Share

บทที่ 83

Penulis: ลิ่วเยว่
“เหลียงกุ้ยเหรินน่าจะรู้คร่าว ๆ เช่นกัน แต่นางก็ต้องลองเสี่ยงดู เพราะไม่ว่าลูกของนางจะหลุดออกมาหรือไม่ ขอเพียงพิสูจน์ว่าหยวนผิดใส่ชะมดเช็ดไว้ในถุงหอม ทำให้ทารกในครรภ์ของนางไม่มั่นคง นางก็ต้องโดนเล่นงานเหมือนกัน” จ่านเหยียนกล่าว

“แล้วหมอหลวงหลี่รู้ได้อย่างไรเพคะ?” จิ้นหรูเอ่ยถาม

“เหลียงกุ้ยเหรินอยากลอบติดสินบนหมอหลวงเพื่อปิดบังฮองเฮา แต่หมอหลวงหลี่รับเงินของเหลียงกุ้ยเหรินแล้วกลับหักหลังเหลียงกุ้ยเหริน คนเช่นนี้ ต่อให้ตายร้อยครั้งก็ยังไม่สาสม” จ่านเหยียนเอ่ยอย่างเย็นชา

“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพคะ!” จิ้นหรูพูดอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็เงยหน้ามองจ่านเหยียน “คุณหนูใหญ่รู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไรเพคะ?”

จ่านเหยียนแย้มยิ้ม เล่นไข่มุกราตรีในมือ “ใต้หล้านี้ ขอเพียงข้าอยากรู้ก็ไม่มีเรื่องใดที่ข้าไม่อาจรู้ได้”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของนาง กัวอวี้กับจิ้นหรูก็สบตายิ้มให้กัน ดีเหลือเกิน ดูเหมือนว่าคุณหนูใหญ่กำลังจะลงมือโจมตีแล้ว

“อันที่จริงคุณหนูใหญ่ไม่จำเป็นต้องช่วยหยวนผินเลย ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาเนิ่นนานถึงเพียงนี้ เหตุใดจู่ ๆ ถึงอยากไปหาเรื่องคนตระกูลถงเพคะ?” จิ้นหรูเอ่ยถา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 84

    ภายในตำหนักเฟยเฟิ่งถงไทเฮาถงยังไม่ได้จากไป นั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือในท้องพระโรง เก้าอี้ตัวนี้เป็นเก้าอี้ที่จ่านเหยียนนั่งเมื่อครู่นี้นางโกรธจนสั่นไปทั้งตัว ใบหน้าที่เดิมทีหมองคล้ำยิ่งดูอึมครึมมากขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่นางจะส่งสายตาเย็นเยียบราวกับเกาทัณฑ์ไปหาฮองเฮา “เจ้าดูสิว่าเจ้าทำเรื่องอะไรลงไปบ้าง? เหตุใดที่หาเรื่องให้นังแพศยานั่นออกมาด้วย?”ฮองเฮาถูกหลงจ่านเหยียนทำลายเรื่องดี ๆ และถูกกักบริเวณ ในใจรู้สึกคับข้องใจมากแล้ว เมื่อเห็นถงไทเฮาตำหนินางอีกก็อดตาแดงไม่ได้เช่นกัน “ท่านป้า ใครจะคาดคิดนางจะร้ายกาจถึงเพียงนี้? เมื่อก่อนเห็นนางหลบอยู่ในตำหนักหรูหลานเหมือนกับกระต่าย ยังนึกว่าไม่มีความน่ากลัวเสียอีก” ความเคียดแค้นแล่นวาบขึ้นมาในดวงตาอึมครึมของถงไทเฮา “นางแย่งตำแหน่งของข้าไม่ว่า ตอนนี้ยังกล้ากำเริบเสิบสานเหนือหัวข้าอีก นางเห็นว่าคนตระกูลถงของเรารังแกง่ายจริง ๆ หรือไร?” “ท่านป้า ท่านว่าตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเพคะ?” ฮองเฮาเอ่ยถามอย่างคับแค้นใจ “หรือว่าหม่อมฉันต้องโดนกักบริเวณสามเดือนเต็มจริง ๆ หรือเพคะ? “เจ้าก็นะ” ถงไทเฮากวาดมองนางแวบหนึ่ง “ก็ควรคิดทบทวนให้ดี ๆ หยวนผินได้รับโปรดป

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 85

    ถงไทเฮาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกัวเจียเสี่ยงว่า “รู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดถึงถูกลงโทษให้คุกเข่า?”กัวเจียเสี่ยงตอบว่า “บ่าวไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ แต่ได้ยินนางกำนัลที่กวาดพื้นตรงหน้าประตูบอกว่าตอนที่หยวนผินบุกเข้าไปในตำหนักหรูหลาน ได้เห็นเรื่องที่ไม่ควรเห็นเข้า หมู่โฮ่วฮองไทเฮาเลยโกรธเกรี้ยวเพราะเหตุนี้พ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องที่ไม่ควรเห็น?” ฮองเฮาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “ตำหนักหรูหลานนี้มีเรื่องอะไรที่ไม่อาจให้คนเห็นได้?” นางกล่าวจบก็ส่งเสียงถุยทันที นึกถึงข่าวลือในวังก่อนหน้านี้ “คิดว่านางกำลังแอบนัดพบนักดนตรีผู้นั้นแล้วถูกหยวนผินเจอเข้า” ถงไทเฮาส่งเสียงอืม “หากเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ไม่ต้องสิ้นเปลืองความคิดไปจัดการหยวนผินแล้ว นางเห็นเรื่องเสื่อมเสียของสตรีนางนั้นเข้า สตรีนางนั้นย่อมไม่ปล่อยนางเอาไว้แน่”นางชะงักไปครู่หนึ่งแล้วมองฮองเฮาอย่างตำหนิอีกครั้ง “ไม่ใช่ข้าจะว่าเจ้า แต่เจ้าใจแคบเกินไปแล้ว หยวนผินถือว่าเป็นคนว่านอนสอนง่าย เจ้ายังพุ่งเป้าไปที่นางเช่นนี้อีก มิน่าล่ะฝ่าบาทถึงไม่เสด็จมาหาเจ้า”ฮองเฮาเอ่ยอย่างไม่ยินยอมว่า “ฝ่าบาทไม่เสด็จมาก็เพราะโดนนังจิ้งจอกหยวนผินผู้นั้นล่อลวงจิตใจ หา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 86

    เช้าวันรุ่งขึ้น จวนเซ่อเจิ้งอ๋อง“สวรรค์ ผีหลอกแล้วจริง ๆ!” ฮุ่ยอวิ่นเดินเข้ามาด้วยสภาพหน้าตามอมแมมเต็มไปด้วยฝุ่น เมื่อเข้าประตูมาแล้วก็ร้องตะโกนมู่หรงฉิงเทียนเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะหนังสือ มู่หรงฉิงเทียนเงยหน้าจากโต๊ะหนังสือ ดวงตาเฉียบแหลมภายใต้คิ้วเรียวกวาดมองอย่างเฉยชา “เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?”“วันนี้ได้ยินเรื่องประหลาดมา!” ฮุ่ยอวิ่นนั่งลงมา ใบหน้ายังคงมีสีหน้าตกตะลึง“พูดมา!” มู่หรงฉิงเทียนเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง“วันนี้อาซานออกมารายงาน บอกว่าเมื่อวานหลงจ่านเหยียนออกจากตำหนักหรูหลาน แถมยังไปช่วยหยวนผินที่ตำหนักเฟยเฟิ่งของฮองเฮาด้วย ทำลายแผนการใส่ร้ายหยวนผินของฮองเฮาจนยับเยิน ไม่เพียงแค่นั้น นางยังกดดันถงไทเฮา ถงไทเฮาทำได้เพียงโกรธจัดต่อหน้านางเท่านั้น!”“เล่ามาทีละขั้น!” สายตาของมู่หรงฉิงเทียนฉายแววประหลาดใจ แต่สีหน้ากลับสงบนิ่งมากฮุ่ยอวิ่นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนักเฟยเฟิ่งเมื่อวานนี้ให้มู่หรงฉิงเทียนทราบทีละอย่าง แม้แต่เรื่องจ่านเหยียนสังหารหมอหลวงหลี่ก็เล่าออกมาจนหมดมู่หรงฉิงเทียนเชยตาขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ “นางเป็นคนสั่งฆ่าหมอหลวงหลี่จริง ๆ หรือ?”“ใช่แล้ว แค่คำพูดประโย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 87

    ฤดูใบไม้ร่วง ปีที่สามสิบเจ็ดของรัชสมัยเกาจง เวลานั้นเกาจงทรงประชวรหนัก จึงให้ถงไท่ซือบริหารราชการแผ่นดินแทน ถงไท่ซือใช้โทษฐานว่าตระกูลหนานกงก่อกบฏ กวาดล้างวงศ์ตระกูลหนานกงสามพันเจ็ดร้อยยี่สิบเจ็ดชีวิตคุณชายเล็กของตระกูลหนานกงโชคดีหนีรอดมาได้เพราะติดตามแม่นมออกจากเมืองไปไหว้พระขอพร วงศ์ตระกูลหนานกงทั้งหมดจึงเหลือสายเลือดแค่เขาคนเดียวคุณชายเล็กผู้นี้ ปีนั้นมีอายุแค่แปดปี เขาก็คือฮุ่ยอวิ่นในปัจจุบันส่วนบุตรีของแม่ทัพหนานกงคืออวิ๋นกุ้ยเฟยในเวลานั้น นางเป็นป้าของฮุ่ยอวิ่นเนื่องจากก่อนที่เกาจงจะสิ้นพระชนม์ ได้ออกพระราชโองการห้ามไม่ให้ผู้ใดลงโทษอวิ๋นกุ้ยเฟย ดังนั้นกุ้ยเฟยจึงรอดพ้นเภทภัยมาได้ แต่ว่าหลังจากที่เกาจงสวรรคตไปไม่กี่ปีก็ถูกจงเสี้ยนฮองไทเฮาในเวลานั้นวางยาพิษจนตาบอด มือเท้าถูกตัดเส้นเอ็นอวิ๋นกุ้ยเฟยผู้นี้ก็คือพระมารดาแท้ ๆ ของมู่หรงฉิงเทียน ปัจจุบันถูกแต่งตั้งเป็นอวิ๋นกุ้ยไท่เฟย พำนักอยู่ในจวนอันหนิงอ๋องร่วมกับมู่หรงฉิงเทียนดวงตาของมู่หรงฉิงเทียนมีความอาฆาตเคียดแค้นใจ เขาหลับตาลงช้า ๆ ปกปิดคลื่นอารมณ์ปั่นป่วนอย่างรุนแรงในดวงตา สีหน้าก็ค่อย ๆ สงบนิ่งขึ้นมา“ฮุ่ยอวิ่น วันนั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 88

    ด้านนอกสวนดอกไม้ แสงแดดสดใสราวกับทองคำสาดส่องลงมาบนดอกไม้หลากสีสันโดยไม่มีความตระหนี่เลยแม้แต่น้อย มีสตรีนางหนึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้นานที่ทำจากไม้ไผ่ในสวนดอกไม้ นางหลับตา ใบหน้ามีรอยยิ้มจาง ๆ ที่สงบนิ่งสตรีที่สวมชุดอาภรณ์สีเทาเฝ้าอยู่ข้างกายนาง ดึงผ้าห่มบางขึ้นมาคลุมถึงไหล่ให้นาง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า นางก็เงยหน้าขึ้น ดวงหน้ามีรอยยิ้ม ก่อนจะเดินเข้ามาส่งเสียงดังชู่ว์ “ท่านอ๋อง คุณชายฮุ่ยอวิ่น กุ้ยไท่เฟยเพิ่งหลับไป อย่าทำให้นางตื่นเลยเพคะ”ฮุ่ยอวิ่นเด็ดใบไม้ขึ้นมาหนึ่งใบ ก่อนจะเดินเข้าไปปัดขนตาของอวิ๋นกุ้ยไท่เฟยเบา ๆ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มซุกซนว่า “ยังจะแสร้งหลับอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”อวิ๋นกุ้ยไท่เฟยลืมตาขึ้น นัยน์ตามืดมนไร้สีสัน ทว่ารอยยิ้มตรงมุมปากกลับยิ่งลึกขึ้น “ก็ยังปิดบังเด็กบ้าอย่างเจ้าไม่ได้อยู่ดี”“เป็นเพราะทักษะการแสดงของไท่เฟยแย่เกินไป ขนตากระตุกตลอดเลย” ฮุ่ยอวิ่นเอื้อมมือไปปัดดอกไม้ที่ร่วงหล่นบนบ่าของนางออก“เสด็จแม่ วันนี้รู้สึกว่าเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?” มู่หรงฉิงเทียนเอ่ยถามอวิ๋นกุ้ยไท่เฟยเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย กลายเป็นท่วงท่ามองมู่หรงฉิงเทียน ก่อนจะยิ้มพลางตอบกลับว่า “ดีข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 89

    “ไปเถิด อย่าพูดร่ำไรเลย ข้ารู้ว่าพวกเจ้ายุ่ง ไม่ต้องมาคารวะทุกวันหรอก ข้ามีอาจู๋อยู่เป็นเพื่อน สบายดีแล้ว”แม้นางจะพำนักอยู่ในเรือนจิ้งหนิงมาเป็นเวลานาน แต่ไม่ได้หมายความว่านางจะตัดขาดจากโลกภายนอก เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นภายนอก นางล้วนรู้ดีดวงตามืดบอดไปแล้ว แต่หัวใจกลับยิ่งกระจ่างแจ้งหลังจากที่มู่หรงฉิงเทียนกับฮุ่ยอวิ่นจากไปแล้ว อาจู๋ก็ถือชามายืนอยู่ข้างกายอวิ๋นกุ้ยไท่เฟย แล้วเอ่ยถามด้วยความกังวลว่า “จะไม่บอกท่านอ๋องกับคุณชายฮุ่ยอวิ่นจริง ๆ หรือเพคะ?”“ไม่บอกแล้ว จะได้ไม่ต้องทำให้พวกเขาเสียสมาธิเพราะข้า” ความกังวลปกคลุมบนดวงหน้าของอวิ๋นกุ้ยไท่เฟย ก่อนจะเอ่ยอย่างแผ่วเบา“เพียงแต่ว่าคงจะปกปิดไว้ได้ไม่นานเท่าไรนัก” อาจู๋กล่าว“ปิดได้หนึ่งวันก็ปิดหนึ่งวันเถิด ข้าช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้แล้ว ไม่อาจเป็นตัวถ่วงพวกเขาได้ตลอดไป” อวิ๋นกุ้ยไท่เฟยพูดพลางหน้าอกกระเพื่อมขึ้นมา เสียงไอดังครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็กระอักเลือดออกมาอาจู๋ประคองนางไว้ ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา แต่เสียงกลับฟังไม่ออกถึงความผิดปกติ “รีบกลับไปพักผ่อนเถิดเพคะ”ป่วยมานานหลายปีขนาดนี้ กินยามานานหลายปีถึงเพียงนี้ ทำให้ร่

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 90

    คำตอบของหมอหลวงเกินความคาดหมายของไทฮองไทเฮาเล็กน้อย “สุขภาพของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาแย่มากมาโดยตลอดพ่ะย่ะค่ะ หนึ่งปีที่ผ่านมานี้ ไม่เคยขาดยาเลย อีกทั้งกระหม่อมไปจับชีพจรทุก ๆ สิบวัน ชีพจรของนางเบาบางลึกและเชื่องช้า บางครั้งมีบางครั้งไม่มี เป็นลักษณะของอาการป่วยเรื้อรังพ่ะย่ะค่ะ” “จะแสร้งป่วยได้หรือไม่?” ไทฮองไทเฮาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถาม“ไม่ได้หรอกพ่ะย่ะค่ะ อยากจะแสร้งป่วยไม่ใช่เรื่องง่ายดายถึงเพียงนี้ มนุษย์ไม่สามารถควบคุมชีพจรของตนเองได้พ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงเฉินกล่าว “การแสร้งป่วยสามารถทำได้แค่บนสีหน้า เสียงและรูปร่างเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ แต่ว่าขอเพียงตรวจชีพจรสักครั้งล้วนไม่อาจปกปิดการเสแสร้งทุกอย่างไว้ได้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นก็แปลกนัก เมื่อวานนางไปที่ตำหนักเฟยเฟิ่ง สีหน้าแดงระเรื่อ เรี่ยวแรงเต็มเปี่ยม ไม่เหมือนผู้ป่วยเรื้อรังเลยสักนิดเดียว”หย่าจู้มองหมอหลวง ก่อนจะเอ่ยถามว่า “มีตัวยาอะไรที่สามารถทำให้คนกระปรี้กระเปร่า หรือนิสัยเปลี่ยนแปลงอย่างมากหรือไม่?”หมอหลวงเฉินเงยหน้ามองหย่าจู้แวบหนึ่ง “หากกูกูถามเช่นนี้ ก็มีอยู่จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”ไทฮองไทเฮาตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “เป็นยาอะไ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 91

    “เพียงแต่ พวกเขาคงจะไม่กล้าหรอกกระมัง?” หย่าจู้กล่าวอย่างเป็นกังวล“พวกเขาไม่กล้าหรือ? มีข้าคอยหนุนนำอยู่ที่นี่ทั้งคน พวกเขาจะไม่กล้าได้อย่างไร?” ไทฮองไทเฮาเข้าใจหลงฉางเทียนเป็นอย่างยิ่ง “ครั้งนั้นหลงจ่านเหยียนเข้าวังมาได้อย่างไร? ในใจของพวกเขาย่อมรู้ดี และคงกินปูนร้อนท้องไม่น้อย ด้วยกลัวว่าหลงจ่านเหยียนจะเล่นงานหาทางแก้แค้น หากลงมือชิงความได้เปรียบไว้ก่อนได้ ใยจะต้องมาพะว้าพะวังอีก?”หย่าจู้แย้มยิ้มออกมา “ก็ยังเป็นเหล่าจู่จ้งที่ทรงพระปรีชา”พระราชเสาวนีย์ของไทฮองไทเฮามีไปยังตำหนักหรูหลานก่อน จากนั้นจึงส่งไปยังจวนตระกูลหลงหลงฉางเทียนนำผู้ใหญ่และเด็กทั้งจวนออกมารับพระราชโองการ ขันทีประกาศพระราชโองการประคองเขาลุกขึ้น บนใบหน้ามีรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแหลมเล็กว่า “ท่านแม่ทัพ ขอคุยเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่?”หลงฉางเทียนเข้าใจทันทีว่ายังมีความประสงค์อื่นในการมาที่นี่อีก จึงรีบโค้งกายพลางกล่าว “เชิญกงกง!”เขานำทางกงกงประกาศราชโองการเข้าไปยังห้องตำรา หลังจากสั่งให้คนยกน้ำชาแล้วจึงเอ่ยถาม “ไทฮองไทเฮายังมีอันใดรับสั่งอีกหรือ?”กงกงประกาศราชโองการแย้มยิ้มแ

Bab terbaru

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 280

    ไม่นานเรื่องที่จ่านเหยียนพังตำหนักชิงหนิงก็ดังกระฉ่อนไปทั่ววังหลวงจงเสี้ยนไทฮองไทเฮากริ้วหนัก แต่นางไม่ได้ทำอะไร การที่หลงจ่านเหยียนกล้าพังตำหนักชิงหนิง เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวันนี้มิอาจเทียบวันวานนึกถึงตอนที่นางเข้าวังใหม่ ๆ แล้วมาคารวะ ใจเสาะขี้กลัวปานนั้น แม้แต่คุกเข่าก็ยังถลาลงไปกับพื้น ชวนให้คนตลกขบขันใครจะคิด วันนี้นางกลับกล้าพังตำหนักชิงหนิง?ดูท่านางคงบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว มิเช่นนั้น ด้วยเบื้องหลังของฐานะนาง นางจะไม่กล้าทำเช่นนี้เด็ดขาดหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นที่พังตำหนักชิงหนิงในวันนี้ก็คงเป็นแผนการของเซ่อเจิ้งอ๋องเหมือนกันเขาจะทำอะไร?ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ถงจื่อหยาเกิดเรื่อง โจมตีสกุลถงต่อ?“หย่าจู้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ไทฮองไทเฮาถามหมัวมัวด้านข้างหย่าจู้คิดแล้วจึงเอ่ย “หลงจ่านเหยียนผู้นี้เหนือความคาดหมายอยู่บ้างจริง ๆ ก่อนหน้านี้แทรกแซงเรื่องของหยวนผินยังพอพูดได้ว่าอยากได้หน้า แต่การพังตำหนักชิงหนิงนี้ เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งจะทำได้ โดยเฉพาะนางที่เป็นสตรีเช่นนี้เพคะ”“พูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าคิดว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคือผู้บงการหรือ?”“ยาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 279

    นางทิ้งมือทั้งสองลง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาอาเสอตกใจ ยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจของนางฉับพลัน จากนั้นก็เงยหน้ามองจ่านเหยียนอย่างตกตะลึงจ่านเหยียนเอ่ยเสียงหนัก “ปกป้องหัวใจของนางก่อน”ถงไทเฮาหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตามีความกระหยิ่มยิ้มย่องและสาแก่ใจ “นางตายแน่”อาเสออุ้มจิ้นหรูเข้าไปในตำหนัก แต่ช้าไป นางมิอาจช่วยไว้ได้จ่านเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอาหู “รอพวกเราออกไปแล้วก็พังตำหนักชิงหนิงเสีย”อาหูฉายรอยยิ้มหนาวเหน็บ “เพคะ!”“หลงจ่านเหยียน เจ้าน่าจะรู้นะ ภัยเกิดจากปาก ต่อให้วันนี้เจ้าพังตำหนักชิงหนิงของข้าไม่ได้ ข้าก็บันทึกแค้นนี้เอาไว้แล้ว” ถงไทเฮาเอ่ยข่มขู่จ่านเหยียนยิ้มระรื่น “วางใจ ไม่ว่าเรื่องใดที่ลงมือได้ ข้าจะไม่เปลืองน้ำลายเด็ดขาด”ผ่านไปพักหนึ่ง อาเสออุ้มจิ้นหรูออกมาแล้วพยักหน้ากับจ่านเหยียน “กลับไปเถอะ!”จ่านเหยียนเดินตามอาเสอออกไป จากนั้นก็หันมาสั่งกับอาหู “พังตำหนักชิงหนิงแล้วไปพาอาถงกับอาเถี่ยออกมาจากห้องมืดเถอะ”“รับบัญชา!” อาหูขานรับอย่างเริงร่าสวรรค์รู้ นางเห็นจิ้นหรูมีเลือดเต็มตัวแล้วอยากฆ่านางอัปลักษณ์ผู้นี้แค่ไหน หากติดตามนายที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 278

    จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทางผ่อนคลาย นั่นคือตำแหน่งที่ถงไทเฮานั่งยามมีนางสนมมาเข้าเฝ้านางเอ่ยกับอาเสอและอาหู “ค้นตำหนักชิงหนิงให้ทั่ว ข้าต้องพบจิ้นหรู”“ช้าก่อน!” ถงไทเฮามองจ่านเหยียนแบบคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม “น้องหญิงตั้งใจจะมาอาละวาดที่นี่หรือ? คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”จ่านเหยียนโบกมือ “เรื่องอาละวาดต้องอาละวาดแน่แล้ว สำหรับผลที่จะตามมา ยังไม่มีเวลาคิดจริง ๆ และไม่คิดจะคิดด้วย”อาเสอและอาหูได้ยินคำนี้ของจ่านเหยียนก็ยิ้มร้ายกับถงไทเฮา จากนั้นก็จะเข้าไปค้นทันทีทันใดนั้นก็มีองครักษ์สิบกว่าคนออกมาขวางอาหูกับอาเสอปีศาจสองตนนี้เอาไว้มีหรือเหล่าองครักษ์จะเห็นพวกนางอยู่ในสายตา ผู้ที่อยู่ข้างหน้าคือหัวหน้าองครักษ์ของตำหนักชิงหนิง เขาตวาดกับอาเสอและอาหู “พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมในตำหนักชิงหนิงหรือ?! อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ยั้งไมตรีก็แล้วกัน!”กระบี่ยาวชี้มาทางอาเสอด้วยความเร็วยิ่ง ปลายกระบี่มาพร้อมกับคมกระบี่ อาเสอเคยเห็นอาซานแสดงฝีมือมาก่อน แม้เขาจะมีฝีมือด้อยกว่าอาซาน แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำแล้วกระบี่ของเขาเร็วนั้นไม่ผิด กลับไม่ส่งผลกระทบซึ่งเป็นการไม่เกรงใจอาเสอใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 277

    ส่วนกัวอวี้นึกว่าจ่านเหยียนซื้อตัวองครักษ์ในวัง ดังนั้นองครักษ์จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการเดินออกไปของพวกนาง“เข้าไปเถอะ!” อาเสอไม่อยากพูดมาก เดินฉับเข้าไปอย่างเร่งรีบจี๋เสียงกับหรูอี้เพิ่งเรียกกับพู่หยกไปสองสามที เห็นพู่หยกไม่มีปฏิกิริยายังนึกว่าไม่ได้ผล ใครจะรู้พอหันกลับไปก็เห็นจ่านเหยียนกับพวกอาเสอยืนอยู่หน้าห้องแล้ว“คุณหนูใหญ่! ทรงเสด็จกลับมาก็ดีแล้วเพคะ!” จี๋เสียงกับหรูอี้ปรี่ไปหา พูดน้ำเสียงสะอื้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?” กัวอวี้รีบถามจี๋เสียงสะอึกสะอื้น “เป็นเช่นนี้ วันนี้ตอนกลางวันมีคนมาจากตำหนักถงไทเฮาเชิญจิ้นหรูกูกูไป แต่ไม่กลับมาสักที อาถงจึงให้พวกบ่าวสองคนไปถาม แต่พอไปถึงนอกตำหนักชิงหนิง หรูหัวกูกูก็ไม่ให้เข้า ซ้ำยังไล่พวกบ่าวออกมา เพียงแต่... เพียงแต่บ่าวได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากในตำหนัก ถึงไม่ยืนยันว่าใช่เสียงร้องของจิ้นหรูกูกูจริงหรือไม่ แต่ฟังแล้วเหมือนมาก ตอนหลังอาถงกับอาเถี่ยก็ไปหา แต่ก็ไม่กลับมา...”จี๋เสียงเหม่อลอย แม้พูดไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ยังอธิบายเรื่องราวชัดเจน“คุณหนูใหญ่ ถงไทเฮาให้จิ้นหรูไป จะเกิดอะไรหรือไม่เพคะ?” กัวอวี้ถามจ่านเหยียนนึกถึงเรื่องข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status