ทางด้านประชาสัมพันธ์
"แกโอเคป่ะยันวัชพืชมงคล" เพื่อนสาวที่สังเกตการณ์และรู้ดี ยิ่งกว่าตัวเธอทักถามขึ้นมาทันทีเมื่อ คนไข้สองชายหญิงเดินจากไป "ชื่อใบหม่อน เรียกดี ๆ ดิ ยัยโคลน ทำไม่จะไม่โอเคละ คนอย่างใบหม่อนเลิกคือเลิกไง" หญิงสาวพูดด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจว่าจะไม่มีทางกลับไปคืนดีกับอดีตแฟนหนุ่มอย่างสกาย "ชื่อชาโคลเหอะ แล้วทำไมถึงเลิกกันได้วะเห็นแกสองคนรักกันออก ขนาดนั้นไม่คิดว่าจะมีวันที่ต้องเลิกลากัน คนเชียร์อย่างฉันยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลยนะ" ชาโคลยักคิ้วกวน ๆ ส่งไปให้เพื่อนสาว "อืม ก็ไม่คิดเหมือนกัน เขาไม่ง้อจะหน้าด้านกลับไปขอคืนดีก็ไม่ได้แล้วป่ะเป็นคนบอกเลิกเองก็ต้องทำใจอยู่ดีว่ะ" ใบหม่อน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ เพราะความที่เธอปากไว(พล่อย)ไปหน่อย เลยขอเลิกไปอย่างนั้นและไม่คิดว่าจะต้องเลิกกันจริง ๆ "ถามจริง! แกได้พกสมองมาด้วยป่ะเนี่ย~" ชาโคลมองเพื่อนสาวตัวเองอย่างอึ้ง ๆ รักกันปานจะกลืนกินจะเลิกก็เลิกกันง่าย ๆ ขนาดนี้เลยหรอวะ คนสวยไม่เข้าใจ! "ถ้าไม่พกมาจะเรียนจนจะจบแล้วต้องมาฝึกงานอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ไหมล่ะ ถามอะไรโง่ ๆ ไม่สมกับชาโคลเลยนะ" ก็ไม่ต้องแปลกใจหรอก ที่คบกันอยู่แค่สองคนก็เพราะปากหมาด้วยกันทั้งคู่นี่แหละ "โอ๊ยย ยัยซื่อบื้อเอ๊ย ช่างมันเถอะ สมองมันคนละส่วนกัน แกเข้าใจไหมว่าสมองความรู้สึกกับสมองการเรียนมันคนละส่วนกัน ฉันอยากจะกรี๊ด ถามจริงเหอะใบหม่อนแกยังรักเขาอยู่หรือเปล่า" ชาโคลมองเพื่อนตัวเองพร้อมกับระบายอารมณ์ออกมาทันทีด้วยความที่เธอเป็นคนเก็บอารมณ์ไม่อยู่อยู่แล้วยิ่งมาเจอเพื่อนที่ไม่รู้ว่าฉลาดเฉพาะแค่การเรียนหรือเปล่าเพราะเรื่องอื่นก็คือดูมันโง่ไปหมดเลย ช่างหัวมันเถอะ "รักสิ รักมากด้วย" ใบหม่อนหันไปยิ้มบอกกับเพื่อนสาวแม้ใจข้างในจะรู้สึกปวดร้าวมากก็ตามไม่เป็นไรเธอทนได้เจ็บแค่นิดเดียว ทนไหวอยู่แล้ว . . ห้องตรวจ "คุณสกาวฟ้า เชิญค่ะ ห้องตรวจสองนะคะนายแพทย์รออยู่" ผู้ช่วยพยาบาลเดินออกมาเรียกคนไข้ที่มีคิวรอ ตรวจและฝากครรภ์ ทันทีหลังจากที่คนไข้รายก่อนหน้านี้ได้ตรวจและทำการฝากครรภ์กับคุณหมอจนมาถึงคิวของสกาว "สกาวเขาเรียกแล้ว ให้พี่เข้าไปด้วยไหม" สกายถามน้องสาวทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของผู้ช่วยพยาบาล "ไม่เป็นไรพี่รออยู่ข้างนอกนี่แหละหนูเข้าไปเองไม่ต้องห่วงหรอกน่าแค่นี้สบาย ๆ เดี๋ยวเอารูปอุลตร้าซาวด์ยายจิ๋วมาฝาก" สกาวส่งยิ้มให้พี่ชายก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องตรวจสอง . . "สวัสดีค่ะคุณหมอมาฝากครรภ์ค่ะ" สกาวเข้าไปถึงในห้องก็กล่าวสวัสดีทักทายคุณหมอเจ้าของไข้ทันที เธอไม่รู้ว่าคุณหมอเป็นใครเนื่องจากเขาหันหลังให้เธอและเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้างก็ไม่รู้ข้างๆเตียงนอน คนไข้ "เชิญครับ" หลังจากเตรียมอุปกรณ์เสร็จทักษ์ก็หันกลับมามองคนไข้ของตัวเองก็แอบตกใจนิดหน่อยแต่ก็ยังคงนิ่งเฉย เพราะเขาเจอผู้หญิงคนนี้เมื่อวาน! เธอท้อง!! "คะ..ค่ะคุณหมอ" สกาวเองก็แอบตกใจไม่ต่างกันเพราะเธอไม่คิดว่าจะเจอเขาอีกในวันนี้ ตอนที่เธอเข้ามาในโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ไม่ได้สังเกตเพราะโรงพยาบาลที่ไหนมันก็คล้าย ๆ กัน สรุปก็คือไม่ใช่คล้ายกันแต่มันคือโรงพยาบาลที่เธอมาเมื่อวาน เพื่อมาตามคุณยายกลับบ้าน! "ประจำเดือนไม่มากี่เดือนแล้วครับ" ทักษ์ ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแม้จะยังสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแต่เขาเองก็ทำตัวปกติไม่ได้มีพิรุธอะไร "เอ่อ สะ..สองเดือนค่ะ" สกาวตอบเสียงดวงตาแอบเลิ่กลักไม่น้อย เธอเองก็พยายามปรับลมหายใจของตัวเองให้มันอยู่ในอาการปกติไม่ตื่นเต้นจนเกินไปกว่านี้ "แล้วประจำเดือนมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ครับ พอจะจำได้ไหม" ผมมองคนไข้ที่เข้ามาฝากครรภ์ไม่คิดว่าจะเป็นเธอเจอกันอีกแล้วสินะเธอคือความวุ่นวายของผม ความจริงแล้วมันอาจจะไม่เกี่ยวกับเธอก็ได้แต่ว่า ตั้งแต่เมื่อวานที่ผมเจอเธอก็มีแต่เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นไม่หยุด "จำวันที่ ที่แน่นอนไม่ได้ค่ะคุณหมอแต่มันมาช่วงประมาณต้นเดือนเมื่อ สองเดือนที่แล้วแล้วก็ขาดหายไปเลย พอตรวจครรภ์ดูก็ขึ้น สองขีด" สกาวเริ่มปรับจูนอารมณ์ของตัวเองให้มาเป็นปกติได้แล้วก็อธิบายไปตามความจริง "ครับ งั้นเดี๋ยวผมจะโทรวันกำหนดคลอดคร่าวให้ก่อนแล้วกันคุณพอจะจำวันที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายได้หรือเปล่า" หมอทักษ์ถามอีกครั้ง เพื่อความชัวร์ในการคาดคะเนวันกำหนดคลอดก่อนที่จะไปอุลตร้าซาวด์ ดูเด็กในท้องของเธอ "จำวันที่ที่แน่นอนไม่ได้ค่ะคุณหมอแต่ว่ามัน คงช่วงประมาณวันที่ 7-12 กุมภา ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะเพราะมันหลายเดือนแล้ว" สกาวตอบหมอออกไปพร้อมกับเห็นคุณหมอกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ตรงหน้าเธอซึ่งเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่เขาเลื่อนกระดาษกลมๆนั้นมันคืออะไร "ถ้าประจำเดือนคุณหมดประมาณช่วงนั้นกำหนดคลอดก็จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนน่าจะเป็นช่วงปลายๆเดือนเพราะตอนนี้ มันก็ใกล้ช่วงซัมเมอร์แล้วเดี๋ยวลองไปอุลตร้าซาวด์ดูอีกทึแล้วกัน" ทักษ์บอกกับหญิงสาวก่อนจะเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้อย่างเป็นที่เป็นทาง "เดี๋ยวคนไข้ขึ้นไปนอนบนเตียงเลยนะครับ" หมอทักษ์ บอกเธออีกครั้งก่อนที่เขาจะหยิบเจลแล้วก็มองอุปกรณ์ทั้งสองอย่างตรงหน้า ว่าเขาจะเลือกใช้ตัวอุลตร้าซาวด์แบบสอดหรือแบบซาวหน้าท้องดีนะ ซึ่งแน่นอนว่าคุณหมอดี ๆ แบบเขาก็ต้องใช้อุลตร้าซาวด์ ตรงหน้าท้องอยู่แล้วสิ! "เดี๋ยวคนไข้ดึงเสื้อขึ้นไปถึงใต้หน้าอกเลยนะครับ หมอจะอุลตร้าซาวด์ให้เห็นภาพและให้ฟังเสียงหัวใจเด็กแล้วกันนะครับ" เขาบอกเธอเพียงให้คนไข้ได้ทำตามจะได้ไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้ "ค่ะคุณหมอ" สกาวพยักหน้าตอบรับก่อนจะทำตามอย่างว่าง่าย จนถึงตอนที่เจลเย็น ๆ ถูกทาทาบลงบนหน้าท้องที่ยังไม่นู้นออกมาแทบดูไม่ออกเล่นด้วยซ้ำว่าเธอกำลังจะเป็นคุณแม่มือใหม่ป้ายแดง "เฮือก!" เสียงตกใจทำเอามือหมอที่กำลังถึงเจลบีบลงหน้าท้องถึงกระชะงักและมองคนที่สะดุ้งตกใจอยู่ "___" "เฮ้อ~ มันเย็นนิดหนึ่งนะครับโทษทีทีหมอไม่ได้บอกไม่คิดว่าคนไข้จะเป็นขี้ตกใจขนาดนี้" หมอทักษ์ก็อดใจได้ได้ที่จะต้องอธิบายให้เธอฟัง ทั้งชีวิตแทบไม่ต้องอธิบายอะไรเลยส่วนใหญ่นางพยาบาลจะคอยอธิบายให้ แต่ไม่รู้ตอนนี้ไปติดธุระที่ไหน ออกไปเรียกคนไข้แล้วก็หายจ๋อมไปเลยไม่บอกกล่าวสักคำ กลับมาละน่าดู "ค่ะ" สกาวพยักหน้ารับทำความเข้าใน "ดูที่จอนะครับ อาจจะเจ็บท้องนิดหน่อยหมอต้องกดหาตัวอ่อนน้องนะครับ" เป็นอีกครั้งที่เขาต้องมาอธิบายอะไรแบบนี้ให้คนไข้ แต่เรื่องนี้ช่างมันเถอะถือว่าเพิ่มงานให้ตัวเองแล้วกัน เพียงไม่นานจอมองมิเตอร์ ก็มีรูปเมล็ดถั่วอันเล็ก ๆ จะว่าเป็นเพียงเมล็ดถั่วก็ไม่ได้เพราะเหมือนเริ่มมีแขนขางอกออกมานิด ๆหน่อย ๆ มอง ๆ ไป ๆ ก็เหมือนปลาดาวที่ยังไม่สมบูรณ์ "เอ๊ะ โห่อเมชิ่งมากครับคุณแม่" หมอทักษ์ตาโตมองจอมอนิเตอร์คอมค้างด้วยความตกใจ ซึ่งคนที่ฟังเสียงของคุณหมอก็ไม่รู้เรื่องได้แต่ขมวดคิ้วมองหน้าคุณหมอสลับกับมองจอมอนิเตอร์คอม "อะไรคะคุณหมอ" ฉันมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้านบนปลายเตียงนอน กลับมองหน้าหมอสลับกันเหมือนว่าหมอจะดูอึ้งและสติสตางค์หลุดออกจากพะวงไปแล้วหรือเปล่านะ "มันอเมชิ่งมาก! คุณแม่รู้หรือเปล่าครับว่าคุณแม่ได้ลูกแฝด!" หมอทักษ์กล่าวออกมาอย่างดีใจเพราะนานทีจะมีเคสเด็กแฝดเข้ามาเพราะเคสแบบนี้จะหายากมาก ๆ ส่วนใหญ่เขาจะเจอเฉพาะบุคคลที่อยากได้ลูกแฝดจริงๆมาทำกิ๊ฟ ฝากรังไข่ฝังตัวอ่อนไม่เคยเจอเคสแฝดธรรมชาติแบบนี้มาก่อน "อะไรนะคะ!" อึ้ง สมอง อึ้ง ร่างกายแข็งค้างคนนอนดูผลอุลตร้าซาวด์ไม่คิดว่าตัวเธอเองจะได้ลูกแฝดเหมือนกัน "คุณแม่ได้ลูกแฝดนะครับ" หมอทักษ์บอกกับเธอแล้วยิ้มออกมา ตอนนี้ตัวเขาเองก็รู้สึกมีความดีใจอย่างน่าประหลาดทั้ง ๆ ที่เมื่อวาน มันก็คนละฟิวกันเลยหรือตัวเขาเองจะทำงานหนักเกินไปจนเป็นไบโพล่าอารมณ์ขึ้น ๆลง ๆ สงสัยออกเวรวันนี้คงต้องไปตรวจแล้วล่ะ "ลูกแฝด แฝดเลยเหรอคะหมอ ละ..แล้ว แล้วเรารู้เพศลูกได้เลยไหมคะ" สกาวถามออกมาเสียงลน ๆ เพราะเธอทำตัวไม่ถูกเก็บอาการที่ดีใจเอาไว้ไม่อยู่ ทำทีเดียวมาถึงสองคน มันช่างเป็นเรื่องมหัศจรรย์ของชีวิตเธอ จริง ๆ "ตอนนี้ยังไม่ทราบเพศครับแต่ถ้าอยากทราบจริง ๆ ก็ต้องเจาะน้ำคร่ำเจาะเลือดตรวจ และรอผลประมาณประมาณสองสัปดาห์ แต่ถ้าคุณแม่จะรอดูตอนอายุครรภ์ 16-18สัปดาห์ ก็รู้เพศแล้วครับ" หมอทักษ์ก็ค่อย ๆอธิบายให้คนไข้ของตนเองฟังเพื่อทำความเข้าใจ "เข้าใจแล้วค่ะคุณหมอยังไงก็รออุลตร้าซาวด์อีกทีตอนอายุครรภ์ 16สัปดาร์ก็ได้ค่ะ" สกาวหันไปยิ้มพยักหน้าตอบรับคำแนะนำคุณหมอ "แต่วันนี้คุณแม่ต้องเจาะเลือดเอาไปตรวจนะครับเพื่อป้องกันพาหะนำโรคหรือธาลัสซีเมียในเด็ก" และหลังจากนั้นหมอก็ยังคงอธิบายต่อถึงรายละเอียดที่ต้องดูแลสำหรับคุณแม่พร้อมกับเอาสมุดฝากครรภ์ยื่นให้ และเขียนใบสั่งยาทันที . ร่างอรชรเดินออกจากห้องตรวจมองหาพี่ชายตัวเองแต่กลับไม่พบคนที่ควรนั่งรอเธออยู่ "ไปไหนของเขา" สกาวกวาดสายตามองหาพี่ชายทั่วบริเวณนั้นแต่กลับไม่เจอ เธอจึงตัดสินใจที่จะต่อสายหาพี่ชายตัวเองแต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วยุ่งเมื่อมองไปยังจุดที่ตัวเองนั่งก่อนจะเข้าตรวจกับพบกระเป๋าของเธอวางอยู่ตรงนั้นพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของพี่ชายเธอที่วางอยู่บนกระเป๋า "โอ้โหพ่อนักธุรกิจ คิดจะทิ้งของก็ทิ้งไปเฉย ๆ อย่างนี้เลยหรือไงรวยมากจริง ๆ เลยนะ" จากที่เธอกำลังอารมณ์ดีเริ่มมีอาการโมโหขึ้นมานิดหน่อยเพราะไม่คิดว่าพี่ชายของเธอจะทิ้งโทรศัพท์ของตัวเองไว้หน้าตาเฉยได้ขนาดนี้ คงกลัวเธอโทรตามมากมั้ง! ชิน่าเบื่อชะมัดพอเดินเข้ามาในคาเฟ่ก็ทำให้เธอรู้สึกตะลึงไปกับความแปลกใหม่เล็กน้อย "มันสวยมากเลยค่ะ ราวกับว่าเราได้อยู่ในจักรวาลทั้ง ๆ ที่อยู่บนโลกมนุษย์แท้ ๆ" สกาวมองไปรอบร้านที่ตกแต่งร้านได้สวยงามรวมพวกสิ่งประดับเกี่ยวกับกาแล็กซี่ต่าง ๆ ของจักรวาลอยู่ในร้าน "ผมว่าเจ้าของคาเฟ่คงต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยแน่เลย" ความคิดของเขาไปในทางนั้นจริง ๆ ไม่แน่ใจว่าเจ้าของคาเฟ่เก่งเรื่องวิทย์ - คณิตด้วยหรือเปล่า "แต่กาวไม่น่าจะใช่นะคะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เจ้าของร้านคงต้องเรียงพวกดาวเคราะห์ถูกสิ ไม่ใช่ให้เรียงตามใจชอบแบบนี้" เธอมองไปที่ผนังร้านที่มีกลุ่มดาวเคราะห์หลายดวงที่เรียงกันสับสนไปหมด "จริงด้วยสินะ หรืออาจจะเป็นลูกค้าที่มาสลับสับเปลี่ยนพวกกลุ่มดาวพวกนี้เองหรือเปล่าก็ไม่รู้ดูสิเห็นไหมว่ามันขยับได้" หมอทักษ์ ชี้ไปที่ดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนผนังคาเฟ่ "มันขยับได้จริง ๆ ด้วยค่ะ" สกาวพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นที่ได้เห็นสิ่งแปลกตาและมหัศจรรย์ ภายในร้านคาเฟ่เล็ก ๆแห่งนี้ "ขอโทษนะคะลูกค้า ลูกค้าต้องการดื่มอะไรดีคะ" พนักงานของร้านที่ตอนแรกไม่เห็นว่ามีลูกค้ารีบเดิน
เขามองริมฝีปากเธออยู่อย่างนั้นก่อนที่จะค่อย ๆ เอามือของตัวเองไปโอบศรีษะของเธอให้ริมฝีปากของเธอเข้ามาใกล้กับริมฝีปากของเขาอีกครั้ง "คะ..คุณ อืม~" 'หมอคะ' เธอไม่ทันได้พูดเรียกสติของชายหนุ่มก็ถูกริมฝีปากของเขาประกบจูบเข้ามาทันทีโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งสองคนกำลังจบกันอย่างโดดดื่มทำให้การสัมผัสของทั้งคู่เกิดความเร่าร้อนขึ้นมาทันที ชุดนอนผ้าลื่นเนื้อบางถอดง่ายใส่สบายทำให้สกาวต้องเผลอไผไปกับรสจูบของคุณหมอหนุ่ม "อืม~" จ๊วบ ๆ จ๊วบ เสียงจูบและลิ้นพันกันอย่างเร่าร้อนยังคงไม่จบลงทำให้สกาวเริ่มหายใจติดขัด เมื่อเขารู้ว่าเธอเริ่มจะหายใจไม่ออกและดิ้นรน จึงค่อย ๆ ถอดริมฝีปากของตัวเองออกจากปากของหญิงสาว "คุณสงสัยเหมือนผมไหมครับ ว่าทำไมเวลาผมอยู่กับคุณทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ และต้องการที่จะสัมผัสคุณมากขึ้นทุกครั้ง" เขาจับคางของหญิงสาวขึ้นมาเผชิญหน้ากับตัวเองที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอเริ่มมีอาการแดงกล่่ำเพราะความเขินอายจากรสจูบแสนหวาน ที่เขามอบให้เธอ "ทะ..ทำไปคุณหมอพูดอย่างนี้ล่ะค่ะคงไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ" สกาวที่ไม่ยอมบอกอะไรกับเขา ทำให้เขาต้องเป็นคนดิ้นร
หลังจากออกเวรสกาวรู้สึกอ่อนเพลียมาก เธอกลับมาทำงานตามปกติ พอนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนที่ทางเธอและหมอเทพพิทักษ์ได้ไปเป็นตัวแทนของโรงพยาบาลเพื่อมอบ เงินสมทบทุนให้กับเด็ก ๆ ที่ขาดแคลน .หลังจากที่ขับรถมาถึงที่พักก็เข้าเช็คอินทันที "ทำไมจองไว้ห้องเดียวล่ะคะ" จะกล่าวถามด้วยใบหน้าที่ตกใจและมองสบตากับคุณหมอที่เคยเป็นอาจารย์แพทย์สอนเธอ "ห้องมันเต็มครับผมถามไปแล้วกว่าจะได้ห้องก็คงอีก สองวันนู้นพอถึงตอนนั้นเราก็เช็คเอาท์ออกกันพอดี แต่ห้องนี้เป็นห้องใหญ่ไม่ต้องกังวลหรอกครับผมไม่ทำอะไรคุณหรอก" หมอทักษ์ มองคนที่เขารู้สึกคุ้นเคยแต่ก็คับคล้ายคับคลายังจำไม่ค่อยได้ ในหัวสมองของเขามีอาการสับสนกับความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหญิงสาวของเขาจนแปลกใจ "อ่อ เป็นห้อง สองเตียงใช่ไหมคะ" สกาวหันกลับไปถามพนักงานที่คอยต้อนรับและให้ลูกค้ามาเช็คเอาท์อยู่หน้าเคาน์เตอร์ "ใช่ค่ะลูกค้าต้องขออภัยจริง ๆ นะคะที่ทางเราไม่สามารถจำหน่ายห้องแยกได้เพราะช่วงนี้เป็นช่วง ที่ทางที่พักได้ทำการโปรโมทไปด้วยเลยทำให้ห้องพักไม่เพียงพอต่อการเข้าพักค่ะ" พนักงานตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและพูดด้วยถ้อยคำอ่อนโยนกล
ร้านอาหารทะเล ในช่วงเวลา 19:30 ทั้งสี่คนได้มานั่งสั่งอาหารและตอนนี้อาหารทะเลเติมโต๊ะ "ลุงแกะให้หนูรอกินอย่างเดียว" สกายอาสาแกะปูแกะกุ้งให้หลานชายหลานสาว และ ภรรยา เป็นภาพที่น่ารักมากหากมองจากบุคคลภายนอก "ขอบคุณค่ะคุณลุง" ซีเฟียตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย "อันนี้ของเฟียสครับ" สกายว่างกุ้งตัวใหญ่ในจานหลานชาย"ขอบคุณครับ" "พี่ก็กินของตัวเองได้แล้ว เด็ก ๆ ก็แกะกุ้งแกะปูกันเป็นนะคะ" คนเป็นภรรยาเมื่อเห็นว่าสามียังไม่ได้แตะอาหารของตัวเองก็ท้วงขึ้นมาทันที"ใช่ครับคุณลุงพวกเราแกะเป็นพวกเราโตแล้ว" น้องชายฝาแฝดของซีเฟีย พูดขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นว่าจานอาหารของคุณลุงยังไม่ลดลง มื้ออาหารเติมไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ในค่ำคืนที่ผ่านมา 07:00น.ช่วงเวลาของเช้าวันถัดมาชั่งผ่านมาวัยเหลือเกิน "ทำไมตื่นเช้าจังเลยคะ" เธอเดินตามสามีออกมาเมื่อมองบนเตียงนอนแล้วไม่พบผู้เป็นสามีนอนอยู่ "วันนี้พี่ต้องเตรียม ฉากและพื้นที่ให้กับหลานน่ะเลยจะลองออกไปขออนุญาตทางเจ้าของหาดดูก่อน" สกายหันกลับมามองตามเสียงคำถามของภรรยา เขาก็รีบตอบทันที"หันหม่อนไปถามให้ดีไหมคะ
"สวยมากเลยค่ะคุณลุง" ซีเฟียมองดูชุดคอลเลชั่นใหม่อย่างตื่นเต้น "ไหนคุณลุงบอกว่าอีกสองสามวันถึงจะได้ทำงานไงครับ" เฟียสมองชุดตาเป็นประกายเพราะเขาเองก็อยากหาเงินช่วงวันหยุด "ลุงกะว่าจะเอามาเซอร์ไพรส์หลาน ๆ แต่ได้ยินตอนที่กำลังพูดคุยกันพอดีเลยบอกเลยดีกว่า" สกายยื่นชุดให้หลาน ๆ ไปลองใส่มาให้ดูก่อน ซึ่งเขาก็นั่งรออยู่ในห้อง "ที่รักอาหารมาส่งแล้ว เอะแล้วเด็ก ๆ ไปไหนกันหมดคะ" ใบหม่อนภรรยาสาวที่ปลีกตัวออกไปรับอาหารที่สั่งไว้ เพราะมีพนักงานมากดกริ่งเรียกที่หน้าบ้านพักพอดี หลังจากรับอาหารเสร็จพอเดินกลับเข้ามาก็ไม่เห็นหลาน ๆ แล้ว "ลองชุดว่ายน้ำอยู่ในน้ำห้องครับ" สกายส่งสายตามองไปยังประตูห้องน้ำสองห้องที่ติดกัน "คุณลุงหนูใส่ได้พอดีเลยค่ะ" ซีเฟียเปิดประตูออกมาและหมุนตัวอวด ลุงของเธอ "ชุดเฟียสก็เท่ห์มากเลยครับคุณลุง" เด็กชายเดินออกมาหลังจากเห็นพี่สาวหมุนตัวราวกับเป็นนักบัลเล่ต์ "ไหนขอลุงถ่ายรูปหน่อยเดี๋ยวจะส่งให้แม่พวกหนูดู" สกายหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดถ่ายภาพหลาน ๆ และส่งเข้าไปในแชทน้องสาว "อาหารมาแลเวนะเด็ก ๆ
เช้าวันต่อมา 08:30น. สกาวมองนาฬิกาข้อมือ ปากก็หาวออกมาเนื่องจากเมื่อคืนเธอรอดูละครที่ลูกสาวแสดง จนทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอ แม้ว่าปกติเธอก็นอนไม่เพียงพออยู่แล้ว "มารอเช้าจังนะเลยนะครับ" รถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาประชิดริมฟุตบาท "ความจริงก็อยากจะมาสายกว่านี้เหมือนกันคะ แต่ติดที่เป็นคนตรงต่อเวลาเลยต้องมากก่อนเวลาเสมอ" สกาวตอบกลับคนที่ทักทายก่อนที่เขาจะเดินลงจากรถมายกกระเป๋าให้เธอ "ขอบคุณที่ช่วยค่ะ" สกาวเดินเข้ามานั่งในรถรอให้หมอทักษ์เอากระเป๋าเธอไปเก็บทายรถ พอเขาเดินกลับมาก็เอ่ยขอบคุณตามมารยาท "หืม ทำไมคุณหมอมีนิตยสารแฟชั่นเด็กเยอะจังเลยคะ" เมื่อสกาวเห็นว่านิตยสารที่อยู่ในรถของหมอทักษ์ ล้วนแต่เป็นลูกชายเธอที่ค่อยถ่ายแบบให้กับแบรนด์เสื้อผ้าของพี่ชาย "อ่อ คุณพ่อผมเป็นหุ้นส่วนกับแบรนด์นี้ ก็ไม่แปลกหรอกครับที่ผมจะมีนิตยสารทุกคอลเลคชั่น" หมอทักษ์หันมามองหญิงสาวที่สนใจนิตยสารของเขาที่อยู่ในรถ แม้ว่าความจริงเขานั้นจะพึ่งรู้ว่าคุณพ่อของเขาก็มีหุ้นส่วนกับแบรนด์แฟชั่นเด็กไม่กี่วันนี้เอง "จริงเหรอคะ" พอหมอทักษ์พูดขึ้นสกาวจึงพ