Share

บทที่ 204

Author: ลิ่วเยว่
จ่านเหยียนอยู่ในจวนของหวังติ่งทังจนถึงยามบ่าย อาการของนายท่านหวังคงที่ประมาณหนึ่งแล้ว ก่อนกลับ จ่านเหยียนให้คนป้อนยาอันกงอีกหน

เดิมหวังติ่งทังอยากให้นางทำนายให้หน่อย แต่ฮุ่ยอวิ่นอยู่ที่นี่จึงได้แต่ปล่อยผ่านไป!

ก่อนกลับจวน จ่านเหยียนเห็นหว่านจวินมาหาหวังติ่งทัง

นางยืนอยู่หน้าประตูแล้วมองไปจากที่ไกล ๆ เห็นใบหน้าของหว่านจวินมีจิตใจปรารถนาต่อความตายที่แน่วแน่อย่างหนึ่ง

นางไม่รู้ว่าหว่านจวินพูดอะไรกับหวังติ่งทัง หลังจากกล่าวจบ หว่านจวินก็ราวกับเบาใจ ก่อนจะพาสาวใช้สองคนจากไป

จ่านเหยียนเอ่ยกับหวังติ่งทัง “ทางที่ดีระยะนี้เจ้าจับตาดูหว่านจวินให้ดี หรือไม่เจ้าก็ปลอบใจนางให้มาก ถูกบังคับให้ละทิ้งความรัก นางต้องทุกข์ใจมากแน่”

หวังติ่งทังหัวเราะ “ดูเจ้าพูดเข้าสิ เด็กสาวคนหนึ่งจะรู้จักความรักความทุกข์อันใด? อีกระยะหนึ่งก็ดีแล้ว ข้ารู้น้องสาวของข้าคนนี้ดี ของที่นางไม่ได้มา มักจะอาละวาดระยะหนึ่ง แต่หากได้มาก็จะทิ้งขว้างไม่ไยดี”

“ไม่ใช่...” จ่านเหยียนกำลังจะเตือน หวังติ่งทังก็ไล่นาง “เอาละ เจ้ากลับไปเร็วหน่อยเถอะ ข้าจะดูนางเอง”

จ่านเหยียนเอ่ยอย่างจริงจัง “เหล่าหวัง ข้าขอเตือนเจ้า น้องสาวของเจ้า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 205

    ฮุ่ยอวิ่นรู้สึกแปลกใจมากกับการที่อาเสอเถียงจ่านเหยียนฉอด ๆ อย่างโจ่งแจ้ง ส่วนจ่านเหยียนกลับไม่โกรธ นายบ่าวสองคนนี้คล้ายพี่สาวน้องสาวอยู่บ้างจ่านเหยียนไม่ต่อปากด้วยแล้ว กลับมีลางสังหรณ์ร้ายอยู่ในใจลึก ๆนางหลับตาลง นับนิ้วคำนวณอายุขัยของหว่านจวิน ยังไม่หมดอายุขัย น่าจะไม่เกิดเรื่องแน่นอน นางมิได้วางใจทั้งหมด เพราะคนที่เสียชีวิตก่อนหมดอายุขัยก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกันหวังเพียงหวังติ่งทังจะใส่ใจกับคำพูดของนาง ปลอบใจหว่านจวินให้ดี ให้นางล้มเลิกความคิดที่จะตายเสียครั้นกลับถึงจวนอ๋อง ฮุ่ยอวิ่นก็ได้ข่าวบอกว่าเทพโอสถมาแล้วฮุ่ยอวิ่นเดินพรวดพราดเข้าไปทันทีจ่านเหยียนสบตากับอาเสอทีหนึ่ง อาเสอจึงดึงบ่าวรับใช้ท่านนั้นมาถาม “เทพโอสถคือผู้ใดหรือ?”บ่าวรับใช้ตอบ “เทพโอสถก็คือหมอที่เก่งที่สุดในแคว้นต้าโจวเรา เป็นหมอเทวดา เขามารักษาโรคให้กับกุ้ยไท่เฟยน่ะ”จ่านเหยียนรู้ว่ามารดาของมู่หรงฉิงเทียนป่วย แม้ไม่รู้ว่าป่วยด้วยโรคอะไร แต่เห็นว่าหลายปีนี้หาหมอดีมาไม่น้อย แต่รักษามานานเช่นนี้ก็ยังไม่หาย คาดว่าอาการคงหนักน่าดูอาเสอเบะปาก “หมอเทวดาอันใด? หมอที่ดีที่สุดในจักรวาลอยู่ที่นี่แล้ว กลับไม่เห็นคุ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 206

    ส่วนทางห้องโถงหลัก ราคาในการรักษาของเทพโอสถไม่ธรรมดา!“ข้าไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ขอเพียงท่านอ๋องหาคู่ครองในเมืองหลวงให้ลูกศิษย์ของข้าสักคนก็พอ ระดับขุนนางจะต่ำกว่าระดับสามไม่ได้ อายุก็ห้ามเกินสามสิบ ที่บ้านไร้ภรรยาและอนุ”มู่หรงฉิงเทียนหัวเราะชืด ๆ “ในเมืองหลวงกลับไม่มีผู้ใดสอดคล้องกับเงื่อนไขที่ท่านหมอเทวดากล่าว”เทพโอสถหัวเราะเล็กน้อย “เหตุใดจะไม่มี? ในจวนของท่านอ๋องก็มีอยู่คนหนึ่งมิใช่หรือ?”มู่หรงฉิงเทียนมองเขา “ฮุ่ยอวิ่นมิได้มีตำแหน่งขุนนาง ไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขที่ท่านบอกว่าระดับขุนนางไม่ต่ำกว่าระดับสาม”เทพโอสถหัวเราะไม่ยี่หระ “ท่านอ๋อง การให้ตำแหน่งขุนนางกับที่ปรึกษาผู้มีความสามารถสักคนมิใช่เรื่องยาก อย่างน้อย...สำหรับท่านอ๋องก็มิใช่”ฮุ่ยอวิ่นเพิ่งกลับมาถึงเหมือนกัน เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ก็อดเคืองโกรธขึ้นมาไม่ได้ เขามองเทพโอสถ “คำขอของหมอเทวดากลับทำให้คนลำบากใจเล็กน้อย”เทพโอสถโบกมือ “ไม่ คุณชายฮุ่ยอวิ่นผิดแล้ว ข้ามิเคยขอผู้ใดก่อน แล้วจะถือว่าเป็นการ ‘ขอ’ ได้อย่างไร? มิว่าเรื่องใดก็ล้วนแต่มีราคาที่ต้องจ่าย มิใช่หรือ?”“หากต้องการให้ข้าน้อยแต่งลูกศิษย์ของหมอเทวดา ข้า

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 207

    เทพโอสถอมยิ้มแล้วเอ่ย “ลูกศิษย์ของกระหม่อมนามว่าเหลียนถัง พักอยู่ที่เรือนเหลียนฮวาย่วนเหมาะสมที่สุด”“เสี่ยวเหลียน ขอบคุณท่านอ๋องสิ!” เทพโอสถสั่งกับสตรีนางนั้นเหลียนถังเดินมาข้างหน้าแล้วยอบตัวน้อย ๆ “หม่อมฉันขอบคุณในความกรุณาเพคะ!”มู่หรงฉิงเทียนเงียบนิ่ง ผงกศีรษะเล็กน้อยเป็นการสื่อความหมายเทพโอสถจะรักษาโรคให้กุ้ยไท่เฟยในวันพรุ่ง ดังนั้นฮุ่ยอวิ่นจึงพาจ่านเหยียนและอาเสอไปพบกับกุ้ยไท่เฟยก่อนความจริงเขาไม่อยากพาไปหรอก แต่เมื่อคืนหลังจากพระอาจารย์เป่ากวงสวดมนต์เสร็จก็บอกฮุ่ยอวิ่นให้พาหลงอู่ไปเยี่ยมกุ้ยไท่เฟยสักหน่อย มิได้บอกจุดประสงค์ แค่ยืนกรานให้เขาไปฮุ่ยอวิ่นเคารพพระอาจารย์เป่ากวงเสมอมา เห็นเขายืนกรานเช่นนี้จึงไม่ได้ถามสาเหตุอะไร เพียงพาจ่านเหยียนและอาเสอไปคารวะกุ้ยไท่เฟยจ่านเหยียนรู้ว่ากุ้ยไท่เฟยป่วย แต่ไม่รู้ว่าป่วยด้วยโรคอะไรฮุ่ยอวิ่นบอกว่าจะพานางไปพบกุ้ยไท่เฟย และนางก็กำลังอยากไปดูสักหน่อยพอดีเส้นทางที่ฮุ่ยอวิ่นนำนางไป ตลอดทางทัศนียภาพงดงามยิ่งนัก โดยมากแล้วเป็นการรังสรรค์จากธรรมชาติ จุดที่แกะสลักจากมนุษย์มีเพียงสระดอกบัวจ่านเหยียนราวกับเข้าสู่แดนเซียนนอกโลก นางชื่น

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 208

    อวิ๋นกุ้ยไท่เฟยตอบ “ไม่ค่อยสะดวก มองไม่เห็น”ผู้เป็นหมอมักมีหัวใจแห่งบิดามารดา จ่านเหยียนอดถามไม่ได้ “เป็นเพราะสาเหตุใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”อวิ๋นกุ้ยไท่เฟยหน้านิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มตรงมุมปาก “ข้าจำไม่ได้แล้ว”มีหรือจะจำความเจ็บปวดจากการสูญเสียการมองเห็นไม่ได้? โดยรวมคงเพราะไม่อยากเอ่ยถึง หรือไม่ก็ปลงตกแล้วฮุ่ยอวิ่นนึกว่าจ่านเหยียนจะถามต่อ จึงยื่นมือมากระตุกแขนเสื้อของนางแล้วโบกมือเป็นการบอกว่าอย่าถามจ่านเหยียนเปลี่ยนประเด็น “น้ำชาเหล่านี้เจือกลิ่นส้ม ใช่ชาส้มหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? แต่มันไม่ใช่แค่ชาส้ม หากยังใส่เมล็ดชุมเห็ดเทศด้วยกระมัง?”อวิ๋นกุ้ยไท่เฟยเอ่ยอย่างยินดี “มิผิด ข้าแค่สั่งให้คนใส่ลงไปเล็กน้อยเท่านั้น เจ้ากลับรู้ได้”“เมล็ดชุมเห็ดเทศช่วยเรื่องล้างตับและการมองเห็น รสชาติหอมสดชื่น แต่ใส่ลงไปได้เล็กน้อยเท่านั้น มิเช่นนั้นรสชาติเข้มเกินไปจะเสียรสชาติชาและส้ม น้ำชาจะขุ่นมัว และยังจะทำให้ลำไส้ลื่น” จ่านเหยียนเอ่ยอวิ๋นกุ้ยไท่เฟยผงะ จู่ ๆ ก็เอื้อมมือควานหามาทางจ่านเหยียน จ่านเหยียนเอื้อมมือไปจับมือของนาง รู้สึกประหลาดใจกับการกระทำของนางเล็กน้อยอวิ๋นกุ้ยไท่เฟยเอ่ยด้วยความยิ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 209

    “รีบเชิญเร็ว!” จู๋กูกูรีบเอ่ยนางเข้าไปประคองอวิ๋นกุ้ยไท่เฟย เอ่ย “หมอเทวดามาแล้ว พวกเรากลับเข้าเรือนเถอะ ตรวจอาการในเรือนจะสะดวกกว่านะเจ้าคะ”อวิ๋นกุ้ยไท่เฟยกลับโบกมือแล้วนั่งลงเหมือนเดิม “อยู่ตรงนี้เถอะ ข้าชอบแสงแดดสว่าง ๆ”“เช่นนั้นหรือ ก็ได้เจ้าค่ะ!” จู๋กูกูได้แต่ตามใจนางมู่หรงฉิงเทียนในชุดผ้าฝ้ายลวดลายมังกรเหินสีนิลที่แหวกว่ายอยู่ท่ามกลางเมฆาซึ่งเป็นลายพื้นเดินเข้ามา ตรงเอวคาดผ้ารัดเอวสีทอง ผูกกระเป๋าผ้าสีทองใบหนึ่ง และบนกระเป๋าผ้าห้อยพู่หยกใสทะลุปรุโปร่งชิ้นหนึ่งเห็นแล้วทำให้คนรู้สึกถึงความสูงศักดิ์แห่งราชวงศ์และท่วงทำนองน่าเกรงขามอย่างไรก็คือราชวงศ์ แม้จะเป็นชุดลำลองก็ยังแสดงลักษณะแห่งราชวงศ์ออกมาทั้งหมดเหลียนถังเดินอยู่ข้างหลังเทพโอสถ ครั้นนางเห็นฮุ่ยอวิ่น ก็เพียงปราดสายตาอย่างรวดเร็วแวบหนึ่ง จากนั้นใบหน้านิ่งก็เก็บอารมณ์ไว้ในดวงตา“เสด็จแม่ ไม่เชื่อฟังอีกแล้วนะ!” มู่หรงฉิงเทียนเดินมาข้างหน้าแล้วตำหนิด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแผ่วเบา “บอกแล้วมิใช่หรือ? อย่าออกมาตอนเช้าตรู่ หากต้องความเย็นแล้วจะทำอย่างไร?”นี่คือครั้งแรกที่จ่านเหยียนเห็นมู่หรงฉิงเทียนอ่อนโยนเช่นนี้ เส้นโค้

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 210

    มู่หรงฉิงเทียนถามเทพโอสถ “ท่านหมอเทวดาจะตรวจสอบสาเหตุการตาบอดของนางได้หรือไม่”“ได้!” เทพโอสถหันไปเอ่ยกับเหลียนถัง “เจ้าเอาเข็มมาทดสอบตับของกุ้ยไท่เฟยหน่อย ตับกับดวงตาสัมพันธ์ถึงกัน ร่างกายมนุษย์มีจุดชีพจรหลายจุดที่สัมพันธ์กับอวัยวะภายใน มีพื้นที่ตอบสนอง หากมีพิษอยู่ในบริเวณตับ โดยมากจะส่งผลกระทบต่อดวงตา”จ่านเหยียนเห็นด้วยกับหลักการที่เขาบอก แต่... การสูญเสียการมองเห็นอย่างที่ไม่ถูกทำร้ายใด ๆ จะไม่เป็นอย่างที่เขาพูดแน่นอนทว่า... จะบอกว่าเขาอธิบายผิดก็ไม่ได้ เพราะทั้งสองอย่างนี้ล้วนเป็นไปได้ทุกคนออกไปรออยู่นอกห้องขณะเหลียนถังกำลังตรวจสอบให้กุ้ยไท่เฟย เหลือเพียงจู๋กูกูเพียงคนเดียวผ่านไปครู่หนึ่ง จู๋กูกูก็เปิดประตู เทพโอสถหยิบเข็มเงินดูใต้แสงอาทิตย์พักหนึ่ง เข็มเรียวยาวเรืองแสงสีเขียวจาง ๆ ใต้แสงตะวันทุกคนผงะ มู่หรงฉิงเทียนถามขึ้น “มีพิษ?”“เป็นเพียงพิษเล็กน้อย แต่นี่ก็มีความเป็นไปได้สองอย่าง อย่างแรกคือกุ้ยไท่เฟยดื่มยาเป็นเวลานาน ยามักมีพิษสามส่วน ตับทำหน้าที่ขับสารพิษ เมื่อขับพิษออกไม่หมด ก็จะตกค้างอยู่ที่นี่ อย่างที่สองคือสมัยก่อนกุ้ยไท่เฟยขจัดพิษออกไม่หมด จึงทำความเสียหายแ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 211

    “ข้ามิได้ทำงานไม่ถูกเรื่อง เจ้าก็คือฆาตกรสังหารครอบครัวหญิงม่ายแซ่เซว” ฟางจี้จื่อจ้องนางพลางเอ่ยจ่านเหยียนส่ายหน้า “เจ้ามีหลักฐานอันใดพิสูจน์ว่าข้าคือฆาตกรสังหารครอบครัวหญิงม่ายแซ่เซว?”“ข้างตัวเจ้า หนึ่งปีศาจจิ้งจอก หนึ่งปีศาจงู นี่ก็คือเครื่องพิสูจน์ที่ดีที่สุด ที่จนถึงวันนี้ข้าก็ยังมองตัวตนของเจ้าไม่ออก นั่นมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว เจ้าดูดวิญญาณมนุษย์ฝึกบำเพ็ญเป็นเวลานาน ดังนั้นเจ้าจึงมีกลิ่นอายของมนุษย์ กลบทับตัวตนที่แท้จริงของเจ้า”“นักพรตคนหนึ่งกลับกล่าวถ้อยคำเช่นนี้ออกมา ไม่กลัวว่าจะทำให้คนหัวเราะเยาะแย่หรือ? เจ้าไม่เคยคิดหรือว่าข้าจะเป็นคนจริง ๆ?” จ่านเหยียนเอ่ยฟางจี้จื่อหัวเราะเย้ยหยัน “เจ้าอยากเป็นคนเป็นเซียนจริง แต่น่าเสียดาย เจ้าเข่นฆ่าคนไปมาก ต่อให้ฝืนบำเพ็ญเพียร อย่างมากก็ถึงได้แค่ด่านหยวนสื่อเทียนจุนไท่ซ่างเหล่าจวิน เจ้ามีสันดานชั่วช้า จะเป็นเซียนได้อย่างไร?”“ข้าเข่นฆ่าคนมากจริง แต่เจ้าผิดแล้ว ข้าไม่เคยคิดอยากเป็นเซียน เป็นเซียนแล้วมีอะไรดี? มีแต่ผู้บำเพ็ญพรตที่เห็นแก่ตัวเช่นเจ้าจึงเพ้อฝันอยากเป็นเซียน อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นอย่างเจ้าสิ”หากนางไม่เข่นฆ่าคนม

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 212

    นอกเมืองมีศาลาสิบลี้อยู่แห่งหนึ่งตรงเชิงเขาสูงใหญ่ กลางไหล่เขาสูงใหญ่ลูกนั้น ก็มีวัดเจ้าแม่กวนอิมอยู่แห่งหนึ่ง มีผู้คนมาสักการะมากมายวัดเจ้าแม่กวนอิมก็คือสถานที่พบกันของหวังหว่านจวินกับฉีซุนหวังหว่านจวินให้สาวใช้ชุนอี้นัดฉีซุนออกมานางจงใจมาเร็วหนึ่งชั่วยาม ระหว่างที่นั่งรอพบฉีซุน ที่สมองมิอาจลบเลือนไปได้ก็คือภาพที่พบกันเขาสวมชุดขาวปลอด ย่างเข้าม่านจักษุของนาง ลมรำเพยพกพากลิ่นหอมสดชื่นของดอกกุ้ยฮวาพัดเส้นผมของเขานางยืนอยู่ใต้ต้นกุ้ยฮวา แหงนหน้ามองดอกกุ้ยฮวาเล็ก ๆ สีเหลืองทองเขายืนอยู่ตรงหน้านางและอมยิ้มเอ่ยว่า “คุณหนู ต้นนี้คือต้นกุ้ยฮวาสีทอง ยามบุปผาโปรยปรายประหนึ่งสายพิรุณทองคำ”นางมองดวงหน้าอันหล่อเหลาและดวงตาอันอบอุ่นของเขา รู้สึกเพียงจุดหนึ่งในหัวใจราวกับถูกสายลมวสันตฤดูพัดผ่าน สะกิดสะเกาเขามีความรู้ล้ำลึก ร่ำเรียนมาห้าปี เป็นคนตลกขบขัน ชอบหัวเราะ เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เขาไม่ปกปิดชาติตระกูลของตัวเองสักนิดเขาก็เหมือนกับหลุมขนาดใหญ่ที่ดูดนางเข้าไปสู่ห้วงลึกนางเคยคิด หากชีวิตที่เหลือสามารถอยู่กับเขาได้ เคียงข้างเขา ปรนนิบัติบัณฑิตหนุ่ม ดื่มสุราสนทนา กระทั่งคลอดบุตรชาย

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 280

    ไม่นานเรื่องที่จ่านเหยียนพังตำหนักชิงหนิงก็ดังกระฉ่อนไปทั่ววังหลวงจงเสี้ยนไทฮองไทเฮากริ้วหนัก แต่นางไม่ได้ทำอะไร การที่หลงจ่านเหยียนกล้าพังตำหนักชิงหนิง เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวันนี้มิอาจเทียบวันวานนึกถึงตอนที่นางเข้าวังใหม่ ๆ แล้วมาคารวะ ใจเสาะขี้กลัวปานนั้น แม้แต่คุกเข่าก็ยังถลาลงไปกับพื้น ชวนให้คนตลกขบขันใครจะคิด วันนี้นางกลับกล้าพังตำหนักชิงหนิง?ดูท่านางคงบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว มิเช่นนั้น ด้วยเบื้องหลังของฐานะนาง นางจะไม่กล้าทำเช่นนี้เด็ดขาดหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นที่พังตำหนักชิงหนิงในวันนี้ก็คงเป็นแผนการของเซ่อเจิ้งอ๋องเหมือนกันเขาจะทำอะไร?ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ถงจื่อหยาเกิดเรื่อง โจมตีสกุลถงต่อ?“หย่าจู้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ไทฮองไทเฮาถามหมัวมัวด้านข้างหย่าจู้คิดแล้วจึงเอ่ย “หลงจ่านเหยียนผู้นี้เหนือความคาดหมายอยู่บ้างจริง ๆ ก่อนหน้านี้แทรกแซงเรื่องของหยวนผินยังพอพูดได้ว่าอยากได้หน้า แต่การพังตำหนักชิงหนิงนี้ เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งจะทำได้ โดยเฉพาะนางที่เป็นสตรีเช่นนี้เพคะ”“พูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าคิดว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคือผู้บงการหรือ?”“ยาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 279

    นางทิ้งมือทั้งสองลง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาอาเสอตกใจ ยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจของนางฉับพลัน จากนั้นก็เงยหน้ามองจ่านเหยียนอย่างตกตะลึงจ่านเหยียนเอ่ยเสียงหนัก “ปกป้องหัวใจของนางก่อน”ถงไทเฮาหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตามีความกระหยิ่มยิ้มย่องและสาแก่ใจ “นางตายแน่”อาเสออุ้มจิ้นหรูเข้าไปในตำหนัก แต่ช้าไป นางมิอาจช่วยไว้ได้จ่านเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอาหู “รอพวกเราออกไปแล้วก็พังตำหนักชิงหนิงเสีย”อาหูฉายรอยยิ้มหนาวเหน็บ “เพคะ!”“หลงจ่านเหยียน เจ้าน่าจะรู้นะ ภัยเกิดจากปาก ต่อให้วันนี้เจ้าพังตำหนักชิงหนิงของข้าไม่ได้ ข้าก็บันทึกแค้นนี้เอาไว้แล้ว” ถงไทเฮาเอ่ยข่มขู่จ่านเหยียนยิ้มระรื่น “วางใจ ไม่ว่าเรื่องใดที่ลงมือได้ ข้าจะไม่เปลืองน้ำลายเด็ดขาด”ผ่านไปพักหนึ่ง อาเสออุ้มจิ้นหรูออกมาแล้วพยักหน้ากับจ่านเหยียน “กลับไปเถอะ!”จ่านเหยียนเดินตามอาเสอออกไป จากนั้นก็หันมาสั่งกับอาหู “พังตำหนักชิงหนิงแล้วไปพาอาถงกับอาเถี่ยออกมาจากห้องมืดเถอะ”“รับบัญชา!” อาหูขานรับอย่างเริงร่าสวรรค์รู้ นางเห็นจิ้นหรูมีเลือดเต็มตัวแล้วอยากฆ่านางอัปลักษณ์ผู้นี้แค่ไหน หากติดตามนายที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 278

    จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทางผ่อนคลาย นั่นคือตำแหน่งที่ถงไทเฮานั่งยามมีนางสนมมาเข้าเฝ้านางเอ่ยกับอาเสอและอาหู “ค้นตำหนักชิงหนิงให้ทั่ว ข้าต้องพบจิ้นหรู”“ช้าก่อน!” ถงไทเฮามองจ่านเหยียนแบบคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม “น้องหญิงตั้งใจจะมาอาละวาดที่นี่หรือ? คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”จ่านเหยียนโบกมือ “เรื่องอาละวาดต้องอาละวาดแน่แล้ว สำหรับผลที่จะตามมา ยังไม่มีเวลาคิดจริง ๆ และไม่คิดจะคิดด้วย”อาเสอและอาหูได้ยินคำนี้ของจ่านเหยียนก็ยิ้มร้ายกับถงไทเฮา จากนั้นก็จะเข้าไปค้นทันทีทันใดนั้นก็มีองครักษ์สิบกว่าคนออกมาขวางอาหูกับอาเสอปีศาจสองตนนี้เอาไว้มีหรือเหล่าองครักษ์จะเห็นพวกนางอยู่ในสายตา ผู้ที่อยู่ข้างหน้าคือหัวหน้าองครักษ์ของตำหนักชิงหนิง เขาตวาดกับอาเสอและอาหู “พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมในตำหนักชิงหนิงหรือ?! อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ยั้งไมตรีก็แล้วกัน!”กระบี่ยาวชี้มาทางอาเสอด้วยความเร็วยิ่ง ปลายกระบี่มาพร้อมกับคมกระบี่ อาเสอเคยเห็นอาซานแสดงฝีมือมาก่อน แม้เขาจะมีฝีมือด้อยกว่าอาซาน แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำแล้วกระบี่ของเขาเร็วนั้นไม่ผิด กลับไม่ส่งผลกระทบซึ่งเป็นการไม่เกรงใจอาเสอใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 277

    ส่วนกัวอวี้นึกว่าจ่านเหยียนซื้อตัวองครักษ์ในวัง ดังนั้นองครักษ์จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการเดินออกไปของพวกนาง“เข้าไปเถอะ!” อาเสอไม่อยากพูดมาก เดินฉับเข้าไปอย่างเร่งรีบจี๋เสียงกับหรูอี้เพิ่งเรียกกับพู่หยกไปสองสามที เห็นพู่หยกไม่มีปฏิกิริยายังนึกว่าไม่ได้ผล ใครจะรู้พอหันกลับไปก็เห็นจ่านเหยียนกับพวกอาเสอยืนอยู่หน้าห้องแล้ว“คุณหนูใหญ่! ทรงเสด็จกลับมาก็ดีแล้วเพคะ!” จี๋เสียงกับหรูอี้ปรี่ไปหา พูดน้ำเสียงสะอื้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?” กัวอวี้รีบถามจี๋เสียงสะอึกสะอื้น “เป็นเช่นนี้ วันนี้ตอนกลางวันมีคนมาจากตำหนักถงไทเฮาเชิญจิ้นหรูกูกูไป แต่ไม่กลับมาสักที อาถงจึงให้พวกบ่าวสองคนไปถาม แต่พอไปถึงนอกตำหนักชิงหนิง หรูหัวกูกูก็ไม่ให้เข้า ซ้ำยังไล่พวกบ่าวออกมา เพียงแต่... เพียงแต่บ่าวได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากในตำหนัก ถึงไม่ยืนยันว่าใช่เสียงร้องของจิ้นหรูกูกูจริงหรือไม่ แต่ฟังแล้วเหมือนมาก ตอนหลังอาถงกับอาเถี่ยก็ไปหา แต่ก็ไม่กลับมา...”จี๋เสียงเหม่อลอย แม้พูดไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ยังอธิบายเรื่องราวชัดเจน“คุณหนูใหญ่ ถงไทเฮาให้จิ้นหรูไป จะเกิดอะไรหรือไม่เพคะ?” กัวอวี้ถามจ่านเหยียนนึกถึงเรื่องข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status