LOGINในเวลานี้ญานินกำลังกำลังพยายามหลอกล่อให้ศาสตราจารย์หนุ่มดื่มน้ำเมาในแก้ว หลังจากหล่อนใช้มารยาร้อยเล่มเกวียนให้เขาพามาส่งถึงห้อง จากนั้นก็เริ่มดำเนินการตามแผนทันที
“ผมต้องรีบกลับ พอดีมีธุระสำคัญกับนที”
“ทำไมเหรอคะ ดื่มกับญาแค่แก้วสองแก้วไม่ได้เลยรึไง ไหนบอกจะตามใจญายังไงล่ะคะ” หล่อนยังคงคะยั้นคะยอ ที่จะให้เขาดื่มให้ได้
“ผมดื่มได้ แต่ตอนนี้มันดึกแล้ว ผมอยากให้อาจารย์ได้พักผ่อนนอนดึกเดี๋ยวแก่เร็วนะครับ” เขาแสร้งพูดเป็นทำนองห่วงใจหล่อน ซึ่งอีกฝ่ายดูพึงพอใจ ถึงกับบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย
“พูดแบบนี้ญาก็เขินแย่สิค่ะ” คราวนี้หล่อนพูดพลางเดินอ้อมมานั่งข้าง ๆ ชายตัวโต ในมือยังคงไม่ยอมปล่อยวางแก้วน้ำเมาง่าย ๆ หล่อนส่งให้กับเขาด้วยแววตายั่วยวนสุดฤทธิ์สุดเดช
“ผมดื่มเยอะไม่ได้นะครับ ต้องกลับแล้วจริง ๆ”
“แค่แก้วเดียวก็พอค่ะ”
ในที่สุดเขาก็ยอมคว้าแก้วน้ำเมามาดื่ม เพื่อตัดรำคาญหล่อน ซึ่งศาสตราจารย์หนุ่มรู้ทั้งรู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกต้อนให้จนมุม เพราะในแก้วนั้นมีสิ่งแปลกปลอมผสมอยู่ อีกไม่นานมันคงออกฤทธิ์
“งานหมั้นของเรา ญาอยากจัดที่ทะเลได้ไหมคะ”
“ตอนนี้ผมยังไม่ได้นึกถึงเรื่องนั้นเลยครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะถึงยังไงศาสตราจารย์ก็ต้องหมั้นและแต่งงานกับญาอยู่แล้ว” หล่อนพูดพลางโน้มตัวเข้ามานั่งบนตักของชายตัวโต มือของหล่อนวางแหมะลงที่แผ่นอกของเขา ก่อนจะใช้ปลายนิ้วแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด
ในเวลานี้ศาสตราจารย์หนุ่มเริ่มสัมผัสได้ถึงความร้อน ซึ่งส่งผลให้เรือนกายของเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ประหนึ่งกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางอุณหภูมิร้อนอบอ้าว ทั้งที่ห้องนี้มีเครื่องปรับอากาศอยู่ในระดับองศาเย็นฉ่ำ ชวนให้หนาวสะท้าน ทว่าเขากลับร้อนจนเหงื่อแตกพล่า
“ปล่อยผม!” น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้น ขณะที่ลมหายใจของเขาหอบเหนื่อย เหมือนคนกำลังสู้กับความปรารถนาของเรือนกาย ที่มันกำลังพลุ่งพล่านยากที่จะต้านทานได้
“ให้ญาช่วยนะคะ” หล่อนพยายามเข้าหาชายตัวโตอีกครั้ง หวังที่จะรวบหัวรวบหางเขาให้ได้เสียแต่คืนนี้ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมร่วมมือ เพราะประสบการณ์สอนให้เขารู้จักการเอาตัวรอดจากมารยาหญิง
“ปล่อยผม”
“ศาสตราจารย์อย่าดื้อสิค่ะ” ญานินยังคงไม่ลดละความพยายาม บวกกับแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป ส่งผลให้เลือดลมในกายสูบฉีดฉีด
หมับ!! มือแกร่งคว้าเอวคอดเข้าหา พลางมองไปยังดวงหน้างามของหล่อนด้วยความสิเน่หา เขาคาดไม่ถึงว่ายาจะออกฤทธิ์เร็วและแรงขนาดนี้
“จูบญาสิค่ะ... ศาสตราจารย์ต้องการอะไร ญาให้ได้ทุกอย่างเลยนะคะ” มือเรียวเริ่มรุกรานสอดไปใต้ชายเสื้อของศาสตราจารย์หนุ่ม
“อืม...” เขาแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง สมองกำลังสั่งการให้เขาจูบหล่อน ทว่าหัวใจกลับพยายามต่อต้านด้วยความทรมาน เขาใช้ความอดทนอย่างหนัก เพื่อสลัดความกำหนัดให้ผ่านพ้นไป
“มิรา! มิรา... มิรา” เขาเอ่ยชื่อหนูน้อยออกมาราวกับเธอคือยาแก้พิษ ในความคิดของเขามีแต่ภาพของมิราผุดขึ้นมาเต็มไปหมด
เมื่อศาสตราจารย์หนุ่มนึกถึงเด็กคนหนึ่งที่กำลังวิ่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ใบหน้าของหนูน้อยกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ ส่งผลให้ชายตัวโตผละหล่อนออก เขารอดพ้นจากการถูกญานินคุกคามทันที
“ใครคือมิรา... ศาสตราจารย์! โธ่เว้ย!” หล่อนกำมือแน่น พลางตะเบ็งเสียงออกมาด้วยความโกรธ ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับไม่สนใจ เขารีบเดินแกมวิ่งออกไปจากห้องของญานินทันที
“เกิดอะไรขึ้นครับบอส ทำไมวิ่งหน้าตั้งมาแบบนี้”
“ออกรถเร็ว! ญานินตั้งใจจะวางยาฉันน่ะสิ ร้อนมากทำไมแอร์ไม่เย็นเลย” นทีรีบทำตามคำสั่งเจ้านายทันที เพราะกลัวญานินจะตามมาราวี
“ไม่เย็นได้ไง ผมจะแข็งตายอยู่แล้วเนี่ย”
“ฉันไม่น่าดื่มเลย อ้า... อืมแย่จัง”
“อย่า! อย่ามองผมแบบนี้ ยังไงผมก็ช่วยบอสไม่ได้หรอก รู้ทั้งรู้ว่าเธอใส่ยาลงไปทำไมบอสถึงดื่ม”
“ก็เธอรบเร้าฉันน่ะ”
“ปฏิเสธได้นี่ครับบอส!”
“ฉันรำคาญก็เลยยกมาดื่มหมดแก้ว ตอนนี้ไม่ไหวแล้วขับเร็วหน่อยสิ!”
ในเวลานี้ศาสตราจารย์หนุ่มกำลังพยายามอดทนอดกลั้น ให้กับความปรารถนาที่มันพลุ่งพล่าน หลายปีที่เขมมิกาเดินออกไปจากชีวิตของเขา ใครจะรู้ว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลย เขายอมรับว่าอดีตภรรยามีอิทธิพลต่อหัวใจ จนไม่อาจหาใครมาแทนที่เธอได้
“ท่าทางบอสจะไม่ไหว ให้ผมโทรเรียกสาวสวยสักคนสองคนให้เอาไหมครับ” นทียิ้มเยาะเย้ยอีกฝ่ายด้วยท่าทีหมั่นไส้
“นายอยากตายหรือไง แค่นี้ฉันทนได้รีบหน่อยอยากแช่น้ำเย็นเต็มทีแล้ว... อืม” ปากก็พูดว่าไม่ต้องการ ทว่าชุดที่สวมใส่กลับถูกถอดออกทีละชิ้น จนเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว
“อดทนอีกนิดเดี๋ยวก็ถึงบ้านแล้วครับ เอานี่ดื่มน้ำเย็นเยอะ ๆ ครับ” นทีส่งขวดน้ำให้กับเจ้านายของเขา แต่ใบหน้ากลับยกยิ้มให้กับความปรารถนาของอีกฝ่าย เมื่อผู้ช่วยคนสนิทเชื่อว่านายผู้หญิงของบ้านศิระเมฆาต้องเป็นเขมมิกาคนเดียวเท่านั้น
“แม่ง! ฉันจะทนไม่ไหวแล้วเนี่ย”
“ใครใช้ให้บอสเชื่อเธอล่ะครับ อ้อ... ผมมีเรื่องของคุณเขมมิกาจะรายงานให้บอสทราบ”
“ว่ามาสิ... เดี๋ยว! จอดรถก่อนไม่ไหวแล้ว” คราวนี้เขาลงไปพร้อมขวดน้ำ ก่อนจะล้างหน้าแล้วราดไปทั้งตัว เพื่อบรรเทาความปรารถนาที่มันทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ
“ไหวไหมครับบอส” นทีเอ่ยถามออกไปอีกครั้งหลังจากศาสตราจารย์หนุ่มขึ้นมานั่งบนรถ
“ไม่ไหวแล้ว อืม... ฉันต้องผ่านมันไปให้ได้ออกรถได้แล้ว”
รถยนต์คันหรูแล่นออกไปด้วยความเร็วสูง ค่ำคืนนี้ศาสตราจารย์หนุ่มคงต้องช่วยตัวเอง กว่ายานั่นจะหมดฤทธิ์เขาคงทรมานน่าดู นั่นมันก็เป็นสิ่งที่เขาต้องยอมรับ แต่อย่างน้อยผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศ ก็ยังคงมีความอดทนเลือกที่จะทรมานตัวเอง มากกว่าไปคว้าเอาผู้หญิงคนอื่นมาแทนที่อดีตภรรยาของเขา
เช้าของวันใหม่.....
ชายหนุ่มผู้ที่มีใบหน้าหล่อเหลา แต่แววตาของเขากลับแฝงไปด้วยร่องรอยของความเจ็บปวด ภาพถ่ายของผู้เป็นมารดากำลังส่งสายตาจับจ้องมาที่ชายตัวโต ประหนึ่งอ้อนวอนขอร้องให้เขาแก้แค้นให้เธอ
“ผมขอโทษนะครับแม่ ผมลืมเขมไม่ได้จริง ๆ สิ่งที่พี่สาวของเธอทำไว้กับแม่ ผมจะชดเชยให้แม่เองครับ ผู้หญิงคนนั้นต้องได้รับกรรมอย่างสาสม” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงความเจ็บปวด หลังจากผู้หญิงสองคนที่เขารักสุดหัวใจจากไปไกลแสนไกล
ถึงแม้เขมมิกาจะกลับมา แต่ช่วงเวลาของการจากเป็นมันยิ่งทรมาน เพราะเขาไม่อาจตามไปดูแลเธอได้ ระยะเวลาที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เริ่มต้นด้วยรักและผูกพัน แต่เขากลับตอบแทนเธอด้วยความเย็นชา
“ผมตามหาบอสตั้งนาน ที่แท้ก็มาอยู่ห้องคุณท่านนี้เอง”
“มีอะไร” เขาพูดพลางละสายตาจากภาพถ่ายของมารดา ก่อนจะหันมาจั้องหน้านทีเขม็ง
“เรื่องคุณเขมมิกากับเด็กคนนั้นครับ”
“ทำไม... มีความคืบหน้าหรือยัง”
“มาลิคเป็นคนรับรองบุตร แสดงว่าเด็กคนนั้นน่าจะเป็นลูกของเขาหรือบอสคิดว่ายังไงครับ”
“ก็นั่นสินะ! ฉันรู้อยู่แล้วทำไมต้องพิสูจน์อะไรอีก ช่างเถอะไม่ว่ายังไงฉันกับเขมมิกาก็คงกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่อีกแล้ว”
“แต่ผมแปลกใจ ถ้าหากคุณเขมมีความสัมพันธ์กับคุณมาลิคจริง แล้วคุณเนเน่ล่ะ” นทีแอบสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างมาลิคกับเนเน่ เพราะคนทั้งคู่อยู่บ้านเดียวกัน ทว่าเขมมิกากับลูกนั้นก็อยู่กันแค่สองคน มันย้อนแย้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ช่างเถอะเรื่องนั้นพักไว้ก่อน เรื่องรองอธิการฐานินไปถึงไหนแล้ว”
“ผมคิดว่าโครงการที่ท่านรองอธิการฐานินกำลังรับผิดชอบนั้น มีหลายสิ่งผิดปกติ ทั้งราคาอุปกรณ์ก่อสร้างและค่าแรง ทุกอย่างน่าจะเตรียมการเอาไว้อย่างดี”
“โครงสร้างของอาคารถ้าหากไม่ได้มาตรฐาน บริษัทของเราก็จะไม่ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้า แสดงว่าเขาต้องการมัดมือชกให้ฉันยอมจำนนต่อการหมั้นหมายสินะ”
“ไม่ต้องห่วงครับ คนของเราฝีมือเหนือชั้นกว่าตั้งเยอะ ผมไม่ทำให้บอสผิดหวังหรอกครับ”
“ขอบใจนายมาก”
“ถ้าหัวใจมันเรียกร้องก็อย่าปิดกั้น บอสควรเปิดประตูต้อนรับคุณเขมมิกาอีกครั้ง”
“เธอเป็นภรรยาของไอ้มาลิคไปแล้ว ฉันไม่อยากแย่งคนรักของใคร”
“ก็เลยเก็บความรู้สึกนั้นไว้ช้ำใจอยู่ฝ่ายเดียว”
“ใครบอก ฉันก็แค่อยากชดเชยคืนให้เธอ ไม่ได้แปลว่าฉันต้องกลับไปคบกับเธอสักหน่อย”
“แค่รับรองบุตรก็ไม่ได้หมายความว่าคุณเขมมิกากับผู้ชายคนนั้นต้องเป็นสามีภรรยากันนี่ครับ ฝากไว้ให้คิดผมไปทำงานก่อนนะครับบอส”
นทีพูดทิ้งท้ายเป็นปริศนาไว้ให้อีกฝ่ายได้คิด เพราะเขาแอบไปรู้เรื่องราวของเขมมิกามาจากนักสืบ แต่ยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดทั้งหมดให้กับศาสตราจารย์หนุ่มทราบ เพราะนทีอยากแน่ใจกว่านี้เสียก่อน ซึ่งคงใช้เวลาอีกไม่นานความจริงทั้งหมดต้องกระจ่างอย่างแน่นอน
ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศเรียกเขมมิกาไปพบเขาที่ห้อง เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางไปทำกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี ทว่าในปีนั้นต้องขึ้นดอย เพื่อนำอุปกรณ์กีฬารวมทั้งเครื่องเขียนต่าง ๆ ไปมอบให้กับทางโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ “ที่ผมเรียกคุณมาพบ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าเดี๋ยวผมจะขับรถไปรับที่บ้าน” “บุคลากรในมหาลัยมีตั้งมากมายทำไมต้องเป็นฉันล่ะคะ” หญิงสาวชักสีหน้าใส่เขาด้วยความไม่พอใจ“มันเป็นระเบียบของทางมหาลัย อาจารย์คนใหม่ต้องไปช่วยสังคมกับผม” “ใช้ตรรกะอะไรคะเนี่ย บ้าชัดๆ” เขมมิการู้ดีว่าเธอกำลังถูกมัดมือชก ทว่าศาสตราจารย์หนุ่มกลับแสยะยิ้มร้าย เมื่อเขากำลังต้อนให้เธอจนมุมได้ “คุณกลับไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า” “ใครบอกว่าฉันจะไปกับคุณ” ความพยศของเขมมิกายังคงแสดงทีท่าไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาง่าย ๆ“ที่นี่ผมคือผู้บริหารสูงสุด ถ้าคุณกล้าปฏิเสธจะฉีกสัญญาทิ้งก็ได
เวลาผ่านไปคนทั้งคู่ได้กลับมาถึงคอนโดมิเนียมหรู พอเดินเข้ามาในห้องนอนเนเน่ตัดสินใจถามมาลิคเกี่ยวกับโปรเจ็กต์นั้นอีกครั้ง ซึ่งพ่อบุญธรรมของเธอคงกำลังกลัดกลุ้มใจ ส่วนมาลิคเองก็เสียผลประโยชน์อยู่เช่นกัน “คุณไม่เปลี่ยนใจแน่นะคะ” “พวกเขาเคยทำอะไรไว้กับคุณบ้าง ผมจะเป็นคนตามคิดบัญชีให้คุณเองเนเน่” ครานี้ดวงตาของมาลิคแฝงไปด้วยร่องรอยเย็นเยียบจนชวนให้หนาวสะท้าน รอบกายแผ่รังสีคุกคามอำมหิตออกมา เมื่อเขาโกรธแค้นคนในบ้านหลังนั้นแทนภรรยา “คุณคือสามีแห่งชาติชัด ๆ” หญิงสาวพูดพลางเขย่งปลายเท้า ก่อนจะโน้มริมฝีปากเข้าไปกดจูบชายหนุ่มด้วยความดูดดื่ม เมื่อคนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสกับรสจูบแสนหวาน มาลิคไม่รอช้าเขาตอบสนองเธอด้วยความเต็มใจ ปลายลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากของเธอ “อืม... อื้อ
ณ ห้องอาหารสุดหรู เนเน่เดินเข้ามาพร้อมกับมาลิค ทว่าสามีของเธอเจอเพื่อนเก่าพอดี จึงให้หญิงสาวเดินเข้าไปข้างในก่อน เพราะเขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเพื่อนสักครู่ พอหญิงสาวเดินเข้ามาถึง เธอถึงกับชะงักเมื่อเห็นสองพ่อลูกกำลังพูดถึงท่านประธานหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นสามีของเธอ ซึ่งดูเหมือนทับทิมกำลังคิดจะเป็นศัตรูหัวใจกับเนเน่อย่างไม่รู้ตัว “คุณมาลิคทั้งหล่อทั้งรวยเขาโสดแน่นะคะ ทับทิมแอบปลื้มเขามานาน คุณพ่อคิดว่าคุณมาลิคชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ” หล่อนจีบปากจีบคำตั้งคำถามกับบิดาอย่างไม่มีท่าทีเขินอายเลยสักนิด “พ่อได้ข่าวว่าคุณมาลิคเพิ่งมารับช่วงต่อจากประธานคนเก่า แต่ก็ไม่เคยได้ยินคนวงในพูดถึงภรรยาเขาเลยนะ” นายประจักษ์นักธุรกิจผู้มั่งมั่งกล่าวถึงอีกฝ่ายด้วยความชื่นชม เขายังแอบคิดในใจอยากได้มาลิคมาเป็นลูกเขยอีกด้วย
เมื่อสองแม่ลูกกลับไป เขมมิกาพยายามคิดหาทางพูดกับศาสตราจารย์ปรเมศ เธอไม่อยากให้เขาได้เข้าใกล้มิรา ทว่าที่ฟังจากลูกสาวเล่ามานั้น เขามีอิทธิพลต่อจิตใจของลูกสาวเธอไปแล้ว คุณลุงข้างบ้านที่มิราพูดถึงบ่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นเขานี่เอง “คิดจะเปิดศึกคงอยากเล่นสงครามประสาทกับฉันสินะศาสตราจารย์ปรเมศ” คราวนี้เขามิกาพูดพลางกำหมัดแน่น ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินตรงไปที่บ้านของเขาทันที “คุณพ่อขา...อันนี้ล่ะคะ” “มาเดี๋ยวพ่อช่วยนะ” สองพ่อลูกกำลังช่วยกันสร้างปราสาทเจ้าหญิง ไม่คิดว่าผู้ชายอย่างศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ปรเมศจะมีมุมอ่อนโยนละมุนขนาดนี้ เมื่อมาถึงบ้านของคู่กรณี เขมมิกายืนมองคนทั้งคู่ด้วยแววตาสุดแสนเจ็บปวด เธอไม่อยากทำลายความรู้สึกของมิราที่มีต่อเขา แต่จะให้ปล่อยผ่านไปได้อย่างไร ในเมื่อศาสตราจารย์หนุ่มเป็นคนออกคำสั่งให้เธอกำจัดมิราด้วยตัวเอง
หลังจากการวางยาเขมมิกาไม่สำเร็จ ทำให้รองอธิการฐานินโกรธมาก เขาไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยอาจารย์สุชาติ ปล่อยลอยแพเขาไปกับโชคชะตาแสนโหดร้าย “ท่านจะไม่ช่วยเขาจริง ๆ เหรอครับ” มือขวาของชายสูงวัยเอ่ยขึ้น หลังจากรู้ว่าอาจารย์สุชาติกำลังจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ “มันทำงานไม่สำเร็จก็สมควรโดนแล้วไม่ใช่เหรอ” “แต่เขายังมีภรรยากับลูกชายเพิ่งคลอดได้ไม่ถึงเดือนนะครับท่าน” “พูดแบบนี้หรือว่าแกอยากเป็นคนถูกส่งออกนอกประเทศเสียเอง” “ปะ... เปล่าครับท่าน” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธออกไปทันควัน เพราะไม่เช่นนั้นเขาอาจโดนหางเลขไปด้วย“คุณพ่อขา... วันนี้ญาไปหาศาตราจารย์ปรเมศ แต่ก็ไม่เจอถามแม่บ้านก็ไม่ได้คำตอบ ญาโทรหาเขาจนสายจะไหม้เขากลับไม่รับสาย สรุปแล้วเขาเห็นญาเป็นตัวอะไรคะคุณพ่อ” ญานินเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผู้เป็นบิดา พลางบีบน้ำตาร้องไห้ออกมา เมื่อผู้ชายที่หมายปองไม่ยอมแม้แต่จะกดรับสายหล่อน “เขาคงยุ่งอยู่น่ะ”
ณ เวลานี้ มาลิคกำลังวุ่นวายอยู่กับงานที่บริษัท จึงทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะไปส่งสาวน้อย หน้าที่นี้จึงต้องตกไปอยู่กับภรรยาของเขา หลังจากไปส่งมิราที่โรงเรียน เนเน่ขับรถตรงมายังบริษัทที่เพิ่งรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยนักออกแบบ ซึ่งมีบรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดให้เลือก บรรดาลูกค้าต่างไว้วางใจในความประณีตและใส่ใจของนักออกแบบ ซึ่งเนเน่ไม่รู้ว่าประธานบริษัทคือมาลิค เธอไม่สงสัยเขาเลยสักนิด เพราะคิดว่าชายหนุ่มเป็นเพียงพนักงานบริษัท ตำแหน่งของเขาคงไม่ใหญ่โตอะไร แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจ เพราะหญิงสาวรักเขาที่เป็นมาลิคไม่ใช่ชื่อเสียงเงินทอง “เนเน่ทำไมมาช้าจัง ผมรอคุณอยู่ตั้งนาน” “อ้าว! ทำไมไม่ขึ้นไปก่อนล่ะคะ” “ผมขึ้นไปแล้ว แต่ก็กลับลงมารอคุณมิรางอแงไหม” หญิงสาวฉีกยิ้มกว้าง ให้กับการเอาใจใส่ของสามี เขานั้นช่างแสนดีเป็นเทพบุตร