ณิชารู้สึกตัวตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน เธอนอนมองผู้ชายที่นับจากนี้อีกหนึ่งปี เธอจะต้องมีหน้าที่คอยปรนเปรอสวาทให้กับเขา เขาหล่อมากจริงๆ ผิวพรรณขาวสะอาดเกลี้ยงเกลาราวผู้หญิง จมูกโด่งจัดนั่นอย่างกับเขามีเชื้อสายตะวันตก ปากหยักได้รูปสีสด ดวงตาคมกริบที่บัดนี้มันปิดสนิทเผยให้เห็นแพขนตางอนยาว คิ้วเข้มดกดำนั่นยิ่งทำให้เขาดูดีมีเสน่ห์สมชายชาตรี
คนหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นอย่างเขา ไม่น่าใจร้ายใจดำได้ขนาดนี้เลย เธอไม่อาจรู้ได้เลย ว่านับจากนี้อีกหนึ่งปี เธอจะต้องเจอกับอะไรบ้าง หน้าที่นางบำเรอ เขาต้องทำอะไรกันบ้าง จะเหมือนสามีภรรยาเขาทำกันไหม เธอยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเริ่มหน้าที่ของตัวเองในเช้าวันนี้อย่างไรดี จึงนึกถึงแม่ของตัวเองเป็นตัวอย่าง ว่าวันๆหนึ่ง แม่ของเธอต้องทำอะไรบ้างในหน้าที่ภรรยา
ร่างงามค่อยๆขยับกายก้าวลงจากเตียงอย่างแผ่วเบา เธอเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกายและแต่งกายเรียบร้อย จากนั้นจึงเข้าครัวเพื่อทำอาหารเช้าง่ายๆให้กับเขา เธอสำรวจอุปกรณ์ที่มีอย่างครบครันในครัวก็ต้องแปลกใจ นี่ห้องชายโสดจริงๆหรือ ทำไมเครื่องครัวถึงได้มีมากมายเช่นนี้ ไหนจะของสดในตู้เย็นอีก นี่มันน้องๆร้านชำในตลาดสดเลยทีเดียว
เมื่อสำรวจวัตถุดิบเรียบร้อย เธอจึงตัดสินใจทำข้าวต้มกุ้งและไข่ลวกให้กับเขาเป็นอาหารเช้า เอาเข้าจริงเธอก็ไม่รู้หรอกว่าเขาชอบอะไร เกลียดอะไร และแพ้อะไร แต่ในเมื่อมีวัตถุดิบเหล่านี้ในตู้เย็นของเขา ก็แปลว่าเขากินได้ละนะ
สาวน้อยในชุดเดรสกระโปรงสั้นแค่เข่าคลุมทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวาน หยิบจับอุปกรณ์ในครัวและลงมือปรุงอาหารหน้าเตาอย่างคล่องแคล่ว จนคนที่เพิ่งตื่นนอนหมาดๆ ต้องยืนพิงกรอบประตูมองมาด้วยแววตาอ่อนโยนโดยที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ตอนแรกที่เขาสะดุ้งตื่นมาแล้วเอื้อมมือคว้าหาร่างบางแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า เขาตกใจมาก กลัวว่าเธอจะหนีเขาไปแล้วจึงเดินหาในห้องนอนและห้องน้ำให้วุ่น ก่อนจะรีบออกมาตามหาที่ข้างนอก ก็บังเอิญได้เจอกับภาพตรงหน้าพอดี และมันก็ทำให้หัวใจของเขาที่ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับผู้หญิงที่อยู่นอกเตียงมานาน กลับมารู้สึกแบบนั้นอีกครั้ง
เมื่อวางใจได้ว่าเธอไม่ได้หนีไปจากเขา จึงเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวด้วยความเร็วแสง และเมื่อกลับออกมาข้างนอกอีกครั้ง ก็ยังเห็นเธอง่วนอยู่หน้าเตาเหมือนเดิม จึงเดินอย่างแผ่วเบาไปยืนซ้อนหลังเธอ แล้วยื่นแขนเข้าโอบกอดเธอจากทางด้านหลัง
"อุ๊ย คุณปราณต์"
"ทำอะไรแต่เช้า อื้มมม หอมจัง"
ฟอดดดดด เขาฉวยโอกาสหอมแก้มนวลของเธอเสียฟอดใหญ่จนกายบางสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง เธอหัวหน้ามาเพื่อเอ่ยประท้วงเขา แต่เหมือนเธอได้ทำผิดพลาดมหันต์ เมื่อคนเจ้าเล่ห์ที่รออยู่แล้ว ฉวยโอกาสประกบปากจูบเธอเสียจนเธอยืนแทบไม่ไหว
คนตัวบางในอ้อมกอด เริ่มเรียนรู้ที่จะขยับปากจูบตอบเขาอย่างเต็มใจแล้ว เพราะนี่ก็ถือเป็นหนึ่งในหน้าที่ของเธอเหมือนกันสินะ ความนุ่มนิ่ม หอมกรุ่นและความไร้เดียงสาของเธอ ทำให้เขาหลุดเสียงครางออกมาเบาๆในลำคอด้วยความพึงพอใจอย่างที่สุด
"อืมมมม"
เมื่อจูบจนพอใจแล้ว จึงละริมฝีปากออกมาจากริมฝีปากของเธอ ที่ตอนนี้มันบวมเจ่อนิดๆเพราะความเอาแต่ใจของเขา
"ตื่นมาทำไมแต่เช้า"
"เอ่อ ฉะ ฉัน ตื่นมาทำอาหารเช้าค่ะ"
"ทีหลังไม่ต้องทำก็ได้ เหนื่อยเปล่าๆ"
"ไม่หรอกค่ะ ฉันก็ทำแบบนี้ทุกวันอยู่แล้ว ให้ฉันได้มีอะไรทำบ้างเถอะ"
"ตามใจ ถ้าต่อไปฉันใช้งานเธอเต็มรูปแบบแล้วอย่ามาร้องโอดครวญว่าเหนื่อยแล้วกัน"
แก้มสาวแดงปลั่งจนเห็นได้ชัดกับคำพูดสองแง่สองง่ามของเขา ทำได้แค่ก้มหน้างุด หลบสายตาแพรวพราวของคนเจ้าชู้
"ฉันทำไหวค่ะ คุณไปนั่งรอเถอะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ"
ชายหนุ่มก้มหน้าลงหอมแก้มเธออีกฟอดใหญ่ แล้วเดินผิวปากไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารอย่างอารมณ์ดี ไม่นานข้าวต้มกุ้งชามโตก็มาเสิร์ฟอยู่ตรงหน้า สีสันหน้าตาสวยงามเหมือนคนทำ แต่จะรสชาติดีเหมือนคนทำด้วยไหม อันนี้ต้องลองชิม
คนทะลึ่งคิดได้ดังนั้นจึงตักข้าวต้มเข้าปากคำโต เมื่อข้าวต้มหอมกรุ่นสัมผัสถึงลิ้นก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อรสชาติของมันอร่อยมากๆ น้ำซุปหอมกลมกล่อม กุ้งเนื้อสดหวานเด้ง นอกจากแม่และพี่สะใภ้วัยใสของเขา ก็มีเธอคนนี้นี่แหละ ที่ทำออกมาได้รสชาติคล้ายคลึงกันมาก
"อืม อร่อยดี"
"ขอบคุณค่ะ"
เธอนั่งลงตักข้าวต้มกุ้งในชามของเธอกินบ้าง แต่ก็ต้องชะงัก เมื่ออยู่ๆเขาก็ถามในสิ่งที่เธอร้องขอมาตลอด
"วันนี้อยากไปไหนไหม ฉันว่าง จะพาไป"
"คือ ฉันอยากกลับไปเรียนค่ะ เหลืออีกแค่ปีเดียวก็จะจบแล้ว ฉันอยากมีอนาคต หมดสัญญาจากคุณ ฉันจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ แต่ถ้าคุณไม่อนุญาตให้ไปเรียน งั้นขอแค่พาฉันไปดร็อปเรียนก็ได้ค่ะ หมดสัญญาฉันค่อยไปลงเรียนใหม่"
เธอเอ่ยขอไป แต่ใจก็ยังเต้นกระหน่ำคร่อมจังหวะ ลุ้นเหลือเกินว่าเขาจะใจดีเหมือนหน้าตาที่หล่อเหลาของเขาไหม
"อืม เอาสิ ฉันอนุญาตให้กลับไปเรียนได้ แต่ต้องให้โชคไปรับไปส่ง และถ้าจะไปไหนต้องขออนุญาตฉันและต้องมีโชคไปด้วยตลอด เธอโอเคไหม"
"โอเคค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คุณปราณต์"
ณิชายิ้มหวาน ดวงตาเป็นประกายสุกใส พนมมือไหว้ขอบคุณเขาอย่างนอบน้อม จนหัวใจชายหนุ่มเต้นกระหน่ำรัวกับภาพตรงหน้า เธอน่ารักสดใสสมวัยเหลือเกิน น่ารักจนเขาแทบจะอดใจไม่อยู่ จับเธอมาบดจูบแล้วกดกระแทกเธอให้เต็มรัก แต่ก็ทำได้แค่ยื่นมือไปจับมือที่พนมของเธอเอาไว้ แล้วยกมือใหญ่ของเขาขึ้นไปลูบศีรษะทุยของเธอเบาๆหลายครั้ง เหมือนเขาเป็นเสี่ย แล้วเลี้ยงต้อยเด็กนักศึกษาก็ไม่ปาน จะว่าไปแล้วความจริงมันก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่หรอ
"อืม รีบกินเถอะ เดี๋ยวจะพากลับบ้านไปเอาชุดนักศึกษากับอุปกรณ์การเรียน"
"ได้ค่ะ"
ยิ้มหวานอีกแล้ว เธอยิ้มหวานให้เขาอีกแล้ว ดูเอาเถิด แค่ตามใจนิดๆหน่อยๆ ให้เธอได้กลับไปเรียน กลับไปเจอเพื่อน และกลับไปมีอนาคต สาวน้อยของเขาก็ยิ้มหวานให้เขาเสียตั้งสองครั้ง ต่อไปเขาคงต้องเอาใจและตามใจเธอบ่อยๆเสียแล้ว
เมื่อเธอกินข้าวเช้าเสร็จ ก็เก็บล้างทำความสะอาดครัวจนเรียบร้อย แล้วจึงเข้าห้องไปเตรียมตัวกลับไปเอาของใช้จำเป็นที่บ้าน อย่างน้อย การยอมทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เอาตัวเข้าแลกกับชีวิตของพี่ชายเธอ ก็คงไม่ลำบากทุกข์ตรมเหมือนอยู่ในขุมนรกสักเท่าไหร่หรอกมั้ง เมื่อในวันนี้ เธอยังได้มีโอกาสออกไปเรียนและสร้างอนาคตของตัวเองอยู่
ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์มือถือของเธอสั่นเตือนการโทรเข้า เธอยกหน้าจอขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์แปลกๆที่ไม่ได้มีการเม็มชื่อเอาไว้ จึงหันซ้ายหันขวามองหานายจ้างของตัวเอง เมื่อไม่พบจึงรีบกดรับสายเพราะรู้สึกสังหรณ์ใจว่านี่อาจเป็นสายจากพี่ชายของเธอก็ได้
"สวัสดีค่ะ"
"ณิชา พี่เองนะ"
"พี่ภัทร"
เธอเอ่ยกระซิบเสียงแผ่วเบาเพราะกลัวเขาจะมาได้ยิน น้ำตารื้นคลอทั้งสองตาด้วยความดีใจ สัปดาห์กว่าที่พี่ชายของเธอหนีหัวซุกหัวซุนไป ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ในที่สุด วันนี้เธอก็รู้แล้วว่าเขายังปลอดภัยและมีชีวิตอยู่
"ณิชาปลอดภัยดีไหม คงรู้เรื่องหมดแล้วใช่ไหม พี่ขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อไปเลย พี่กลัวว่าพวกมันจะจับได้ว่าพี่อยู่ที่ไหน"
"พี่ปลอดภัยดีใช่ไหม"
"ตอนนี้พี่ยังปลอดภัย แต่ไม่รู้พวกมันจะหาพี่เจอแล้วฆ่าพี่ทิ้งเมื่อไหร่ ตอนนี้คนของไอ้ปราณต์มันมาเฝ้าอยู่เต็มหน้าบ้านเพื่อนพี่เลย"
"พี่อดทนหน่อยนะคะ ณิชากำลังหาทางช่วยพี่อยู่"
"เงินเป็นสิบล้าน บ้านเราก็กำลังจะโดนยึด ณิชาช่วยพี่ไม่ได้หรอก พี่ห่วงความปลอดภัยของณิชา รีบไปดร็อปเรียน แล้วหนีไปอยู่กับญาติห่างๆของเราที่ต่างจังหวัดซะ หรือไม่งั้น เงินที่พี่ใส่บัญชีไว้ให้ ณิชาเอาไปลงทุนขายของ รอเรื่องเงียบๆ ณิชาค่อยกลับมาเรียน"
"พี่ไม่ต้องห่วงณิชานะ ณิชาปลอดภัยดี"
"ไม่ ณิชา พวกมันโหดเหี้ยมมาก ตอนนี้มันก็น่าจะกำลังจับตาดูณิชาอยู่ ต้องหนีไปนะ หนีไปให้ไกล"
"ค่ะ ณิชาจะทำตามที่พี่ภัทรบอก พี่ไม่ต้องห่วง ถ้าณิชาช่วยพี่ได้แล้ว พี่ต้องสัญญาว่าจะปรับปรุงตัวใหม่ ไม่กลับไปเล่นการพนันอีก ได้ไหม พี่ภัทร"
"ได้ พี่สัญญา ดูแลตัวเองดีๆนะ พี่ต้องวางแล้ว"
"ค่ะ ณิชารักพี่นะคะ"
"พี่ก็รักณิชาที่สุด พี่ขอโทษนะ"
สายถูกตัดไปแล้ว ณิชายกมือขึ้นมาปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น เธอปล่อยหยาดน้ำตาให้ไหลรินออกมา เสียใจกับชะตากรรมของตนเองและพี่ชาย แต่ในเมื่อวันนี้ เธอยอมเป็นนางบำเรอของเขาแล้ว เขาก็ต้องปล่อยพี่เธอไป ตามสัญญา
"นี่ครับ สัญญาที่นายต้องการ"
"ขอบใจมาก"
ปราณนต์ รับสัญญาระหว่างเขากับณิชาจากมือของโชคชัย ลูกน้องคนสนิท ก่อนอ่านทบทวนข้อความในสัญญาแล้วก็ต้องอมยิ้มพึงพอใจ ตั้งแต่เขานอนกับผู้หญิงมา ณิชาเป็นผู้หญิงคนแรก ที่ได้จากเขาไปเยอะที่สุด แต่เขากลับไม่รู้สึกเสียดายเงินจำนวนนั้นเลยสักนิด
"นายแน่ใจแล้วหรอครับ ที่จะทำแบบนี้"
"ทำไม"
"มันจะคุ้มกันหรอครับ แค่ปีเดียว แลกกับหนี้สิบล้าน อีกอย่าง นายก็ขี้เบื่อ นอนกับสาวๆคนไหนได้ไม่เกินสองสามครั้ง แล้วท่าทาง เอ่อ ขอโทษนะครับนาย ท่าทางคุณณิชาเธอก็ไม่น่าจะมีประสบการณ์เรื่องอย่างว่ามาสักเท่าไหร่ จะตอบสนองนายได้ถูกใจหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมกลัวว่าแค่ไม่กี่ครั้ง นายก็จะเบื่อเธอแล้ว แล้วทีนี้ เงินสิบล้านมันจะหายไปแบบเปล่าประโยชน์เลยนะครับ"
"เถอะน่า"
"นายครับ แถมนายยังจะให้เงินเธอไปตั้งตัวเมื่อหมดสัญญาอีกห้าแสน แถมตลอดหนึ่งปีที่เธอต้องอยู่ในฐานะผู้หญิงของนาย เธอยังได้เงินเดือนเดือนละ 3 หมื่นอีก ผมไม่เคยเห็นนายใช้เงินไปกับผู้หญิงมากมายขนาดนี้เลยครับ"
"บ่นมากน่าโชค ฉันว่าคุ้มก็คุ้มสิ เอาตามนี้แหละ"
โชคชัย มองสบตากับกิตติทันทีที่คนเป็นนายตัดบทจบแบบนี้ พวกเขารู้สึกทะแม่งๆชอบกล ปราณนต์ที่เคยใช้เงินทุกบาทที่หามาได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เรื่องเปย์ผู้หญิง แน่นอนว่าเขาเปย์ แต่ตั้งแต่ทำงานร่วมกันมาเป็นสิบๆปี ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะใช้จ่ายแบบไม่มีสติอย่างชนิดที่เรียกว่า เหมือนคนโดนของ แบบนี้มาก่อนเลย ท่าทางสาวน้อยณิชาคนนี้จะไม่ธรรมดาเสียแล้ว เหมือนเธอจะมีความสำคัญกับเจ้านายของเขามากกว่าผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมาเลยจริงๆ
"อ้อ ตอนนี้ก็เลิกตามไอ้ภัทรได้แล้ว ปล่อยมันไป ในเมื่อฉันได้รับการชดเชยจากมันมาแล้ว อีกอย่างฉันไม่อยากผิดสัญญากับณิชา เดี๋ยวเด็กนั่นจะโกรธฉันจนหาคำแรงๆมาด่าฉันอีก พวกนายไม่รู้หรอกว่าเด็กนั่นร้ายกาจขนาดไหน เมื่อคืนเธอเรียกฉันว่าลุงด้วย ให้ตายเถอะ คิดแล้วอยากหยิกแก้มนิ่มๆนั่นให้เขียวเลยจริงๆ"
ลูกน้องอมยิ้มจนแก้มตุ่ย คนตรงหน้านี่ใช่เจ้านายของเขาจริงๆหรือ ทำไมถึงเอ่ยปากถึงผู้หญิงด้วยความเอื้อเอ็นดูแกมหมั่นไส้ได้แบบนั้น นายผู้ไม่เคยให้ค่าผู้หญิงคนไหนนอกเตียงเลยนี่นะ กลิ่นความไม่ชอบมาพากลมันลอยฟุ้งกระจายรอบห้องเสียแล้ว ท่าทางการหลงเมียและคลั่งรักมันจะเป็นกรรมพันธุ์นะ และดูลักษณะแล้ว นายของพวกเขาไม่น่าจะรอด
“พี่ณัย นามีเรื่องขอร้องให้พี่ช่วยหน่อย” ปวีนาที่ยอมลงทุนโดดเรียนในคาบบ่าย ตรงมาหาพี่ชายที่บริษัท เธอเปิดประตูเข้าห้องทำงานของท่านประธานไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันแม้แต่จะเคาะประตู “เรื่องอะไร ยัยนา พรวดพราดเข้ามา เคาะประตูก่อนเป็นไหม” “ไม่ทันแล้ว เรื่องด่วนจริงๆ ไม่งั้นนาไม่โดดเรียนมาหาพี่หรอก” “นี่แกโดดเรียนหรอ พี่จะฟ้องแม่” “โอ๊ยยย พี่ฟ้องเลย แต่ก่อนอื่น ต้องฟังเรื่องด่วนของนาก่อน” “เออ มีอะไร ว่ามา พี่จะรีบทำงาน” แล้วเรื่องราวทั้งหมดของณิชา ก็ถูกถ่ายทอดให้พี่ชายสุดที่รักฟังทันที และเมื่อเขาได้ฟังดังนั้น คิ้วเข้มก็ขมวดเป็นปม มือใหญ่กำหมัดแน่น “มันเกิดเรื่องบ้าบอแบบนี้ได้ยังไง ทำไมณิชาไม่บอกเราตั้งแต่แรก เอาตัวเข้าแลกแบบนั้นได้ยังไง” “มันเกรงใจ ไม่อยากรบกวนเรา เพราะเงินมากมายขนาดนั้น” “เป็นร้อยล้านพี่ก็จะช่วย” “นี่แปลว่า
เช้าวันจันทร์ เธอตื่นแต่เช้าตรู่มาทำอาหารเช้าง่ายๆให้เธอกับเขา เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เธอจะได้กลับไปเรียนหลังจากที่ต้องให้เพื่อนสนิทแจ้งลาป่วยกับอาจารย์แต่ละวิชาไปร่วมสัปดาห์ ยังดีที่เขาใจดีให้เธอกลับไปเรียนได้ เพราะอีกไม่นานเธอก็จะสอบแล้ว และหลังสอบเสร็จเธอก็ต้องไปฝึกงานตามบริษัทที่ได้ประสานยื่นเรื่องขอฝึกงานเอาไว้ ร่างงามในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง เดินยกจานอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้เจ้าของห้องที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารอยู่ก่อนแล้ว เสื้อพอดีตัวเผยให้เห็นสัดส่วนของวัยสาวอย่างชัดเจน ไหนจะกระโปรงทรงสอบสั้น แหวกเล็กน้อยตามสมัยนิยม ยิ่งทำให้หญิงสาวตรงหน้าดูสวยสมวัยและแฝงความเซ็กซี่อย่างไร้เดียงสา จนเขาต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ และข่มอารมณ์ไม่ให้จับเธอมากระแทกคาชุดนักศึกษา “วันนี้เรียนถึงกี่โมง” “สี่โมงเย็นค่ะ” “อืม งั้นตอนเย็นเดี๋ยวฉันไปรับเอง แล้วเดี๋ยวเอาชุดไปให้เปลี่ยนด้วย จะพาไปที่ผับ ฉันมีเอกสารต้องเซ็นนิดหน่อย แล้วค่อยไปหาข้าวกินกัน” “เอ่อ แต่ตอนเย็น ฉันมีทำงานพิเศษที่
เมื่อลูกน้องออกจากห้องไปทั้งหมด ก็พอดีกับที่สาวน้อยออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนอนเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวลายการ์ตูนสีหวาน ผมยาวสบาย ใบหน้าเรียวรูปไข่ขาวผ่องที่ปราศจากเครื่องสำอางยิ่งทำให้เธอดูอ่อนเยาว์ขึ้นไปอีก ที่ถ้าไม่รู้ว่าเธอบรรลุนิติภาวะแล้ว เขาคงไม่กล้าทำอะไรเธอ เพราะกลัวจะโดนคดีพรากผู้เยาว์ “มานอนนี่สิ ณิชา” เขาตบลงบนที่นอนข้างๆตัว “ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวพยาบาลดุเอา” “ไม่มีใครกล้าว่าเธอหรอกน่า มานี่เร็ว” อะไรกัน ตาลุงของเธอ พอถอดน้ำเกลือแล้วก็ซ่าเลยหรือไง ที่นี่มันโรงพยาบาลนะ ยังไงเธอก็ไม่ยอมให้เขามาทำอะไรเธอที่นี่แน่ ครั้งแรกของเธอ มันจะน่าจดจำเกินไปไหม “ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า จะบ้าหรือไง แรงจะเดินไปฉี่เองยังแทบไม่มีเลย” “แต่ว่า..” “พยาบาลมาวัดไข้และตรวจดูอาการรอบสุดท้ายของคืนนี้แล้ว จะเข้ามาอีกทีพรุ่งนี้เช้า และฉันก็บอกพยาบาลไปแล้วว่าจะขอเอาเมียขึ้นมานอนด้วย พอดีเมียท้อง นอนโซฟาไม่
ณิชายืนตัวแข็งค้าง เบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาเรียกให้เธอไปขึ้นเตียง แล้วเขาก็เดินขึ้นไปกึ่งนั่งกึ่งนอนบนนั้น ใช้มือข้างหนึ่งตบลงบนที่นอนด้านข้างตัว และใช้สายตากดดันให้เธอขึ้นไปหาเขาซะดีๆ ตอนนี้ เธอไม่มีข้ออ้างอะไรแล้วที่จะไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง สาวน้อยที่ทั้งหวาดกลัวและประหม่า สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ พยายามทำใจกล้าเดินนวยนาดขึ้นไปหาเขาบนเตียงกว้าง ทั้งๆที่แต่ละย่างก้าวที่เดินไปนั้น ขาเธอสั่นจนแทบจะล้ม “นอนลงตรงนี้สิ ณิชา” เธอทำตามที่เขาสั่งแต่โดยดี และทันทีที่เธอนอนลงบนที่นอนฝั่งของตัวเอง คนตัวโตก็ตามขึ้นมาทาบทับบนกายที่สั่นน้อยๆของเธอในทันทีเช่นกัน เขาใช้มือลูบไล้ตั้งแต่แก้มเนียนแล้วลากไล้ไปจนทั่วกายงาม มือใหญ่ยุ่มย่ามถอดชุดนอนของเธอออกทิ้งกองกับพื้น ตามด้วยเสื้อชั้นในลายลูกไม้สีหวานของเธอ “ต่อไปนี้ ไม่ต้องใส่เสื้อในนะ ฉันขี้เกียจถอด” “ขะ ค่ะ” มือใหญ่ร้อนผ่าวลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอ ก่อนค่อยๆรูดกางเกงชั้นในลายลูกไม้ตัวจิ๋วออก
ไม่นานทั้งเขาและเธอก็เดินออกจากห้องมา เขาส่งกระเป๋าเดินทางใบโตของเธอให้กับโชคชัยที่ยืนคอยอยู่หน้าประตูจริงๆ "โชค ให้แม่บ้านมาจัดการทำความสะอาดด้วย" "ครับ นาย" เธอก้มหน้างุดเดินดิ่งลงไปข้างล่างโดยไม่กล้ามองหน้าสบตากับลูกน้องของเขาคนไหนอีกเลย ถึงแม้โชคชัยจะไม่ได้เห็นอะไรๆของเธอ แต่ภาพล่อแหลมแบบนั้น มันน่าอายสุดๆไปเลย "โชค แวะห้างให้ฉันหน่อย" "ครับ นาย" ปราณนต์จูงมือพาสาวน้อยเดินเข้าช้อปกระเป๋าแบรนด์เนมที่ราคาแพงหูฉี่ ชนิดที่ว่าบางใบ ซื้อบ้านหลังใหญ่ที่อยู่กันได้ห้าคนสบายๆเลยก็มี "สวัสดีค่ะ คุณปราณต์" พนักงานขายเดินมาไหว้ต้อนรับเขาด้วยความนอบน้อมเหมือนกับเขาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของแบรนด์นี้ก็ไม่ปาน หญิงสาวนึกค่อนขอดในใจ คงพาสาวๆคู่ควงคู่ขามาช้อปปิ้งเป็นประจำเลยสินะ พ่อบุญทุ่ม พนักงานถึงแทบจะปูพรมแดงต้อนรับกันขนาดนี้ "ครับ ช่วยแนะนำกระเป๋าที่เหมาะกับคุณผู้หญิงให้ผมหน่
เมื่อคุยโทรศัพท์กับพี่ชายเสร็จแล้ว และปรับอารมณ์ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินออกจากห้องนอนมา ก็พบกับเขาและลูกน้องคนสนิททั้งสอง นั่งคุยกันอยู่ที่ห้องรับแขก จึงจะเดินเลี่ยงผ่านไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร แต่ก็ต้องเดินกลับไปนั่งรวมกับเขา เมื่อเขาเรียกเอาไว้ "ณิชา มาอ่านสัญญาซิ ดูว่าต้องแก้ไขตรงไหนไหม ถ้าโอเคแล้วก็เซ็นได้" เธอนั่งลงบนโซฟายาวตัวเดียวกันกับเขา แต่ทิ้งระยะห่างพอสมควร หยิบกระดาษแผ่นนั้นที่ระบุว่าเป็นสัญญาขึ้นมาอ่าน เธอทบทวนทีละตัวอักษรด้วยกลัวว่าเจ้าพ่อกาสิโน มาเฟียหน้าหล่ออย่างเขาจะไว้ใจไม่ได้ ในเนื้อความของสัญญาระบุว่า เธอต้องทำหน้าที่เป็นผู้หญิงของเขาเป็นเวลาหนึ่งปี นับตั้งแต่วันนี้ไป เมื่อครบหนึ่งปีแล้ว หนี้สินที่พี่ชายของเธอติดเขาเอาไว้จำนวนสิบล้านบาท จะถือว่าหายกัน และเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพี่ชายของเธออีกนับตั้งแต่วันที่เธอลงนามในสัญญา หน้าที่ที่เธอต้องทำก็คือการตามใจและปรนนิบัติเขาในเรื่องบนเตียงตามที่เขาร้องขอทุกครั้ง ไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่ หรือกี่ครั้ง ถ้าเขาต้องการ เธอไม่มีสิทธ