“หือ? อะไรนะ! ลูกตัดสินใจจะไปเรียนต่อ ลูกคิดดีแล้วหรือยูจิน มีใครบังคับหนู หรือพูดอะไรกับหนูหรือเปล่า”
คมกล้าชะงักกับคำตอบของบุตรสาว เขาไม่คิดว่า เมนิลาจะยอมไปโดยง่ายดายขนาดนี้
“ไม่มีใครบังคับลูกค่ะคุณพ่อ ยูจินตัดสินใจเองค่ะ”
ความเจ็บช้ำต่างหาก ที่เป็นตัวตัดสินใจเรื่องนี้ให้กับเธอ เพราะเธออยากหลีกหนีเรื่องราวทุกอย่าง ทิ้งความเจ็บทั้งหมดที่เกิดขึ้นไว้ที่นี่
“พ่อตกใจจริงๆ เลยนะ ทั้งที่พี่เคนของลูก บอกพ่อว่าหนูไม่อยากไปเรียนต่อด้วยซ้ำ มันเกิดอะไรขึ้นกับหนู หือ บอกพ่อได้มั้ยลูก”
“มะ-ไม่มีค่ะคุณพ่อ ยูจินตัดสินใจเองค่ะ ไม่เกี่ยวกับใครค่ะ”
“หรือเป็นเพราะพี่คิมไปพูดอะไรกับลูกหรือเปล่า พ่อเห็นป้าของหนูบอกว่า หนูกับพี่คิมมีปัญหากัน มันเรื่องอะไรลูก พ่อว่าจะถามลูก เมื่อวันก่อน ลูกทั้งสองก็ไม่ได้มาทานข้าวร่วมกันเหมือนทุกครั้ง”
“ยูจินไม่ได้เจอพี่คิมเลยค่ะคุณพ่อ และระหว่างยูจินกับพี่คิมก็ยังเหมือนเดิมค่ะ ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน เราแค่โตขึ้น พี่คิมก็ทำงาน ส่วนยูจินก็เรียนหนักค่ะ”
เมนิลาไม่อยากพาดพิงอะไรกับเขาอีกแล้ว จบคือจบ เธอได้คำตอบแล้ว และวันนี้มันก็ได้ตอกย้ำความชัดเจนมากขึ้น
เมื่อพี่คิมของเธอ ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับแฟนของเขา โดยไม่คิดจะแคร์เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่แม้แต่ จะโทรกลับหาเธอด้วยซ้ำ จริงๆ เมนิลารู้เรื่องนี้เพราะ ‘ผู้หญิงคนนั้นโพสต์ในไอจี’ ท้ายที่สุดแล้ว พี่คิมของเธอ ก็ไม่ได้สนใจเมนิลา ‘เขาไม่ใช่พี่คิมของยูจินอีกต่อไป’
“พ่อว่าลูกลองไปคิดทบทวนดีๆ ก่อนนะ ยังพอมีเวลา”
“ยูจินคิดดีแล้วค่ะคุณพ่อ ยูจินตัดสินใจแล้ว คุณพ่อให้คนดำเนินการเรื่องเอกสารของยูจินได้เลยค่ะ ยูจินพร้อมเสมอ”
“ยูจิน...” คมกล้ารู้สึกว่า วันนี้บุตรสาวของเขาดูแปลกไป ไม่สดใสร่าเริง อีกทั้งใบหน้าขาวยังดูซีดเซียว ไม่สดชื่น และที่สำคัญไม่มีรอยยิ้มน่ารักสดใสบนใบหน้าอันงดงามนั้นอยู่เลย
“ยูจินเป็นอะไรหรือเปล่าครับ บอกพี่ได้ไหม?”
เวธัสเดินเข้ามาสมทบกับผู้เป็นพ่อ เมื่อเห็นน้องสาวที่เขาเฝ้าพะวงเพราะความห่วงใย จนไม่เป็นอันกินอันนอน
“อืม พี่เคนมาพอดี มาช่วยพ่อพูดกับน้องหน่อยลูก”
“ไม่มีอะไรค่ะพี่เคน ยูจินอยากไปอยู่ต่างประเทศ อยากเรียนที่อเมริกา ยูจินอยากไปเที่ยวด้วยค่ะ”
ปากบางเผยรอยยิ้มแบบแห้งๆ ออกมา เธอพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้
“งั้น ก็คุยกันไปนะ เดี๋ยวพ่อจะขอตัว คุยกับน้องนะลูก”
คมกล้าหันไปบอกบุตรชายคนโต เพียงแค่เห็นแววตา คมกล้าก็รู้ ว่าลูกชายของเขาคนนี้ คงมีใจให้กับน้องสาวเป็นแน่
“ครับคุณพ่อ”
“พี่เคนคิดว่ายูจิน โดนบังคับจากคุณป้าเหรอคะ นี่เป็นความต้องการของยูจินเองนะคะพี่เคน ไปอยู่เม’กา เรียนที่นั่น หกปีก็กลับมาช่วยงานพี่เคนได้นะคะ”
เมนิลาพยายามทำตัวเองให้สดใสร่าเริง เพื่อปิดกลบความบอบช้ำที่เกิดขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ
“บอกพี่ตรงๆ ยูจิน ว่าเพราะอะไร เราถึงเลือกที่จะไปเรียนต่อ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พี่รู้มาว่าเราไม่เต็มใจด้วยซ้ำ”
เวธัสรู้สึกใจหาย เมื่อได้รู้ สาวน้อยตรงหน้าเขานั้น จะจากเขาไปไกล และอีกนานแสนนาน ที่เขาจะได้เจอกับเธออีกครั้ง
“ไม่มีล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะพี่เคน ยูจินอยากไปจริงๆ ค่ะ”
“เพราะนายคิมใช่มั้ย เราทะเลาะกันใช่ไหม?”
“ไม่ได้ทะเลาะค่ะพี่เคน พี่คิมกับยูจิน เราต่างคน โตกันแล้วนะคะ เรื่องความสนิทสนม เหมือนแต่ก่อน คงไม่มีแล้วค่ะพี่เคน แต่เอ...ทำไมทั้งคุณพ่อและพี่เคน สงสัยอะไรยูจินหรือคะ”
“จะไม่ให้พี่สงสัยเราได้ยังไง ก่อนหน้านี้ เราสนิทกันกับนายคิม และช่วงสองปีหลัง นายคิมก็ย้ายออกไปอยู่คอนโดอีก และเท่าที่พี่สังเกต เราสองคน ดูไม่เหมือนเดิมเลย”
รายละเอียดยิบ! ที่เวธัสเฝ้าสังเกต สาบาน ว่านี่คือการสังเกตจริงๆ
“เอาเป็นว่า ถ้าทั้งคุณพ่อและพี่เคนไม่เชื่อยูจิน ก็ลองถามพี่คิมดูนะคะ ยูจินตอบอะไรไปก็คงไม่เชื่อกันหรอกค่ะ”
“พี่แค่แปลกใจครับ ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อยูจิน ตั้งหกปีเลยนะ ที่เราต้องไปอยู่ที่นั่นคนเดียว ยูจินอยู่ได้เหรอครับ”
ความห่วงใยแสดงออกมาทางสายตาอย่างชัดเจนไม่ปิดบัง
“ยูจินไม่อยู่ พี่เคนคงเหงาใช่มั้ยคะ คิดถึงยูจินแน่เลย”
รอยยิ้มสวยเผยออกมา ส่งตรงถึงคนที่อยู่ตรงหน้าเธอทันที
“น่าจะจริง ถ้ายูจินไม่อยู่ ทั้งบ้านคงเหงาแน่เลยครับ งั้นพี่ว่ายูจินลองคิดดูใหม่นะ เราจะร้องกลับบ้านไม่ได้นะครับ”
“ยูจินตัดสินใจแล้วค่ะพี่เคน และไม่เปลี่ยนใจ แน่นอนค่ะ”
[เลม่อนคาเฟ่]
“ถ้าแกคิดว่า สิ่งที่แกตัดสินใจนี้ มันคือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับแก ฉันก็เห็นด้วยกับแกนะยูจิน”
ถึงแม้ปพิชญาจะรู้สึกใจหาย ที่เพื่อนสุดเลิฟของเธอจะไปอยู่ในที่ไกลแสนไกล แต่เธอรู้ว่าเมนิลาไปเพราะหนีจากความเจ็บช้ำ เพื่อลืมทุกอย่างที่นี่
“ฉันมีเวลาเตรียมตัวสามเดือน เรื่องเอกสารคุณพ่อให้คนของพ่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว แกไปกับฉันมั้ยนานิ”
ตลอดเวลาเมนิลามีเพื่อนคนนี้อยู่เคียงข้างเสมอ
“ฉันจะไปกับแกได้ยังไงกัน บ้านฉันไม่ได้รวยขนาดแกนะ จะได้ตามแกไปได้ อยู่เม’กาถ้าไม่มีเงินจริงๆ ก็อยู่ยาก ถ้าจะให้เรียนด้วยทำงานด้วย ก็ค่อนข้างยากอีกนั่นแหละ เรียนหมอหนักจะตาย เอาเวลาไหนทำงาน”
ครอบครัวปพิชญามีฐานะปานกลาง พ่อทำงานธนาคาร แม่เป็นข้าราชการครู ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นลูกเพียงคนเดียว พ่อกับแม่ก็สามารถส่งเธอเรียนได้ แต่ปพิชญาก็ไม่อาจให้พ่อแม่ต้องลำบากเรื่องนี้
“ฉันขอพ่อกล้าให้แกดีมั้ย เงื่อนไขคือ ถ้าแกจบมา ก็ต้องมาทำงานที่โรงพยาบาลของพ่อฉันไง”
“ฉันไม่อยากรบกวนพ่อแกหรอกยูจิน เอาเป็นว่า จริงๆ แล้วแกเองก็ไม่ได้อยากไปเลย ใช่มั้ยยูจิน ถ้าแกไม่อยากไป แกก็ไม่ต้องไป แกบอกพ่อของแกได้นี่ ส่วนเรื่องของพี่คิม ฉันจะช่วยทำให้แกลืมพี่คิมเอง เอามะ! หาหนุ่มหล่อๆ ควงเย้ยไปเลย”
“ไม่อ่ะ! ถ้าแกไม่ไป ฉันไปคนเดียวก็ได้ แค่หกปีเอง”
ดูเหมือนจะพูดปลอบใจตัวเอง แต่จริงๆ แล้วกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย แต่ในเมื่อเมนิลาตัดสินใจแล้ว เธอก็จะทำให้ได้ “แล้วพี่คิมแกรู้หรือยัง?”รู้ว่ามันขยี้ใจเพื่อน แต่ปพิชญาก็ยังแอบหวัง ว่าเมนิลากับพี่คิม จะปรับความเข้าใจกันได้ “ไม่รู้สิ คงไม่รู้ และไม่ได้อยากรู้หรอก พี่คิมบอกฉันแล้ว ว่าไม่เคยรักฉัน และไม่คิดจะรัก ฉันเองต่างหาก ที่ไม่ยอมเข้าใจ ยังหลงคิดว่าพี่คิมแกล้งหยอก” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ทีไร ใจของเมนิลาเจ็บแปลบขึ้นมาทันที ทำยังไงได้ แผลยังสดใหม่อยู่นี่ “แกคงไม่ญาติดีกับพี่คิมอีกแล้วใช่มั้ยยูจิน” “ฉันไม่โกรธพี่คิมหรอกนะ ฉันเข้าใจ ความรักแบบเด็กๆ มันไม่ได้มีค่าสำหรับผู้ใหญ่หรอก พี่คิมก็แค่พูดเล่นๆ แค่นั้นเอง ฉันซะอีก ที่ดันคิดจริงจัง”คำยืนยันที่ชัดเจนที่สุดคือ เขาเลือกไปกับแฟนเขา และไม่เคยสนใจที่จะติดต่อกลับ ‘เลิกคิดได้แล้วเมนิลา เธอไม่ได้มีค่ามากมายขนาดนั้น’[เย็นวันศุกร์ คฤหาสน์เชาวกรกูล] “วันนี้น่าจะพร้อมหน้ากันนะ เห็นว่าวันนี้ตาคิมจะแวะมาทานข้าวที่บ้าน”คมกล้าเอ่ยขึ้น ในระหว่างรอบุคคลที่กำลังเอ่ยถึง “นั่นสิคะคุณพ
[ห้องรับแขก] หลังจากมื้อเย็นผ่านไป ทุกคนแยกย้ายไปจนหมด คิมหันต์ก็ให้เมนิลาอยู่ก่อน เขามีเรื่องต้องเคลียร์กับเธอ “ไหนเราลองบอกเหตุผลที่แท้จริงของเรา มาให้พี่ฟังอีกทีซิ ยูจิน ทำไมเราถึงตัดสินใจแบบนี้” คิมหันต์เปิดประเด็นสงสัยทันที “ไปเพราะอยากไปค่ะพี่คิม พี่ยังไม่เข้าใจอะไรอีกคะ”ดวงตากลมจ้องมองไปยังใบหน้าคมเข้มอันหล่อเหลา เมื่อก่อนเมนิลายังแอบคิด ว่าพี่คิมของเธอเหมือนกับดาราเกาหลี หล่อ ขาว ใส ริมฝีปากชมพู รูปร่างสูง น่าจะ 187 เซ็นต์ หุ่นล่ำบึก ซิกแพคเต็มหน้าท้อง จนกระทั่งตอนนี้ พี่คิมของเมนิลา ก็ยังเหมือนดาราเกาหลีคนนั้น แต่เพิ่มเติม คือมาดเข้มมากขึ้น แต่ว่าพี่คิมก็ไม่ใช่ของเธออีกต่อไปแล้ว T-T “ยูจิน พี่ถามเรา ไม่ได้ยินเหรอ” “ห๊ะ! อะไรนะคะ” เมนิลาตกใจเสียงของพี่ชาย ที่ปลุกภวังค์ความคิดของเธอ “เราเป็นอะไร พี่ถามว่ายูจินโกรธพี่ใช่มั้ย เรื่องนั้น” “ไม่ค่ะ ยูจินไม่โกรธ เพราะยูจินเป็นคนสร้างเรื่องมาเอง พี่คิมไม่ต้องห่วงค่ะ เรื่องนี้ไม่มีใครรู้อย่างแน่นอน และไม่ต้องกังวล ว่ายูจินจะท้องหรอกค่ะ ยูจินเตรียมเรื่องทุกอย่างหมดแล
[อีกเกือบ 5 ปีต่อมา] นานิ : แก! ฉันเจอพี่เคนด้วยแหละ วันนี้พี่เคนมาเป็นวิทยากรอบรมให้ความรู้ที่มหา’ลัยของฉัน สาวๆ กรี๊ดกันสนั่นเลยนะ พี่เคนถามฉันเรื่องแก ว่าพักนี้ทำไมแกไม่ตอบแชทพี่เขาล่ะ นานิ : [สติ๊กเกอร์] ยูจิน : จริงเหรอ! แล้วพี่เคนคุยอะไรกับแกต่อหรือเปล่า หรือพาแกไปทานข้าวมั้ย พักนี้ฉันเรียนหนัก และอยู่ในช่วง Extern (คำเรียกของนักศึกษาแพทย์ปีหก เป็นปีสุดท้ายของการเรียนแพทย์) ยูจิน : ฉันเลยไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ เรียนหนักมากแก แต่ก็อีกไม่กี่เดือนแล้ว ฉันจะได้กลับบ้านแล้วนะ นานิ : แกใจเด็ดมากเลยยูจิน แกอยู่ได้ยังไงเกือบหกปี โดยไม่ยอมกลับมาบ้านเลย ยูจิน : ฉันอยู่ที่นี่ ก็เหมือนอยู่ที่บ้านแหละ ทั้งแก พ่อกล้า พี่เคน ต่างก็คอยแชทหาฉันทุกวัน คุยกับฉันตลอด ฉันก็เลยรู้สึกเหมือนตัวเองได้อยู่บ้านแหละนะ นานิ : ดีจัง อีกไม่กี่เดือนเราก็เจอกันแล้วนะ อืม แล้วตอนแกเรียนจบ ลุงกล้ากับพี่เคน จะไปร่วมแสดงความยินดีกับแกหรือเปล่ายูจิน ยูจิน : พ่อกับพี่เคนก็อยากมานะ แต่ฉันปฏิเสธไปแล้ว เพราะฉันเองไม่อยากให้ยุ่งยากอะไร เลยบอก
“งั้น ยูจินต้องคารวะท่านหัวหน้าแล้วแหละค่ะ ^^” “ไม่เปลี่ยนเลยนะเรา เป็นเด็กตลอด” “พี่เคนเตรียมของขวัญให้ยูจินหรือยังคะ” “อืม เราอยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ ถึงถามพี่แบบนี้” “นั่นสิ แต่พ่อเตรียมเรียบร้อยแล้วนะลูก ยูจินคงเปลี่ยนของขวัญพ่อไม่ได้แล้ว” “ยูจินอยากให้พี่เคน รับเพื่อนของยูจินมาทำงานที่โรงพยาบาลเราด้วยค่ะพี่เคน นานิไงคะพี่เคน นางก็จบพร้อมกับยูจินเหมือนกันค่ะ นี่ไงคะของขวัญของยูจิน” “แค่นี้เองหรือลูก ขอทั้งที ต้องขอให้เยอะกว่านี้สิลูก เรื่องเพื่อนของยูจิน ไม่ต้องขอหรอก พี่เคนรับอยู่แล้ว” “ครับพ่อ” “ไม่รู้ค่ะ ยูจินต้องขอไว้ก่อน ส่วนของขวัญอย่างอื่น ยูจินไม่รับแล้วค่ะ แค่คุณพ่อกับพี่เคน ช่วยเลี้ยงยูจินมาจนโต เรียนจบก็เพียงพอแล้วค่ะ” “ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะลูก ยูจินเป็นลูกของพ่อนะ และเป็นน้องสาวของพี่เคนด้วย เรื่องนี้พ่อกับพี่เคนก็ต้องเลี้ยงเราอยู่แล้ว เราเป็นครอบครัวเดียวกันนะลูก” “นั่นสิยูจิน เอาเป็นว่าพี่เตรียมของขวัญไว้ให้เราเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องนานิ เพื่อนของเรา พี่จะร
“เห็นเราบอกว่าจะเริ่มทำงานอาทิตย์หน้า พี่คิดว่ายูจินน่าจะพักผ่อนสักพักก่อนก็ได้นะครับ ไปเรียนมาตั้งหกปี ออกไปเที่ยวสักเดือนสองเดือน ไม่เห็นต้องรีบทำงานเลยนี่ครับ”เวธัสมองน้องสาวบุญธรรมด้วยแววตาชื่นชมไม่เปลี่ยนแปลง ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปนานสักเพียงใด เวธัสก็ยังรู้สึกอยู่เช่นเดิม อยู่อย่างนั้น “นั่นสิ พ่อก็เห็นด้วยกับพี่เคนนะลูก ยูจินพักผ่อนก่อน อย่าพึ่งเริ่มงานเลย ไปเที่ยวให้สนุกแล้วค่อยกลับมาทำงานก็ได้” “ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ พี่เคน ยูจินอยากทำงานแล้วค่ะ อีกอย่าง นานิ เพื่อนของยูจินก็พร้อมที่จะทำงานแล้วค่ะ ยูจินก็กะจะเริ่มพร้อมๆ กันกับเพื่อนค่ะ” “ถ้าอย่างนั้น ก็แล้วแต่หนูนะ พ่อเองก็แก่แล้ว ตอนนี้ก็ปล่อยให้ลูกๆ ดูแลกันไป ห่วงก็แต่ทำงานกันจนลืมมีหลานให้พ่อ ก็แค่นั้นแหละลูก” “คุณพี่ก็บอกลูกคุณพี่สิคะ ตอนนี้ตาคิมงอแง ไม่ยอมหมั้นกับหนูณิชาอีก ธีรตาก็ไม่รู้จะพูดกับลูกยังไงแล้วค่ะคุณพี่ เห็นทีต้องเป็นตาเคนแล้วมั้ง อายุก็เยอะแล้วไม่คิดจะมีครอบครัว แล้วจะมีทายาทสืบทอดตระกูลได้ยังไงกัน” “คุณเองก็คอยจัดการอยู่ไม่ใช่เหรอธีรตา เห็นเจ้ากี้เจ้าการ จับตา
[แผนกสูตินรี โรงพยาบาลเชาวกรกูล] “สวัสดีค่ะคุณหมอเวธัส” “เอ่อ สะ-สวัสดีครับ”เวธัสมองใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม “อะไรกันนานิ แกเรียกพี่เคนซะเต็มยศแบบนี้ พี่เคนทำตัวไม่ถูกแล้วนะเนี่ย” “ก็พี่เคนเขาเป็นหัวหน้า อีกอย่างก็เป็นเจ้าของที่นี่ แกจะให้ฉันเรียกแบบแกได้ยังไงยูจิน” ปพิชญากระซิบข้างหูเพื่อนสาว “ไม่เป็นไรครับ เรียกพี่ตามยูจินเถอะครับ นี่ห้องทำงานของยูจินกับนานินะครับ แผนกนี้มีทั้งหมอและพยาบาลเกือบยี่สิบคนครับ เดี๋ยวยังไงก็ค่อยๆ ทำความรู้จักกันนะครับ หมอพยาบาลที่นี่ส่วนใหญ่จะเข้าเวรเช้าบ่ายดึก จะไม่ค่อยเจอกันสักเท่าไหร่” “แล้วพี่เคนอยู่ฝ่ายบริหาร พี่เคนอยู่ห้องไหนคะ ยูจินจะได้ไปหาพี่เคนถูกค่ะ” “พี่ก็อยู่ห้องเดิมครับ ไม่ได้ย้ายไปไหน” “อุ้ย ดีเลยค่ะ ^^” “วันนี้ตอนเย็น หลังเลิกงาน พี่จะพาเราสองคนไปเลี้ยงต้อนรับนะครับ” “ว้าว ดีจังเลยค่ะพี่เคน มีหัวหน้าทั้งหล่อ และใจดีแบบนี้รักตายเลยค่ะ ใช่มั้ยนานิ ^^” “อ่อ เอ่อ ค่ะ” สายตาแบบจิกมองมาที่เพื่อนตัวแสบทันที “อืม วันนี้ยูจินกับนาน
“เอ่อ ครับ” ความงดงามเบื้องหน้า ทำให้ ‘ราเชนทร์’ ชะงักตกใจ เขาอยู่ที่นี่มาเกือบสามปี ไม่มีใครคนไหนเลย ที่จะทักเขาแบบนี้ และไม่เคยมีด้วยซ้ำ ราเชนทร์ไม่มีเพื่อน ไม่มีใครคบกับเขาเลย นั่นเป็นเพราะตัวเขาเอง ที่ปิดกั้นคนอื่นๆ ‘อุ้ย ชื่อเวย์จริงๆ ด้วยเหรอ ตายแล้ว ทำไงต่อดีล่ะ ^^’ “ฉันยูจินไง” เมนิลาแทบจะไปต่อไม่เป็น เมื่อบังเอิญดันเหลือบไปมองเห็นใครอีกคน กำลังเดินเข้ามา ‘นี่พี่คิมทานข้าวในห้องอาหารนี้ด้วยเหรอ’ “ผม ไม่ได้ชื่อเวย์ครับ ผมชื่อเชนทร์ครับ” “อ่าว เหรอคะ แต่คุณหน้าเหมือนเพื่อนดิฉันมากๆ เลยนะคะ พอดีดิฉันพึ่งมาทำงานวันแรกค่ะ” “เหรอครับ งั้นยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมอยู่ที่นี่เกือบสามปีแล้วครับ อยู่ศัลยแพทย์หัวใจครับ” “อุ้ย งั้น คุณก็ต้องรู้จักหมอคิมสิคะ”อะไรมันจะลงตัวขนาดนี้ สายตาของเมนิลามองไปที่พี่คิมของเธอ ‘เขาควงแฟนไปด้วยทุกที่ ทำไมถึงไม่คิดที่จะแต่งงานนะ ผู้หญิงรอจนเกือบจะเฉาอยู่แล้ว’ “ครับ หมอคิมเป็นเจ้าของที่นี่ครับ อีกอย่างเป็นหัวหน้าของผมด้วยครับ หมอคิมเก่งมากๆ ครับ”ราเชนทร์อดชื่นชมไม่ได้เลย เพราะความเก
“อืม ใช่ค่ะพี่คิม” ปากบางยิ้มแฉ่ง “คิมคะ ตกลงคุณจะมาแค่ทักทาย หรือคุณจะมาทำอะไรกันแน่คะ”ญาณิศาเริ่มหมดความอดทนกับบทสนทนาต่อปากต่อคำของคนทั้งสองแล้ว บางที คิมหันต์กับเด็กคนนี้ คงไม่ใช่พี่น้องกันธรรมดาเสียแล้วสิ สังเกตจากอาการของแฟนหนุ่มของเธอแล้ว ตีความหมายเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย ‘นอกจากอาการหึงหวง’ “เดี๋ยวเย็นนี้ พี่นัดเราคุยกับพี่ก่อนนะ ยูจิน”คิมหันต์เปลี่ยนเรื่องทันที เมื่อรู้สึกว่าตัวเองจะแสดงอาการบางอย่างออกไป อย่างลืมตัว “ไว้พรุ่งนี้นะคะพี่คิม วันนี้ยูจินมีนัดแล้วค่ะ”เมนิลาจงใจเติมเชื้อไฟเข้าไปอีกครั้ง เพราะรู้สึกหมั่นไส้เขาอย่างที่สุด ‘เมนิลากับเขา จบไปตั้งแต่หกปีที่แล้ว เมื่อก่อนเธอยังเป็นเด็ก แต่ตอนนี้เมนิลาไม่ใช่เด็กคนนั้นแล้ว’ “โอเค งั้นวันนี้ พี่ไปรอเราที่บ้าน หลังจากนัดของเราเสร็จแล้วกัน ตามนี้นะ”สันกรามของหมอหนุ่มขบกันแน่น เพื่อระงับอารมณ์บางอย่าง ที่กำลังปะทุเดือดอยู่ในอกแกร่ง ‘อยากลองดีมากใช่มั้ย’ “ได้ค่ะ พี่คิม อาจจะดึกนิดนึงคงไม่เป็นไรนะคะ” “ไปกันเถอะค่ะคิม ไหนคุณบอกจะมาแค่ทักทายไงคะ”ญาณิศาตัดบท พร้อมกับด
ใบหน้าสวยร้อนผ่าว เมื่อนึกถึงบทรักอันร้อนแรงของเธอกับพี่คิม ที่เกิดขึ้นหลายครั้งหลายครา ทั้งที่บ้านและเพนท์เฮ้าส์ของพี่คิม เมนิลาไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าพี่คิมของเธอนั้น จะมีความต้องการมากขนาดนี้ ทุกที่ และเกือบทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องนอน โซฟา บนพื้น หรือแม้กระทั่งในห้องครัว พี่คิมไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลยสักครั้ง หนำซ้ำพลังยังล้นเหลือในตอนเช้าก่อนออกมาทำงานอีกด้วย ^^ “พี่รักเรานะ ยูจิน พี่คิมคนนี้รักยูจินนะครับ”เสียงทุ้มอันนุ่มนวลกระซิบข้างหู “ขอบคุณนะคะพี่คิม ที่พี่ทำตามสัญญาของพี่คิม ที่ให้กับยูจินไว้ เมื่อตอนห้าขวบค่ะ พี่คิมจะรักและดูแลยูจินตลอดไปจริงๆ นะคะ” “ตลอดไปชั่วชีวิต พี่สัญญาครับ” “ยูจินรักพี่คิมนะคะ รักมาตลอด ไม่เคยมีวันไหนเลยค่ะ ที่ยูจินจะหยุดรักพี่คิม ถึงแม้ตอนแรกอาจจะไม่เข้าใจพี่คิมสักเท่าไหร่ แต่ยูจินไม่เคยลืมพี่คิมเลยนะคะ กลับคลั่งรักพี่ไปอีก จนพี่คิมรำคาญ ไล่ยูจินให้ไปไกลๆ” “พี่ขอโทษครับ ต่อไปนี้ พี่คิมคนนี้ จะไม่ทำแบบนั้นกับยูจิน ของพี่อีกแล้วครับ จะรักและดูแลภรรยาคนนี้ตลอดไปครับ” “ยูจินก็เช่นกันค่
“อ๊า! นายนี่มัน อ๊ะ!” ญาณิศาไม่อาจต้านทานความรู้สึกกระสันรัญจวนนี้ได้อีกต่อไป ‘สักครั้งในชีวิต ญาณิศาขอทำตามใจตัวเองสักครั้ง ถ้าครั้งนี้พลาดอีก เธอจะไม่มีรักอีกแล้ว ตลอดชีวิต’ มือบางกดศีรษะของชายหนุ่มแนบลำตัว ทำให้ปากร้อนยิ่งละเลงปลายลิ้นไปที่ยอดปทุมสวย พรึ่บ! ชายหนุ่มผละออก พร้อมกับรีบถอดพันธนาการของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว มือหนาสั่นเทาในขณะที่กำลังปลดตะขอกางเกงออก เพราะความต้องการมันอัดแน่นเต็มเป้ากางเกงใหญ่ บวกกับความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างหนา “นายจะต้องรับผิดชอบฉันตลอดไป ถ้านายยังไม่หยุด!”เสียงหวานร้องเตือนคนตัวใหญ่ เมื่อสายตาของเธอ เหลือบเห็นแท่งใหญ่นั้น ผงาดอยู่ตรงหน้าของเธอ ใบหน้าสวยร้อนเห่อ เมื่อเห็นถึงความใหญ่โตของแท่งร้อนนั่น “ทั้งชีวิตเลยครับ ที่รัก โอววว์” ดุ้นใหญ่ลากไล้ไปมาตรงร่องกุหลาบสวย เพื่อแสดงให้เจ้าของร่างอวบอิ่ม ได้รับรู้ว่า เขารักเธอมากเพียงใด ความชื้นแฉะของร่องรัก ทำให้แท่งร้อนไล้ไปมาได้อย่างสะดวก “มันจะเจ็บไหม นายต้องอ่อนโยนกับฉันนะ อื้อ...”เจ้าของร่างเล็กยังคงคร่ำครวญไม่หยุด ญาญิศากึ่งกลัวกึ่งกล้า เธอไม่ใช่สาวแรกรุ่น ที
[ชลบุรี] “คุณยังไม่ให้คำตอบผมเลยนะครับ ว่าคุณจะแต่งงานกับผมหรือเปล่า ณิชา”สายตาคมมองร่างบาง ที่กำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอย่างร้อนใจ วันนี้ครบกำหนดที่เธอกับเขาจะต้องกลับแล้ว “นายจะบ้าหรือไง พึ่งจะตกลงคบกันไปเมื่อวาน วันนี้นายก็มาขอฉันแต่งงานเนี่ยนะ”ญาณิศามองหนุ่มหน้าขาวใสสไตล์เกาหลี ดวงตากลมโตกวาดไปทั่วใบหน้าอันหล่อคมนั้นอย่างชั่งใจ เธอไม่รู้ว่าตัวเองเดินทางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน ญาณิศายอมรับว่าเธอไม่มั่นใจ ในความรักครั้งใหม่ของตัวเองมากนัก ก็อย่างที่เธอเคยบอกไว้ ว่าญาณิศาไม่ชอบคบเด็ก เธอชอบผู้ชายที่อายุมากกว่าเธอ สเปคของเธอก็คือแนวโอป้าเท่านั้น “ผมเริ่มรู้สึกว่าคุณ ไม่ได้อยากคบกับผมเลยนะครับ”สายตาอันหวาดระแวง กวาดไปทั่วดวงหน้าขาวใสของเธอ “นายหมายความว่ายังไง” “คุณก็แค่รำคาญที่ผมตื้อคุณใช่มั้ย ณิชา” “ไม่นะ...ฉันก็แค่ไม่ชอบคบผู้ชาย ที่อ่อนกว่าฉันก็เท่านั้นเอง ถ้านายแก่กว่าฉันสักสามปี หรืออายุเท่ากัน ฉันก็คงไม่ติดอะไร แต่เอาเป็นว่า ฉันจะพิจารณาคำขอแต่งงานของนายก็แล้วกันนะ หลังจากนี้ฉันขอเวลาสักพักนะ” “จะพิจารณาง
ริมฝีปากหนาจูบเข้าที่ขมับขวาของหญิงสาว ก่อนที่กอดร่างบางเอาไว้แน่น ใบหน้าสวยเกยกับไหล่กว้าง เรียวแขนของเธอคล้องคอของเขาเอาไว้ หลังจากที่บทรักอันเร่าร้อนจบลง แต่ก็เพียงไม่นาน ความร้อนระอุประทุขึ้นแทรกเรือนกายของเธออีกครั้ง“พี่คิม มะ-มาอีกแล้วค่ะ อ๊ะ!”“เอาสิที่รัก สำหรับเรา พี่พร้อมเสมอ ยูจิน”บทรักบรรเลงอีกครั้ง อย่างดุเดือด ราวกับพายุในฤดูร้อนและอีกครั้งจนกว่าฤทธิ์ยากำหนัดนั้นจะสูญสิ้น!สองชั่วโมงผ่านไป…บนเตียงกว้าง...สองร่างอันเปลือยเปล่านอนแน่นิ่งแผ่หรา หลังจากมรสุมรักดุเดือดนั้นจบลง เสียงหอบหายใจปนกระเส่าของคนทั้งสองแผ่วเบาและลดลงตามลำดับ“ยูจิน…”“คะ?”“แต่งงานกับพี่เถอะ นะครับ พี่รักเรา”“ห๊ะ! อะไรนะพี่คิม”ร่างบางพลิกตัวขึ้นมาทับทาบผู้เป็นพี่ทันที ‘เมนิลาอยากเห็นสีหน้าของเขา นี่เธอฝันไปหรือว่าหูฝาดกันแน่’“พี่บอกว่า พี่รักเรา ยูจิน พี่รักน้องสาวตัวแสบคนนี้”นิ้วแกร่งจิ้มไปที่หน้าผากมน พร้อมกับผงกศีรษะขึ้น เพื่อจุ๊บไปที่หน้าผากหนึ่งที“ตอนไหนคะ?” ดวงตากลมโตกวาดไปทั่วใบหน้าของผู้เป็นพี่ เพื่อต้องการหาความจริงที่แสดงจากสีหน้า แววตาของคนพูด“ห้าขวบ”“พี่คิม!”“พี่รักเรา ตั้งแต่เร
“อ๊า! พะ-พี่คิม อื้อ” เมนิลาสะท้านไปทั่วเรือนร่าง สัมผัสร้อนจากมือของเขา ทำให้เรือนร่างของเธอร้อนระอุ เพราะความต้องการที่ถาโถมถูกกระตุ้นด้วยฤทธิ์ยา ผสมกับความกระสันสวาทที่แสนจะรัญจวนของเธอ ทำให้เมนิลารู้สึกวาบไหวจนช่องท้องหดเกร็ง “อึ้มม์” ริมฝีปากปากลากไล้เรื่อยมาตรงซอกคอขาวผ่อง จูบซับดูดเม้ม ใช้ฟันคมครูดเบาๆ ตรงเนื้ออ่อน จากนั้นไล่เรื่อยลงมาพร้อมกับมือหนาปลดกระดุม แหวกสาบเสื้อตัวสวย จนเจอเนินเนื้ออวบขาวสองก้อนใหญ่ “อร๊าง! พี่คิม อื้ออ” เสียงหวานร้องคราง พร้อมกับมือบางที่เกาะเกี่ยวไหล่กว้างเอาไว้แน่น เมนิลาต้องการ เธอต้องการผู้ชายคนนี้ “ครับ” ปากหนางับไปที่ปลายถันสีชมพูทันที หลังจากที่เขาปลดพันธนาการออกจนหมดสิ้น โดยท่อนบนเปลือยเปล่าปรากฎแก่สายตาของชายหนุ่ม ลิ้นสากลากไล้ละเลงไปที่ปลายถันแบบระรัว ฟันคมครูดเบาๆ ไปที่ลูกเชอรี่แดงสด “อ๊ะ! พะ-พี่คิม” นิ้วเรียวสวยแทรกไปยังกลุ่มผมดกดำของชายหนุ่ม ที่โน้มลงมา และกำลังดูดดื่มเต้าใหญ่ จากซ้ายไปขวา มือข้างหนึ่งบีบเคล้นเต้าขาว ปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยไปที่ยอดปทุมแข็งชัน “ยะ-ยูจิน” เสียงแหบพร่าพึมพำกับยอด
[15 นาทีต่อมา...เพนท์เฮ้าส์] ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด! เสียงกดรหัสหน้าประตู แกร๊ก! ประตูบานใหญ่ถูกเปิด ‘อยู่หรือเปล่าเนี่ย?’ เมนิลากวาดสายตา เข้าไปยังบริเวณภายในห้องใหญ่ ที่มีแสงไฟสลัวเปิดอยู่ เธอมองหาพี่ชายตัวแสบของเธอ ไปทั่วบริเวณห้องรับแขก ด้านนอก หรือแม้กระทั่งในห้องนอนใหญ่ ก็ไม่พบร่องรอยของพี่คิม มีเพียงแก้วกับขวดน้ำ วางอยู่บนโต๊ะ ดูจากสภาพแล้ว น่าจะพึ่งถูกเปิดอย่างแน่นอน แกร๊ก! เสียงประตูห้องน้ำใหญ่ถูกเปิด เมนิลาจ้องไปยังต้นเหตุเสียงนั้นทันที “พี่คิม!”ร่างสูงเดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูพันรอบเอว หยอดน้ำเกาะแพรวพราวทั่วเรือนร่างกำยำ แผงอกกว้างที่มีขนหน้าอกขึ้นประปราย กล้ามเนื้อที่งดงามแข็งแกร่งแบ่งตัวเป็นมัดๆ ไล่ลงไปคือกล้ามหน้าท้องเป็นลอนสวยงามแข็งแกร่ง อย่างคนสุขภาพดี “อืม” สายตาคมจับจ้องไปที่ร่างอวบอิ่ม ที่ยืนตะลึงค้างเติ่งอยู่กลางห้อง ริมฝีปากบางเผยอค้างไว้ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง และจ้องมองกลับมาที่เขา “ทำไม พี่คิมไม่รับโทรศัพท์คุณป้าคะ ยูจิน เอ่อ คุณป้าให้ยูจินมาดูพี่คิม ตะ-แต่ตอนนี้ พะ-พี่คิมน่าจะสบายดี งั้น ยูจ
“ก็ไม่นะ เฉยๆ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ จะได้ทุรนทุราย” “ก็นี่ไงครับ คุณไม่ได้เจ็บมาก คุณแค่เสียใจก็เท่านั้นเอง ถ้าคุณรักหมอคิมมากๆ คุณจะไม่เป็นแบบนี้หรอกครับ สภาพของคุณจะต้องแย่กว่านี้แน่นอนครับ” “อืม สรุป ฉันไม่ได้อกหักใช่มั้ย” “คนอกหักไม่ได้อยู่สภาพแบบคุณหรอกครับ”ราเชนทร์ส่งยิ้มให้กับหญิงสาวกับความน่ารักน่าเอ็นดูของเธอ จริงๆ เธอไม่ได้โตเลยสักนิด กลับเป็นเด็กมากกว่าอายุจริงเสียอีก “อ่าว เหรอ งั้น นายจะยังไงกับฉันต่อล่ะ ฉันมาคุยพ่อกับแม่นายแล้ว ไม่เห็นว่าท่านจะไม่โอเคกับฉันเลย หรือนายเป็นลูกคนเดียว ท่านเลยตามใจนาย เลยตามเลย” “คุณพ่อกับคุณแม่ท่านรักผมครับ ไม่ว่าผมจะรักใคร ท่านก็รักตามผมหมดแหละครับ ดังนั้น ผมรักคุณ ชอบคุณ ท่านก็รักและชอบคุณเหมือนกันครับ ^^” “จริงเหรอ...พูดก็พูดนะ ฉันยังแปลกใจไม่หายเลย กับหน้าตาและทุกอย่างที่เป็นนาย ฉันมองไม่ออกเลยด้วยซ้ำ ว่านายชอบฉันตรงไหนกัน ทั้งที่ฉันไม่ได้ดูดีอะไรขนาดนั้น” “ผมก็พูดกับคุณเป็นร้อยครั้งแล้วนะครับ ว่าผมชอบคุณที่เป็นคุณครับ คุณเป็นคนตรงไปตรงมา ผมชอบคุณที่เป็นแบบนี้ครับ นี
[เช้าวันต่อมา] ‘นี่เวลาเกือบเก้าโมงแล้วนะ ทำไมยัยนานิ ถึงไม่ออกมาซะที’ เมนิลายืนลังเลอยู่หน้าห้อง 701 เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว เธอไม่กล้าที่จะเคาะประตูเรียกคนทั้งสองเลย เมื่อคืนเธอวางแผนทุกอย่างสำเร็จ แต่ไม่รู้ว่าที่เหลือ เพื่อนของเธอจะทำสำเร็จหรือเปล่า ได้แต่ลุ้นอยู่หน้าห้องของพี่ชายอยู่แบบนี้ ‘หรือจะโทรเข้าไปเรียก จะดีมั้ยนะ ยัยนานิ กับพี่เคนจะอายกันหรือเปล่าเนี่ย โอย! จะเอายังไงดี’ เมนิลาเดินไปเดินมา ราวกับไม่รู้ว่าจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไรดี [ด้านในห้อง] “นานิ นานิตื่นเถอะครับ”เวธัสรู้สึกตัวเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ค่ำคืนที่ผ่านมา เขาและเธอมีความสุขอย่างที่สุด การร่วมรักนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้ร่างบางอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง และไม่ยอมตื่นจากการนิทราหลับใหล “อืม...ขอนอนอีกหน่อยนะ ยูจิน”เสียงเล็กอันแหบแห้งโต้กลับ ทั้งที่ดวงตายังปิดสนิทอยู่ “แต่เรามีกิจกรรมต่อนะครับวันนี้ ตื่นเถอะครับ”สายตาคมเข้ม จ้องไปยังใบหน้าขาวนวลเนียน อันบริสุทธิ์ผุดผ่องของเธอในยามหลับใหล จากนี้เขาจะรีบจัดการ เรื่องของเธอกับเขา การแต่งงานอาจถูกกำหนดไว้เร็วๆ
“อุ้ย พี่เคน อื้อ” เสียงใสร้องครางทันที เมื่อมีบางอย่างสัมผัสที่ต้นขาของเธอ มือทั้งสองข้างของเธอเกาะเกี่ยวลำคอแกร่งเอาไว้แน่น ความซาบซ่านแผ่ไปรอบกายอวบอิ่ม ร่างเล็กเบียดแซะเร่งคนตัวใหญ่ อย่างกล้าหาญ “นานิ โอวว์” จูบร้อนบดขยี้อย่างรุนแรง ความปรารถนาแผ่ซ่านทั่วร่างกำยำ มือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังขาวเนียนไร้อาภรณ์ วกกลับมาด้านหน้า ก็พบกับปทุมลูกใหญ่ มือหนาบีบเคล้นอย่างหนักหน่วง จนร่างบางสะท้านขึ้นมาทันใด “อ๊า! พะ-พี่เคน อูยย์” ร่างบางห่อปากอย่างสุดสยิว ความหวามไหว มวนอยู่ตรงช่องท้องของเธอ ทำให้ร่างบางดีดตัวขึ้น พร้อมกับกระดกปทุมใหญ่ขึ้น เข้าไปที่ปากหนาทันที “นานิ อึ้มม์” ปลายลิ้นใหญ่ตวัดไปที่ปลายถันสีชมพูสด ดูดเม้ม ละเลงไปที่ลูกเชอรี่อย่างเมามัว มืออีกข้างบีบเคล้นอกใหญ่จนทะลักล้นมือ “อร๊าง! อ๊า พี่เคนคะ นานิ สะ-เสียวค่ะ อื้ออ” มือบางขยุ้มไปที่กลุ่มผมดกดำของชายหนุ่ม ความรู้สึกซาบซ่านแทรกขึ้นตามลำดับ ร่างบางเด้งเข้าหาปากร้อนอย่างลืมตัว “คะ-ครับ นานิ โอวว์ ซี๊ดดดด” มือหนาลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างอันงดงาม ขาวโพลน ยามต้องแสงไฟบนหัวเตียง ทำให้เร่งคว