ติ๊งติ๊งติ๊ง
ในขณะที่สกายพูดสายอยู่เสียงแจ้งเตือนแอปพลิเคชันการเงินก็ดังขึ้นระหว่างรอคำตอบ จนทำให้หัวคิ้วของสกายขมวดเข้าหากัน "สกาว!!" เสียงของสกายส่งดสียงออกมาดังมากจนทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาสดุ้งตัวหันกลับมามอง "ขอโทษครับ ๆ" สกายน้อมตัวขอโทษที่เผลอคุยโทรศัพท์เสียงดัง 'เฮือก! อะ..อะไรพี่สกายเรียกสะดังเลย' ไม่เว้นแม้แต่ปรายสายก็ยังตกใจกับชื่อตัวเองที่ถูกพี่ชายตะโกนเรียก "อยู่ไหน" สกายพยายามข่มอารมณ์ไม่ให้พุ่งพล่าน แม้หัวคิ้วจะกระตุกนิด ๆ ก็ตาม ท่องเอาไว้ในใจ พุธทนหนอ โธทนหนอ อยู่อย่างนั้น 'อยู่ชอปกระเป๋าค่ะ กาวจองกระเป๋าไว้สามใบ~' น้ำเสียงของปรายสายยังคงไม่รู้ตัวว่าทำคนขี้เหนียวโกรธมากจนแทบอยากจะบีบคนถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องตัวเอง "เคเดียวพี่ไปหา เอาแบล็กการ์ดพี่ไปใช้คือไม่คิดจะขอกันเลยนะ หยิบไปตอนไหน" สกายพยายามที่จะไม่เอาเรื่องน้องสาวตัวเอง 'ก็ยืมเอามาใช้ก่อน เฉย ๆ นะคะเห็นพี่รีบกาวก็เลยไม่ได้บอก' เสียงปลายสายพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ที่ได้ใช้เงินพี่ชายของเธอที่ขี้งก ที่ 1 ไม่รู้จะเก็บสะสมเงินไว้ใช้ไปทำอะไรนักหนา แบ่งให้น้องอย่างเธอใช้บ้างขนหน้าแข้งก็คงจะไม่ร่วงหรอกมั้ง "เหรอ~" ผมตอบกลับน้องสาวด้วยความไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ โกรธมากนะครับแต่ก็รู้ว่าน้องอาจจะไม่มีอะไรทำมั้งเลยหาเรื่องแกล้งแต่พี่ชายตัวเองอย่างนี้ สิสัยเสียได้ใครก็ไม่รู้! 'พี่ชาย~ ก็น้องโดนคุณยายหักเงินเดือนนี่นา~' เสียงหวานพูดจาออดอ้อนทันที ที่ได้ฟังจากน้ำเสียงของพี่ชายตัวเอง "เหอะ" จากนั้นสกายก็วางสายแล้วเดินไปหาน้องสาวตัวเองทันที . . ชอปกระเป๋า "พี่ชาย~ ทำธุระเสร็จแล้วเหรอทำไมไวจังเลย" เหมือนฉันเห็นพี่ชายตัวเองเดินทำหน้าบึ้งเข้ามาในช็อปก็รีบทักทายทันทีด้วยรอยยิ้มหวานและออดอ้อนเพื่อเอาอกเอาใจเพราะแอบใช้เงินพี่ชายตัวเองไปเยอะเหมือนกัน รู้ว่าการกระทำแบบนี้มันไม่ควรแต่มันก็อดห้ามใจไม่ได้ "ไม่ต้องมาทำหน้าตาแบบนี้ไม่ใจอ่อนให้หรอกนะ ชดใช้มาชะดี ๆ" ฉันมองหน้าพี่ชายจอมขี้เหนียวของตัวเองแล้วทำหน้าบึ้งกับคืนคนอะไรขี้งกจังเลย อย่าให้รวยนะจะไม่ใช้เงินพี่ชายเลยคอยดูเชอะ ติดแค่ที่ว่าตอนนี้ยังไม่รวยไงเหอะ "หยุมหยิมน๊าพี่ชาย~" มองพี่ชายที่กำลังอารมณ์ไม่จอยแต่ทำไรไม่ได้ เพราะสกาวรูดบัตรใช้เงินไปแล้ว ได้แต่อ้อนเอาอกเอาใจ ตามประสาพี่น้องรักใคร่ปองดอง "หมดไปเท่าไหร่ละไอหยุมหยิมนะ เพรา ๆ ลงหน่อยเถอะ" โอเคโดนเทศนาหนึ่งแมสรับบทเป็นผู้ฟังที่ดีย์ไปก่อนละกันนะสกาวนะ "คร้า~ น้องจะพยายามนะคะ >_<" ทำหน้าตาปริ๊ง ๆ เพิ่มความน่ารักไปเลยเดี๋ยวพี่ก็ใจอ่อนเองนั่นแหละ "ให้มันได้ยังนี้สิวะ ซื้อเสร็จ ยังเดี๋ยวก็ไปฝากครรภ์ไม่ทันหรอก" สกายพึมพำเบา ๆ กับตัวเองแล้วหันไปถามน้องสาวทันที "เสร็จแล้วค่า~พี่ชายเราไปกันเถอะ คิคิ" สกาวหันกลับมายิ้มตอบคำถามของพี่ชายแล้วก็หัวเราะออกมาเบา ๆ "ไปกลับ เอาของมานี้พี่ถึงเอง เอากุญแจรถไปสตาร์รถรอเลย" สกายมองของในมือน้องสาวที่เหมือนจะเยอะพอสมควรก็ยื่นกุญแจรถยนต์ให้กับน้องสาวตนเองก่อนที่เขาจะมองถุงช็อปของน้องสาวที่มีมากกว่า 10 ใบ ทำได้แค่ถอนหายใจไปพลาง ๆ "รับทราบค่ะพี่ชาย น้องไปรอที่รถเลยน๊า จุฟ! น่ารักฟุด ๆ พี่ชายใครเนี่ย~" สกาวยิ้มรับกุญแจรถมาจากพี่ชายพร้อมกับเข้าไปจุ๊บหอมแก้มพร้อมคำชมที่แสนจะน่ารัก เขามักจะไม่ค่อยได้เห็นสกาวในมุมนี้เท่าไหร่ตั้งแต่โตขึ้นมายันวัยรุ่น และจนถึงตอนนี้ก็กำลังได้เห็นอารมณ์แปรปรวนของน้องสาวตัวเอง ตอนเช้าทะเลาะสาย ๆ รักกัน หรืออาจจะเป็นเพราะฮอร์โมนคนท้องสกายจึงไม่ได้คิดอะไรมาก . เพียงไม่นานร่างของสกายที่หอบหิ้วของพะรุงพะรังเดินออกมาจากลิฟท์ห้างสรรพสินค้า คนที่นั่งตากแอร์เย็นฉ่ำอยู่ในรถก็ยิ้มออกมาทันทีแล้วเปิดประตูลงไปช่วยจัดของที่พี่ชายถือมาให้ "ขอบคุณนะคะพี่ชายน่ารักที่สุดเลย~" ฉันเปิดประตูรถเดินเข้าไปหาพี่ชายที่หอบหิ้วของพะรุงพะรังก่อนที่จะรีบเอามือไปช่วยยัดของเข้าไว้ในท้ายรถ "เสร็จแล้วไปกันเถอะ" สกายมองน้องสาวที่กำลังเดินขึ้นรถไป อย่างอารมณ์ดี ภายในรถ "ไปฝากท้องที่โรงพยาบาลไหน" สกายหันมาถามน้องสาวของตัวเองทันทีเมื่อเห็นว่าน้องสาวของเขากำลังจะนอนหลับตาปรือ "โรงบาลรัฐบาล~" สกายตอนเสียงเบาคงเหนื่อยจากการชอปปิ้งเยอะ "โอเคนอนไปเลยถึงแล้วพี่จะเรียกแล้วกัน" สกายมองน้องสาวตัวเองที่หลับตาพริ้มอยู่ก่อนจะมองถนน และขับรถไปโรงพยาบาลรัฐบาลชื่อดังในรัฐนี้ การใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศก็ไม่ได้แย่ . โรงพยาบาล "สกาว ๆ ตื่นได้แล้วถึงโรงพยาบาลแล้ว ตื่นก่อน" สกายปลุกน้องสาวที่หลับสนิทไปเกือบครึ่งชั่วโมง หลังจากจอดรถในชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล "อื้มม~ ถึงแล้วเหรอไวจัง" สกาวงัวเงียตื่นขึ้นมามองปรับจุดโฟกัส หลังจากที่เผลอหลับไปได้ไม่นาน "ถึงแล้วนะสิถ้าช้ากว่านี้รับรอ ไม่ทันหมอ ตื่นได้แล้วยังจะมาหลับตานอนอยู่อีก" เมื่อหันมามองน้องสาวตัวเองสกายก็จำเป็นต้องเรียกเธออีกครั้ง "ยัยขี้เซา ตื่นได้แล้วน่า~" สกายสะกิดตรงแขนเธอ เบา ๆ เพื่อปลุกให้ตื่น "พี่กาวตื่นอยู่ แค่พักสายตา" คนโดนก่อกวนพูดออกมาทั้งที่ดวงตายังไม่ลืมตาขึ้นมามองด้วยซ้ำ "ตื่นแล้วก็นี้ เร็ว ลงจากรถเรามาถึงกันนานแล้วมัวแต่นอนเดี๋ยวก็ได้คิวช้าอีก" สกายบอกก่อนจะเปิดประตูเดิน ลงมาจากรถ รอเพียงไม่นานร่างอรชร ก็เดินตามลงมาด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ เพราะเธอง่วงนอน! "ชิ ไม่อยากมาเลยอ่า~ ง่วงก็ง่วง เซ็งเป็ด" สกาวบ่นออกมาด้วยสีหน้าเซ็ง ๆ "รีบตรวจรับฝากครรภ์ จะได้กลับบ้านไปนอนไว ๆ ไม่ดีหรือไงเล่า ปะให้ไวเลยอย่ามาชักช้าลีลา ของก็ได้ตามใจปรารถนาแล้ว ช็อปกระจายไม่มีเกรงอกเกรงใจ ยังจะมาบ่นอีก" สกายมองน้องสาวที่เดินตามมาอย่างคนไร้วิญญาณเพราะกำลังตื่น และออกอาการงอแง "ไม่บ่นแล้ว สำนึกผิดไม่ทันแล้วเนี่ย~" สกาวยู้ปากมองบนใส่คนที่บอกว่าเธอบ่น แต่ตัวเองก็บ่นให้น้องสาวคนนี้เหมือนกัน! ไหนความยุติธรรมอยู่ตรงไหน~ กาวจะไปทวงมา ชิ "หึ ดีสำนึกเยอะ ๆ หน่อย" สกายอมยิ้มมองน้องสาวตัวเองที่เดินตัวอ่อนเขามากอดแขนอย่างออดอ้อนเอาใจ "ค่า~ คุณพี่คุณน้องกำลังสำนึกผิดอยู่คร้า~" สกาวบ่นด้วยความประชดแบบไม่ได้จริงจัง ยังไงเธอก็ไม่สำนึกหรอกนะแบร่~ หลอกล่อให้พี่ชายตายใจไปก่อน จะทำอีกแน่นอน!! "เหอะให้มันจริงเถอะ" สกายว่าให้เพี่จะรู้ทันน้องสาวตัวเอง เลี้ยงมาด้วยลำแข้งทำไม่จะไม่รู้ความเจ้าเล่ห์เพทุบายของยัยตัวแสบนี้ หึ "จริงแท้แน่นอน เอาตุ๊กตาหมูพูหน้ารถพี่สหายเป็นประกัน" เธอพูดจบก็ปล่อยมือออกจากแขนพี่ชายแล้วเดินนำไปตรงจุดประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล "อ้าวตุ๊กตาหน้ารถพี่เกี่ยวไรด้วยเนี่ยยัยเด็กแสบฮ้ะ" สกายก็เดินตามมาถามทันที . "มาฝากครรภ์ค่ะ" สกาวไม่ตอบพี่ชายแล้วก็ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์แทน "ขอชื่อเบอร์โทรค่ะ" เสียงใสของ สาวห้องประชาสัมพันธ์ทำเอาคนที่เดินตามมาหยุดชะงักไป "สกาวฟ้าค่ะ" เธอบอกกับเจ้าหน้าทันที "โอเคค่ะรอสักครู่นะคะ" หลังจากนั้นเพียงไม่นานเธอก็ได้รับการ์ดผู้ป่วยของโรงพยาบาลทันที "ไปกันเถอะ" เสียงสกายที่ตั้งสติได้ดังขึ้นมาทำให้คนที่อยู่ในห้องประชาสัมพันธ์มองตามเสียงนั่นไป แววตาสั่นระริก เพราะไม่แน่ใจว่าคนที่มาด้วยคือภรรยาของเขาหรือเปล่า "ไปกันคะ ง่วงจะแย่ไม่น่าลำบากให้ต้องมาฝากครรภ์เลยเฮ้อ~" ร่างบางเดินไปบ่นไปถอนหายใจทิ้งขว้างไปหลายรอแล้ว! "ทนหน่อยสิก็ใครบอกให้ไม่ป้องกันเองละ ทำตัวเองก็ต้องรับผิดชอบตัวเองอย่าบ่นไปเร็ว ไปแผนกสูนติ" สกายไม่มีท่าทางที่จะปลอบใจแถมยังว่าให้อีก พี่ชายอะไรบ่นเก๊งเก่ง! "รู้แล้ว ๆ บ่นอยู่นั่นหูจะชาหมดแล้ว ไม่รับรู้แล้ว~" สกาวเอามืออุดหูแล้วรีบเดินนำไปแผนกสูนติทันที จนไม่ทันได้มองทางเดิน ปึก ร่างบางเดินชนเข้ากับแผงอกของผู้ชายตัวสูงร้างใหญ่หุ่นสมส่วนมาก! หน้าสัมผัสสุด ๆ ไม่ ๆ ไม่ อยากมโนสิยัยสกาว! "ขะ..ขอโทษค่ะ" เสียงหวานร้องออกมาเบา ๆ ก็จะหลีกทางให้ผู้ชายคนนั่นเดินจากไป หน้าก็ยังไม่ทันได้มองเลยมั่วแต่ตกใจกับแผงอกเป็นมัด ๆ "ซุ่มซามจริง ไปเร็ว ๆ เลย" สกายเดินตามมาทันเห็นน้องสาวตัวเองออกอาการบ้าผู้ชาย พอดี ขนาดไม่เห็นหน้ามันยังยิ้มตามขนาดนี้ ถ้าเห็นหน้าผู้ชายคนนั่นมันจะไม่แก้ผ้าปรนเปรอเขาบนเตียงเลยเหรอวะนั่น เหอะ "อะไรเล่าพี่นี้ชอบมาดับฝันเฟื่องของฉันจริง ๆ เชอะ!" ร่างบางเดินมานั่งรอที่เก้าอี้หน้าห้องตรวจครรภ์ วันนี้คนก็ไม่คนเยอะเท่าไหร่แค่ 7-8 คนเอ๊ง~ "มาช้าไง คิวเยอะมาก" สกายบ่นออกมาทันที โดนไม่สนคนอื่น ๆ ที่นั่งรับรู้อยู่เช่นกัน "เถอะน่าถึงเราจะมาช้าแต่ก็จงรู้ไว้ว่ายังมีคนมาช้ากว่าเราเสมอ" สกาวพูดจบก็เผยอหน้า ไปทางบุคคลที่เข้ามาใหม่ "เอ่อคิดอะไรง่าย ๆ แบบนี้ก็ดีสบายใจหน่อยไม่ต้องมานั่งรอเป็นคิวสุดท้าย" สกายมองตามน้องสาวออกไป ก็เห็นคนเดินเข้ามาใหม่สามสี่คน ก็ยังดีแหละนะที่ยังมีคนมาเรื่อย ๆ สามีีพวกเขาช่างขยันกันจริง ๆ "ใช่ไหมล่า~ เรามาเร็วไปด้วยซ้ำเพราะฉะนั่นพี่เลิกบ่นแล้วนั่งรอเงียบ ๆ ไปเลยนะ" ได้ทีสกาวก็ห้ามปรามพี่ชายตัวเอง ไปพราง ๆ บอกหรือบ่นมากก็ไม่ได้ เพราะมีคดีรีดไถ่ทรัพย์ของพี่ชายติดตัวอยู่ เดียวอิพี่มันจะย้อนด่าและทวงเงินเอาพอเดินเข้ามาในคาเฟ่ก็ทำให้เธอรู้สึกตะลึงไปกับความแปลกใหม่เล็กน้อย "มันสวยมากเลยค่ะ ราวกับว่าเราได้อยู่ในจักรวาลทั้ง ๆ ที่อยู่บนโลกมนุษย์แท้ ๆ" สกาวมองไปรอบร้านที่ตกแต่งร้านได้สวยงามรวมพวกสิ่งประดับเกี่ยวกับกาแล็กซี่ต่าง ๆ ของจักรวาลอยู่ในร้าน "ผมว่าเจ้าของคาเฟ่คงต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยแน่เลย" ความคิดของเขาไปในทางนั้นจริง ๆ ไม่แน่ใจว่าเจ้าของคาเฟ่เก่งเรื่องวิทย์ - คณิตด้วยหรือเปล่า "แต่กาวไม่น่าจะใช่นะคะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เจ้าของร้านคงต้องเรียงพวกดาวเคราะห์ถูกสิ ไม่ใช่ให้เรียงตามใจชอบแบบนี้" เธอมองไปที่ผนังร้านที่มีกลุ่มดาวเคราะห์หลายดวงที่เรียงกันสับสนไปหมด "จริงด้วยสินะ หรืออาจจะเป็นลูกค้าที่มาสลับสับเปลี่ยนพวกกลุ่มดาวพวกนี้เองหรือเปล่าก็ไม่รู้ดูสิเห็นไหมว่ามันขยับได้" หมอทักษ์ ชี้ไปที่ดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนผนังคาเฟ่ "มันขยับได้จริง ๆ ด้วยค่ะ" สกาวพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นที่ได้เห็นสิ่งแปลกตาและมหัศจรรย์ ภายในร้านคาเฟ่เล็ก ๆแห่งนี้ "ขอโทษนะคะลูกค้า ลูกค้าต้องการดื่มอะไรดีคะ" พนักงานของร้านที่ตอนแรกไม่เห็นว่ามีลูกค้ารีบเดิน
เขามองริมฝีปากเธออยู่อย่างนั้นก่อนที่จะค่อย ๆ เอามือของตัวเองไปโอบศรีษะของเธอให้ริมฝีปากของเธอเข้ามาใกล้กับริมฝีปากของเขาอีกครั้ง "คะ..คุณ อืม~" 'หมอคะ' เธอไม่ทันได้พูดเรียกสติของชายหนุ่มก็ถูกริมฝีปากของเขาประกบจูบเข้ามาทันทีโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งสองคนกำลังจบกันอย่างโดดดื่มทำให้การสัมผัสของทั้งคู่เกิดความเร่าร้อนขึ้นมาทันที ชุดนอนผ้าลื่นเนื้อบางถอดง่ายใส่สบายทำให้สกาวต้องเผลอไผไปกับรสจูบของคุณหมอหนุ่ม "อืม~" จ๊วบ ๆ จ๊วบ เสียงจูบและลิ้นพันกันอย่างเร่าร้อนยังคงไม่จบลงทำให้สกาวเริ่มหายใจติดขัด เมื่อเขารู้ว่าเธอเริ่มจะหายใจไม่ออกและดิ้นรน จึงค่อย ๆ ถอดริมฝีปากของตัวเองออกจากปากของหญิงสาว "คุณสงสัยเหมือนผมไหมครับ ว่าทำไมเวลาผมอยู่กับคุณทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ และต้องการที่จะสัมผัสคุณมากขึ้นทุกครั้ง" เขาจับคางของหญิงสาวขึ้นมาเผชิญหน้ากับตัวเองที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอเริ่มมีอาการแดงกล่่ำเพราะความเขินอายจากรสจูบแสนหวาน ที่เขามอบให้เธอ "ทะ..ทำไปคุณหมอพูดอย่างนี้ล่ะค่ะคงไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ" สกาวที่ไม่ยอมบอกอะไรกับเขา ทำให้เขาต้องเป็นคนดิ้นร
หลังจากออกเวรสกาวรู้สึกอ่อนเพลียมาก เธอกลับมาทำงานตามปกติ พอนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนที่ทางเธอและหมอเทพพิทักษ์ได้ไปเป็นตัวแทนของโรงพยาบาลเพื่อมอบ เงินสมทบทุนให้กับเด็ก ๆ ที่ขาดแคลน .หลังจากที่ขับรถมาถึงที่พักก็เข้าเช็คอินทันที "ทำไมจองไว้ห้องเดียวล่ะคะ" จะกล่าวถามด้วยใบหน้าที่ตกใจและมองสบตากับคุณหมอที่เคยเป็นอาจารย์แพทย์สอนเธอ "ห้องมันเต็มครับผมถามไปแล้วกว่าจะได้ห้องก็คงอีก สองวันนู้นพอถึงตอนนั้นเราก็เช็คเอาท์ออกกันพอดี แต่ห้องนี้เป็นห้องใหญ่ไม่ต้องกังวลหรอกครับผมไม่ทำอะไรคุณหรอก" หมอทักษ์ มองคนที่เขารู้สึกคุ้นเคยแต่ก็คับคล้ายคับคลายังจำไม่ค่อยได้ ในหัวสมองของเขามีอาการสับสนกับความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหญิงสาวของเขาจนแปลกใจ "อ่อ เป็นห้อง สองเตียงใช่ไหมคะ" สกาวหันกลับไปถามพนักงานที่คอยต้อนรับและให้ลูกค้ามาเช็คเอาท์อยู่หน้าเคาน์เตอร์ "ใช่ค่ะลูกค้าต้องขออภัยจริง ๆ นะคะที่ทางเราไม่สามารถจำหน่ายห้องแยกได้เพราะช่วงนี้เป็นช่วง ที่ทางที่พักได้ทำการโปรโมทไปด้วยเลยทำให้ห้องพักไม่เพียงพอต่อการเข้าพักค่ะ" พนักงานตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและพูดด้วยถ้อยคำอ่อนโยนกล
ร้านอาหารทะเล ในช่วงเวลา 19:30 ทั้งสี่คนได้มานั่งสั่งอาหารและตอนนี้อาหารทะเลเติมโต๊ะ "ลุงแกะให้หนูรอกินอย่างเดียว" สกายอาสาแกะปูแกะกุ้งให้หลานชายหลานสาว และ ภรรยา เป็นภาพที่น่ารักมากหากมองจากบุคคลภายนอก "ขอบคุณค่ะคุณลุง" ซีเฟียตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย "อันนี้ของเฟียสครับ" สกายว่างกุ้งตัวใหญ่ในจานหลานชาย"ขอบคุณครับ" "พี่ก็กินของตัวเองได้แล้ว เด็ก ๆ ก็แกะกุ้งแกะปูกันเป็นนะคะ" คนเป็นภรรยาเมื่อเห็นว่าสามียังไม่ได้แตะอาหารของตัวเองก็ท้วงขึ้นมาทันที"ใช่ครับคุณลุงพวกเราแกะเป็นพวกเราโตแล้ว" น้องชายฝาแฝดของซีเฟีย พูดขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นว่าจานอาหารของคุณลุงยังไม่ลดลง มื้ออาหารเติมไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ในค่ำคืนที่ผ่านมา 07:00น.ช่วงเวลาของเช้าวันถัดมาชั่งผ่านมาวัยเหลือเกิน "ทำไมตื่นเช้าจังเลยคะ" เธอเดินตามสามีออกมาเมื่อมองบนเตียงนอนแล้วไม่พบผู้เป็นสามีนอนอยู่ "วันนี้พี่ต้องเตรียม ฉากและพื้นที่ให้กับหลานน่ะเลยจะลองออกไปขออนุญาตทางเจ้าของหาดดูก่อน" สกายหันกลับมามองตามเสียงคำถามของภรรยา เขาก็รีบตอบทันที"หันหม่อนไปถามให้ดีไหมคะ
"สวยมากเลยค่ะคุณลุง" ซีเฟียมองดูชุดคอลเลชั่นใหม่อย่างตื่นเต้น "ไหนคุณลุงบอกว่าอีกสองสามวันถึงจะได้ทำงานไงครับ" เฟียสมองชุดตาเป็นประกายเพราะเขาเองก็อยากหาเงินช่วงวันหยุด "ลุงกะว่าจะเอามาเซอร์ไพรส์หลาน ๆ แต่ได้ยินตอนที่กำลังพูดคุยกันพอดีเลยบอกเลยดีกว่า" สกายยื่นชุดให้หลาน ๆ ไปลองใส่มาให้ดูก่อน ซึ่งเขาก็นั่งรออยู่ในห้อง "ที่รักอาหารมาส่งแล้ว เอะแล้วเด็ก ๆ ไปไหนกันหมดคะ" ใบหม่อนภรรยาสาวที่ปลีกตัวออกไปรับอาหารที่สั่งไว้ เพราะมีพนักงานมากดกริ่งเรียกที่หน้าบ้านพักพอดี หลังจากรับอาหารเสร็จพอเดินกลับเข้ามาก็ไม่เห็นหลาน ๆ แล้ว "ลองชุดว่ายน้ำอยู่ในน้ำห้องครับ" สกายส่งสายตามองไปยังประตูห้องน้ำสองห้องที่ติดกัน "คุณลุงหนูใส่ได้พอดีเลยค่ะ" ซีเฟียเปิดประตูออกมาและหมุนตัวอวด ลุงของเธอ "ชุดเฟียสก็เท่ห์มากเลยครับคุณลุง" เด็กชายเดินออกมาหลังจากเห็นพี่สาวหมุนตัวราวกับเป็นนักบัลเล่ต์ "ไหนขอลุงถ่ายรูปหน่อยเดี๋ยวจะส่งให้แม่พวกหนูดู" สกายหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดถ่ายภาพหลาน ๆ และส่งเข้าไปในแชทน้องสาว "อาหารมาแลเวนะเด็ก ๆ
เช้าวันต่อมา 08:30น. สกาวมองนาฬิกาข้อมือ ปากก็หาวออกมาเนื่องจากเมื่อคืนเธอรอดูละครที่ลูกสาวแสดง จนทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอ แม้ว่าปกติเธอก็นอนไม่เพียงพออยู่แล้ว "มารอเช้าจังนะเลยนะครับ" รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาประชิดริมฟุตบาท "ความจริงก็อยากจะมาสายกว่านี้เหมือนกันคะ แต่ติดที่เป็นคนตรงต่อเวลาเลยต้องมากก่อนเวลาเสมอ" สกาวตอบกลับคนที่ทักทายก่อนที่เขาจะเดินลงจากรถมายกกระเป๋าให้เธอ "ขอบคุณที่ช่วยค่ะ" สกาวเดินเข้ามานั่งในรถรอให้หมอทักษ์เอากระเป๋าเธอไปเก็บทายรถ พอเขาเดินกลับมาก็เอ่ยขอบคุณตามมารยาท "หืม ทำไมคุณหมอมีนิตยสารแฟชั่นเด็กเยอะจังเลยคะ" เมื่อสกาวเห็นว่านิตยสารที่อยู่ในรถของหมอทักษ์ ล้วนแต่เป็นลูกชายเธอที่ค่อยถ่ายแบบให้กับแบรนด์เสื้อผ้าของพี่ชาย "อ่อ คุณพ่อผมเป็นหุ้นส่วนกับแบรนด์นี้ ก็ไม่แปลกหรอกครับที่ผมจะมีนิตยสารทุกคอลเลคชั่น" หมอทักษ์หันมามองหญิงสาวที่สนใจนิตยสารของเขาที่อยู่ในรถ แม้ว่าความจริงเขานั้นจะพึ่งรู้ว่าคุณพ่อของเขาก็มีหุ้นส่วนกับแบรนด์แฟชั่นเด็กไม่กี่วันนี้เอง "จริงเหรอคะ" พอหมอทักษ์พูดขึ้นสกาวจึงพ