Home / โรแมนติก / คนโปรดของหมอจิณณ์ / บทที่ 6 เปลี่ยนแปลง 2

Share

บทที่ 6 เปลี่ยนแปลง 2

last update Huling Na-update: 2025-07-16 15:32:47

บทที่ 6

เปลี่ยนแปลง

เมื่อได้ขึ้นมานั่งบนรถยนต์คันหรูซึ่งมักจะเห็นขับโฉบผ่านหน้าเป็นประจำ แพทย์หญิงขวัญข้าวก็รีบดึงเข็มขัดนิรภัยมารัดอย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าเจ้าของรถจะเปลี่ยนใจ สีหน้าของคุณหมอสาวแสดงอาการตื่นเต้นอย่างปิดไม่ปิด ด้วยไม่คิดว่าจิณณ์จะยอมให้เธอติดรถกลับบ้านด้วย รู้งี้ขอตั้งนานแล้ว

ในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นหมอหรือพยาบาล ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหมอจิณณ์เป็นคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานน้อยที่สุด ค่อนไปทางย่ำแย่เสียด้วยซ้ำ ซึ่งขวัญข้าวก็เห็นด้วยกับที่หลายคนพูด เพราะเธอก็เคยสัมผัสมาแล้วด้วยตัวเอง เวลาชวนคุยหรือถามอะไร เขาก็มักจะตอบแบบถามคำตอบคำ

ทว่าแพทย์สาวไม่ย่อท้อ ด้วยคิดว่าผู้ชายเข้าถึงยาก ๆ แบบนี้แหละ เหมาะที่จะเป็นพ่อของลูก หากเธอได้ใกล้ชิด ได้สร้างความสนิทสนม และสามารถทำให้เขาตกหลุมรักได้ ต่อจากนั้นสายตาของเขาก็มองเห็นแค่เธอเพียงคนเดียว

เพื่อนหลายคนบอกว่าเธอเพ้อเจ้อ ขี้มโน ผู้ชายแบบนั้นมีแค่ในนิยายกับในละครเท่านั้น ส่วนในชีวิตจริงบุคลิกภายนอกดูเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด แต่เบื้องหลังมีทั้งเมีย ทั้งกิ๊ก อาจรวมถึงอีหนูอีกหลายคน หากขวัญข้าวไม่คิดอย่างนั้น เธอเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง หมอจิณณ์นี่แหละคือผู้ชายในอุดมคติ และเธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อพิชิตใจเขามาครอบครองให้ได้

สามีและพ่อของลูกเธอต้องชื่อจิณณ์เท่านั้น!

“หมอจิณณ์เตรียมตัวถึงไหนแล้วคะ” แพทย์สาวหาเรื่องชวนคุยขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ เนื่องจากเป็นช่วงหัวค่ำ ทำให้การจราจรติดขัด ขวัญข้าวภาวนาคอยภาวนาในใจ ขอให้รถติดนาน ๆ เลย ติดเป็นชั่วโมงเลยยิ่งดี

“ครับ ?” เจ้าของร่างสูงปรายตามองเพื่อนร่วมทางแค่แวบเดียว ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาหน้ารถ และหันกลับไปสนใจถนนตรงหน้าต่อ

“เรื่องไปเรียนต่อไงคะ ข้าวเตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ตอนแรกข้าวก็รู้สึกเฉย ๆ แต่พอใกล้ถึงเวลาที่ต้องไปจริง ๆ ข้าวก็อดตื่นเต้นไม่ได้ ทั้งตื่นเต้นทั้งใจหายเลยค่ะ ไปอยู่นู้นข้าวน่าจะเหงา แล้วก็ต้องคิดถึงอาหารไทยมากแน่ ๆ”

“…”

“ปกติเคยแต่ไปเที่ยวกับเพื่อนกับครอบครัว ไม่เคยไปอยู่จริง ๆ สักที แล้วที่นั่นขึ้นชื่อเรื่องเหยียดคนเอเชีย เรื่องนี้ข้าวก็แอบกลัว ถ้าต้องเจอสถานการณ์นั้นจริง ๆ ข้าวคงทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากใครด้วย ว่าแต่ที่พักของหมอจิณณ์ไกลจากมหา’ ลัยมากไหมคะ”

“ไม่ไกล”

“อยู่แถว...หรือเปล่าคะ”

“ครับ”

“จริงเหรอคะ” หญิงสาวทำตาโตราวกับว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ “ที่พักของข้าวก็อยู่แถวนั้นเหมือนกัน ดีเลยค่ะ เวลามีปัญหาอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้”

จิณณ์ปล่อยให้คุณหมอสาวเจื้อยแจ้วไปตลอดทาง จะตอบแค่เฉพาะที่เป็นประโยคคำถาม ไม่ใช่ว่าเขาหยิ่งหรือถือตัว เพียงแต่เขาไม่รู้จะพูดอะไรก็เท่านั้น

“ว่าแต่หมอจิณณ์ผ่านทางนี้ทุกวันเหรอคะ” ขวัญข้าวเพิ่งนึกอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้ หากสถานีรถไฟฟ้าที่เธอจะลงเป็นทางผ่านไปบ้านของเขา บางทีเธออาจจะไม่ขับรถมาทำงาน แล้วเนียนขอติดรถเขามาลงทุกวัน เธอก็จะมีโอกาสใกล้ชิดเขามากขึ้น

ทว่าคำตอบของเขาทำให้ความหวังที่เพิ่งก่อตัวขึ้นของเธอดับวูบ

“ไม่ทุกวันครับ”

“แล้วทำไม...” หัวใจแพทย์สาวโลดลิงขึ้นอีกครั้ง เมื่อคิดว่าเขาผ่านทางนี้เพื่อตั้งใจมาส่งเธอ แต่ดีใจได้ไม่ถึงสามสิบวินาที ใจดวงน้อยก็ต้องเหี่ยวแฟบลงตามเดิม

“ผมมีธุระ ต้องผ่านทางนี้พอดี”

“ธุระอะไรเหรอคะ”

“ธุระส่วนตัวครับ”

ขวัญข้าวยิ้มเจื่อน หน้าชานิดหน่อยเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมาแบบนั้น หญิงสาวรีบเปลี่ยนกลับไปคุยเรื่องเรียนต่ออีกครั้ง เพื่อลดความชาบนใบหน้า

“ว่าแต่หมอจิณณ์บินวันไหนคะ ได้จองไว้หรือยัง”

“ยังไม่ได้จอง”

“ข้าวก็ยังไม่ได้จองเหมือนกัน กำลังหาเพื่อนบินด้วย ไฟล์ตยาวเกินค่ะ ข้าวกลัวเหงาตอนเปลี่ยนเครื่อง...” เธอเว้นจังหวะและเหล่มองสีหน้าของเขาเล็กน้อย เมื่อเห็นว่ายังคงราบเรียบปกติ จึงเอ่ยต่อ “ข้าวบินพร้อมหมอจิณณ์ได้ไหมคะ”

“ผมยังไม่แน่ใจว่าจะเคลียร์งานเสร็จวันไหน” เพราะตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกตั้งสี่เดือนที่เขาจะต้องบินไปเรียนเฉพาะทางต่อยอดที่ประเทศอเมริกา จิณณ์จึงยังทำงานและรับเคสผู้ป่วยใหม่ตามปกติ ช่วงหนึ่งเดือนสุดท้ายที่เขาไม่ต้องรับเคสใหม่ เขาถึงจะมีเวลาเคลียร์ทุกอย่างและส่งให้หมอท่านอื่นดูแลต่อ

“ข้าวรอได้ค่ะ ข้าวอยากมีเพื่อนบิน งั้นเอาอย่างงี้ไหมคะ ถ้าหมอจิณณ์ใกล้เคลียร์งานเสร็จและได้วันที่จะบิน เราค่อยมากดจองตั๋วเครื่องบินกันตอนนั้น โอเคไหมคะ” แพทย์สาวพูดเองเออเอง และสรุปเองเสร็จสรรพ

จิณณ์ไม่มีข้อโต้แย้งและไม่ได้มีปัญหาในการเดินทางร่วมกับผู้อื่น เขาจึงพยักหน้าแล้วตอบรับสั้น ๆ

“ครับ”

“ถ้าแน่ใจวันบินแล้วอย่างลืมบอกข้าวน้า” คุณหมอสาวย้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าใกล้ถึงจุดหมายที่ตนจะต้องลงแล้ว แอบเสียดายนิด ๆ เธออยากให้ระยะทางยาวกว่านี้ จะได้มีเวลาอยู่ใกล้เขามากขึ้น เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อย ๆ

หลังส่งเพื่อนร่วมอาชีพเสร็จเรียบร้อย บรรยากาศภายในรถกลับมาเงียบสงบ จิณณ์เคลื่อนรถออกจากตรงนั้นทันที มือหนาคว้ามือถือขึ้นมาหารายชื่อใครบางคน เมื่อเจอก็กดโทรออกเลยทันที

สัญญารอสายดังขึ้นสักพักใหญ่ ๆ ก็ได้รับการตอบรับจากปลายสาย

[สวัสดีค่ะ]

“อยู่ไหน”

[ลีฟยังอยู่ที่ทำงานค่ะ]

คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เหลือบมองนาฬิกาอีกครั้ง เธอทำงานอะไรตอนสองทุ่มครึ่งกัน ชายหนุ่มแค่สงสัยแต่ไม่ได้ถาม เขาบอกจุดประสงค์ของตัวเองไปแทน

“มาเจอกันที่โรงแรมเดิม”

[ตอนนี้เหรอคะ] น้ำเสียงของปลายสายดูตกใจหน่อย ๆ

“อืม ตอนนี้ ผมใกล้จะถึงแล้ว”

[ค่ะ ๆ] หญิงสาวรีบตอบรับอย่างลนลาน ก่อนจะเอ่ยต่อ [แต่คุณรอนานหน่อยได้ไหมคะ ลีฟต้องใช้เวลาเดินทางสักพักเลย]

ปกติเขาจะส่งข้อความมานัดเธอก่อนล่วงหน้าราวสี่สิบนาทีหรือหนึ่งชั่วโมง ซึ่งเธอมักจะไปถึงก่อนเขาทุกครั้ง ด้วยไม่อยากให้เขาเป็นฝ่ายรอ แต่วันนี้จรัสรักคิดว่าคงไม่โดนเรียกตัว เพราะเขาเงียบไปในช่วงเวลาที่มักติดต่อมาเป็นประจำ เธอจึงตอบรับคำชวนไปกินยำกับเพื่อนร่วมงาน

“กี่นาที”

[คะ ?]

“เดินทางประมาณกี่นาที”

[ประมาณสี่...ห้าสิบนาทีค่ะ] เธอตอบแบบเผื่อ ๆ เอาไว้

จิณณ์เงียบไปครู่หนึ่งคล้ายกำลังใช้ความคิด ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ส่งโลเคชันของคุณมา”

[คะ ? อะไรนะคะ] จรัสรักไม่แน่ใจว่าตนได้ยินถูกหรือเปล่า

“ส่งโลเคชันที่คุณอยู่มา”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   ตอนพิเศษ 3

    ตอนพิเศษ 3“เกรซซี่!”เจ้าของชื่อซึ่งกำลังนอนคว่ำกระดิกปลายเท้าระบายสีอยู่กลางห้องนั่งเล่นชั้นล่าง เงยหน้าขึ้นไปมองน้าสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้าน ในมือมีกระดาษอะไรสักอย่างติดมาด้วยฟังจากน้ำเสียงที่เรียกเมื่อกี้เกรซซี่รู้สึกเสียวสันหลังแปลก ๆ เพราะปกติเวลาน้ากิ๊ฟต์กลับบ้าน น้ากิ๊ฟต์จะเรียกหาเกรซซี่ด้วยเสียงที่นุ่มนวลหรือไม่ก็ร่าเริงกว่านี้ แต่วันนี้แค่เรียกเสียงเข้มไม่พอ ยังทำสีหน้ายุ่งใส่กันอีกเกรซซี่ไปทำอะไรของน้ากิ๊ฟต์พังหรือเปล่านะ...ก็ไม่นี่นา ไม่ได้เข้าไปในห้องของน้ากิ๊ฟต์เลยด้วยซ้ำใจจริงอยากวิ่งเข้าไปรับอย่างที่เคยทำ ทว่าวันนี้เกรซซี่สังหรณ์ใจไม่ดียังไงก็ไม่รู้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังขานรับน้าสาวเสียงหวาน “...ขาน้ากิ๊ฟต์”จารวีหันหน้าไปไหว้แม่และยายของตนที่นั่งเอนกายบนตั่งไม้อีกฝั่งของบ้าน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างแรง จากนั้นก็ยื่นเอกสารรายงานผลการเรียนชั้นอนุบาลไปตรงหน้าหลานสาวสุดที่รัก “อันนี้คืออะไรเนี่ย ทำไมเป็นแบบนี้”กนกนุชขยับนั่งขัดสมาธิ มองน้ากิ๊ฟต์กับกระดาษเอสี่ที่ถูกยื่นออกมาตรงหน้าด้วยความงุนงง ก่อนจะหันไปมองผู้เป็นแม่ซึ่งเดินตามหลังน้องสาวตัวเองเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2โชคดีที่จิณณ์ฝึกลูกให้นอนคนเดียวตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ช่วงแรกที่ยังไม่เปิดเทอมอาจจะมีร้องไห้โยเยบ้าง เพราะตื่นมาแล้วไม่เจอใครอยู่ในระยะสายตา แต่พอค่อย ๆ บอกค่อย ๆ สอนว่าตื่นแล้วไปหาพ่อหรือหายายกับทวดได้ที่ไหน แกก็เริ่มเรียนรู้และเข้าใจ จากนั้นมาก็ไม่มีเสียงร้องไห้ตอนเช้าอีกเลยฉะนั้นหลังเล่านิทานส่งลูกเข้านอนเสร็จ คนเป็นพ่อเป็นแม่จึงได้มีเวลาสวีตหวานในห้องส่วนตัวกันบ้าง“เรียนทำขนมวันนี้เป็นไงบ้าง” จิณณ์เอ่ยถามภรรยาที่กำลังใช้สำลีลบเครื่องสำอางซึ่งแต่งแต้มเพียงบางเบา เตรียมตัวเข้าไปอาบน้ำ ส่วนเขาก็กำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองเพื่อจะเข้าไปอาบพร้อมกันจรัสรักมองเรือนร่างของสามีผ่านกระจก ใบหน้าสวยร้อนผะผ่าวพร้อมกับหัวใจที่จู่ ๆ ก็สั่นรัวขึ้นมา หญิงสาวรีบเลื่อนสายตาไปโฟกัสจุดอื่น แม้จะเคยเห็นมานับครั้งไม่ถ้วน ทว่าเธอก็ไม่เคยทำใจให้ชินได้เสียที“กะ...ก็ดีค่ะ พี่ฟางใจเย็นและสอนดีมาก” เธอตอบเสียงกะตุกกะตัก เกร็งตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขาเดินเข้ามายืนใกล้ ๆ จิณณ์ดึงชุดคลุมอาบน้ำช่วงไหล่ของภรรยาลง ก่อนจะประทับจูบร้อน ๆ ลงบนไหล่เปลือย จากนั้นก็พูดต่อ“คุณอยากได้สูตรไหนหรือ

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1หลังจากงานแต่งงานและทำบุญขึ้นบ้านใหม่ซึ่งถูกจัดขึ้นเป็นงานเล็ก ๆ แต่อบอุ่นเสร็จสิ้นไป จิณณ์ก็ขอให้ทุกคนย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด หญิงมากวัยทั้งสองคนมีอาการงอแงเล็กน้อย ด้วยไม่อยากละทิ้งบ้านของตนที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมายจรัสรักพยายามเกลี้ยกล่อมพร้อมทั้งอธิบายให้แม่และยายของตนเข้าใจ เธอเองก็ไม่ได้จะทิ้งบ้านหลังนั้น แต่ด้วยสภาพที่เก่าและทรุดโทรมตามกาลเวลา อีกทั้งยังมีข้าวของเก็บไว้มากมาย ซึ่งบางอย่างก็เป็นของที่ไม่ได้ใช้แล้ว หญิงสาวจึงถือโอกาสนี้เคลียร์ของและจะทำการรีโนเวตบ้านใหม่ จากนั้นจะยกให้เป็นชื่อของจารวีจิณณ์ถามน้องสาวภรรยาว่าอยากรื้อแล้วสร้างใหม่เลยหรือไม่ จะได้บ้านในแบบที่ต้องการ ทว่าจารวีปฏิเสธพร้อมบอกว่าเอาไว้ก่อน เพราะล่าสุดพี่เขยก็เพิ่งจะถอยรถมินิคูเปอร์คันละสามล้านให้เป็นของขวัญเรียนจบแบบสด ๆ ร้อน ๆ โดยให้เหตุผลว่าระบบเซฟตีมันดีมากกว่ารถอีโคคาร์ทั่วไป ยังไม่นับคอนโดมิเนียมที่กำลังเลือกดูเพื่อจะซื้อให้พักอาศัยระหว่างที่เรียนต่อเนื่องจากสองพี่น้องมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นหมอ แต่ขาดแรงสนับสนุนจึงไม่ได้ไปต่อ ทำให้ต้องเลือกเดินในเส้นทางอ

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   บทที่ 32 รัก (ตอนจบ)

    บทที่ 32 รัก (ตอนจบ)“แต่งงานกับผมนะครับ”ในเมื่อเขาดีและทำเพื่อเธอขนาดนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่เธอต้องปฏิเสธ ถึงจะเป็นการขอครั้งที่สอง แต่เธอก็อดตื่นเต้นไม่ได้ จรัสรักพยักหน้า ตอบรับคำขอของเขาด้วยรอยยิ้มยินดี“ค่ะ รักจะแต่งงานกับคุณ”จบประโยคนั้นร่างบางก็สะดุ้งขึ้นเล็กน้อย เมื่อไฟที่ประดับประดาอยู่รอบ ๆ ตัวบ้านสว่างขึ้นพร้อมกันทุกดวง พร้อมกับเสียงโห่ร้องจากผู้คนมากมายดังขึ้นด้วยความยินดีใบหน้าสวยมองไปตามเสียงก็เจอกับเด็กหญิงกนกนุชในชุดสวยถือช่อดอกไม้วิ่งเข้ามาหา เลื่อนสายตาไปข้างหลังอีกก็เจอแม่และยายที่นั่งอยู่บนรถเข็น โดยมีปรานกับกฤษณ์เข็นให้ พร้อมทั้งพีรัช ภริตา จารวี และคุณหญิงพรรษา ยืนอยู่ข้าง ๆ กันทุกคนกำลังเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มจรัสรักรู้ว่าวันนี้มีนัดรับประทานอาหารร่วมกัน แต่ไม่รู้ว่าทุกคนจะมารวมตัวกันที่บ้านของเธอก่อน พวกเขามาตั้งแต่เมื่อไรกัน ทำไมเธอไม่ได้ยินเสียงรถเลย“ป้อจิน เอาให้แม่” เสียงของลูกสาวดึงสายตาเธอให้กลับมาสนใจคนตรงหน้าอีกครั้ง เด็กหญิงกนกนุชยื่นช่อดอกทานตะวันให้คุณพ่อตามที่พ่อปรานบอก“ขอบคุณครับ” จิณณ์รับดอกไม้มาถือ ก่อนจะคว้าตัวลูกสาวเข้ามากอดและกดจมูกหอมแก้มแ

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   บทที่ 32 รัก

    บทที่ 32 รัก (ตอนจบ)หลังจากหมูกระทะมื้อค่ำสิ้นสุดลง ทุกคนก็ช่วยกันเก็บจานไปล้างและทำความสะอาดสถานที่ จิณณ์รับหน้าที่พาเด็กหญิงกนกนุชไปอาบน้ำ เนื่องจากหนูน้อยเริ่มตาปรือเพราะใกล้ถึงเวลาเข้านอนเมื่อบรรยากาศภายในบ้านเริ่มเงียบสงบ จารวีนั่งเล่นกับหลาน พูดคุยกับแม่และยายสักพักก็เข้าห้องส่วนตัวของตัวเอง ส่วนอ้อมใจก็จัดที่นอนเตรียมพักผ่อน หน้าที่พยาบาลพิเศษในบ้านหลังนี้ไม่ได้หนัก และคนป่วยก็ไม่ได้จู้จี้จุกจิก พอทำหน้าที่หลักเสร็จก็สามารถนอนพักผ่อนได้ แต่ข้อเสียคือไม่มีห้องนอนส่วนตัวให้ ต้องนอนรวมกันที่ห้องโถงจรัสรักเดินมาเช็กความเรียบร้อยที่ครัวหลังร้าน เพราะพรุ่งนี้ต้องเปิดร้านขายของตามปกติหลังจากหยุดไปทำธุระหนึ่งวัน“อุ๊ย!” ทว่ายังไม่ทันได้หยิบจับสิ่งใด ร่างบางก็ถูกสวมกอดจากคนที่เดินตามเข้ามาติด ๆ หญิงสาวยิ้มและเอ่ยถามกลั้วขำ “อะไรคะเนี่ย”“อยากกอด” จิณณ์คลายวงแขนแล้วหมุนตัวเธอให้หันกลับมาเผชิญหน้ากัน จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบหน้าผากเธอแผ่วเบา “เมื่อไหร่บ้านจะเสร็จ”จรัสรักหลุดขำ นึกเอ็นดูคนตัวโตที่เริ่มงอแง นับวันก็ยิ่งเหมือนลูกมากขึ้นทุกที “คงอีกนานค่ะ ยังไม่ได้ลงเสาเลย”“รู้งี้ผมให้

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   บทที่ 31 คนพิเศษ 2

    บทที่ 31 คนพิเศษ“แม่แค่เป็นห่วงครับ ไม่ได้ดุ”“ดุ” ใบหน้าน้อย ๆ เอียงซบไหล่แกร่ง พยายามหลบสายตาแม่ แต่กระนั้นก็ยังแอบเหล่มอง“รับปากแม่ได้ไหมว่าครั้งหน้าเกรซซี่จะใส่รองเท้าก่อนออกบ้านทุกครั้ง” จรัสรักยังคงเสียงแข็งแต่ก็ยังฟังดูอ่อนโยนอยู่ในที เธอไม่ได้อยากเป็นแม่ใจร้ายหรอก แต่บางทีก็ต้องบอกต้องสอนกันบ้าง“รับปากแม่เร็ว คนเก่งของพ่อทำได้อยู่แล้ว” จิณณ์ให้กำลังใจ พร้อมเบี่ยงร่างเล็กในอ้อมแขนให้หันไปหาคนเป็นแม่“ต่อไปนี้เกรซซี่จะใส่รองเท้าก่อนทุกครั้งค่ะ” หนูน้อยยอมพูดแต่โดยดี ซึ่งผู้เป็นแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก ส่งยิ้มให้พร้อมยกมือขึ้นมาลูบศีรษะอย่างชื่นชม“เก่งมากค่ะ”กลายเป็นคุณพ่อที่ทวนความจำให้ลูกแทน “จำได้ไหมครับ ที่คุณแม่บอกว่าถ้าไม่ใส่รองเท้าจะเกิดอะไรขึ้น”“จะเหยียบปะตู เลือดไหล ต้องไปหาหมอ แล้วก็ร้องไห้แง ๆ” จิณณ์ไม่แก้ไขที่ลูกพูดผิด รู้ดีว่าความเข้าใจของแกก็คือตะปูนั่นแหละ“ใช่แล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปนี้เกรซซี่ต้องใส่รองเท้าทุกครั้งนะ โอเคไหม”“โอเคค่า” เมื่อเคลียร์กันลงตัว หนูน้อยก็กลับมายิ้มแย้มแจ่มใส“หาแม่ไหม พ่อจะขนของลงรถ” ชายหนุ่มบอกพร้อมส่งลูกให้คนเป็นแม่อุ้ม ซึ่งมือเล็ก ๆ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status