 LOGIN
LOGINทางด้านประชาสัมพันธ์
"แกโอเคป่ะยันวัชพืชมงคล" เพื่อนสาวที่สังเกตการณ์และรู้ดี ยิ่งกว่าตัวเธอทักถามขึ้นมาทันทีเมื่อ คนไข้สองชายหญิงเดินจากไป "ชื่อใบหม่อน เรียกดี ๆ ดิ ยัยโคลน ทำไม่จะไม่โอเคละ คนอย่างใบหม่อนเลิกคือเลิกไง" หญิงสาวพูดด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจว่าจะไม่มีทางกลับไปคืนดีกับอดีตแฟนหนุ่มอย่างสกาย "ชื่อชาโคลเหอะ แล้วทำไมถึงเลิกกันได้วะเห็นแกสองคนรักกันออก ขนาดนั้นไม่คิดว่าจะมีวันที่ต้องเลิกลากัน คนเชียร์อย่างฉันยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลยนะ" ชาโคลยักคิ้วกวน ๆ ส่งไปให้เพื่อนสาว "อืม ก็ไม่คิดเหมือนกัน เขาไม่ง้อจะหน้าด้านกลับไปขอคืนดีก็ไม่ได้แล้วป่ะเป็นคนบอกเลิกเองก็ต้องทำใจอยู่ดีว่ะ" ใบหม่อน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ เพราะความที่เธอปากไว(พล่อย)ไปหน่อย เลยขอเลิกไปอย่างนั้นและไม่คิดว่าจะต้องเลิกกันจริง ๆ "ถามจริง! แกได้พกสมองมาด้วยป่ะเนี่ย~" ชาโคลมองเพื่อนสาวตัวเองอย่างอึ้ง ๆ รักกันปานจะกลืนกินจะเลิกก็เลิกกันง่าย ๆ ขนาดนี้เลยหรอวะ คนสวยไม่เข้าใจ! "ถ้าไม่พกมาจะเรียนจนจะจบแล้วต้องมาฝึกงานอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ไหมล่ะ ถามอะไรโง่ ๆ ไม่สมกับชาโคลเลยนะ" ก็ไม่ต้องแปลกใจหรอก ที่คบกันอยู่แค่สองคนก็เพราะปากหมาด้วยกันทั้งคู่นี่แหละ "โอ๊ยย ยัยซื่อบื้อเอ๊ย ช่างมันเถอะ สมองมันคนละส่วนกัน แกเข้าใจไหมว่าสมองความรู้สึกกับสมองการเรียนมันคนละส่วนกัน ฉันอยากจะกรี๊ด ถามจริงเหอะใบหม่อนแกยังรักเขาอยู่หรือเปล่า" ชาโคลมองเพื่อนตัวเองพร้อมกับระบายอารมณ์ออกมาทันทีด้วยความที่เธอเป็นคนเก็บอารมณ์ไม่อยู่อยู่แล้วยิ่งมาเจอเพื่อนที่ไม่รู้ว่าฉลาดเฉพาะแค่การเรียนหรือเปล่าเพราะเรื่องอื่นก็คือดูมันโง่ไปหมดเลย ช่างหัวมันเถอะ "รักสิ รักมากด้วย" ใบหม่อนหันไปยิ้มบอกกับเพื่อนสาวแม้ใจข้างในจะรู้สึกปวดร้าวมากก็ตามไม่เป็นไรเธอทนได้เจ็บแค่นิดเดียว ทนไหวอยู่แล้ว . . ห้องตรวจ "คุณสกาวฟ้า เชิญค่ะ ห้องตรวจสองนะคะนายแพทย์รออยู่" ผู้ช่วยพยาบาลเดินออกมาเรียกคนไข้ที่มีคิวรอ ตรวจและฝากครรภ์ ทันทีหลังจากที่คนไข้รายก่อนหน้านี้ได้ตรวจและทำการฝากครรภ์กับคุณหมอจนมาถึงคิวของสกาว "สกาวเขาเรียกแล้ว ให้พี่เข้าไปด้วยไหม" สกายถามน้องสาวทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของผู้ช่วยพยาบาล "ไม่เป็นไรพี่รออยู่ข้างนอกนี่แหละหนูเข้าไปเองไม่ต้องห่วงหรอกน่าแค่นี้สบาย ๆ เดี๋ยวเอารูปอุลตร้าซาวด์ยายจิ๋วมาฝาก" สกาวส่งยิ้มให้พี่ชายก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องตรวจสอง . . "สวัสดีค่ะคุณหมอมาฝากครรภ์ค่ะ" สกาวเข้าไปถึงในห้องก็กล่าวสวัสดีทักทายคุณหมอเจ้าของไข้ทันที เธอไม่รู้ว่าคุณหมอเป็นใครเนื่องจากเขาหันหลังให้เธอและเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้างก็ไม่รู้ข้างๆเตียงนอน คนไข้ "เชิญครับ" หลังจากเตรียมอุปกรณ์เสร็จทักษ์ก็หันกลับมามองคนไข้ของตัวเองก็แอบตกใจนิดหน่อยแต่ก็ยังคงนิ่งเฉย เพราะเขาเจอผู้หญิงคนนี้เมื่อวาน! เธอท้อง!! "คะ..ค่ะคุณหมอ" สกาวเองก็แอบตกใจไม่ต่างกันเพราะเธอไม่คิดว่าจะเจอเขาอีกในวันนี้ ตอนที่เธอเข้ามาในโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ไม่ได้สังเกตเพราะโรงพยาบาลที่ไหนมันก็คล้าย ๆ กัน สรุปก็คือไม่ใช่คล้ายกันแต่มันคือโรงพยาบาลที่เธอมาเมื่อวาน เพื่อมาตามคุณยายกลับบ้าน! "ประจำเดือนไม่มากี่เดือนแล้วครับ" ทักษ์ ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแม้จะยังสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแต่เขาเองก็ทำตัวปกติไม่ได้มีพิรุธอะไร "เอ่อ สะ..สองเดือนค่ะ" สกาวตอบเสียงดวงตาแอบเลิ่กลักไม่น้อย เธอเองก็พยายามปรับลมหายใจของตัวเองให้มันอยู่ในอาการปกติไม่ตื่นเต้นจนเกินไปกว่านี้ "แล้วประจำเดือนมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ครับ พอจะจำได้ไหม" ผมมองคนไข้ที่เข้ามาฝากครรภ์ไม่คิดว่าจะเป็นเธอเจอกันอีกแล้วสินะเธอคือความวุ่นวายของผม ความจริงแล้วมันอาจจะไม่เกี่ยวกับเธอก็ได้แต่ว่า ตั้งแต่เมื่อวานที่ผมเจอเธอก็มีแต่เรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นไม่หยุด "จำวันที่ ที่แน่นอนไม่ได้ค่ะคุณหมอแต่มันมาช่วงประมาณต้นเดือนเมื่อ สองเดือนที่แล้วแล้วก็ขาดหายไปเลย พอตรวจครรภ์ดูก็ขึ้น สองขีด" สกาวเริ่มปรับจูนอารมณ์ของตัวเองให้มาเป็นปกติได้แล้วก็อธิบายไปตามความจริง "ครับ งั้นเดี๋ยวผมจะโทรวันกำหนดคลอดคร่าวให้ก่อนแล้วกันคุณพอจะจำวันที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายได้หรือเปล่า" หมอทักษ์ถามอีกครั้ง เพื่อความชัวร์ในการคาดคะเนวันกำหนดคลอดก่อนที่จะไปอุลตร้าซาวด์ ดูเด็กในท้องของเธอ "จำวันที่ที่แน่นอนไม่ได้ค่ะคุณหมอแต่ว่ามัน คงช่วงประมาณวันที่ 7-12 กุมภา ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะเพราะมันหลายเดือนแล้ว" สกาวตอบหมอออกไปพร้อมกับเห็นคุณหมอกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ตรงหน้าเธอซึ่งเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่เขาเลื่อนกระดาษกลมๆนั้นมันคืออะไร "ถ้าประจำเดือนคุณหมดประมาณช่วงนั้นกำหนดคลอดก็จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนน่าจะเป็นช่วงปลายๆเดือนเพราะตอนนี้ มันก็ใกล้ช่วงซัมเมอร์แล้วเดี๋ยวลองไปอุลตร้าซาวด์ดูอีกทึแล้วกัน" ทักษ์บอกกับหญิงสาวก่อนจะเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้อย่างเป็นที่เป็นทาง "เดี๋ยวคนไข้ขึ้นไปนอนบนเตียงเลยนะครับ" หมอทักษ์ บอกเธออีกครั้งก่อนที่เขาจะหยิบเจลแล้วก็มองอุปกรณ์ทั้งสองอย่างตรงหน้า ว่าเขาจะเลือกใช้ตัวอุลตร้าซาวด์แบบสอดหรือแบบซาวหน้าท้องดีนะ ซึ่งแน่นอนว่าคุณหมอดี ๆ แบบเขาก็ต้องใช้อุลตร้าซาวด์ ตรงหน้าท้องอยู่แล้วสิ! "เดี๋ยวคนไข้ดึงเสื้อขึ้นไปถึงใต้หน้าอกเลยนะครับ หมอจะอุลตร้าซาวด์ให้เห็นภาพและให้ฟังเสียงหัวใจเด็กแล้วกันนะครับ" เขาบอกเธอเพียงให้คนไข้ได้ทำตามจะได้ไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้ "ค่ะคุณหมอ" สกาวพยักหน้าตอบรับก่อนจะทำตามอย่างว่าง่าย จนถึงตอนที่เจลเย็น ๆ ถูกทาทาบลงบนหน้าท้องที่ยังไม่นู้นออกมาแทบดูไม่ออกเล่นด้วยซ้ำว่าเธอกำลังจะเป็นคุณแม่มือใหม่ป้ายแดง "เฮือก!" เสียงตกใจทำเอามือหมอที่กำลังถึงเจลบีบลงหน้าท้องถึงกระชะงักและมองคนที่สะดุ้งตกใจอยู่ "___" "เฮ้อ~ มันเย็นนิดหนึ่งนะครับโทษทีทีหมอไม่ได้บอกไม่คิดว่าคนไข้จะเป็นขี้ตกใจขนาดนี้" หมอทักษ์ก็อดใจได้ได้ที่จะต้องอธิบายให้เธอฟัง ทั้งชีวิตแทบไม่ต้องอธิบายอะไรเลยส่วนใหญ่นางพยาบาลจะคอยอธิบายให้ แต่ไม่รู้ตอนนี้ไปติดธุระที่ไหน ออกไปเรียกคนไข้แล้วก็หายจ๋อมไปเลยไม่บอกกล่าวสักคำ กลับมาละน่าดู "ค่ะ" สกาวพยักหน้ารับทำความเข้าใน "ดูที่จอนะครับ อาจจะเจ็บท้องนิดหน่อยหมอต้องกดหาตัวอ่อนน้องนะครับ" เป็นอีกครั้งที่เขาต้องมาอธิบายอะไรแบบนี้ให้คนไข้ แต่เรื่องนี้ช่างมันเถอะถือว่าเพิ่มงานให้ตัวเองแล้วกัน เพียงไม่นานจอมองมิเตอร์ ก็มีรูปเมล็ดถั่วอันเล็ก ๆ จะว่าเป็นเพียงเมล็ดถั่วก็ไม่ได้เพราะเหมือนเริ่มมีแขนขางอกออกมานิด ๆหน่อย ๆ มอง ๆ ไป ๆ ก็เหมือนปลาดาวที่ยังไม่สมบูรณ์ "เอ๊ะ โห่อเมชิ่งมากครับคุณแม่" หมอทักษ์ตาโตมองจอมอนิเตอร์คอมค้างด้วยความตกใจ ซึ่งคนที่ฟังเสียงของคุณหมอก็ไม่รู้เรื่องได้แต่ขมวดคิ้วมองหน้าคุณหมอสลับกับมองจอมอนิเตอร์คอม "อะไรคะคุณหมอ" ฉันมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้านบนปลายเตียงนอน กลับมองหน้าหมอสลับกันเหมือนว่าหมอจะดูอึ้งและสติสตางค์หลุดออกจากพะวงไปแล้วหรือเปล่านะ "มันอเมชิ่งมาก! คุณแม่รู้หรือเปล่าครับว่าคุณแม่ได้ลูกแฝด!" หมอทักษ์กล่าวออกมาอย่างดีใจเพราะนานทีจะมีเคสเด็กแฝดเข้ามาเพราะเคสแบบนี้จะหายากมาก ๆ ส่วนใหญ่เขาจะเจอเฉพาะบุคคลที่อยากได้ลูกแฝดจริงๆมาทำกิ๊ฟ ฝากรังไข่ฝังตัวอ่อนไม่เคยเจอเคสแฝดธรรมชาติแบบนี้มาก่อน "อะไรนะคะ!" อึ้ง สมอง อึ้ง ร่างกายแข็งค้างคนนอนดูผลอุลตร้าซาวด์ไม่คิดว่าตัวเธอเองจะได้ลูกแฝดเหมือนกัน "คุณแม่ได้ลูกแฝดนะครับ" หมอทักษ์บอกกับเธอแล้วยิ้มออกมา ตอนนี้ตัวเขาเองก็รู้สึกมีความดีใจอย่างน่าประหลาดทั้ง ๆ ที่เมื่อวาน มันก็คนละฟิวกันเลยหรือตัวเขาเองจะทำงานหนักเกินไปจนเป็นไบโพล่าอารมณ์ขึ้น ๆลง ๆ สงสัยออกเวรวันนี้คงต้องไปตรวจแล้วล่ะ "ลูกแฝด แฝดเลยเหรอคะหมอ ละ..แล้ว แล้วเรารู้เพศลูกได้เลยไหมคะ" สกาวถามออกมาเสียงลน ๆ เพราะเธอทำตัวไม่ถูกเก็บอาการที่ดีใจเอาไว้ไม่อยู่ ทำทีเดียวมาถึงสองคน มันช่างเป็นเรื่องมหัศจรรย์ของชีวิตเธอ จริง ๆ "ตอนนี้ยังไม่ทราบเพศครับแต่ถ้าอยากทราบจริง ๆ ก็ต้องเจาะน้ำคร่ำเจาะเลือดตรวจ และรอผลประมาณประมาณสองสัปดาห์ แต่ถ้าคุณแม่จะรอดูตอนอายุครรภ์ 16-18สัปดาห์ ก็รู้เพศแล้วครับ" หมอทักษ์ก็ค่อย ๆอธิบายให้คนไข้ของตนเองฟังเพื่อทำความเข้าใจ "เข้าใจแล้วค่ะคุณหมอยังไงก็รออุลตร้าซาวด์อีกทีตอนอายุครรภ์ 16สัปดาร์ก็ได้ค่ะ" สกาวหันไปยิ้มพยักหน้าตอบรับคำแนะนำคุณหมอ "แต่วันนี้คุณแม่ต้องเจาะเลือดเอาไปตรวจนะครับเพื่อป้องกันพาหะนำโรคหรือธาลัสซีเมียในเด็ก" และหลังจากนั้นหมอก็ยังคงอธิบายต่อถึงรายละเอียดที่ต้องดูแลสำหรับคุณแม่พร้อมกับเอาสมุดฝากครรภ์ยื่นให้ และเขียนใบสั่งยาทันที . ร่างอรชรเดินออกจากห้องตรวจมองหาพี่ชายตัวเองแต่กลับไม่พบคนที่ควรนั่งรอเธออยู่ "ไปไหนของเขา" สกาวกวาดสายตามองหาพี่ชายทั่วบริเวณนั้นแต่กลับไม่เจอ เธอจึงตัดสินใจที่จะต่อสายหาพี่ชายตัวเองแต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วยุ่งเมื่อมองไปยังจุดที่ตัวเองนั่งก่อนจะเข้าตรวจกับพบกระเป๋าของเธอวางอยู่ตรงนั้นพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของพี่ชายเธอที่วางอยู่บนกระเป๋า "โอ้โหพ่อนักธุรกิจ คิดจะทิ้งของก็ทิ้งไปเฉย ๆ อย่างนี้เลยหรือไงรวยมากจริง ๆ เลยนะ" จากที่เธอกำลังอารมณ์ดีเริ่มมีอาการโมโหขึ้นมานิดหน่อยเพราะไม่คิดว่าพี่ชายของเธอจะทิ้งโทรศัพท์ของตัวเองไว้หน้าตาเฉยได้ขนาดนี้ คงกลัวเธอโทรตามมากมั้ง! ชิน่าเบื่อชะมัด
"โซนนี้รถไม่ค่อยเยอะเลยนะครับ" หมอทักษ์จ้องมองท้องถนนแกนกายยังสวนกระแทกไม่พัก ทำให้ร่องสาวรัดแน่นขึ้น "อยู่คฤหาสน์หลัง ยะ..ใหญ่ขนาดนี้คงไม่มีใครการขับผ่านหรอกคะ" สกาวจ้องมองไปทางตันที่เป็นถนนหลังคฤหาสน์ซึ่งมันตรงกับหน้าต่างห้องของเธอ "เสียวไหม น้ำใกล้หมดตัวหนูหรือยัง" หมอทักษ์ด้มลงมองน้ำลักของหญิงสาวที่ไหลออกมาจะร่องสวาทไม่ได้พัก "อ่ะ สะ..เสียวค่ะกาวไม่ไหวแล้ว ฮะ..เฮียพอเถอะนะคะ" น้ำเสียงหวานร้องขอเหมือนเช่นอดีตที่เรียก หมอทักษ์ว่า 'เฮีย' ทำให้คนที่ใกล้จะปลดปล่อยหยุดกระแทก แล้วจับใบหน้าเธอเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม เพื่อเป็นการให้รางวัลเธอ "ไปนอนโก่งสะโพกให้เฮียบนเตียงดีกว่านะครับ" หมอทักษ์รีบพาหญิงสาวมานอนลงบนเตียงยกสะโพกเธอขึ้นมา เสียบท่อนรักลงในร่องสาวจนมิด ปึก ๆ ปึก ๆ ตับ ๆ ตับ ๆ "อ๊า จุกค่ะ หนูจุกอ่าส~" เสียงหวานร้องครางออกมาตามจังหวะการกดกระแทกเข้าออกจะสุดทาง "เฮียชอบให้หนูเรียกว่า เฮียนะครับ ถ้าหนูฟังเฮียเคลียร์กับเฮียตั้งแต่แรกคงไม่ต้องมาโกงสะโพกครางจนเสียงแหบแบบมีตั้งแต่แรกแล้วครับ" หมอทักษ์ สวนแดนกายใส่ร่องสาวจนสุดลำรัก "อ๊าเสียว สะ..เสีย
เช้าวันใหม่ ท้องฟ้าสีครึ้มตั้งเขาเหมือนว่าฝนกำลังจะตกลงมา หมอทักษ์และสกาวช่วยกันเก็บของเพื่อเตรียมกลับบ้านในช่วงเช้าตรู่ของวัน "ซีเฟียตื่นได้แล้วลูกกลับบ้านกัน" สกาวเดินเข้ามาปลุกลูกสาวหลังจากที่เปลี่ยนชุดและเก็บของเสร็จ "ให้นอนไปก่อนก็ได้เดี๋ยวพี่อุ้มลงไปเอง หนูถือกระเป๋าใบนี้ก็พอ" หมอทักษ์ยื่นกระเป๋าใบเล็กให้หญิงสาว ก่อนจะมองหน้าซีเฟียที่กำลังสะลึมสะลือเหมือนจะตื่นมาแต่ก็ยังคงหลับต่อในช่วงเช้าของวันใหม่ "ค่ะ ขอบคุณนะคะ" สกาวรับกระเป๋าของหมอทักษ์มาถือไว้ ก่อนจะเดินตามเขาออกไปจากห้องพักห้องสโมสร "จะกลับบ้านเลยหรือจะแวะกินข้าวกันก่อนครับ" หมอทักษ์ทำหน้าที่ขับรถถามสกาวที่ขึ้นมานั่งคาดเบลเตรียมกลับบ้านโดยมีหมอทักษ์อาสาไปส่ง "กลับบ้านเลยค่ะ ไปกินข้าวที่บ้านก็ได้ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลยคงไม่มีร้านไหนเปิดเช้าขนาดนี้" สกาวตอบกลับพร้อมกับหลับตาลงด้วยเพราะยังคงมีอาการอ่อนเพลียอยู่ "ครับ ตามใจหนูเลย" หมอทักษ์ขับรถบนท้องถนนอย่างระมัดระวังเพราะในรถไม่ได้มีแค่เขาและสกาว ยังมีเด็กสาวซีเฟียด้วย .คฤหาสน์ "เอาขึ้นมานอนบนห้องค่ะหมอทักษ์" สกาวเดินนำคนที่กำ
"ที่นี้ที่ไหนคะพี่หมอ" สกาวลองมองสำรวจรอบห้องที่ไม่คุ้นเคยอีกครั้งจึงรีบถามขึ้นมาเพราะตกใจและแปลกสถานที่ "ห้องพักในสโมสร ก็หนูจมน้ำว่ายน้ำไม่แข็งทำไมไปลงสระน้ำลึกละครับ พี่เป็นห่วงนะรู้ไหม เราสองคนยังไม่ได้เคลียร์กันหนูอย่าเอาแต่หลีกเลี่ยงปัญหาสิครับ ซีเฟียก็เป็นห่วงหนูจนร้องไห้ พึ่งจะหลับไปนี้เอง" เมื่อเห็นว่าหญิงสาวฟื้นแล้วหมอทักษ์จึงบอกเธอด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงพร้อมกับมองลูกสาวตัวน้อยที่นอนซบอยู่บนอก "โถ่ลูก" สกาวเอามือลูบศีรษะลูกสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของหมอทักษ์เบา ๆ "พักผ่อนอีกสักหน่อยเถอะ พึ่งตื่นหนูโอเคหรือเปล่ามีวิงเวียนหัวไหม หิวหรือยังครับ" หมอทักษ์จ้องพฤติกรรมและการกระทำแสนอ่อนโยนของเธอไม่วางตา และถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง เหมือนว่าทั้งเขาและเธอจะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย"กาวยังไม่หิวค่ะพี่หมอเหนื่อยหรือยังอยากพักผ่อนบ้างไหมเอาซีเฟียมานอนบนเตียงกับกาวก็ได้นะคะ" สกาวตอบและมองลูกสาวของเธอที่นอนซบอยู่บนอกของคุณหมอด้วยความเกรงใจที่เขาต้องคอยเฝ้าเธอทั้งยังดูแลลูกสาวตัวน้อยของเธออีกด้วย "ไม่เป็นไรนอนไปเถอะเดียวซีเฟียพี่ดูแลให้เองครับ" หมอทักษ์จ้องมองร่า
จนเวลาล่วงผ่านไปเกือนยี่สิบนาที ร่างบางของสกาวก็ขึ้นมาพร้อมกับหมอหนุ่ม "เอาขึ้นมาตรงนี้ ตอนนี้น่าจะขาดอากาศหายใจ ผมต้องทำ CPR ด่วน" หมอทักษ์บอกกับสกายอย่างร้อนรน ความเป็นมืออาชีพเลยสั่นเล็กน้อยแต่เขาจะไม่ยอมเสียเธอไปอีกครั้งแน่ ๆ "ได้ครับ หมอช่วยน้องผมด้วยนะ" สกายเริ่มเป็นกังวลเมื่อเห็นน้องสาวขึ้นมาจะน้ำลึกด้วยร่างกายที่อ่อนแอ "ทางสโมสรมีหน่วยแพทย์ฉุกเฉิกไหมครับ เรียกให้ผมที" หมอทักษ์รีบถามอย่างร้อนรน มือกดลงรัหว่างอกของหญิงสาว เพื่อกระตุ้นหัวใจ "มีครับ ๆ ผมจะรีบไปกดเรียกให้เดี๋ยวนี้เลย" สกายรีบวิ่งไปกดปุ่มเรียกทีมแพทย์ฉุกเฉินที่เจ้าของสโมสรให้สแตนบายอยู่ทุกชั้น ต้องเรียกว่าขอบคุณความรอบครอบของคนก่อตั้งสโมสร "ฟื้นสิกาว เรายังไม่ได้เคลียร์กันเลยนะ" หมอทักษ์ ฝาดลมผ่านริมฝีปากเล็กเข้าไปเพื่อให้เธอมีออกซิเจนในร่างกาย มือก็วนมากระกระตุ้นหัวใจ เขาทำซ้ำ ๆ อย่างนี้เกือนสามนาที "แค่ก ๆ แค่ก" สกาวสำลักน้ำออกมาก่อนที่สติจะดับวูบไป ทีมแพทย์รีบเข้ามารับเอาตัวหญิงสาว ซึ่งหมอทักษ์ก็ตามไปด้วย "พวกคุณช่วยเตรียมออกซิเจนให้ผมด้วย" หมอทักษฺ์ รีบบอกกลับเหล่าแพทย์ฉุกเฉิ
"ที่สโมสรมีร้านขายชุดว่ายน้ำค่ะคุณลุงหมอมาเล่นลิงชิงบอลกับพวกเรานะคะ" ซีเฟียพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "เดี๋ยวกาวพาไปซื้อค่ะถ้าจะลงไปเล่นกับเด็ก ๆ" สกาวมองอย่างเป็นห่วงทั้งความรู้สึกของคุณหมอและความรู้สึกของลูกแฝดของเธอ "ได้ครับเดี๋ยวลุงเล่นด้วยแต่ตอนนี้ลุงต้องไปซื้อชุดว่ายน้ำก่อน" หมอทักษ์บอกทั้งเด็กสาวก่อนจะยิ้มละพยักหน้าให้เด็กชายที่ชูนิ้วโป้งยกขึ้นมาให้เขาทั้งสองข้าง "ยอดเยี่ยมมากเลยครับคุณลุงหมอ" เฟียสชื่นชมอย่างดีใจที่ในที่สุดเขาก็หาคนเข้าทีมได้ "กาวไปเป็นเพื่อนค่ะ" สกาวรีบเดินตามออกมาอย่างเป็นห่วง 'เธอห่วงเขามากเกินไปแล้ว' แปดปีที่ห่างหายแต่ทุกสัมผัสและความทรงจำยังคงวนเวียนอยู่ในจิตใจและหัวสมอง"คุณหมอมาทางนี้เลยค่ะ ความจริงคุณหมอปฏิเสธเด็ก ๆ ไปก็ได้นะคะ" สกาวพูดออกมาอย่างรู้สึกหนักใจ "ไม่เป็นไรครับ ผมก็อยากเล่นน้ำกับเด็ก ๆ แล้วอีกอย่างนาน ๆ ที่จะได้แสดงความสามารถของตัวเอง" หมอทักษ์มองยิ้ม ๆ ก่อนจะจับมือเธอเดินเข้าไปในร้านขายชุดกีฬาว่ายน้ำ ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงหมอทักษ์ก็ถือถุงชุดกีฬาว่ายน้ำออกมา "เด็ก ๆ คงรอนานแล้ว ไปกันเถอะเดี๋ยวพี่ไป
ทั้งสองคนเดินเข้ามาตรงโซนอาหารของสโมสร "คุณหมอแลกคูปองก่อนนะคะที่นี้เขาไม่รับเงินสดค่ะ" สกาวพาคุณหมอหนุ่มเดินมาตรงเคาน์เตอร์แลกตูปอง ก่อนที่ทั้งสองต่างก็มองหาร้านอาหารที่ตัวเองอยากกิน "พี่หมออยากกินอะไรคะ เดี๋ยวกาวไปสั่งให้ไปนั่งจ้องโต๊ะรอก่อนได้เลย" สกาวหันกลับมาถามคนที่เดินตามหลังเธอมาหลังจากแลกคูปองเสร็จ "พี่เอาข้าวผัดโบราณนะครับ" หมอทักษ์ยืนมองร้านอาหารที่อยู่ตรงหน้า พอสั่งเสร็จเขาก็มองหาโต๊ะที่นั่งสำหรับสองคน "เดียวพี่ไปซื้อน้ำให้แล้วกันนะ" หมอทักษ์พูดขึ้นมาพร้อมกับรับคูปองที่สกาวยื่นมาให้โดยไม่ถามสักคำว่าเธอจะกินน้ำอะไร เมื่อทั้งสองคนได้ในสิ่งที่ต้องการสกาวยกถาดอาหารมาวางไว้บนโต๊ะมองน้ำเปล่าสองขวดที่ว่าอยู่ก่อน "ได้แล้วเหรอไวจังเลย หมดหรือยังให้พี่ไปช่วยยกมาให้ดีกว่านะ" เมื่อหมอทักษ์เห็นอย่างนั้นก็เตรียมที่จะลุกไปช่วยเธอ "ไม่มีแล้วค่ะ กาวสั่งเป็นอาหารจานเดียวมาเลยไม่เยอะร้านก็มีถาดใส่อาหารมาให้" สกาวยกจานข้าวผัดสองจานวางลงบนโต๊ะก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้สำหรับตัวเอง "ครับงั้นเดี๋ยวพี่เป็นคนเอาไปเก็บเองโอเคไหม" หมอทักษ์รีบเสนอตัวเองเขามาเพื่








