Share

เข้าเมืองขายเห็ด

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-10-04 00:15:20

เช้าที่สดใสของมู่หลินคนเดียว เพราะคนอื่นนั้นขอบตาดำเนื่องจากแทบไม่ได้นอนเลย มู่หลินที่เหมือนยกหินออกจากอกก็ดูอารมณ์จะดีเป็นพิเศษ นางสามารถเอาของในมิติออกมาทำกินได้แล้ว ท่านแม่ให้เติมข้าวสารแค่ครึ่งถัง กับเครื่องปรุงที่เอาออกมาวางไว้ได้ก็มีแค่เกลือกับน้ำตาลอย่างละนิดหน่อย หากใครมาที่บ้านแล้วเห็นของมากมายคนจจะสงสัยเอาได้

อาหารที่มู่หลินทำเช้านี้ นางไม่ได้ทำอะไรมากเพราะเป็นมื้อเช้า มู่หลินต้มข้าวต้มหมูสับ ทอดปาท่องโก๋กินคู่กัน แล้วนางยังนำนมออกมาบำรุงทุกคนในบ้านด้วยเพราะเนื่องจากขาดสารอาหารเป็นเวลานานร่างกายแต่ละคนจึงผอมเกินไป พี่ใหญ่ พี่รองและตัวมู่หลินนั้นก็ดูจะไม่โตเต็มวัยเหมือนเด็กในรุ่นเดียวกัน

หลังจากกินอาหารเช้าแล้วท่านพ่อพาบุตรทั้งสามเดินทางเข้าเมือง ท่านแม่นั้นไม่ไปด้วยเพราะต้องการตัดชุดให้กับทุกคนแทน เมื่อคืนก่อนออกจากมิติมู่หลินพาท่านแม่ไปเลือกผ้าที่จะใช้ตัดชุดผ้าที่มู่หลินซื้อมาเก็บไว้นั้นมีทั้งผ้าฝ้ายเนื้อหยาบไปจนถึงผ้าไหมเนื้อดี ถ้าต้องให้ท่านแม่เป็นคนเลือกเพราะชาวบ้านจะได้ไม่สงสัยเกินไป ผ้าฝ้ายเนื้อหยาบที่ชาวบ้านทั่วไปใช้ใส่ทำงานนั้นหนึ่งพับประมาณ100-200อีแปะ ชาวบ้านโดยทั่วสามารถซื้อมาตัดชุดได้2-3ชุดต่อพับ

ค่าเงิน

1 อีแปะ หรือ 1 เหรียญทองแดง

100 อีแปะ = 1ตำลึงเงิน(หรือ1ก้วน)

10 ตำลึงเงิน = 1 ตำลึงทอง

ตั๋วเงิน คือ แผ่นกระดาษที่ออกให้ใช้แทนเหรียญทองแดงหรือตำลึง ที่มีมูลค่าสูง สะดวกมากกว่าการพกเหรียญหนักๆ

เจียวจิ้นพาบุตรทั้งสามเดินเท้าครึ่งชั่วยามก็ถึงประตูเมือง ถ้าหากเข้าเมืองจะต้องเสียค่าเข้าคนละสองอีแปะ ชาวบ้านทั่วไปถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นก็ไม่อยากจะเสียเงินเข้าเมืองจึงทำให้มีพ่อค้าซื้อของจากในเมืองเพื่อไปเร่ขายตามหมู่บ้านหรือผู้ใหญ่บ้านหมู่ไหนมีใจเมตตาต่อลูกบ้านก็จะรับอาสาซื้อของให้ตอนเข้ามาทำธุระในเมือง

เจียวจิ้นแม้จะเข้าเมืองเพื่อขายของป่ากับสัตว์ป่าให้เหลาอาหารแล้ว ก็ยังไม่เคยทำการค้ากับร้านขายสมุนไพรหรือโรงหมอเลย มู่หลินจึงรับอาสาถามแม่ค้าท่าทางใจดีว่าต้องการนำสมุนไพรมาขายร้านไหนที่ให้ราคายุติธรรมไม่เอาเปรียบบาง แม่ค้าก็แนะนำให้ไปร้านถังหมิง ถึงจะเป็นร้านไม่ใหญ่แต่ให้ราคาเป็นธรรมแน่นอน หลังจากขอบคุนแม่ค้าแล้วเจียวจิ้นก็พาบุตร 

เดินตามทางที่แม่ค้าได้บอกไว้จนมาถึงร้านยาถังหมิง เสี่ยวเอ้อ หน้าร้านก็ตอนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไม่แสดงอาการรังเกียจหรือดูหมิ่นบ้านหวังทั้งสี่ ที่ใส่เสื้อผ้าแทบจะมีแต่รอยปะชุนรอบตัว 

"ไม่ทราบว่ามาซื้อหรือมาขายสมุนไพรหรือต้องการพบหมอขอรับ" 

"ข้านำสมุนไพรมาขาย รบกวนช่วยแจ้งหลงจู๊ให้ด้วยขอรับ" เจียวจิ้นที่แจ้งจุดประสงค์อย่างนอบน้อม

"รอประเดี๋ยวขอรับ ข้าน้อยจะไปแจ้งหลงจู๊ให้ เชิญพวกท่านมารอที่ห้องตรวจสินค้าก่อนขอรับ" เสี่ยวเอ้อพาบ้านหวังทั้งสี่ไปนั่งในห้องรอแล้วก็หายไปด้านหลังแค่ช่วงสามลมหายใจก็กลับมาพร้อมชายวัยกลางคน 

"ไม่ทราบว่าพวกท่านนำสมุนไพรอันใดมาขายหรือ" มู่หลินที่พิจารณาหลงจู๊ก็ดูจะพอใจกับการต้อนรับครั้งนี้มาก

เจียวจิ้นหยิบเห็ดหลินจือดอกขนาดกลาง หนึ่งดอก และขนาดเล็กอีก สองดอก ออกมาวาง ที่ยังไม่เอาออกมาตามจำนวนที่คิดจะขายนั้น เพราะมู่หลินต้องการตรวจสอบเรื่องราคาและความน่าเชื่อถือก่อน

หลงจู๊ที่เห็นเป็นเห็ดหลินจือก็รู้แล้วว่าตนนั้นไม่มีอำนาจใจการซื้อขายครั้งนี้จึงได้รีบร้อนขอตัวออกไปตามท่านหมออู๋ ที่เป็นทั้งหมอแล้วเจ้าของร้านด้วย พอทราบว่ามีคนนำเห็ดหลินจือแดงมาขายก็รีบแทบจะกลายเป็นวิ่งมาดู เพราะก่อนหน้านี้สองวันทางเมืองหลวงแจ้งมาว่าต้องการเห็ดหลินจือแดงราคาไม่เกี่ยง คนในวังต้องใช้ แต่ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นผู้ใด

"สวรรค์เมตตาโรงหมอเล็กๆของข้าแล้ว" หมออู๋นั้นแสดงอาการออกมาโดยไม่สนใจบ้านหวังทั้งสี่คนเลย จนหลงจู๊ต้องเอ่ยเตือนผู้เป็นนาย

"ขออภัย ขออภัย ขอไม่ปิดบังทางเมืองหลวงต้องการเห็ดหลินจือแดงเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีใครนำมาขายนานมากแล้ว ข้าจะให้ราคาที่ดีที่สุด ไม่เอาเปรียบพวกเจ้าอย่างแน่นอน ข้าหมออู๋ อู๋หลาง" หมออู๋แนะนำตัวพร้อมรีบเจรจาเพราะกลัวบ้านหวังจะไม่ขายให้

"ข้าน้อยหวังเจียวจิ้น บุตรชายคนโตหวังเเจียวโจว บุตรชายคนรองหวังเจียวจ้าน บุตรสาวคนเล็กหวังมู่หลินขอรับ" 

"ข้าให้ดอกใหญ่ 1,500 ตำลึงทอง ดอกเล็ก 900 ตำลึงทอง พวกเจ้ายอมรับหรือไม่" บุรุษบ้านหวังทั้งสามนั้นเสียอาการไปแล้ว สติหายไปหมด เหลือเพียงแค่มู่หลินที่ยอมรับกับราคานี้เพียงคนเดียว

"ถ้ามีอีกพวกเจ้ามาขายที่ร้านข้าได้เลย ข้ารับทั้งหมด แล้วเรียกข้าว่าท่านปู่แล้วกัน" หมออู๋นั้นพอใจกับท่าทีของมู่หลินอย่างมากที่เก็บอารมณ์ได้แล้วยังสามารถเจรจาได้เป็นอย่างดี

"ท่านลุง/ท่านปู่/ท่านปู่/ท่านปู่" ทุกคนขานรับอย่างว่าง่าย

"ท่านปู่อู๋ ความจริงแล้วพวกข้ายังมีอีกท่านรับซื้อทั้งหมดหรือไม่" มู่หลินขายทั้งหมดที่เคยคุยไว้ก่อนหน้านี้ เพราะนางต้องการจะสร้างบ้านใหม่ให้ทันก่อนฤดูหนาว

"รับสิ รับทั้งหมด เอาออกมาเลย"หมออู๋ทั้งตกใจและดีใจ ที่โรงหมอจะได้มีหน้ามีตาจากการหาเห็ดหลินจือแดงส่งเข้าวังหลวงได้ ราคาที่หมออู๋ให้ถือว่ามากกว่าราคาปัจจุบันมากนัก ด้วยที่ตอนนี้เป็นของที่ต้องการอย่างมากและมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง

มู่หลิน ให้ท่านพ่อนำดอกขนาดกลางออกมาอีก สองดอก และดอกเล็กอีก สามดอก หมออู๋ตกใจแล้วตกใจอีกเพราะไม่คิดว่าครอบครัวนี้จะโชคดีเจอเยอะขนาดนี้ แต่ถ้าหมออู๋รู้จำนวนดอกที่แท้จริง แล้วยังมีดอกที่ใหญ่กว่านี้ไม่รู้ว่าจะตกใจจนหัวใจวายเลยหรือไม่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   ตอนจบ

    ห้าปีผ่านไปชายแดนประจิมเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ชาวเมืองแคว้นฉีเริ่มเข้ามาทำการค้ามากขึ้น ถึงกับมีตลาดชายแดนที่ทั้งสองแคว้นจะนำสินค้าของตนมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ชีวิตชาวบ้านจึงดีขึ้นมู่หลินได้หาพืชผักที่ทนต่อสภาพอากาศหนาวเข้ามาปลูก นางยังค้นพบภูเขาที่มีดินเค็ม เมื่อถวายฎีกาถึงฮ่องเต้ให้ทราบเรื่องแล้ว พระองค์ได้ช่วยส่งเสริมให้ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงภูเขาผลิตเกลือออกมาจำหน่าย โดยหักภาษีเข้าคลังเพื่อพัฒนาพื้นที่เมืองอื่นต่อไปฮ่องเต้ฉู่เฟยหลางสละราชบัลลังก์ให้กับองค์รัชทายาทขึ้นปกครองตอนนี้เจ้าลูกเต่าทั้งสามติดตามบิดาเข้าไปฝึกวรยุทธ์ในค่ายทหาร เพราะไป๋เฟยหรงหมั่นไส้บุตรชายทั้งสามที่เกาะติดมู่หลินมากเกินไปไป๋หมิงยู่ ไป๋หรงซิ่ง ไป๋เฉินกง เวลาอยู่กับบิดาทั้งสามจะทำตัวนิ่งขึม เหมือนเช่นบิดา พอลับหลังบิดา ทหารที่เป็นพี่เลี้ยงทั้งหลายล้วนปวดหัวกันเป็นแทบ เด็กชายทั้งสามพี่ใหญ่วางแผน พี่รองดูต้นทาง น้องเล็กหลอกล่อ กลยุทธ์ที่ร่ำเรียนมาจากกงหยวนนั้นเรียกได้ว่าตอนนี้เก่งเกินอาจารย์เสียแล้วแม้แต่กงหยวนยังเจ้าเล่ห์ไม่ได้เท่าไป๋หรงซิ่งเลย หากหนีเรียนวันใดแล้วโดนจับได้ ไป๋เฉินกงจะทำหน้าที่เรียกร

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   บทส่งท้าย

    ใช้เวลาเดินทางครึ่งเดือนก็มาถึงแดนประจิม จวนท่านแม่ทัพนั้นไม่มีอะไรให้มู่หลินปรับปรุงแก้ไขนอกจากห้องน้ำ นางอยากจะเอาที่นอนออกมาใช้ใจจะขาด แต่ยังไม่ได้บอกกล่าวเรื่องมิติที่มีให้กับเฟยหรงได้รู้มู่หลินที่นอนไม่สบายตัวก็ขยับไปมาจนเฟยหรงรู้สึกตัว“น้องหญิง นอนไม่หลับหรือ” เฟยหรงดึงตัวมู่หลินมา กอด“ท่านพี่ข้าจะพาท่านไปที่แห่งหนึ่ง” พูดจบมู่หลินก็พาเฟยหรงเข้าไปในมิติของตน“ที่นี่คือที่ใด” เฟยหรงมองรอบๆ อย่างโง่งม ที่นี้สวยมากจริงๆ ลำธารที่น่าลงไปแช่ ภูเขาด้านหลังก็ดูอุดมสมบูรณ์ ไหนจะแปลงสมุนไพรหลากหลายชนิด พืชผักผลไม้เต็มไปหมด ทุ่งข้าวที่เหลืองอร่ามพร้อมเก็บเกี่ยว กระท่อมหลังน้อยที่อยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้“ที่นี่คือมิติของข้าเจ้าค่ะ” มู่หลินพาเฟยหรงเข้าไปในกระท่อม ด้านในเครื่องเรือนของใช้ไม่เหมือนที่เขาเคยเห็น นางจึงเล่าเรื่องทั้งหมดของนางตั้งแต่แรกให้ฟัง ก็เหมือนสิ่งที่นางเล่าให้ครอบครัวฟังเฟยหรงกอดมู่หลินยิ่งนึกถึงว่านางเกือบตายมาแล้วครั้งหนึ่งใจเขาก็ยิ่งปวด“หากเจ้าไม่อยากนำที่นอนออกไปด้านนอก เจ้าจะบอกพี่เรื่องนี้หรือไม่” เฟยหรงเอ่ยอย่างน้อยใจ มู่หลินจึงจูบไปที่มุมปากเพื่อเอาใจ“ย่อมต้อง

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   งานมงคล

    ไป๋เฟยหรงกลับมาเมืองหลวงครั้งนี้ตัวแทบจะติดกับมู่หลินเลยทีเดียว ยิ่งมู่หลินออกไปข้างนอกเฟยหรงแทบจะให้นางใส่ผ้าคลุมทั้งตัวไม่ใช่ว่าไม่มีสตรีเข้าหาเฟยหรงนะ มีมากเลยทีเดียว สาวใช้ที่มาใหม่ในจวนไป๋ที่คิดจะปีนเตียงเฟยหรง โดนเฟยหรงถีบออกมาจากห้องรักษาตัวอยู่ห้าวันกว่าจะลุกขึ้น เมื่อมีตัวอย่างให้เห็นใครจะกล้าเสี่ยงขุนนางที่ใจกล้าก็อยากจะยกบุตรสาวให้เป็นอนุ ตอนเช้ามาทหารเข้ามาจับกุมโดนขุดความผิดที่ตนก่อไว้ตั้งแต่เริ่มเป็นขุนนาง แม้จะเล็กน้อยไม่โดนตัดสินโทษหนักก็ย่อมต้องโดนลดขั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ขุนนางทั้งหลายเลยเลิกยุ่งกับแม่ทัพไป๋ไปโดยปริยาย“หลินเออร์ แม่ว่าเจ้าแต่งให้ท่านแม่ทัพเสียเลยเถิด ตอนนี้เจ้าก็ 17 หนาว แล้ว พ่อกับแม่มีพี่รองของเจ้าอยู่ด้วย เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง” เหมยฮวาเรียกมู่หลินมานั่งพูดคุย เพราะนางก็เห็นใจว่าที่ลูกเขยเช่นกัน“ข้าแล้วแต่ท่านพ่อท่านแม่เจ้าค่ะ” มู่หลินยอมตกลงเฟยหรงที่ได้ยินเช่นนั้นก็แทบจะวิ่งไปป่าวประกาศให้คนทั้งเมืองหลวงได้รู้กันทั่ว เฟยหรงรีบเข้าวังหลวงไปขอฤกษ์มงคลที่เร็วที่สุด แล้วก็เร็วจริงๆ งานจะจัดขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้ามู่หลินขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างโมโห สั

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   แต่งเลยมิได้หรือ

    แล้วก็ถึงวันสอบเตี้ยนซื่อ หน้าพระที่นั่ง โดยวันสอบจะมีฮ่องเต้เป็นผู้คุมสอบและออกข้อสอบ ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดอันดับหนึ่งจะได้เป็น จอหงวน อันดับที่สอง ปั๋งเหยี่ยน อันดับที่สาม ทั่นฮวาครอบครัวหวังมาส่งเจียวโจวกับเจียวจ้านหน้าสนามสอบ“ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดพอ พ่อไม่คาดหวังว่าเจ้าทั้งสองจะติดสามอันดับ” เจียวจิ้นให้กำลังใจบุตรชาย“แต่ข้าคาดหวังว่าท่านพี่ทั้งสองจะได้จอหงวนเจ้าค่ะ”เจียวโจวดีดหน้าผากมู่หลิน เจียวจ้านตบอกให้น้องเล็กรอดูได้เลยเมื่อทั้งสองเดินเข้าสนามสอบแล้ว เจียวจิ้น เหมยฮวา มู่หลินจึงกลับไปรอที่จวนระหว่างรอผลสอบ ข่าวที่ส่งจากโยวโจวทำให้เฟยหรงถึงกับนั่งไม่ติด ต้องรีบควบม้าออกมาจากค่ายทหารนอกเมืองเพื่อขอความเห็นใจจากมู่หลินทันที่“หลินเออร์” เฟยหรงเอ่ยเสียงอ่อยเรียกมู่หลินมู่หลินเลิกคิ้วรอฟังว่าพ่อตัวดีจะพูดสิ่งใด"เยว่เออร์ตั้งครรภ์แล้ว""อืม" ใช่เรื่องนี้นางรู้แล้ว เพราะห่าวหรานส่งข่าวมาเช่นกัน"หลินเออร์ แต่งเลยมิได้หรือ" มู่หลินหรี่ตามองเฟยหรง"กลับค่ายไปเลย" นางกัดฟันพูดผลการสอบเตี้ยนซื่อ ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เจียวโจวได้เป็นปั๋งเหยี่ยน เจียวจ้านได้อันดับที่ห้า เด็กๆ

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   งานปักปิ่นมู่หลิน

    ท่านผู้เฒ่าเซี่ยมาถึงก็เมืองหลวงพักผ่อนเพียงหนึ่งวันก็พาคนทั้งตระกูลเดินทางเข้าสู่วังหลวง"ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี""ลุกขึ้น ไม่ต้องมากพิธี" ฮ่องเต้มองสหายต่างวัยด้วยความคิดถึง"เซี่ยหลี่เฉียงรับราชโองการ ตระกูลเซี่ยจงรักภักดีต่อราชวงศ์ มีความดีความชอบร่วมปราบกบฏองค์ชายใหญ่ในครั้งนี้ ฮ่องเต้ทรงพระราชทานตำแหน่งกั๋วกง ขั้นหนึ่ง ประทานจวนหน่งหลัง เงินรางวัล 50,000 ตำลึงทอง ผ้าไหม 20 พับ เครื่องประดับ 5 หีบ จบราชโองการ " ขันทีประกาศราชโองการแม้ของรางวัลที่ได้จะไม่อาจเทียบเท่ากับของที่เคยโดนยึดไป แต่ตระกูลเซี่ยก็ไม่เสียดาย เพราะทรัพย์สินของตระกูลตอนนี้มีมากมายเทียบเท่าเงินในคลังหลวงได้ฮ่องเต้ยังคงต้องใช้เงินเยี่ยวยาชาวเมืองที่ได้รับผลกระทบจากการก่อกบฏขององค์ชายใหญ่ในครั้งนี้อีกมากตระกูลเซี่ยเข้าพักในจวนหลังใหม่ ท่านตาท่านยายยังบ่นกับมู่หลินเรื่องที่นอนนั้นนอนไม่สบายเท่าที่หมู่บ้านชุนหง ห้องน้ำก็ไม่สะดวกสบาย หลานสาวแสนดีจึงเอาใจด้วยการเอาที่นอนของใช้ออกมาให้ทุกคน ท่านตาท่านยายเลยได้ยิ้มหน้าบานครอบครัวหวังเจียวจิ้นนั้นแยกตัวไปอยู่จวนที่ห่าวหรานซื้อไว้ หากให้นั

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   บทลงโทษของกบฏ

    เซี่ยซีห่าวนำทัพพร้อมพวกกบฏเดินทางถึงเมืองหลวงหลังจากที่ไป๋เฟยหรงถึงเกือบสิบวันฮ่องเต้สังประหารขุนนางฝ่ายกบฏทั้งหมด ขุนนางคนใดที่โทษไม่หนักก็เนรเทศออกไปใช้แรงงานที่ชายแดน ส่วนองค์ชายใหญ่นั้นทดพิษบาดแผลไม่ไหวชิงตายไปเสียก่อนวันตัดสินโทษเพียงแค่สองวัน หวงกุ้ยเฟย เสนาบดีเว่ย เว่ยซูเหิง โดนตัดสินให้แล่เนื้อเถือหนังจนกว่าจะสิ้นใจตายส่วนคนในจวนตระกูลเว่ยและตำหนักขององค์ชายใหญ่ที่ตรวจสอบแล้วไม่มีความผิดก็โดนเนรเทศสั่งห้ามทั้งหมดกลับเข้าเมืองหลวงและหมดสิทธิ์เข้าสอบขุนนางตลอดชีวิตเว่ยซูเม่ยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏครั้งนี้ แต่นางมีความผิดที่ส่งนักฆ่าไปลอบสังหารมู่หลินหลายครั้ง จึงโดนตัดสินให้ประหารชีวิตด้วย ถึงแม้มู่หลินจะเสียดายที่นางไม่ได้เป็นคนจัดการเอง แต่ก็ไม่ได้ติดใจเพราะโทษตายที่นางได้รับนั้นสมควรแล้วขุนนางกว่าครึ่งในท้องพระโรงที่โดยตัดสินโทษครั้งนี้ แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้ทรงร้อนใจเท่าใด เพียงแต่ตั้งขุนนางตงฉินเข้ามาแทนในตำแหน่งสำคัญที่หายไป ส่วนในตำแหน่งอื่นนั้น ทรงรอการสอบหน้าพระที่นั่งในอีกหกเดือนที่จะถึงนี้ คงเติมเต็มท้องพระโรงได้ครบทุกตำแหน่งเวลาที่ครอบครัวบ้านหวังรอก็มาถ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status