Share

ซื้อที่ดิน

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-10-11 02:25:44

หลังจากตรวจสอบเห็ดหลินจือ ดอกใหญ่สาม ดอกกับดอกเล็กห้าดอกแล้ว หมออู๋ก็ถามกับมู่หลินว่าต้องการรับเป็นตั๋วเงินทั้งหมดเลยหรือตำลึงด้วย ที่หมออู๋ต้องเจรจากับมู่หลินนั้นเป็นเพราะบุรุษทั้งสามคนวิญญาณได้ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกเรียบร้อยแล้ว

"ข้าต้องการทำเรื่องฝากเงิน 8,500 ตำลึงทอง รับเป็นตั๋วเงินใบละ 500 ตำลึง 9 ใบ กับ100 ตำลึง 4 ใบ ที่เหลือขอเป็นตำลึงเงินกับเหรียญอีแปะเจ้าค่ะ"

แม้แต่หลงจู๊ที่กำลังคำนวนเงินจากลูกคิดอยู่กันยังตกใจแทบหงายหลังกับการคิดคำนวนของมู่หลินโดยไม่ต้องใช้ลูกคิด

หมออู๋หัวเราะอย่างชอบใจกับความฉลาดของมู่หลิน พร้อมทั้งยังบอกอีกว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือหรือจะนำสมุนไพรมาขายอีกเมื่อไรก็ย่อมได้เสมอ เมื่อได้ป้ายฝากเงินเป็นชื่อของเจียวจิ้นแล้ว และรับตั๋วเงินตัวตำลึงเงินมาแล้วทั้งหมดก็ขอตัวกับท่านหมออู๋

ตอนแรกสติของบุรุษบ้านหวังยังกลับมาไม่ครบแต่พอฟังคำพูดของมู่หลินแล้ว สติก็รีบกลับเข้าที่ทันที

"พวกท่านกลัวพวกโจรไม่รู้หรือเจ้าคะ ว่าพวกท่านมีเงิน ข้าหิวแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ" ทุกคนเลยลงความเห็นกันว่าจะไปกินบะหมี่เนื้อ

ทุกคนกินบะหมี่เนื้ออย่างเอร็ดอร่อย บุรุษบ้านหวังทั้งสามล้วนแต่สั่งเพิ่มกันทุกคน หลังกินเสร็จมู่หลินบอกกล่าวบิดาเรื่องสร้างบ้าน เงินที่นางไม่ฝากทั้งหมดเพราะต้องการจะสร้างบ้านนั่นเอง

ท่านพ่อบอกให้กลับไปคุยเรื่องนี้ที่บ้าน พร้อมกับมารดา มู่หลินบอกให้บิดาซื้อข้าวสาร แป้งไปเล็กน้อย เพราะถ้าไม่ซื้อเลยคนจะสงสัยได้ โดยเฉพาะบ้านของนางจางซิงที่ปากบอกไม่สนใจแต่ก็ส่งสะใภ้รองมาคอยแอบดูบ่อยๆ

ขากลับทุกคนก็ยังเลือกที่จะเดินเท้าเข้าหมู่บ้าน ถึงหมู่บ้านก็เป็นยามเว่ย(13.00-14.59น.)แล้ว มู่หลินแนะนำให้ท่านพ่อไปคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านเรื่องขอซื้อที่เพิ่มและจ้างชาวบ้านช่วยปรับพื้นที่

"ท่านผู้ใหญ่บ้านขอรับ อยู่ไหมขอรับ" เจียวจิ้นแม้จะเป็นญาติกับผู้ใหญ่บ้านแต่ก็ให้ความเคารพอย่างมาก ผู้ใหญ่บ้านหวังเหมาเป็นตระกูลหวังสายหลัก ส่วนท่านปู่เหล่ยเป็นตระกูลหวังสายรอง ในหมู่บ้านแซ่หวังหลายครัวเรือน

"ใคร อาจิ้นรึ เข้ามาก่อน เข้ามาก่อน"

เพราะเจียวจิ้นเป็นคนดี ใครขอให้ช่วยเหลืออะไรก็ทำด้วยความเต็มใจเสมอจึงเป็นที่รักของคนในหมู่บ้าน จะมีก็แต่ส่วนน้อยที่ไม่ชอบใจ และคนส่วนน้อยนั้นก็คือพวกญาตินางจางนั้นเอง

"ข้ามีเรื่องมารบกวนท่านผู้ใหญ่บ้านขอรับ"

"เจ้านี่ บอกกี่ครั้งแล้วให้เรียกข้าท่านลุง"

ผู้ใหญ่บ้านเหมาแสร้งทำเป็นดุไม่จริงจังใครบางจะไม่ชอบให้คนยกย่อง แต่กลับเจียวจิ้นเขาทั้งเอ็นดูทั้งสงสารที่เจอแม่เลี้ยงแบบนางจางซิง

"ได้ขอรับท่านลุงเหมา ข้ามาขอซื้อที่ดินติดบ้านขอรับ พอดีข้าเจอสมุนไพรในป่าชั้นในขายได้ราคาดีพอสมควรเลยอยากจะซื้อที่ไว้ปลูกผักขอรับ" เจียวจิ้นบอกทั้งสิ่งที่ต้องการและอธิบายถึงแหล่งที่มาของเงินครบในประโยคเดียว

"ดี ดี สวรรค์ไม่เคยทิ้งคนทำดี เจ้าต้องการเท่าใดข้าขอไปหยิบแผนที่ก่อน"

เนื่องจากหมู่บ้านที่ครอบครัวหวังอยู่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ผู้ใหญ่บ้านจึงมีอำนาจในการซื้อขายได้เลย เมื่อทำการซื้อขายเสร็จสิ้นก็นำเงินและหนังสือแสดงสิทธิ์ไปแจ้งที่อำเภอได้เลย

ผู้ใหญ่บ้านออกมาพร้อมกับแผนที่ตั้งของหมู่บ้านชุนหง โดยเจียวจิ้นต้องการซื้อที่รอบบริเวณบ้านของเขาทั้งหมดผู้ใหญ่เหมาตรวจดูตามแผนที่ พื้นที่ว่างทางด้านฝั่งซ้ายและหลังของบ้านที่ติดเขายาวไปจนถึงริมธารพื้นที่ว่างทั้งหมด50หมู่

ด้านขวาข้างบ้านติดกับบ้านของนายพราน หลี่คงมีพื้นที่วางเกือบ10หมู่ ผู้ใหญ่บ้านเหมาคิดว่าเจียวจิ้นคงซื้อไม่กี่หมู่ถึงแม้ราคาไม่สูงมากแต่ก็เป็นจำนวนเงินที่เยอะอยู่สำหรับชาวบ้านทั่วไป

"อาจิ้น เจ้าต้องการที่ดินกี่หมู่ ที่ดินหมู่ละ 4 ตำลึงเงิน พรุ่งนี้ข้าจะไปวัดพื้นที่ให้"

"ท่านลุงเหมา ข้าต้องการทั้งหมดเลยขอรับ" มู่หลินได้บอกความต้องการของนางตั้งแต่ก่อนจะเข้ามาคุยกับผู้ใหญ่เหมาแล้ว ผู้ใหญ่เหมาที่ได้ยินก็ตกใจแม้พื้นที่ ฟังดูราคา 4 ตำลึงเงิน แต่พื้นที่ 60 หมู่ ก็ต้องจ่ายมากถึง 24 ตำลึงทอง เงินจำนวนเท่านี้ชีวิตชาวบ้านในหมู่บ้านชุนหงนั้นแทบไม่มีใครเคยจับเงินตำลึงทองมาก่อนเเลย

ผู้ใหญ่เหมาอยากออกปากเตือนเจียวจิ้นให้เก็บเงินไว้ปลูกบ้านใหม่ที่จะเข้าหน้าหนาวนี้ หน้าหนาวในหมู่บ้านชุนหง ถึงจะหนาวไม่มากเท่าตอนเหนือแต่ก็ยาวหนาวถึง3-4เดือนเลยทีเดียว

ทุกปีจะมีชาวบ้านหนาวตายโดยเขาที่เป็นผู้ใหญ่บ้านก็รู้สึกปวดใจที่ช่วยอะไรมากไม่ได้ เมื่อเห็นว่าบ้านเจียวจิ้นคิดมาดีแล้วก็นัดเวลาพร้อมทั้งรับปากเรื่องจะพาช่างไม้ไปดูพื้นที่สร้างบ้านและจะหาชาวบ้านไปช่วยถอนหญ้าปรับพื้นที่

มู่หลินให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยหาแรงงานที่ขยันไม่เอาเปรียบคนอื่นไม่เกี่ยงเรื่องอายุ แม้แต่เด็กเล็กถ้ามาช่วยเก็บหินหรือขนหญ้าไปทิ้งก็จะมีค่าแรงให้เช่นกันโดยให้ค่าแรงวันละ 30 อีแปะ พร้อมข้าวกลางวันหนึ่งมื้อ ค่าแรงในเมืองอยู่ที่วันละ 25-30 อีแปะแต่ไม่มีอาหารให้ นับว่าบ้านหวังใจกว้างมาก การจ้างงานครั้งนี้ของบ้านหวังเจียวจิ้นจะช่วยชาวบ้านชุนหงให้มีเงินเตรียมตัวผ่านหน้าหนาวนี้ไปได้อย่างแน่นอน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   จัดการที่ดิน

    เมื่อทั้งสี่คนกลับถึงบ้าน หวังเจียวจิ้นก็นำเงินออกมาให้นางเหมยฮวาทันที นางเหมยฮวาแทบเป็นลมเมื่อรู้ราคาขายเห็ดหลินจือ และรู้เรื่องที่ซื้อที่ดินเพิ่ม นางไม่ต่อว่าที่ทุกคนตัดสินใจโดยไม่บอกนางนางดีใจจนหลั่งน้ำตาออกมา ที่หน้าหนาวปีนี้ครอบครัวหวังจะผ่านช่วงเวลาโหดร้ายของฤดูกาลไปได้ นางเหมยฮวาดึงมู่หลินมากอดพร้อมกล่าวขอบคุณสวรรค์ที่มอบสิ่งดีๆ ให้แกครอบครั้งตนเองหน้าหนาวทุกปีบ้านหวังทั้งห้าต้องมานอนเบียดกันในห้องเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้แก่กัน เพราะไม่มีชุดหนาๆ ใส่ ผ้าห่มก็บางจนแทบจะต้องทิ้งไปทำผ้าขี้ริ้วแล้วหลังมื้อเย็นครอบครัวหวังก็เข้านอนอย่างมีความสุขที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้จะหาอะไรให้ครอบครัวกิน ไม่ต้องห่วงน้องเล็กจะไข้ขึ้นตอนไหนก่อนแยกกันมู่หลินบอกให้พี่ใหญ่กับพี่รองเตรียมตัวฝึกกับนางพรุ่งนี้ยามอิ๋น(03.00-04.59น.) ท่านพ่อที่อยากจะแข็งแกร่งเพื่อดูแลครอบครัวเพราะตนเองที่เป็นถึงหัวหน้าก็อยากจะปกป้องลูกสาวและทุกคน ไม่อยากจะอ่อนแอเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วก็เข้าร่วมการฝึกด้วยวันแรกของการฝึก มู่หลินให้ทุกคนวิ่งจากบ้านขึ้นเขาเป็นระยะทาง 2 ลี้ ไปกลับห้ารอบ เพราะร่างกายข

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   ซื้อที่ดิน

    หลังจากตรวจสอบเห็ดหลินจือ ดอกใหญ่สาม ดอกกับดอกเล็กห้าดอกแล้ว หมออู๋ก็ถามกับมู่หลินว่าต้องการรับเป็นตั๋วเงินทั้งหมดเลยหรือตำลึงด้วย ที่หมออู๋ต้องเจรจากับมู่หลินนั้นเป็นเพราะบุรุษทั้งสามคนวิญญาณได้ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกเรียบร้อยแล้ว"ข้าต้องการทำเรื่องฝากเงิน 8,500 ตำลึงทอง รับเป็นตั๋วเงินใบละ 500 ตำลึง 9 ใบ กับ100 ตำลึง 4 ใบ ที่เหลือขอเป็นตำลึงเงินกับเหรียญอีแปะเจ้าค่ะ"แม้แต่หลงจู๊ที่กำลังคำนวนเงินจากลูกคิดอยู่กันยังตกใจแทบหงายหลังกับการคิดคำนวนของมู่หลินโดยไม่ต้องใช้ลูกคิดหมออู๋หัวเราะอย่างชอบใจกับความฉลาดของมู่หลิน พร้อมทั้งยังบอกอีกว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือหรือจะนำสมุนไพรมาขายอีกเมื่อไรก็ย่อมได้เสมอ เมื่อได้ป้ายฝากเงินเป็นชื่อของเจียวจิ้นแล้ว และรับตั๋วเงินตัวตำลึงเงินมาแล้วทั้งหมดก็ขอตัวกับท่านหมออู๋ตอนแรกสติของบุรุษบ้านหวังยังกลับมาไม่ครบแต่พอฟังคำพูดของมู่หลินแล้ว สติก็รีบกลับเข้าที่ทันที"พวกท่านกลัวพวกโจรไม่รู้หรือเจ้าคะ ว่าพวกท่านมีเงิน ข้าหิวแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ" ทุกคนเลยลงความเห็นกันว่าจะไปกินบะหมี่เนื้อทุกคนกินบะหมี่เนื้ออย่างเอร็ดอร่อย บุรุษบ้านหวังทั้งสามล้วนแต่สั่งเพิ่ม

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   เข้าเมืองขายเห็ด

    เช้าที่สดใสของมู่หลินคนเดียว เพราะคนอื่นนั้นขอบตาดำเนื่องจากแทบไม่ได้นอนเลย มู่หลินที่เหมือนยกหินออกจากอกก็ดูอารมณ์จะดีเป็นพิเศษ นางสามารถเอาของในมิติออกมาทำกินได้แล้ว ท่านแม่ให้เติมข้าวสารแค่ครึ่งถัง กับเครื่องปรุงที่เอาออกมาวางไว้ได้ก็มีแค่เกลือกับน้ำตาลอย่างละนิดหน่อย หากใครมาที่บ้านแล้วเห็นของมากมายคนจจะสงสัยเอาได้อาหารที่มู่หลินทำเช้านี้ นางไม่ได้ทำอะไรมากเพราะเป็นมื้อเช้า มู่หลินต้มข้าวต้มหมูสับ ทอดปาท่องโก๋กินคู่กัน แล้วนางยังนำนมออกมาบำรุงทุกคนในบ้านด้วยเพราะเนื่องจากขาดสารอาหารเป็นเวลานานร่างกายแต่ละคนจึงผอมเกินไป พี่ใหญ่ พี่รองและตัวมู่หลินนั้นก็ดูจะไม่โตเต็มวัยเหมือนเด็กในรุ่นเดียวกันหลังจากกินอาหารเช้าแล้วท่านพ่อพาบุตรทั้งสามเดินทางเข้าเมือง ท่านแม่นั้นไม่ไปด้วยเพราะต้องการตัดชุดให้กับทุกคนแทน เมื่อคืนก่อนออกจากมิติมู่หลินพาท่านแม่ไปเลือกผ้าที่จะใช้ตัดชุดผ้าที่มู่หลินซื้อมาเก็บไว้นั้นมีทั้งผ้าฝ้ายเนื้อหยาบไปจนถึงผ้าไหมเนื้อดี ถ้าต้องให้ท่านแม่เป็นคนเลือกเพราะชาวบ้านจะได้ไม่สงสัยเกินไป ผ้าฝ้ายเนื้อหยาบที่ชาวบ้านทั่วไปใช้ใส่ทำงานนั้นหนึ่งพับประมาณ100-200อีแปะ ชาวบ้านโดยทั่

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   ความลับที่น่าตกตะลึง

    ระหว่างทางลงเขาจนถึงบ้านนั้น มีชาวบ้านทักตลอดทาง ต่อให้บุรุษบ้านหวังพยายามทำตัวปกติแค่ไหนก็มีคนสงสัยอยู่ดี โดยเฉพาะ นางไฉ่หง เพื่อนสาวของนางจากชุนสะใภ้รองบ้านหวัง "โอโยว เจียวจิ้นพวกเจ้ากับบุตรชายแบกอะไรลงมากันมากมายเพียงนี้" มู่หลินปรายตามองนางไฉ่หง ที่เป็นสาวอวบเกือบจะอ้วนแล้ว โบกแป้งหนาจนคิดว่าใช้แป้งสาลีทาหน้า ปากที่แดงจนแทบจะเรียกได้ว่าแดงจนเหมือนคนกินเลือดมา ทำไมแต่งแบบนี้ถึงกล้าออกจากบ้านกันนะ"ข้าได้ผักป่ากับปลามานิดหน่อย" บิดาแสนซื่อของข้านั้นตอบกลับอย่างว่าง่ายทันที นางไฉ่หงที่ถือวิสาสะเดินมารื้อตะกร้า ไวกว่านางไฉ่หงก็มู่หลินนี่แหละ นางดีดก้อนหินไปที่ข้อเท้านางไฉ่หง ทำให้นางไฉ่หงสะดุดล้มหน้าทิ่มดิน แถมดินยังเข้าปากเพราะมั่วแต่พูดมากไม่ทันได้หุบปากตอนล้มลง ปากที่แดงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแดงเข้าไปอีกเพราะเป็นเลือดที่ไหลออกมาจากฟันที่หักไปซี่หนึ่ง "กรี๊ดดดด พวกเจ้าพลักข้าใช่หรือไม่" ดีที่บุรุษบ้านหวังทั้งสามยืนห่างนางไฉ่หงตั้งห้าก้าว แล้วชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็ช่วยพูดให้ด้วย เพราะเป็นนางไฉ่หงที่ล้มลงไปเอง "นี่ ไฉ่หง เจ้าล้มเองแล้วจะโทษเจียวจิ้นกับบุตรได้อย่างไร" นางเจียงอิน

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   ขึ้นเขา

    ยามอิ๋น(03.00-04.59น.) มู่หลินลุกเตรียมตัวเข้าป่าพร้อมบิดาและพี่ชาย มีเพียงท่านแม่ที่อยู่ดูแลบ้าน บุรุษบ้านหวังถามมู่หลินตลอดทางเดิน"น้องเล็กไหวไหม" พี่ใหญ่"น้องเล็กพักก่อนดีหรือไม่" พี่รอง"หลินเออร์ ขึ้นหลังพ่อไหม" บิดา"หลินเออร์...""น้องเล็ก...""..."มู่หลินครั้งนี้เข้าป่ามาหลายคนจึงทำการวางกับดักนั้นเร็วยิ่งขึ้น พอเข้ายามซื่อ(09.00-10.49น.) บิดาจึงเดินหาที่นั่งพักบริเวณลำธารเพื่อพาบุตรชายหญิงกินอาหารเช้า อาหารที่พกมาก็เป็นพวกแผ่นแป้ง มู่หลินที่กินแผ่นแป้งไม่ลงเนื่องจากทุกวันที่ผ่านมาจะมีแต่แผ่นแป้งกับน้ำข้าวเท่านั้น เธอเดินไปสำรวจลำธารเพื่อมองหาลู่ทางในการจับปลา พี่ชายทั้งสองเมื่อเห็นมู่หลินก้มหน้าทำอะไรที่ริมลำธารจึงเดินเข้าไปดูน้องสาวด้วยความเป็นห่วงกลัวน้องน้อยจะตกน้ำ(น้ำก็แค่เข่า) "น้องเล็กเจ้าทำอันใด" พี่ใหญ่ที่เห็นน้องเล็กเอาก้อนหินมาวางล้อมเป็นหลุมด้วยความสงสัยจึงเอ่ยปากถามไป"น้องกำลังทำหลุมดักปลา" "ปลาว่ายเร็วเพียงนี้ จะเข้าหลุมที่เจ้าทำได้เช่นใด""อ๊ะ นะ นั่น น้องเล็กปลาเข้ามาแล้ว"พี่รองที่กำลังจะสอบถามมู่หลินตามแบบพี่ใหญ่ก็ต้องตกใจที่มีปลาหลูยวี(ปลากะพง) ตัวใหญ่

  • ข้ามเวลามาสู้ชีวิต   ครอบครัวหวัง

    รลินอยู่ในร่างของหวังมู่หลินได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว หมู่บ้านที่เธออยู่นั้นมีชื่อว่า หมู่บ้านชุนหง อยู่ในตำบลชุนไห่ อำเภอโยวโจว อยู่ห่างจากเมืองหลวงแคว้นฉู่ 1,000 ลี้ (1ลี้=500เมตร) ครอบครัวของเธอไม่มีใครให้เธอหยิบจับทำอะไรเลย ก่อนหน้านี้เธอได้สำรวจกำไลแล้วปรากฏว่าของที่เธอซื้อไว้ตามเธอมาครบทุกอย่างจริงๆ แล้วในกำไลนั้นยังเป็นมิติอีกด้วย โดยของทั้งหมดของเธออยู่ในโกดังขนาดใหญ่อย่างเป็นระเบียบ มีกระท่อมหลังน้อยที่ด้านในไม่น้อยเลย ด้านในของกระท่อมนั้นมีห้องทั้งหมด 4 ห้องนอน 1 ห้องโถง 1 ห้องตำรา และมีห้องน้ำกับห้องส้วมแยกชัดเจน เธอพอใจกับห้องน้ำและห้องส้วมมากด้านนอกของกระท่อมนั้นมีน้ำลำธารกว้างสองจั้ง(1จั้ง=3.33เมตร) มีสวนสมุนไพร สวนผัก ผลไม้ เต็มพื้นที่ไปหมด รลินถึงกับก้มขอบคุณคุณยายที่มอบกำไลนี้ให้เธอ เธอไม่มีเวลาสำรวจพื้นที่ทั้งหมดมากนักเพราะครอบครัวเธอมักจะวนเวียนพลัดเปลี่ยนกันมาคอยดูแลเธอครอบครัวของหวังมู่หลิน1.หวังเจียวจิ้น บิดา อายุ 37 ปี2.เหมยฮวา มารดา อายุ 32 ปี (ไม่มีแซ่ อายุโดยประมาณเพราะความจำเสื่อม ทราบชื่อจากหยกที่พกติดตัวมาสลักไว้ว่าเหมยฮวา)3.หวังเจียวโจว พี่ชายคนโต อายุ 15

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status