือ ไม่ว่าอย่างไรนางก็คือน้องสาวนะ หลิวเหอที่ยังกระอักเลือดไม่หยุด เพราะหลี่ต้าหยางนั้นเท้าหนักไม่น้อย นางหลิวร้องไห้จะพาไปหาหมอ พอนางเดินเข้าบ้านเพื่อไปหยิบถุงเงินก็เจอกับหลิวเหยาเหยา เด็กน้อยหยิบถุงเงินวิ่งมาหามาให้หลี่ต้าหยางก่อนจะเอ่ย"ท่านปู่ เงิน เงินให้ท่านหมดเลย ไม่ให้ ไม่ให้นาง ทะ ท่านย่า ท่านย่า จะ จะ ใจร้ายข้าเกลียด ข้าเกลียด เกลียดนางกับ ทะ ทานพ่อ ฮือ ท่านย่า ท่านพ่อ ย่ะ อย่าตี อย่าตี อย่าตีข้า อย่าตีท่านแม่""ไอ้หยา...เหยาเหยาอย่าร้องนะ นี่ยายเฒ่าเจ้าทำอะไรสะใภ้กับหลานสาวหรือ ปกติเจ้าบอกว่าเว่ยหรานเป็นคนเลวข้าเชื่อเจ้านะเพราะนางชอบขโมย แต่หวังซื่อกับบุตรสาวเรียบร้อยนิสัยดีเจ้ายังหาเรื่องอีกหรือ""ใช่ๆๆ ยายเฒ่าเจ้าเป็นโจรแต่มาร้องจับโจรหรือ น่ารังเกียจจริง"ซูเว่ยหราสะอึก แหม่โว้ยต้องมาเปรียบเทียบกับฉันด้วยหรือไงช่างเถอะๆ หิวจะตายอยู่แล้วตั้งแต่ฟื้นมายังไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลย ร่างนี้ก็กินเก่งเสียด้วยก่อนจะเอ่ย"ข้าไปทำมื้อเช้าก่อนนะหิวจะตายแล้ว คนจะกินอิ่มนอนหลับหน่อยก็ไม่ได
เว่ยซูหรานเดินกลับลงมาจากบนเขา นางได้ของดีมาพอสมควร เสียดายที่ร่างนี้อ้วนเกินไปและยังไม่ฟื้นดีจากการที่ถูกตีศีรษะ แวะเก็บกระเทียมป่ามากับหอมป่ามาได้กำใหญ่ ที่ดินของบ้านมีแต่ไม่ได้ทำประโยชน์ มีแต่หญ้าขึ้นรก บนเขายังเขียวชอุ่มแปลว่าดินที่นี่ก็น่าจะปลูกพืชได้เว่ยซูหรานเอาปลาที่ขอดเกล็ดเสร็จแล้วมาหมักเกลือก่อนจะเดินไปหาหม้อดินเผามาล้างทำความสะอาด นางกำลังทาเกลือที่ตัวปลาและเอาต้นหอมยัดใส่ในท้องเพื่อดับกลิ่นคาว นางหลิวเห็นนางโรยเกลือก็กรีดร้องเสียงดังลั่น"กรี๊ดดด....นางตัวล้างผลาญ เกลือแพงขนาดไหนเจ้าไม่รู้หรือ เหตุใดถึงสิ้นเปลืองนัก ทำอาหารไม่เป็นก็อย่ามาทำให้เสียของ หลี่เย่าฟางนางคนใกล้ตาย วันนี้ของก็ขายไม่ได้ อาหารก็ยังไม่ทำปล่อยคนล้างผลาญเช่นนี้มาผลาญเสบียงข้าได้อย่างไร""ทะ ท่านแม่ คือข้า..โอ๊ย"เพี๊ยะ!! นางหลิวตบหน้าหลี่เย่าฟางเสียงดัง นางแน่ใจว่าสามีเอาอวนไปล่งแล้ว แต่นางไม่ทันตั้งตัวกลับถูกถีบจากด้านหลังอย่างจัง เป็นหลี่ต้าหยางที่ลืมของแล้วกลับมาทันเห็นบุตรสาวถูกตบหน้า ซุเว่ยหรานคนนี้จงใจให้เขากลับมาเพราะหลานชายวิ่งไปตามบอกกับเขาว่าท่านปู่เอาอวนไปผิดเขาจึงเดินกลับมาทันได้เห็น"