ทางด้านของปุยนุ่น เพียงในเวลาไม่นานหญิงสาวก็มีร่างกายอันเปลือยเปล่าไร้อาภรห่อหุ้มด้วยฝีมือคนร่างสูงอย่างรวดเร็ว
“พี่พัดอย่าค่ะ...” ร่างบางพยายามจะเอ่ยห้าม
แต่ร่างสูงหากได้ฟังไม่ รีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองตามหญิงสาวแต่โดยเร็ว แล้วร่างบางรีบเอามือปิดตาทันทีเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างกายเปลือยเปล่า
“อายเหรอ” เสียงนุ่มของคนร่างสูงเอ่ยถาม พร้อมกับแกะมือของหญิงสาวออก
“พี่พัดเชื่อนุ่นเถอะ น่ะค่ะ ว่าวันนั้นเราไม่มีกันจริงๆ” หญิงสาวเอ่ยบอก
“พี่ก็กำลังจะพิสูจน์อยู่นี้ไงครับ” ร่างสูงเอ่ยบอกพร้อมกับจับแก่นกาย พร้อมจ่อเข้าไปที่ช่องทางคับแคบนั้นทันที โดยไม่ได้เล้าโลมอะไร
กึก
“กรีด...” ร่างบางกรีดร้องขึ้นมาทันที เมื่อแก่นกายของชายหนุ่มจ่อเข้าปากทางรักอย่างแรง
“เชี่ยยย...นุ่น” พัสกรสบถออกมาทันที แล้วมองหน้าหญิงสาวอย่างรู้สึกผิดที่ ตอนนี้มีอาการสั่นเทาเหมือนลูกนกตกน้ำ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นทางยาว
มือหนากำลังจะยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้แก่หญิงสาว แต่ถูกหญิงสาวเมินหน้าหนีไปทางอื่นเสียก่อน แล้วเอ่ยปากไล่ทันที
“ออกไป!”
“นุ่น พี่ ขอโทษครับ พี่ไม่คิดว่านุ่น...โถ่เอ้ย! กูทำอะไรลงไปว่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยขอโทษ และรู้สึกต่อหญิงสาว พร้อมกับสบถด่าตัวเองออกมาทันที
“ฉันบอกให้ออกไปไง” หญิงสาวเอ่ยปากไล่อีกครั้ง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ยอมลุกขึ้นจากตัวเธอ
“พี่ขอโทษ...” ชายหนุ่มเอ่ยขอโทษขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับจ้องมองใบหน้าของหญิงสาว
“...” ปุยนุ่นไม่ได้เอ่ยตอบกลับใดๆ ได้แต่หลับตาลง เพราะไม่อยากมองหน้าคนตรงหน้า
เมื่อเห็นว่าพูดอะไรไปตอนนี้ กลับพบแต่ความเงียบ ชายหนุ่มจึงยอมลุกขึ้นออกจากตัวของหญิงสาว แล้วคว้า ผ้ามาห่มร่างกายอันเปลือยเปล่าของหญิงสาวไว้ แล้วหยิบเสื้อผ้าของหญิงสาวขึ้นมา
“พี่ช่วยใส่ให้น่ะครับ” เสียงนุ่มเอ่ยบอก เมื่อกำลังช่วยแต่งตัวให้หญิงสาว
“...” ปุยนุ่นได้แต่ยังเงียบ ไม่ยอมเอ่ยตอบอะไร พร้อมกับกำลังจะแย่งเสื้อผ้าของเธอกลับมาจากมือของชายหนุ่ม
“ไม่ดื้อน่ะครับ” เสียงนุ่มพูดขึ้นมา
“เสร็จแล้ว ก็ช่วยถอยออกห่างฉันด้วยค่ะ” เสียงเรียบเอ่ยขึ้นมา โดยไม่ได้มองหน้าคนร่างสูงตรงหน้าเลย
เมื่อเห็นว่าร่างสูงไม่ยอมขยับไปไหน หญิงสาวจึงจะลุกขึ้นไปเอง แต่โดนคนร่างสูงรวบเอาไว้ แล้วสวมกอดหญิงสาวไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย
“จะไปไหนครับ พี่ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น มันดึกแล้ว ข้างนอกลมแรง” เสียงนุ่มเอ่ยบอกที่ข้างหูของหญิงสาว
“ฉันจะไปไหนก็ได้ที่ไม่ต้องมาเจอหน้าคนแบบคุณ” ร่างบางพยายามจะแกะมือของชายหนุ่มออก
“นุ่นครับ...พี่ขอโทษ พี่ขอโทษที่พี่ไม่เชื่อนุ่นตั้งแต่ตอนแรก ก็นุ่นดันพูดเป็นนัยๆนี้ ครั้งเดียวเขาไม่เรียกผัวเมีย พี่ก็คิดสิ...” ร่างสูงก้มลงซบที่บ่าของหญิงสาว พร้อมเอ่ยขอโทษเสียงนุ่มอีกที
“ต่อไปเรา อย่าเจอกันเลยดีกว่าน่ะค่ะ แล้วนุ่นก็จะไม่ไปทำงานที่นั้นอีกแล้ว” ปุยนุ่นพูดขึ้นมา และพยายามจะแกะมือของชายหนุ่มออกที่กอดรัดเธอไว้แน่น
“ไม่เอา นุ่นไม่เป็นแแบนี้สิ” ร่างสูงรีบกอดหญิงสาวไว้แน่นขึ้นอีกเมื่อหญิงสาวพูดคำนี้ออกมา
“ปล่อยค่ะ” หญิงสาวพยายามดิ้น แต่ก็ไม่เป็นผล
“ไม่เป็นพี่น้องแล้วก็ได้ แต่นุ่นอย่าไปจากพี่เลยน่ะ” ร่างสูงพยายามรวบรวมความกล้า พูดออกมา เอ่ยบอกหญิงสาวออกไป
“ทำไม” หญิงสาวเลิกคิ้วขึ้น พร้อมหันหน้าไปมองร่างสูง อย่างไม่เข้าใจในคำพูดของชายหนุ่ม ที่เอ่ยออกมาเมื่อสักครู่
“เรามาเป็นแฟนกันก็ได้นุ่น” ร่างสูงเอ่ยบอกอีกที
“...” หญิงสาวอึ้งไปทันที เมื่อได้ยินที่ชายหนุ่มบอก เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างพัสกร จะพูดอะไรแบบนี้ออกมา
“น่ะ เรามาเป็นแฟนกันก็ได้ พี่ไม่อยากได้แล้วพี่น้องอะไรนั้น” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นมาอย่างจริงจังอีกครั้ง พร้อมกับมองสบตาหวานซึ้งอย่างรอคำตอบ จากร่างบาง
“...” หญิงสาวยังคงจ้องหน้าของชายหนุ่ม แต่ไม่ยอมเอ่ยตอบอะไร
“ได้ไหมครับ” เสียงนุ่มถามย้ำอีกครั้ง
“งั้นพี่ก็จีบนุ่นก่อนสิค่ะ จะมาเป็นแฟนอะไร ง่ายเกินไปไหม...” ปุยนุ่นหันหน้ากลับมา พร้อมกับพูดขึ้นมาบ้าง
“จีบ? จีบยังไง นุ่นก็รู้ ว่าพี่จีบใครเป็นเสียที่ไหน” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามขึ้นทันที
“ก็ลองดูสิค่ะ เผื่อนุ่นจะใจอ่อน” หญิงสาว เอ่ยบอกด้วย น้ำเสียงที่อ่อนลง
“แล้วพี่ต้องเริ่มจากตรงไหน” พัสกรเอ่ยถามขึ้น เพราะชีวิตนี้ไม่เคยมีแฟน แถมยังไม่เคยจีบใครมาก่อนอีก
“ไม่รู้ ลองเอาไปคิดดูเองน่ะค่ะ” ปุยนุ่นเฉไฉตอบ พร้อมกับกำลังจะลุกออก เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มคลายกอดเอแล้ว
“ถ้าอย่างนั้น พี่ขอลองวิธีนี้ก็แล้วกัน” พัสกรไม่รู้จะทำอย่างไร และเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้า แล้วรีบรวบร่างบางลงไปนอนกับที่นอน แล้วตามคร่อมไว้อย่างรวดเร็ว
“ว้ายยย...”
“พี่ไม่รู้น่ะ ว่าคนอื่นเขาเริ่มกันแบบไหน แต่สำหรับพี่ พี่ขอเริ่มจากตรงนี้เลยก็แล้วกัน เมื่อกี้ก็ค้างอยู่เลย” ร่างสูงจ้องมองใบหน้าของหญิงสาว พร้อมกับลูบแก้มของเธอวนไปมาอย่างเบามือ สบตามองพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง
“พะ พี่จะทำอะไร” เสียงหวานเอ่ยถาม เมื่อรู้สึกว่ามือปลาหมึกของชายหนุ่มเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข ลูบไปทั่วตามร่างเธอ
“ต่อน่ะครับ” เสียงนุ่มเอ่ยบอก แล้วก้มลงมอบจูบอันแสนหวานให้แก่หญิงสาวทันที โดยที่หญิงสาวไม่ทันได้เอ่ยตอบหรือปฏิเสธใดๆ
ปากหยัก ซุกไซร้ไปตามซอกคอขาวของหญิงสาว แล้วขบเม้มตีตราเอาไว้ เพราะแสดงความป็นเจ้าของแล้วจึงรีบถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกอีกครั้ง อย่างเร่งรีบ และตามด้วยกางเกงบ็อกเซอร์เพียงตัวเดียวของเขาออกด้วย
“ไม่น่าใส่เลยเนอะ เสียเวลาถอดอีก” เสียงนุ่มเอ่ยแซว พร้อมกับทิ้งร่างสูงลงแนบชิดกับร่างบางไปทั่วทุกส่วน
“พี่พัด” หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อของชายหนุ่มออกมาเสียงเบาพร้อมกับใบหน้าที่วิตก
“ว่ายังไงครับ”
“มันจะเจ็บไหมค่ะ” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นมา ด้วยใบหน้าที่รู้สึกกังวล
“เจ็บแค่แปปเดียว เดี๋ยวไม่เจ็บแล้วครับ นุ่นเชื่อใจพี่น่ะ” ร่างสูงจ้องหน้า พร้อมกับสบตา แล้วเอ่ยเสียงนุ่มบอก
“...” หญิงสาวจึงได้แต่พยักหน้ารับ
บทส่งท้าย(ตอบจบ)สามเดือนต่อมาวันนี้ครบกำหนดที่เจ้าแฝดจะได้ออกมาลืมตาดูโลกแล้ว ชีโร่พาภรรยาสุดสวยมานอนรอทำการผ่าคลอด เพราะหญิงสาวมีความเสี่ยงในหลายๆอย่าง หมอจึงลงความเห็นให้ใช้วิธีคลอดแบบผ่าเอา“ตื่นเต้นไหมครับ” เสียงนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับไม่ยอมอยู่ห่าง และละมือออกจากมือของหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย เมื่อทั้งคู่อยู่ในห้องที่อลินนอนรออยู่บนเตียงแล้ว“...” อลินได้แต่พยักหน้ารับ โดยไม่ได้ตอบอะไร“ไม่ต้องกลัวน่ะ เค้าจะอยู่กับลิน และรอดูลูกออกมาพร้อมๆกันกับลินครับ” เสียงนุ่มเอ่ยปลอบพร้อมกับลูบศรีษะเธอเบาๆ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนเพื่อเป็นการให้กำลังใจกันใช้เวลาเพียงไม่นาน เจ้าเด็กแฝดก็ได้ออกมาทั้งสองอย่างปลอดภัย น้ำตาแห่งความยินดีของทั้งคู่ไหลออกมาพร้อมกันทันที เมื่อได้ยินแค่เสียงร้อง อุแว้ ดังขึ้นมา ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างปลื้มปริ่ม พร้อมกับยกมือข้างที่ว่างขึ้นมาปัดคราบน้ำตาที่หางตาของหญิงสาวให้ด้วยความอ่อนโยนอย่างเบาๆ“ลูกเราออกมาแล้วครับ...ขอบคุณน่ะครับ ที่อดทนยอมเจ็บเพื่อลูก เค้ารักลินมากน่ะครับที่รัก จุ๊บ” เสียงนุ่มเอ่ยขอบคุณ แล้วก้มลงจุ๊บหน้าผากมนของหญิงสาวอีกครั้งภาพเหตุการณ์ในห้องคลอดเหล่า
จัดการเองNCสัปดาห์ต่อมาวันนี้ถึงวันที่ปุยนุ่นจะต้องมาถ่ายแบบโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่ทางปุยเมฆได้จัดการเตรียมเอาไว้ให้แล้ว“หาคนอื่นแทนไม่ได้เหรอ...นุ่นท้องอยู่น่ะ” พัสกรเอ่ยถามปุยเมฆขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อนั่งอยู่ที่สตูดิโอกันเพียงสองคน เพราะรอปุยนุ่นได้แต่งตัวก่อน“ไม่ได้แล้วครับพี่...และอีกอย่าง เมียพี่พึ่งจะท้องได้แค่สองเดือนเอง ท้องยังไม่โตเลย หุ่นกำลังดีครับ”“เมฆ...นั้นพี่สาวนายน่ะ นายไม่คิดจะห่วงบ้างเลยหรือไง”“เรื่องห่วงก็ส่วนเรื่องห่วงครับ...เรื่องงานก็ส่วนเรื่องงานครับ พี่ช่วยแยกแยะหน่อยนะครับ”ร่างบางเดินออกจากห้อแต่ตัว ด้วยเสื้อคลุมไว้ เพราะด้านในมีเพียงกางเกงจีสตริง และชั้นในปิดแค่เพียงจุกอวบเท่านั้น“เปิดเสื้อให้พี่ดูหน่อยครับ...” พัสกรพูดขึ้น พร้อมกับจับหญิงสาวหันหน้ามาทางเขา แล้วเปิดเสื้อดูสำรวจก่อนที่จะถ่ายจริง“พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยเรียกคนตรงหน้าที่ตอนนี้ มอมาที่เธอตาค้างมันวาวอยู่ แถมไม่พูดอะไรออกมา พร้อมกับกลืนน้ำลายฝืดลงคออีก“ไอ้เมฆ...สั่งทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากห้องนี้ให้หมด รวมถึงนายด้วย แล้วสั่งปิดกล้องวงจรที่ห้องนี้ทุกตัวทิ้ง ส่วนตากล้องพี่ถ่ายเอง” พัสกรหันมาสั่งท
สำเร็จ สายของวันสองร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันกลมเกลียว ที่ยังหลับสนิทอยู่บนที่นอนกว้าง ร่างสูงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อน เพราะเสียงกดออดที่หน้าห้องดังขึ้นมา ร่างสูงขยับลุกขึ้นมาแต่งตัว แล้วเดินออกไปข้างนอกโดยไม่ลืมที่จะเก็บของนอกห้องไว้เป็นที่ เป็นทางเสียก่อน จึงค่อยเดินไปเปิดประตูให้แก่คนที่มากดออกอ๊อด อ๊อด อ๊อด“พี่ก็นึกว่าใครที่ไหนมากดออดอยู่หน้าห้องพี่” เสียงเข้มพูดขึ้นมาทันที ที่เปิดประตูออก“แหม่...ถ้าพี่ไม่ปิดมือถือ ผมก็คงไม่ต้องถ่อมาหาพี่ถึงที่นี่หรอกครับ พอๆกันเลยทั้งผัวทั้งเมีย” ปุยเมฆพูดขึ้น เพราะว่าไม่สามารถติดต่อพัสกรได้ จึงได้มาหาที่คอนโดแทน เพราะรู้ว่าชายหนุ่มพาพี่สาวมาค้างที่นี่อยู่แล้ว“มีเรื่องอะไร หรือเปล่า” พัสกรเอ่ยถามด้วยสีหน้ามีึนงง“เรื่องที่บริษัทมีปัญหานิดหน่อยครับ โฆษณาที่เราถ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อน ทางนั้นจะขอส่วนแบ่งเรื่องค่าตัวพรีเซนเตอร์ครับ ผมตัดสินใจเองไม่ได้เลยต้องมาปรึกษาพี่ ว่าจะเอายังไงต่อ ส่วนตัวผมคิดว่าผมหาคนมาแทนได้ครับ แต่อยากมาถามความเห็นพี่ก่อน” ปุยเมฆเอ่ยบอกไป ถึงเขาจะมีสิทธิ์ในการตัดสินใจในทุกเรื่องของบริษัท แต่ชายหนุ่มก็ยังให้เกียรติพัสกรอยู่ดี
วันไข่ตกNCคอนโดหรูของพัสกรพัสกรพาหญิงสาวกลับมาที่คอนโดของเขา แทนที่จะไปที่บ้านของหญิงสาว เพราะว่าวันนี้ปุยเมฆและต้นข้าวเอาปุยฝ้ายไปฝากไว้ให้อยู่ที่บ้านกับพ่อแม่อีก และทั้งคู่ก็หน้าจะกลับไปค้างที่บ้านหลังนั้นด้วยเลย พัสกรจึงตัดสินใจพาปุยนุ่นมาที่คอนโดเขาแทน เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนคนอื่น และไม่ให้ใครมารบกวนพวกเขาด้วย“ทำไมเราไม่กลับ ไปที่บ้านกันล่ะค่ะ พี่พัด” ปุยนุ่นเอ่ยถามไปด้วยใบหน้างงๆ เพราะร้อยวันพันปี พัสกรไม่เคยพาเธอมาค้างที่นี่เลย เพราะส่วนใหญ่จะค้างที่บ้านกันมากกว่า“จะกลับไปรบกวนคนที่บ้านทำไมกันครับ...ที่บ้านคนเยอะจะตาย คืนนี้เป็นเวลาของเราน่ะ โทรบอกคนที่บ้านด้วยครับ แล้วก็ปิดเครื่องห้ามใครรบกวน” เสียงนุ่มของพัสกรเอ่ยสั่งร่างบางขึ้นมาทันที พร้อมกับสวมกอดหญิงสาวท จากทางด้านหลังเอาไว้ปุยนุ่นทำตามที่พัสกรบอกอย่างว่าง่าย และปิดทุกอย่างตามที่ชายหนุ่มบอก แล้วก็วางทุกอย่างลงที่โชฟาตัวยาวข้างตัวที่เธอยืนอยู่ร่างสูงพุ่งเข้าไปชิงจูบอย่างดุดันทันที เมื่อหญิงสาววางทุกอย่างลง และทำตามที่เขาบอก โดยไม่อาจทนรออีกต่อไปได้ และจัดการถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกจนหมดอย่างไม่รีรอ ตามด้วยเสื้อผ้าของ
ประธานบริษัทฯคนใหม่หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันที่ธนาจะทำการเปิดตัวประธานคนใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งบริษัทของเขาเป็นบริษัทที่ผลิตเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งส่งออกไปยังประเทศต่างๆ และตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งธนาเองก็เคยมีเพื่อนฝูงมากมาย และหุ้นส่วนกันกับโรงพยาบาลต่างๆ และเคยมีธุรกิจสีเทามาก่อนตอนสมัยที่ยังหนุ่มๆ หรือที่เรียกง่ายๆก็คือ เคยเป็นมาเฟียเก่ามาก่อนนั้นเอง“ขอบคุณทุกท่านมากน่ะครับที่วันนี้ ให้เกียรติมาร่วมแสดงความยินดี เปิดตัวประธานคนใหม่ของผม” ธนาพูดขึ้นมา เมื่ออยู่บนเวที“วันนี้เป็นวันที่ผมในนามประธานบริษัท ขอเปิดตัวประธานคนใหม่ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของผมเองครับ ชีโน่ ชิษณุพงศ์ ปัญญาพิวัฒน์” ธนาเอ่ยแนะนำตัว พร้อมพรีเซนต์ตัวลูกชายไปพร้อมๆกัน“พร้อมน่ะครับ...ไปครับ” เสียงนุ่มเอ่ยกับอลินหญิงสาวข้างกาย ที่วันนี้พามาเปิดตัวพร้อมกันด้วยเลยเสียงปรบมือดังขึ้นมาพร้อมเพรียงกัน เมื่อทั้งคู่เดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกัน และที่ต้องทำให้ทุกคนตกใจนั้นก็คือ อลินพนักสาวของบริษัท ที่พึ่งจะเจ้ามาทำงานได้ไม่นาน และตอนนี้หญิงสาวกำลังตั้งท้องอยู่ แต่ไม่มีใครทราบว่าเธอคือใคร บวกกับเดียน่าที่ไม่ยอมปริปาก
เยี่ยมหลานสาวหนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่งานพัสกรและปุยนุ่นในวันนั้น ผ่านมาเพียงแค่สองสัปดาห์ งานวิวาห์ของชีโน่ และอลิน ก็ถูกจัดขึ้นมาอย่างเร่งด่วน และความเรียบง่าย มีแค่เพียงคนสนิท และญาติพี่น้อง ซึ่งจัดแค่พอเป็นพิธี ไม่ได้มีการเชิญนักข่าวมาทำสื่อแต่อย่างใด ตามความต้องการของบ่าว-สาว เพราะชีโน่ตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะจัดงานสองครั้ง เพื่อเป็นการให้เกียรติภรรยา และแม่ของลูกอลินที่ตอนนี้ท้องเริ่มโตแล้ว เพราะท้องลูกแฝด วันนี้ก็ครบหนึ่งเดือนแล้ว ที่ต้นข้าวได้ให้กำเนิดลูกสาว ซึ่งตรงกับวันหมั้นของพัสกรและปุยนุ่นพอดี แล้ววันนั้นทั้งปุยนุ่นและอลิน จึงนัดกันมาผูกขวัญหลานที่บ้านของนพคุณณ บ้านอัศวโสภณ“มากันแล้วเหรอ” ปุยเมฆเอ่ยถามเมื่อคนทั้งสี่ เดินเข้ามาพร้อมหน้ากันที่ห้องรับแขก และสัมภาระของรับขวัญหลานต่างๆ เต็มไม้ เต็มมือไปหมด“นี่...พากันซื้ออะไรมาตั้งเยอะแยะ ผมบอกแล้วไงครับ ว่าไม่ต้องซื้ออะไรมา” ปุยเมฆพูดขึ้นมาอีกครั้ง ที่เห็นของเต็มไปหมด ที่ทั้งสี่มอบให้“นุ่นก็อยากซื้อมาฝากหลานนี้เมฆ” ปุยนุ่นพูดขึ้นมา เพราะเธออยากมีเป็นของตัวเอง แต่จนป่านนี้แล้วเธอก็ยังไม่ตั้งท้องสักที“ทุกคนตามสบายเลยน่ะครับ