Share

บทที่ 283

Author: ลิ่วเยว่
เขาหน้าแดงซ่าน ดึงตัวออกห่างระยะหนึ่ง

จังหวะที่เห็นจิ้นหรู เขานิ่งงันไปทั้งคน

เขาจำได้ จิ้นหรูเป็นคนใจดี ทุกครั้งที่ถูกเสด็จพ่อตำหนิ นางมักเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยน ช่วยเขาพูด ความจริงในใจของเขาไม่เคยเห็นจิ้นหรูเป็นคนรับใช้มาก่อน

นางมีใบหน้างดงามยิ้มแย้มเสมอ เสด็จพ่อทรงเชื่อคำพูดของนางมาก ทุกครั้งที่นางเอ่ยปาก มักระงับโทสะของเสด็จพ่อได้

แต่... บัดนี้ดวงหน้างดงามนั้นหายไปแล้ว แทนที่ด้วยใบหน้าเลือดเนื้อเละเทะดวงหนึ่ง บาดแผลบนใบหน้ายังมีน้ำเลือดนองอยู่

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?” เสียงของเขาสั่นเครือเล็กน้อย ที่เขารับไม่ได้คือ นอกจากจิ้นหรูจะมีสารรูปเหมือนผีแล้ว ยังไม่กล้าเชื่อว่าเสด็จแม่ของตัวเองจะเหี้ยมโหดถึงเพียงนี้

“ฝ่าบาท สิบนิ้วของนางถูกตอกด้วยตะปูไม้ท้อ ขาทั้งสองถูกตีจนหัก บนตัวไม่มีส่วนไหนที่ดี ฝ่าบาทมิทรงเห็นสภาพที่ไทเฮาทรงรักษาให้นางเมื่อครู่ หากทรงเห็น เกรงว่าหัวใจคงต้องสะท้าน” ผู้ที่เอ่ยคือกัวอวี้ นางเอ่ยปนสะอื้นเล็กน้อย มันคือความจริง เมื่อครู่หลังจากเห็นแผลบนตัวของจิ้นหรูแล้ว หัวใจก็สะท้านไม่หยุด

“ฝ่าบาท!” จิ้นหรูลืมตาขึ้น ไม่มีกำลังแม้แต่จะเอื้อนเอ่ย อาจเพราะความเจ็บปวด
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 284

    ไม่นานอาเสอก็เอายันต์ระงับปวดมา จ่านเหยียนให้จิ้นหรูกินลงไป แต่จิ้นหรูเป็นคนธรรมดา ไม่สามารถใช้ยันต์ระงับปวดได้บ่อยครั้งหวังแต่อีกสองวันบาดแผลของนางจะดีขึ้น เช่นนั้นความทรมานย่อมทุเลาลงแพล็บเดียวก็เกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ จ่านเหยียนจำเป็นต้องจัดระเบียบให้ดีนางกลับไปยังตำหนักบรรทมของตัวเอง สั่งให้ทุกคนออกไปแล้วอัญเชิญคทามังกรออกมา คทามังกรกลายร่างเป็นมังกรทองตัวน้อยปรากฏอยู่ในมือของจ่านเหยียน“ตอนที่ข้าใช้มหาเวทสวัสติกะ เจ้าไปไหน?” จ่านเหยียนถามมังกรน้อยตอบ “ใช่ว่าข้าออกไปพลการ แต่พลังแข็งแกร่งขุมหนึ่งดึงข้าไป ตอนนี้ข้าทะลุผ่านหน้าอกของคนผู้หนึ่ง พลังสลายไปทันที แต่ไม่นานก็รวมพลังได้อีก ดังนั้นจึงออกจากร่างกายของคนผู้นั้นได้”“ใครกัน?” จ่านเหยียนขมวดคิ้วสงสัย“ไม่ทันมองให้ชัด ตอนนั้นข้าเองก็แตกตื่นมากเหมือนกัน นี่คือเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ข้าถึงกลับถูกขังอยู่ในร่างของมนุษย์คนหนึ่งออกมาไม่ได้ สำหรับข้าแล้ว นี่คือเรื่องที่ไม่เอาไหนสิ้นดี” มังกรน้อยเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย“เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นมนุษย์?” จ่านเหยียนถาม“แน่ใจ ร่างกายของเขาปราศจากพลังวิญญาณ บางทีเขาอาจเป็นเทพโบรา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 285

    หากบอกว่ามังกรร้ายตนนั้นก็คือมังกรเพลิง เช่นนั้นนางก็ไม่มั่นใจว่าจะรับมือได้เพราะนอกจากมังกรเพลิงจะเป็นเทพโบราณ ยังถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับผานกู่ มีแต่ผานกู่ที่กำราบเขาได้สกุลหลง หากพูดให้น่าฟังคือกลายร่างมาจากวิญญาณของผานกู่ แต่... หากจะพูดให้ชัดเจน พวกนางเป็นแค่ทูตที่ผานกู่ใช้คุมกฎสามโลกจ่านเหยียนเริ่มคิด การที่พวกตาเฒ่าสุสานผานกู่ให้นางมายุคสมัยนี้ต้องมีจุดประสงค์ไม่ธรรมดาแน่ ขัดเกลานิสัยนาง? ช่างเถอะ สกุลหลงมีผู้นำคนไหนบ้างที่ไม่พยศ? แม้นางจะทำเกินหน้าที่ไปบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรงถึงขั้นต้องถูกเนรเทศ“คิดอะไรอยู่หรือ?” คทามังกรเห็นนางเงียบไปจึงถามจ่านเหยียนพิจารณาเรื่องราวทั้งหมดรอบหนึ่ง อดประหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ตอนนี้นางหวังเพียงมังกรร้ายจะไม่ใช่มังกรเพลิง มิเช่นนั้นนางจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์นี้“เปล่า” จ่านเหยียนเก็บคทามังกรแล้วกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง รู้สึกอึดอัดใจยิ่งนักอาเสอเข้ามาเงียบ ๆ “ท่านยังไม่บอกเลยว่าใครจะปราบถงไทเฮาได้”จ่านเหยียนราวกับเพิ่งนึกถึงเรื่องนี้ มองอาเสอแล้วตอบ “อดีตฮ่องเต้”“อดีตฮ่องเต้มิใช่ตายไปแล้วหรือ?” พอถามออกไป อาเสอก็รู้สึกว่าตัวเองถามได้ปั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 286

    ถงไทเฮาเห็นนางเช่นนี้ก็รู้ว่านางไม่มีวิธีดีอะไร จึงอดพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิดไม่ได้ “พอที เจ้าออกไปเถอะ หวังพึ่งเจ้าไม่ได้เลย เสียแรงที่ข้าให้ความสำคัญกับเจ้า”หรูหัวพูดอ้อมแอ้ม “ไทเฮาโปรดระงับโทสะด้วยเพคะ จู่ ๆ ก็ให้บ่าวคิด บ่าวยังจับอะไรไม่ได้เลย มิสู้ให้บ่าวกลับไปคิดสักสองสามวันเถอะเพคะ?”“ออกไปเถอะ!” ถงไทเฮานั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มองใบหน้าล่วงเลยวัยของตัวเอง เกิดอารมณ์โกรธขึ้นมาทันทีบุตรสาวสกุลถงคนหนึ่งโดดเด่นกว่าอีกคนหนึ่ง มีเพียงนางที่ราวกับมิใช่คนสกุลถง ผิวดำก็ช่างเถอะ เครื่องหน้ายังเรียบง่ายเช่นนี้ วัยเยาว์ยังใช้คำว่าเรียบง่ายได้ แต่บัดนี้สูงวัยมากขึ้นทุกที กลับขี้ริ้วขี้เหร่มากขึ้นทุกวันความรู้สึกเสื่อมถอยในใจนางรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ความแค้นที่มีต่อจิ้นหรูก็เพิ่มพูนมากขึ้นเหมือนกัน กระทั่งว่าความแค้นเช่นนี้ยังลามไปถึงตัวหลงจ่านเหยียน นางคิด ก่อนอดีตฮ่องเต้จะสวรรคตได้เจอกับสาวน้อยงดงามปานบุปผาเช่นนี้ คงชอบมากกระมัง?แสงเทียนในตำหนักวูบไหว สายลมแทรกตัวเข้ามาจากร่องหน้าต่าง เงาของนางทอดตัวอยู่บนกำแพง ดูสูงส่งกำยำนางมิใช่คนรูปร่างอรชร อาภรณ์ในแบบเดียวกัน คนอื่นมักสวมใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 1  

    “ลูกไม่ยอม!” ณ โถงประชุมภายในจวนแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่มีผู้คนจำนวนมากนั่งอยู่อย่างพร้อมหน้า แม่ทัพหลงซึ่งสวมเสื้อคลุมยาวผ้าไหมปักลายเหยี่ยวเหินฟ้ากำลังนั่งอย่างสง่าผ่าเผยอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือ ท่าทางทรงพลังอำนาจน่าเกรงขาม ที่นั่งข้างกายของเขาคือหลงฮูหยิน ภรรยาโฉมงามซึ่งสวมชุดคลุมผ้าแพรต่วนสีเขียวปักลายบุปผาสีสันแพรวพราว ทว่าดวงหน้าและแววตาของหลงฮูหยินกลับเจือด้วยความกังวล และกำลังจ้องมองหลงจ่านเหยียนผู้ซึ่งกำลังคุกเข่าตัวสั่นเทิ้มอยู่บนพื้นด้วยสายตาเดียวกับแม่ทัพหลง ภายในโถงประชุม ยังมีผู้อาวุโสที่อายุมากแล้วอีกสองท่านและดรุณีซึ่งสวมอาภรณ์หรูหราด้วยอีกหลายท่าน ไม่มีผู้ใดกล้าส่งเสียงออกมา สีหน้าแววตามีแต่ความมืดครึ้มและขุ่นเคืองอย่างถึงที่สุด ทว่าภายใต้ความกดดันของทุกคน คำว่า ‘ลูกไม่ยอม’ ของหลงจ่านเหยียน ช่างดูอ่อนแอไร้พลังเสียนี่กระไร? หลงฮูหยินละสายตา ก่อนจะผุดยิ้มบาง ๆ ตรงมุมปากและกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นนุ่มนวลอย่างถึงที่สุด “จ่านเหยียน ฝ่าบาทมีพระราชโองการแต่งตั้งเจ้าเป็นฮองเฮา นี่เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของฝ่าบาท เจ้ามีหน้าที่แค่ซาบซึ้งในน้ำพระทัยของฝ่าบาทและน้อมนำคำสั่ง

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 2  

    ภาพที่น่าสังเวชเช่นนี้ มิอาจทำให้แม่ทัพหลงรู้สึกสะทกสะท้านได้เลยแม้แต่น้อย หว่างคิ้วของเขาปรากฏความฉุนเฉียวและหงุดหงิด หากว่านางยังไม่ตอบรับคำอีก เกรงว่าในวังจะต้องเอาผิดแน่ ฮองเฮาพระองค์ใหม่เสด็จเข้าวังหลวง จะร่ำไห้คร่ำครวญไปตลอดทางมิได้ หลงฮูหยินยื่นมือไปกุมมือของแม่ทัพหลงไว้ แววตาฉายประกายเหลืออดเกินทน “ท่านแม่ทัพ มิสู้ ให้นางกลับไปก่อน คืนนี้ข้าจะไปคุยกับนางดี ๆ เองเจ้าค่ะ!” แม่ทัพหลงรู้ดีว่าฮูหยินเป็นคนจิตใจดีมีเมตตา ทนเห็นการลงโทษที่โหดร้ายทารุณเช่นนี้ไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นนับแต่เมื่อคืนจนถึงบัดนี้ ทนทรมานมาแล้วหนึ่งคืน แต่ยังไม่เห็นวี่แววว่าเจ้าบุตรีดื้อด้านผู้นั้นจะยอมโอนอ่อนผ่อนตาม ดูเหมือนว่าไม้แข็งจะใช้ไม่ได้ผล ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยขึ้นว่า “เอาตามนั้นเถิด เจ้าไปคุยกับนางแล้วกัน!” พูดจบ ก็โบกมือ ก่อนจะชำเลืองมองหลงจ่านเหยียนอย่างรังเกียจเดียดฉันท์ และออกคำสั่งว่า “พาตัวนางกลับไป!” หลงจ่านเหยียนแขนขาหมดเรี่ยวแรงทิ้งตัวกองไปกับพื้นเนื้อตัวสั่นเทิ้ม ทั้งสิบนิ้วเจ็บปวดมาถึงหัวใจ สำหรับนาง มันชินชาไปแล้ว บ้านหลังนี้ นางก็เป็นแค่สุนัขตัวหนึ่งที่มาขออาศัย ถูกเจ้าของ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 3  

    ศีรษะของนางโน้มไปด้านหน้าเล็กน้อย ดวงตาฉายแววสะใจและบ้าคลั่ง กดเสียงลงต่ำ ราวกับนั่นเป็นเสียงปีศาจที่ลอดผ่านออกมาจากในลำคอ ทั้งที่ถ้อยคำโหดเหี้ยมอำมหิตปานนั้นแต่กลับเอ่ยอย่างเรียบง่าย “นางถูกกดหัวลงไปในถังปฏิกูล จนสำลักตาย หลังจากตาย ข้าก็ยัดยันต์คาถาข้าวเหนียวและตะปูเข้าไปในปากของนาง จากนั้นค่อยตัดแขนขาทั้งสี่ของนาง และส่งนางไปเฝ้าท่านพญายมในปรโลก ในสภาพที่ร้องทุกข์ไม่ได้ จะชาติภพไหน ก็ไม่มีทางกลับมาเกิดเป็นคนได้อีก!” หลงจ่านเหยียนพลันเงยหน้าขึ้นทันใด นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงและเสียขวัญ ทั่วร่างสั่นเทิ้มอย่างรุนแรงโดยไม่อาจควบคุม น้ำเสียงโกรธแค้นทะลุผ่านความขลาดกลัวในโพรงปาก “เหตุใด…ท่านถึงชั่วร้ายอำมหิตเพียงนี้?” หลงฮูหยินนั่งตัวตรง ก่อนผุดยิ้มออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “อำมหิตหรือ? ไม่นับว่าใช่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่เจ้าต้องถูกฝังศพสังเวยชีวิตหลังได้รับแต่งตั้งเป็นฮองเฮา เป็นการจัดการของบิดาเจ้าเพียงผู้เดียว? อย่าหาว่าพวกข้าใจดำอำมหิตเลย หากจะโทษก็ไปโทษมารดาแท้ ๆ ของเจ้าเถิดที่เกิดมาต่ำต้อย กลับมีใจทะเยอทะยานอยากเป็นเจ้านาย บิดาเจ้าก็ใช่ว่าจะเอาเปรียบเจ้า ให้เจ้าได้ตายในนามของ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 4  

    หลงจ่านเหยียนคว่ำคันฉ่องลงกับหน้าโต๊ะ ความทรงจำส่วนหนึ่งของเจ้าของร่างเดิมปรากฏขึ้นในความคิด ก่อนเจ้าของร่างเดิมจะจากไป ความเคียดแค้นอาฆาตพุ่งทะยานขึ้นถึงฟ้า นางเอ่ยขึ้นนิ่ง ๆ “ข้ายังมิได้รับปากเข้าวัง!” ไฉ่หลีเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ฮูหยินกล่าวว่า เรื่องนี้เจ้ามิได้เป็นผู้ตัดสิน มีราชโองการลงมาแล้ว หากเจ้าขัดขืนราชโองการ ชีวิตคงดับอนาถยิ่งกว่าถูกฝังทั้งเป็น ไม่เพียงเท่านี้ แม้แต่ครอบครัวของมารดาต่ำต้อยผู้นั้นของเจ้า ก็จะต้องถูกฝังศพสังเวยชีวิตไปพร้อมกับเจ้าเช่นกัน!” หลงจ่านเหยียนเอ่ยอย่างใช้ความคิด “พูดอีกอย่าง ข้าจำเป็นต้องตอบรับใช่หรือไม่?” ไฉ่หลีเอ่ยอย่างดูแคลน “คุณหนูใหญ่รู้จักว่าง่ายเร็วแบบนี้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องทนทุกข์มากมายเพียงนั้นอีก!” พูดจบ ก็หมุนตัวกลับอย่างเย็นชา เตรียมจะเดินออกไป ทว่าหลงจ่านเหยียนตะโกนเรียกนางไว้ก่อน “แล้วท่านแม่ทัพเล่า?” “เวลานี้ท่านแม่ทัพอยู่ที่โถงหลัก กำลังหารือกับฮูหยินถึงกิจธุระต่าง ๆ ที่จะต้องเตรียมให้เจ้าเข้าวัง ในเมื่อเจ้าต้องแต่งเข้าวังหลวง ฉะนั้นจะให้สินติดตัวของเจ้ามีน้อยนิดย่อมไม่ได้เด็ดขาด คุณหนูใหญ่มีวาสนาแล้ว!” พูดจบ ก็แสยะยิ้มอย่

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 5  

    ทุกคนในที่แห่งนั้นล้วนเข้าใจ ทุกคนต่างนิ่งเงียบไม่ส่งเสียง ที่เงียบไป ย่อมมิใช่กำลังรู้สึกโศกเศร้าสงสารหลงจ่านเหยียน แต่แค่กำลังคิดถึงการเปลี่ยนแปลงรัชสมัยเปลี่ยนแปลงขุนนาง ไม่รู้ว่าหลังฝ่าบาทสวรรคตและฮ่องเต้พระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์แล้วจะเกิดผลกระทบอะไรขึ้นกับตระกูลหลงบ้าง นางเฉินฮูหยินของหลงฉางอี้ถามขึ้นด้วยความวิตกกังวล “ตอนนี้นางเด็กคนนั้นยอมเห็นด้วยแล้วหรือยังเจ้าคะ? ถึงยามนั้นเกิดร้องไห้โวยวายขึ้นมาจะทำอย่างไร?” หลงฉางเทียนเอ่ยอย่างเย็นชา “นางจะตอบว่าไม่ยอมได้อย่างนั้นหรือ? ถึงยามนั้นแค่กรอกยานอนหลับแล้วส่งตัวเข้าวังไปก็สิ้นเรื่อง พอเข้าวังแล้ว ก็มีคนมาจัดการนางเอง!” “พูดมาก็จริงเจ้าค่ะ!” นางเฉินผุดยิ้ม “คนในวังหลวง ฝีมือร้ายกาจ ถึงยามนั้นหากนางกล้าอาละวาดโวยวาย คงถูกทรมานสาหัสไม่ใช่เล่น!” ทุกคนต่างยิ้มออกมา อนุภรรยาของหลงฉางอี้เอ่ยขึ้นพลางกลัวหัวเราะ “เพราะนางหาเรื่องเจ็บตัวเอง ใครใช้ให้นางดื้อรั้นเล่า?” หลงจ่านเหยียนยืนฟังอยู่หน้าประตูได้ครู่หนึ่งแล้ว จากนั้นก็มีสาวใช้ที่สายตาเฉียบแหลมคนหนึ่งมองเห็นนาง จึงตะโกนว่า “คุณหนูใหญ่มาแล้วหรือเจ้าคะ?” หลงจ่านเหยียนเดินเข้าไป

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 286

    ถงไทเฮาเห็นนางเช่นนี้ก็รู้ว่านางไม่มีวิธีดีอะไร จึงอดพูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิดไม่ได้ “พอที เจ้าออกไปเถอะ หวังพึ่งเจ้าไม่ได้เลย เสียแรงที่ข้าให้ความสำคัญกับเจ้า”หรูหัวพูดอ้อมแอ้ม “ไทเฮาโปรดระงับโทสะด้วยเพคะ จู่ ๆ ก็ให้บ่าวคิด บ่าวยังจับอะไรไม่ได้เลย มิสู้ให้บ่าวกลับไปคิดสักสองสามวันเถอะเพคะ?”“ออกไปเถอะ!” ถงไทเฮานั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มองใบหน้าล่วงเลยวัยของตัวเอง เกิดอารมณ์โกรธขึ้นมาทันทีบุตรสาวสกุลถงคนหนึ่งโดดเด่นกว่าอีกคนหนึ่ง มีเพียงนางที่ราวกับมิใช่คนสกุลถง ผิวดำก็ช่างเถอะ เครื่องหน้ายังเรียบง่ายเช่นนี้ วัยเยาว์ยังใช้คำว่าเรียบง่ายได้ แต่บัดนี้สูงวัยมากขึ้นทุกที กลับขี้ริ้วขี้เหร่มากขึ้นทุกวันความรู้สึกเสื่อมถอยในใจนางรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ความแค้นที่มีต่อจิ้นหรูก็เพิ่มพูนมากขึ้นเหมือนกัน กระทั่งว่าความแค้นเช่นนี้ยังลามไปถึงตัวหลงจ่านเหยียน นางคิด ก่อนอดีตฮ่องเต้จะสวรรคตได้เจอกับสาวน้อยงดงามปานบุปผาเช่นนี้ คงชอบมากกระมัง?แสงเทียนในตำหนักวูบไหว สายลมแทรกตัวเข้ามาจากร่องหน้าต่าง เงาของนางทอดตัวอยู่บนกำแพง ดูสูงส่งกำยำนางมิใช่คนรูปร่างอรชร อาภรณ์ในแบบเดียวกัน คนอื่นมักสวมใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 285

    หากบอกว่ามังกรร้ายตนนั้นก็คือมังกรเพลิง เช่นนั้นนางก็ไม่มั่นใจว่าจะรับมือได้เพราะนอกจากมังกรเพลิงจะเป็นเทพโบราณ ยังถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับผานกู่ มีแต่ผานกู่ที่กำราบเขาได้สกุลหลง หากพูดให้น่าฟังคือกลายร่างมาจากวิญญาณของผานกู่ แต่... หากจะพูดให้ชัดเจน พวกนางเป็นแค่ทูตที่ผานกู่ใช้คุมกฎสามโลกจ่านเหยียนเริ่มคิด การที่พวกตาเฒ่าสุสานผานกู่ให้นางมายุคสมัยนี้ต้องมีจุดประสงค์ไม่ธรรมดาแน่ ขัดเกลานิสัยนาง? ช่างเถอะ สกุลหลงมีผู้นำคนไหนบ้างที่ไม่พยศ? แม้นางจะทำเกินหน้าที่ไปบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรงถึงขั้นต้องถูกเนรเทศ“คิดอะไรอยู่หรือ?” คทามังกรเห็นนางเงียบไปจึงถามจ่านเหยียนพิจารณาเรื่องราวทั้งหมดรอบหนึ่ง อดประหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ตอนนี้นางหวังเพียงมังกรร้ายจะไม่ใช่มังกรเพลิง มิเช่นนั้นนางจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์นี้“เปล่า” จ่านเหยียนเก็บคทามังกรแล้วกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง รู้สึกอึดอัดใจยิ่งนักอาเสอเข้ามาเงียบ ๆ “ท่านยังไม่บอกเลยว่าใครจะปราบถงไทเฮาได้”จ่านเหยียนราวกับเพิ่งนึกถึงเรื่องนี้ มองอาเสอแล้วตอบ “อดีตฮ่องเต้”“อดีตฮ่องเต้มิใช่ตายไปแล้วหรือ?” พอถามออกไป อาเสอก็รู้สึกว่าตัวเองถามได้ปั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 284

    ไม่นานอาเสอก็เอายันต์ระงับปวดมา จ่านเหยียนให้จิ้นหรูกินลงไป แต่จิ้นหรูเป็นคนธรรมดา ไม่สามารถใช้ยันต์ระงับปวดได้บ่อยครั้งหวังแต่อีกสองวันบาดแผลของนางจะดีขึ้น เช่นนั้นความทรมานย่อมทุเลาลงแพล็บเดียวก็เกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ จ่านเหยียนจำเป็นต้องจัดระเบียบให้ดีนางกลับไปยังตำหนักบรรทมของตัวเอง สั่งให้ทุกคนออกไปแล้วอัญเชิญคทามังกรออกมา คทามังกรกลายร่างเป็นมังกรทองตัวน้อยปรากฏอยู่ในมือของจ่านเหยียน“ตอนที่ข้าใช้มหาเวทสวัสติกะ เจ้าไปไหน?” จ่านเหยียนถามมังกรน้อยตอบ “ใช่ว่าข้าออกไปพลการ แต่พลังแข็งแกร่งขุมหนึ่งดึงข้าไป ตอนนี้ข้าทะลุผ่านหน้าอกของคนผู้หนึ่ง พลังสลายไปทันที แต่ไม่นานก็รวมพลังได้อีก ดังนั้นจึงออกจากร่างกายของคนผู้นั้นได้”“ใครกัน?” จ่านเหยียนขมวดคิ้วสงสัย“ไม่ทันมองให้ชัด ตอนนั้นข้าเองก็แตกตื่นมากเหมือนกัน นี่คือเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ข้าถึงกลับถูกขังอยู่ในร่างของมนุษย์คนหนึ่งออกมาไม่ได้ สำหรับข้าแล้ว นี่คือเรื่องที่ไม่เอาไหนสิ้นดี” มังกรน้อยเอ่ยอย่างเศร้าสร้อย“เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นมนุษย์?” จ่านเหยียนถาม“แน่ใจ ร่างกายของเขาปราศจากพลังวิญญาณ บางทีเขาอาจเป็นเทพโบรา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 283

    เขาหน้าแดงซ่าน ดึงตัวออกห่างระยะหนึ่งจังหวะที่เห็นจิ้นหรู เขานิ่งงันไปทั้งคนเขาจำได้ จิ้นหรูเป็นคนใจดี ทุกครั้งที่ถูกเสด็จพ่อตำหนิ นางมักเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยน ช่วยเขาพูด ความจริงในใจของเขาไม่เคยเห็นจิ้นหรูเป็นคนรับใช้มาก่อนนางมีใบหน้างดงามยิ้มแย้มเสมอ เสด็จพ่อทรงเชื่อคำพูดของนางมาก ทุกครั้งที่นางเอ่ยปาก มักระงับโทสะของเสด็จพ่อได้แต่... บัดนี้ดวงหน้างดงามนั้นหายไปแล้ว แทนที่ด้วยใบหน้าเลือดเนื้อเละเทะดวงหนึ่ง บาดแผลบนใบหน้ายังมีน้ำเลือดนองอยู่“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?” เสียงของเขาสั่นเครือเล็กน้อย ที่เขารับไม่ได้คือ นอกจากจิ้นหรูจะมีสารรูปเหมือนผีแล้ว ยังไม่กล้าเชื่อว่าเสด็จแม่ของตัวเองจะเหี้ยมโหดถึงเพียงนี้“ฝ่าบาท สิบนิ้วของนางถูกตอกด้วยตะปูไม้ท้อ ขาทั้งสองถูกตีจนหัก บนตัวไม่มีส่วนไหนที่ดี ฝ่าบาทมิทรงเห็นสภาพที่ไทเฮาทรงรักษาให้นางเมื่อครู่ หากทรงเห็น เกรงว่าหัวใจคงต้องสะท้าน” ผู้ที่เอ่ยคือกัวอวี้ นางเอ่ยปนสะอื้นเล็กน้อย มันคือความจริง เมื่อครู่หลังจากเห็นแผลบนตัวของจิ้นหรูแล้ว หัวใจก็สะท้านไม่หยุด“ฝ่าบาท!” จิ้นหรูลืมตาขึ้น ไม่มีกำลังแม้แต่จะเอื้อนเอ่ย อาจเพราะความเจ็บปวด

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 282

    จ่านเหยียนกลับนั่งนิ่ง ปรายตาบริสุทธิ์มองมู่หรงเจี้ยน “วันนี้ฝ่าบาทเสด็จมา ไม่แค่เพื่อถวายพระพรข้าผู้เป็นไทเฮากระมัง?”“เราขอถามท่าน เสด็จแม่ของข้ามีความแค้นอันใดกับท่าน ไยท่านต้องสั่งคนพังตำหนักชิงหนิงด้วย?!” มู่หรงเจี้ยนเอ่ยด้วยโทสะจ่านเหยียนคลี่ยิ้ม “ประการแรก ฮ่องเต้เรียกผิดแล้ว ข้าต่างหากที่เป็นเสด็จแม่ของพระองค์ สำหรับท่านนั้น ท่านก็เรียกว่าเสด็จแม่ได้ แต่... อย่าได้เรียกต่อหน้าข้า ประการที่สอง มิใช่ข้ามีความแค้นกับนาง แต่นางมาหาเรื่องข้า ข้าจึงจำต้องมีมารยาทตอบกลับ”“ท่านก็คู่ควรให้เราเรียกว่าเสด็จแม่?” มู่หรงเจี้ยนวาวโรจน์จ่านเหยียนยิ้มน้อย ๆ แล้วยื่นมือไปคล้องเขา “มานี่ ข้าจะบอกกับพระองค์เรื่องหนึ่ง”นางทำหน้าฉงนฉงาย มุมปากยิ้มสดใสมาก แววตามีความลับลมคมใน ราวกับเรื่องที่นางจะบอกคือความลับยิ่งใหญ่เขาอดเขยิบเข้าไปไม่ได้ “เรื่องอะไร ว่ามา!”จ่านเหยียนยื่นมือออกไป รอยยิ้มตรงมุมปากเปลี่ยนเป็นเย็นชาฉับพลัน มือทำมุมตรงหน้าเขาแล้วหวดลงไปเต็มแรงเกิดเสียงใสกังวานดังเพียะบรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาทันทีกัวอวี้คิดไม่ถึงว่าจ่านเหยียนจะไม่ไว้หน้าฮ่องเต้เช่นนี้ ตกใจจนหน้าซีดเผือดทั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 281

    จ่านเหยียนกำลังรักษาให้จิ้นหรูอยู่ในตำหนักหรูหลาน ทั้งเนื้อทั้งตัวของจิ้นหรูแทบไม่มีจุดใดอยู่ในสภาพดีเลย ใบหน้าถูกกรีดหลายแผล ถึงเนื้อทุกคมมีด หากจะใช้คำว่าเลือดเนื้อเละเทะก็คงไม่เกินไปสักนิดสองขาถูกตีจนหัก รอยแส้ทั่วสรรพางค์กาย สองมือถูกตอกด้วยตะปูไม้ท้อสิบเล่ม ในตอนที่ถอนออกมา จิ้นหรูเจ็บจนตัวสั่นเทิ้มจ่านเหยียนรู้สึกจุดอยู่ในอก มิอาจระบาย ใบหน้าขมึงทึงจนเหมือนท้องฟ้าก่อนพายุฝนฟ้าคะนองจะมาถึงบาดเจ็บหนักขนาดนี้ เลือดไหลมากอย่างนี้ หากมิใช่อาเสอใช้พลังวิญญาณสกัดหัวใจของนางเอาไว้ก็คงเสียชีวิตไปนานแล้ว“แค่พังตำหนักชิงหนิงของนาง ยังถือว่าน้อยไป” จ่านเหยียนเอ่ยอย่างเคียดแค้น“จิ้นหรูเป็นอะไรหรือไม่เพคะ?” กัวอวี้ถามด้วยความกังวล“ไม่ตายหรอก แต่... หากจะรักษาบาดแผลทั้งตัวนี้ เกรงจะไม่ง่ายอย่างนั้น” จ่านเหยียนเอ่ย“ข้าจะไปฆ่านางแก่ใจร้ายนั่น” อาเสอด่าทอด้วยความโมโหโทโส“ไม่รีบ!” จ่านเหยียนเอ่ย “คนชั่วย่อมมีคนชั่วทรมาน”“นอกจากพวกเรา วังหลังยังจะมีใครจัดการนางได้อีก?” อาเสอเอ่ยด้วยโทสะ “คุณหนูใหญ่ เมื่อก่อนท่านมิได้อ่อนแอเช่นนี้ ตอนนี้ถูกคนขี่อยู่บนหัวแล้ว ท่านยังจะรอวันจัดการนางอ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 280

    ไม่นานเรื่องที่จ่านเหยียนพังตำหนักชิงหนิงก็ดังกระฉ่อนไปทั่ววังหลวงจงเสี้ยนไทฮองไทเฮากริ้วหนัก แต่นางไม่ได้ทำอะไร การที่หลงจ่านเหยียนกล้าพังตำหนักชิงหนิง เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวันนี้มิอาจเทียบวันวานนึกถึงตอนที่นางเข้าวังใหม่ ๆ แล้วมาคารวะ ใจเสาะขี้กลัวปานนั้น แม้แต่คุกเข่าก็ยังถลาลงไปกับพื้น ชวนให้คนตลกขบขันใครจะคิด วันนี้นางกลับกล้าพังตำหนักชิงหนิง?ดูท่านางคงบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว มิเช่นนั้น ด้วยเบื้องหลังของฐานะนาง นางจะไม่กล้าทำเช่นนี้เด็ดขาดหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นที่พังตำหนักชิงหนิงในวันนี้ก็คงเป็นแผนการของเซ่อเจิ้งอ๋องเหมือนกันเขาจะทำอะไร?ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ถงจื่อหยาเกิดเรื่อง โจมตีสกุลถงต่อ?“หย่าจู้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ไทฮองไทเฮาถามหมัวมัวด้านข้างหย่าจู้คิดแล้วจึงเอ่ย “หลงจ่านเหยียนผู้นี้เหนือความคาดหมายอยู่บ้างจริง ๆ ก่อนหน้านี้แทรกแซงเรื่องของหยวนผินยังพอพูดได้ว่าอยากได้หน้า แต่การพังตำหนักชิงหนิงนี้ เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งจะทำได้ โดยเฉพาะนางที่เป็นสตรีเช่นนี้เพคะ”“พูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าคิดว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคือผู้บงการหรือ?”“ยาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 279

    นางทิ้งมือทั้งสองลง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาอาเสอตกใจ ยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจของนางฉับพลัน จากนั้นก็เงยหน้ามองจ่านเหยียนอย่างตกตะลึงจ่านเหยียนเอ่ยเสียงหนัก “ปกป้องหัวใจของนางก่อน”ถงไทเฮาหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตามีความกระหยิ่มยิ้มย่องและสาแก่ใจ “นางตายแน่”อาเสออุ้มจิ้นหรูเข้าไปในตำหนัก แต่ช้าไป นางมิอาจช่วยไว้ได้จ่านเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอาหู “รอพวกเราออกไปแล้วก็พังตำหนักชิงหนิงเสีย”อาหูฉายรอยยิ้มหนาวเหน็บ “เพคะ!”“หลงจ่านเหยียน เจ้าน่าจะรู้นะ ภัยเกิดจากปาก ต่อให้วันนี้เจ้าพังตำหนักชิงหนิงของข้าไม่ได้ ข้าก็บันทึกแค้นนี้เอาไว้แล้ว” ถงไทเฮาเอ่ยข่มขู่จ่านเหยียนยิ้มระรื่น “วางใจ ไม่ว่าเรื่องใดที่ลงมือได้ ข้าจะไม่เปลืองน้ำลายเด็ดขาด”ผ่านไปพักหนึ่ง อาเสออุ้มจิ้นหรูออกมาแล้วพยักหน้ากับจ่านเหยียน “กลับไปเถอะ!”จ่านเหยียนเดินตามอาเสอออกไป จากนั้นก็หันมาสั่งกับอาหู “พังตำหนักชิงหนิงแล้วไปพาอาถงกับอาเถี่ยออกมาจากห้องมืดเถอะ”“รับบัญชา!” อาหูขานรับอย่างเริงร่าสวรรค์รู้ นางเห็นจิ้นหรูมีเลือดเต็มตัวแล้วอยากฆ่านางอัปลักษณ์ผู้นี้แค่ไหน หากติดตามนายที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 278

    จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทางผ่อนคลาย นั่นคือตำแหน่งที่ถงไทเฮานั่งยามมีนางสนมมาเข้าเฝ้านางเอ่ยกับอาเสอและอาหู “ค้นตำหนักชิงหนิงให้ทั่ว ข้าต้องพบจิ้นหรู”“ช้าก่อน!” ถงไทเฮามองจ่านเหยียนแบบคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม “น้องหญิงตั้งใจจะมาอาละวาดที่นี่หรือ? คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”จ่านเหยียนโบกมือ “เรื่องอาละวาดต้องอาละวาดแน่แล้ว สำหรับผลที่จะตามมา ยังไม่มีเวลาคิดจริง ๆ และไม่คิดจะคิดด้วย”อาเสอและอาหูได้ยินคำนี้ของจ่านเหยียนก็ยิ้มร้ายกับถงไทเฮา จากนั้นก็จะเข้าไปค้นทันทีทันใดนั้นก็มีองครักษ์สิบกว่าคนออกมาขวางอาหูกับอาเสอปีศาจสองตนนี้เอาไว้มีหรือเหล่าองครักษ์จะเห็นพวกนางอยู่ในสายตา ผู้ที่อยู่ข้างหน้าคือหัวหน้าองครักษ์ของตำหนักชิงหนิง เขาตวาดกับอาเสอและอาหู “พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมในตำหนักชิงหนิงหรือ?! อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ยั้งไมตรีก็แล้วกัน!”กระบี่ยาวชี้มาทางอาเสอด้วยความเร็วยิ่ง ปลายกระบี่มาพร้อมกับคมกระบี่ อาเสอเคยเห็นอาซานแสดงฝีมือมาก่อน แม้เขาจะมีฝีมือด้อยกว่าอาซาน แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำแล้วกระบี่ของเขาเร็วนั้นไม่ผิด กลับไม่ส่งผลกระทบซึ่งเป็นการไม่เกรงใจอาเสอใ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status