LOGINนางยอมรับมารดาแล้วหรือหมู่บ้านอวี๋หยางยามห้ายหมู่บ้านยังคงคึกคักเนื่องจากมีตลาดกลางคืน ซ่งหวายอันและซ่งเทียนอวี้ควบม้าเข้ามายังเขตหมู่บ้าน แสงจากโคมไฟที่ห้อยเรียงรายทำให้สว่างไสวไปทั่ว สองอาหลานลงจากหลังม้าก่อนจะจูงเข้าไปในหมู่บ้าน ทั้งคู่เดินผ่านบ้านผู้นำที่ยังไม่นอน เฉินกั่วต้งเมื่อเห็นทั้งคู่ก็รีบมาต้อนรับทันที"ถวายพระพรท่านอ๋อง องค์ชายแปดพ่ะย่ะค่ะ"ซ่งเทียนอวี้เดินไปแตะศอกเขาเอาไว้ไม่ให้คุกเข่าก่อนจะเอ่ย"ท่านปู่ใหญ่เฉินไม่ต้องมากพิธี ท่านอายุมากแล้วไม่ต้องคุกเข่าทักทายธรรมดาก็พอ""ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ทรงมาดึกแล้วกระหม่อมจะไปทูลท่านอ๋องน้อยให้นะพ่ะย่ะค่ะ"ซ่งหวายอันส่ายหน้า จากนั้นก็ส่งสายจูงม้าให้กับเขา"ข้ากับองค์ชายแปดจะไปเอง รบกวนท่านช่วยดูแลม้าให้ข้าด้วย เจ้าแปดไปกันเถอะ หากดึกมากเกินไปพวกเขานอนแล้วเราไปปลุกจะไม่ดี"ซ่งเทียนอี้พยักหน้าให้กับเฉินกั่วต้ง ทั้งสองคนเดินไปยังบ้านเดิมของสกุลเฉิน จางซือเหยียนออกมารออยู่แล้วเพราะท่านอ๋องให้อินทรีทองมาส่งสารแล้วว่าจะกลับมาคืนนี้ เขารีบให้คนมารับข้าวของที่ท่านอ๋องนำมา ซ่งหวายอันยิ้มทักทายชายชรา"อาจารย์ศิษย์ทำท่านลำบากแล้ว ดึกเพียงนี
ขบวนยิ่งใหญ่เคลื่อนผ่านตามเมืองต่างๆ ซ่งเทียนอวี้ในวัยสิบสี่ปีนั่งสง่าอยู่บนหลังม้า ซ่งหวายอันขี่ม้านำหน้าหลานชาย เขากลับเมืองหลวงเพื่อถวายรายงานการรบก่อน และถือโอกาสขอพระราชโองการรับเสิ่นอิงฮวาและคู่แฝดเข้าเมืองหลวง ให้ทั้งสามคนอยู่ในผังราชวงศ์ หลานชายควบม้าเหยาะๆขึ้นหน้ามาหาเสด็จอาของเขาก่อนจะเอ่ยถาม"เสด็จพ่ะย่ะค่ะ อีกสามวันจะถึงหมู่บ้านอวี๋หยางแล้วหลานอยากล่วงหน้าไปก่อนได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"บุรุษแกกว่าหยุดม้าก่อนจะหันมาหาหลานชาย ซ่งหวายอันเองก็อยากไปหาลูกกับเมียเช่นกันจึงเรียกหาคนสนิทของตน"เซ่าเทียนเจ้ามานี่หน่อย"เหวินเซ่าเทียนที่ได้ยินท่านอ๋องเรียกหาเขา ก็รีบดึงบังเหียนให้มาทางเจ้านายของตน"ท่านอ๋อง ทรงมีเรื่องอันใดรับสั่งหรือพ่ะย่ะค่ะ""เซ่าเทียนข้ากับองค์ชายแปดจะล่วงหน้าไปก่อน ทางนี้ฝากเจ้าด้วย""กระหม่อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ ว่าแต่องค์ชายแปดพระองค์จะทรงให้หลิวเทียนติดตามหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ""ไม่ต้องหรอก ข้าจะรีบไปข้าคิดถึงเสด็จแม่น่ะ"ซ่งเทียนอวี้เอ่ยกับองครักษ์ของซ่งหวายอันจากนั้นทั้งสองคนอากับหลานก็ควบทะยานม้ามุ่งหน้าสู่หมู่บ้านอวี๋หยางทันที หากพวกเขาไม่รอขบวนก็ใช้เวลาเพียงห้าชั่ว
เฉินเหว่ยจูงมือหลินซินซินมายังร้านขนมของเฉินผิงผิง เถ้าแก่ตัวน้อยกำลังทอนเงินให้ลูกค้าอยู่ เซี่ยหยุนทำหน้าที่ดูแลลูกค้าและเป็นองครักษ์พิทักษ์เถ้าแก่น้อยไปด้วย เนื่องจากเขามีวรยุทธที่ก้าวหน้ามากกว่าทุกคนที่เรียนด้วยกันครั้งก่อนบ้านเซี่ยมาหาเรื่องมารดาของเขาก่อนที่ท่านพ่อจะกลับมาจากชายแดน เขาจัดการจนคนบ้านใหญ่ขาหักซี่โครงร้าวไปสามคน มาบัดนี้เซี่ยอัน ท่านพ่อของเขามีตำแหน่งเป็นถึงแม่ทัพประจำเมืองที่ท่านเจ้าเมืองแต่งตั้งให้เอง บ้านใหญ่ก็ไม่กล้ามาก่อกวนอีกเลยเฉินเหว่ยและเซี่ยหยุนอายุเท่ากัน เด็กทั้งสองกตัญญูและเป็นเด็กดีขยันขันแข็ง เด็กชายเอ่ยถามหลานสาวยที่กำลังทอนเงินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"ผิงผิง.......มีลูกค้าสั่งจองขนมมากหรือ ถึงยังไม่เสร็จงานสักที"เฉินเหว่ยเอ่ยถามหลานสาว แม่หนูน้อยเงยหน้าจากลิ้นชักก่อนจะยิ้มหวานให้คนที่เพิ่งมาและเอ่ยกลับไป"ท่านอา..ท่านมาแล้วหรือเจ้าคะ ซินซินก็มาด้วย"เฉินผิงผิงทักทายทั้งสองคน ใครจะคาดคิดว่าเด็กเจ็ดขวบจะมีความสามารถในการทำการค้าเพียงนี้ เด็กทั้งสี่คนต่างก็มานั่งคุยกัน ไป๋ฮวาไม่อยู่เพราะจินเย่วมารับไปนอนที่จวนเจ้าเมืองตั้งแต่เมื่อวานหลินอ้าวที่จัดการเรื
หลังจากกสกุลจินกลับไปแล้วจ้าวเฟยเฟยก็ไปสั่งงานต่อทันที มีเวลามอบหมายงานอีกเพียงสองเดือนเท่านั้น การเดินทางเข้าเมืองหลวงครั้งนี้แม้ว่านางไม่เต็มใจแต่ก็ต้องไป ในยุคโบราณที่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโอรสสวรรค์จะขัดขืนก็คงมีแต่ตายกับตาย รับสั่งฮ่องเต้ให้เดินทางไปเข้าเฝ้าใครจะขัดได้ แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับการแบ่งชนชั้นแต่นี่คือยุคสมัยที่ปกครองโดยจักรพรรดิเฉินมู่หยางตาจางซือเหยียนไปยังจวนเจ้าเมืองเพื่อพูดคุยกับจินหมิงเรื่องมอบหมายงานราชการทางนี้เช่นกัน สกุลจินในเมืองหลวงเป็นตระกูลอันดับสามรองลงมาจากสกุลจาง สกุลหลี่ที่มีหลี่กุ้ยเฟยเป็นสนมยังเป็นเพียงสกุลอันดับห้ารองจากสกุลหลินของหลินกุ้ยเฟยอีกทีหลายวันผ่านไปจ้าวเฟยเฟยมอบหมายงานเกือบเรียบร้อยแล้ว เฉินเหว่ยที่ยามนี้ควบคุมการค้าได้ดีมาก แม้อายุจะยังน้อยด้วยวัยเพียงสิบสองปีเท่านั้น แต่ทว่าเฉินเหว่ยหัวไวเรียนรู้ได้ดี วันนี้หลินอ้าวมาหาจ้าวเฟยเฟยเพื่อพูดคุยเรื่องสุราที่นางจะค้าขายกับเขาหลินอ้าวพาบุตรสาวทั้งสองคนมาด้วย ยามนี้เซียวฮวนฮวนเพิ่งคลอดบุตรคนที่สองและกำลังอยู่เดือน บุตรชายคนโตของนางกับหลินอ้าวเพิ่งจะขวบครึ่งเท่านั้น ทำให้เวลานี้หลินอ้าวต้องเลี้
มื้อเช้าผ่านไปเรียบร้อย เฉินโม่หวายและเฉินเหว่ยต้องไปสำนักศึกษา รถม้าเตรียมพร้อมแล้ว เสิ่นอิงฮวาที่เพิ่งจะกลับมาจากการเจรจาการค้ารีบมาหาคู่แฝดทันที แม้ว่าเด็กๆจะยังไม่ชินกับนางแต่ก็ไม่ได้ต่อต้านเช่นแรกๆ"โม่หวาย...ลูกจะไปแล้วหรือให้แม่ไปส่งนะ"น้ำเสียงอ่อนโยนเอ่ยกับบุตรชาย เฉินโม่หวายเพียงแค่ยิ้มให้ก่อนจะตอบกลับ"เสด็จแม่ทรงกลับมาเหนื่อยๆอย่าทรงลำบากเลยพ่ะย่ะค่ะ" แม้จะไม่ได้ต่อต้านแต่ก็มิสนิทใจ เสิ่นอิงฮวาเข้าใจบุตรชายและบุตรสาวดี นางยังไม่รีบร้อนที่จะให้ทั้งคู่ยอมรับ ท่านอ๋องบอกว่ารอพาพวกเขาไปเมืองหลวงก่อน ให้อยู่ในตำหนักและค่อยๆทำความคุ้นเคย จ้าวเฟยเฟยส่งแฝดคนเล็กให้กับหลินเหมยเซียงก่อนจะเดินมาหาบุตรชายเอ่ยกับเขาด้วยความนุ่มนวล"โม่หวาย..เสด็จแม่ทรงใส่พระทัยในตัวลูกเช่นนั้นก็อย่าทำให้พระนางต้องผิดหวังเลย""เอ่อ..น้องสะใภ้มิเป็นไรหรอก โม่หวายอาจต้องการเวลาน่ะ"หลินเหมยเวียงไม่อยากให้บุตรชายกดดัน นางเกรงว่าจะเข้าหายากกว่าเดิม แต่เฉินโม่หวายเป็นเด็กรู้ความ เขาเอ่ยเรียกน้องสาวของตน"ผิงผิง.. เสด็จแม่จะไปส่งพี่ เจ้าอยากเข้าเมือง อยากนั่งรถม้าเล่นหรือไม่""อยากเจ้า
ยามเหมาจ้าวเฟยเฟยตื่นแต่เช้า นางจัดการอาหารเช้าของสามีและคู่แฝดด้วยตนเอง เมื่อถึงยามเฉินจึงเรียกหาเฉินเหว่ยเพื่อไปดูแลร้านค้าและที่พักต่างๆ นางต้องเริ่มจัดสรรแบ่งงานเพราะต้องเดินทางตามสามีไปเมืองหลวง "เสี่ยวเหว่ย..เรื่องทางนี้จัดการก่อนเดินทางไปเมืองหลวงด้วยเล่า""พี่สะใภ้ ท่านจะให้ข้าตามไปด้วยจริงๆหรือขอรับ ยามนี้พี่ชายพบครอบครัวตนเองแล้ว เขามิใช่พี่ชายของข้าอีกแล้ว ข้าไม่คู่ควร"น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นฟังแล้วเศร้าสร้อยยิ่งนัก จ้าวเฟยเฟยเดินมาจับมือเขาพร้อมกับยกมืออีกข้างลูบศีรษะเบาๆ เอ่ยกับเฉินเหว่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"เจ้าเรียกข้าว่าพี่สะใภ้ ก็แปลว่าข้าคือภรรยาพี่ชายเจ้า เสี่ยวเหว่ยหากพี่ชายเจ้าไม่ยอมรับเจ้าเขาจะยังคงดูแลเจ้าเช่นนี้หรือ พี่ชายเจ้ารู้มานานแล้วว่าตนเองมิใช่คนสกุลเฉิน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าที่ผ่านมาสกุลเฉินเลี้ยงดู เรื่องอื่นอย่าคิดมากในใจพี่ชายเจ้า เขามีเจ้าเป็นน้องชายคนเดียว""ฮือๆๆ พี่สะใภ้ขอรับ"เฉินเหว่ยโผเข้ากอดเอวซบหน้าร้องไห้ออกมา ยามนี้เขาอายุสิบสองแล้ว จากเด็กที่อ้วนจ้ำม่ำเมื่อผอมลงใบหน้าเค้าโครงความหล่อเหลาก็เผยให้เห็นชัดเจน เ







